10 หูฟังครอบหู ยี่ห้อไหนดี นุ่มสบายหู เสียงดี น้ำหนักเบา 2024 - แนะนำ

เราได้มีโอกาสทดลองใช้หูฟังครอบหู CREATIVE รุ่น ZEN Hybrid 2 ที่อาจจะยังมีคนที่ไม่คุ้นหูมากนัก แต่ว่าวันนี้เราจะพาทุกคนไปว้าวกับรุ่นหูฟัง over-ear ของเขากัน เรียกได้ว่าเกินราคามาก ความสามารถรอบด้าน ถ่ายทอดเสียงได้ดี แบตนาน ใช้ได้นาน ๆ แบตดีต่อใจสุด และที่สำคัญใส่สบาย เรามาดูรายละเอียดดีกว่าว่าน่าสนใจขั้นไหนกันน่า

คุณภาพเสียง

สำหรับหูฟังครอบหู Creative แบบไร้สาย ZEN Hybrid 2 นี้เราต้องบอกก่อนว่ายังไม่ใช่รุ่นท็อปสุด แต่เป็นรุ่นน้องของรุ่น Pro แต่อย่าเพิ่งหวั่นใจไปเพราะว่าสเปคส่วนใหญ่ต่างกันหลัก ๆ ที่อายุแบตเตอรี่กับเวอร์ชั่นบลูทูธ (และมีเพิ่มเติมที่ Audio Codec ดูตารางเปรียบเทียบกับรุ่นโปรได้ที่นี่) ในเรื่องของเสียงของ CREATIVE ZEN Hybrid 2 นี้ ทำออกมาได้ดี ออกมากลาง ๆ เบสก็ได้ เสียงร้อง เสียงดนตรีก็เก็บได้ดี ฟังเพลงที่เบสตึ้บ ๆ ก็เก็บได้ดี แต่อาจจะไม่ได้เท่ากับรุ่นที่เคลมเรื่องเบสขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นหูฟังครอบหูไร้สายที่ทำออกมาได้เกินราคานะ เพราะจ่ายเพียง 2,000 กว่า ๆ ก็ได้เสียงดี เก็บได้หมด

ขนาดของไดรเวอร์อยู่ที่ 40 มม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เราเจอได้บ่อยเวลาดูสเปคหรืออ่านรีวิวหูฟังครอบหู มีการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 รองรับ Multipoint ถึง 2 อุปกรณ์ ตอนเราเชื่อมต่อครั้งแรก รอเพียงแป้ปเดียวเท่านั้น

และจุดที่น่าสนใจคือเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ค่อนข้างไฮบริดอีกรุ่นนึงได้เลย เพราะว่าไปได้หมดทุกวงการไม่ว่าคุณจะคุยแค่โทรศัพท์ หูฟังยังไมค์ดี ให้มาทั้งหมด 5 ตัว เสียงชัดแจ๋ว เราลองคอลหรือใช้ประชุม คนในมีทก็ได้ยินดี

หรือถ้าใครชอบการเล่นเกมทางแบรนด์ยังออกแบบมาให้มีโหมด Low Latency ที่ช่วยลดความหน่วง 85ms เพียงแค่กดที่ปุ่ม ANC ที่ข้างขวาของหูฟัง 2 ครั้งติดกันก็พร้อมใช้แล้ว ทั้งนี้ความว้าวยังไปต่อก็คือสามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri หรือ Google Assistant ได้ด้วย แค่กดค้าง ANC ไว้ 3 วิเท่านั้น

และโหมด ANC ก็ทำออกมาได้ดีมาก คือเงียบดีจริง ๆ ทุกคน เอาจริง ๆ แค่ใส่แล้วยังไม่ต้องเริ่มโหมดตัดเสียงรบกวนก็เงียบได้ดีมากแล้ว แต่ถ้าใครอยู่ใกล้พัดลมก็อาจจะมีได้ยินเสียงเข้าบ้าง แต่พอเปลี่ยนมาเป็นโหมด ANC แล้วเงียบขึ้นมาก ๆ แต่เราจะไม่บอกว่าเงียบจนหายไปซะทั้งหมด แต่ก็คือเงียบพอที่ใครเรียกเราก็ต้องเดินมาหาเราใกล้พอสมควรเราถึงจะได้ยิน โดยทางแบรนด์แจ้งสเปคไว้ว่าทำให้เสียงเงียบได้ต่ำสุด -30dB เลยล่ะ เพิ่มเติมอีกสักหน่อย การจะเปลี่ยนมาใช้โหมดให้เรากดที่ปุ่ม ANC วนไปนะจนกว่าจะได้ยินเสียงพูดผ่านหูฟังว่า “ANC” ถึงหยุดน่า เพราะว่าในปุ่มเดียวจะมีความสามารถ 3 แบบ คือ โหมด Ambient, ANC และกลับมาเป็นโหมดไม่มี ANC ไม่เพียงเท่านั้น ปุ่มเปิด-ปิดหูฟังครอบหูเองก็มีอีกหลายฟังก์ชัน ทั้งเปลี่ยนเพลง หยุด/เล่น ค้นหา/เชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ ทั้งนี้ก็สามารถปรับเพิ่มเสียงได้ที่ปุ่มสัญลักษณ์-/+

และถ้าใครอยากให้เสียงเป็นไปในสไตล์ที่เราชอบหรือกำลังมองหา Equalizer สามารถโหลดแอปจากทาง CREATIVE มาใช้ได้น่า แต่โหลดมาครั้งแรกก็ต้องอัปเดต Firmware ให้เรียบร้อยก่อนน่า แอปใช้ง่ายดีค่ะ หรือจะเป็นอีกแอปที่เรียกว่า SXFI

ในกล่องมีแถมสายเพื่อต่อแบบ Analog มาให้ด้วย ซึ่งเราสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ Mac/PC แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่อง PS5

ความสบายระหว่างใส่

เรื่องความสบายเราจะบอกเลยว่า สบายมาก ไม่บีบหูเลย ใส่ได้นานทั้งวันไปเลย นุ่มทั้งหูและหัว earpads ทั้งสองข้างคือนุ่มฟิน ทั้งนี้ถ้าใครอยากปรับความยาวของหูฟังครอบหูให้พอดีกับส่วนหัวกับหูเรา ทางแบรนด์ออกแบบมาให้ปรับได้ด้วย แค่ยืดออกแล้วสวม ง่าย ๆ เท่านี้เลย หรือถ้าไม่ใช้ก็หดกลับได้ และหูฟังหมุนได้ 90 องศา พับเก็บง่ายอีกด้วย

วัสดุ/งานประกอบ

วัสดุทำออกมาได้สมราคา งานประกอบแน่นหนา ใช้งานได้นาน ตอนพับก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะแตกหรือหักเลย ปุ่มกดอยู่ในตำแหน่งคลำหาง่าย แต่เนื่องจากทางแบรนด์ไม่ได้ให้ถุงเก็บหูฟังมา ถ้าเราจะวางกับพื้นบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องระวังเรื่องรอย หรือความมันมาโดน เพราะสามารถมองออกได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นสีดำ

แบตเตอรี่

เรื่องแบตเป็นอะไรที่ปลื้มใจมากจริง ๆ อยู่ในนาน เราทดลองมานานแต่แบตลดน้อยมาก ๆ ซึ่งก็ถือว่าเหมาะมากเลยสำหรับใครที่ขี้เกียจจะชาร์จหูฟังบ่อย ๆ ใส่หูฟังไปขึ้น BTS หรือนั่งทำงานเป็นเพื่อนก็ดีหมด เพราะอายุแบตและความสบายระหว่างใส่คือสมดุลที่สุด ซึ่งถ้าไม่เปิด ANC เลยก็จะอยู่ได้ที่ 67 ชั่วโมง หรือถ้าเปิด ANC ไว้จะอยู่ได้ที่ 49 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมาก ชาร์จอาทิตย์ละครั้งก็เหลือเฟือ ข้างในมีสายชาร์จ USB-C มาให้น่า แต่ว่าต้องเตรียม Adapter เองนะคะ

เหมาะกับใคร

จากที่ได้ทดลองมา 1  อาทิตย์เราว่าหูฟังครอบหู CREATIVE ZEN Hybrid 2 เหมาะกับคนทางสายกลางมาก ๆ สายที่จะไปเกมมิ่งก็ได้ หรือจะเน้นฟังเพลงก็ได้ เสียงเก็บหมด ทำออกมาได้ดี ตัดเสียงรบกวนได้อีก ยังปรับในแอปได้เพิ่ม หรือใครจะโทรหรือต้องมีทติ้งก็ไม่ต้องมานั่งนอยเรื่องเสียงออกไม่ชัด หรือเสียงขาด ๆ เพราะให้ไมค์มาเยอะ ถ้าใครอยากเปลี่ยนมาทางสายกลางที่ทำได้หมด และต้องการความอึดของแบต พร้อมความสบายที่ไม่บีบหัว มาเลย เจอได้ ไม่ผิดหวังกับ หูฟังครอบหู CREATIVE ZEN Hybrid 2

น้ำหนัก : 287 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ใช้ 

“ส่วนตัวคิดว่าเป็นหูฟังที่ทำได้ดีรอบด้าน แม้เบสจะไม่ได้ขนาดนั้นแต่ก็คือทำได้ดีเลย ปรับในแอปได้ โหมด ANC ก็เงียบดีจริง ใส่ทั้งวันก็ไม่มีปวดหู น้ำหนักเบาดีนะ โดยรวมคือคุ้มค่าเกินราคา ดีสุด ๆ เหมาะกับสายบัดเจตแต่สินค้าไม่มีกั๊กสเปค ติดนิดหน่อยที่เพลงยังเล่นต่อเวลายกหูฟังออก แต่เราว่าเป็นจุดเล็ก ๆ เท่านั้น”

ถ้าคุณ 1 ในคนที่กำลังตามหา headphone ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ หูฟังครอบหู Sony WH-1000XM4 หรือมาร์ค 4 ที่รีวิวเต็มไปหมด จะมีอะไรดีบ้างไปอ่านกันเลย

สำหรับใครที่ชื่นชอบการฟังเพลงหรือเสพสื่อความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ และอยากสัมผัสกับเทคโนโลยีสุดล้ำของ หูฟังครอบหู Sony ต้องห้ามพลาดรุ่นนี้ค่ะ เพราะมาพร้อมกับระบบสั่งการด้วยเสียง สามารถเพิ่ม ลดเสียง หยุดเล่นได้ และยังมีระบบตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพ ช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ซึ่งหลาย ๆ คนยังยกให้เป็นหูฟังเสียงดี คุณภาพเสียงสมจริง น่าประทับใจสุด ๆ อีกตัวหนึ่งด้วย นอกจากนี้ หูฟังแบบครอบหู ยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 30 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางนาน ๆ และแม้จะราคาสูงอยู่บ้างแต่หากเปรียบเทียบกับความสามารถในการทำงานถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ

แต่ ณ ปัจจุบัน หูฟังครอบหูในตระกูล Mark ก็ได้ผลิตมาจนถึงรุ่น 5 แล้วนะคะ หากใครอยากอัพเกรดไปตัวสุดเราก็แนะนำให้ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ เปิดดู Sony WH-1000XM5

น้ำหนัก : 254 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ : คุณภาพสินค้าดีมาก แต่ส่งช้าไปหน่อยครับ สินค้าเป็นของโซนี่แท้ สามารถลงทะเบียนประกันในเว็ปได้ปกติ

หูฟังครอบหู ระดับไฮเอนด์ ที่โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบสไตล์มินิมอล เป็นที่ถูกใจของคนรุ่นใหม่อย่างมาก ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับคุณภาพเสียงเลยค่ะ และยังรองรับการใช้งานทั้งแบบไร้สายและมีสาย ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่หมดแล้วจะเสียอรรถรสในการรับฟัง แถมหูฟังแบบครอบหูรุ่นนี้ยังให้ไมโครโฟนในตัวมาถึง 8 ตัวอีกด้วย และใครที่ชอบฟังเพลงขณะเดินทางกับ headphone ต้องชื่นชอบแน่นอนเพราะสามารถใช้งานแบบไร้สายต่อเนื่องได้นานถึง 35 ชั่วโมงเลยค่ะ

น้ำหนัก : 285 g | ไร้สาย/มีสาย : ใช้ได้ทั้งไร้สายและมีสาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ : งามมมมมมาก ฟีเจอร์ใช้ได้ครบ เชื่อมต่อแอพได้ แต่ pause แล้วกด resume ในแอพเล่นเพลงที่ไม่ใช่แอพหลักของอุปกรณ์ไม่ได้ ไม่รู้แก้ได้รึเปล่า แต่สวยงามเสียงเพราะ ดีต่อใจ ราคาก็ถูกกว่าที่อื่น ส่งเร็ววันเดียวถึง

ตามหาหูฟัง headphone เครือ Apple อยู่หรือเปล่า บอกเลยหูฟังใส่สบายอย่าง AirPods Max จะพาคุณไปเปิดประสบการณ์อีกระดับ

สาวก Apple ต้องไม่พลาด กับ หูฟังครอบหู คุณภาพระดับ Hi – End อย่าง AirPods Max ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นเรื่องของดีไซน์สไตล์เรียบหรูดูแพงเท่านั้น แต่คุณภาพเสียงก็ยังไม่ทำให้ผิดหวังอีกด้วย และรุ่นนี้เป็นแบบไร้สายที่มีความเสถียรสูง เนื่องจากใช้เทคโนโลยี H1 และหลายคนยังรีวิวว่าเป็นหูฟังครอบหูที่สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ยอดเยี่ยม พร้อมกันก็ยังสามารถรับฟังเสียงจากภายนอกได้สมจริงเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังเลยทีเดียว ทำให้คนที่ต้องใส่หูฟังในการเรียนหรือทำงานตลอดเวลาสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีแอบบ่นกันว่ารุ่นนี้นั้นน้ำหนักเยอะใส่นาน ๆ ก็ทำให้ปวดเมื่อยคอได้เลยล่ะค่ะ

น้ำหนัก : 384 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ : สวยมาก ความสวยให้เลย ระบบ noise cancel ก็ดี แต่ใช้แรกๆ อาจจะรู้สึกหวีดๆในหูบ้าง ส่วนระบบได้ยินเสียงรอบข้าง อันนี้ให้เลยดีจริง เหมือนฟังด้วยหูตัวเองเลย แต่ๆๆ ข้อเสียมันคือหนัก หนักแบบถ้าท่าการฟังคุณไม่ใช่ท่าคอตรงๆ ชอบโน้มไปหน้าจอ หรือเอนคอ ใช้นานๆจะรู้สึกปวดคออย่างเห็นได้ชัด

รวบรวมความว้าวไว้ให้ใน หูฟังครอบหู ราคา 5,000 กลาง ๆ กับ Marshall Major IV Bluetooth Brown ซึ่งหลาย ๆ คนประทับใจทั้งเรื่องของความเสถียรของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และคุณภาพเสียงสไตล์ของ Marshall และรุ่นนี้ยังสามารถแชร์เสียงได้ผ่านสาย AUX อีกด้วย มาพร้อมกับไมโครโฟนใสตัว เสียงคมชัด และควบคุมการใช้งานผ่านการโยกไปมา ที่ล้ำสุด ๆ นอกจากนี้ยังน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย ใช้งานได้ต่อเนื่องนานกว่า 80 ชั่วโมงและรองรับการชาร์จไวอีกด้วยค่ะ

แต่ถ้าใครอยากได้ความใหม่ของหูฟังครอบหูจากแบรนด์ Marshall Major จริง ๆ แบบ ล่าสุดปี 2024 เลย ทางแบรนด์ก็มีรุ่นใหม่ล่าสุดนั่นก็คือ Marshall Major V ใครสนใจอยากอัพเกรดใหม่ไปเลยก็ทำได้นะ เพราะราคาไม่ได้ต่างกันมาก แต่สิ่งที่ทำได้ดีกว่ารุ่น IV จะเน้นไปที่เรื่องของแบตเตอรี่ที่นานขึ้น สูงสุด 100 ชั่วโมงไปเลย

น้ำหนัก : 165 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ : เสียงดีมากกกก ใส่สบาย นุ่ม ไม่เจ็บหู ใช้งานง่ายมาก

สำหรับหูฟังครอบหู Bose รุ่น QuietComfort 45 เป็นรุ่นที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะใครที่ชอบใส่หูฟังเป็นเวลานาน ๆ และเกิดอาการเจ็บหู หูฟังครอบหูรุ่นนี้ออกแบบมาให้ตัว Ear cup มีสัมผัสที่นุ่มสบาย ไม่เจ็บหู และยังมีช่องระบายอากาศถึง 3 ช่อง ทำให้ไม่รู้สึกร้อนอับเมื่อใส่นาน ๆ ในส่วนของฟังก์ชันภายในนั้นก็มีหลากหลาย รุ่นนี้เขามีให้เลือกปรับได้ 2 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะ Aware Mode และ Quiet Mode โหมดแรกคือ Aware Mode จะเป็นโหมดที่เราสามารถได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ส่วนอีกโหมดหนึ่ง Quiet Mode คือโหมดตัดเสียงรบกวน ที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก ๆ แม้อยู่ในที่ที่มีเสียงดังก็ยังไม่ค่อยได้ยินเสียงรบกวน และมีแบตเตอรี่ที่ทนทาน ใช้ได้ยาวนานสูงสุด 22-24 ชั่วโมง สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าได้ง่าย ๆ อีกด้วย

แต่รุ่นนี้ก็ถือว่าเปิดตัวมานานมากแล้ว ถ้าใครอยากได้ความใหม่จึ้ง ๆ แนะนำให้ลองขยับไปเลือก Bose รุ่น QuietComfort Ultra ดูกันได้

ข้อมูลเฉพาะ

น้ำหนัก : 237 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ: เสียงเบส นุ่ม หนักแน่นดีครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย เสียงคมชัด สามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างเสียงในพื้นที่ใกล้เคียงและที่ห่างออกไปได้ เพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำหูฟังเกมมิ่ง Logitech G-PRO X Wireless ที่ช่วยกรองเสียงแบบเรียลไทม์เพื่อลดเสียงรบกวน ด้วยไมโครโฟนระดับโปรแบบถอดได้พร้อมเทคโนโลยี BLUE VO!CE และเทคโนโลยี Memory Foam ที่หุ้มในหนังเทียมคุณภาพพรีเมียม รับประกันความสะดวกสบายในขณะใช้งาน

ส่วนแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์เป็นอย่างยิ่ง

ข้อมูลเฉพาะ

น้ำหนัก : 320 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 50 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ: “หูฟังสวย​ เสียงดี​ใช้ได้ครับ”

แวะมาที่แบรนด์หรูอย่าง Sennheiser กับรุ่น Momentum 4 ที่มากับคอนเซปต์มาพร้อมการตัดเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยมกับไมค์คุณภาพ เป็นหูฟังครอบหูที่ดีไซน์หรูมาก สมมง สมราคา มาพร้อมกับไดร์เวอร์ที่ใหญ่กว่าปกติ 42 มม. เป็นสไตล์ของ Sennheiser Signature Sound อยู่แล้ว ปรับ EQ ผ่านแอปได้พร้อม สำหรับใครรีบออกไปข้างนอก เพียง 10 นาทีของการชาร์จก็สามารถใช้ได้ถึง 6 ชั่วโมงแล้ว เรื่องไมค์เด็ดดวงมาก เพราะให้มา 4 ตัว และนอกจากนี้เรื่องตัดเสียงรบกวนยังทำได้ดีอีกด้วย

น้ำหนัก : 293 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 42 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ: แพ็คสินค้ามาดีมากๆเลยค่ะ ได้รับสินค้าไวมากๆๆ เสียงที่ได้ฟังดีมากๆเลยค่ะ รู้สึกได้ถึงรายละเอียดของดนตรีที่ครบและใสมากๆเลยค่ะ

สำหรับใครที่เคยเป็นสาวกหูฟังครอบหู Bose QuietComfort แล้วรักมาก หาทางออกไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะด้วยเรื่องคุณภาพหรือความสบายก็ครองใจคุณได้หมด เราอยากแนะนำรุ่นล่าสุด ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่เคยมีรุ่นก่อนหน้าและอยากเปลี่ยน หรือเพิ่งเริ่มหาหูฟังครอบหูใส่สบายแต่เสียงดีไม่มีตก อยากให้มามุงรุ่นนี้เลย ที่เพิ่งเปิดตัวไปช่วงต้นตุลาปี 2023 นี่เอง เรื่องความสดใหม่คือไม่เป็นสองรองใคร ในรอบนี้หูฟังครอบหู Bose รุ่น QuietComfort Ultra มาพร้อมกับ Bluetooth 5.3 ซึ่งใหม่กว่าเจ้าตัว Bose 700 UC และ Bose QuietComfort 45 เรื่องความสบายคือให้มาแน่นอนไม่ต้องห่วง และเรื่องคุณภาพเสียงรอบนี้มาพร้อมกับ Spatial Audion และเทคโนโลยี Bose Immersive Audio ให้ทั้งเสียงมีมิติและสมจริง แบตถ้าใช้แบบปกติอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง ยังปรับเสียงให้กับแต่ละบุคคลในแอปได้อีก เรื่องตัดเสียงรบกวนคือเก่งขึ้น ใครที่อยากอัพเกรดกับความดีงามที่ว่า ถึงเวลาแล้ว นี่อาจจะกลายเป็นหูฟังครอบหูลูกรักของคุณได้ไม่ยาก

น้ำหนัก : 252 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 35 mm

รีวิวจากผู้ซื้อ: คุณภาพสุดยอดตามราคาครับ ดีงามมาก

หูฟังครอบหู Hi-res Soundcore รุ่น Space One มาในราคาที่น่ารักมากพอ ๆ กับตัวดีไซน์ของหูฟังเลย ใครมีงบประมาณ 3,000 บาท คือซื้อได้หายห่วง และให้ความคุ้มเกินราคา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียงที่รองรับ Hi-Res Audio และยังมี ANC ที่เหมาะกับคนที่ต้องการความเงียบเป็นพิเศษเวลานั่งเครื่องแค่พกเจ้าหูฟังตัวนี้ไว้ก็เงียบเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวแล้วล่ะ แบตเตอรี่เองอยู่ได้นานถึง 55 ชั่วโมงในโหมดปกติ ถ้าเปิด ANC อยู่ได้นาน 40 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไฟลท์ยาวก็เอาอยู่ ถ้าใครเน้นฟังนาน ฟังได้เงียบ ตัวเลือกนี้น่าสนไม่น้อยเลย หลายสื่อก็ชื่นชอบกันเยอะหลังได้ลอง แต่ถ้าใครซีเรียสเรื่องไมโครโฟนเจ้าตัวนี้ก็ไม่ใช่ว่าทำได้ไม่ได้ แต่อาจจะทำได้ไม่เท่ากับรุ่นที่ชูโรงเรื่องไมค์เป็นหลัก

น้ำหนัก : 286 g | ไร้สาย/มีสาย : ไร้สาย | Driver (มิลลิเมตร) : 40 mm.

รีวิวจากผู้ซื้อ: สินค้าราคาไม่แพง ส่งเร็ว แพคสินค้าดีคุณภาพดีมาก คุ้มราคา แนะนำครับร้านนี้ เสียงดี ประทับใจ ประสบการณ์การเปิดกล่องดีมาก แพคมาอย่างดี