คงจะดีถ้ามีโน๊ตบุ๊คสักตัวที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการเล่นเกม และทำงานของเราได้อย่างดี ในราคาหรือ สเปคที่เราต้องการ เพราะฉะนั้นในครั้งมากับการตอบคำถามที่ว่า “โน๊ตบุ๊คเล่นเกม รุ่นไหนดี” จากรุ่นที่มีขายอยู่มากมาย ในบทควานี้เราได้รวมมาให้แล้วถึง 15 ตัว หลายคนอาจจะเข้าใจผิดในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง เล่นเกม ทำงานว่าแค่ยิ่งเลขสเปคดีก็ยิ่งใช้ดีแต่แท้จริงแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ มากมายในการเลือกซื่อโน๊ตบุ๊คสักรุ่นไม่ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกม โน๊ตบุ๊คทำงาน หรือ โน๊ตบุ๊คทั่วไปก็ตาม
เราไม่สามารถสรุปได้ว่าโน๊ตบุ๊คตัวไหนดีที่สุด หรือจะกำหนดความแรงจากเลขสเปคเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องดูปัจจัย ในการใช้งานของเรา และประสบการณ์ การใช้งานในรุ่นนั้นประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุการสัมผัส ดีไซน์ ระบบระบายความร้อน หน้าจอ ลำโพง ไมค์ กล้องหน้า คีย์บอร์ด การชาร์จ และแบตเตอรี่ น้ำหนัก ช่องเชื่อมต่อและการเชื่อมต่อไรสาย การรองรับซอฟแวร์และระบบการทำงาน โปรแกรมช่วยเหลือกผู้ใช้ การรับประกันและบริการหลังการขาย เป็นต้น ครั้งนี้เราจึงอยากช่วยทุกคนในการพิจารณาเรื่องเหล่านี้ ด้วยโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 15 รุ่นที่คัดมาแล้วว่าดี ตอบโจทย์แน่นอน รวมตัวท็อปตั้งแต่ 2023, 2024 จนถึงปีล่าสุด 2025 เริ่มตั้งแต่ราคาสองหมื่นเป็นต้นไป

บรรณาธิการ
Table of Contents
15 โน๊ตบุ๊คเล่นเกม (Gaming Notebook) รุ่นไหนดี สเปคแรง ถูก คุ้มค่า ทำงานก็ได้ ปี 2025

สำหรับใครที่เป็นแฟนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ทน ๆ ราคาไม่ได้แรงมาก เราว่า Gaming notebooke จาก Asus TUF Gaming ยังไงก็ต้องติดมาในลิสต์แน่ โดยตัวที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นโมเดลเกมมิ่ง notebook ปี 2023-2024 บอกเลยเหมาะกับทุกคนตั้งแต่วัยเรียนยันวัยทำงาน
ASUS TUF Gaming A15 คือเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่มอบขุมพลังแรงด้วย AMD Ryzen 7 / 9 คู่กับ RTX 4050 / 4060 / 4070 ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และสายทำงานหนัก หน้าจอ 144Hz / 165Hz / 240Hz ลื่นไหล พร้อม Adaptive Sync ลดภาพฉีกขาด คีย์บอร์ด RGB N-Key Rollover พิมพ์มันส์ แบตเตอรี่ 90Wh ใช้งานยาวนาน ระบบระบายความร้อนอัปเกรดใหม่ เย็นกว่าเดิม ดีไซน์แข็งแกร่งมาตรฐาน Military-Grade อัปเกรดง่าย พอร์ตครบ ไม่ต้องใช้ Dongle แม้ตัวเครื่องเป็นพลาสติกและน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ด้วยสเปกแรงในราคาสุดคุ้ม นี่คือหนึ่งในโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดในช่วงราคานี้
ASUS TUF Gaming A15 ในปี 2023 และ 2024 มีรุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์จากทั้ง AMD และ Intel ดังนี้:
ปี 2023:
- รุ่นที่ใช้ AMD Ryzen:
- FA507NU-LP031W: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 7 7735HS และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
- FA507NUR-LP051WS: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 7 7735HS และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4070
- FA507NVR-LP037W: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 7 7735HS และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
- รุ่นที่ใช้ Intel:
- FA507NU-LP031W: มาพร้อมกับ Intel Core i7-12700H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
- FA507NUR-LP051WS: มาพร้อมกับ Intel Core i7-12700H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4070
- FA507NVR-LP037W: มาพร้อมกับ Intel Core i7-12700H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
ปี 2024:
- รุ่นที่ใช้ AMD Ryzen:
- FA507UI-LP053W: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 9 8945H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4070
- FA507UV-LP004W: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 9 8945H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
- FA507UU: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 7 8845HS และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4050
- รุ่นที่ใช้ Intel:
- FA507UI-LP053W: มาพร้อมกับ Intel Core i9-13900H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4070
- FA507UV-LP004W: มาพร้อมกับ Intel Core i9-13900H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4060
- FA507UU: มาพร้อมกับ Intel Core i7-13700H และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4050
ปี | รหัสรุ่น | CPU | GPU | จอแสดงผล | RAM | Storage | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก |
2023 | FA507NU-LP031W | AMD Ryzen 7 7735HS | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 144Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2023 | FA507NUR-LP051WS | AMD Ryzen 7 7735HS | NVIDIA GeForce RTX 4070 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.3 กก. |
2023 | FA507NVR-LP037W | AMD Ryzen 7 7735HS | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 144Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2023 | FA507NU-LP031W (Intel) | Intel Core i7-12700H | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 144Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2023 | FA507NUR-LP051WS (Intel) | Intel Core i7-12700H | NVIDIA GeForce RTX 4070 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.3 กก. |
2023 | FA507NVR-LP037W (Intel) | Intel Core i7-12700H | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 144Hz | 16GB DDR5 4800MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2024 | FA507UI-LP053W | AMD Ryzen 9 8945H | NVIDIA GeForce RTX 4070 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2024 | FA507UV-LP004W | AMD Ryzen 9 8945H | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 240Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.3 กก. |
2024 | FA507UU | AMD Ryzen 7 8845HS | NVIDIA GeForce RTX 4050 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2024 | FA507UI-LP053W (Intel) | Intel Core i9-13900H | NVIDIA GeForce RTX 4070 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |
2024 | FA507UV-LP004W (Intel) | Intel Core i9-13900H | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 15.6" FHD 240Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 1TB SSD NVMe | 90Wh | 2.3 กก. |
2024 | FA507UU (Intel) | Intel Core i7-13700H | NVIDIA GeForce RTX 4050 | 15.6" FHD 165Hz | 16GB DDR5 5600MHz | 512GB SSD NVMe | 90Wh | 2.2 กก. |

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม ASUS TUF Gaming A17 โดดเด่นด้วยหน้าจอ 17.3 นิ้ว ที่ใหญ่กว่า A15 ให้มุมมองเต็มตา เล่นเกมและทำงานได้สบายขึ้น ระบบระบายความร้อนดีกว่าด้วย Arc Flow Fans™ 84 ใบพัดและฮีทไปป์ขนาดใหญ่ ลดความร้อนสะสม รองรับ AMD Ryzen 9 7940HS และ RAM สูงสุด 64GB DDR5 ในบางรุ่น เหมาะสำหรับเกมเมอร์และสายทำงานหนัก พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี USB 4.0 Type-C รองรับ DisplayPort, Power Delivery และ G-Sync พร้อม HDMI 2.1 FRL ที่รองรับจอ 4K 120Hz เหมาะสำหรับงานตัดต่อและสตรีมมิ่งที่ต้องใช้พื้นที่หน้าจอเยอะ พื้นที่คีย์บอร์ดกว้างขึ้น พิมพ์สะดวกกว่า A15 เหมาะกับคนที่ต้องการเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ทรงพลัง ใช้งานหนัก และจอใหญ่เต็มตากว่าปกติ
สำหรับ ASUS TUF Gaming A17 รุ่นปี 2023 มีหลายรหัสให้เลือก ดังนี้
รุ่น | CPU | GPU | หน้าจอ | RAM | Storage | OS |
FA707XU | AMD Ryzen™ 9 7940HS | NVIDIA® GeForce RTX™ 4050 Laptop GPU (6GB GDDR6) | 17.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) 144Hz | 16GB DDR5-4800 SO-DIMM (สูงสุด 32GB) | 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD |
Windows 11 Home
|
FA707NV | AMD Ryzen™ 7 7735HS | NVIDIA® GeForce RTX™ 4060 Laptop GPU (8GB GDDR6) | 17.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) 144Hz | 16GB DDR5-4800 SO-DIMM (สูงสุด 32GB) | 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD |
Windows 11 Home
|
FA707NU | AMD Ryzen™ 7 7735HS | NVIDIA® GeForce RTX™ 4050 Laptop GPU (6GB GDDR6) | 17.3 นิ้ว FHD (1920 x 1080) 144Hz | 16GB DDR5-4800 SO-DIMM (สูงสุด 64GB) | 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD |
Windows 11 Home
|

ถ้าคุณกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คเล่นเกม แรง ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมและการใช้งานหนัก ASUS ROG Strix G16 (G614JVR-N3211W) [เปิดตัวในปี 2024] และ ROG Strix SCAR 16 (G635LX-XS97) [เปิดตัวปี 2025] คือสองตัวเลือกที่น่าจับตามอง แม้จะอยู่ในซีรีส์เดียวกัน แต่ทั้งสองรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน G614JVR-N3211W มาพร้อม Intel® Core™ i9-14900HX และ RTX 4060 ที่ให้สมดุลระหว่างพลังประมวลผลและการใช้พลังงาน เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเครื่องแรง แต่ยังควบคุมงบได้อยู่ หน้าจอ 16 นิ้ว WUXGA 165Hz ตอบสนองไว ใช้งานลื่นไหล และด้วยระบบระบายความร้อนชั้นยอดจาก ASUS ทำให้เล่นเกมได้นานโดยที่เครื่องไม่ร้อนเกินไป
ส่วนใครที่มองหารุ่นเกมมิ่งที่แรงสุดของ Asus Gaming Notebook ในปี 2025 G635LX-XS97 เป็นตัวท็อปของตระกูล SCAR ที่อัดแน่นไปด้วยสเปกระดับเทพ ไม่ว่าจะเป็น Intel® Core™ Ultra 9 275HX และ RTX 5090 Laptop GPU ที่ให้ภาพสวยสมจริงขั้นสุด รองรับ Ray Tracing และการประมวลผล AI ที่ทรงพลัง หน้าจอ 16 นิ้ว Mini LED 2.5K 240Hz ให้สีสันสดใส คมชัด และอัตราตอบสนองสูงสุด เหมาะกับเกมเมอร์สายแข่งขันและครีเอเตอร์ที่ต้องการคุณภาพภาพที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น ดีไซน์ไฟ AniMe Matrix™ LED บนฝาเครื่องยังเพิ่มความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ถ้าต้องการโน้ตบุ๊กที่แรงสุด ขีดจำกัดน้อยสุด นี่คือตัวเลือกที่ใช่
สำหรับ ASUS ROG Strix G16 ในช่วงปี 2024 และ 2025 มีรุ่นและรหัสดังนี้:
ปี 2024:
- G614JVR-N3211W: มาพร้อมกับ Intel® Core™ i9-14900HX และ NVIDIA® GeForce RTX™ 4060 Laptop GPU หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WUXGA (1920 x 1200) อัตราการรีเฟรช 165Hz
ปี 2025:
- G615: มาพร้อมกับ Intel® Core™ Ultra 9 275HX และ NVIDIA® GeForce RTX™ 5080 Laptop GPU หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2.5K (2560 x 1600) อัตราการรีเฟรช 240Hz
ปี | รหัสรุ่น | CPU | GPU | จอแสดงผล | RAM | Storage | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก |
2024 | G614JVR-N3211W | Intel® Core™ i9-14900HX | NVIDIA® GeForce RTX™ 4060 Laptop GPU | 16" WUXGA (1920 x 1200) 165Hz | 16GB DDR5-5600MHz | 512GB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD | 90Wh | ประมาณ 2.5 กก. |
2025 | G615 | Intel® Core™ Ultra 9 275HX | NVIDIA® GeForce RTX™ 5080 Laptop GPU | 16" 2.5K (2560 x 1600) 240Hz | 32GB DDR5-5600MHz | 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD | 90Wh | ประมาณ 2.5 กก. |

ASUS ROG Flow X13 (2023) และ ROG Flow Z13 เป็นสองสุดยอดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งแบบพกพาที่ออกแบบมาตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความแรงในขนาดกะทัดรัด แม้ว่า Flow X13 จะเป็นรุ่นที่เก่ากว่า แต่ยังคงไปต่อได้อย่างสบายในปี 2024 และ 2025 ด้วย AMD Ryzen™ 9 7940HS ที่ยังทรงพลัง และ RTX 4050 ที่สามารถใช้ DLSS 3 ช่วยเร่งเฟรมเรตในเกม AAA ได้ดี อีกทั้งยังรองรับการต่อ ROG XG Mobile eGPU เพื่อเพิ่มพลังกราฟิกได้สูงสุดถึง RTX 4090 ขณะที่ Flow Z13 มาในดีไซน์แท็บเล็ตคีย์บอร์ดถอดได้ ใช้ Intel Core i9-13900H และ RTX 4060 ให้ความแรงที่ไม่แพ้กัน แต่มาพร้อม Thunderbolt 4 และระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีบานพับมาขวางการระบายอากาศ ต่างจาก X13 ที่มีข้อได้เปรียบตรงที่เป็น 2-in-1 แล็ปท็อป พับจอได้ 360 องศา ทำให้ใช้งานได้หลายรูปแบบมากขึ้น
แม้ว่า RTX 4050 ของ Notebook เล่นเกม Asus ROG Flow X13 อาจจะไม่แรงสุด แต่สำหรับเกม 1080p และ 1440p ยังสู้ได้สบาย พร้อมจอ ROG Nebula Display 165Hz ที่ตอบสนองเร็ว สีสด เหมาะทั้งเล่นเกมและทำงาน Flow X13 ได้เปรียบเรื่อง แบตเตอรี่ 75Wh ที่อึดกว่ารุ่น Z13 (56Wh) และรองรับ USB-C PD 100W Fast Charging แต่ Z13 ก็มีข้อดีตรงที่น้ำหนักเบากว่า และมีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นรองรับ Wi-Fi 6E, Adaptive Sync และ SSD PCIe Gen 4 ทำให้มั่นใจได้ว่ายังเร็ว แรง และทันสมัยในปี 2024-2025 ถ้าคุณต้องการเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่ใช้ได้หลายโหมดและแบตอึด Flow X13 คือตัวเลือกที่คุ้มค่า
รหัสรุ่นที่มีจำหน่าย:
- GV301QH-K6055TS: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 9 5900HS, NVIDIA GeForce GTX 1650, RAM ขนาด 16GB LPDDR4X และ SSD ความจุ 1TB
- GV302XU-MU018WS: มาพร้อมกับ AMD Ryzen 9 7940HS, NVIDIA GeForce RTX 4050, RAM ขนาด 16GB LPDDR5 และ SSD ความจุ 1TB
คุณสมบัติ | ASUS ROG Flow X13 (2023) |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | AMD Ryzen™ 9 7940HS (8 คอร์ 16 เธรด, สูงสุด 5.2GHz) |
กราฟิกการ์ด (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4050 Laptop GPU (6GB GDDR6) |
หน่วยความจำ (RAM) | 16GB LPDDR5-6400MHz (ติดตั้งบนบอร์ด) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD |
หน้าจอ (Display) | 13.4" WQXGA (2560 x 1600) Touchscreen, IPS-level |
อัตราการรีเฟรช | 165Hz |
ระบบระบายความร้อน | Arc Flow Fans™, Liquid Metal บน CPU |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.2 Gen 2 Type-A, USB 4 Type-C, HDMI 2.1, microSD Card Reader |
Thunderbolt 4 | ไม่มี |
แบตเตอรี่ | 75Wh (Fast Charging 100W PD) |
น้ำหนัก | 1.3 กก. |
รองรับ ROG XG Mobile | รองรับ |
ระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอ Dolby Atmos, AI Noise Cancelling |
กล้อง | กล้อง 1080P FHD IR Camera (รองรับ Windows Hello) |

Lenovo LOQ 15IRX9 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ออกแบบมาสำหรับงานหนัก มาพร้อม Intel Core i5-13450HX ที่ให้พลังประมวลผลที่ดี รองรับการเล่นเกมและมัลติทาสกิ้งได้อย่างลื่นไหล จับคู่กับ NVIDIA GeForce RTX 4050 ที่รองรับ Ray Tracing และ DLSS 3 ทำให้ภาพเกมคมชัดและสมจริงยิ่งขึ้น จอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว Full HD 144Hz ให้สีสันสดใส คมชัดทุกการเคลื่อนไหว รองรับ 100% sRGB และ G-SYNC เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือระดับ
นอกจากพลังที่จัดเต็ม Lenovo LOQ 15IRX9 ยังมาพร้อม ดีไซน์ Storm Grey ที่ดูเรียบหรูและแข็งแกร่ง พร้อมระบบระบายความร้อน LOQ Cooling ที่ช่วยให้เครื่องเย็นและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในช่วงที่เล่นเกมหนัก พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C, HDMI, LAN, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน แบตเตอรี่ขนาด 80Wh รองรับ Power Delivery 140W ชาร์จไว ใช้งานได้นานกว่าเดิม น้ำหนัก 2.4 กก. เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่แรง คุ้มค่า และรองรับการใช้งานระยะยาว Lenovo LOQ 15IRX9 คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการพลังการประมวลผลระดับกลาง แต่ยังคงได้กราฟิกที่ทรงพลังในราคาที่จับต้องได้
ข้อมูลเฉพาะ (เฉพารหัส 83DV00LETA):
คุณสมบัติ | Lenovo LOQ 15IRX9-83DV00LETA |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | Intel Core i5-13450HX (10 คอร์, 16 เธรด, สูงสุด 4.6GHz) |
กราฟิกการ์ด (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6, TGP สูงสุด 105W) |
หน่วยความจำ (RAM) | 24GB DDR5 4800MHz (รองรับสูงสุด 32GB) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | 512GB SSD PCIe M.2 Gen 4 (มี 2 สล็อต M.2) |
หน้าจอ (Display) | 15.6" Full HD (1920x1080) IPS, 144Hz, 300 nits |
อัตราการรีเฟรช | 144Hz |
ระบบระบายความร้อน | LOQ Cooling System |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.2 Type-A x3, USB 3.2 Type-C x1, HDMI, Ethernet LAN |
Wi-Fi และ Bluetooth | Wi-Fi 6 (802.11ax), Bluetooth 5.2 |
แบตเตอรี่ | 80Wh (รองรับชาร์จเร็ว Power Delivery 140W) |
น้ำหนัก | 2.4 กิโลกรัม |
ระบบปฏิบัติการ | Windows 11 Home Single Language |
สี | Storm Grey |
คีย์บอร์ด | 4-Zone RGB Chiclet Keyboard พร้อม Numpad |
การรับประกัน | 3 ปี Premium Care |

Lenovo Legion Pro 7 (16IRX9H-83DE003JTA) โน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับ Hi-End ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ตัวจริงและผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลขั้นสุด มาพร้อม Intel Core i9-14900HX รุ่นล่าสุดที่รองรับงานหนักทุกประเภท ตั้งแต่เกม AAA ไปจนถึงงานเรนเดอร์ 3D ที่ซับซ้อน ควบคู่กับ NVIDIA GeForce RTX 4080 12GB GDDR6 ที่รองรับ Ray Tracing และ DLSS 3 เพื่อให้ภาพสวยสมจริงทุกเฟรม หน้าจอขนาด 16 นิ้ว WQXGA (2560×1600) IPS 240Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC, Dolby Vision และ HDR400 ทำให้เกมลื่นไหล ไม่มีภาพฉีกขาด และได้ภาพที่สว่างคมชัด สีสันตรงตามมาตรฐาน 100% sRGB
Legion Pro 7 ยังมาพร้อม RAM 32GB DDR5 5600MHz และ SSD 2TB PCIe 4.0 ที่ให้ความเร็วสูงสุด ระบบระบายความร้อน ColdFront 5.0 ช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสะสม พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C, HDMI, Ethernet, Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2 พร้อมคีย์บอร์ด RGB Per-Key Legion TrueStrike ที่ตอบสนองไว น้ำหนักเครื่องเพียง 2.8 กิโลกรัม เหมาะสำหรับเกมเมอร์และมืออาชีพที่ต้องการเครื่องแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ยังพกพาไปทำงานได้อย่างสะดวก Lenovo Legion Pro 7 (16IRX9H-83DE003JTA) คือสุดยอดเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่มอบทั้งความแรงและความคุ้มค่าในปี 2024 และในอีกหลายปีข้างหน้า
ข้อมูลเฉพาะ (เฉพาะรหัส 1616IRX9H-83DE003JTA):
คุณสมบัติ | Lenovo Legion Pro 7 (16IRX9H-83DE003JTA) |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | Intel Core i9-14900HX (24 คอร์, 32 เธรด, สูงสุด 5.8GHz) |
กราฟิกการ์ด (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4080 (12GB GDDR6, TGP สูงสุด 175W) |
หน่วยความจำ (RAM) | 32GB DDR5 5600MHz (รองรับสูงสุด 64GB) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | 2TB SSD PCIe 4.0 NVMe (มี 2 สล็อต M.2) |
หน้าจอ (Display) | 16" WQXGA (2560×1600) IPS, 240Hz, HDR400, Dolby Vision |
อัตราการรีเฟรช | 240Hz |
สีสันหน้าจอ | 100% sRGB, NVIDIA G-SYNC, VESA DisplayHDR400 |
ระบบระบายความร้อน | Legion ColdFront 5.0 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.2 Type-A x3, USB 3.2 Type-C x2, HDMI 2.1, Ethernet LAN, Audio Jack 3.5mm |
Wi-Fi และ Bluetooth | Wi-Fi 6E (802.11ax), Bluetooth 5.2 |
แบตเตอรี่ | 99.99Wh (รองรับชาร์จเร็ว Power Delivery 230W) |
น้ำหนัก | 2.8 กิโลกรัม |
ระบบปฏิบัติการ | Windows 11 Home |
สี | Onyx Grey |
คีย์บอร์ด | Per-Key RGB Legion TrueStrike Keyboard |
การรับประกัน | 3 ปี Premium Care |

Acer Predator Helios Neo 16 คือสุดยอด Notebook Gaming อีกรุ่นที่น่าสนไม่น้อยไปกว่ารุ่นอื่น ๆ ในบทความแนะนำโน๊ตบุ๊คเล่นเกมนี้เลย ผสานพลังประมวลผลขั้นสูงเข้ากับการออกแบบที่โดดเด่น มาพร้อมกับ Intel Core i7-14700HX (PHN16-72-75W7) ที่มี 20 คอร์ พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4050 ที่รองรับ DLSS 3.0 และ Ray Tracing ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหล พร้อมแสดงผลกราฟิกที่สมจริงในทุกมิติ หน้าจอ WQXGA (2560 x 1600) 165Hz และขอบเขตสี 100% sRGB ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และสายงานกราฟิก ตัวเครื่องออกแบบมาให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมคีย์บอร์ด RGB 4 โซนที่ปรับแต่งได้ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์เกมมิ่งที่เป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้คือ ระบบระบายความร้อน AeroBlade™ 3D รุ่นที่ 5 ที่ใช้พัดลมโลหะบางเฉียบและสารนำความร้อนโลหะเหลวเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แม้ในช่วงที่โหลดหนัก พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง Thunderbolt 4, HDMI 2.1, Wi-Fi 6E ช่วยให้การเล่นเกมและทำงานราบรื่นไม่มีสะดุด อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มาพร้อม RAM 16GB DDR5 ซึ่งสามารถอัปเกรดได้สูงสุด 32GB แต่หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องเพิ่ม RAM เพื่อให้รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ SSD ขนาด 512GB อาจไม่เพียงพอ สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการติดตั้งเกมหลายเกม การอัปเกรด SSD เป็น 1TB หรือมากกว่านั้นจึงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
รหัสของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ACER Predator Helios Neo 16 ที่มีวางจำหน่าย ตั้งแต่ปี 2023-2024:
รหัสรุ่น | ปีที่เปิดตัว | หน่วยประมวลผล | การ์ดจอ | หน่วยความจำ | ที่เก็บข้อมูล | หน้าจอ | อัตรารีเฟรช | ระบบปฏิบัติการ |
PHN16-71-58MD | 2023 | Intel Core i5-13500HX | NVIDIA GeForce RTX 4050 | 16GB DDR5 | 512GB SSD | 16" WUXGA (1920x1200) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-71-71EE | 2023 | Intel Core i7-13700HX | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 16GB DDR5 | 512GB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-71-77BW | 2023 | Intel Core i7-13700HX | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 16GB DDR5 | 1TB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-71-921N | 2023 | Intel Core i9-13900HX | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 16GB DDR5 | 1TB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-72-55NZ | 2024 | Intel Core i5-14500HX | NVIDIA GeForce RTX 4050 | 16GB DDR5 | 512GB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-72-75W7 | 2024 | Intel Core i7-14700HX | NVIDIA GeForce RTX 4050 | 16GB DDR5 | 512GB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 165Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-72-98J4 | 2024 | Intel Core i9-14900HX | NVIDIA GeForce RTX 4060 | 16GB DDR5 | 1TB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 240Hz |
Windows 11 Home
|
PHN16-72-99ZQ | 2024 | Intel Core i9-14900HX | NVIDIA GeForce RTX 4070 | 16GB DDR5 | 1TB SSD | 16" WQXGA (2560x1600) | 240Hz |
Windows 11 Home
|

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพลังประมวลผลระดับพระกาฬ โน๊ตบุ๊คเล่นเกม Dell Alienware M18 คือที่สุดที่คุณควรมองหาและเป็นตัวท็อปของที่สุดในที่สุดอีกเครื่องนึง ด้วย Intel Core i9-13980HX ที่มี 24 คอร์ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4090 ที่รองรับ Ray Tracing และ AI-Powered DLSS 3.5 ทำให้เล่นเกมระดับ AAA ได้แบบ 4K Ultra โดยไม่มีสะดุด หน้าจอ QHD+ ขนาด 18 นิ้ว รีเฟรชเรท 165Hz ให้ภาพคมชัดเต็มตา สีสันระดับ 100% DCI-P3 ตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับทั้งสาย E-Sports, สตรีมเมอร์ และโปรเกมเมอร์ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบด้วยวัสดุเป็นสีโทนเทาดำสุดพรีเมียม พร้อมระบบระบายความร้อน Cryo-Tech™ ที่ช่วยดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนสะสม
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังระดับนี้ ก็ต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่ Notebook Gaming ที่เหมาะกับทุกคน น้ำหนักกว่า 4 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปไหนมาไหนไม่ง่าย และแบตเตอรี่ ใช้งานได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเมื่อเล่นเกม ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการเกมมิ่งโน้ตบุ๊คแบบ "Desktop Replacement" มากกว่าคนที่ต้องการเครื่องที่ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ แม้ว่าจะรองรับ RAM สูงสุด 64GB DDR5 4800MHz และ SSD ได้ถึง 9TB แต่ราคาของอัปเกรดนั้นสูงมาก ถ้าคุณต้องการ โน้ตบุ๊คที่โหดที่สุดสำหรับเกมมิ่งที่ไม่มีคำว่าปล่อยจอย นี่คือเครื่องที่เกิดมาเพื่อคนเก่งเจ๋งแบบคุณแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการความคล่องตัวและแบตที่อึดขึ้น อาจต้องพิจารณาโน้ตบุ๊ครุ่นที่เล็กลง ซึ่งก็จะมีรุ่น Alienware X16 ที่น้ำหนักเบาลงประมาณ 40% หรือเลือกใช้ Gaming Laptop ที่บางกว่านี้
ข้อมูลเฉพาะของ DELL Alienware M18 เปรียบเทียบกับ Alienware X16
สเปค | Alienware M18 | Alienware X16 |
ซีพียู (CPU) | Intel Core i9-13980HX (24 คอร์, 32 เธรด, สูงสุด 5.60GHz) |
Intel Core Ultra 9 185H (16 คอร์, 22 เธรด, สูงสุด 5.1GHz)
|
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4090 (16GB GDDR6, TGP สูงสุด 175W) |
NVIDIA GeForce RTX 4090 (16GB GDDR6, TGP สูงสุด 140W)
|
แรม (RAM) | 64GB (2x32GB) DDR5 4800MHz (อัปเกรดได้) | 32GB LPDDR5X 7467MHz (อัปเกรดไม่ได้) |
ที่เก็บข้อมูล (SSD) | 2TB PCIe NVMe SSD (รองรับสูงสุด 4TB) | 2TB PCIe NVMe SSD (อัปเกรดได้) |
หน้าจอ (Display) | 18 นิ้ว QHD+ (2560x1600) 165Hz, G-SYNC, 100% DCI-P3 |
16 นิ้ว FHD+ (1920x1200) 480Hz, G-SYNC, 100% DCI-P3
|
ระบบระบายความร้อน | Vapor Chamber + Element 31 + พัดลมคู่ใหญ่ขึ้น |
Vapor Chamber (เฉพาะ RTX 4080/4090) + Element 31
|
ลำโพง (Audio) | ลำโพงสเตอริโอคู่ + ไมโครโฟนคู่ |
ระบบ 6 ลำโพง (2 Tweeter + 4 Woofer) + Spatial Audio
|
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-A 3.2 x3, Thunderbolt 4 x1, USB-C PD x1, HDMI 2.1, Mini DisplayPort, RJ-45 Ethernet |
USB-A 3.2 x2, Thunderbolt 4 x1, USB-C x1, HDMI 2.1
|
แบตเตอรี่ | 97Wh (ใช้งานจริง ~3 ชั่วโมง) | 90Wh (ใช้งานจริง ~4 ชั่วโมง) |
น้ำหนัก | 4.23 กก. (หนักมาก) | 2.66 กก. (เบากว่า) |
ดีไซน์ & ไฟ RGB | AlienFX RGB, คีย์บอร์ดแมคคานิคอล Per-Key RGB (เสริมได้) |
AlienFX RGB, คีย์บอร์ด Per-Key RGB, Touchpad ใหญ่ขึ้น
|
ราคาโดยเฉลี่ย | แพงกว่า | ถูกกว่าเล็กน้อย |

หากคุณกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งแรง ๆ คุ้มค่า และพร้อมรองรับทุกการเล่นเกม Acer Nitro V 16 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยขุมพลังจาก AMD Ryzen 7 8845HS (8 คอร์ 16 เธรด, 5.1GHz Boost) ที่ทำให้เล่นเกมและทำงานมัลติทาสก์ได้ไหลลื่น ผสานกับ NVIDIA GeForce RTX 3050 (6GB GDDR6) ที่รองรับ Ray Tracing ทำให้สามารถรันเกม AAA ได้ในระดับ 1080p High settings แบบไม่มีสะดุด อีกทั้งหน้าจอขนาด 16 นิ้ว WUXGA (1920x1200) รีเฟรชเรท 165Hz, รองรับ 100% sRGB ให้ภาพคมชัดและสีสันสดใส เหมาะทั้งสำหรับ เกมเมอร์ สตรีมเมอร์มือใหม่ และผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกเบื้องต้น ระบบระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิ นอกจากนี้ ยังรองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 และ USB4 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและสะดวกสบาย
แม้ว่า Acer Nitro V 16 ANV16-41-R724 จะเป็น Notebook Gaming ระดับเริ่มต้นที่มีสเปกดีในราคาคุ้มค่า แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่อาจเป็นรองคู่แข่งบางรุ่น เช่น RTX 3050 อาจไม่แรงพอสำหรับเกมที่ต้องการกราฟิกระดับ Ultra หรือ 1440p+ และแบตเตอรี่ 57Wh อาจใช้งานต่อเนื่องได้นาน ราว 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น หากเล่นเกมหนัก อีกทั้งตัวเครื่องมีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กพกพาง่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการโน้ตบุ๊กแรงๆ ในงบประมาณที่คุ้มที่สุด และสามารถอัปเกรด RAM ได้ในอนาคต นี่คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
ข้อมูลเฉพาะ (รหัส ANV16-41-R724):
สเปค | รายละเอียด |
หน่วยประมวลผล (CPU) | AMD Ryzen 7 8845HS (8 คอร์, 16 เธรด, 3.8GHz Base / 5.1GHz Boost, 16MB L3 Cache) |
กราฟิกการ์ด (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 3050 (6GB GDDR6, รองรับ Ray Tracing) |
หน่วยความจำ (RAM) | 16GB DDR5 5200MHz (8GB x2, รองรับอัปเกรดสูงสุด 32GB) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | 512GB PCIe Gen4 NVMe M.2 SSD (รองรับอัปเกรด) |
หน้าจอ (Display) | 16 นิ้ว WUXGA (1920x1200) พาเนล IPS, รีเฟรชเรท 165Hz, ความสว่าง 300 nits, รองรับ 100% sRGB |
ระบบระบายความร้อน | พัดลมคู่ พร้อมฮีทไปป์ระบายความร้อน |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home (ติดตั้งมาให้) |
การเชื่อมต่อ (Connectivity) | - Wi-Fi 6E (802.11ax) - Bluetooth 5.3 - Gigabit Ethernet (RJ-45) |
พอร์ตเชื่อมต่อ (Ports) | - USB Type-C (USB4 40Gbps) รองรับ DisplayPort & Power Delivery - USB 3.2 Gen 2 Type-A (2 พอร์ต, รองรับ PowerShare) - HDMI 2.1 - Ethernet LAN (RJ-45) - ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm Combo Jack |
คีย์บอร์ด (Keyboard) | คีย์บอร์ดไฟ Backlit สีขาว, ปุ่มเต็มขนาดพร้อม Numpad |
ระบบเสียง (Audio) | ลำโพงคู่ DTS:X Ultra พร้อมไมโครโฟนคู่ |
แบตเตอรี่ (Battery) | ลิเธียมไอออน 4 เซลล์ ความจุ 57Wh (ใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง) |
น้ำหนัก (Weight) | ประมาณ 2.5 กิโลกรัม |
สีเครื่อง (Color) | Obsidian Black |

GIGABYTE AORUS 16X ASG-63THC64SH ยังคงเป็นหนึ่งในแล็ปท็อปเกมมิ่งระดับไฮเอนด์ที่น่าซื้อในปี 2025 ด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i9-14900HX และการ์ดจอ NVIDIA RTX 4070 ที่ให้ประสิทธิภาพสูง รองรับเกมระดับ AAA ในการตั้งค่าสูงสุดและงานที่ต้องใช้กราฟิกหนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอและออกแบบ 3D นอกจากนี้ หน้าจอ QHD 165Hz ที่ผ่านการรับรอง Pantone ทำให้สีสันแม่นยำ เหมาะกับสายครีเอทีฟและเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์ภาพคมชัด รองรับ Wi-Fi 7 และพอร์ต USB4 Gen 3 ทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วและรองรับอนาคต ในขณะที่แบตเตอรี่ 99Wh และน้ำหนัก 2.3 กก. ทำให้พกพาได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่มีสเปคใกล้เคียงกัน
เมื่อเทียบกับ GIGABYTE G6 ซึ่งมักใช้โปรเซสเซอร์และการ์ดจอระดับกลาง เช่น Intel Core i7 และ RTX 4060 หรือ 4050 ทำให้ AORUS 16X ได้เปรียบทั้งในด้านพลังประมวลผลและคุณภาพจอแสดงผล โดยเฉพาะสำหรับเกมที่ต้องใช้พลังสูง เช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield อย่างไรก็ตาม G6 อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กเกมมิ่งในราคาย่อมเยากว่าและไม่ได้เน้นงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงมากนัก ในปี 2025 หากคุณต้องการโน้ตบุ๊กที่รองรับเกมและงานหนักในระยะยาว AORUS 16X ASG-63THC64SH ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งกว่า G6 และให้ประสบการณ์ระดับพรีเมียมมากกว่า
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง AORUS 16X ASG-63THC64SH และ GIGABYTE G6 G6-KF-H3TH853KH:
คุณสมบัติ | GIGABYTE AORUS 16X ASG-63THC64SH | GIGABYTE G6 G6-KF-H3TH853KH |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | Intel Core i9-14900HX (24 คอร์, 32 เธรด, สูงสุด 5.80 GHz) | Intel Core i7-13620H (10 คอร์, 16 เธรด, สูงสุด 4.90 GHz) |
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6, TGP 140W) | NVIDIA GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6, TGP 75W) |
หน่วยความจำ (RAM) | 32GB DDR5 5600MHz | 16GB DDR5 4800MHz (อัปเกรดได้) |
ที่เก็บข้อมูล | SSD 1TB PCIe Gen 4 | SSD 512GB PCIe Gen 4 (อัปเกรดได้) |
หน้าจอ | 16 นิ้ว QHD (2560 x 1600), 165Hz, Pantone Validated, 100% sRGB, G-Sync | 16 นิ้ว WUXGA (1920 x 1200), 165Hz, 100% sRGB |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 7 (802.11be), Bluetooth 5.4 | Wi-Fi 6E (802.11ax), Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | - 2x USB 3.2 Type-A - 1x USB 3.2 Type-C - 1x USB4 Gen 3 Type-C (PD 3.0, DisplayPort 1.4) - 1x HDMI 2.1 - 1x RJ45 Ethernet - 1x ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. |
- 1x USB 2.0 Type-A - 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A - 2x USB 3.2 Gen 2 Type-C - 1x HDMI 2.1 - 1x Mini DisplayPort 1.4 - 1x RJ45 Ethernet - 1x ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. - 1x ช่องเสียบไมโครโฟน 3.5 มม. - 1x ช่องอ่าน microSD |
แบตเตอรี่ | 99Wh | 54Wh |
ระบบปฏิบัติการ | Windows 11 Home | Windows 11 Home |
น้ำหนัก | 2.3 กก. | 2.3 กก. |

HP Victus 16 เป็น Notebook Gaming ที่คุ้มค่าในปี 2025 ด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 8845HS และการ์ดจอ NVIDIA RTX 4060 ที่ให้ประสิทธิภาพดีสำหรับการเล่นเกม AAA และการทำงานกราฟิกระดับมืออาชีพ มาพร้อม RAM 32GB DDR5 และ SSD 1TB ซึ่งช่วยให้การโหลดเกมและซอฟต์แวร์ทำงานได้รวดเร็ว หน้าจอขนาด 16.1 นิ้ว FHD รีเฟรชเรต 165Hz รองรับ 100% sRGB ทำให้สีสันคมชัดและลื่นไหล เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมแนว FPS เช่น CS2, Valorant, Call of Duty หรือเกมแนว Open World อย่าง Cyberpunk 2077 และ Red Dead Redemption 2 ระบบ Wi-Fi 6E และพอร์ต USB-C, HDMI 2.1 ช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ขนาด 70Wh ใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่าโน๊ตบุ๊ค Gaming ทั่วไป
เมื่อเปรียบเทียบกับโน้ตบุ๊กในช่วงราคาเดียวกัน เช่น Acer Nitro 16 หรือ ASUS TUF Gaming F15 เจ้าตัว HP Victus 16 มีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนด้านแรมขนาด 32GB และจอคุณภาพสูงที่รองรับ 100% sRGB ในขณะที่บางรุ่นยังใช้ RAM 16GB และจอ 45% NTSC อย่างไรก็ตาม Nitro 16 และ TUF F15 อาจมีตัวเลือก RTX 4070 ซึ่งให้เฟรมเรทสูงกว่าเล็กน้อยในการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกหนัก หากคุณต้องการ Notebook ที่ครบเครื่องสำหรับเกมและงานกราฟิกในราคาที่สมเหตุสมผล HP Victus 16 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025 แม้จะเปิดตัวไปช่วง 2024
ข้อมูลเฉพาะ (เฉพาะรหัส 16-S1118AX):
สเปค | รายละเอียด |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | AMD Ryzen 7 8845HS (3.8 GHz, สูงสุด 5.1 GHz, L2 8MB, L3 16MB) |
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6, TGP 130W) |
หน่วยความจำ (RAM) | 32GB DDR5 5600MHz (16GB x 2) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | SSD 1TB PCIe NVMe M.2 Gen 4 |
หน้าจอ (Display) | 16.1 นิ้ว FHD (1920 x 1080), IPS, 165Hz, 100% sRGB, Anti-Glare, 300 nits |
การเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless) | Wi-Fi 6E (802.11ax), Bluetooth 5.3 |
พอร์ตเชื่อมต่อ (Ports) | - USB-A 5Gbps x3 (1 พอร์ตรองรับ HP Sleep and Charge) - USB-C 5Gbps x1 (รองรับ PD, DP 1.4a, HP Sleep and Charge) - HDMI 2.1 x1 - RJ-45 Ethernet x1 - ช่องเสียบหูฟัง/ไมค์ 3.5 มม. |
แบตเตอรี่ (Battery) | 4-Cell Li-Polymer 70Wh |
กล้องเว็บแคม (Webcam) | HP True Vision 1080p FHD, ไมค์คู่, ลดเสียงรบกวน |
คีย์บอร์ด (Keyboard) | ไฟ RGB 1 โซน, มีแป้นตัวเลข (Numpad) |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home |
สี (Color) | Mica Silver |
น้ำหนัก (Weight) | 2.33 กิโลกรัม |

HP OMEN 16 เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับพรีเมียมจากแบรนด์ HP ที่ยังคงน่าซื้อในปี 2025 ด้วย Intel Core i9-14900HX และ RTX 4060 (TGP 140W) ซึ่งให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม AAA และงานกราฟิกระดับสูง หน้าจอ QHD (2560x1440) Refresh Rate 240Hz รองรับ 100% sRGB และ G-SYNC ทำให้เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการภาพลื่นไหล เช่น Call of Duty, Cyberpunk 2077, Valorant, Apex Legends หรือเกมที่ต้องใช้ความแม่นยำของภาพ นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi 7, Thunderbolt 4 และแบตเตอรี่ 83Wh ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพาและใช้งานได้ยาวนาน คีย์บอร์ด RGB 4 โซน และดีไซน์ Shadow Black ช่วยเสริมความดุดันให้กับเกมเมอร์ที่ต้องการสไตล์
เมื่อเปรียบเทียบกับโน้ตบุ๊คราคาเดียวกัน เช่น Lenovo Legion 5 Pro หรือ ASUS ROG Strix G16 OMEN 16-WF1073TX ได้เปรียบในเรื่อง หน้าจอ QHD 240Hz และ Wi-Fi 7 ที่ช่วยให้เล่นเกมและทำงานได้อย่างลื่นไหลกว่า อย่างไรก็ตาม Legion 5 Pro อาจมีตัวเลือก RTX 4070 ซึ่งให้เฟรมเรตสูงกว่า ส่วน ASUS ROG Strix G16 มี ระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า ด้วยช่องระบายอากาศพิเศษ หากคุณต้องการโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่สมดุลระหว่างจอคุณภาพสูง ประสิทธิภาพ และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน OMEN 16 ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในปี 2025 แต่หากคุณต้องการเฟรมเรทสูงสุดในราคานี้ อาจต้องพิจารณา Legion 5 Pro ที่ใช้ RTX 4070 แทน
ข้อมูลเฉพาะ (รุ่นรหัส 16-wf1073TX):
สเปค | รายละเอียด |
โปรเซสเซอร์ (CPU) | Intel Core i9-14900HX (24 คอร์, 32 เธรด, สูงสุด 5.80 GHz, L3 36MB) |
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6, TGP 140W) |
หน่วยความจำ (RAM) | 32GB DDR5 5600MHz (16GB x 2) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | SSD 1TB PCIe NVMe M.2 Gen 4 |
หน้าจอ (Display) | 16.1 นิ้ว QHD (2560 x 1440), IPS, 240Hz, 100% sRGB, Anti-Glare, 300 nits |
การเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless) | Wi-Fi 7 (802.11be), Bluetooth 5.4 |
พอร์ตเชื่อมต่อ (Ports) | - Thunderbolt 4 x2 (รองรับ DP, PD, HP Sleep and Charge) - USB-A 3.2 Gen 1 x2 (1 พอร์ตรองรับ HP Sleep and Charge) - HDMI 2.1 x1 - RJ-45 Ethernet x1 - ช่องเสียบหูฟัง/ไมค์ 3.5 มม. |
แบตเตอรี่ (Battery) | 6-Cell Li-Polymer 83Wh |
กล้องเว็บแคม (Webcam) | HP True Vision 1080p FHD, ไมค์คู่, ลดเสียงรบกวน |
คีย์บอร์ด (Keyboard) | ไฟ RGB 4 โซน, มีแป้นตัวเลข (Numpad) |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home |
สี (Color) | Shadow Black |
น้ำหนัก (Weight) | 2.3 กิโลกรัม |

MSI Stealth 16 คือสุดยอดโน๊ตบุ๊คทำงานและเกมมิ่งที่มาพร้อมสเปกแรงจัดเต็ม ในดีไซน์บางเบาสุดหรู หนักแค่ 1.99 กก. แต่ภายในอัดแน่นด้วย Intel Core Ultra 9 185H และ RTX 4080 ที่พร้อมลุยทุกงาน ตั้งแต่ตัดต่อ 4K ไปจนถึงเล่นเกมกราฟิกระดับเทพ หน้าจอ Mini LED UHD+ 120Hz สีตรง 100% DCI-P3 รองรับ HDR1000 ให้ภาพสวยสะใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายครีเอเตอร์ นักออกแบบ หรือเกมเมอร์ระดับโปร ก็ใช้งานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ SSD 2TB + RAM 32GB DDR5 ก็ช่วยให้ทุกอย่างเร็วขึ้นแบบติดจรวด พร้อมพอร์ตครบครันทั้ง Thunderbolt 4, HDMI 2.1 และช่องอ่าน Micro SD 4.0 ใช้งานแบบมืออาชีพได้เลย
หากเทียบกับ Notebook Gaming ราคาใกล้เคียงกัน MSI Stealth 16 AI Studio ไม่ได้มาแค่แรง แต่ยัง บางเบากว่า เงียบกว่า และจอเทพกว่า รุ่นอื่น ๆ ที่มักจะหนักและหนากว่านี้ ทำให้พกพาสะดวกกว่าอย่างชัดเจน แม้การระบายความร้อนจะไม่ใช่จุดแข็งที่สุด แต่ก็ยังจัดการได้ดีในระดับที่รับได้สำหรับเครื่องบาง เน้นใช้งานแบบ พรีเมียมและอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเกมมิ่งระดับสูง งานกราฟิกหนัก ๆ หรือแม้แต่พกไปประชุมก็ยังดูดี ใครที่มองหาโน้ตบุ๊กที่ทั้ง แรง หรู และพกง่าย ตัวนี้ตอบโจทย์แบบไม่มีข้อกังขา
ข้อมูลเฉพาะ (รุ่นรหัส A1VHG-245TH):
สเปค | รายละเอียด |
หน่วยประมวลผล (CPU) |
Intel Core Ultra 9 185H (3.80 GHz, สูงสุด 5.10 GHz, 24 MB L3 Cache)
|
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4080 (12GB GDDR6) 105W TGP |
หน่วยความจำ (RAM) | 32GB DDR5 5600MHz (รองรับอัปเกรด) |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | SSD 2TB NVMe PCIe Gen4 |
หน้าจอ (Display) | 16 นิ้ว Mini LED |
ความละเอียดหน้าจอ | 3840 x 2400 (UHD+) |
อัตรารีเฟรชเรต (Refresh Rate) | 120Hz |
ขอบเขตสี (Color Gamut) | 100% DCI-P3 |
รองรับ HDR | VESA DisplayHDR 1000 |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home |
พอร์ตการเชื่อมต่อ |
1x Thunderbolt 4, 2x USB 3.2 Gen 2, 1x HDMI 2.1, 1x Micro SD 4.0, 1x RJ45, 1x ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
|
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 |
แบตเตอรี่ | 4-cell 99.9Whr |
น้ำหนัก | 1.99 กก. |
ขนาดเครื่อง | 354 x 259 x 19.95 มม. |
ระบบระบายความร้อน | Cooler Boost Trinity+ พร้อมพัดลม 3 ตัว และฮีทไปป์ 5 เส้น |
วัสดุเครื่อง | แมกนีเซียม-อะลูมิเนียมอัลลอยด์ |
ลำโพงและระบบเสียง |
2x 2W Stereo Speakers, 2x 2W Woofers, รองรับ Hi-Res Audio, DTS:X Ultra
|
กล้องและไมโครโฟน |
กล้อง IR FHD (รองรับ Windows Hello), Dual Noise Reduction Microphones
|
ไฟคีย์บอร์ด | Per-Key RGB จาก SteelSeries |

โน๊ตบุ๊คเล่นเกม MSI Cyborg 14 ฉีกกฎเดิม ๆ ด้วยดีไซน์ล้ำยุคและขนาดที่บางเบาสุด ๆ ในโลกของ Gaming Laptop หนักเพียง 1.6 กก. แต่มาพร้อมขุมพลัง Intel Core i7-13620H และ RTX 4060 ให้คุณเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกได้แบบลื่นไหล จอ FHD+ 144Hz สีตรง 100% sRGB ตอบโจทย์ทั้งสายเกมและสายทำงานที่ต้องการความแม่นยำของสี SSD 1TB + RAM 16GB DDR5 เปิดเครื่องไว โหลดเกมเร็ว แถมพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน รองรับ HDMI 2.1 และ USB-C DisplayPort ต่อจอ 4K ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์ นักเรียน นักศึกษา หรือครีเอเตอร์ที่ต้องการเครื่องแรง พกพาง่าย และไม่เทอะทะ Cyborg 14 คือตัวเลือกที่ลงตัว
เมื่อเทียบกับ Notebook Gaming ราคาใกล้เคียงกัน จุดเด่นของ Cyborg 14 คือ ความกะทัดรัด บางเบา แต่ยังคงประสิทธิภาพแรง รุ่นอื่น ๆ ในช่วงราคานี้มักจะหนากว่า หนักกว่า และดูดุดันเกินไป แต่ Cyborg 14 มาในดีไซน์ Translucent Black ที่ดูเรียบหรูและพกพาสะดวก แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานแบบไม่เสียบปลั๊กได้ไม่นานนัก และเสียงพัดลมที่อาจดังเวลาใช้งานหนัก แต่สำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่ แรง เท่ และเบา นี่คือตัวเลือกที่คุ้มค่า
ข้อมูลเฉพาะ (รุ่นรหัส A13VF-064TH):
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
หน่วยประมวลผล (CPU) |
Intel Core i7-13620H (2.40 GHz, สูงสุด 4.90 GHz, 24 MB L3 Cache)
|
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6) |
หน่วยความจำ (RAM) | 16GB DDR5 5200MHz (8GB x2) รองรับอัปเกรด |
ที่เก็บข้อมูล (Storage) | SSD 1TB NVMe PCIe Gen4x4 |
หน้าจอ (Display) | 14 นิ้ว IPS |
ความละเอียดหน้าจอ | 1920 x 1200 (FHD+) อัตราส่วน 16:10 |
อัตรารีเฟรชเรต (Refresh Rate) | 144Hz |
ขอบเขตสี (Color Gamut) | 100% sRGB |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home |
พอร์ตการเชื่อมต่อ |
1x USB 3.2 Gen2 Type-C (รองรับ DisplayPort 1.4), 2x USB 3.2 Gen1 Type-A, 1x HDMI 2.1 (4K@60Hz), 1x RJ45, 1x ช่องหูฟัง 3.5 มม.
|
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 |
แบตเตอรี่ | 3-cell 53.5Whr |
น้ำหนัก | 1.60 กก. |
ขนาดเครื่อง | 314.7 x 233.5 x 18.6 มม. |
ระบบระบายความร้อน | ระบบระบายความร้อนพัดลมคู่ พร้อมฮีทไปป์ |
วัสดุเครื่อง | Translucent Black (กึ่งโปร่งแสง) |
ลำโพงและระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอ รองรับ Hi-Res Audio |
กล้องและไมโครโฟน | กล้อง HD พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน |
ไฟคีย์บอร์ด | ไฟ Backlit สีฟ้า |

MSI Katana A17 AI B8VF-841TH Notebook เกมมิ่ง จอใหญ่ ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์สายจริงจัง มาพร้อม Ryzen 7 8840HS และ RTX 4060 ที่แรงพอจะเล่นเกม AAA ได้แบบลื่นไหล และยังรองรับงานตัดต่อ วิดีโอ หรือสตรีมมิ่งได้ดี หน้าจอ 17.3 นิ้ว 144Hz ให้ภาพเต็มตา เล่นเกมได้อารมณ์สุด ๆ คีย์บอร์ดไฟ RGB 4-Zone ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ แถมยังรองรับการอัปเกรด RAM และ SSD ได้อีก ใครที่มองหาโน้ตบุ๊กเกมมิ่งเครื่องใหญ่ แต่ไม่อยากจ่ายแพงไปถึงรุ่นไฮเอนด์ ตัวนี้เป็นคำตอบ
สิ่งที่ทำให้ Katana A17 น่าสนใจกว่าคู่แข่งในราคาเดียวกันคือการ์ดจอ RTX 4060 ที่ได้ TGP (Total Graphics Power) สูงสุด 105W ให้ประสิทธิภาพแรงกว่าหลายรุ่นที่โดนจำกัดพลังงาน แถมยังมาพร้อม HDMI 2.1 ที่รองรับการต่อจอ 4K 120Hz และพอร์ตครบเครื่อง ใครที่เน้นเล่นเกมแบบเต็มตา หรือใช้ทำงานหนัก ๆ ที่ต้องการจอใหญ่ แต่อยากได้ Notebook Gaming ในราคาจับต้องได้ Katana A17 คือตัวเลือกที่คุ้มที่สุด ถ้าไม่ติดเรื่องน้ำหนัก 2.7 กก. และหน้าจอที่สีอาจไม่สดเท่ารุ่นโปร นี่คือหนึ่งในโน๊ตบุ๊คเล่นมที่ให้สเปกต่อราคาที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้
ข้อมูลเฉพาะ (รุ่นรหัส KATANA A17 AI B8VF-841TH):
สเปค | รายละเอียด |
หน่วยประมวลผล (CPU) |
AMD Ryzen 7 8840HS (3.30 GHz, สูงสุด 5.10 GHz, 8 คอร์ 16 เธรด, 16MB L3 Cache)
|
การ์ดจอ (GPU) | NVIDIA GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6) 105W TGP |
หน่วยความจำ (RAM) |
16GB DDR5 5600MHz (8GB x2) รองรับอัปเกรดสูงสุด 64GB
|
ที่เก็บข้อมูล (Storage) |
SSD 512GB NVMe PCIe Gen4x4 (รองรับการเพิ่ม SSD M.2 NVMe)
|
หน้าจอ (Display) | 17.3 นิ้ว IPS |
ความละเอียดหน้าจอ | 1920 x 1080 (Full HD) อัตราส่วน 16:9 |
อัตรารีเฟรชเรต (Refresh Rate) | 144Hz |
ขอบเขตสี (Color Gamut) | 45% NTSC |
ระบบปฏิบัติการ (OS) | Windows 11 Home |
พอร์ตการเชื่อมต่อ |
1x USB 3.2 Gen2 Type-C (รองรับ DisplayPort), 2x USB 3.2 Gen1 Type-A, 1x USB 2.0 Type-A, 1x HDMI 2.1 (รองรับ 8K@60Hz / 4K@120Hz), 1x RJ45, 1x ช่องหูฟัง 3.5 มม.
|
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 |
แบตเตอรี่ | 3-cell 53.5Whr |
น้ำหนัก | 2.70 กก. |
ขนาดเครื่อง | 398 x 273 x 25.2 มม. |
ระบบระบายความร้อน | Cooler Boost 5 พร้อมพัดลมคู่และฮีทไปป์ 6 เส้น |
วัสดุเครื่อง | โครงพลาสติกแข็งแรงทนทาน |
ลำโพงและระบบเสียง | ลำโพงสเตอริโอ, รองรับ Hi-Res Audio |
กล้องและไมโครโฟน | กล้อง HD พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน |
ไฟคีย์บอร์ด | ไฟ RGB 4-Zone พร้อมปุ่ม WASD ไฮไลท์พิเศษ |
ทำไมต้อง โน๊ตบุ๊คเล่นเกม?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องลงทุนซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง (Gaming Laptop) ที่มีราคาสูงกว่า และตัวเครื่องใหญ่กว่าปกติ ทั้งที่แค่เล่นเกมหรือทำงานทั่วไปก็ใช้โน๊ตบุ๊คธรรมดาได้ แต่ความจริงคือ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานหนักโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การประมวลผลกราฟิกขั้นสูง งาน 3D โมเดล ตัดต่อวิดีโอ การสร้างแอนิเมชัน รวมถึงการเขียนโปรแกรมที่ต้องการพลังประมวลผลสูง หากใช้โน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ไม่รองรับการทำงานหนัก อาจทำให้เครื่องร้อน ค้าง หรือพังเร็วขึ้น การเลือก โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง จึงช่วยให้คุณทำงานและเล่นเกมได้ลื่นไหล ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
สำหรับคนที่ลังเลระหว่าง พีซีตั้งโต๊ะกับโน๊ตบุ๊คเล่นเกม จุดเด่นของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งคือ พกพาสะดวก แม้จะมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นทั่วไป แต่ก็ยังสามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ต่างจากพีซีที่ต้องอยู่กับที่ นอกจากนี้ ดีไซน์ของโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีเอกลักษณ์ หลายรุ่นมาพร้อม ไฟ RGB และดีไซน์ล้ำสมัย แต่ก็มีตัวเลือกแบบเรียบหรูสำหรับคนที่ต้องการความสุภาพ Notebook Gaming จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลแรง ๆ ทั้งสำหรับการเล่นเกมและทำงานหนัก ๆ แต่ถ้าคุณต้องการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการกราฟิกสูง โน๊ตบุ๊คธรรมดาอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า การเลือกโน๊ตบุ๊คที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถ้าคุณต้องการเครื่องแรง พกพาได้ และตอบโจทย์ทั้งงานและความบันเทิง โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งอาจคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
Gaming Notebook ทำไมต้องมีตัวเครื่องหนา?
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง (Gaming Notebook) มีตัวเครื่องที่หนาและหนักกว่ารุ่นปกติคือ ระบบระบายความร้อน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงาน เพราะโน๊ตบุ๊คที่มีสเปคแรง ต้องประมวลผลกราฟิกหนัก ๆ เช่น เล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง ตัดต่อวิดีโอ งาน 3D โมเดล หรือแม้แต่การเขียนโปรแกรมระดับสูง เมื่อฮาร์ดแวร์ทำงานอย่างเต็มที่ อุณหภูมิของ CPU และ GPU จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าระบายความร้อนไม่ดีพอ เครื่องอาจร้อนเกินไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง (Thermal Throttling) หรือทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์สั้นลง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ โน๊ตบุ๊คเล่นเกมต้องมีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ พัดลมขนาดใหญ่ ท่อฮีทไปป์หลายเส้น และช่องระบายความร้อนที่กว้างขึ้น ส่งผลให้ตัวเครื่องมีขนาดที่หนาขึ้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม Notebook Gaming รุ่นใหม่ ๆ ไม่จำเป็นต้องหนาเสมอไป ปัจจุบันมีรุ่นที่ถูกออกแบบให้ บางเบาแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เช่น ซีรีส์ บางเบาแบบ Stealth หรือ ROG Zephyrus ที่ลดความหนาของตัวเครื่องลงโดยใช้วัสดุที่ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น หรือพัฒนาเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงอย่างระบบระบายความร้อนด้วยไอระเหย (Vapor Chamber) หรือระบบพัดลมแรงดันสูงที่เงียบขึ้น อย่างไรก็ตามโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่บางลงอาจแลกมาด้วย TGP (Total Graphics Power) ที่ถูกจำกัด ทำให้ประสิทธิภาพอาจไม่เท่ารุ่นที่หนากว่า
หากเปรียบเทียบกับ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (PC Gaming) พีซีมีพื้นที่มากกว่าทำให้สามารถติดตั้งระบบระบายความร้อนได้หลากหลาย เช่น พัดลมขนาดใหญ่ ระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือติดตั้งฮีตซิงค์ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดหรือน้ำหนัก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของพีซีเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ดังนั้นหากต้องการพลังการประมวลผลสูงสุดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาด พีซีอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการพกพาความแรงไปใช้งานที่ไหนก็ได้ Gaming Notebook ก็ยังเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
เลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมฝั่ง Intel หรือ AMD?
การเลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกม Intel หรือ AMD เป็นหนึ่งในคำถามที่หลายคนลังเล เพราะปัจจุบัน AMD และ Intel มีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น AMD ได้พัฒนาหน่วยประมวลผลอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะซีรีส์ Ryzen 7000 และ 8000 ที่ให้พลังการประมวลผลสูงและประหยัดพลังงาน ในขณะที่ Intel Core 13th และ 14th Gen ก็ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในหลายด้าน ดังนั้น การเลือก CPU ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และความเชื่อมั่นต่อแต่ละแบรนด์
เปรียบเทียบ AMD vs Intel ในโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง
Intel:
- มีความเร็วต่อคอร์ (Single-Core Performance) สูงกว่า ทำให้ เล่นเกมที่ต้องการ FPS สูง ๆ ได้ดีกว่า
- รองรับ Thunderbolt 4 และ Intel Wi-Fi 6E ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อรวดเร็วกว่า
- มีตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่ Core i5, i7 ไปจนถึง i9 สำหรับเกมเมอร์ทุกระดับ
AMD:
- ประสิทธิภาพแบบหลายคอร์ (Multi-Core Performance) แรงกว่า ทำให้เหมาะกับ งานตัดต่อ, งาน 3D, สตรีมมิ่ง และมัลติทาสก์
- ประหยัดพลังงานมากกว่า โดยเฉพาะ Ryzen 7 / Ryzen 9 ซีรีส์ใหม่ ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น
- รุ่นที่ใช้ AMD CPU มักจะมีราคาถูกกว่า Intel ทำให้ได้สเปคแรงในราคาคุ้มค่า
สรุป: ควรเลือกอะไรดี?
- หากคุณเน้น เล่นเกมเป็นหลัก และต้องการ FPS สูงสุด Intel อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า
- แต่ถ้าคุณต้องการโน๊ตบุ๊คที่ใช้ทำงานหนัก ๆ เช่น ตัดต่อวิดีโอ งานเรนเดอร์ หรือสตรีมเกมไปด้วยเล่นไปด้วย AMD จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดพลังงานมากกว่า
สุดท้ายแล้ว ทั้งสองแบรนด์ให้ประสิทธิภาพที่ดีพอ ๆ กัน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความเชื่อมั่นในแบรนด์ของคุณเอง
วิธีการเลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกม (Gaming Laptops)
การเลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมอาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับหลายคน เพราะในตลาดมีรุ่นที่หลากหลายให้เลือกมากมาย แต่ละรุ่นมีสเปคและฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเข้าใจปัจจัยหลักก่อนซื้อจะช่วยให้คุณได้ โน๊ตบุ๊คที่ตรงกับความต้องการ และ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เราจะอธิบายวิธีเลือกแบบละเอียด แต่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งได้ถูกต้องและใกล้เคียงกับความตั้งใจมากที่สุด
ราคาและงบประมาณ
งบประมาณเป็นปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณา เพราะโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีช่วงราคากว้าง ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นระดับสูง การกำหนดงบประมาณให้ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกเครื่องที่เหมาะสม โดยไม่ต้องจ่ายเกินความจำเป็น เราขอแบ่งช่วงราคาออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้:
- ไม่เกิน 25,000 บาท: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาประหยัดหรือโน๊ตบุ๊ครุ่นก่อนหน้า ที่มีการปรับราคาลง Notebook Gaming ในช่วงราคานี้อาจไม่ได้ใช้ CPU หรือ GPU รุ่นล่าสุด แต่ยังสามารถเล่นเกมยอดนิยมระดับกลางได้ดี (เช่น CS:GO, Valorant, Dota 2, GTA V) รวมถึงงานทั่วไป เช่น งานเอกสาร งานกราฟิกเบื้องต้น หรือเรียนออนไลน์
- 25,000 - 35,000 บาท: กลุ่มนี้เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับเริ่มต้นที่มาพร้อม CPU และ GPU รุ่นใหม่ในระดับกลาง เช่น Intel Core i5 / Ryzen 5 + RTX 3050 / RTX 4050 ซึ่งสามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลในระดับ Full HD และรองรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ตัดต่อวิดีโอ หรือสตรีมมิ่ง
- 35,000 - 60,000 บาท: สำหรับผู้ที่ต้องการ Gaming Notebook ระดับกลางถึงสูงที่รองรับเกมกราฟิกหนัก ๆ หรือใช้ทำงานมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอระดับ 4K งาน 3D หรือการเขียนโค้ดขั้นสูง โน๊ตบุ๊ค Gaming ในกลุ่มนี้จะใช้ CPU และ GPU ที่แรงขึ้น เช่น Intel Core i7 / Ryzen 7 + RTX 4060 / RTX 4070 และมาพร้อมกับหน้าจอที่ดีขึ้น เช่น 144Hz - 240Hz, sRGB 100% เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่จริงจังและ Content Creator
- มากกว่า 60,000 บาท: กลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ โน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับสูง (High-End Gaming Laptop) ที่มาพร้อมสเปคระดับท็อป เช่น Intel Core i9 / Ryzen 9 + RTX 4080 / RTX 4090 มีหน้าจอความละเอียดสูง (QHD หรือ 4K, 165Hz - 300Hz) และดีไซน์พรีเมียม เทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูง โน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้อาจมีราคาทะลุไปถึง 100,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับนักกีฬาอีสปอร์ต สตรีมเมอร์ และมืออาชีพด้านงานกราฟิกที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณ:
- ตรวจสอบโปรโมชัน: โน๊ตบุ๊คบางรุ่นอาจลดราคาในช่วงเทศกาล หรือมีของแถม เช่น RAM เพิ่ม, SSD, เมาส์เกมมิ่ง
- เปรียบเทียบรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่: รุ่นเก่าที่ลดราคาอาจคุ้มค่ากว่ารุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมา
- คำนึงถึงค่าอัปเกรด: โน๊ตบุ๊คบางรุ่นอาจต้องเพิ่ม RAM หรือ SSD ในภายหลัง ควรเผื่องบสำหรับการอัปเกรดไว้ด้วย
การใช้งานและซีรีส์ของโน๊ตบุ๊ค
โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งแต่ละแบรนด์จะมีการแบ่งซีรีส์ออกมาอย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง โดยแต่ละซีรีส์จะมีความแตกต่างกันในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี นวัตกรรม คุณภาพงานประกอบ และฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ดังนั้น เราจึงขอแนะนำซีรีส์โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจากแบรนด์ชั้นนำ เพื่อให้คุณสามารถเลือกโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับการใช้งานของตนเองได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
Lenovo
- IdeaPad Gaming: โน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่า รองรับ CPU Intel และ AMD รวมถึงการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX หรือ GTX
- Legion 5 / 5i: รุ่นระดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีและดีไซน์ที่แข็งแรง
- Legion 7 / 7i: ซีรีส์ไฮเอนด์ที่มาพร้อมวัสดุพรีเมียม หน้าจอความละเอียดสูง และฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์มืออาชีพ
- Legion Pro 5 / 5i และ Pro 7 / 7i: รุ่นโปรที่เน้นการเล่นเกมระดับสูงสุด ด้วยพลังประมวลผลขั้นสุดและระบบระบายความร้อนขั้นสูง
Acer
- Nitro 5 / Nitro 16 / Nitro 17: ซีรีส์เริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่า รองรับทั้ง Intel และ AMD พร้อมการ์ดจอ RTX
- Predator Helios 16 / 18: ซีรีส์ระดับกลางที่มีระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น และหน้าจอที่ตอบสนองรวดเร็ว
- Predator Triton 14 / 16 / 18: ซีรีส์บางเบาระดับไฮเอนด์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสำหรับการเล่นเกมและทำงานหนัก
ASUS
- TUF Gaming A15 / A17 / F15 / F17: ซีรีส์ระดับกลางที่แข็งแกร่ง คุ้มค่า และมีความทนทาน
- ROG Strix G16 / G18: โน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง และการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม
- ROG Strix SCAR 16 / 18: รุ่นไฮเอนด์สำหรับ eSports ที่มีสเปคแรงและจอรีเฟรชเรทสูง
- ROG Zephyrus G14 / G16 / M16: Gaming Notebook แบบบางเบา ที่ให้ความสมดุลระหว่างพลังและการพกพา
HP
- Victus 15 / 16: ซีรีส์ระดับเริ่มต้นที่มีดีไซน์เรียบง่าย คุ้มค่า และให้ประสิทธิภาพที่ดีในการเล่นเกมทั่วไป
- Omen 16 / 17: รุ่น Notebook Gaming ระดับไฮเอนด์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมหน้าจอที่รองรับการเล่นเกมแบบมืออาชีพ
MSI
- GF / Katana: โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งระดับเริ่มต้นที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มราคา
- GL / Pulse: รุ่นกลางที่ให้พลังการประมวลผลและการ์ดจอที่ทรงพลังขึ้น
- GE / Raider และ GS / Stealth: รุ่นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมไฮเอนด์ที่มีดีไซน์พรีเมียม คีย์บอร์ด RGB และระบบระบายความร้อนชั้นยอด
- Titan GT / Stealth Studio: รุ่นสุดยอดของ MSI ที่ให้พลังสูงสุดสำหรับการเล่นเกมและงานสร้างสรรค์
Razer
- Razer Blade 14 / 16 / 18: โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งบางเบาที่ให้พลังสูงสุด พร้อมดีไซน์หรูหราและหน้าจอรีเฟรชเรทสูง
- Razer Blade Stealth 13: โน๊ตบุ๊คเล่นเกมขนาดเล็กที่สามารถเล่นเกมได้ดี และเหมาะกับการพกพา
Dell (Alienware และ G-Series)
- Dell G15 / G16: โน๊ตบุ๊คเล่นเกมระดับเริ่มต้นที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มค่า
- Alienware x14 / x16: โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งบางเบาระดับพรีเมียมที่มาพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
- Alienware m16 / m18: รุ่นไฮเอนด์ที่ให้พลังเต็มที่สำหรับเกมเมอร์มืออาชีพ
การเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งให้เหมาะกับตนเอง
- งบประมาณ - ซีรีส์ระดับเริ่มต้นจะมีราคาถูกกว่า แต่หากต้องการประสิทธิภาพสูง ควรเลือกซีรีส์ระดับกลางหรือไฮเอนด์
- ประเภทของเกมที่เล่น - หากเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง ควรเลือกเครื่องที่มีการ์ดจอที่ทรงพลัง เช่น RTX 4060 หรือสูงกว่า
- ระบบระบายความร้อน - โน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มีระบบระบายความร้อนที่ดีจะช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
- ดีไซน์และความพกพา - หากต้องการเครื่อง Gaming Notebook ที่เบาและบาง ควรเลือกซีรีส์ที่มีดีไซน์บางเฉียบ เช่น ASUS ROG Zephyrus หรือ MSI Stealth
สเปคโน๊ตบุ๊คเล่นเกม
CPU - หน่วยประมวลผล
เมื่อพูดถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 2025 หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือ CPU หรือหน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพหลักในการทำงานและเล่นเกมของเครื่อง โดยทั่วไป Gaming Notebook จะเลือกใช้ CPU ตั้งแต่ระดับ Intel Core i5 ขึ้นไป หรือ AMD Ryzen 5 ขึ้นไป เนื่องจากเป็นซีรีส์ที่ให้พลังประมวลผลที่เหมาะสมกับการเล่นเกมและทำงานหนัก
การทำความเข้าใจรหัสและรุ่นของ CPU
การเลือก CPU ไม่ได้ดูแค่เพียงตัวเลขซีรีส์ (i5, i7, i9 หรือ Ryzen 5, 7, 9) เท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณารุ่นและรหัสต่อท้ายที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพและการออกแบบของ CPU ด้วย
1. โครงสร้างของชื่อรุ่น CPU
ชื่อรุ่นของ CPU มักจะมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่:
- ชื่อซีรีส์ (เช่น Intel Core i5, i7, i9 หรือ AMD Ryzen 5, 7, 9)
- เลขเจเนอเรชั่น (เช่น Intel Core i7-15500H หรือ Ryzen 7 7800H)
- เลขรุ่นย่อย (เช่น 15500 หรือ 7800)
- ตัวอักษรท้ายที่ระบุลักษณะการใช้งานของ CPU
ตัวอย่างเช่น Intel Core i7-15500H
- i7 หมายถึงซีรีส์ของ CPU
- 15 หมายถึงเจเนอเรชั่นที่ 15 ของ Intel (อัปเดต 2025)
- 500 เป็นหมายเลขรุ่นย่อย
- H หมายถึง CPU ที่ออกแบบมาสำหรับงานประสิทธิภาพสูง (High Performance)
2. ความหมายของตัวอักษรท้าย CPU ของ Intel และ AMD
Intel
- H (High Performance) – ออกแบบมาสำหรับโน๊ตบุ๊คที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เหมาะสำหรับเกมมิ่งและงานหนัก
- HX (Extreme Performance) – รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ Notebook เล่นเกมระดับไฮเอนด์
- U (Ultra-Low Power) – ออกแบบมาเพื่อโน๊ตบุ๊คบางเบา ประหยัดพลังงาน เหมาะกับงานเอกสารหรือความบันเทิงเบา ๆ
- P (Performance-Efficiency) – เหมาะสำหรับโน๊ตบุ๊คที่ต้องการความแรงและการประหยัดพลังงานสมดุลกัน
ตัวอย่างการเปรียบเทียบ:
- Intel Core i5-15500H (Gen 15, High Performance) แรงกว่ารุ่น i7-1365U (Gen 13, ประหยัดพลังงาน)
- Intel Core i7-12700H (Gen 12) ถึงจะเป็น H-Series แต่ก็เก่ากว่า Intel Core i5-15500H (Gen 15) ทำให้รุ่นใหม่แรงกว่าแม้จะเป็น i5
AMD Ryzen
- H (High Performance) – ออกแบบมาสำหรับเกมมิ่งและการทำงานหนัก
- HX (Extreme Performance) – รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของ AMD
- U (Ultra-Low Power) – ประหยัดพลังงานสำหรับโน๊ตบุ๊คบางเบา
ตัวอย่าง:
- Ryzen 7 7800H (Gen 7, High Performance) แรงกว่ารุ่น Ryzen 9 6900U (Gen 6, ประหยัดพลังงาน)
3. เลือก CPU ที่เหมาะกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค
- หากต้องการโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกม ควรเลือก CPU รหัส H, HX จากเจเนอเรชั่นล่าสุด
- Intel ควรเลือก Gen 13, 14, 15 หรือใหม่กว่า เช่น i5-15500H, i7-15700H, i9-15900HX
- AMD ควรเลือก Gen 6, 7 หรือใหม่กว่า เช่น Ryzen 5 7600H, Ryzen 7 7800H, Ryzen 9 7945HX
- หลีกเลี่ยง CPU รหัส U สำหรับการเล่นเกม เนื่องจากเน้นประหยัดพลังงานมากกว่าความแรง
สรุปแนวทางการเลือก CPU สำหรับโน๊ตบุ๊ค Gamingในปี 2025:
- เลือก CPU H-Series หรือ HX-Series จากเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด (Intel Gen 13-15 หรือ Ryzen Gen 6-7)
- เลือก i5-H หรือ Ryzen 5-H ขึ้นไป เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเกม
- หลีกเลี่ยง CPU U-Series หากต้องการความแรงสำหรับเกมมิ่ง
- เช็คปีที่ออกของ CPU และเปรียบเทียบประสิทธิภาพก่อนตัดสินใจ
สเปคที่แนะนำสำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในปี 2025
- ระดับเริ่มต้น (Entry-Level): Intel Core i5-15500H หรือ AMD Ryzen 5 7600H + RTX 4050/4060
- ระดับกลาง (Mid-Range): Intel Core i7-15700H หรือ AMD Ryzen 7 7800H + RTX 4060/4070
- ระดับสูง (High-End): Intel Core i9-15900HX หรือ AMD Ryzen 9 7945HX + RTX 4080/4090
GPU หรือการ์ดจอ
เมื่อพูดถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกม GPU (Graphics Processing Unit) หรือการ์ดจอ เป็นปัจจัยสำคัญในการประมวลผลภาพและประสิทธิภาพของเกม โดยทั่วไปแล้ว โน๊ตบุ๊คเล่นเกมจะต้องใช้ การ์ดจอแยก (Dedicated GPU) แทนที่การ์ดจอออนบอร์ด (Integrated GPU) เพื่อให้สามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมรองรับกราฟิกคุณภาพสูง
ในปี 2025 มี 2 ค่ายหลักที่ผลิต GPU สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ได้แก่ NVIDIA และ AMD โดยทั้งสองค่ายมีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไปเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
การ์ดจอจาก NVIDIA
NVIDIA เป็นผู้นำตลาด GPU เกมมิ่ง โดยมีไลน์ผลิตภัณฑ์หลักดังนี้:
- GeForce MX Series – เป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น ดูหนัง ทำงานเอกสาร และเล่นเกมเบา ๆ ไม่เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการกราฟิกสูง
- GeForce GTX Series – เป็นการ์ดจอระดับกลาง เหมาะสำหรับเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพดีโดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีล่าสุด เช่น GTX 1650, GTX 1660 Ti
- GeForce RTX Series – เป็นการ์ดจอระดับสูงที่มาพร้อมกับ Ray Tracing และ DLSS (Deep Learning Super Sampling) เพื่อให้ภาพสมจริงและช่วยเพิ่ม FPS เช่น RTX 4060, RTX 4070, RTX 4080 และ RTX 4090 (รุ่นล่าสุดปี 2025)
วิธีอ่านรหัสการ์ดจอ NVIDIA
เช่น RTX 4090 Ti
- RTX = เทคโนโลยี Ray Tracing (รุ่นที่มี Ray Tracing)
- 40 = เจเนอเรชั่นของซีรีส์ (ซีรีส์ 40 คือรุ่นล่าสุดปี 2025)
- 90 = ระดับความแรง (ตัวเลขยิ่งมากยิ่งแรง)
- Ti = รุ่นที่ได้รับการปรับปรุงให้แรงกว่ารุ่นปกติ
- Max-Q = รุ่นที่ออกแบบให้กินไฟน้อยกว่า เหมาะกับโน๊ตบุ๊คบางเบา
การเรียงลำดับความแรงของ NVIDIA RTX 40 Series (2025)
- RTX 4090 Ti (แรงสุด)
- RTX 4090
- RTX 4080 Ti
- RTX 4080
- RTX 4070 Ti
- RTX 4070
- RTX 4060 Ti
- RTX 4060 (ระดับกลาง-เริ่มต้น)
- RTX 4050 (เริ่มต้นสุดของ RTX Series)
หากต้องการเล่นเกมระดับ AAA ที่ 4K ควรเลือก RTX 4080 ขึ้นไป หากเล่นเกม 1080p/1440p RTX 4060 หรือ 4070 ก็เพียงพอ
การ์ดจอจาก AMD (Radeon Series)
AMD เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการ์ดจอประสิทธิภาพสูงในชื่อ Radeon RX Series ซึ่งแบ่งออกเป็น:
- Radeon (ทั่วไป) – ใช้ในโน๊ตบุ๊คทำงานหรือใช้งานทั่วไป ไม่เหมาะกับเกมหนัก
- Radeon RX (เกมมิ่ง) – เป็นซีรีส์ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น RX 7600M, RX 7700M, RX 7800M และ RX 7900M
- Radeon Pro – การ์ดจอระดับมืออาชีพสำหรับงาน 3D และตัดต่อวิดีโอ ไม่เน้นเกมมิ่ง
วิธีอ่านรหัสการ์ดจอ AMD
เช่น Radeon RX 7800M XT
- RX = การ์ดจอสำหรับเกมมิ่ง
- 7 = เจเนอเรชั่น (เจน 7 ล่าสุดปี 2025)
- 800 = ระดับความแรง (ตัวเลขมากกว่ายิ่งแรง)
- M = ออกแบบมาสำหรับโน๊ตบุ๊ค
- XT = รุ่นที่ได้รับการปรับปรุงให้แรงกว่ารุ่นปกติ
การเรียงลำดับความแรงของ AMD Radeon RX 7000 Series (2025)
- RX 7900M XT (แรงสุด)
- RX 7900M
- RX 7800M XT
- RX 7800M
- RX 7700M XT
- RX 7700M
- RX 7600M XT
- RX 7600M (ระดับกลาง-เริ่มต้น)
AMD Radeon RX 7900M XT แข่งกับ RTX 4080 ส่วน RX 7800M XT ใกล้เคียง RTX 4070
เลือก GPU ให้เหมาะกับงบและการใช้งาน
- เกมเมอร์งบจำกัด (Entry-Level) – RTX 4050 / RTX 4060 หรือ RX 7600M (เล่นเกม 1080p ได้ดี)
- เกมเมอร์ระดับกลาง (Mid-Range) – RTX 4070 หรือ RX 7700M XT (เล่นเกม 1440p ได้ดี)
- เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ (High-End) – RTX 4080 / RTX 4090 หรือ RX 7900M XT (รองรับ 4K Gaming)
- โน๊ตบุ๊คบางเบา – RTX 4060 Max-Q หรือ RX 7700M (ประสิทธิภาพสูงแต่กินไฟน้อย)
ปริมาณ VRAM สำคัญแค่ไหน?
VRAM คือหน่วยความจำของการ์ดจอ ยิ่งมากยิ่งดีสำหรับการเล่นเกมและงานกราฟิก:
- 6GB – เพียงพอสำหรับเกม 1080p ส่วนใหญ่
- 8GB – เหมาะสำหรับ 1440p หรือเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรเยอะ
- 12GB - 16GB – สำหรับ 4K Gaming และงานกราฟิกระดับสูง
ถ้าจะเล่นเกม AAA ควรมี VRAM อย่างน้อย 8GB
สรุปแนวทางการเลือก GPU สำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในปี 2025
- RTX 4060 / RX 7600M ขึ้นไป สำหรับเกมเมอร์ทั่วไป
- RTX 4070 / RX 7700M XT ขึ้นไป สำหรับเกมระดับกลาง-สูง
- RTX 4080 / RX 7900M XT ขึ้นไป สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการ 4K Gaming
- VRAM อย่างน้อย 8GB เพื่อรองรับเกมใหม่ๆ
- Max-Q / M-Series หากต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาและประหยัดพลังงาน
แรม (Ram)
RAM (Random Access Memory) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโน๊ตบุ๊คเล่นเกมโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกมในปัจจุบันต้องการหน่วยความจำที่มากขึ้น เพื่อให้การประมวลผลรวดเร็วขึ้น ลดอาการกระตุก และช่วยให้การเล่นเกมหรือทำงานลื่นไหลมากขึ้น
ปริมาณ RAM ที่เหมาะสมกับ Gaming Notebook
ในปี 2025 Notebook เล่นเกมส่วนใหญ่ในระดับเริ่มต้นมักมาพร้อมกับ RAM ขนาด 8GB ซึ่ง ไม่เพียงพอสำหรับการเล่นเกมหนัก ๆ หรือการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง โดยเฉพาะเกมสมัยใหม่ที่ต้องใช้ RAM อย่างน้อย 16GB หรือมากกว่านั้น ดังนั้นการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มี RAM เพียงพอตั้งแต่แรก หรือมีช่องให้สามารถอัปเกรด RAM เพิ่มเติมได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
แนวทางแนะนำ:
- 16GB RAM – เหมาะสำหรับเกมส่วนใหญ่และการใช้งานทั่วไป
- 32GB RAM – เหมาะสำหรับเกมระดับ AAA, งานตัดต่อวิดีโอ, สตรีมมิ่ง และการใช้งานที่ต้องใช้หลายโปรแกรมพร้อมกัน
- 64GB RAM ขึ้นไป – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับมืออาชีพที่ทำงานด้านกราฟิก, วิศวกรรม, หรือ AI/ML
หากงบประมาณจำกัด เลือกโน๊ตบุ๊คที่มี RAM อย่างน้อย 16GB หรือเลือกเครื่องที่สามารถอัปเกรด RAM ได้
ประเภทของ RAM และความเร็วที่ควรรู้
นอกจากขนาดของ RAM แล้ว ประเภทและความเร็วของ RAM ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมด้วย
ประเภทของ RAM
- DDR4 – ยังคงใช้งานได้ดีในปี 2025 แต่กำลังถูกแทนที่ด้วย DDR5
- DDR5 – เป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ความเร็วสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่า DDR4 เหมาะสำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่
ถ้าต้องการความแรงและรองรับอนาคต ให้เลือก DDR5 เพราะเร็วกว่าและมีแบนด์วิดท์สูงกว่า
ความเร็วของ RAM (MHz)
- DDR4: 2400MHz – 3200MHz (มาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่า)
- DDR5: 4800MHz – 6400MHz (มาตรฐานใหม่ที่เร็วขึ้นมาก)
โน๊ตบุ๊คเล่นเกมปี 2025 ควรเลือก RAM DDR5 ความเร็ว 4800MHz ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
อัปเกรด RAM เองหรือซื้อเครื่องที่มี RAM สูงมาเลย?
การเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คที่มี RAM สูงมาตั้งแต่แรก หรือเลือกเครื่องที่สามารถอัปเกรด RAM ได้ เป็นคำถามที่ผู้ซื้อต้องพิจารณา โดยมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงดังนี้:
ข้อดีของการซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มี RAM 16GB ขึ้นไปตั้งแต่แรก
- ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคต
- มั่นใจว่า RAM ที่ติดตั้งมานั้นสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแกะเครื่องและติดตั้งเอง
ข้อดีของการอัปเกรด RAM เอง
- สามารถเลือกยี่ห้อและความเร็วที่ต้องการได้เอง
- มักจะประหยัดเงินมากกว่าการซื้อโน๊ตบุ๊คที่มี RAM สูงแต่แรก
- สามารถอัปเกรดเป็น 32GB หรือ 64GB ได้ในอนาคต
ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ควรตรวจสอบว่าเครื่องสามารถอัปเกรด RAM ได้หรือไม่ บางรุ่น RAM อาจถูกบัดกรี (Soldered) กับเมนบอร์ดทำให้ไม่สามารถเพิ่มได้
Dual-Channel vs. Single-Channel RAM
อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ RAM คือการใช้งานแบบ Single-Channel หรือ Dual-Channel
- Single-Channel RAM – ใช้ RAM แถวเดียว ทำให้แบนด์วิดท์ข้อมูลต่ำกว่า
- Dual-Channel RAM – ใช้ RAM สองแถวพร้อมกัน เพิ่มแบนด์วิดท์และประสิทธิภาพของระบบ
ควรเลือกใช้ RAM แบบ Dual-Channel (เช่น 8GBx2 แทน 16GBx1) เพื่อให้การทำงานของ RAM มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แบรนด์ RAM ที่แนะนำในปี 2025
หากต้องการอัปเกรด RAM เอง นี่คือแบรนด์ที่แนะนำ:
- Kingston (Fury Impact) – DDR5 5600MHz / 6400MHz
- Corsair (Vengeance) – DDR5 5200MHz / 6000MHz
- G.SKILL (Ripjaws) – DDR5 5600MHz / 6400MHz
- Crucial (Ballistix) – DDR5 5200MHz / 6000MHz
ก่อนซื้อ RAM ควรตรวจสอบว่าโน๊ตบุ๊ครองรับความเร็วและขนาด RAM สูงสุดเท่าไหร่
สรุปแนวทางการเลือก RAM สำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งในปี 2025
- ควรมี RAM อย่างน้อย 16GB สำหรับเกมในปัจจุบัน
- เลือก DDR5 แทน DDR4 เพื่อรองรับอนาคต
- ควรเลือกความเร็ว RAM 4800MHz ขึ้นไป สำหรับ DDR5
- เลือก Dual-Channel RAM เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบว่าโน๊ตบุ๊ครองรับการอัปเกรด RAM หรือไม่
- ถ้ามีงบจำกัด ควรเลือก 8GBx2 แทน 16GBx1 เพื่อรองรับ Dual-Channel
หน้าจอ
หน้าจอเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับโน๊ตบุ๊คเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นที่ต้องการภาพที่ลื่นไหล การตอบสนองที่รวดเร็ว และสีสันที่แม่นยำ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของเกมและการใช้งานอื่น ๆ เช่น งานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอ ดังนั้น การเลือกหน้าจอที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงและตอบสนองได้ดีที่สุด
Refresh Rate และการตอบสนองของหน้าจอ
Refresh Rate คืออัตราการรีเฟรชของหน้าจอ ซึ่งหมายถึงจำนวนครั้งที่ภาพสามารถอัปเดตได้ต่อวินาที วัดเป็นหน่วย Hz (Hertz) ยิ่งค่า Refresh Rate สูง ภาพจะยิ่งลื่นไหลและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเกมแนว FPS, Battle Royale, และ Racing ที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว
- 60Hz – 75Hz: เหมาะสำหรับโน๊ตบุ๊คทั่วไป หรือเกมแนว Turn-based, RPG, และเกมที่ไม่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว
- 120Hz – 144Hz: มาตรฐานขั้นต่ำสำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง เหมาะกับเกมแนว FPS, MOBA, และ Action
- 165Hz – 240Hz: เหมาะสำหรับเกมเมอร์ระดับแข่งขัน eSports และ FPS ที่ต้องการความลื่นไหลสูงสุด
- 300Hz – 360Hz+: สำหรับมืออาชีพที่ต้องการการตอบสนองรวดเร็วที่สุดและลด Input Lag ให้เหลือน้อยที่สุด
ถ้าเล่นเกม FPS หรือ MOBA เป็นหลัก แนะนำให้เลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอ 144Hz ขึ้นไป เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า
ความละเอียดหน้าจอ
ความละเอียดของหน้าจอ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของภาพและการใช้งานด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ความละเอียดที่สูงขึ้นจะต้องใช้ทรัพยากรของ GPU มากขึ้น ทำให้เฟรมเรตลดลงหากการ์ดจอไม่แรงพอ
ตัวเลือกความละเอียดหน้าจอ
- Full HD (1920x1080, 1080p) – เป็นมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง มี Refresh Rate สูงและใช้ทรัพยากร GPU น้อย เหมาะกับการเล่นเกมที่เฟรมเรตสูง
- QHD (2560x1440, 1440p หรือ 2K) – ให้ความคมชัดมากขึ้นโดยไม่กระทบเฟรมเรตมากเท่า 4K เหมาะกับเกมที่ต้องการคุณภาพกราฟิกสูงขึ้น เช่น AAA Games
- 4K UHD (3840x2160, 2160p) – ให้ความละเอียดสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการภาพที่คมชัดมาก หรือใช้สำหรับงานตัดต่อวิดีโอและงานกราฟิกระดับมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม โน๊ตบุ๊คที่ใช้ 4K อาจมี Refresh Rate ต่ำกว่าและใช้พลังงานมากขึ้น
สำหรับเกมเมอร์ทั่วไป QHD (1440p) 165Hz - 240Hz เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในปี 2025
ประสิทธิภาพของสีและความแม่นยำของสี (Color Accuracy)
แม้ว่าหน้าจอ Notebook เกมมิ่งจะไม่จำเป็นต้องมีสีที่แม่นยำขนาดจอสำหรับงานมืออาชีพ แต่สำหรับผู้ที่ทำงานกราฟิก หรือตัดต่อวิดีโอ ควรเลือกหน้าจอที่มี ค่า Color Accuracy สูง เพื่อความแม่นยำของสีในงานออกแบบ
ค่า Color Accuracy ที่ควรพิจารณา
- sRGB 100% – เหมาะสำหรับการเล่นเกมทั่วไป ให้สีสดใสคมชัด
- AdobeRGB 100% – เหมาะสำหรับงานกราฟิกและงานพิมพ์ระดับมืออาชีพ
- DCI-P3 100% – เหมาะสำหรับงานตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ
- Pantone Validated – เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำสูงสุดของสี
หากต้องการเล่นเกมอย่างเดียว sRGB 100% ก็เพียงพอ แต่ถ้าทำงานกราฟิก ให้เลือก AdobeRGB หรือ DCI-P3 100%
ขนาดหน้าจอ และผลต่อการใช้งาน
ขนาดของหน้าจอมีผลต่อการพกพาและประสบการณ์การเล่นเกม
- 13 - 14 นิ้ว – เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพกพาง่าย แต่พื้นที่แสดงผลอาจเล็กไปสำหรับเกมเมอร์
- 15.6 นิ้ว – เป็นขนาดมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ให้ความสมดุลระหว่างการพกพาและพื้นที่แสดงผล
- 16 - 17 นิ้ว – เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการจอใหญ่เพื่อประสบการณ์เต็มตา แต่อาจมีน้ำหนักมากขึ้น
ถ้าต้องการพกพาสะดวก แนะนำ 14-15.6 นิ้ว ถ้าต้องการจอใหญ่ 16-17 นิ้ว เหมาะกว่า
เทคโนโลยีเสริมที่ควรมี
นอกจาก Refresh Rate และความละเอียด ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้น
- G-Sync (NVIDIA) / FreeSync (AMD) – ช่วยลดอาการหน้าจอฉีกขาด (Screen Tearing) และลด Input Lag
- HDR (High Dynamic Range) – ช่วยให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น เหมาะสำหรับเกมที่รองรับ HDR
- Mini LED / OLED Displays – ให้สีดำที่ลึกกว่า และความสว่างที่ดีกว่า LED ปกติ เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการภาพที่สมจริง
- Response Time ต่ำ (1-3ms) – ลดอาการภาพเบลอ เหมาะสำหรับเกม FPS
ถ้าเล่นเกม FPS หรือ Racing ควรเลือกจอที่มี Response Time ต่ำสุด (1-3ms)
สรุปแนวทางการเลือกหน้าจอสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในปี 2025
- Refresh Rate 144Hz – 240Hz ขึ้นไป สำหรับเกมมิ่ง
- QHD (1440p) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ระหว่างความคมชัดและประสิทธิภาพ
- DCI-P3 หรือ AdobeRGB 100% สำหรับงานกราฟิก
- ขนาด 15.6 – 16 นิ้ว เหมาะกับการเล่นเกมและพกพา
- มี G-Sync หรือ FreeSync เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า
- เลือก Response Time 1-3ms สำหรับเกมที่ต้องการการตอบสนองเร็ว
ความจุ
ที่เก็บข้อมูล (Storage) เป็นองค์ประกอบสำคัญของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อความเร็วในการโหลดเกม ระบบปฏิบัติการ และการเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน โน๊ตบุ๊คเล่นเกมส่วนใหญ่ใช้ SSD (Solid State Drive) ที่มีความเร็วสูงกว่าฮาร์ดดิสก์แบบเดิมมาก และส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยี NVMe PCIe M.2 เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ประเภทของที่เก็บข้อมูล
โน๊ตบุ๊คเล่นเกมปี 2025 มีการใช้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD เป็นมาตรฐาน โดยมีประเภทหลักดังนี้:
NVMe PCIe M.2 SSD (เร็วที่สุด)
- PCIe Gen 3.0 – ยังใช้งานได้ดีในรุ่นกลาง-เริ่มต้น ให้ความเร็วอ่าน/เขียนประมาณ 3,500MB/s
- PCIe Gen 4.0 – เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 7,000MB/s
- PCIe Gen 5.0 (ใหม่ล่าสุด 2025) – เร็วสุดในตลาด ให้ความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 14,000MB/s เหมาะสำหรับเกมระดับ AAA และงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
แนะนำให้เลือก NVMe PCIe Gen 4.0 ขึ้นไป เพื่อให้ได้ความเร็วที่เหมาะสมกับเกมและการใช้งานหนัก
SATA SSD (ช้ากว่า NVMe แต่ยังดีสำหรับงบจำกัด)
- ความเร็วประมาณ 500MB/s – 600MB/s (ช้ากว่า NVMe 6-10 เท่า)
- ยังพบได้ในโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้น
- เหมาะสำหรับเป็นที่เก็บไฟล์เสริม ไม่เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการโหลดเร็ว
HDD (Hard Disk Drive, ไม่แนะนำสำหรับเกมมิ่ง)
- ความเร็วช้า (80-150MB/s)
- ใช้พลังงานเยอะและมีความเสี่ยงต่อการเสียหาย
- ไม่แนะนำให้ใช้เป็นที่เก็บข้อมูลหลักสำหรับเกมมิ่ง
ถ้าต้องการพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ให้เลือก HDD เป็นตัวเสริมเท่านั้น และใช้ NVMe SSD เป็นที่เก็บข้อมูลหลัก
ความจุที่เหมาะสมกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง
เนื่องจากเกมในปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จึงควรเลือกความจุให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน โดยทั่วไปความจุที่เหมาะสมคือ:
- 512GB (ขั้นต่ำสุด) – เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่เล่นไม่กี่เกมและใช้โน๊ตบุ๊คสำหรับงานทั่วไป
- 1TB (แนะนำ) – เพียงพอสำหรับเกมหลัก ๆ และการใช้งานทั่วไป
- 2TB (เหมาะสำหรับเกมเมอร์หนัก ๆ) – เหมาะสำหรับคนที่เล่นเกมหลายเกมหรือทำงานที่ต้องใช้พื้นที่มาก
- 4TB ขึ้นไป (มืออาชีพ / นักสตรีมเกม / นักตัดต่อวิดีโอ) – เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่สูงสุด
ถ้าเล่นเกม AAA เช่น Call of Duty, Cyberpunk 2077 หรือ Microsoft Flight Simulator แนะนำให้มี 1TB ขึ้นไป เพราะเกมเหล่านี้มีขนาดไฟล์มากกว่า 100GB ต่อเกม
โน๊ตบุ๊คเล่นเกมของเรารองรับการอัปเกรดที่เก็บข้อมูลหรือไม่?
ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ควรตรวจสอบว่าเครื่องรองรับการอัปเกรดที่เก็บข้อมูลหรือไม่ บางรุ่นอาจมีช่องใส่ SSD เพิ่ม หรือรองรับ HDD เป็นที่เก็บข้อมูลเสริม
โน๊ตบุ๊คที่รองรับการอัปเกรด
- มีช่อง M.2 SSD เพิ่มเติมให้ติดตั้งเอง
- รองรับการเปลี่ยน SSD เดิมเป็นความจุที่สูงขึ้น
- มีช่อง SATA 2.5" สำหรับติดตั้ง HDD หรือ SSD เสริม
โน๊ตบุ๊คที่ไม่รองรับการอัปเกรด
- ใช้ SSD แบบบัดกรี (Soldered SSD) กับเมนบอร์ด ไม่สามารถเปลี่ยนได้
- มีเพียงช่องเดียวสำหรับ SSD ทำให้ต้องเปลี่ยนแทนการเพิ่ม
ก่อนซื้อ ให้ตรวจสอบ สเปคและคู่มือของรุ่นนั้น ๆ ว่ารองรับการอัปเกรดหรือไม่
การเลือกซื้อ SSD เพื่อ Upgrade เอง
หากต้องการอัปเกรด SSD ให้เร็วขึ้นและจุเยอะขึ้น นี่คือ แบรนด์ SSD แนะนำในปี 2025:
- Samsung 990 Pro (PCIe 4.0 / 5.0) – ความเร็วสูงสุด 14,000MB/s (Gen 5.0)
- WD Black SN850X (PCIe 4.0) – ความเร็วสูงและเชื่อถือได้
- Crucial P5 Plus (PCIe 4.0) – คุ้มค่าราคา
- Kingston KC3000 (PCIe 4.0) – ทนทานและเร็ว
- Sabrent Rocket 5 (PCIe 5.0) – ตัวเลือกสุดแรงสำหรับมืออาชีพ
ถ้าอยากอัปเกรดเอง ให้ตรวจสอบว่าโน๊ตบุ๊คเล่นเกมนั้นรองรับ PCIe Gen 3, 4 หรือ 5 เพื่อเลือก SSD ให้เหมาะสม
สรุปแนวทางการเลือกที่เก็บข้อมูลสำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งในปี 2025
- เลือก SSD NVMe PCIe M.2 (Gen 4.0 หรือ 5.0) สำหรับความเร็วสูงสุด
- เลือกความจุ 1TB ขึ้นไป เพื่อรองรับเกมยุคใหม่
- ตรวจสอบว่าโน๊ตบุ๊ครองรับการอัปเกรด SSD หรือไม่
- ใช้ SSD เป็นที่เก็บข้อมูลหลัก และ HDD เป็นตัวเสริมถ้าจำเป็น
- เลือกแบรนด์ SSD ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น Samsung, WD, Crucial
ดีไซน์ และฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ
การเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกม ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของสเปคเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานโดยรวม ตั้งแต่ดีไซน์ ฟีเจอร์เสริม ไปจนถึงระบบระบายความร้อน และการรับประกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด เราได้รวบรวมปัจจัยที่ควรพิจารณาไว้ที่นี่
ดีไซน์และการพกพา
Gaming Notebook มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ตั้งแต่รุ่นที่ดูเรียบหรูสำหรับใช้งานในออฟฟิศ ไปจนถึงรุ่นที่มาพร้อม RGB ไฟสีสันจัดเต็ม สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ การเลือกดีไซน์ควรคำนึงถึง:
- ขนาดหน้าจอ – 14 นิ้ว (พกพาง่าย) / 15.6 นิ้ว (มาตรฐาน) / 16-17 นิ้ว (จอใหญ่ขึ้นแต่หนักขึ้น)
- น้ำหนักเครื่อง – โน๊ตบุ๊คบางเบามักมีแบตอึดกว่า แต่ระบบระบายความร้อนอาจน้อยกว่า
- วัสดุเครื่อง – อลูมิเนียม (พรีเมียม แข็งแรง) หรือ พลาสติก (เบากว่า ราคาถูกกว่า)
- RGB Keyboard และดีไซน์เกมมิ่ง – เลือกให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
หากต้องการ Notebook Gaming พกพาสะดวก แนะนำ 15.6 นิ้ว น้ำหนักไม่เกิน 2.2 กก. แต่ถ้าเล่นเกมที่บ้านเป็นหลัก สามารถเลือกขนาดใหญ่ขึ้นได้
การเชื่อมต่อพอร์ตและฟีเจอร์เสริม
การมีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันช่วยให้สามารถใช้งานอุปกรณ์เสริมได้ง่ายขึ้น ซึ่งควรพิจารณา:
- USB-A และ USB-C (รองรับ Thunderbolt 4 / USB4) – สำหรับต่ออุปกรณ์เสริมและชาร์จเร็ว
- HDMI / DisplayPort – สำหรับต่อจอเสริม เล่นเกมแบบ 4K / 144Hz ได้ลื่นไหล
- LAN (Ethernet Port) – สำหรับเกมออนไลน์ที่ต้องการความเสถียร
- Card Reader – สำคัญสำหรับสายตัดต่อและงานกราฟิก
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm และไมโครโฟนแยก – เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ใช้หูฟังแยก
- Power Delivery (PD) ผ่าน USB-C – ชาร์จไฟได้ง่าย ไม่ต้องพกอะแดปเตอร์ใหญ่
ถ้าใช้งานหลายจอหรือสตรีมเกม ควรเลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มี Thunderbolt 4 / HDMI 2.1 / DisplayPort เพื่อรองรับการต่อจอ 4K 144Hz
ระบบความปลอดภัยและการใช้งาน
โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่มักมีระบบความปลอดภัยและฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น เช่น:
- Fingerprint Scanner / Windows Hello – ใช้ลายนิ้วมือหรือสแกนหน้าเพื่อปลดล็อก
- Privacy Shutter (ปิดกล้องเว็บแคม) – ป้องกันการแฮกกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัว
- AI Noise Cancellation – ช่วยลดเสียงรบกวนในการแชทเกม / ประชุมออนไลน์
- Webcam Full HD 1080p หรือ 4K – สำหรับสายสตรีมหรือประชุมงาน
ถ้าใช้งานโน๊ตบุ๊คเล่นเกมในที่ทำงาน ควรเลือก Fingerprint หรือ Windows Hello เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
คีย์บอร์ดและระบบควบคุม
- คีย์บอร์ดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นเกม ควรพิจารณา:
- ไฟ RGB ปรับแต่งได้ – ปรับแต่งสีไฟตามสไตล์ของคุณ
- ปุ่ม N-Key Rollover / Anti-Ghosting – ป้องกันการกดหลายปุ่มแล้วเครื่องไม่ตอบสนอง
- ระยะกด (Key Travel) และสวิตช์คีย์บอร์ด – Mechanical / Membrane ควรเลือกตามความชอบ
หากต้องการคีย์บอร์ดที่ตอบสนองไวสำหรับเกม FPS ควรเลือก Mechanical Keyboard หรือ Optical Switch ที่มี Key Travel 1.5mm - 2.0mm
ระบบระบายความร้อน
โน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมที่ดีต้องมีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความร้อนสะสมระหว่างการเล่นเกม
- Heat Pipes + Vapor Chamber – ระบบระบายความร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิได้ดีขึ้น
- พัดลมคู่ หรือ 3-4 พัดลม – ช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คที่มีพัดลมเดียว
- ช่องระบายอากาศรอบตัวเครื่อง – เพื่อการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น
- ซอฟต์แวร์ควบคุมพัดลม – ปรับรอบพัดลมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ถ้าเล่นเกมหนักควรเลือกโน๊ตบุ๊ค Gaming ที่มี Vapor Chamber Cooling และช่องระบายความร้อนหลายช่อง
แบตเตอรี่ และอายุการใช้งาน
Notebook Gaming มักมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย
- Battery 80-99Wh – ความจุสูงสุดที่อนุญาตสำหรับการพกพาขึ้นเครื่องบิน
- รองรับ Fast Charging – ชาร์จ 50-70% ในเวลา 30 นาที
- รองรับ Power Delivery (PD) ผ่าน USB-C – สะดวกขึ้นสำหรับการพกพา
หากต้องการใช้งานนาน ๆ ควรเลือกโน๊ตบุ๊คที่มี Battery 90Wh ขึ้นไป และรองรับการชาร์จเร็ว
ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์
Notebook เล่นเกม มักมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 และซอฟต์แวร์ควบคุมเครื่อง
- Windows 11 Home / Pro – มาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง
- ซอฟต์แวร์ควบคุมเครื่อง (Armoury Crate / Alienware Command Center / MSI Center ฯลฯ) – ใช้ปรับแต่งพัดลม, ไฟ RGB, โหมดประหยัดพลังงาน
หากคุณต้องการควบคุมโน๊ตบุ๊คได้เต็มที่ ควรเลือกยี่ห้อที่มีซอฟต์แวร์ปรับแต่งการทำงานครบถ้วน
การรับประกันและบริการหลังการขาย
- รับประกัน 2-3 ปี – ยิ่งนานยิ่งดี
- On-Site Service (บริการซ่อมถึงบ้าน) – ลดความยุ่งยากในการส่งซ่อม
- โปรโมชันและช่องทางการซื้อ – ตรวจสอบโปรโมชันและเงื่อนไขการผ่อนชำระ
เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มี ศูนย์บริการใกล้บ้าน และรองรับ On-Site Service จะช่วยให้สะดวกขึ้น
สรุป
- เลือกดีไซน์ที่เหมาะกับสไตล์และการพกพา
- ตรวจสอบพอร์ตเชื่อมต่อให้ครบถ้วน
- ให้ความสำคัญกับระบบระบายความร้อน
- ตรวจสอบระบบความปลอดภัย และแบตเตอรี่
- เลือกโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่รองรับการอัปเกรด
- ตรวจสอบการรับประกัน และบริการหลังการขาย
บทส่งท้าย
การเลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งไม่ใช่เพียงแค่การมองหาสเปคที่แรงที่สุดหรือดีไซน์ที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่เป็นการหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ การออกแบบ ฟีเจอร์เสริม และงบประมาณ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคน แม้ว่าจะมีรุ่นที่ได้รับการแนะนำมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ตรงกับความต้องการของคุณเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์ระดับแข่งขัน นักสร้างคอนเทนต์ หรือผู้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่ครบเครื่องสำหรับทั้งงานและความบันเทิง
ในตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งที่มีให้เลือกมากมาย ดีไซน์และชื่อซีรีส์อาจดูคล้ายกัน แต่แต่ละรุ่นย่อยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งในแง่ของ การระบายความร้อน วัสดุ ฟังก์ชันเสริม และประสบการณ์การใช้งาน ดังนั้นหากคุณถูกใจดีไซน์ของรุ่น Gaming Notebook ใด ลองศึกษารุ่นย่อยอื่น ๆ ในซีรีส์เดียวกันเพื่อค้นหาตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด และอย่าลืมพิจารณาปัจจัยเสริม เช่น การรับประกัน พอร์ตเชื่อมต่อ และแบตเตอรี่ เพื่อให้มั่นใจว่าโน๊ตบุ๊คที่คุณเลือก จะเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบในการเล่นเกมและการทำงานของคุณไปอีกนาน
หวังว่าอ่านจบบทความ "โน๊ตบุ๊คเล่นเกม รุ่นไหนดี" ของเราจบแล้ว ทุกคนจะได้รุ่น Notebook Gaming ที่ตามหากันนะ ไว้พบกันใหม่ทุกคน
บทความแนะนำ
- แนะนำ 10 Mechanical Keyboard ยี่ห้อไหนดี
- แนะนำ 10 จอยเกม ยี่ห้อไหนดี
- แนะนำ 10 หูฟังเกมมิ่ง รุ่นไหนดี
- แนะนำ 10 หูฟังไร้สายเกมมิ่ง รุ่นไหนดี
แหล่งข้อมูล
- SiamTV. 5 เคล็ดลับเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง. ดูเพิ่มเติม.
- Banana IT. คู่มือเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง. ดูเพิ่มเติม.
- MSI Thailand. คอลเลกชันโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI. ดูเพิ่มเติม.
- NotebookSPEC. อันดับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งยอดนิยม. ดูเพิ่มเติม.
- Quickserv. 5 ข้อต้องรู้ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกม เล่นสนุก ไม่มีปัญหากวนใจ. ดูเพิ่มเติม.
- IHaveCPU. แนวทางเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งให้ตรงใจ. ดูเพิ่มเติม.
- IHaveCPU. เลือกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งยังไงให้แรงที่สุด. ดูเพิ่มเติม.
- AddinPC. ทำความเข้าใจการ์ดจอออนบอร์ดในโน๊ตบุ๊ค. ดูเพิ่มเติม.