10 ถุงยางอนามัย ยี่ห้อไหนดี ใส่สบาย ไม่ขาดง่าย มีทุกขนาด พร้อมช่วยชะลอการหลั่ง ปี 2025

ในปัจจุบันที่หาซื้อกันได้ จะมี 2 แบบ คือ แบบผิวเรียบที่สามารถเห็นได้กันทั่วไปตามร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านยา และอีกแบบ คือ แบบขรุขระ จะช่วยเรื่องเพิ่มอรรถรสการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น แต่ก็จะหาซื้อยากนิดนึง ตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไปก็อาจจะหายาก ไม่ค่อยพบเท่าไหร่ แต่จะสามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ ซึ่งแบบผิวขรุขระจะมีให้เลือกหลายชนิดมากเลย จากข้อมูลที่เคยหาได้ หากซื้อทางออนไลน์สามารถมีปุ่มได้มากถึง 100 ปุ่มเลย มีเป็นหลักสิบชนิดเลย

ในสื่อเราจะสามารถเห็นได้เยอะว่าจะมีทั้งใช้ปากฉีกปากหรือเอามาคาบบ้าง แต่จริง ๆ แล้ว การที่จะใช้ถุงยางได้ถูกต้อง ควรเริ่มตั้งแต่การเก็บรักษา การเก็บรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้ถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ชายที่พกถุงยาง ซึ่งปกติถุงยางอนามัยจะมี 3 ชิ้นต่อ 1 กล่อง และหลายคนก็จะบอกว่า พกไปเป็นกล่องมันเทอะทะ หรือหยิบไม่สะดวก ซึ่งก็เลยจะพากันเลือกพกไปแค่เป็นซอง ๆ เอาใส่กระเป๋าสตางค์ จะได้รู้สึกว่าไม่ประเจิดประเจ้อ หรือบางทีก็เอาใส่กระเป๋ากางเกงไปก็มี ซึ่งจริง ๆ ควรพกไปทั้งกล่อง โดยใน 1 กล่องจะมี 3 ชิ้น ซึ่งการที่พกไปทั้งกล่องจะได้เอาไว้เป็นชิ้นสำรองหรือฉุกเฉินได้ เผื่อขาดเผื่อเบิ้ล และการที่พกไปเป็นซองแล้วเอาใส่กระเป๋าตังค์กระเป๋ากางเกงสามารถเกิดการเสียดสีหรือโดนบดขยี้ในขณะที่นั่งทำให้เกิดการเสียดสีทำให้ถุงยางขาดได้ ถุงยางแม้จะขาดนิดเดียว จนเรามองไม่เห็น แต่อสุจิสามารถออกได้ แค่นี้ก็มีโอกาสทำให้ท้องได้แล้ว  เพราะอสุจิตัวเล็กมาก อีกอย่างคือ อย่าเอาถุงยางอนามัยไปเก็บไว้ในรถ เพราะว่าถุงยางอนามัยเป็นยาง ไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ ความร้อนจะทำให้ยางเสื่อม และจะทำให้ฉีกขาดระหว่างการใช้งานได้ ยิ่งรถตากแดดถุงยางก็จะเสื่อมเร็วมาก

วิธีแกะถุงยางห้ามใช้ฟันหรือปากเปิดถุงยาง ควรใช้มือขยับถุงยางมาอยู่อีกมุมก่อนทำการเปิดซองถุงยางอนามัยจากฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันไม่ให้โดนยางเด็ดขาด ระวังอย่าให้เล็บไปโดนถุงยาง และยิ่งคนที่จัดฟัน โอกาสที่จะไปฉีกแล้วโดนยางมีได้มากขึ้น และตอนที่จะใส่น้องชายต้องแข็งตัวกำลังดี และต้องสวมให้ถูกด้าน ถ้าให้ไม่มั่นใจให้สวมถุงยางกับมือตัวเองก่อน แล้วลองรูดลงมานิดนึง ถ้ารูดได้ แสดงว่าใส่ถูกทาง แต่ถ้ารูดไม่ลง เอาด้านในออกมาด้านนอก มันจะรูดไม่ได้ ถ้าถุงยางนั้นถูกใส่ผิดด้านแล้วการถอดออกมาเพื่อใส่กลับให้เป็นด้านที่ถูกนั้น ไม่ควรทำ เพราะถุงยางอาจปนเปื้อนสารหล่อลื่นของผู้ชายติดมาแล้วได้ ควรทิ้งแล้วใส่อันใหม่แทน เพราะฉะนั้นไม่ต้องประหยัด  และนั่นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมควรพกถุงยางอนามัยเป็นกล่อง

เวลารูดต้องบีบกระเปาะ ให้ลมออกจากกระเปาะให้หมด แล้วค่อยดึงถุงยางสูงขึ้น อย่าให้ลมคั่งอยู่ในปลายกระเปาะ เพราะถ้ามีลมอยู่ในกระเปาะขณะทำกิจกรรมแล้วสะสมไปเรื่อย มันก็จะแตก และตอนใส่ถุงยางควรรูดให้สุดโคน ห้ามทำครึ่ง ๆ กลาง เพราะเวลาเสร็จ อสุจิสามารถล้นออกมาได้หากใส่ถุงยางไม่สุดโคน และเมื่อเสร็จแล้วไม่ควรแช่น้องชายไว้ เพราะจะเกิดการอ่อนตัว หดตัว ถุงยางอาจหลุดเข้าไปในช่องคลอดได้ และน้ำอสุจิก็สามารถไหลเข้าไปยังช่องคลอดได้ ทั้งนี้การสวมถุงยาง ควรสวมตั้งแต่ยังไม่ได้สอดใส่ ห้ามลองสอดใส่ก่อนแล้วค่อยมาใส่ถุงยางอนามัย ห้ามคิดว่าตอนนี้ยังไม่หลั่งหรอก เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แค่สอดครั้งเดียว คุณก็ติดได้ และน้ำหล่อลื่นของผู้ชายก็ปนเปื้อนอสุจิได้ ผู้หญิงอาจตั้งครรภ์ได้

นอกจากจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ประโยชน์หลัก ๆ อีกอย่างเลยก็คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ และอีก 3 ข้อที่อยากเพิ่มให้ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ข้อแรกเลย คือ ถุงยางอนามัยจะทำให้การหลั่งของผู้ชายช้าลงได้ ใครที่มีปัญหาหลั่งเร็ว การที่สวมถุงยางอนามัยจะทำให้ลดความรู้สึกลงไปนิดนึง ต่อมาคือลักษณะถุงยางอนามัยที่มีผิวขรุขระจะทำให้ผู้หญิงถึงฝั่งฝันได้ง่ายขึ้น เพราะว่าตัวปุ่มจะเข้าไปกระตุ้น G-spot ของผู้หญิง และข้อสุดท้าย ถุงยางอนามัยในปัจจุบันนั้นมีกลิ่นมีรส จะช่วยเพิ่มอรรถรสของการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น ตัวอย่างเช่นการทำออรัลเซกซ์นั้นก็จะช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น สนุกขึ้น เนื่องจากถ้าเป็นถุงยาง Latex ธรรมดาหลายคนอาจจะไม่ชอบกลิ่นก็ได้

เนื่องจากถุงยางอนามัยคือยาง เจลหล่อลื่นที่ไม่ควรกับถุงยางคือเจลหล่อลื่นชนิดน้ำมัน (Oil-based lubricant gel), พวกปิโตรเลียมเจล, พวกเบบี้ออยล์ สารหล่อลื่นเหล่านี้จะทำให้ถุงยางเสื่อม ควรหาใช้แบบน้ำดีกว่า ซึ่งหาซื้อได้ง่ายด้วย ใช้งานกับถุงยางได้แบบปลอดภัย หรือจะเป็นอีกแบบคือเจลหล่อลื่นแบบซิลิโคน แบบนี้จะราคาแพงกว่า

ไม่จริง ความหนาของถุงยางอนามัยไม่ว่าจะหนาเท่าไหร่ ถ้าผลิตมาแบบได้มาตรฐาน เน้นว่าซื้อที่ได้มาตรฐานด้วย มีอย. มีมาตรฐานการผลิต ก็จะมีคุณภาพ ไม่ได้ทนทานน้อยกว่าแบบอื่นที่เป็นถุงยางอนามัยที่หนากว่าเลย และขอเสริมด้วยว่าต้องเป็นการใช้ที่ถูกวิธีด้วยเช่นกัน ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้อีกเช่นกันว่าใช้ถูกต้องไหม ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีต่อให้เป็นถุงยางหนาปกติก็สามารถเกิดการฉีกขาดได้

โดยปกติถุงยางอนามัยที่มีการวางขายในไทยจะมีไซซ์มาตรฐานอยู่ คือ 49, 52, 54 และ 56 แต่ขนาด 56 นั้นอาจจะหายากเพราะว่าไม่ใช่ไซซ์มาตรฐานของผู้ชายไทย วิธีการวัดเพื่อหาขนาดถุงยางอนามัย คือ ให้เราวัดเส้นรอบวงของน้องชายขณะที่แข็งตัวเต็มที่ อาจจะใช้เชือกใช้ด้ายหรืออะไรก็ได้ที่จะไม่บาดน้องชาย เอามาพัน แล้วเอาไปทาบกับไม้บรรทัด หน่วยเป็นเซนติเมตร จากนั้นได้ตัวเลขเท่าไหร่ให้เอามาหาร ซึ่งตัวเลขที่ใช้หารจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สูตร ถ้าหารด้วย 2 จะออกหลวมนิดนึง ไม่กระชับแน่น แต่หากชอบแบบกระชับ ให้หารด้วย 2.3 ตัวเลขที่ได้จะเป็นตัวเลขที่อยู่ข้างกล่องถุงยางอนามัย สมมติคิดออกมาแล้วได้เลข 5.25 ขนาดที่จะซื้อได้คือ 52 แต่แนะนำว่าให้เลือกซื้อไซซ์ที่เลขน้อยกว่ามาลองดูด้วยได้ เพราะจะได้รู้ว่าอันไหนที่จะกระชับพอดีกับคนใช้

อาการแพ้ถุงยางอนามัยสามารถเกิดขึ้นได้ มีโอกาสแพ้ได้ 1-3% ของผู้ใช้โดยถุงยางอนามัยจะทำจากยางพารา ส่วนใหญ่อาการแพ้ที่เกิดขึ้นจะเป็นการแพ้ยางพารา สังเกตง่าย ๆ ถ้าใครเคยสวมถุงมือทางการแพทย์ บางคนก็มีผื่นแดงขึ้นที่ผิว สวมถุงมือไม่ได้เลย นี่แหละที่เรียกว่าแพ้ยางพารา และอีกอย่างที่สามารถแพ้ได้ คือ แพ้สารฆ่าเชื้ออสุจิในถุงยางอนามัย ซึ่งตามท้องตลาดที่หาซื้อได้ง่ายจะเป็นถุงยางอนามัยยางพารา สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งหญิงและชาย จะเป็นผื่นคันขึ้น ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยจะสามารถขึ้นได้บริเวณที่มีการสัมผัสกับถุงยาง

แต่บางคนก็สามารถแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis)ได้ ซึ่งก็แสดงอาการได้ตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน เป็นลม หน้ามืด ความดันโลหิตต่ำ หายใจไม่ค่อยสะดวก เป็นต้น ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที และถุงยางไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอด เชื้อราในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อรากับเกิดจากการอับชื้น

หากใครแพ้ถุงยางที่เป็นยางพาราหรือ Latex ก็สามารถใช้ถุงยางทางเลือกได้ ซึ่งสามารถหาถุงยางอนามัยที่ผลิตจากวัสดุโพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือผลิตจากพอลิไอโซพรีน (Polyisoprene) แต่ว่า 2 ชนิดดังกล่าวจะหาซื้อยากนิดนึง เพราะว่าไม่ได้เป็นที่นิยม ราคาจะสูง อาจจะต้องหาซื้อตามร้านขายยาหรือเว็บไซต์ แต่ถ้าแพ้สารฆ่าเชื้ออสุจิ ก็ต้องเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่ไม่มีสารฆ่าเชื้ออสุจิ หรือถ้าต้องการคุมกำเนิด ก็อาจจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นๆแทน

หากขนาดเล็กมากเราแทบไม่มีทางรู้ วิธีสังเกตที่ทำได้คือถ้าเสร็จกิจกรรมแล้วตรงกระเปาะไม่มีของเหลวไหลออกมาขังอยู่ก็จะรู้ได้ว่ารั่วเพราะน้ำอสุจิไหลออกไปทางอื่นที่มีรูรั่ว หรือวิธีพิสูจน์ว่าถุงยางรั่วจริงไหมที่สามารถทำได้และเร็วที่สุดคือ นำถุงยางไปใส่น้ำ เพราะจะได้เห็นรอยรั่วจากเส้นของน้ำที่ไหลออกมา

หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับผู้หญิงต้องทานยาคุมฉุกเฉิน ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ห้ามกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะว่ายาคุมฉุกเฉินมีฮอร์โมนสูงมาก และก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายอย่าง ตามคำแนะนำแล้ว 1 เดือนไม่ควรกินเกิน 2 แผง ต้องบอกเป็นแผงเพราะว่าหากบอกเป็นเม็ดคนจะเข้าใจผิด เพราะว่าบางตัวก็เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ดต่อแผง หรือ 2 เม็ดต่อแผง และการกินยาคุมแบบฉุกเฉิน ควรกินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดจะลดลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เรากิน ยิ่งช้าประสิทธิภาพยิ่งลดลง หากเกิน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันไปแล้ว ยาคุมฉุกเฉินจะไม่ค่อยช่วยแล้ว

และเมื่อมีเหตุการณ์ถุงยางฉีกขาด อีกหนึ่งอย่างที่ควรทำคือไปตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยิ่งคู่ที่เป็น One Night Stand ยิ่งต้องตรวจ เพราะเราไม่ได้รู้เบื้องหลังของคู่ทั้งหมด ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเลือด และสามารถป้องกันได้ด้วยการกินยา PEP ซึ่งจะกินหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งยาตัวนี้ต้องไปรับที่โรงพยาบาลกับแพทย์ ไม่มีขายตามร้านยาหรือคลินิกทั่วไป ซึ่งโรงพยาบาลที่ว่าจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV รับได้ทั้งเอกชนและรัฐบาล แต่ก่อนได้รับยา หมอจะมีการซักประวัติ ความเสี่ยง และตรวจเลือดก่อน ตรวจ HIV ค่าตับ ค่าไต ว่าสามารถกินยา PEP ได้ไหม เสร็จแล้วก็ไม่ใช่ว่าจบเลย พอทานครบก็ต้องกลับมาเจาะเลือดหลังจากกินยาไป 3 เดือน และ 6 เดือน เพื่อยืนยันว่าเราติดเชื้อหรือไม่ การรับยา PEP ควรไปรับให้เร็วที่สุด และไม่ควรเกิน 72 ชม.หลังมีเพศสัมพันธ์

อันดับแรกที่ต่างกันเลยก็คือ ใครเป็นคนใส่ ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย ผู้ชายก็จะเป็นคนใส่ หากเป็นของผู้หญิง ผู้หญิงก็จะเป็นคนใส่ โดยของทางผู้หญิงคือจะเป็นลักษณะคล้ายถุง ใส่เข้าไปในช่องคลอด จะไม่เป็นยางพาราเหมือนของผู้ชาย เป็นพลาสติกโพลียูรีเทน (Polyurethane) เป็นแบบชนิดบาง ถุงยางของผู้หญิงจะมีความยุ่งยากในการใส่และถอดมากกว่า เรื่องผิวสัมผัสเองก็จะไม่เหมือนผิวสัมผัสของถุงยางผู้ชาย จะมีลักษณะ และต้องสอดเข้าไปในช่องคลอดก่อนที่จะมีการสอดใส่จากฝ่ายชาย และเรื่องเสียงก็จะมีเสียงระหว่างใช้งานเช่นกัน อาจส่งผลต่ออรรถรสในการมีเพศสัมพันธ์ให้ลดลงได้ ราคาแพงกว่า และหาซื้อได้ยากกว่าถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย

ในปัจจุบันถุงยางอนามัยมีการพัฒนาไปไกลแล้ว มีทั้งชนิดบาง บางเฉียบ เพราะฉะนั้นถ้ามีคนมาพูดว่าใส่ถุงยางแล้ว ความรู้สึกมันสู้สดไม่ได้ อันนี้ต้องบอกว่าลบความคิดนี้ไปได้เลย ซึ่งดูเป็นความคิดที่ล้าหลัง เพราะเนื้อของถุงยางพัฒนาไปมากแล้ว ซึ่งการที่พูดว่าสดดีกว่าก็ดูเป็นข้ออ้างเสียมากกว่า โดยถุงยางในปัจจุบันก็สามารถบางได้จนเหมือนเราแทบจะไม่ได้ใส่อะไรด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นทางเลือกอื่นถือว่าทำได้ยาก การใส่ถุงยางจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ให้ใส่ถุงยางไว้ก่อน

ในปัจจุบันรัฐบาลมีการรณรงค์และสนับสนุนในเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยแจกฟรีเยอะมาก ถ้าเป็นในกรุงเทพ ศูนย์บริการสุขภาพหรือศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง มีแจกหมดเลย สามารถเข้าไปขอได้ ในต่างจังหวัดก็เป็นอสม. หรืออนามัยใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ก็มีแจกหมดเลย สามารถไปขอได้ และที่สมาคมวางแผนครอบครัวในประเทศไทย หรือคลินิกวางแผนครอบครัว ก็สามารถไปขอได้

ที่สะดวกมากกว่านั้น ในแอปเป๋าตัง เราก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนขอรับถุงยางอนามัยฟรีได้ แล้วก็ไปรับที่ร้านขายยาที่เขาอนุมัติให้เราไปรับได้ ซึ่งก็จะมีข้อกำหนดอยู่ว่า 1 คน รับได้กี่ชิ้น

ประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ถ้าเราเลือกถุงยางอนามัยที่มีมาตรฐาน ย้ำว่าต้องเลือกที่มีมาตรฐาน เพราะว่าร้านค้าออนไลน์ที่ขายถุงยางอนามัยนั้นมีเยอะมาก บางยี่ห้อถูกจนไม่น่าเชื่อ การเติมกลิ่นหรือรสลงไปไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของถุงยางลดลง แต่เติมไปเพื่อเพิ่มอรรถรสการมีเพศสัมพันธ์มากกว่า แต่ต้องระวังหากจะทำการออรัลเซกซ์ ต้องดูข้างกล่องดี ๆ ว่าถุงยางที่ซื้อมาเหมาะกับใช้ปากทำหรือไม่ เพราะแม้จะเติมกลิ่นหรือรสเข้ามาแต่บางถุงยางไม่ได้เหมาะกับเอาไว้ทำออรัลเซกซ์ ซึ่งถ้าไม่ดูดี ๆ ก่อนทำก็อาจแพ้ได้เช่นกัน มีผื่นหรืออาการคันได้

มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยจะสามารถเกิดเมื่อเลือกถุงยางที่หลวมเกินไป หรือแช่ไว้หลังเสร็จ แล้วน้องชายหดตัว ก็สามารถหลุดเข้าไปในช่องคลอด วิธีแก้ไขคือ ไม่ต้องตกใจ สามารถใช้นิ้วชี้สอดเข้าไปในช่องคลอดแล้วดึงออกมาได้ คล้าย ๆ ตอนที่หมอจะตรวจภายใน ให้เอาออกเร็วที่สุด อย่าทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้ถุงยางเข้าไปลึกและเอาออกยาก และเสี่ยงติดเชื้อได้ ถ้าเอาออกเองไม่ได้ หรือเข้าไปลึกมาก ก็ให้ไปหาหมอ ซึ่งสามารถหาหมอทั่วไปได้ หรือหมอฉุกเฉินได้ เพราะการเอาถุงยางออกไม่ใช่เรื่องยาก แต่เพียงต้องมีเครื่องมือช่วย

เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว อยากจะให้เน้นเรื่องการถอดถุงยางอนามัย โดยตอนก่อนถอด ด้านนอกของถุงยางจะปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้หญิง ซึ่งเราไม่รู้ประวัติของเขามาก่อนว่าจะมีโรคอะไรไหม ควรต้องถอดแบบระมัดระวัง ใช้กระดาษทิชชู่หุ้มถุงยางก่อนดึงถุงยางออก พยายามอย่าให้มือสัมผัสโดนถุงยาง ค่อยรูดถุงยางออกอย่างระมัดระวัง ทิ้งขยะให้มิดชิด ต้องนึกถึงคนเก็บขยะด้วยว่าเขาจะมารับเชื้อโรคกับเราไหม และห้ามทิ้งลงในชักโครกเพราะถุงยางมันไม่ย่อยสลาย จะทำให้ชักโครกตันได้ หลังจากเสร็จแล้ว ทั้งคู่ควรไปล้างทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด เพราะสารหล่อลื่นในถุงยางจะได้หลุดออกและป้องกันอาการแพ้ถุงยางที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และผู้หญิงเมื่อเสร็จกิจควรต้องฉี่ทันทีช่วยป้องกันการเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบหลังมีเพศสัมพันธ์ที่เรียกว่า Honeymoon Cystitis ซึ่งผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นได้สูง เพราะว่ามีการเสียดสีขณะสอดใส่ มันอาจจะทำให้เชื้อโรคที่อยู่แถวทวารหนักหรือเชื้อโรคจากช่องคลอด เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้

เพราะสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดทางปาก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้เกิดเฉพาะอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ช่องปากก็เป็นได้ เช่น โรคหนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เชื้อ HPV โรคเริม หรือแม้กระทั่ง HIV ก็สามารถติดได้