เมนูกรอบอร่อยอย่างกล้วยฉาบ กล้วยเบรคแตก ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีขั้นตอนการทำง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องนำไปทอดสามารถใช้หม้ออบลมร้อนหรือเตาอบก็ทำได้ เป็นเมนูสแน็คทานเล่นเพลินๆ ระหว่างทำงานระหว่างดูซีรีส์รับรองฟินจนหยุดไม่ได้ ตามมาดูกันเลยว่าเมนูกล้วยอบเนยคาราเมลที่เรานำมาฝากกันวันนี้จะมีขั้นตอนและสูตรการทำเป็นยังไงบ้าง!
แจกสูตรวิธีทำ กล้วยอบเนยคาราเมล เมนูกล้วยฉาบกรอบอร่อย ทำง่าย เคี้ยวเพลินจนเบรคแตก
วัตถุดิบเมนูกล้วยอบเนยคาราเมล
- กล้วยน้ำว้าดิบ
- น้ำเปล่า
- มะนาว
- น้ำตาล 200 กรัม
- น้ำเปล่า 80 มล.
- เนยจืด 80 กรัม
- เกลือนิดหน่อย
วิธีทำเมนูกล้วยอบเนยคาราเมล
- ขั้นตอนแรกเริ่มกันที่การเตรียมน้ำเปล่าผสมกับน้ำมะนาว
- ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าดิบ จากนั้นนำกล้วยน้ำว้าดิบมาฝานหรือหั่นให้เป็นแว่นๆ
- นำกล้วยน้ำว้าดิบที่ฝานเป็นแว่น ไปแช่ลงในน้ำเปล่าผสมกับน้ำมะนาวที่เตรียมไว้ แช่ทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อไม่ให้กล้วยดำ
- นำกล้วยที่แช่ไว้ขึ้นมาซับน้ำออกจากล้วยให้แห้ง จากนั้นนำไปอบ โดยใช้ความร้อน 180 องศา เป็นเวลา 15 นาที
- เมื่ออบกล้วยเสร็จแล้ว ให้นำมาวางพักทิ้งไว้ให้เย็น
- นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำตาลและเติมน้ำเปล่าลงไป ตั้งไฟอ่อนๆ รอให้น้ำตาลเปลี่ยนสี โดยในขั้นตอนนี้ไม่แนะนำให้คน
- จากนั้นให้ใส่เนยและเกลือตามลงไป คนผสมให้เข้ากันแล้วจึงปิดไป จะได้เป็นคาราเมลสีสวย
- นำกล้วยที่อบพักไว้ไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับคาราเมล พร้อมเสิร์ฟ
คลิปพาทำเมนู "กล้วยอบเนยคาราเมล" จาก Ourrecipe.th
สรรพคุณของกล้วยน้ำว้า
- กล้วยน้ำว้าช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง แถมมีน้ำตาลต่ำสามารถรับประทานได้ครั้งละ 2 ผล ไม่ต้องกลัวอ้วนเลยทีเดียว ทั้งยังช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดีด้วย แนะนำให้กินกล้วยน้ำว้าที่สุกกลางๆ ไม่สุกงอมและไม่ห่ามจนเกินไป
- กล้วยน้ำว้าช่วยบรรเทาอาการโรคกะเพาะ โดยแนะนำให้เลือกกินกล้วยน้ำว้าดิบ เพราะในกล้วยน้ำว้าดิบมีแทนนิน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน จึงช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทั้งยังช่วยป้องกันผนังลำไส้ไม่ให้ถูกทำลายจากเชื้อโรคและเอนไซม์ที่มีรสเผ็ดร้อน จึงไปช่วยลดอาการแสบร้อนของโรคกระเพาะได้และช่วยลดแผลในกระเพาะให้ลดลงได้
- กล้วยน้ำว้าช่วยต้านเศร้าได้ เพราะในกล้วยน้ำว้ามีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยสร้างฮอร์โมนแห่งความสุขอย่างเซโรโทนิน ส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบขึ้นนั่นเอง โดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้กินกล้วยน้ำว้าในปริมาณมากกว่า 2 ชิ้นต่อวัน เพื่อช่วยลดอาการซึมเศร้าได้นั่นเอง
ข้อมูลอ้างอิง: (1)
ข้อมูลโภชนาการเมนู "กล้วยอบเนยคาราเมล"
การคำนวณแคลอรีขึ้นอยู่กับปริมาณของสัดส่วนอาหารที่รับประทาน สัดส่วนแคลอรีตามวัตถุดิบอาหารที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างของสัดส่วนแคลอรีที่นำมาแบ่งปันกันเท่านั้น หากต้องการควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารหรือกำลังควบคุมน้ำหนักแนะนำว่าควรจัดสรรปริมาณการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี โดยปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน : Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) สำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป คิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี มีเกณฑ์ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม
- โปรตีน 50 กรัม
- ไขมัน (fat) ทั้งหมด น้อยกว่า 65 กรัม
- กรดไขมันอิ่มตัว (saturated fatty acid) น้อยกว่า 20 กรัม
- คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม
- ใยอาหาร 25 กรัม
- โซเดียม น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม
กล้วยน้ำว้าอบ ปริมาณ 100 g. พลังงานทั้งหมด 148 กิโลแคลอรี่
กล้วยน้ำว้า ปริมาณ 100 g. พลังงานทั้งหมด 148 กิโลแคลอรี่
- ไขมันทั้งหมด 0.2 g.
- ใยอาหาร 2.3 g.
- โปรตีน 1.1 g.
น้ำตาลทรายขาว ปริมาณ 100 g. พลังงานทั้งหมด 404.8 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 100 g.
เนยจืด ปริมาณ 100 g. พลังงานทั้งหมด 740 กิโลแคลอรี่
- ไขมันทั้งหมด 82 g.
- คลอเรสเตอรอล 220 mg.
- โซเดียม 20 mg.
- โพแทสเซียม 20 mg.
หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อคำนวณแคลอรีเบี้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงทางการแพทย์ได้
เตรียมวัตถุดิบเข้าครัวสำหรับทำเมนูกล้วยอบเนยคาราเมลกันเลย
Table of Contents
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างกับเมนู "กล้วยอบเนยคาราเมล" เป็นเมนูกล้วยฉาบ กล้วยเบรคแตกที่ทำง่ายมากๆ สามารถทำเองที่บ้านเพียงมีแค่เตาอบหรือหม้ออบลมร้อนก็ไม่ต้องใช้น้ำมันในการทอด แถมยังเหมาะกับคนที่ลดน้ำหนักอยู่ด้วยทานแล้วไม่อ้วน เอาไว้ทานแก้เหงาปากหรือทานตอนดูหนังก็ฟิน สาวๆ ที่คุมน้ำหนักควรควบคุมปริมาณในการรับประทานให้พอเหมาะด้วยนะ อย่างไรก็ตามใครที่ชอบทานขนาดขบเคี้ยวแนะนำให้ลองทำเมนูกล้วยอบเนยคาราเมลไว้ทานเองที่บ้านเลย ครั้งหน้าจะมีเมนูอะไรอีก ฝากติดตามกันด้วยน้า!
