สมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของคนรุ่นใหม่เลยค่ะ ซึ่งนอกจากเราจะใช้ทำงานแล้วยังใช้เพื่อดูความบันเทิง ผ่อนคลายความเครียด และบ่อยครั้งที่เมื่อเราต้องเดินทางโดยรถยนต์ เรามักจะหยิบสมาร์ทโฟนมาเปิดดู และนั่นก็ทำให้แบตเตอรี่หมดไวมาก ดังนั้นการที่จะมี ที่ชาร์จในรถยนต์ (Car Charger) จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ความสนุกของคุณไม่สะดุด ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะมาเล่าเรื่องราวของที่ชาร์จในรถให้ ที่มาพร้อมวิธีการเลือกซื้อและ 10 ที่ชาร์จในรถ ยี่ห้อไหนดี ให้เลือกดูกันค่ะ

บรรณาธิการ
Table of Contents
10 ที่ชาร์จในรถ ยี่ห้อไหนดี มีคุณภาพ ชาร์จได้เร็ว ปี 2025

ที่ชาร์จในรถ Hoco รุ่น Z29 Plus ตัวนี้ เป็นอีกรุ่นมาแรงแห่งปีเลยค่ะ ด้วยเพราะราคาไม่แพง แต่สามารถรองรับการชาร์จไฟได้หลายพอร์ตผ่านการเชื่อมต่อผ่านสาย USB ทำให้ใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่นทั้งและยังใช้ชาร์จไอแพดหรือแท็บเล็ตได้ด้วย ตัววัสดุทำจาก ABS และอะลูมิเนียม ทำให้มีรูปลักษณ์เรียบหรู มาพร้อมกับช่องเสียบพอร์ต 2 ช่องและมีช่องจุดบุหรี่ให้ 1 ช่อง และที่พิเศษสุดคือ car charger รุ่นนี้สามารถเพิ่มการชาร์จได้เร็วขึ้น 30% ทั้งยังมีการจ่ายกระแสไฟที่ควบคุมโดยระบบ IC ที่แบ่งกระแสออกแบบ 500 mA, 1A และ 2A เพื่อให้กระแสไฟเข้าไปที่อุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสมค่ะ
รีวิว : ดีจริงค่ะ แนะนำไม่ต้องไปพยายามหาร้านอื่นแล้วถูกกว่า เดียวได้ของไม่ดีจะซวย แนะนำร้านนี้ค่ะ ดีจริง สวยมากก ของตามรูปเลยค่ะ

แม้จะเป็น ที่ชาร์จแบตในรถ ที่ยังยังไม่ได้รับความนิยมเท่ารุ่นอื่น แต่จริง ๆ แล้ว Aukey รุ่นนี้ นับว่าเป็นอีกรุ่นที่เรียกได้ว่าใช้งานได้คงทน คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะด้วยตัววัสดุที่ได้มาตรฐานการรองรับ CE และ RoHS และยังมาพร้อมกับพอร์ตการชาร์ต 2 ช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB-A และช่องสำหรับ Type C อีกด้วย และที่สำคัญที่ชาร์จในรถรุ่นนี้ ทางแบรนด์ยังเคลมว่าสามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่ารุ่นทั่วไปถึง 4 เท่า และมีระบบ IC ที่ช่วยควบคุมการจ่ายกระแส ไม่ให้ไฟเกิน หรือความร้อนสูงเกินไป ทำให้ช่วยป้องการการช็อตหรือไฟรั่วได้ในตัวด้วย ตัวนี้แม้จะมีราคาค่าตัวสูง แต่หากเทียบกับการใช้งานที่รับประกันให้นานถึง 2 ปีเต็ม ก็นับว่าเป็น car charger ที่คุ้มค่าค่ะ
รีวิว : ใช้งานได้ครับ ชาร์ตเเบตได้ดีครับ ได้ชาร์ตเร็วด้วยไว้ครั้งหน้าจะอุดหนุนใหม่

สำหรับผู้ใช้งานที่ชาร์จในรถหลายคน อาจเคยเจอปัญหาว่ากระแสไฟที่จ่ายมาจาก car charger นั้นไม่สม่ำเสมอ บางครั้งเยอะจนทำให้เครื่องร้อนและแบตเสื่อมไว และบางครั้งกระแสไฟต่ำจนไม่เพียงพอ แต่สำหรับที่ชาร์จในรถ OWIRE รุ่น PD20W+QC22.5W จะทำให้คุณสบายใจขึ้นได้มากเลยค่ะ เพราะเขามาพร้อมกับชิปอัจฉริยะ ที่สามารถป้อนกระแสไฟได้อัตโนมัติและยังจัดการกับกระแสไฟที่เป็นขาออกหรือเอาท์พุตได้เหมาะกับอุปกรณ์เรา และมีตัวเลขระบุกระแสไฟให้ดูอีกด้วยด้วย ทั้งยังชาร์จได้เร็วมาก ซึ่งทางแบรนด์เองก็เคลมว่าสามารถชาร์จให้ได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
รีวิว : ได้รับของตรงปก ลองชาร์จดูแล้วชาร์จเข้าปกติ ราคาโอเคร ทางร้านจัดส่งสินค้าไวมากครับ โดยรวมถือว่าพอใจมาก

ชาร์ได้เร็ว ชาร์จได้ไวกว่า 3 เท่า ไม่เสียชื่อแบรนด์ Power Bank ชื่อดัง โดย Eloop C8 Mini มีทั้งหมด 2 พอร์ตการชาร์จ ทั้ง USB-A และ Type C เล็กไม่เกะกะเป็น car charger ที่ชาร์จได้ไว 45W ด้วยล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าไม่พรีเมียม เพราะวัสดุของที่ชาร์จในรถ Eloop C8 Mini เป็นแบบอะลูมิเนียมอัลลอย ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ไม่ร้อนเกินด้วย มาพร้อมกับไป LED แสดงสถานะเมื่อมีการชาร์จ ใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภทไปเลย มีรับประกันจากแบรนด์ให้ด้วย 1 ปีนะคะ
รีวิว : จัดส่งรวดเร็วตามเวลา สินค้าดูดี ไม่บอบบาง ยังไม่ลองชาร์จ อันเล็กกระทัดรัด มีสองช่อง สองรูปแบบให้ชาร์จ ประทับใจ

ปัจจุบันเทคโนโลยีไร้สาย กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นค่ะ และสำหรับอุปกรณ์ยอดฮิตอย่างสมาร์ทโฟนก็มีหลายรุ่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งก็นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานได้มากทีเดียว และเมื่อมีสมาร์ทโฟนแบบชาร์จไร้สายแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องมีที่ชาร์จไร้สายเช่นกัน ซึ่งเราก็จะขอแนะนำเป็น Xiaomi Mi 20W Wireless Car Charger ซึ่งเป็นที่ชาร์จแบตในรถ ที่กำลังได้รับการพูดถึงอย่างมาก โดยรุ่นนี้สามารถรองรับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอถึง 6 นิ้วได้ และมีกำลังไฟ 20W และยังเป็นเสมือนที่วางมือถือที่สามารถใช้งานไปด้วยในขณะชาร์ตได้ด้วยค่ะ
รีวิว : ส่งรวดเร็วดีมาก แพ็คของดีมีบับเบิ้ล สินค้าดูดี มีเซ็นเซอร์เปิดปืดเองอัตโนมัติ ต้องดูยาวๆ ว่าจะทนแค่ไหน

หากใครที่คิดว่าช่องสำหรับเสียบพอร์ตชาร์จแค่ 1 – 2 ช่องนั้น ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะบ่อยครั้งที่คุณอาจจะเดินทางกันหลายคน และสำหรับรถยนต์บางคันก็ยังต้องแบ่งพอร์ตเสียบสายชาร์จกล้องติดรถยนต์อีกด้วย ดังนั้นการมองหาที่ชาร์จในรถที่มีพอร์ตชาร์จหลายช่อง อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ค่ะ โดยรุ่นที่ชาร์จแบตในรถยนต์ Commy ที่เรานำมาแนะนำนี้ จะมีพอร์ตชาร์จด้วยกัน 3 ช่อง ให้กระแสไฟขนาด 5.1A และยังแถมสาย USB มาให้ด้วย แต่จะไม่มีช่องจุดบุหรี่และไม่มีพอร์ต USB Type C มาให้ แต่ข้อดีคือจะมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ไม่เกะกะรถค่ะ
รีวิว : สินค้าดีค่ะ วัสดุแข็งแรงดีมาก มีไฟสถานะติด มีไฟเข้าใช้งานได้ปกติดี ไม่เกะกะอุปกรณ์อื่นในรถ แพ็คสินค้ามาดี

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นในปัจจุบัน มักจะมีการออกแบบช่องเสียบชาร์จไฟเป็น Type C เพราะนอกจากจะมีชนาดกทัดรัดกว่าแบบ Micro USB แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ง่ายดายและหลากหลายกว่าด้วย และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่ชาร์จในรถแบบ Type C อยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำเป็น Belkin Car Charger รุ่น 2 USB-C ตัวนี้เลยค่ะ เพราะเขามาพร้อมกับพอร์ตเสียบชาร์จไฟ Type C ถึง 2 ช่อง และวัสดุยังไม่ลามไฟ ทั้งยังมีระบบควบคุมการจ่ายไฟและตัดไฟอัตโนมัติด้วย แถมรุ่นนี้ยังเป็นที่ชาร์จในรถที่รองรับการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้ 50% ภายในเวลาเพียง 30 นาที ด้วยค่ะ
รีวิว : ดีงาม. ขึ้น fast charging เร็วกว่าเดิม จากอันเดิม ขึ้นแค่ cable charging

สำหรับ ที่ชาร์จในรถยนต์ REMAX รุ่น RCC-220 ตัวนี้ เป็นที่ชาร์จในรถราคาประหยัด ที่มียอดขายในร้านค้าออนไลน์พอสมควร ทั้งยังมีกระแสตอบรับจากผู้ที่ซื้อไปใช้งานที่ค่อนข้างดีเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ชอบที่ราคาไม่แพง แต่สามารถใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา โดย car charger รุ่นนี้เป็นที่ชาร์จที่มีพอร์ตการชาร์จ USB ให้มา 2 ช่อง ไม่มีช่องจุดบุหรี่และ Type C มาให้ แต่ในราคาเท่านี้ก็นับว่าไม่แย่เลยค่ะ ตัวกระแสไฟแบบอินพุตรองรับได้ที่ 12 – 24 VDC เหมือนรุ่นทั่วไป และตัวเอาท์พุตสามารถจ่ายไฟได้ที่ 5V ค่ะ
รีวิว : สินค้าจัดส่งเรียบร้อยดี คุณภาพของสินค้าเรียบร้อยดี สินค้าใช้งานได้ตามปกติ ราคาไม่แพงถือว่าใช้ได้ค่ะ

เชื่อว่าผู้ใช้รถยนต์หลายท่าน ที่มักเจอปัญหาว่าเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วมักลืมถอดที่ชาร์จในรถออก หรืออาจจะถอดออกแล้วหาไม่เจอ ดังนั้นหากคุณมีที่จัดเก็บที่สามารถใช้เป็นพอร์ตในการชาร์จไฟได้อีกช่องด้วย ก็นับว่าดีมากค่ะ ซึ่งสำหรับ ที่ชาร์จในรถ Baseus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่เรียกว่า USB คู่ โดยจะให้มาทั้งตัวที่ชาร์จในรถและที่วางค่ะ ซึ่งตัวที่วางนี้สามารถใช้ประโยชน์เป็นที่จุดบุหรี่ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถใช้งานได้เอนกประสงค์มากขึ้น มาดูกันที่ตัวที่ชาร์จก่อน ซึ่งให้พอร์ตชาร์จแบบ USB มา 2 ช่อง ส่วนที่วางก็จะมีช่องที่จุดบุหรี่ให้ 2 ช่องเช่นกัน ผู้ใช้งานหลายคนประทับใจที่รูปลักษณ์ของที่ชาร์จในรถดูดี และยังใช้งานได้ดีอีกด้วย
รีวิว : ช่องจุดบุหรี่ แยกมา 2 ช่อง กำลังไฟไม่ตก วัสดุ โลหะ ทำสีเมทัลลิค ผิวด้าน เป็นของที่ซื้อออนไลน์ แล้วเกรดดี ประทับใจ

ใครที่ชอบซื้อหาอุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าต้องเคยได้ยินชื่อ UGREEN กันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ เพราะแบรนด์นี้มักจะมีผลิตภัณฑ์เราเลือกซื้อมากมาย แถมยังราคาย่อมเยา ใช้งานได้ดีด้วย และสำหรับ ที่ชาร์จในรถยนต์ UGREEN ตัวนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าขายดี ที่เราอยากแนะนำค่ะ เพราะรุ่นนี้เขามาพร้อมกับการชาร์จเร็ว โดยสามารถจ่ายกระแสไฟได้ถึง 36W เลยทีเดียว ซึ่งทางแบรนด์ได้เคลมว่าคุณจะชาร์จไฟได้ 80% โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น รองรับหลากหลายพอร์ต ทั้งนี้ยังสามารถใช้งานที่ชาร์จในรถ Urgreen ได้ทั้งรถเล็กหรือหรือขนาดใหญ่อย่างรถบรรทุกเลยค่ะ
รีวิว : ใช้งานได้จริงตรงตามคำอธิบาย ส่งตามกำหนด
ที่ชาร์จในรถ จำเป็นไหม
ที่ชาร์จในรถเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น มือถือ แท็บเล็ต หรือกล้องถ่ายรูป แม้ว่าจะไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยหรือใช้แอปนำทางเป็นเวลานาน ที่ชาร์จในรถสามารถช่วยให้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ไม่หมดระหว่างทาง นอกจากนี้ บางรุ่นยังรองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) เช่น Quick Charge (QC) หรือ Power Delivery (PD) ทำให้สามารถเติมพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเลือกที่ชาร์จในรถควรพิจารณากำลังไฟที่เหมาะสม (เช่น 18W ขึ้นไปสำหรับการชาร์จเร็ว) จำนวนพอร์ตเชื่อมต่อ และระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น Anker, Aukey, UGREEN หรือ Belkin เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพดีและปลอดภัยต่ออุปกรณ์ของคุณ หากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อยและต้องใช้งานอุปกรณ์ตลอดเวลา การมีที่ชาร์จในรถติดไว้จะช่วยให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและไร้กังวลเรื่องแบตหมดกลางทาง
วิธีการใช้ที่ชาร์จบนรถ
ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อหรือใช้งานที่ชาร์จในรถ ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถเพื่อน หรือรถสาธารณะ สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้วิธีใช้งานที่ถูกต้องและข้อควรระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์และรถยนต์ของคุณ เราได้รวบรวมขั้นตอนการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัยไว้ดังนี้
- สตาร์ทรถก่อนเสียบที่ชาร์จ – ควรสตาร์ทรถก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ระบบไฟฟ้าของรถทำงานสมบูรณ์ และลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะได้รับแรงดันไฟฟ้าที่ไม่คงที่
- เสียบที่ชาร์จเข้ากับที่จุดบุหรี่ – หลังจากสตาร์ทรถแล้ว ให้นำที่ชาร์จเสียบเข้ากับพอร์ตที่จุดบุหรี่ของรถ โดยให้แน่ใจว่าเสียบแน่นและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- เสียบสาย USB เข้ากับพอร์ตชาร์จ – เลือกสายชาร์จที่รองรับมาตรฐานของอุปกรณ์คุณ เช่น USB-A, USB-C หรือ Lightning จากนั้นเสียบปลายสายอีกด้านเข้ากับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่ต้องการชาร์จ
- ตรวจสอบสถานะการชาร์จ – สังเกตไฟแสดงสถานะของที่ชาร์จว่าทำงานปกติ และดูที่หน้าจออุปกรณ์ว่ากำลังชาร์จไฟอยู่หรือไม่
- ถอดสายชาร์จออกเมื่อแบตเตอรี่เต็ม – หากที่ชาร์จในรถของคุณไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ควรดึงสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ทันทีเมื่อชาร์จเต็ม เพื่อลดความเสี่ยงในการจ่ายไฟเกินและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- ถอดที่ชาร์จออกจากพอร์ตที่จุดบุหรี่ก่อนดับเครื่องยนต์ – เมื่อเลิกใช้งาน ควรถอดที่ชาร์จออกจากพอร์ตที่จุดบุหรี่ก่อนดับรถ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้ายังคงไหลอยู่ในระบบ ซึ่งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของที่ชาร์จหรือระบบไฟฟ้าของรถ
วิธีการเลือกซื้อที่ชาร์จบนรถ
เมื่อได้รู้จักวิธีการใช้งานที่ชาร์จแบตในรถไปแล้ว ต่อจากนี้เราจะขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อที่ชาร์จในรถกันบ้าง ซึ่งจะมีอะไรไปบ้างนั้นดูกันค่ะ
- เลือกที่ชาร์จในรถที่มีระบบจ่ายไปและตัดไฟที่เหมาะสม หากคุณเป็นมือใหม่ อาจจะยังไม่ทราบว่าที่ชาร์จในรถนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันแค่รูปลักษณ์ ขนาด หรือพอร์ตการชาร์จ แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีเทคโนโลยีการใช้งานที่รอบรับความปลอดภัยของอุปกรณ์ด้วย และสำหรับการเลือกซื้อที่ชาร์จในรถมาใช้งานจึงควรอย่างยิ่งที่ต้องเลือกซื้อแบบที่มีระบบจ่ายไฟและตัดไฟที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อุปกรณ์อย่างมือถือเสียหายแล้ว ยังช่วยใช้ใช้งานได้นานขึ้นด้วยค่ะ
- เลือกที่ชาร์จในรถที่มีพอร์ตการชาร์จแบบ Type C ด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ต่อจากนี้จะเริ่มมีการใช้พอร์ตการชาร์จและเชื่อมต่อแบบ Type C กันมากขึ้น ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาที่ชาร์จในรถดี ๆ สักอัน เพื่อให้คุ้มค่า ก็ควรเลือกสายชาร์จมือถือแบบที่มีทั้งแบบ USB และ Type C ด้วยค่ะ
- เลือกที่ชาร์จในรถที่มีไฟแสดงสถานะ การที่เราแนะนำให้เลือกแบบที่มีไฟแสดงสถานะนั้นก็เพื่อให้คุณไม่ลืมว่าได้เสียบที่ชาร์จในรถไว้อยู่ เมื่อจะดับเครื่องยนต์จะได้ไม่ลืมถอดออก และในบางรุ่นที่สามารถโชว์กระแสไฟได้ด้วย ก็ยิ่งทำให้คุณได้เห็นด้วยว่าอุปกรณ์กำลังจ่ายไฟเท่าไหร่ด้วยค่ะ
- เลือกที่ชาร์จในรถที่มีการรับประกัน อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการเลือกซื้อที่ชาร์จในรถคือการรับประกันค่ะ ซึ่งสำหรับแบรนด์ที่มีมาตรฐานมักมีการรับประกันให้อยู่แล้ว และนั่นจะเป็นการการันตีว่า สินค้าคุณภาพดี และช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้นค่ะ
- เลือกที่ชาร์จในรถแบบชาร์จเร็ว ทุกวันนี้ความรวดเร็วสามารถทำให้อะไร ๆ ง่ายดายมากขึ้นค่ะ การที่เลือกที่ชาร์จในรถที่รองรับการชาร์จเร็วก็อาจจะช่วยให้คุณสะดวกขึ้นด้วยเช่นกัน โดยจากหลาย ๆ รุ่นที่ผู้คนนิยมเลือกใช้ ก็เพราะเทคโนโลยีการชาร์จเร็วนี่เอง
ที่ชาร์จในรถทำงานยังไง
ที่ชาร์จในรถทำหน้าที่ แปลงพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ ให้เป็นแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยทั่วไปจะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ที่จุดบุหรี่ (12V หรือ 24V ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักในรถยนต์
กระบวนการทำงานของที่ชาร์จในรถ
- รับพลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์ – ที่ชาร์จในรถรับไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ผ่านพอร์ตที่จุดบุหรี่ ซึ่งโดยปกติจะให้แรงดัน 12V ในรถยนต์ทั่วไป และ 24V ในรถบรรทุกหรือรถโดยสาร
- แปลงแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสม – วงจรภายในของที่ชาร์จในรถจะทำหน้าที่ ลดแรงดันไฟฟ้า (Voltage Step-Down) จาก 12V/24V ให้เหลือ 5V, 9V, 12V หรือสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการชาร์จที่รองรับ เช่น Quick Charge (QC) หรือ Power Delivery (PD)
- จ่ายไฟผ่านพอร์ต USB หรือ USB-C – หลังจากปรับแรงดันไฟฟ้าแล้ว พลังงานจะถูกส่งผ่าน พอร์ต USB-A หรือ USB-C ไปยังสายชาร์จของอุปกรณ์ที่ต้องการ
ชาร์จแบตบนรถทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดไวหรือไม่
การชาร์จโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนรถยนต์ ไม่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดไวอย่างมีนัยสำคัญ ตราบใดที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ เนื่องจากพลังงานที่ใช้มาจาก ระบบไฟฟ้าของรถที่มีไดชาร์จ (Alternator) คอยจ่ายไฟ อย่างไรก็ตาม หากชาร์จอุปกรณ์ในขณะที่ เครื่องยนต์ดับ อาจส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ได้ โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้
กรณีที่ชาร์จบนรถแล้วอาจทำให้แบตหมดไว
- ชาร์จขณะเครื่องยนต์ดับ – เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ระบบไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่โดยตรง ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น หากเสียบชาร์จเป็นเวลานาน
- ใช้ที่ชาร์จที่มีกำลังไฟสูง – การชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องใช้กำลังไฟมาก เช่น แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก หรือชาร์จหลายอุปกรณ์พร้อมกัน อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ถูกใช้พลังงานมากขึ้น
- แบตเตอรี่รถยนต์เก่า – หากแบตเตอรี่ของรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพอยู่แล้ว การเสียบชาร์จอุปกรณ์แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจเร่งให้แบตหมดเร็วยิ่งขึ้น
- เสียบที่ชาร์จทิ้งไว้ตลอดเวลา – แม้จะไม่ได้ชาร์จอุปกรณ์ แต่ที่ชาร์จบางรุ่นอาจยังดึงพลังงานอยู่เล็กน้อย ซึ่งหากเสียบค้างไว้เป็นเวลานานก็อาจส่งผลให้แบตเตอรี่ลดลงได้
วิธีป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดไวจากการชาร์จมือถือ
- ชาร์จขณะเครื่องยนต์ทำงาน – เพื่อให้ไดชาร์จจ่ายไฟโดยตรง แทนที่จะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่
- อย่าเสียบชาร์จทิ้งไว้เมื่อไม่ใช้งาน – ถอดที่ชาร์จออกจากพอร์ตที่จุดบุหรี่เมื่อเลิกใช้
- เลือกที่ชาร์จที่มีคุณภาพ – ควรเลือกที่ชาร์จที่มีระบบป้องกันไฟเกินและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการชาร์จอุปกรณ์ที่ใช้ไฟสูงเกินไป – หากต้องชาร์จโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต ควรใช้พอร์ตที่รองรับกำลังไฟที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้งานขณะเครื่องยนต์ดับ
ข้อควรระวังในการชาร์จโทรศัพท์มือถือในรถยนต์
- สตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนชาร์จ: ควรสตาร์ทรถให้เรียบร้อยก่อนเสียบสายชาร์จแบตมือถือ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ากระชากที่อาจทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมสภาพได้
- ใช้สายชาร์จและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน: เลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- หลีกเลี่ยงการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน: ไม่ควรเปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกับการชาร์จแบตมือถือในรถยนต์ เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าในรถยนต์เกิดการกระชากและส่งผลให้แบตเตอรี่รถยนต์ทำงานหนักขึ้น
- ถอดอุปกรณ์ชาร์จออกเมื่อไม่ใช้งาน: หลังจากชาร์จแบตมือถือเสร็จแล้ว ควรถอดอุปกรณ์ชาร์จออกจากช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้น
รถไฟฟ้าดีกว่ายังไง เมื่อมองในมุมการชาร์จแบตมือถือ
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีข้อได้เปรียบในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากระบบไฟฟ้าของรถ EV ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการจ่ายพลังงานไฟฟ้าโดยตรง ทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียร นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นยังมีฟังก์ชัน Vehicle-to-Load (V2L) ซึ่งช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ ทำให้การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถสะดวกยิ่งขึ้น
ในทางกลับกัน รถยนต์ที่ใช้น้ำมันต้องพึ่งพาเครื่องยนต์สันดาปภายในในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้การจ่ายไฟไม่เสถียรและมีข้อจำกัดในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น หากพิจารณาในแง่ของการชาร์จอุปกรณ์ภายในรถ รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีความได้เปรียบมากกว่า
บทส่งท้าย
หลังจากที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้แล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะได้ทริคดี ๆ ในการเลือกซื้อเลือกใช้ที่ชาร์จใรถ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองนะคะ และหากใครที่ยังไม่รู้จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวไหนดี ก็แนะนำว่าสามารถเลือกดูได้จาก 10 อันดับสินค้า ที่เราได้นำเสนอไปได้เลย เพราะเราได้เลือกมาให้แล้วว่าใช้งานได้ดี ราคาประหยัด คุ้มค่า ทั้งยังมีหลายแบบให้เลือกทั้งแบบไร้สาย แบบ USB-A และ Type C เลยค่ะ
บทความแนะนำ
- แนะนำ 10 กล้องเว็บแคม ยี่ห้อไหนดี ภาพชัด ประชุมไม่ติดขัด
- แนะนำ 15 ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เบสหนัก เสียงดี พกพาไปได้ทุกที่
- แนะนำ 10 สายชาร์จมือถือ ยี่ห้อไหนดี มีแบรนด์ดังเยอะ ไม่ขาดง่าย ใช้ได้นาน
แหล่งข้อมูล
- Viriyah Insurance. จริงหรือไม่? ชาร์จแบตเตอรี่มือถือในรถยนต์ ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเร็ว. ดูเพิ่มเติม.
- CARSOME Thailand. ชาร์จแบตในรถ แบตเสื่อม จริงหรือไม่. ดูเพิ่มเติม.
- 24CARFIX. เลือกที่ชาร์จแบตในรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัยและคุ้มค่า พร้อมบริการติดตั้งจากช่างมืออาชีพ. ดูเพิ่มเติม.
- 425Degree. รวมที่ชาร์จไฟในรถ (แบบ Quick Charge / PD / SuperCharge) รีวิวชัด คัดของดี สั่งง่าย ส่งไว ได้ของชัวร์. ดูเพิ่มเติม.
- Pantip. Pantip - Learn, Share & Fun. ดูเพิ่มเติม.
- BaNANA. Car Charger. ดูเพิ่มเติม.
- iPhonemod. ทุกเรื่องของ V2L (Vehicle to Load) ในรถยนต์ไฟฟ้า. ดูเพิ่มเติม.
- TQM. ชาร์จแบตมือถือในรถดีไหม? ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมหรือเปล่า?. ดูเพิ่มเติม.