แนะนำมือถือ vivo รุ่นไหนดี 2025 กล้องสวย สเปคแรง ราคาโดนใจทุกงบ

Vivo X200 FE 5G คือคำตอบของคนที่มองหา มือถือ vivo รุ่นไหนดีในปี 2025 ที่รวมสเปคระดับเรือธงไว้ในขนาดพกพาง่าย ด้วยหน้าจอ AMOLED LTPO ขนาด 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับรีเฟรชเรต 120Hz และเทคโนโลยีลดแสงกระพริบ PWM 4320Hz ใช้งานได้สบายตาทั้งกลางแจ้งและที่มืด ตัวเครื่องดีไซน์บางเฉียบแต่แข็งแรง กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68/IP69 พร้อมแบตเตอรี่จุใจ 6,500 mAh รองรับชาร์จไว 90W ทำให้ใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล

ในด้านประสิทธิภาพ X200 FE 5G ใช้ชิปเรือธง MediaTek Dimensity 9300+ พร้อม GPU Immortalis-G720 และ RAM LPDDR5X ขนาด 12GB ทำงานควบคู่กับระบบปฏิบัติการ Android 15 และ Funtouch OS 15 ใหม่ล่าสุด เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือ vivo เล่นเกมหรือใช้งานหนักแบบลื่นไหล การันตีด้วยความเร็วระดับ flagship พร้อมฟีเจอร์ AI SuperLink เสริมประสบการณ์เชื่อมต่อและความฉลาดในการใช้งาน

ไฮไลต์อีกจุดคือ กล้องหลัง 3 ตัวพร้อมเลนส์ Periscope ความละเอียดสูงถึง 50MP + 8MP + 50MP รองรับซูมแบบ Optical 3 เท่า พร้อมเลนส์ ZEISS คุณภาพระดับกล้องโปร และกล้องหน้า 50MP สำหรับสายถ่ายรูป บล็อกเกอร์ หรือคนชอบคอนเทนต์วิดีโอ นับว่าเป็น มือถือ vivo กล้องสวย 2025 ที่ครบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในงบเรือธงขนาดย่อม

สเปคเด่น Vivo X200 FE 5G

• จอ AMOLED LTPO ขนาด 31 นิ้ว ความละเอียด 1.5K
• รีเฟรชเรต 120Hz + PWM Dimming 4320Hz
• ความสว่างจอสูงสุด 5,000 nits
• ชิป MediaTek Dimensity 9300+ (เรือธง)
• GPU Immortalis-G720
• RAM 12GB LPDDR5X
• ROM 512GB UFS 3.1
• กล้องหลัง 3 ตัว: 50MP Main + 8MP Ultrawide + 50MP Periscope (ZEISS Optics)
• กล้องหน้า 50MP
• แบตเตอรี่ 6,500 mAh
• ชาร์จไว 90W
• กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 / IP69
• ระบบปฏิบัติการ Android 15 + Funtouch OS 15
• AI SuperLink / Imaging Features / Aura Light
• สีเครื่อง: Black Luxe, Yellow Glow, Pink Vibe, Blue Breeze

Vivo Y29 5G เป็นมือถือรุ่นกลางที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทาน ใช้งานได้นาน และมีฟีเจอร์ครบในราคาที่เข้าถึงได้ หน้าจอใหญ่ 6.68 นิ้ว LCD ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรต 120Hz มาพร้อม TÜV Rheinland Certified ลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา ชูจุดเด่นเรื่องความทนทาน ด้วย SGS Military Grade Drop Protection, IP64 กันฝุ่น-กันน้ำกระเซ็น, และไฟแจ้งเตือน Dynamic "Circle Light" ที่สวยงามไม่เหมือนใคร

ด้านประสิทธิภาพ Y29 5G ใช้ชิปเป็น Snapdragon 778G พร้อม RAM ในไทยมีตัว 12 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 512 GB รองรับการใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 (Android 14) พร้อมลำโพงคู่ Dual Stereo Boost ดังชัดถึง 300% เหมาะทั้งการดูหนัง ฟังเพลง และเรียนออนไลน์

แบตเตอรี่ขนาด 5,500 mAh ชาร์จไว 44W คืออีกหนึ่งจุดขายของรุ่นนี้ โดย vivo เคลมว่าสามารถชาร์จเต็มภายใน 79 นาที และยังคงความจุได้ 80% ยาวนานถึง 4 ปี ทำให้ Y29 เหมาะมากสำหรับคนที่มองหามือถือ vivo ทน ใช้งานได้นานในงบประหยัด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พ่อแม่ หรือผู้สูงวัยที่ต้องการมือถือจอใหญ่ แบตอึด ใช้งานง่าย และทนมือทนไม้

สเปคเด่น Vivo Y29 5G

• หน้าจอ LCD ขนาด 68 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz
• ความสว่างสูงสุด 1,000 nits
• ชิปเซ็ต Snapdragon 778G
• RAM: 12GB
• ความจุภายใน: สูงสุด 512GB
• กล้องหลังคู่: 50MP Main + 0.08MP Portrait Sensor (รองรับ AI Night Mode)
• กล้องหน้า 8MP
• ลำโพงคู่ Dual Stereo Speaker (+300% Boost)
• แบตเตอรี่ 5,500 mAh
• รองรับชาร์จไว 44W FlashCharge (ชาร์จเต็มใน 79 นาที)
• รองรับการใช้งานได้นาน 4 ปี (แบตยังคงความจุ 80%)
• รองรับ 5G
• ความทนทานระดับ Military Grade (SGS Certified Drop Protection)
• กันฝุ่น-กันน้ำกระเซ็นระดับ IP64
• ระบบปฏิบัติการ: Funtouch OS 14 (Android 14)
• มี Dynamic Notification Light (Circle Light)

Vivo X200 Pro 5G คือสมาร์ตโฟนเรือธงตัวจริงจาก vivo ในปี 2025 ที่ยกระดับการถ่ายภาพและการใช้งานสมาร์ตโฟนให้เหนือกว่าเดิม มาพร้อมกล้อง Periscope ความละเอียด 200MP ที่ร่วมพัฒนากับ ZEISS (เลนส์ APO) รองรับการถ่ายภาพระยะไกล 3.7× Optical Zoom และ 135mm Portrait แบบมือโปร เสริมด้วยเซ็นเซอร์ Sony LYT-818 สำหรับกล้องหลักและกล้อง Ultrawide 50MP ที่ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ Vivo V3+ ให้ภาพนิ่งและวิดีโอคมชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K และ 4K Selfie

หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K (LTPO) รองรับ 120Hz รีเฟรชเรต พร้อม HDR10+ และ Dolby Vision ให้คอนทราสต์ สี และความสว่างสูงถึง 4,500 nits ตอบโจทย์สายดูหนัง ครีเอเตอร์ และคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ ด้านดีไซน์ใช้โครงสร้างกระจก + อะลูมิเนียมแบบแบนทันสมัย พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69 และระบบสแกนนิ้ว Ultrasonic ใต้จอ เพิ่มทั้งความปลอดภัยและความหรูหรา

ขุมพลังของรุ่นนี้คือ MediaTek Dimensity 9400 (3nm) พร้อม Cortex-X925 ความเร็วสูงสุด 3.63GHz ทำงานร่วมกับ RAM สูงสุด 16GB และความจุภายในได้สูงสุดถึง 1TB UFS 4.0 มีแบตเตอรี่ 6,000 mAh แบบ Silicon–Carbon รองรับชาร์จไว 90W และชาร์จไร้สาย 30W รองรับ Wi-Fi 7, NFC, IR Blaster และ Bluetooth 5.4 บนระบบปฏิบัติการ Android 15 + OriginOS 5 ตัวเต็ม (หรือ Funtouch OS 15 สำหรับตลาด Global) ทำให้ X200 Pro เป็นมือถือ vivo ที่ครบเครื่องและท้าชน Samsung S25 Ultra และ iPhone 16 Pro Max ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

สเปคเด่น Vivo X200 Pro 5G

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 78 นิ้ว ความละเอียด 2K (LTPO)
• รีเฟรชเรต 120Hz + รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision
• ความสว่างสูงสุด 4,500 nits
• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400 (3nm) + GPU Immortalis-G925
• RAM: 12GB / 16GB LPDDR5X
• ROM: สูงสุด 1TB UFS 4.0
• กล้องหลัง 3 ตัว: 50MP Main (Sony LYT-818), 50MP Ultrawide, 200MP Periscope Telephoto (135mm Portrait) + ZEISS APO + 3.7× Optical Zoom
• กล้องหน้า 32MP รองรับ 4K Video
• ชิปภาพ Vivo V3+ Imaging Chip
• แบตเตอรี่ 6,000 mAh (Silicon–Carbon)
• ชาร์จไว 90W / ชาร์จไร้สาย 30W
• ระบบปฏิบัติการ Android 15 + OriginOS 5 (หรือ Funtouch OS 15)
• กันน้ำกันฝุ่น IP68 / IP69
• สแกนนิ้วใต้จอแบบ Ultrasonic
• Wi-Fi 7 / Bluetooth 5.4 / NFC / IR Blaster

Vivo X200 5G คือตัวเลือกเรือธงที่ลงตัวสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสเปคระดับไฮเอนด์ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่ารุ่น Pro โดยยังคงใช้ชิปเรือธง MediaTek Dimensity 9400 (3nm) ตัวเดียวกับ X200 Pro ทำงานคู่กับ RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB และความจุ UFS 4.0 สูงสุด 512GB พร้อมจอ AMOLED ความละเอียด 1.5K (2800 × 1260) รีเฟรชเรต 120Hz ที่ให้ภาพคมชัดลื่นไหล สู้แสงกลางวันได้ดีด้วยความสว่างสูงและการลดแสงกระพริบ 2,160Hz PWM dimming

ในด้านการถ่ายภาพ X200 5G มากับกล้องหลัง 3 ตัวที่ใช้เลนส์ ZEISS เช่นเดียวกับรุ่น Pro ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP, กล้อง Ultrawide 50MP และ กล้อง Periscope Telephoto 50MP ซูม Optical 3x ซึ่งให้ผลลัพธ์ภาพคุณภาพสูงและเอฟเฟกต์พอร์ตเทรตระดับโปร รองรับการถ่ายวิดีโอคมชัด และกล้องหน้า 32MP ที่เหมาะกับสายวิดีโอคอลหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พร้อมระบบ AI ช่วยจัดการภาพให้สวยขึ้นอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังให้ความแข็งแรงด้วยมาตรฐาน IP68 / IP69 กันน้ำกันฝุ่น, ตัวเครื่องวัสดุกระจก + อะลูมิเนียม สแกนนิ้วใต้จอ และแบตเตอรี่ความจุ 5,800 mAh ที่รองรับ ชาร์จไว 90W พร้อมใช้งานตลอดทั้งวัน แม้จะไม่รองรับชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นเรือธงที่ลงตัวมากสำหรับผู้ที่มองหามือถือ vivo รุ่นใหม่ล่าสุดที่แรง ประหยัด และคุ้มค่ากว่า X200 Pro ในปี 2025

สเปคเด่น Vivo X200 5G

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2800 × 1260)
• รีเฟรชเรต 120Hz + 2160Hz PWM Dimming
• กระจกหน้าจอ Schott Xensation Alpha
• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400 (3nm) + GPU Immortalis-G925
• RAM: 12GB / 16GB LPDDR5X
• ROM: 256GB / 512GB UFS 4.0
• กล้องหลัง 3 ตัว พร้อม ZEISS Optics: 50MP Main, 50MP Ultrawide, 50MP Periscope Telephoto (3x Optical Zoom)
• กล้องหน้า 32MP
• แบตเตอรี่ 5,800 mAh (Silicon–Carbon)
• ชาร์จไว 90W (มีสาย)
• ระบบปฏิบัติการ Android 15 + Funtouch OS 15
• กันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP68 / IP69
• บอดี้กระจก-อะลูมิเนียม พรีเมียม
• รองรับ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, Infrared

vivo V50 5G คือหนึ่งในมือถือ vivo รุ่นกลางที่ให้ประสบการณ์เกือบเทียบเท่าระดับเรือธง โดยเน้นเรื่องกล้องที่โดดเด่น ด้วย กล้องหลัง 50MP ทั้ง 2 ตัว (Main + Ultrawide) พร้อมโหมด Zeiss Multi-Focal Portrait และ Smart Aura Light ที่ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตสวยเป็นธรรมชาติแม้ในที่แสงน้อย อีกทั้งยังมีกล้องหน้า 50MP ที่รองรับวิดีโอ 4K เหมาะกับสายถ่ายคอนเทนต์, TikTok, หรือวิดีโอคอลแบบชัดระดับมือโปร

มือถือรุ่นนี้มาพร้อม หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว แบบโค้ง ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,500 nits ให้ภาพสวยสดและคมชัดในทุกสภาพแสง ตัวเครื่องมีดีไซน์บางพรีเมียม พร้อมกระจกกันรอย Diamond Shield และมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น ใช้งานกลางแจ้งหรือพกพาระหว่างเดินทางได้อย่างมั่นใจ

vivo V50 ใช้ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่เพียงพอสำหรับงานมัลติทาสก์และการใช้งานประจำวันแบบลื่นไหล จับคู่กับ RAM 12GB และ ROM 256GB พร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 6,000 mAh ที่รองรับชาร์จไว 90W และฟีเจอร์ Reverse Wired Charging ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เหมาะกับคนที่กำลังมองหามือถือ vivo กล้องสวย ราคาไม่เกินสองหมื่น ที่ครบทั้งสเปค กล้อง และดีไซน์

สเปคเด่น vivo V50 5G

• หน้าจอ AMOLED แบบโค้ง ขนาด 77 นิ้ว
• ความละเอียด FHD+
• รีเฟรชเรต 120Hz
• ความสว่างสูงสุด 1,500 nits
• กระจกกันรอย Diamond Shield
• ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3
• RAM 12GB LPDDR4x
• ROM 256GB UFS 2.2
• กล้องหลัง 2 ตัว: 50MP Main, 50MP Ultrawide
• กล้องหน้า 50MP รองรับ 4K Video
• โหมด Zeiss Portrait + Smart Aura Light
• แบตเตอรี่ 6,000 mAh
• ชาร์จไว 90W
• Reverse Wired Charging
• ระบบปฏิบัติการ Android 15 + Funtouch OS 15
• กันน้ำกันฝุ่น IP68
• ลำโพงสเตอริโอ

iQOO Neo 10 เป็นมือถือเกมมิ่งระดับกลางค่อนไปทางพรีเมียมจากแบรนด์ลูกของ vivo ที่จัดเต็มด้านประสิทธิภาพด้วยชิป Snapdragon 8s Gen 4 และระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ ทำให้รองรับการเล่นเกมกราฟิกสูงต่อเนื่องได้ดีโดยไม่ร้อนจัด ช่วยให้ผู้ใช้เล่น ROV, PUBG, Genshin ได้ลื่น ๆ และประหยัดพลังงานกว่ารุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมากับ จอ AMOLED 144Hz ที่ให้ภาพลื่นตา เหมาะทั้งดูคอนเทนต์และเล่นเกมแบบเต็มอรรถรส

แม้จะเป็นสายแรง แต่ iQOO Neo 10 ก็ไม่ละเลยเรื่องกล้อง โดยมีกล้องหลัก 50MP + OIS พร้อมกล้อง Ultra-Wide 8MP และกล้องหน้า 16MP รองรับโหมดถ่ายภาพครบครัน รวมถึงการถ่ายวิดีโอ 4K และโหมดถ่ายภาพกลางคืน ตัวเครื่องออกแบบมาพรีเมียม มีทั้งสีโทนเรียบและสีสดใสฝาหลังแบบหนังเทียมสำหรับคนชอบสไตล์เท่หรือแฟชั่น

มือถือรุ่นนี้ยังมาพร้อมแบต 5,160 mAh และชาร์จไว 120W ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เต็ม เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการมือถือที่ "แรง เล่นลื่น กล้องดี ราคาคุ้มค่า" โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ นักศึกษา หรือยูสเซอร์ทั่วไปที่อยากได้มือถือ vivo หรือ iQOO รุ่นใหม่ในปี 2025 ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงเรือธงแต่จ่ายน้อยกว่า

สเปคเด่น iQOO Neo 10

• ชิป Snapdragon 8s Gen 4
• จอ AMOLED ขนาด 78 นิ้ว
• ความละเอียด 5K (2800 x 1260)
• รีเฟรชเรตสูง 144Hz
• RAM สูงสุด 16GB
• ROM สูงสุด 1TB
• ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber 6,000 มม.²
• กล้องหลัง 2 ตัว: 50MP Main (OIS), 8MP Ultra-Wide
• กล้องหน้า 16MP
• วิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง
• แบตเตอรี่ 5,160 mAh
• ชาร์จไว 120W FlashCharge
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 + OriginOS
• ดีไซน์ฝาหลังหนังเทียม / กระจก
• ลำโพงสเตอริโอ + Linear motor
• รองรับ 5G และ WiFi 6

vivo Y19s เป็นมือถือสายคุ้มในกลุ่มราคาไม่เกินหมื่น ที่ออกแบบมาตอบโจทย์คนเน้นความครบครันแบบพอดี ๆ ทั้งจอใหญ่ แบตอึด กล้องสวย และดีไซน์ดูดีแม้ราคาเบา มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ที่ใหญ่เต็มตา ดูหนัง เล่นโซเชียลได้สะใจ ความละเอียดระดับ HD+ และรองรับรีเฟรชเรต 90Hz ให้ภาพลื่นไหลกว่ารุ่นที่เป็น 60Hz

สิ่งที่โดดเด่นของรุ่นนี้คือ กล้องหลังคู่ 50MP พร้อมเลนส์ Bokeh แยก ช่วยถ่ายภาพบุคคลได้สวยเป็นธรรมชาติ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8MP ก็เพียงพอสำหรับวิดีโอคอลและถ่ายเซลฟี่แบบสดใส ระบบกล้องของ vivo ยังรองรับโหมดกลางคืน AI และ Portrait ได้ค่อนข้างดีในช่วงราคานี้ ตัวเครื่องบางเบาเพียง 8.19 มม. พร้อมฝาหลังลายด้านดูพรีเมียม จับถนัดมือ

แม้จะอยู่ในกลุ่มราคาไม่เกิน 5,000–6,000 บาท แต่ vivo Y19s ก็ให้แบต 5,000 mAh ใช้งานได้เต็มวัน และยังรองรับชาร์จไว 15W ผ่าน USB-C ทำให้ใช้งานสะดวก ไม่ต้องชาร์จนานเกินไป เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่มองหามือถือ vivo ราคาถูก ใช้เรียนออนไลน์ เล่นแอปพื้นฐาน และถ่ายรูปสวย ๆ ได้ในงบจำกัด

สเปคเด่น vivo Y19s

• ชิป MediaTek Helio G85
• RAM 6GB / ROM 128GB
• หน้าจอ LCD ขนาด 56 นิ้ว
• ความละเอียด HD+ (1612 × 720 พิกเซล)
• รีเฟรชเรต 90Hz
• กล้องหลังคู่ 50MP Main, 2MP Bokeh
• กล้องหน้า 8MP
• แบตเตอรี่ 5,000 mAh
• รองรับชาร์จไว 15W (USB-C)
• ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 บน Android 13
• สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
• ดีไซน์ฝาหลังด้าน มีให้เลือก 2 สี: Mystic Black, Jewel Green
• น้ำหนัก 185 กรัม
• ความบาง 19 มม.

vivo Y39 5G คือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ออกมาตอบโจทย์คนที่ต้องการมือถือจอใหญ่ แบตอึด ดีไซน์สวย พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นประหยัดพลังงานที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 4nm ใช้งานทั่วไปลื่นไหล กล้องหลัง 50MP พร้อมโหมดถ่ายภาพหลากหลาย ฟีเจอร์ครบในราคาหมื่นต้น ๆ

โดดเด่นด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1608 × 720) รองรับรีเฟรชเรต 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits เห็นชัดแม้กลางแจ้ง ใช้ชิป Snapdragon 4 Gen 2 พร้อม RAM 8GB + RAM เสมือนอีก 8GB รวมสูงสุด 16GB และ ROM 256GB แบบ UFS 3.1 ที่หาได้ยากในมือถือระดับราคานี้

แบตเตอรี่จุใจถึง 6,500 mAh รองรับชาร์จไว 44W พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP64 ดีไซน์ฝาหลังพลาสติกแต่ให้สัมผัสดูดี มีให้เลือก 2 สี: Blue และ Purple ถือว่าเป็นมือถือ vivo ราคาไม่เกิน 10,000–12,000 ที่ครบทั้งสเปค แบต กล้อง และฟีเจอร์การใช้งานพื้นฐานได้ดีเกินราคา

สเปคเด่น vivo Y39 5G

• หน้าจอ: LCD ขนาด 68 นิ้ว ความละเอียด 1608 × 720, รีเฟรชเรต 120Hz
• ชิปเซ็ต: Snapdragon® 4 Gen 2 (4nm), Octa-core (2x2.2GHz + 6x1.95GHz)
• RAM: 8GB + ขยาย RAM ได้อีก 8GB รวมสูงสุด 16GB (LPDDR4X)
• ROM: 256GB (UFS 3.1), ไม่รองรับ microSD
• กล้องหลัง: 50MP f/1.8 + 2MP Bokeh f/2.4 พร้อมแฟลช
• กล้องหน้า: 8MP f/2.0
• โหมดกล้อง: Photo, Portrait, Night, Pro, Dual View, Slo-mo, Time-lapse ฯลฯ
• แบตเตอรี่: 6,500mAh (BlueVolt) พร้อมชาร์จไว 44W
• ระบบปฏิบัติการ: Funtouch OS 15 บน Android 15
• ดีไซน์: ฝาหลังพลาสติก น้ำหนัก 205–206 กรัม, หนา ~8.1 มม.
• พอร์ต: USB-C (USB 2.0), ช่องหูฟัง 5 มม.
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.1, GPS, OTG
• กันน้ำกันฝุ่น: IP64
• สแกนลายนิ้ว: ด้านข้าง
• ลำโพง: สเตอริโอ
• สีที่มี: Blue / Purple
• เซนเซอร์: Proximity, Ambient Light, Gyroscope, Accelerometer, Magnetometer

vivo Y200 5G เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในกลุ่มกลางที่มาพร้อมดีไซน์บางเบา เรียบหรูในสี Dynamic Black, Titanium Silver และ Dreamy Violet พร้อมฝาหลังพลาสติกแบบด้านจับถนัดมือ น้ำหนักเบาเพียง 188-190 กรัม และความบางแค่ 7.79 มม. เท่านั้น หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับสีแบบ DCI-P3 เต็มช่วง ให้ภาพคมชัด สว่างสดใสสูงสุดถึง 1800 nits และรองรับ Refresh Rate 120Hz ใช้งานลื่นไหลทั้งดูหนัง เล่นโซเชียล หรือเล่นเกมทั่วไป

ด้านกล้อง vivo Y200 5G จัดเต็มกล้องหลัง 50MP + 8MP พร้อมไฟแฟลชและแสงออร่าคู่แบบสองโทน รองรับโหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย เช่น 50MP, Night Mode, Dual View และ Pro Mode ส่วนกล้องหน้า 32MP ก็เด่นไม่แพ้กัน มีโหมด Portrait และ Night Selfie ให้หน้าชัดหลังละลายแม้ในที่แสงน้อย ด้านประสิทธิภาพ ใช้ชิป Snapdragon 4 Gen 2 พร้อม RAM สูงสุด 12GB (ขยายได้อีก 12GB) และ ROM สูงสุด 512GB เพิ่ม microSD ได้อีก 2TB เหลือเฟือสำหรับสายโหลดแอปหรือเก็บรูป-วิดีโอ

จุดเด่นที่น่าประทับใจที่สุดคือแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับชาร์จไวสูงถึง 80W ซึ่งหาได้ยากในมือถือราคาหมื่นต้น ๆ พร้อมเซนเซอร์ครบครัน เช่น ไจโรสโคป, มอเตอร์สั่น, เข็มทิศดิจิทัล และระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอ อีกทั้งยังมีมาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ IP64 และพอร์ตเชื่อมต่อครบทั้ง USB-C, Wi-Fi Dual Band และ Bluetooth 5.0 ใช้งานได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ในราคาจับต้องได้

สเปคเด่นของ vivo Y200 5G

• หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว, FHD+ (2400 × 1080), 120Hz, 1800 nits, DCI-P3
• ชิปเซ็ต Snapdragon® 4 Gen 2 (4nm)
• RAM/ROM 8GB+256GB หรือ 12GB+512GB (ขยาย RAM ได้อีกเท่าตัว)
• เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 2TB
• กล้องหลัง 50MP (f/1.8) + 8MP (f/2.2), มีแฟลชและแสงออร่าแบบสองโทน
• กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
• แบตเตอรี่ 5000 mAh, รองรับชาร์จไว 80W
• ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 (Android 14)
• กันน้ำกันฝุ่น ระดับ IP64
• ดีไซน์บางเบา หนาเพียง 79 มม., น้ำหนัก 188-190 กรัม
• พอร์ตและการเชื่อมต่อ USB-C, Wi-Fi 2.4/5GHz, BT 5.0, GPS ครบ
• รองรับ 5G คลื่นหลักในไทยครบทุกย่าน
• รองรับ 2 ซิม หรือ 1 ซิม + microSD

สำหรับใครที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟน 5G ราคาคุ้มค่า พร้อมการใช้งานลื่นไหล เล่นเกมดี แบตอึด และรองรับชาร์จไว iQOO Z9x 5G คือตัวเลือกที่น่าจับตามองในปีนี้ โดดเด่นด้วยชิป Snapdragon 6 Gen 1 บนเทคโนโลยีการผลิต 4nm ที่เน้นความแรงและประหยัดพลังงาน ควบคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000 mAh ที่ใช้งานได้ข้ามวัน พร้อมรองรับ ชาร์จไว 44W และดีไซน์บางเบาแม้แบตจะใหญ่ก็ตาม

iQOO Z9x ยังมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.72 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ตอบสนองไว ดูวิดีโอหรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมกล้องหลัง 50MP + 2MP ที่ใช้งานได้หลากหลายทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่างการขยาย RAM สูงสุด 12GB และรองรับ microSD ได้ถึง 1TB จัดเต็มในราคาประหยัด ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่เน้นความแรงและความอึดในเครื่องเดียว

ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในบอดี้บางเพียง 7.99 มม. และน้ำหนัก 199 กรัม พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP64 มีระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 บน Android 14 ใหม่ล่าสุด พร้อม Bluetooth 5.1, NFC, GPS ครบชุด ถือเป็น มือถือ 5G แบตอึด ราคาหมื่นต้น ๆ ที่คุ้มเกินตัว เหมาะกับทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือสายเกมเมอร์งบจำกัด

สเปคเด่น iQOO Z9x 5G

• หน้าจอ LCD ขนาด 72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 × 1080)
• รีเฟรชเรต 120Hz / ความสว่างสูงสุด 1000 nits
• ชิป Snapdragon 6 Gen 1 (4nm) / Octa-core 2.2GHz
• RAM 8GB/12GB + RAM ขยายสูงสุด 12GB
• ROM 128GB / 256GB รองรับ microSD สูงสุด 1TB
• แบตเตอรี่ 6000 mAh / ชาร์จไว 44W
• กล้องหลังคู่ 50MP + 2MP / กล้องหน้า 8MP
• รองรับวิดีโอ 50MP, Pro Mode, Dual SIM 5G
• รองรับ GPS, GLONASS, Galileo, QZSS
• มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64
• สแกนนิ้วที่ปุ่มด้านข้าง
• รองรับ NFC, OTG, Bluetooth 5.1