ในยุคที่ หูฟังบลูทูธ ไม่ได้เป็นแค่ไอเทมเสริม แต่กลายเป็นเพื่อนคู่ใจในการฟังเพลง ประชุม เล่นเกม หรือออกกำลังกาย การเลือกหูฟังที่ “ใช่” จึงต้องตอบโจทย์ทั้ง คุณภาพเสียง, ความสบายในการสวมใส่, แบตเตอรี่ทนทาน, และ ฟีเจอร์เฉพาะทาง เช่น ตัดเสียงรบกวน (ANC) หรือ กันน้ำ
บทความนี้เรารวม หูฟังไร้สายระดับท็อป ทั้งแบบ True Wireless, Over-ear, และ In-ear จากแบรนด์ที่คุณไว้ใจได้ เช่น Sony, Bose, Apple, Samsung, JBL, Sennheiser, Marshall, Shokz, SteelSeries และอีกมากมาย ทุกรุ่นที่เลือกมามี คุณภาพเสียงโดดเด่น และอยู่ในช่วง ราคาหลักพันขึ้นไป เหมาะสำหรับคนที่จริงจังเรื่องเสียงและประสบการณ์การใช้งาน
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหา หูฟังบลูทูธเสียงดีที่สุด 2025, หูฟังใส่ออกกำลังกาย, หูฟังสำหรับเล่นเกม, หรือหูฟังที่ใส่สบายทั้งวัน ที่นี่เรารวบรวมไว้หมดแล้ว พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

บรรณาธิการ
Table of Contents
20 หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่สุดของ True Wireless ตัวท็อป

เราได้ทดลองรีวิวหูฟัง Bluetooth Creative รุ่น Aurvana Ace 2 เรียกว่าตอนแรกสะดุดตากับสีเลยอย่างแรกและการออกแบบ แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าแล้วเรื่องเสียงล่ะเป็นอย่างไรบ้าง งั้นก็มาลองอ่านได้ที่ข้างล่างเลยค่ะทุกคน แอบสปอยล์นิดนึงว่าตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวตึงสำหรับคนหาหูฟังบลูทูธ tws ตัดเสียงรบกวนเลยน่า เงียบมาก เกริ่นแค่นี้ยังไม่หมดน่า มีดีอีกเยอะ ไปอ่านกัน

คุณภาพเสียง
เรื่องเสียงเราบอกเลยว่าทำได้ดีมาก เก็บย่านเสียงได้เยอะ และเสียงร้องชัด และเสียงดนตรีก็ดีมาก คือ ดีแบบสมดุลเลยล่ะ ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดเรื่องตัดเสียงเรามีทำรีวิวแบบเต็มไว้ให้อ่านที่บทความแนะนำหูฟังตัดเสียงรบกวนแล้วน่าทุกคน และการเชื่อมต่อดี ไวมากกับ Bluetooth 5.3 LE Audio ที่ใช้พลังงานต่ำลงแต่ดีมากกว่า มีไดรเวอร์ 2 อัน คือ xMEMS Solid-state Driver และ 10 mm. Dynamic Driver ช่วยทำให้เสียงที่ออกมาจากหูฟังดี นอกจากนี้ยังมี Snapdragon Sound จาก Qualcomm ทำเรื่อง ANC ออกมาดี ตัดได้มากถึง 96% ไมค์ดีด้วยทั้งหมด 6 ตัว ข้างละ 3 ตัว รองรับ Audio Codec ได้หลายแบบด้วย
และมีโบนัสเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ ในหมู่บ้านเรามีการจัดงานแล้วเขาเปิดลำโพงดังมากตอนเราฟังเพลง ตอนที่ยังไม่เปิด ANC คือเสียงเข้ามาปนกับเพลงเลย แต่พอลองมาเปิด ANC คือมันเงียบไปเลยทุกคนได้ยินเสียงลำโพงเข้ามาแบบน้อยกว่าเดิมเยอะมาก เวลาเพลงหยุดแป้ปนึงเราจะได้ยินเสียงลำโพงเขาอยู่บ้าง แต่ตอนเพลงเล่น คือกลบเสียงลำโพงไปได้เยอะเลย (บ้านห่างกันได้ประมาณ 3 หลังนะคะพูดให้เห็นภาพ แต่ลำโพงดังจริง ๆ) หรือถ้าใครอยากได้แบบเงียบไปเลยจริง ๆ ก็ลองเข้าไปอ่านรีวิวของหูฟังครอบหู Creative Zen Hybrid 2 (คลิกที่นี่) ได้น่าเผื่อจะเป็นทางเลือกอีกอันสำหรับคนชอบหูฟัง Full size
ความสบายระหว่างใส่
เรื่องความสบาย ใส่สบายดีค่ะ เกาะหูได้ดี ภาพรวมก็คือไม่ทำให้ปวดหูอย่างที่คิด

วัสดุ/งานประกอบ
วัสดุทำออกมาได้ดีค่ะ สีของหูฟังแปลกตาดีมาก สีดำทองแดงแบบโปร่ง เห็นถึงข้างในได้ เราว่าเป็นการออกแบบที่เท่ไปอีกแบบเลย งานประกอบทำดีค่ะ แต่จะมีงงนิดหน่อยน่าถ้าใช้แรก เพราะไม่ได้มีเปอร์เซนต์แบตให้ดู แต่จะเป็นไฟกะพริบทั้งหมด 3 สีให้ดูค่ะ เพราะงั้นถ้าชาร์จผ่านเคสบ่อย ๆ อย่าลืมดูสีของไฟด้วยน่า มีสีเขียว เหลือง และแดงที่แปลว่าใกล้หมดแล้ว

แบตเตอรี่
สำหรับตัวหูฟังแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 6 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีเลยสำหรับหูฟังไร้สายราคากลางแบบนี้ แต่ถ้ารวมการชาร์จผ่านเคสด้วยแล้ว เราจะใช้งานได้ทั้งหมด 24 ชั่วโมงน่า
เหมาะกับใคร
เป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่หาหูฟังไร้สายงบกลาง ๆ 5000 บาทนิด ๆ แต่ได้เสียงที่ทำออกมาได้ดี และเน้นการโทรเพราะให้ไมค์มาถึง 6 ตัว และยังรองรับ Audio Codec หลายแบบ อายุการใช้งานแบตยังถือว่าเป็นอีกอย่างที่ต้องพูดถึง ไดรเวอร์ดี ประสิทธิภาพการตัดเสียงที่ต้องร้องว้าว เราว่าใครที่หาตัวจบตัดเสียง ANC และยังราคาไม่ทำให้เหงื่อตกเกินไป เราว่านี่แหละเหมาะกับการลงทุนอีกรุ่น
รีวิวจากผู้ใช้
“เสียงดีมาก ตัดเสียงรบกวนได้ ไมค์ 6 ตัว ตัดเสียงเงียบมากจริง ๆ ตัวเคสและหูฟังน่าทึ่งแปลกใหม่ดี”

Sony WH-1000XM6 หูฟังไร้สายแบบครอบหู (Over-Ear) ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักเสียงเพลงอย่างแท้จริง ด้วย เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Adaptive NC Optimizer ที่ปรับระดับได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าคุณจะเดินทาง ขึ้นรถไฟ หรืออยู่ในออฟฟิศที่เสียงดัง ก็ยังฟังได้ชัดเจนไร้รบกวน
ตัวหูฟังน้ำหนักเบาเพียง 254 กรัม สวมใส่สบายแม้ใช้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง พร้อม ไมโครโฟน 12 ตัว ที่ทำงานร่วมกับระบบ AI ให้เสียงสนทนาคมชัด ไม่หลุดโทน
ไดรเวอร์ 30 มม. ถูกจูนร่วมกับวิศวกร Mastering ระดับโลก เสริมด้วย ระบบเสียง Hi-Res Audio Wireless (LDAC) ให้มิติเสียงกว้าง รายละเอียดครบ ย่านเบสแน่น ย่านแหลมชัด เหมาะสำหรับทั้งฟังเพลง วิดีโอคอล หรือดูหนังผ่านมือถือ Android หรือ iPhone
รองรับ การเชื่อมต่อบลูทูธ 5.3, เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ (Multipoint) และยังมีโหมด Speak-to-Chat, Head Gesture, 360 Reality Audio และ Quick Access ร่วมกับ Spotify
แบตอึดมาก ๆ ฟังต่อเนื่องได้สูงสุด 40 ชั่วโมง (ปิด ANC) หรือ 30 ชั่วโมง (เปิด ANC) รองรับชาร์จเร็วเพียง 3 นาที เล่นได้อีก 3 ชั่วโมง
WH-1000XM6 ยังรองรับระบบเสียง 360 Spatial Sound, Head Tracking และฟีเจอร์ใหม่ Auracast™ ที่ถ่ายทอดเสียงไร้สายแบบหลายอุปกรณ์ในพื้นที่เดียวกันได้
ทั้งหมดนี้ทำให้ Sony WH-1000XM6 เป็นตัวเต็งสำหรับใครที่มองหา หูฟังบลูทูธเสียงดีที่สุด 2025, ทั้งในด้านคุณภาพเสียง ความสบาย ฟีเจอร์ล้ำ และความคุ้มค่าในระดับพรีเมียม
สเปคเด่น Sony WH-1000XM6:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Bluetooth แบบ Over-Ear
- น้ำหนักเบาเพียง 254 กรัม
- ไดรเวอร์ยูนิต 30 มม. พร้อมแม่เหล็กนีโอดิเมียม
- รองรับ Hi-Res Audio Wireless (LDAC), DSEE Extreme
- ระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive NC Optimizer + Ambient Sound Mode
- ไมค์ 12 ตัวพร้อม AI Noise Suppression
- ฟังเพลงได้นานสุด 40 ชม. (ปิด ANC) / 30 ชม. (เปิด ANC)
- ชาร์จเร็ว 3 นาที ใช้ได้นาน 3 ชม.
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 + Auracast™
- รองรับ Fast Pair (Android), Swift Pair (Windows), Multipoint
- ฟีเจอร์: Speak-to-Chat, Head Gesture, Auto Play-Pause
- ระบบเสียง: 360 Reality Audio, Head Tracking, Spatial Sound Personalizer
- ควบคุมแบบสัมผัส + รองรับ Google Assistant
- มีพอร์ตเสียบสาย 3.5 มม. สำหรับใช้งานแบบ Wired
- สี: Midnight Blue, ดำ, เงินแพลตตินัม

Bose QuietComfort Ultra หูฟังบลูทูธไร้สายแบบครอบหู (Around-Ear) ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า “เงียบ” และ “สบาย” ด้วยระบบ Active Noise Cancelling (ANC) ที่ปรับระดับได้ และเทคโนโลยี Echo Reduction ทำให้คุณโฟกัสกับเสียงที่ต้องการได้แบบเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ในที่สาธารณะหรือบนเครื่องบิน
ตัวหูฟังมีดีไซน์เรียบหรู วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังโปรตีน (Protein Leather) และอะลูมิเนียม ช่วยให้สัมผัสนุ่ม ใส่สบายตลอดทั้งวันโดยไม่กดหัว มาพร้อม ไมโครโฟนในตัว ที่ให้เสียงสนทนาเคลียร์ชัดในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะประชุมผ่าน Zoom หรือโทรผ่านมือถือ
แม้จะไม่มีสาย 3.5 มม. ให้ในกล่อง แต่การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth Low Energy ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหล ประหยัดพลังงาน พร้อมรองรับทั้ง A2DP, AVRCP, HFP ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ Android และ iPhone
ใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และชาร์จเต็มใน 3 ชั่วโมง ผ่าน USB-C พร้อมรองรับการตั้งค่าต่าง ๆ ผ่าน แอป Bose Music เพื่อปรับระดับเสียง, โหมด ANC และอื่น ๆ ได้อย่างละเอียด
สำหรับใครที่มองหา หูฟังบลูทูธเสียงดี 2025, ที่ตัดเสียงรบกวนเหนือระดับ สวมใส่สบาย และไมค์ชัด QuietComfort Ultra คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
สเปคเด่น Bose QuietComfort Ultra:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Bluetooth แบบ Around-Ear (Over-Ear)
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling + Echo Reduction
- วัสดุ: พลาสติก, อะลูมิเนียม, หนังโปรตีน (Protein Leather)
- ฟองน้ำหูฟังถอดเปลี่ยนได้
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 24 ชม. / ชาร์จเต็มใน 3 ชม.
- ไมโครโฟนในตัว พร้อมระบบปรับเสียงพูดให้ชัดเจน
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth + รองรับ A2DP, AVRCP, HFP, BLE
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย (ไม่มีช่องเสียบ 5 มม.)
- รองรับ Bose Music App สำหรับปรับแต่งเสียง
- พอร์ตชาร์จ: USB-C
- มาพร้อมเคสแข็งพกพา

beyerdynamic Aventho 300 หูฟังบลูทูธไร้สายระดับเรือธงจากเยอรมนี ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการ เสียงคมชัดระดับมืออาชีพ ควบคู่กับเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะฟังเพลง เล่นเกม หรือดูหนัง ก็พร้อมมอบประสบการณ์เสียงที่เหนือชั้น
หูฟังรุ่นนี้ใช้ ไดรเวอร์ STELLAR.45 ที่มีชื่อเสียงด้านความแม่นยำของเสียง และรองรับย่านความถี่กว้างถึง 5Hz–22kHz เพื่อการฟังที่เต็มอารมณ์ทุกย่านเสียง ทั้งเบสลึก เสียงร้อง และเสียงแหลม
เด่นด้วย Spatial Audio พร้อม Dolby Head Tracking ที่ปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ สัมผัสมิติเสียง 3 มิติที่เหมาะกับคอนเทนต์ Dolby Atmos ได้อย่างสมจริง
ยังมาพร้อมกับ Adaptive Noise Cancelling ที่ใช้ชิป Sony สองตัวร่วมกับ Transparency Mode ให้คุณเลือกได้ว่าจะตัดเสียงรอบข้างหรือเปิดรับตามสถานการณ์
แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมง (เปิด ANC) พร้อมชาร์จเร็วผ่าน USB-C เพียง 10 นาที ฟังต่อได้อีก 5 ชั่วโมง เหมาะกับการเดินทางไกลหรือทำงานทั้งวัน
รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth 5.4 และ สาย 3.5 มม., รองรับ Multipoint Connection, โค้ดเสียงระดับสูงอย่าง aptX Adaptive / Lossless / LE Audio, และเชื่อมต่อกับแอป Beyerdynamic เพื่อปรับ EQ ได้ถึง 5 โหมด
ด้วยดีไซน์แบบ Over-Ear น้ำหนักเบา วัสดุอลูมิเนียม + เมมโมรี่โฟม และสามารถพับเก็บได้ Aventho 300 คืออีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่มองหา หูฟังไร้สายเสียงดี 2025, ที่ครบเครื่องทั้งคุณภาพ เสถียรภาพ และความสบาย
สเปคเด่น beyerdynamic Aventho 300:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Over-Ear (Bluetooth และมีสาย 3.5 มม.)
- ไดรเวอร์: Stellar.45 ผลิตในเยอรมนี
- ระบบ Dolby Head Tracking + Spatial Audio รองรับ Dolby Atmos
- Adaptive ANC + Transparency Mode พร้อมชิป Sony
- Bluetooth 5.4 รองรับ Multipoint เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์
- รองรับโค้ดเสียง: AAC, aptX Adaptive, aptX Lossless, LE Audio
- แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 50 ชั่วโมง (เปิด ANC)
- ชาร์จเร็ว: 10 นาที ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชม.
- น้ำหนัก: 319 กรัม
- รองรับแอป Beyerdynamic EQ ปรับเสียงได้ 5 โหมด
- วัสดุ: อลูมิเนียม + หนังโปรตีน + เมมโมรี่โฟม
- สีให้เลือก: Nordic Grey และ Black

Sonos Ace หูฟังบลูทูธไร้สายระดับไฮเอนด์ที่เกิดมาเพื่อผู้ฟังที่ต้องการประสบการณ์เสียงที่ “รู้สึกได้จริง” ทุกจังหวะ ทั้งดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ด้วยการออกแบบเสียงโดยทีมวิศวกรระดับโลก และไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ที่จูนมาอย่างแม่นยำ ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความละเอียดครบทุกย่าน ตั้งแต่เสียงสูงใสไปจนถึงเบสลึก
ความโดดเด่นอยู่ที่ระบบ Spatial Audio พร้อม Dolby Head Tracking ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะแบบเรียลไทม์เพื่อให้คุณ “อยู่กลางเวทีเสียง” ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเดิน หันหัว หรือเอนหลัง
หูฟังยังมาพร้อม Active Noise Cancelling แบบไดนามิก, โหมด Aware Mode สำหรับฟังเสียงรอบข้าง และ ไมโครโฟน 8 ตัว ที่จัดวางเพื่อการตัดเสียงรบกวนและจับเสียงสนทนาได้ชัดเจนทุกสถานการณ์
ดีไซน์ถูกออกแบบให้ใส่ได้นานโดยไม่ล้า ด้วยเมมโมรี่โฟมหุ้มหนังวีแกน, โครงเหล็กปรับระดับได้แม่นยำ และโฟกัสที่ “การไม่รู้สึกว่ากำลังใส่หูฟัง” เลย
แบตเตอรี่อึดใช้งานได้สูงสุด 30 ชม. พร้อม ชาร์จเร็ว 3 นาที ฟังต่อได้อีก 3 ชม., และยังรองรับ TV Audio Swap ที่ให้คุณสลับเสียงจาก Sonos Arc หรือ Beam มายังหูฟังได้ทันทีเมื่อไม่อยากรบกวนคนในบ้าน
Sonos Ace รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth พร้อม Lossless Audio, ใช้สายได้ทั้ง USB-C และ 3.5 มม. เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการ หูฟังไร้สายเสียงดี 2025 แบบ all-in-one ที่ทั้งฟังและฟีลครบ
สเปคเด่น Sonos Ace:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Bluetooth แบบ Over-Ear
- ไดรเวอร์: ไดนามิกขนาด 40 มม. (custom-tuned)
- Spatial Audio: รองรับ Dolby Atmos + Dynamic Head Tracking
- ANC: Active Noise Cancelling พร้อม Aware Mode
- ไมโครโฟน: 8 ตัวสำหรับตัดเสียงรบกวนและสนทนา
- เชื่อมต่อ: Bluetooth + Lossless Audio / USB-C / USB-C to 3.5mm
- ใช้งานได้นาน: 30 ชม. (เปิด ANC)
- ชาร์จเร็ว: 3 นาที = 3 ชม. ใช้งาน
- ฟีเจอร์: TV Audio Swap, รองรับ Sonos App
- วัสดุ: หนังวีแกน, เมมโมรี่โฟม, โครงเหล็กปรับระดับ
- สี: ขาว / ดำ
- ไม่มี WiFi ก็ใช้งานได้

Bowers & Wilkins PX7 S3 คือหูฟังบลูทูธไร้สายระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ด้วย ไดรเวอร์ไบโอเซลลูโลส 40 มม. จำนวน 2 ตัว และ ระบบ DAC + DSP ประสิทธิภาพสูง ให้คุณสัมผัสเสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดในทุกย่านความถี่
รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 พร้อมโค้ดเสียงระดับสูงอย่าง aptX Lossless, aptX Adaptive, aptX HD, AAC และ SBC ทำให้คุณได้เสียงแบบ True 24-bit audio ที่แท้จริง แม้จะฟังผ่านมือถือ Android หรือ iPhone ก็ตาม
ฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้คือ ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC ที่ใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 8 ตัว พร้อม อัลกอริธึม ADI Pure Voice สำหรับการโทรที่คมชัดแม้อยู่ในที่มีเสียงรบกวนมาก
หูฟังรุ่นนี้ยังรองรับ EQ ปรับได้ 5 ย่านเสียง และโหมด TrueSound™ ที่ให้เสียงสมดุลและเป็นธรรมชาติ เหมาะทั้งฟังเพลง ทำงาน หรือดูหนังยาว ๆ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง, และหากรีบใช้งานก็ชาร์จเพียง 15 นาที ฟังต่อได้อีก 7 ชั่วโมง เชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายและผ่านสาย USB-C หรือ 3.5 มม.
PX7 S3 มาพร้อมดีไซน์ Over-Ear น้ำหนักเพียง 300 กรัม ใส่สบายแม้ใส่นานหลายชั่วโมง มีให้เลือก 3 สีสวยหรู: Canvas White, Anthracite Black, และ Indigo Blue ถือเป็นหนึ่งในหูฟังไร้สายเสียงดีที่สุดในปี 2025 อย่างแท้จริง
สเปคเด่น Bowers & Wilkins PX7 S3:
- ประเภท: หูฟังบลูทูธไร้สาย Over-Ear พร้อมตัดเสียงรบกวน
- ไดรเวอร์: 2 x 40 มม. Bio Cellulose Dynamic Drivers
- เสียง: True 24-bit audio + DSP & DAC ในตัว
- ANC: Hybrid Active Noise Cancelling พร้อมไมโครโฟน 8 ตัว
- Bluetooth: เวอร์ชัน 5.3 รองรับ aptX Lossless / Adaptive / HD / Classic, AAC, SBC
- ไมค์: รวม 8 ตัว ใช้ระบบ ADI Pure Voice ในการโทร
- แบตเตอรี่: ใช้ได้นาน 30 ชม. / ชาร์จเร็ว 15 นาที ฟังต่อ 7 ชม.
- อินพุต: USB-C และ 3.5 มม. (มีสายแถมในกล่อง)
- น้ำหนัก: 300 กรัม (ไม่รวมกล่อง)
- สี: Canvas White, Anthracite Black, Indigo Blue

Apple AirPods Pro 2 รุ่น USB-C คือหูฟังไร้สาย True Wireless ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone และอุปกรณ์ Apple อย่างไร้รอยต่อ ด้วย ชิป H2 + U1 ที่จัดการเสียง การเชื่อมต่อ และการควบคุมได้อย่างแม่นยำ พร้อมฟีเจอร์ระดับโปรในขนาดเล็กจิ๋ว
โดดเด่นด้วย Active Noise Cancelling (ANC) ที่ฉลาดกว่ารุ่นก่อน พร้อม โหมดฟังเสียงภายนอก และ ระบบตรวจจับเสียงพูดอัตโนมัติ ที่สลับโหมดให้ทันทีเมื่อคุณเริ่มสนทนาโดยไม่ต้องแตะอะไรเลย
ระบบเสียงภายในใช้ ไดรเวอร์แบบ High-Excursion และแอมป์เฉพาะของ Apple ทำให้ได้เสียงคมชัด มีมิติทั้งย่านสูง กลาง และเบส พร้อม EQ อัตโนมัติ, และ เสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) ที่รองรับ Dynamic Head Tracking เพื่อประสบการณ์ 3 มิติสุดสมจริง
มีไมโครโฟนคู่ Beamforming + ไมค์หันเข้าด้านในเพื่อวิเคราะห์เสียงในหู เพิ่มคุณภาพการฟังและการโทรให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน
แบตเตอรี่ฟังได้นาน 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ (หรือ 30 ชม. พร้อมเคส) และยังสามารถชาร์จเร็วแค่ 5 นาที ใช้งานได้ 1 ชม. เคส MagSafe แบบใหม่ยังรองรับการชาร์จผ่าน Apple Watch, Qi, USB-C และมีลำโพงในตัว + ช่องคล้องสาย
ใครที่มองหา หูฟังบลูทูธใส่สบาย, เสียงดี, ไมค์ชัด และผสานการใช้งานใน Ecosystem ของ Apple ได้สมบูรณ์ที่สุด AirPods Pro 2 คือหนึ่งในตัวเลือกที่แนะนำที่สุดในปี 2025
สเปคเด่น Apple AirPods Pro 2:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear
- ไดรเวอร์: High-Excursion Driver + Amplifier เฉพาะของ Apple
- ระบบตัดเสียงรบกวน: Active Noise Cancelling พร้อม Adaptive Ambient Mode
- Spatial Audio + Head Tracking แบบไดนามิก
- ไมโครโฟนคู่แบบ Beamforming + ไมค์หันเข้าด้านใน
- เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนัง, การเคลื่อนไหว และการพูด
- การควบคุม: แบบสัมผัส + บีบ + เลื่อนปรับระดับเสียง
- รองรับ Siri ด้วยเสียง “หวัดดี Siri”
- กันน้ำและฝุ่น IP54 (ตัวหูฟังและเคส)
- แบตเตอรี่: 6 ชม. ต่อการชาร์จ / 30 ชม. รวมเคส
- ชาร์จเร็ว: 5 นาที = ฟังหรือสนทนาได้ ~1 ชม.
- รองรับ: iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Apple TV
- เชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3

Sony WF-1000XM5 คือหูฟังไร้สายแบบ In-Ear True Wireless ที่จัดอยู่ในกลุ่มหูฟังบลูทูธเสียงดีที่สุดแห่งปี 2025 ด้วยระบบ Active Noise Cancelling ระดับเรือธง ที่ปรับตามสภาพแวดล้อมอย่างชาญฉลาด และ ไดรเวอร์ขนาด 8.4 มม. แบบใหม่ที่ให้เสียงทรงพลังในขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม
มาพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme ที่ช่วยคืนรายละเอียดเสียงที่หายไปจากการบีบอัด และรองรับโค้ดเสียง LDAC สำหรับผู้ที่ต้องการเสียงแบบ Hi-Res Wireless บน Android
ไมโครโฟน Beamforming และไมค์ตรวจจับเสียงภายใน เพิ่มความคมชัดให้การสนทนา และรองรับโหมด Ambient Sound + Quick Attention ที่ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างทันทีโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
การควบคุมใช้ระบบสัมผัสแบบแม่นยำ และยังสามารถใช้งานร่วมกับ Google Assistant หรือ Alexa ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ (เปิด ANC) และรวมกับเคสแล้วใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับ การชาร์จไร้สาย และ กันน้ำระดับ IPX4 เหมาะสำหรับสายฟังเพลง นักเดินทาง หรือคนที่ใช้หูฟังทั้งวัน
Sony WF-1000XM5 จึงเป็นตัวเลือกแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหา หูฟังบลูทูธเสียงดี ไร้สาย True Wireless ไมค์ชัด และใส่สบายในทุกการใช้งาน
สเปคเด่น Sony WF-1000XM5:
- ประเภท: หูฟังบลูทูธ True Wireless แบบ In-Ear
- ไดรเวอร์: 8.4 มม. Dynamic Driver (ใหม่ล่าสุด)
- ระบบตัดเสียงรบกวน: ANC แบบปรับตามสภาพแวดล้อม
- โหมดเสียงรอบข้าง: Ambient Sound + Quick Attention
- โค้ดเสียงที่รองรับ: LDAC, AAC, SBC, LC3
- เทคโนโลยีเสียง: DSEE Extreme + Hi-Res Audio Wireless
- Bluetooth: เวอร์ชัน 5.3 รองรับโปรไฟล์ A2DP, AVRCP, HFP ฯลฯ
- กันน้ำ: IPX4
- แบตเตอรี่: 8 ชม. ต่อการชาร์จ (เปิด ANC) / สูงสุด 24 ชม. รวมเคส
- การชาร์จ: USB-C + Wireless Charging
- สี: สีดำ, สีเงินแพลตตินัม, สีชมพูสโมกกี้
- น้ำหนัก: หูฟังข้างละ 5.9 กรัม / เคส 39 กรัม

Samsung Galaxy Buds3 Pro เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ครบทั้งในด้าน คุณภาพเสียง, การสนทนา, และ ความทนทาน โดยเฉพาะในระบบ Android Ecosystem
โดดเด่นด้วย ไมโครโฟนถึง 6 ตัว ผสานกับ VPU (Voice Pickup Unit) ทำให้เสียงคมชัดระดับโทรในสตูดิโอ แม้อยู่กลางถนน หรือในสถานที่พลุกพล่าน พร้อม Active Noise Cancelling (ANC) ที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
ยังรองรับ Ambient Sound, 360 Audio, และ Bluetooth 5.4 ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อเสถียรขึ้น ประหยัดแบต และลด latency ได้ดียิ่งกว่าเดิม เหมาะทั้งดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมมือถือ
Galaxy Buds3 Pro มาพร้อมเซ็นเซอร์ขั้นสูงหลายจุด เช่น Gyro, Proximity, Pressure, และ Touch Sensor เพิ่มความแม่นยำในการควบคุมและตรวจจับตำแหน่งระหว่างการใช้งาน
กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP57, ใช้งานกลางแจ้งหรือออกกำลังกายได้ไม่ต้องกังวล พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้คุณฟังเพลงได้นานสุด 30 ชม. (ปิด ANC) และ 26 ชม. (เปิด ANC)
สำหรับผู้ที่มองหา หูฟังบลูทูธเสียงดี 2025, ไมค์ชัด แบตอึด ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ครบเครื่องในขนาดพกพา Buds3 Pro คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์แบบจบในคู่เดียว
สเปคเด่น Samsung Galaxy Buds3 Pro:
- ประเภท: หูฟังบลูทูธไร้สาย True Wireless
- ระบบตัดเสียง: Active Noise Cancelling + Ambient Sound
- ไมค์ทั้งหมด: 6 ตัว (พร้อม VPU สำหรับจับเสียงพูดแม่นยำ)
- Bluetooth: เวอร์ชัน 5.4
- โหมดเสียง: รองรับ 360 Audio
- กันน้ำ/กันฝุ่น: มาตรฐาน IP57
- น้ำหนักหูฟัง: 4 กรัม / เคส: 46.5 กรัม
- แบตหูฟัง: ฟังเพลงสูงสุด 7 ชม. (ANC Off) / 6 ชม. (ANC On)
- แบตรวมเคส: ฟังเพลงรวมได้ 30 ชม. (ANC Off) / 26 ชม. (ANC On)
- เซ็นเซอร์: Gyro, Accelerometer, Pressure, Proximity, Touch
- รองรับ: Bixby Voice Wake-up

Bose QuietComfort Earbuds หูฟังบลูทูธแบบ In-Ear ที่ตอบโจทย์ทั้งสายฟังเพลงและทำงาน ด้วยเทคโนโลยี Adjustable Noise Cancelling ที่คุณสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ตามต้องการ ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะในคาเฟ่, ออฟฟิศ หรือขณะเดินทาง
ดีไซน์เน้นความกระชับและสวมใส่สบาย ด้วยจุกหูฟังซิลิโคนเกรดพรีเมียมที่ล็อกพอดีกับใบหูโดยไม่กดเจ็บ แม้ใส่นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ตัวหูฟังน้ำหนักเพียง 0.024 ปอนด์ และยังกันน้ำระดับ IPX4 เหมาะกับการใช้งานระหว่างออกกำลังกายหรือเดินกลางแจ้ง
แม้จะไม่มีโหมด Ambient Sound โดยตรง แต่การเปิด ANC ระดับต่ำก็เพียงพอสำหรับให้คุณรับรู้เสียงรอบข้างได้ดีในชีวิตประจำวัน
หูฟังรุ่นนี้มาพร้อม ไมโครโฟนในตัว ที่คมชัด รองรับการสนทนาและคอลประชุมได้ดี และยังใช้งานร่วมกับแอป Bose QCE App ที่ช่วยปรับค่าเสียงและฟังก์ชันได้เพิ่มเติม
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 8.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเต็มใน 1.5 ชั่วโมงผ่านพอร์ต USB-C โดยรวมแล้วถือเป็นหูฟังไร้สายที่คุ้มค่าในกลุ่ม หูฟัง True Wireless ตัดเสียงรบกวนเสียงดี ปี 2025
สเปคเด่น Bose QuietComfort Earbuds:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Bluetooth แบบ In-Ear (True Wireless)
- ระบบตัดเสียงรบกวน: Adjustable ANC ปรับระดับได้
- ไมโครโฟน: ในตัว (Built-in)
- กันน้ำ: IPX4 (กันเหงื่อ/ฝนเบา)
- น้ำหนักหูฟัง: 0.024 ปอนด์ / เคส: 0.104 ปอนด์
- แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง / ชาร์จเต็มใน 1.5 ชม.
- พอร์ตชาร์จ: USB-C
- การเชื่อมต่อ: A2DP, AVRCP, HFP Bluetooth Profiles
- รองรับแอป: Bose QCE App
- วัสดุ: พลาสติก PC-ABS, ซิลิโคน, โลหะ

EarFun Wave Pro คือหูฟังไร้สายแบบ Over-Ear ที่มาแรงในปี 2025 สำหรับใครที่ต้องการ หูฟังบลูทูธแบตอึด, ตัดเสียงดี และเสียงคมชัดระดับ Hi-Res โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงราคากลางที่เข้าถึงง่าย
รองรับ Bluetooth Codec แบบ LDAC ซึ่งเป็นมาตรฐาน Hi-Res Wireless Audio ที่ให้คุณภาพเสียงสูงกว่า SBC หลายเท่า เหมาะกับการฟังเพลงที่ต้องการความละเอียดทั้งเบส กลาง แหลม
โดดเด่นด้วย แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง (ปิด ANC) หรือ 55 ชั่วโมงเมื่อเปิดระบบตัดเสียง ถือว่าอึดที่สุดในกลุ่ม หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนแบบ Over-Ear
ระบบ ANC (Active Noise Cancelling) มีประสิทธิภาพในระดับดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับราคารุ่นนี้ ทำให้คุณดื่มด่ำกับเพลงหรือพ็อดแคสต์ได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน
วัสดุแน่น แข็งแรง น้ำหนัก 268 กรัม สวมใส่ได้มั่นคงแม้ใช้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง พร้อมใช้งานร่วมกับ แอป EarFun สำหรับปรับค่าเสียงและอัปเดตเฟิร์มแวร์
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เวอร์ชันใหม่ในย่าน 2.402–2.480GHz และสามารถทำงานได้ไกลถึง 15 เมตรเมื่อไม่มีสิ่งกีดขวาง
เหมาะสำหรับใครที่กำลังหา หูฟังไร้สายเสียงดี แบตอึด ใส่สบาย ที่ใช้งานได้ทุกวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ
สเปคเด่น EarFun Wave Pro:
- ประเภท: หูฟังไร้สาย Bluetooth แบบ Over-Ear
- ระบบตัดเสียงรบกวน: ANC (Active Noise Cancelling)
- Bluetooth Codec: รองรับ LDAC และ SBC
- ระยะการใช้งาน: สูงสุด 15 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)
- แบตเตอรี่: 800 mAh
- ระยะเวลาการใช้งาน: สูงสุด 80 ชม. (ปิด ANC) / 55 ชม. (เปิด ANC)
- การชาร์จ: 2 ชั่วโมง / DC 5V 1A
- น้ำหนัก: 268 กรัม
- ขนาด: 7 x 82.4 x 210.8 มม.
- รองรับแอป: EarFun

TOZO Golden X1 คือหนึ่งในหูฟังบลูทูธ True Wireless ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 เพราะให้คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพในราคาที่จับต้องได้ มาพร้อม Dual-Driver System โดยใช้ทั้ง Dynamic Driver ขนาด 12 มม. และ Knowles Balanced Armature Driver เพื่อให้ทุกย่านเสียงมีความคมชัดและแม่นยำ
รองรับ LDAC, AAC, และ SBC ช่วยให้ได้เสียงคุณภาพสูงสุดเมื่อฟังจากสมาร์ทโฟน Android หรืออุปกรณ์ที่รองรับ Hi-Res Audio Wireless อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบตัดเสียงรบกวนมีให้เลือกหลากหลาย เช่น Noise Cancellation, Transparency, Leisure Mode, และ Custom Pattern รวมถึงโหมดต้านลม (Reduce Wind Noise) เหมาะกับใช้งานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
จุดเด่นอีกอย่างคือ ไมค์ 3 ตัวต่อข้าง พร้อมเทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) สำหรับสายคอลที่ต้องการเสียงพูดชัดทุกสถานการณ์
แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5–8 ชม. ต่อการชาร์จ และรองรับการชาร์จแบบ ไร้สาย (Qi Wireless) พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX6 ใช้งานได้แม้มีเหงื่อหรือฝนตก
TOZO Golden X1 เหมาะกับผู้ที่ต้องการ หูฟังไร้สายเสียงดี 2025, ใช้ได้ทุกวันทั้งฟังเพลง ประชุม คอล หรือเดินทาง
สเปคเด่น TOZO Golden X1:
- ประเภท: หูฟังบลูทูธแบบ In-Ear True Wireless
- ไดรเวอร์: 12 มม. Dynamic + Knowles Balanced Armature
- Frequency Response: 12Hz – 44.1kHz
- ระบบตัดเสียง: ANC + Transparency + Wind Noise + Custom Mode
- ไมค์: Triple-mic พร้อม ENC Call Noise Reduction
- Audio Codec: LDAC, AAC, SBC
- แบตเตอรี่: 5 ชม. (เปิด ANC) / 8 ชม. (ปิด ANC)
- เคส: 500 mAh / รองรับ Qi Wireless Charging
- กันน้ำ: IPX6 (ระดับทนเหงื่อและฝนตก)
- Bluetooth: 5.3 ระยะสัญญาณ 10 เมตร
- น้ำหนัก: หูฟังข้างละ 8 กรัม / รวมเคส 54.6 กรัม
- ใช้งานร่วมกับแอป: รองรับ TOZO App

Sony LinkBuds S คือหูฟังบลูทูธแบบ True Wireless ขนาดเล็กที่สุดจาก Sony ในกลุ่มที่รองรับระบบ ตัดเสียงรบกวน (ANC) แบบ Adaptive ปรับตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ จุดเด่นคือใส่สบาย น้ำหนักเบาแค่ 4.8 กรัมต่อข้าง แต่ยังคงพลังเสียงระดับ Hi-Res ผ่าน LDAC codec พร้อมไดรเวอร์ 5 มม. ขับเสียงได้แน่นเกินขนาด
มีโหมด Ambient Sound Mode ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟัง และ Quick Attention สำหรับพูดคุยสั้น ๆ ได้ทันที แค่แตะค้างที่หูฟัง
ฟีเจอร์เสียงระดับโปรอย่าง DSEE Extreme ก็ถูกอัดมาให้ เพื่อเพิ่มรายละเอียดเสียงจากไฟล์เพลงคุณภาพต่ำให้กลับมาคมชัดขึ้นอีกขั้น
ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ (เปิด ANC) หรือ 9 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC ส่วนเคสก็มีขนาดกะทัดรัด พกพาสบาย
รองรับ มาตรฐานกันน้ำ IPX4 ป้องกันเหงื่อหรือฝนเบา ๆ เหมาะสำหรับคนที่ใช้หูฟังระหว่างเดินทาง ออกกำลังกาย หรือใส่ทำงานทั้งวัน
สเปคเด่น Sony Linkbuds S WF-LS900N:
- ประเภท: หูฟังไร้สายแบบ In-Ear True Wireless
- น้ำหนักหูฟัง: ประมาณ 4.8 กรัมต่อข้าง
- ไดรเวอร์: 5 มม. พร้อมแม่เหล็กนีโอไดเมียม
- ระบบเสียง: รองรับ SBC, AAC, และ LDAC
- ระบบตัดเสียงรบกวน: ANC + Ambient Sound + Quick Attention
- กันน้ำ: มาตรฐาน IPX4 (กันเหงื่อ/ละอองฝน)
- เทคโนโลยีเสียง: DSEE Extreme เพิ่มคุณภาพเสียงไฟล์บีบอัด
- ระยะใช้งาน: สูงสุด 6 ชม. (เปิด ANC) / สูงสุด 9 ชม. (ปิด ANC)
- เวลาชาร์จ: หูฟัง 2 ชม. / เคส 3 ชม.
- Bluetooth: เวอร์ชัน 5.2 (ระยะ 10 เมตร)
- น้ำหนักเคส: ประมาณ 35 กรัม

Beats Solo Buds คือหูฟังไร้สายที่มาในเคสขนาดเล็กที่สุดจาก Beats เท่าที่เคยมีมา แต่พลังเสียงไม่เล็กตามขนาด ด้วยระบบ acoustic architecture แบบ custom-built ที่ออกแบบมาเพื่อเสียงดนตรีโดยเฉพาะ ให้เสียงชัด เบสแน่น และบาลานซ์อย่างแม่นยำ
หูฟังรุ่นนี้ใช้ไดรเวอร์แบบ dual-layer ช่วยลดความเพี้ยนของเสียงในทุกย่านความถี่ พร้อม laser-cut venting ที่ช่วยทั้งเรื่องเสียงเบสและความสบายขณะสวมใส่
มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังรองรับระบบ Fast Fuel ที่ชาร์จแค่ 5 นาที ใช้งานได้อีก 1 ชั่วโมง
ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone หรือ Android ก็สามารถจับคู่อุปกรณ์ได้ง่าย ๆ ด้วย one-touch pairing และยังรองรับระบบ Find My หรือ Find My Device เพื่อไม่ให้หูฟังหายไปไหนง่าย ๆ
ฟังชัดคุยชัดด้วย ไมค์ที่ใช้ algorithm ช่วยตัดเสียงรบกวนในการโทร เหมาะสำหรับการใช้ทั้งฟังเพลง ดูคลิป และโทรศัพท์ในทุกวัน
สเปคเด่น Beats Solo Buds:
- รูปแบบหูฟัง: True Wireless In-Ear
- ไดรเวอร์: Dual-layer custom transducers
- ระบบเสียง: เบสแน่น เสียงใส ไร้การบิดเบือน
- การเชื่อมต่อ: Class 1 Bluetooth®, รองรับ iOS และ Android
- ไมโครโฟน: แบบพิเศษ พร้อม AI ช่วยตัดเสียงรบกวนขณะโทร
- เวลาใช้งาน: สูงสุด 18 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- Fast Fuel: ชาร์จ 5 นาที เล่นเพลงได้ 1 ชม.
- ขนาดเคส: 4 x 6.6 x 3.5 ซม. / น้ำหนักรวม 33.4 กรัม
- ขนาดหูฟัง: 9 x 2.05 x 1.85 ซม. / น้ำหนักต่อข้าง 5.7 กรัม
- วัสดุบรรจุภัณฑ์: ทำจากเส้นใยพืช 100% เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Sennheiser Momentum 4 คือตัวแทนของคำว่า "พรีเมียม" ในโลกของ หูฟังไร้สายครอบหู ที่ออกแบบมาเพื่อคอเพลงจริงจัง ด้วยระบบ ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 42 มม. ที่ให้ย่านเสียงครบทุกมิติ ทั้งเสียงต่ำแน่น เสียงกลางแม่น และเสียงสูงใสเคลียร์
ไฮไลต์สำคัญคือระบบ Hybrid Adaptive ANC ที่ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้แม้ในพื้นที่เสียงดัง เช่น รถไฟฟ้า หรือออฟฟิศเปิด
รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.2 พร้อม codec ขั้นเทพ อย่าง aptX Adaptive, AAC, SBC ทำให้เสียงที่ส่งจากมือถือมาถึงหูฟังยังคงความคมชัดสมจริงทุกย่าน
แบตเตอรี่คือจุดเด่นที่สุด: ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 60 ชั่วโมงพร้อม ANC และชาร์จเพียง 5 นาที ฟังได้นานถึง 4 ชั่วโมง เหมาะกับนักเดินทาง นักเรียนนอก หรือคนทำงานที่ไม่อยากชาร์จบ่อย
ดีไซน์แนบหูแบบ Circumaural พร้อมวัสดุคุณภาพพรีเมียม ช่วยให้ใส่ฟังเพลงนาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกกดหรือร้อน
สเปคเด่น Sennheiser Momentum 4:
- รูปแบบหูฟัง: Headband, Around-the-ear (Circumaural)
- ไดรเวอร์: Dynamic 42 มม.
- ความถี่เสียง: 6 Hz – 22 kHz
- การตัดเสียงรบกวน: Hybrid Adaptive ANC
- Bluetooth 5.2 (Class 1) รองรับ SBC, AAC, aptX, aptX Adaptive
- ไมค์: Beamforming MEMS, 2 ตัวต่อข้าง
- ระยะใช้งาน: สูงสุด 60 ชม. พร้อม ANC
- Fast charge: ชาร์จ 5 นาที ใช้งานได้ 4 ชม.
- การเชื่อมต่อ: USB-C, รองรับทั้ง iOS และ Android
- น้ำหนักเบา ใส่สบาย ใช้งานยาวนานโดยไม่ปวดหัว

Marshall Monitor III A.N.C. คือหูฟังครอบหูไร้สายระดับพรีเมียมที่รวมความคลาสสิกแบบร็อกเข้ากับเทคโนโลยีล้ำยุค เหมาะสำหรับสายฟังเพลงที่ต้องการทั้งคุณภาพเสียงที่จัดเต็มและดีไซน์สุดเท่ไม่เหมือนใคร
โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่อึดที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ฟังได้นานถึง 100 ชั่วโมง เมื่อใช้ Bluetooth ปกติ และ 70 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC ใส่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
ไดรเวอร์ขนาด 32 มม. พร้อมจูนเสียงแบบเอกลักษณ์ของ Marshall ให้เสียงกลางชัด เบสแน่น และเสียงสูงมีพลัง พร้อมรองรับ Bluetooth 5.3 และ codec อย่าง SBC, AAC สำหรับสตรีมมิ่งคุณภาพสูง
ตัดเสียงรบกวนได้แบบ Active Noise Cancellation ปรับได้ตามต้องการผ่านแอป Marshall Bluetooth และยังพับเก็บได้ เหมาะกับการพกพา ใช้งานทั้งในออฟฟิศ บนรถไฟ หรือในคาเฟ่
ควบคุมทุกอย่างง่ายด้วยปุ่ม Control Knob สุดเท่ พร้อม M-button สำหรับเรียกโหมดเสียงโปรดที่ตั้งค่าไว้
สเปคเด่น MARSHALL Monitor III:
- ประเภท: หูฟังครอบหู (Over-ear) แบบ Dynamic
- ขนาดไดรเวอร์: 32 มม.
- ความไวเสียง: 117 dB SPL
- ความถี่เสียง: 20 Hz – 20,000 Hz
- การเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.3
- Codec ที่รองรับ: SBC, MPEG-2 AAC
- ระบบตัดเสียงรบกวน: Active Noise Cancellation (ANC)
- ระยะใช้งาน: 70 ชม. (ANC) / 100 ชม. (Bluetooth only)
- Fast Charge: 15 นาที ฟังได้นาน 12 ชม.
- รองรับแอป Marshall Bluetooth
- มีพอร์ต USB-C และสาย AUX สำหรับใช้แบบมีสาย
- น้ำหนักเบาเพียง 250 กรัม พับเก็บได้

SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless คือที่สุดของหูฟังไร้สายสำหรับเกมเมอร์สายโปร ที่ให้คุณได้สัมผัสกับเสียงเกมและเสียงเพลงระดับ Hi-Res บนหูฟังครอบหูสุดพรีเมียม ด้วยไดรเวอร์ขนาด 40 มม. รองรับเสียงความละเอียดสูงถึง 40,000 Hz
มาพร้อม ระบบ Dual Wireless เชื่อมต่อพร้อมกันได้ทั้ง 2.4GHz และ Bluetooth 5.0 ไม่ว่าจะเล่นบน PC, PS5, Switch, หรือ Steamdeck ก็เชื่อมได้หมด รองรับเสียงแบบไร้ความหน่วงและเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ทันทีผ่าน Base Station
ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid 4 ไมโครโฟน พร้อม Transparency Mode ช่วยให้คุณโฟกัสกับเกมได้เต็มที่ หรือเปิดรับเสียงรอบข้างได้เมื่อจำเป็น
โดดเด่นด้วยระบบ Infinity Power System แบตคู่ Hot-Swap ถอดเปลี่ยนได้ใน 8 วินาที ไม่มีหยุดชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 44 ชม. และ Fast Charge เพียง 15 นาที ฟังได้ต่ออีก 3 ชม.
ไมค์แบบ ClearCast Gen 2 คมชัด พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ ใช้งานได้ทั้งเล่นเกมและประชุมออนไลน์
สเปคเด่น SteelSeries Arctis Nova Pro Wireless:
- หูฟังไร้สายสำหรับเกมเมอร์ รองรับ PC, PS5, Switch, Steamdeck, Mac และมือถือ
- ไดรเวอร์ Neodymium ขนาด 40 มม. รองรับ Hi-Res Audio สูงสุด 40,000 Hz
- รองรับ Dual Wireless: Bluetooth 5.0 + 2.4GHz ความหน่วงต่ำ
- ระบบ Active Noise Cancellation แบบ Hybrid 4 ไมโครโฟน + Transparency Mode
- ไมค์ ClearCast Gen 2 แบบ Boom ถอดเก็บได้ พร้อม ENC
- Infinity Power System: ถอดแบตเปลี่ยนได้ ใช้งานต่อเนื่องแบบไม่ต้องรอชาร์จ
- แบตเตอรี่ 2 ก้อน ใช้ได้นานสูงสุด 44 ชม. พร้อมชาร์จไว 15 นาที = 3 ชม.
- รองรับ Sonar Software และ ChatMix สำหรับ Windows
- มาพร้อม Wireless Base Station, USB-C, AUX และอุปกรณ์ครบชุด
- ได้รับ TCO Certified ด้านความยั่งยืน

Shokz OpenRun Pro 2 คือหูฟังไร้สายแนวใหม่สำหรับนักวิ่ง นักปั่น และสายฟิตเนสที่ต้องการความปลอดภัยและคุณภาพเสียงไปพร้อมกัน ด้วยเทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 10 เสียงจะถูกส่งผ่านกระดูกบริเวณขมับโดยไม่ต้องปิดหู ช่วยให้คุณยังได้ยินเสียงรอบข้างอย่างชัดเจนในขณะออกกำลังกาย
มาพร้อมระบบ DualPitch™ ที่ปรับจูนเสียงให้มีมิติดีขึ้น โดยเฉพาะเสียงเบสที่แน่นและมีพลังมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ Shokz ทิ้งห่างหูฟังออกกำลังกายทั่วไป
แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ชั่วโมง เพียงพอสำหรับใช้งานทั้งวัน ทั้งยังมีดีไซน์ที่เบาเพียง 30.3 กรัม ด้วยวัสดุผสมซิลิโคนและโลหะ nickel-titanium ที่ทั้งยืดหยุ่นและทนทาน
ระดับการกันน้ำ IP55 ช่วยให้ใช้งานได้แม้ในวันที่เหงื่อท่วม หรือวิ่งฝนตกเบา ๆ เหมาะกับทั้งการใช้กลางแจ้งหรือในยิม
สเปคเด่น Shokz OpenRun Pro 2:
- เทคโนโลยี Bone Conduction รุ่นที่ 10 (ส่งเสียงผ่านกระดูก ไม่ปิดหู)
- ระบบ DualPitch™ ปรับเสียงให้ลึกขึ้น ชัดขึ้น โดยเฉพาะเสียงเบส
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 12 ชม. ต่อการชาร์จเพียง 1 ชม.
- กันเหงื่อและกันน้ำระดับ IP55 (เหมาะกับวิ่งและปั่นกลางแจ้ง)
- น้ำหนักเบาเพียง 3 กรัม ใส่ได้นานไม่เมื่อย
- วัสดุยืดหยุ่นและทนทาน: Silicone + Plastic + Nickel-titanium alloy
- เปิดตัวในปี 2024 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Shokz

JBL Quantum 910 Wireless คือหูฟังเกมมิ่งไร้สายที่ถูกออกแบบมาเพื่อมือโปรและเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์อย่างแท้จริง เสียงรอบทิศแบบ Dual Spatial Hi-Res ที่มาพร้อม Head Tracking จะวางตำแหน่งเสียงในเกมให้แม่นยำทุกองศา ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้า หรือกระสุนจากด้านหลัง
นอกจากความแม่นยำของเสียงแล้ว ยังมี ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active (ANC) ที่ช่วยให้คุณโฟกัสกับเกมได้แม้จะเล่นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมาก และยังมีไมโครโฟนที่คมชัดระดับแคสเกมได้สบาย
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2, USB ดองเกิล, และสาย 3.5 มม. แถมยังสามารถเล่นต่อได้แม้ตอนชาร์จ (เล่นไปชาร์จไปได้) ด้วย แบตเตอรี่สูงสุด 39 ชั่วโมง สวมใส่สบายแม้จะเล่นยาวทั้งวันด้วยน้ำหนักเบาและดีไซน์ครอบหูที่กระชับ
JBL Quantum 910 Wireless ไม่ได้เป็นแค่หูฟังเกม แต่เป็นอาวุธเสริมที่จะทำให้คุณได้ยินก่อน โต้กลับได้ไว และชนะในทุกแมตช์
สเปคเด่น JBL Quantum 910:
- ไดรเวอร์ขนาด 50 มม. ให้เสียงทรงพลังทุกย่านความถี่
- ระบบเสียง Spatial Audio พร้อม Head Tracking ช่วยให้เสียงเคลื่อนไหวตามศีรษะ
- Active Noise Cancelling (ANC) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
- Bluetooth 5.2 + Wireless USB Dongle รองรับทั้งไร้สายและแบบต่อสาย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 39 ชม. และเล่นขณะชาร์จได้
- ไมค์แบบถอดได้ + ฟองน้ำกันลม เสียงชัดสำหรับแชทหรือสตรีม
- รองรับ A2DP 1.3, HFP 1.8, ใช้งานได้ทั้ง PC, คอนโซล, และมือถือ
- หูฟังแบบครอบหู น้ำหนัก 420 กรัม ใส่สบาย ยาวนาน
- มีแอปปรับ EQ + คาลิเบรตเสียง ได้ตามสไตล์เกมที่เล่น

สำหรับหูฟัง in-ear tws ของ Hoco ตัวนี้นั้นเราได้มีโอกาสมาทำการทดลองใช้เอง และต้องบอกว่าทึ่งมากกับหูฟังในราคาไม่เกิน 1000 บาทของ Hoco EQ5 ได้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi มาในราคาน่ารักมาก และยังมีความสามารถตัดเสียงรบกวนได้อีก มาอ่านรายละเอียดที่น่าสนใจของหูฟังบลูทูธ ราคาถูก ที่ครองใจเรารุ่นนี้กันเลย
คุณภาพเสียง
ครั้งแรกที่ได้ลองแกะกล่องออกมาแล้วเอาหูฟังมาลองใส่ดู เปิดเพลงจาก App Spotify คุณภาพเสียงแบบสูงที่สุด ผลปรากฎว่าหูฟัง Hoco EQ5 ทำออกมาได้แบบประทับใจมาก เสียงดีสุด ๆ ไม่ต้องเพิ่มระดับเสียงสูงเลย แต่ได้เสียงที่ชัด มีความไพเราะ เสียงกลอง เสียงเบสก็เก็บได้ดีเลย เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยที่ประมวลผลออกมาได้ดีขนาดนี้ เวลาใส่ฟัง ASMR ผ่าน YouTube ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน เอาจริง ๆ มองว่าหูฟังบลูทูธรุ่นนี้เก็บความครบได้ทุกประเภทเพลงเลยจะฟังสบาย ๆ ก็เสียงออกมาดี หรือจะค่อนเน้นเบส กลองแบบตุบ ก็ทำได้สบายเลย
ในเรื่องโหมดตัดเสียงรบกวน ANC และ ENC ทำออกมาได้ดีเลย สามารถแตะสลับโหมดที่ touch control ค้างไว้แป้ปเดียวก็สลับโหมดให้แล้ว ใครต้องการความเงียบ คือ ทำได้เงียบได้น่าประทับใจ ส่วนการลองโทรคุยผ่านหูฟังเสียงก็ได้ยินชัดเจนดี
ความสบายระหว่างใส่
โดยส่วนตัวแล้ว Editor มีหูฟังทรงคล้ายแบบนี้มาแล้ว เพราะงั้นจึงไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เรื่องความพอดีถือว่าไม่มีที่ติ และความสบายก็ทำได้ดี แต่ถ้ามีนอนตะแคงแบบข้ามคืนก็อาจจะมีปวดหูได้นิดหน่อย แต่ถ้าใครนอนตะแคงก็อาจจะต้องระวังเรื่องเพลงหยุดกลางคันด้วย เพราะ touch control ค่อนข้างไวต่อการสัมผัส แต่โดยส่วนตัวใช้ไปสักพักก็จะเริ่มชินกับ touch control แล้ว ทั้งนี้ถ้าใครใส่หูฟังที่ทาง Hoco จัดมาให้ไม่พอดี ข้างในกล่องมีจุกมาให้เปลี่ยนด้วย เลือกได้ตามความพอดีของรูหูได้เลย
วัสดุ/งานประกอบ
ก่อนที่จะไปพูดถึงความพรีเมี่ยมของวัสดุ เราขอชมก่อนว่า ตัวหูฟังและเคสเองเบามาก ๆ ชอบมาก ไม่เป็นภาระในการพกพาเลย ในเรื่องวัสดุอาจจะไม่ได้ดูหรูขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าสมกับราคาขายอยู่ ไม่มีก๊องแก๊งระหว่างเปิด-ปิดฝาเคสแต่อย่างใด นอกจากนี้ตัวเคสหูฟังบลูทูธยังมีจอ LED ที่แสดงสถานะแบตได้ ไม่ต้องนั่งเดาเลยว่าตอนนี้เหลือเท่าไหร่
แบตเตอรี่
อย่างที่เราได้บอกไปว่าตรงเคสมีจอ LED แสดงปริมาณแบตอยู่ ช่วยให้เรารู้ได้อย่างรวดเร็วว่าแบตหรือเท่าไหร่แล้ว ในเรื่องของความทนของแบตก็อยู่ที่ 6-7 ชั่วโมงได้เลยถ้าแค่ฟังเพลง อาจจะหมดไวหน่อยถ้าใช้กับการโทรศัพท์ ทางเราชาร์จในเคส 1 ครั้งแล้วใส่ได้ยาว ๆ ไปเลย สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงมาก ๆ ถ้าใช้สักครึ่งวันประมาณนี้ ตัวแบตไหวอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าใครเปิด ANC ก็อาจจะหมดไวกว่าตัวเลขด้านบนนะคะ
เหมาะกับใคร
หูฟังบลูทูธ Hoco EQ5 ถือว่าเหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่อยากได้เสียงที่ดีในการฟังเพลงและไมค์ที่ใช้ได้ระหว่างการโทร ตัวเลือกไม่ทำให้ผิดหวัง แม้ว่าราคาตั้งต้นของหูฟัง tws hoco นี้จะแตะพันในความเป็นจริง แต่ทางร้านก็มีส่วนลดให้อยู่เรื่อย ๆ โดยจะลดให้ประมาณ 58% ไปเลย เท่ากับว่าเราจะได้มาครอบครองจริง ๆ แค่ 500 บาทนิด ๆ เท่านั้น ถือว่าคุ้มมาก ๆ เลย
แต่ว่าถ้าใครจะซื้อมาใช้เราแนะนำให้หาเคสใส่ด้วยจะดีมาก เพราะว่าบางทีมือเราอาจจะถือโน้นนี่ไปด้วย หรือมือลื่น ๆ เคสอาจจะหล่นจากมือได้นะคะ นอกจากนี้ใครมีที่ห้อย ตรงเคสก็มีรูให้ใส่สายห้อยคอหรือคล้องแขนด้วยน่า
รีวิวจากผู้ใช้
“เสียงทำออกมาได้เกินราคามาก ใส่ได้สบาย และที่สำคัญคือมีตัวเลขบอกหน้าเคสด้วยว่าตอนนี้หูฟังเหลือแบตเท่าไหร่ ไม่ต้องนั่งเดาอีกต่อไป และโหมดตัดเสียงรบกวนเค้าทำออกมาได้ดีเลยนะ อีกอย่างตอนฟังเพลงคือเสียงดีมาก ฟังเพลงได้เพลิน เก็บเบสได้ดีอยู่นะระดับนี้”
สรุปจุดเด่นของแต่ละรุ่นตามประเภทหูฟัง
หูฟัง True Wireless (TWS) – ใส่ในหู ไม่มีสาย
เหมาะกับ: ใช้งานประจำวัน, พกพาสะดวก, เชื่อมต่อมือถือ
ฟีเจอร์เด่น: ขนาดเล็ก, บางรุ่นมี ANC (ตัดเสียงรบกวน), กันน้ำได้บางรุ่น
- Creative Aurvana Ace 2
- Apple AirPods Pro 2
- Sony WF-1000XM5
- Samsung Galaxy Buds3 Pro
- Bose QuietComfort Earbuds
- EarFun Wave Pro
- TOZO Golden X1
- Sony Linkbuds S WF-LS900N
- Beats Solo Buds
- HOCO EQ5
หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบครอบหู (Over-Ear ANC Headphones)
เหมาะกับ: คนทำงาน, เดินทางบ่อย, ฟังเพลงจริงจัง
ฟีเจอร์เด่น: ANC คุณภาพสูง, เสียงสมดุล, ใส่สบาย
- Sony WH‑1000XM6
- Bose QuietComfort Ultra Headphones
- Bowers & Wilkins PX7 S3
- Sennheiser Momentum 4 Wireless
- Sonos Ace
- MARSHALL Monitor III
ดูเพิ่มเติม: แนะนำ หูฟังครอบหู ยี่ห้อไหนดี
หูฟังครอบหูพรีเมียม / ไฮไฟ (Hi-Fi Audiophile Over-Ear)
เหมาะกับ: นักฟังเพลงจริงจัง, คนชอบเสียงที่แม่นยำและโปร่ง
ฟีเจอร์เด่น: เสียงระดับ Hi-Res, วัสดุดี, ดีไซน์พรีเมียม
- Beyerdynamic Aventho 300
- Bowers & Wilkins PX7 S3
- Sonos Ace (เน้น spatial audio)
หูฟังเกมมิ่ง (Gaming Headsets)
เหมาะกับ: เกมเมอร์ทุกระดับ, เล่นบนพีซี / คอนโซล
ฟีเจอร์เด่น: ไมค์ตัดเสียง, spatial sound, เชื่อมต่อหลายแบบ
- SteelSeries Arctis Nova Pro
- JBL Quantum 910 Wireless Gaming Headset
หูฟังออกกำลังกาย / ใส่วิ่ง / ใส่สบาย (Sports & Open-Ear)
เหมาะกับ: ใส่วิ่ง, ปั่นจักรยาน, คนที่ไม่ชอบ in-ear
ฟีเจอร์เด่น: เบา, กันเหงื่อ, ไม่อุดหู
- Shokz OpenRun Pro 2 (Bone Conduction แบบคล้องหู)
ประเภทหูฟังไร้สายที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

"หูฟังไร้สาย" มีหลายแบบ และแต่ละแบบก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน เช่น ใช้ในออฟฟิศ, เล่นเกม, ฟังเพลง Hi-Fi หรือออกกำลังกาย เราขอแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้:
1. หูฟังไร้สายแบบครอบหู (Over-Ear Wireless Headphones)
จุดเด่น: ใส่สบาย เสียงแน่น เบสลึก ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
เหมาะกับ: คนที่ต้องการคุณภาพเสียงแบบจัดเต็ม ใช้ฟังเพลงนาน ๆ หรือทำงานในที่มีเสียงดัง
ตัวอย่างรุ่น: Sony WH-1000XM6, Bose QC Ultra, Bowers & Wilkins PX7 S3
2. หูฟังไร้สายแบบ TWS (True Wireless Stereo Earbuds)
จุดเด่น: เล็ก พกง่าย ไม่มีสายพันกัน ใช้งานได้ทั้งโทรศัพท์และฟังเพลง
เหมาะกับ: ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทั่วไป คนที่เน้นความคล่องตัว ฟังเพลงระหว่างเดินทาง
ตัวอย่างรุ่น: AirPods Pro 2, Sony WF-1000XM5, Beats Solo Buds, TOZO Golden X1
3. หูฟังไร้สายเกมมิ่ง (Wireless Gaming Headsets)
จุดเด่น: มีไมค์ชัด เสียงเซอร์ราวด์ชัดเจน รองรับการเล่นเกมแบบไร้ดีเลย์/ดีเลย์น้อยมาก ๆ
เหมาะกับ: เกมเมอร์สาย PC/Console ที่ต้องการประสบการณ์เล่นเกมระดับสูง
ตัวอย่างรุ่น: SteelSeries Arctis Nova Pro, JBL Quantum 910 Wireless
อ่านเพิ่มเติม: หูฟังดีเลย์แก้ยังไง ให้เสียงทันปาก ดูแล้วสนุกตาม
4. หูฟังไร้สายแบบเปิดหู (Open-Ear / Bone Conduction)
จุดเด่น: ไม่อุดหู ปลอดภัยเวลาวิ่งหรือขี่จักรยาน เสียงแวดล้อมยังเข้าได้
เหมาะกับ: นักวิ่ง นักปั่น หรือคนที่ต้องการฟังเพลงพร้อมรับรู้สิ่งรอบข้าง
ตัวอย่างรุ่น: Shokz OpenRun Pro 2
หูฟัง Bluetooth ต่างจาก True Wireless ยังไง

ในยุคที่หูฟังไร้สายกลายเป็นของจำเป็นประจำวัน หลายคนอาจสงสัยว่า หูฟัง Bluetooth กับหูฟัง True Wireless มันต่างกันยังไง?
คำตอบ คือ ทั้งคู่ใช้เทคโนโลยี Bluetooth เหมือนกัน แต่ มีความต่างเรื่องดีไซน์และการใช้งานที่สำคัญมาก ดังนี้:
หูฟัง Bluetooth: ยังมีสายเชื่อมหูฟังซ้าย-ขวาอยู่
- ตัวหูฟังอาจเชื่อมต่อไร้สายกับมือถือผ่าน Bluetooth
- แต่ยังมีสายคล้องระหว่างข้างซ้ายและขวา เช่น แบบคล้องคอ หรือมีตัวควบคุมติดอยู่
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าบางรุ่น และหายยากเพราะไม่แยกชิ้น
- ราคามักถูกกว่า True Wireless
เหมาะกับ: คนออกกำลังกาย, คนที่กลัวหูฟังหล่นหาย, หรือชอบควบคุมเพลงจากตัวสาย
หูฟัง True Wireless (TWS): แยกซ้าย-ขวา อิสระ 100%
- ไม่มีสายใด ๆ เลย ตัวหูฟังซ้าย-ขวาแยกอิสระ
- เก็บในเคสชาร์จได้ และพกง่าย
- มีไมโครโฟน, ปรับ EQ, ตัดเสียงรบกวน (ANC) ได้ในตัว
- เทคโนโลยี Bluetooth ที่ใช้จะเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อเชื่อมต่อเสถียรขึ้น
เหมาะกับ: คนที่ต้องการความคล่องตัวสูง, ใช้งานในชีวิตประจำวัน, หรือเน้นดีไซน์ทันสมัย
วิธีเลือกหูฟังบลูทูธที่ใช่
7 ปัจจัยสำคัญ ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อหูฟังบลูทูธ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายฟังเพลง สายเกม หรือสายประชุมก็ใช้ได้หมด
เลือกประเภทหูฟังให้ตรงไลฟ์สไตล์
- True Wireless (TWS): อิสระไร้สาย 100% พกง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะกับคนใช้ระหว่างวัน
- แบบคล้องคอ: เหมาะกับสายออกกำลังกาย กันเหงื่อดี ไม่หล่นง่าย
- แบบครอบหู (Over-Ear): เน้นเสียงดี เบสแน่น ใส่ทำงาน เล่นเกม หรือฟังนาน ๆ ได้สบาย
เช็คคุณภาพเสียง
- ดู ขนาดไดรเวอร์ (ยิ่งใหญ่ ยิ่งมีส่วนให้พลังเสียงดีขึ้น) เช่น 40mm หรือ 50mm
- รองรับ Bluetooth codecs เช่น AAC, aptX, LDAC = คุณภาพเสียงดีขึ้น
- ถ้าเน้นเสียงเบส ฟัง EDM/Hip-Hop ให้เลือกที่จูนเสียงแบบ Bass Boost
ต้องการตัดเสียงรบกวนไหม? (ANC)
- Active Noise Cancelling (ANC): ลดเสียงรบกวนรอบตัว เหมาะกับคาเฟ่ สนามบิน หรือที่ทำงาน
- ถ้าไม่จำเป็น ต้องการประหยัดแบตและงบ เลือกรุ่นไม่มี ANC ก็เพียงพอ
อ่านเพิ่มเติม: ENC และ ANC ต่างกันอย่างไร
แบตเตอรี่และการชาร์จ
- เช็คว่าใช้งานได้กี่ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- มี Fast Charge ไหม? เช่น ชาร์จ 10 นาที ใช้ได้ 1–3 ชม.
- รุ่นที่มาพร้อม เคสชาร์จแบบพกพา จะสะดวกสำหรับคนเดินทาง
คุณภาพไมโครโฟน & ใช้คุยสายได้ชัดไหม
- ถ้าใช้ประชุมหรือคุยโทรศัพท์บ่อย ควรเลือกรุ่นที่มีไมค์ตัดเสียงรบกวน
- บางรุ่นมี AI Call Noise Cancelling เพื่อให้เสียงพูดชัดแม้ในที่พลุกพล่าน
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์
- ใช้ Android หรือ iPhone? ถ้าเป็น iOS ให้เลือกรุ่นที่รองรับ AAC
- มีฟีเจอร์เสริมเช่น Google Fast Pair, Find My, Multi-Point (เชื่อมพร้อมกัน 2 อุปกรณ์) หรือไม่
งบประมาณที่เหมาะสม
งบประมาณ |
คุณสมบัติที่ควรได้ |
ต่ำกว่า 2,000 บาท |
คุณภาพเสียงพื้นฐาน, ไม่มี ANC |
2,000 – 5,000 บาท |
TWS, เสียงดีขึ้น, มี Fast Charge หรือไมค์ดี |
5,000 – 10,000 บาท |
มี ANC, App ปรับ EQ, คุณภาพเสียงระดับสูง |
10,000+ บาท |
ระบบเสียง Hi-Res, ANC ขั้นสูง, วัสดุพรีเมียม |
หูฟังบลูทูธสำหรับ Android กับ iOS ต่างกันไหม?
คำตอบสั้น ๆ: ใช้ด้วยกันได้แทบทุกรุ่น แต่ ประสบการณ์ใช้งานอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ codec, ฟีเจอร์เฉพาะระบบ, และ การเชื่อมต่อแบบลึก ระหว่างอุปกรณ์กับหูฟัง
ลองดูรายละเอียดแบบเจาะลึกแต่ย่อยง่ายด้านล่าง
ใช้งานข้ามระบบได้ไหม?
- หูฟังบลูทูธทุกตัวที่ได้มาตรฐานสามารถเชื่อมต่อกับทั้ง Android และ iOS ได้
- แต่ฟีเจอร์บางอย่างอาจ ใช้ได้ไม่ครบ ถ้าไม่ใช่ระบบที่รองรับโดยตรง
จุดที่ "แตกต่าง" จริง ๆ
Bluetooth Codec ที่รองรับ
- iOS รองรับหลัก ๆ แค่ AAC และ SBC
- Android รองรับหลากหลายกว่า เช่น aptX, LDAC, LC3 (ขึ้นอยู่กับรุ่นและแบรนด์)
- ถ้าหูฟังของรองรับ aptX หรือ LDAC (เช่น Sony, Sennheiser) จะแสดงศักยภาพเสียงได้เต็มที่บน Android มากกว่า
- แต่ถ้าใช้ iPhone/iPad ควรเลือกหูฟังที่ จูนมาดีสำหรับ AAC เช่น AirPods, Beats, หรือ B&O
แอปเสริมและฟีเจอร์พิเศษ
บางหูฟังมีแอปที่ทำงานเต็มประสิทธิภาพบน Android เท่านั้น เช่น:
- Sony Headphones App: บางรุ่น Android ปรับ EQ/Spatial Audio ได้มากกว่า
- Samsung Galaxy Buds App: มีเฉพาะ Android
ฝั่ง iOS เองมีความได้เปรียบกับ Apple Ecosystem เช่น:
- AirPods Pro / AirPods Max ใช้กับ iOS แล้วมี Spatial Audio, Find My, Auto Switching
- เชื่อมต่อผ่าน iCloud ได้อัตโนมัติระหว่างอุปกรณ์ Apple
การจับคู่ (Pairing)
- Android มีฟีเจอร์อย่าง Google Fast Pair
- iOS มี One-Tap Pairing สำหรับ AirPods / Beats ที่ใช้ชิป Apple H1 หรือ H2
ทั้งคู่รวดเร็วพอกัน แต่ ทำงานลื่นกว่าถ้าใช้ใน Ecosystem เดียวกัน
ถ้าใช้ Android:
- ควรเลือกหูฟังที่รองรับ aptX, LDAC, หรือ Google Fast Pair
ตัวอย่างรุ่น:
- Sony WF-1000XM5 / WH-1000XM6
- Sennheiser Momentum 4
- TOZO Golden X1
- Creative Aurvana Ace 2 (รองรับ aptX Lossless)
ถ้าใช้ iPhone:
- ให้เลือกหูฟังที่รองรับ AAC และมีการปรับจูนเสียงมาเพื่อ iOS
ตัวอย่างรุ่น:
- Apple AirPods Pro 2 / AirPods Max
- Beats Solo Buds
- Bose QuietComfort Ultra
- Marshall Monitor III
ดูเพิ่มเติม: วิธีรีเซ็ตหูฟังบลูทูธ
บทส่งท้าย
แม้หูฟัง Bluetooth แทบทุกรุ่นจะเชื่อมต่อได้ทั้ง Android และ iOS แต่ถ้าคุณต้องการประสบการณ์ที่ลื่นไหลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพเสียงระดับสูงสุดผ่าน codec อย่าง aptX หรือ AAC, การตั้งค่าผ่านแอปเฉพาะ, หรือฟีเจอร์อัจฉริยะแบบ One-Tap Pairing การเลือกหูฟังไร้สายให้ “ตรงรุ่นกับระบบปฏิบัติการ” ที่คุณใช้อยู่ก็ยังเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกหูฟังไร้สาย True Wireless, หูฟัง Bluetooth แบบครอบหู หรือหูฟังสำหรับสายเกมมิ่งโดยเฉพาะ การรู้จักระบบของตัวเองคือก้าวแรกสู่ประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุดในแบบของคุณเอง หวังว่าลิสต์หูฟังที่ทาง ProductNation Thailand นำมาแนะนำในบทความหูฟังบลูทูธ 2025 จะโดนใจทุกคนนะคะ มีความสุขกับทุกเสียงดนตรีกันถ้วนหน้าค่า