รวมให้แล้ว 10 ร้านตัดแว่น ที่ไหนดี มีคุณภาพ ราคาสบายกระเป๋า ให้โลกของเราแจ่มชัดกว่าเดิม

ลูกค้าของออนส่วนใหญ่จะเป็น 90% คนที่มีปัญหา สายตายาว คือของออน เป็นศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟ คนที่เข้ามาก็จะเป็นคนที่มีปัญหาสายตายาว อยากใส่โปรเกรสซีฟ ส่วนใหญ่คือจะเป็นเคสที่ เคยใส่โปรเกรสซีฟมาแล้วแต่ใช้ไม่ได้ อยากให้ออนมาช่วยแก้ไขให้ ซึ่งตรงนี้ออนก็บอกเลยว่า ความยากคือ ต้องเปิดใจคนไข้ใหม่ ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสชีฟให้กับคนไข้ใหม่ แล้วก็มีทั้งที่ไม่เคยใส่มาก่อน อยากลองเป็นครั้งแรกเลยก็มีค่ะ อันนี้ออนก็ดีใจมาก จะเริ่มต้นเค้าง่าย เหมือนไม่เคยติดหรือมีปัญหาอะไรมาก่อน อยากจะมาลอง แล้วก็มีที่ลูก ๆ หลาน ๆ พาคนไข้ที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุมาด้วยค่ะ

สายตาสั้นแต่กำเนิดก็เหมือนกันกับสายตายาว เกิดจากความเป็นภาวะค่าสายตาผิดปกติ ที่เกิดจากเลนส์ตาหักเหแสงจากวัตถุมากเกินไปจากการที่กระจกตามีความโค้งมากกว่าปกติหรือลูกตายาวผิดปกติ แสงจึงตกก่อนถึงจอตา ส่งผลให้สมองไม่สามารถประมวลผลได้อย่างชัดเจน ดังนั้น คนสายตาสั้นจะมองเห็นภาพในระยะใกล้ชัดเจน แต่ระยะไกลจะไม่ชัด หรือมองเห็นเป็นภาพเบลอ ๆ แต่อาจจะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้น คือ ปัจจัยทางพันธุกรรม เด็กที่สายตาสั้น ส่วนใหญ่มีประวัติพ่อแม่สายตาสั้น ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งมีสายตาสั้น ลูกจะมีโอกาสเกิดภาวะสายตาสั้นได้ค่ะ แล้วก็มีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น เด็กที่ชอบมองระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือ เล่นมือถือ ไอแพด จ้องจอนาน รวมถึงเด็กที่ไม่ค่อยทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีโอกาสเกิดภาวะสายตาสั้นได้มากกว่าปกติค่ะ

สายตา เนี่ย เราแบ่งออกเป็น 3 แบบเนาะ จะมี สายตาสั้น สายตายาว และก็สายตาเอียง สายตาสั้นกับสายตาเอียงเนี่ย เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าจะเพิ่มขึ้นหรือจะลดลงด้วยปัจจัยอะไรบ้าง อาจจะมีคนบอกว่า ถ้าเล่นโทรศัพท์ก็อาจจะทำให้สายตา สั้นเยอะ แต่ว่าบางที เล่นเยอะก็ไม่ได้ทำให้สายตาเพิ่ม คือมีสาเหตุไม่แน่ชัด ตามพฤติกรรมของแต่ละคน ส่วนสายตายาว ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือมียาวแต่กำเนิดเลย กับ สายตายาวตามอายุ สายตายาวแต่กำเนิด ก็เกิดขึ้นเหมือนกับสายตาสั้นหรือสายตาเอียง เป็นความผิดปกติในการหักเหแสงของดวงตาเรียกว่า (refractive errors) หากแสงที่เข้าสู่ดวงตาแล้วไม่โฟกัสบนจอประสาทตาพอดีจะทำให้เราเห็นภาพเบลอ ดังนั้น ทั้งสายสั้นแต่กำเนิดและก็สายตาเอียง จะทำให้มองไกลไม่ชัด ส่วนสายตายาวแต่กำเนิด คือจะมองใกล้ไม่ชัด มองไกลชัด ต่อมาสายตายาวคนแก่หรือสายตายาวตามอายุ จะเกิดจากความเสื่อมของตัวเลนส์ตาของเราด้านใน ที่มันเกิดความแข็งขึ้นทำให้ เวลาโฟกัส หรือมองใกล้มันต้อง โฟกัสต้องเป็นเลนส์นูน มันทำให้โฟกัสยาก ก็เลยจะเมื่อยตาเวลามองใกล้ มีอาการเบลอ ต้องยืดตัวออกไปจากวัตถุ หรือต้องหาแว่นสำหรับสายตายาวมาใส่

คนที่มีปัญหาสายตายาวที่เป็นสายตาคนแก่ อันนี้อาจจะ ใส่เป็นแว่นโปรเกรสซีฟ หรือเป็นแว่นพิเศษที่มีค่าสายตาทุกสายตาอยู่ในนั้น สำหรับคอนแทคเลนส์ก็จะมี คอนแทคเลนส์ที่เป็น multifocal ( (Multifocal Contact Lenses) เป็นคอนแทคเลนส์ที่มีทั้งแบบแข็งและนิ่ม ซึ่งภายในเลนส์จะมีค่าสายตาหลายระดับเพื่อให้เหมาะต่อการใช้งาน นิยมใช้ในผู้ที่มีปัญหาสายตาเสื่อมสภาพลงตามวัย หรือสายตายาวตามวัย) แต่ว่าโดยส่วนตัว ออนเคยให้ลองแล้วยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ออนแนะนำว่า ถ้ามีสายตายาว แนะนำเป็นแว่นโปรเกรสซีฟจะดีที่สุดค่ะ  ถ้าคนที่สายตาสั้นเยอะ ๆ อย่าง -900 -1000 แล้วเลนส์แว่นจะหนามาก จะทำให้ดูตาเล็ก ดูไม่ธรรมชาติ ก็สามารถใส่คอนแทคเลนส์พร้อมกับใส่แว่นได้ค่ะ แต่ในคนสายตายาว มองไกลชัด แต่มองใกล้เขาจะมองไม่ชัด อาจจะใส่แว่นโปรเกรสซีฟทับ แล้วมีคอนแทคเลนส์อยู่ในตาค่ะ

มันคือค่าสายตาค่ะ  สมมุติว่าเป็น -2.00 ตาม prescription(ค่าสายตา) ตามใบสั่งเลนส์ หมายถึงสายตาสั้น ส่วน +2.00 อันนี้จะหมายถึงสายตายาว แต่ว่ามันจะค่อนข้างซับซ้อนนิดนึงว่า ในใบสั่งเลนส์เขาจะมีระบุว่า อันนี้ยกตัวอย่างนะคะ ค่าสายตา - 200 - 100 แล้วก็ AXIS 180 แล้วก็มีข้างหลังเขียนว่า ADD อีก อย่างงี้มันคือ สั้น เอียง องศาเอียง และก็ยาวตามวัย ตามลำดับค่ะ

ถ้าเป็นคนสายตาสั้นแล้วเอียงด้วย ก็สามารถใส่ได้ทั้งแว่นตาและคอนแทคเลนส์เลยค่ะ แต่ว่า คอนแทคเลนส์อาจจะต้อง hygiene (ถูกสุขอนามัย) นิดนึง มีความสะอาดหน่อย อย่างเช่น ออนเอง ออนเป็น Optometrist (นักทัศนมาตร หรือ หมอสายตา คือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสายตา และระบบการมองเห็นของมนุษย์ โดยศึกษาเฉพาะทางด้านระบบการมองเห็นในสาขา “ Doctor of Optometry,O.D.”) จะแนะนำคอนแทคเลนส์รายวัน ไม่แนะนำให้ใช้คอนแทคเลนส์รายเดือน เพราะว่า มันล้างยาก มันมักจะมีคราบโปรตีนมาเกาะ คือถ้าคุณจะใส่คอนแทคเลนส์คุณต้องสะอาด แต่ถ้าเป็นคนที่แบบ เออ ไม่ค่อยมีเวลาล้าง หรือใส่ใจในเรื่องความสะอาดเท่าไหร่ ขี้เกียจ งี้ก็ไม่แนะนำค่ะ แนะนำให้ใส่แว่นตาดีกว่า เพราะจะช่วย protect ตาของเราได้ดีกว่า

จะเริ่มที่ประมาณหลักพันค่ะ ไปจนถึงหลักแสนเลยค่ะ ด้วยความที่ว่าเลนส์โปรซีฟมันมีหลายรุ่นมาก แล้วแต่ความซับซ้อนของสายตา ความต้องการของคนไข้ option เสริมที่คนไข้ต้องการ เลนส์โปรเกรสซีฟเนี่ย เขาจะแพ้กันที่ความนุ่มนวลของภาพ ถ้าเป็นรุ่นหลักพันอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวหน่อย ถ้าแพงขึ้นก็จะดีตามคุณภาพ คือทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องลองใช้ก่อนค่ะ ต้องไปหาร้านที่เขามีให้ลองก่อนซื้อค่ะ

เลนส์แบบเอาเป็น 4 แบบ แบบแรกคือ

• เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lens) แปลว่าทั้งผืนเลนส์มีแค่ค่าสายตาเดียว มีค่าสายเหมาะกับทุกช่วงอายุ ที่มีปัญหาสายตาสั้น หรือ สายตายาวตามวัย และเพิ่มค่าสายตาเอียงได้ 
• เลนส์สองชั้น (Bifocal) เลนส์ชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมข้างล่าง ไว้มองใกล้ ด้านบนไว้มองไกล ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว เพราะมันทำให้ดูแก่ เวลาเดิน ๆ แล้วจะมึนงงนิดนึง ดูพื้นไม่เท่ากัน เป็นเลนส์ที่มี 2 ค่าสายตาในเลนส์เดียวกัน จะมีทั้งแบบค่าสายตาสั้นและสายตายาว 
• เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) เป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยม ถูกพัฒนามาจากเลนส์ 2 สั้น ไม่มีรอยต่อ ไม่มี Image jump โซนบนไว้มองไกล ตรงกลางไว้มองระยะกลางเช่นคอมพิวเตอร์ ล่างสุดจะเอาไว้มองใกล้ เช่น มือถือ หนังสือ เหมาะเพื่อผู้ที่ปัญหาสายตายาวตามวัย มีปัญหาในการมองระยะใกล้ หรือผู้ที่มีปัญหาการมองหลายระยะ ข้อดีคือ เราไม่ต้องถอดไว้เข้าออก แต่มีข้อเสียคือ ต้องใช้การปรับตัวในช่วงแรก แต่ละคนอาจใช้เวลาในการปรับตัวต่างกัน และก็ราคาเลนส์ตัวนี้จะสูงกว่าปกติ 
• เลนส์เฉพาะทาง (Office Lens) เลนส์นี้จะถูกแก้จากเลนส์โปรเกรสซีฟคือเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีปัญหาในเรื่องของระยะของกว่ามองระยะกลาง มองคอมพิวเตอร์ มันไม่กว้าง คนที่ทำงานหน้อจอคอมนาน ๆ ถ้าใช้เลนส์โปรเกรสซีฟมองจอคอมเค้าอาจจะปวดคอ เลยต้องมีเลนส์ตัวนี้ขึ้นมา เลนส์แว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคนที่มีภาวะสายตายาวตามวัยที่ต้องนั่งทำงานบนโต๊ะทำงานเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยโครงสร้างของออฟฟิศเลนส์เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานหน้าจอโดยเฉพาะ จึงโดดเด่นในด้านมุมมองระยะใกล้และระยะหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เฉพาะเจาะจงและคมชัดมากกว่าเลนส์ชนิดอื่น ๆ แตข้อเสียคือ จะใส่ขับรถไม่ได้ค่ะ

ก็ถือว่าเป็นสายตายาวอีกแบบ หนึ่ง เรียกว่า สายตายาวตามวัยค่ะ คือเกิดอาการเลนส์แข็ง เลนส์ตาเสื่อมตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น

มีโอกาสนะคะ ในกรณีที่เขาทำต้อกระจกมาแล้ว หรือว่าเปลี่ยนเลนส์ตามาแล้ว ถ้าเขาไม่ได้เปลี่ยนเลนส์ตาส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเจอสายตายาว จะเกิดในวัยรุ่นที่เป็นต้อกระจก หรือเด็ก ๆ ที่เป็นต้อกระจก ก็อาจจะต้องใส่แว่นที่มีสายตายาว

เพราะว่าเทคโนโลยี ขั้นตอนการทำ มันทำยากค่ะ ต้องใช้เทคโนโลยีสูง การขัดเลนส์ ต้องมีทีม R&D ต้องใส่ค่าเฉพาะบุคคลเข้าไปในเลนส์ ต้องสั่งผลิตทีละคู่ ต้องสั่งแบบ สั้นเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ จุดศูนย์กลางตาอยู่ตรงไหน ความเทอยู่ตรงไหน ความโค้งอยู่ตรงไหน ระยะห่างระหว่างตากับแว่นเท่าไหร่ อย่างนี้อ่ะค่ะ มันต้องค่อนข้างละเอียดสูงเลย ถ้าค่าสายตาอันใดอันหนึ่งผิดไปนิดเดียว คนคนนั้นจะใส่เลนส์นี้ไม่ได้เลย ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและการผลิตที่ต้องใช้ความละเอียดสูงเลยทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟมันมีราคาที่สูงค่ะ แค่เครื่องตรวจค่าพารามิเตอร์อ่ะค่ะ เครื่องนี้เครื่องเดียวก็เกือบ 2 ล้านแล้วอ่ะค่ะ

ก็มีหลายปัจจัย สายตาอาจจะ Over เกินไป หรือเป็นคนที่ sensitive มาก ๆ สายตาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน หรือเพิ่งใส่แว่นครั้งแรกแล้วสมองอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ วิธีการดูแว่นสายตาว่าเหมาะกับเราไหม คือการ ลองใส่สักประมาณ 14 วัน ถ้ายังไม่หายมึนงง ให้กลับไปที่ร้าน ให้เขาปรับเปลี่ยนให้ใหม่ค่ะ มันเป็นไปได้ยากที่ตัดแว่นครั้งแรก จะให้คุณมองเห็นได้ชัด 100% เลย ถ้ามีปัญหามาคือร้านแว่นจะมีหน้าที่ซัพพอร์ต บริการให้คนไข้ใส่จน Happy ถ้าแบบใส่แล้วมึนงง อาจจะลดค่าสายตาลง ลด fitting lens ลง มันมีหลายอย่างมากเลย ที่จะทำให้มึนงงน้อยลง แค่กลับไปหาร้านแว่นที่เราตัด แล้วแจ้งว่าเกิดปัญหาอะไรบ้าง มึนงง ภาพมันบวม พื้นมันไม่เท่ากัน เพื่อให้ร้านแว่นแก้ให้เราได้

สายตาเอียงคืออะไร อันนี้บอกก่อนเลยนะคะ ว่าคนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับสายตายเอียงว่า มองวัตถุเอียง จอดรถจะเอียง คือไม่ใช่นะคะ สายตาเอียงคือ เราจะเห็นเป็นเงา ๆ มองตัว B เห็นเป็นเงา ๆ เหมือนเลข 8 สับสนระหว่างเลข 6 หรือ เลข 9 เกิดอาการมองเห็นภาพที่มันซ้อนกัน มันจะเหมือนคนเห็นซ้ำ ๆ มันจะเป็นเงา ๆ ไม่คมชัด จะมีผลอย่างมากเลยคือขับรถตอนกลางคืน หรือมองเห็นในที่แสงน้อย รูม่านตาเราขยาย ก็จะทำให้สายตาเอียงที่เป็นความผิดปกติของเรามันชัดขึ้น เป็นเรื่องของ Anatomy โครงสร้างตาไม่กลม โครงสร้างตาเราเป็นวงรี ก็เลยทำให้เกิดสายตาเอียง มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสายตาเอียง คือ เด็ก ๆ ในช่วงวัยที่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ แล้วนอนดูโทรทัศน์ แบบเอียง ๆ เฉียง ๆ ก็จะมีโอกาสเกิดสายตาเอียง หรือนอนเล่นโทรศัพท์แบบเอียง ๆ ตั้งแต่เด็ก ตาเด็กในวัยนี้ยังไม่โตเต็มวัย เหมือนไปกระตุ้นให้มันมองไม่ตรงมาตั้งแต่แรก ก็มีโอกาสทำให้เกิดสายตาเอียงได้ ออน แนะนำว่า ถ้าเด็ก ๆ ที่ยังไม่ถึง 10 ขวบ ไม่แนะนำให้เค้านอนดูทีวี ไอแพด มือถือ แบบเอียง ๆ นะคะ ส่วนจำเป็นต้องตัดแว่นไหม อันนี้แล้วแต่ว่าเขาจะตัดแว่นไหม เพราะความสามารถในการมองเห็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่างออนเคยเจอที่สายตาเอียง 300 เขาก็ไม่ใส่แว่น บางคนฉันชอบมองเห็นอะไรคม ๆ ก็จะตัดใส่แว่น คนที่ใส่แว่นสำหรับสายตาเอียง จะมีความมึนงง นิดหน่อย คนจะไม่ค่อยชอบใส่แว่นกันค่ะ

สำหรับออนนนะคะ กรอบแว่นที่ดีต้องเข้ากับหน้าเรา และ 2 คือ ต้องทำจากวัสดุที่ทนเหงื่อเรา อาจจะทำจากพลาสติกที่คุณภาพดีหน่อยหรือทำจากไทเทเนียมที่คุณภาพดีหน่อย อาจจะไม่ฟันธงว่า ว่าต้องทำจากวัสดุอะไรเพราะปัจจุบันมันมีเยอะมาก แต่ที่แนะนำคือ อาจจะถามร้านแว่นคือ แว่นตัวนี้มีประกันไหม สำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟนะคะ ถ้าเกิดกรอบหัก กรอบพัง เลนส์ก็จะใช้ไม่ได้ เลนส์มันแพงด้วยค่ะ เพราะถ้าเลนส์อื่นเช่นเลนส์ชั้นเดียว ก็อาจจะเอาไปตัดกับแว่นอื่นได้ กรอบเนี่ย ควรจะอยู่คู่กับเลนส์ได้อย่างน้อย 4 ปี อาจจะต้องเลือกกรอบที่แข็งแรงทนทาน จับทนไม้ทนมือหน่อยค่ะ

อันนี้เราจะเรียกว่า option เสริมค่ะ อาจจะแบบพวกกรองแสงสีฟ้า เปลี่ยนสีอัตโนมัติ อยู่ในร่มเป็นใส อยู่กลางแดดเป็นสีดำ ตัวนี้เป็น option ที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ ก็จะมีราคาที่ต้องบวกเพิ่มเข้าไป

ถามตัวเองก่อนว่า แว่นที่เราอยากได้ เป็นแบบไหน อยากได้แบบไหน เช่น ต้องการแว่นที่ขับรถได้ ใส่ทำงานได้ จ้องคอมนาน ๆ ได้ เพื่อที่ร้านจะได้แนะนำให้ตรงกับความต้องการของเรา ศึกษาก่อนว่าเลนส์ที่เราต้องการเป็นแบบไหนตอบโจทย์เรา ที่สำคัญเลยค่ะ นอนให้พอก่อนมาตัดแว่นนะคะ 5555 เป็นไปได้คือ นอนให้เกิน 6 ชั่วโมงจะขอบคุณมากค่ะ เพราะว่า การนอนพักผ่อนให้เพียงพอเนี่ย มันก็มีผลต่อการตอบคำถามอาจจะ อึน ๆ มึน ๆ แล้วก็การมองเห็น ถ้านอนไม่พอตามันจะแห้ง มีผลในการวัดค่าสายตาค่ะ แล้วก็คือคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน อาจจะควบคุมเบาหวานก่อนมาตรวจ เพราะเบาหวานทำให้สายตาไม่คงที่ อาจจะต้องแจ้งนักทัศนมาตร ว่าเป็นเบาหวาน และสุดท้ายเลย คือถ้ามีประวัติการตัดแว่น หรือมีค่าสายตาเก่า ที่เคยตัด ก็สามารถนำมาให้ข้อมูลกับนักทัศนมาตรด้วย เพื่อที่จะบอกว่าได้ อันเก่ามีปัญหาอะไรไหม หรืออยากแก้ไข เพิ่มเติมอย่างไร เพื่อให้ได้แว่นที่เหมาะกับเรามากที่สุดค่ะ

สายตายาวตามวัย มักจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงอายุ 38 ปีขึ้นไป จะมีความอาการเสื่อมของเลนส์ตา มันเริ่มแข็งขึ้น ลูกค้าที่ออนเจอ สายตายาวตามวัย ที่อายุน้อยที่สุดที่มาที่ร้านคือ 36 ปีค่ะ น่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมที่เรามองใกล้เยอะ พฤติกรรมการใช้พวกเครื่องมือดิจิทัลทั้งหลายเยอะค่ะ ทีเนี้ย ยาวที่เริ่มต้นที่เจอ ก็จะเริ่มที่ +50 +75 เวลาเขียน ก็เขียนในใบ ค่าสายตาว่า +0.75 D. (ตัวย่อที่แสดงปริมาณกำลังสายตา มีหน่วยเป็นไดออปเตอร์ diopters (D)) แล้วก็พอผ่านไปประมาณ สมมุติว่า ออนตรวจคุณพิณ คุณพิณอายุ 38 เนาะ ออนเจอ ยาว +75 พอผ่านไป สัก 3 ปี สายตาคุณพิณจะยาวขึ้นแน่นอน ไม่มีการลดลง มันจะเพิ่มทีละสเต็ม ที่ละ 0.25 D. อาจจะต้องมาเจอกัน เพื่อที่จะเปลี่ยนแว่นตาให้มันตรงกับค่าสายตาเรา

ก็คือเริ่มรู้สึกว่ามองใกล้ ๆ นาน ๆ แล้วปวดตา หรือ รู้สึกว่า ต้องยืดวัตถุออกไปให้ห่างจากตัวเวลาจะโฟกัส เช่น เคยดูโทรศัพท์ที่ประมาณระยะ 40 เซนติเมตร แล้วรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ชัดเลย ต้องยืดออกไปอีก เหมือนคนมีอายุเวลาดูจอ อะไรประมาณนี้ค่ะ เป็นสัญญาณว่า คุณต้องไปเปลี่ยนแว่นแล้วนะ