สำหรับกระแสรองเท้าวิ่ง Adidas ล่าสุดในปี 2024 คือกระแสมาแรงมากไม่แพ้รองเท้าวิ่งแบรนด์อื่นเลย ลูกรักของหลายคนก็คงเป็นรุ่น Adidas Adizero Adios Pro 3 หรือ Takumi Sen 10 ก็ว่ากันไป ตามหารีวิวตามโลกออนไลน์แล้วทุกคนก็เชียร์กันเยอะ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นใหม่ล่าสุดกัน จะมีรุ่นไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับการวิ่งสั้น ยาว ซ้อม ทำความเร็วบ้าง ในบทความนี้จะพาไปดูทุกคู่ที่น่าสอยกัน แอบกระซิบว่ารองเท้าวิ่งเทรล Adidas เค้าก็ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ทำถึงน่า ถ้าใครสายเทรลก็มาอ่านไปด้วยกันได้ค่า
บรรณาธิการ
Table of Contents
รองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นไหนดี ใหม่ล่าสุด เบา วิ่งได้เร็ว ขวัญใจมหาชน ปี 2024
ประเดิมที่ตัวแรกจากรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นล่าสุดที่อาจจะไม่ได้ล่าสุดมาก แต่ก็ถือว่าใหม่อยู่นะคะ Adidas Adizero SL เป็นรองเท้าวิ่งชาย-หญิงที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเอาไว้ใช้ซ้อม และที่สำคัญตอนน้องลดราคาจากเว็บทางการราคาต่ำสุดอยู่ที่สองพันิด ๆ เองนะคะจากราคาเต็ม 4500 บาท ใครเล็งไว้เป็นคู่ซ้อมวิ่งเพซเบา กลาง ๆ ไปจนถึงเร็วถือว่าควรมี
จุดเด่นของรองเท้าวิ่ง Adidas ตระกูล Adizero ที่ต้องพูดถึงคือเรื่องของโฟมค่ะ เพราะมีจุดเด่นชัดเจน นั่นก็คือตัวโฟม LIGHTSTRIKE ในรุ่น Adizero SL จะใช้เป็นโฟม LIGHTSTRIKE EVA มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นสูง ฟีลตอนวิ่งจะดูเด้งดีประมาณนึงเลยล่ะ เหมาะวิ่งซ้อมแต่อาจจะเน้นความเร็วเยอะหน่อย ส่วนของอัปเปอร์เองก็ระบายอากาศดี วิ่งไปเท้าไม่ร้อน
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ทำจากผ้าตาข่ายที่มีการถักทอแบบพิเศษ ซึ่งมีช่องระบายอากาศ
- Midsole: ทำจาก LIGHTSTRIKE EVA เน้นเรื่องดูดซับแรง เสริมความมั่นคงในการวิ่ง
- Outsole: พื้นชั้นล่างทำจากยางคุณภาพสูง
รีวิวจากผู้ซื้อ: รองเท้าใส่สบาย หน้าเท้าเเน่น หลังเท้านิ่มมาก ใส่สบาย
รองเท้าวิ่ง Adidas ที่อยู่ในระดับสูงและได้รับเสียงรีวิวจากออนไลน์ว่านี่เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งตัวท็อปที่หลายคนเทใจให้เลย เพราะอะไรกันนะรุ่น Adizero Adios Pro 3 ถึงถูกใจ มาอ่านกันค่ะ คุณอาจจะเป็นอีกคนที่กดคู่นี้ลงตะกร้าก็ได้
สำหรับรองเท้าวิ่งอาดิดาสรุ่นท็อปรุ่นนี้ หลายคนที่อยู่ในวงการวิ่งอาจจะได้ยินชื่อเขาบ่อยหน่อยนะคะ เพราะพี่ใหญ่คนนี้เขาฮอตมา หน้าตาก็ดี คุณสมบัติก็ดีสมเป็นลูกรักหลายคนจริง ๆ รองเท้าวิ่ง Adidas Adios Pro 3 เป็นรองเท้าที่เกิดมาเพื่อทำความเร็วและเอาไว้ใช้แข่งสนามจริง เพราะเป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยี ENERGYRODS 2.0 ที่เป็นแท่งคาร์บอนที่ช่วยเพิ่มความแข็งและลดการสูญเสียพลังงานในขณะวิ่ง เหมาะกับนักวิ่งที่มีเพซวิ่งสูง ๆ และที่สำคัญยังทำออกมาได้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ แต่ถ้าใครที่เอามาวิ่งสบาย ๆ อาจจะไม่แนะนำรุ่นนี้นักเพราะตัวคาร์บอนเองอาจจะเป็นภาระขาได้
และเจ้าตระกูลนี้เองก็เป็นรุ่นที่มีนักวิ่งเลือกเป็นคู่ใจด้วย ซึ่งถ้ายกตัวอย่างก็เห็นจะเป็นคุณเปเรส เจปเชียร์เชียร์ และ คิบิวอตต์ แคนดี ที่ทำลายสถิติโลกได้จากการสวมใส่รองเท้าตระกูล Adizero เลยทำให้รองเท้านี้เป็นที่นิยมในหมู่นักวิ่ง
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ทำจาก Adidas Celermesh ซึ่งเป็นวัสดุที่เบาและมีความโปร่งสบาย
- Midsole: โฟม LIGHTSTRIKE PRO และ ENERGYRODS 2.0
- Outsole: ยาง Continental™ ทนทานและให้การยึดเกาะที่ดีพื้นแห้งและเปียก
รีวิวจากผู้ซื้อ: เร็ว แรง เด้ง ทำเวลาได้ดี
ใครที่ไม่ได้ชอบการวิ่งระยะยาว ชอบวิ่งแบบ 5K หรือ 10K มากกว่า เพราะมองแล้วอาจจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์และดูบรรลุได้ง่ายกว่าระยะมาราธอน ต้องลองมองรุ่นนี้ไว้เลยถ้าใครเอนจอยการวิ่งระยะสั้นแบบ 5 กิโล 10 กิโล เพราะคู่นี้ถือว่าเป็นน้องคนรองของตระกูลรองเท้าวิ่งของอาดิดาส นั่นก็คือ รองเท้าวิ่ง Adidas Adizero Takumi Sen 10 ที่ให้คุณไปถึงระยะทางระยะสั้นในความเร็วที่ดีขึ้นได้ เพราะว่ารองเท้านี้ออกแบบมาเพื่อทำสปีดให้ดีขึ้น น้ำหนักตัวเบา มีเทคโนโลยี ENERGYRODS 2.0 วัสดุเส้นใยแก้วรีไซเคิลในพื้นรองเท้าชั้นกลาง ช่วยลดการสูญเสียพลังงานขณะวิ่ง สเปคโฟมอะไรก็เหมือนพี่หมดเลย แต่ได้ราคาที่เบาลงมาหน่อยเหลือ 6,000 กว่าบาท
โดยรุ่น Takumi Sen 10 ก็มีการปรับโฉมอัปเปอร์ให้กระชับขึ้นด้วย ออกแบบใหม่ด้วยผ้าตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้น และมี Sling Launch Heel Construction ที่ช่วยให้รองเท้าตรงส้นกระชับมากขึ้น
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ใช้ผ้าตาข่ายถักทอจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งมีน้ำหนักเบาและช่วยในการระบายอากาศได้ดี
- Midsole: โฟม Lightstrike Pro แบบสองชั้น
- Outsole: ยาง Continental™ ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะและความทนทาน
รีวิวจากผู้ซื้อ: ลองไส่แล้ว ดูแตกต่าง จากยี่ห้อ อื่น ชัดเจนครับ เบา เด้ง ปานกลาง วัสดุ ดีมากครับ
สำหรับคนที่เน้นเป็นรองเท้าวิ่งสาย support จากฝั่ง Adidas เราน่าจะได้ยินตระกูล Ultraboost มาเยอะ แต่รุ่นนี้ของรองเท้าวิ่ง Adidas ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน กับ Adidas Supernova Solution เหมาะกับคนที่ต้องการคู่วิ่งเสริมความมั่นคงในการวิ่งทั่วไป ไม่เน้นแข่งแต่ขอแค่ได้ออกแรงวิ่งเป็นพอ รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะ
จุดเด่นที่ต้องพูดถึงก็คือเรื่องของโฟม Dreamstrike+ และโครงสร้าง Comfort Heel Fit ที่เกิดมาเพื่อเสริมความสบายให้ผู้สวมใส่ขั้นสุด เหมาะกับทั้งคนที่มีข้อเท้าล้มเข้าด้านใน และคนที่มีหน้าเท้ากว้าง
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ทำจากผ้าเมชที่นุ่มและยืดหยุ่น
- Midsole: โฟม Dreamstrike+ พัฒนามาจาก LIGHTSTRIKE PRO มีความนุ่มและคืนตัวได้ดี สบายตลอดระยะทาง มี Stability Rods ที่ทำจากโฟม EVA
- Outsole: Adiwear rubber ซึ่งมีความทนทานและให้การยึดเกาะที่ดี
รีวิวจากผู้ซื้อ: ยังไม่พบรีวิว
สำหรับสายวิ่งที่เน้นวิ่งตามเมือง หรือทางเท้า ที่พื้นผิวจะเน้นเป็นคอนกรีตหรือทางลาดยางต้องรุ่นนี้เลย กับรองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุด Adidas Boston 12 ที่ในโลกออนไลน์ก็อวยยศให้เยอะไม่แพ้พี่ใหญ่เลย
โดยเจ้าตัว Boston 12 จะเน้นไปที่การเป็นรองเท้าวิ่งคู่ซ้อมสำหรับทำเวลาให้เร็วขึ้น หรือจะใช้เป็นคู่ลงแข่งระยะกลาง ๆ ไปถึงระยะไกลได้ และที่บอกว่าเหมาะกับวิ่ง Road running ก็เพราะว่าพื้นทำออกมาได้ดี มีการเกาะพื้นที่ดี สเปคโฟมรองเท้าเองก็เหมือนรุ่นท็อปของตระกูล Adizero โดยใช้โฟม Lightstrike Pro และ Lightstrike 2.0 ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกและให้แรงส่งคืนที่ดี
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ผ้าตาข่าย Engineered Mesh ระบายอากาศได้ดีและกระชับ
- Midsole: Lightstrike Pro + Lightstrike 2.0
- Outsole: ยาง Continental™ ให้การยึดเกาะที่ดี
รีวิวจากผู้ซื้อ: ยังไม่พบรีวิว
ใครที่ชอบความท้าทาย อยากเจอเส้นทางการวิ่งที่หลากหลาย ได้อยู่กับธรรมชาติไปด้วย รองเท้าวิ่งเทรล Adidas คู่นี้จะพาคุณไปตะลุยทุกเส้นทางที่คุณอยากไปพิชิต โดยเจ้าตัว Adidas Terrex Agravic Speed Ultra นับได้ว่าเป็น Adios Pro 3 แต่ว่าเป็นน้องแฝดเพื่อไปวิ่งเทรลดี ๆ นี่เอง สเปคเด็ดสุดแล้วในรองเท้าวิ่งเทรลของอาดิดาส จะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ทำให้คุณทำสปีดได้ดี มีการออกแบบทรงรองเท้าให้เหมาะกับการวิ่งลุย น้ำหนักเบามาก รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ตรงพื้นรองเท้าก็ดีไซน์ให้เกาะพื้นดีเยี่ยม ใครที่อยากได้รองเท้าวิ่งเทรลตัวท็อปเราว่านี่แหละน่าลอง
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: Kinetic Upper ใช้การถักที่ไร้ตะเขบ และลิ้นรองเท้าถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เศษดินหรือหินเข้าไปในรองเท้า
- Midsole: โฟม LIGHTSTRIKE PRO ช่วยดูดซับแรงกระแทกและคืนพลังงาน และ Energy Rods: แท่งคาร์บอนที่ช่วยส่งแรง
- Outsole: ยาง Continental™ ให้การยึดเกาะดีทั้งพื้นเปียกและแห้ง
รีวิวจากผู้ซื้อ: ตัววัสดุดีมาก น้ำหนักเบา แต่ฉันต้องลดไซส์อีกครึ่งเบอร์ ปรกติใส่ 9 uk
รุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นก่อนหน้า Adidas Adizero Boston 12 แต่ว่าที่ยังแนะนำอยู่เพราะว่าราคาดีกว่ากันเยอะเลย สำหรับนักวิ่งที่จะเอาไว้เป็นคู่ซ้อมหรือลงแข่งโร้ดรันนิ่งระยะทางเบา ๆ รุ่นนี้ก็ถือว่ายังไม่ตกสเปคเท่าไหร่ แต่ฟีลลิ่งอาจจะมีแข็งกว่าเจ้ารุ่นน้องนิดหน่อย เรื่องของโฟมใช้เป็นโฟมรุ่นก่อน นั่นก็คือ Lightstrike Pro + Lightstrike ตัว Energyrods ก็เป็นของรุ่นก่อน แต่เรื่อง upper ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนมากเมื่อเทียบกับรุ่นล่าสุด อาจจะกระชับไม่สู้แต่ถือว่ายังใช้ได้ดี
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ผ้าตาข่าย Celermesh 2.0 ที่มีความโปร่งและระบายอากาศได้ดี
- Midsole: โฟม Lightstrike ที่มีความแข็งแรงและตอบสนองได้ดี
- Outsole: ยาง Continental ที่มีการออกแบบเป็นรูปแบบริบบิ้น ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการทรงตัว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ใส่สบายรองรับน้ำหนักได้ดี ใส่เดินทั้งวันสบาย สบายเลย ไม่มีอาการเมื่อย
รองเท้าวิ่ง Adidas ที่ไม่ใช่รุ่นล่าสุด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องน้ำหนักก็คือขิงได้ยาว ๆ เลย เพราะเป็นหนึ่งในรองเท้าน้ำหนักเบาสุดแล้วแค่ 207 กรัม (เป็นรองเรื่องน้ำหนักเมื่อเทียบกับ Adios Pro Evo 1 และ Takumi Sen 10 นิดเดียว) เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งที่ราคาอยู่ในระยะ 5000 นิด ๆ ต้องมีเค้าไว้ในใจแล้วล่ะ ผ้าอัปเปอร์ก็ยังระบายอากาศได้อย่างดี พร้อมผนึกกำลังกับโฟมที่โคตรเบาอย่าง LIGHTSTRIKE PRO พร้อมมีเทคโนโลยีอย่าง ENERGYTORSION ROD 2.0 ช่วยให้วิ่งได้ไวขึ้นด้วย สามารถใช้วิ่งแข่งได้แบบสบายใจเลยสเปคงามแบบนี้
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ผ้าตาข่ายน้ำหนักเบาที่ช่วยในการระบายอากาศได้ดี โดยมีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50%
- Midsole: ใช้โฟม LIGHTSTRIKE PRO และ LIGHTSTRIKE 2.0 ซึ่งช่วยให้การรองรับแรงกระแทกมีประสิทธิภาพและให้ความรู้สึกนุ่มเด้ง
- Outsole: ยาง Continental™ ซึ่งช่วยให้การยึดเกาะที่ดีบนพื้นผิวถนนทุกรูปแบบ
รีวิวจากผู้ซื้อ: ยังไม่พบรีวิว
นี่ก็เป็นรองเท้าวิ่งที่ทำน้ำหนักออกมาได้เบาดีเช่นกัน แต่รุ่นนี้เหมาะกับคนชอบวิ่งราว 5K 10K หรือไกลกว่านี้นิดหน่อย เป็นรองเท้าที่มีความคุ้มเยอะ เอาไปวิ่งทำความเร็วแบบไม่ซีเรียสได้เช่นกัน ตรงกลางมีแกน TORSIONRODS ช่วยให้ถ่ายเทแรงได้ดีขึ้น ราคาตอนมีโปรถือว่าต้องรีบเอาลงตะกร้าเลย อยู่ที่ประมาณ 19xx นิด ๆ และนักวิ่งมือใหม่งบน้อยก็สอยตัวนี้ได้เลยที่หน้าเว็บของอาดิดาส แต่ตามร้านออนไลน์เราจะไม่ค่อยเห็นรุ่นนี้เท่าไหร่
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: วัสดุที่มีส่วนผสมของรีไซเคิลอย่างน้อย 50% ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- Midsole: Midsole ใช้เทคโนโลยี Lightstrike ที่ช่วยในการรองรับแรงกระแทกและส่งพลังงานคืนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ
- Outsole: ยาง Continental™ ที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นผิวได้ดี
รีวิวจากผู้ซื้อ: พึ่งใด้ของเดี๋ยวลองแล้วมาบอกอีกที เบื้องต้นเบาดีแต่พื้นแอบแข็งๆใครชอบนุ่มๆสบายๆ ข้ามรุ่นนี้ไปก่อน
สำหรับผู้หญิงหรือสายที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่ไปกับเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ใส่แล้วได้รับการซัพพอร์ทอย่างดี เดินหรือวิ่งก็ไม่เมื่อยเท้า ต้องมามุงรองเท้าวิ่ง Adidas Ultraboost 22 เพราะเป็นรองเท้าวิ่งที่มีการออกแบบมาเพื่อ support เท้าของคุณอย่างแท้จริง โดยการออกแบบจะออกแบบให้เหมาะกับรูปเท้าของผู้หญิงเป็นหลัก มีเอกลักษณ์ที่ดีมากเมื่อพูดถึงซีรีส์ Ultraboost นั่นก็คือรองเท้ามีระบบ LEP Torsion System ที่ช่วยในการคืนพลังและเพิ่มความเร็วขณะวิ่ง พร้อมพื้น Boost ที่มอบความนุ่มสบาย และระบบซัพพอร์ต EP Torsion System ช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหว ไม่ใช่แค่เหมาะเอาไปวิ่งเท่านั้น แต่ใครเป็นสายเดิน นั่นก็เดิน นี่ก็เดิน เราว่าคู่นี้ออกแบบมาไฮบริดแบบพอดีเลย
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ใช้ Primeknit+ ที่มีความยืดหยุ่นและสบายมากขึ้น โดยมีการถักทอจาก Parley Ocean Plastic 50% ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- Midsole: ใช้ Boost foam เหมือนเดิม แต่ Ultraboost 22 มีการปรับโครงสร้างภายในให้มีความนุ่มและคืนพลังได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะที่บริเวณส้นเท้าและปลายเท้า
- Outsole: ยาง Continental ทนทานและยึดเกาะดี
รีวิวจากผู้ซื้อ: Ultraboost 22 สีสวยถูกใจ นุ่ม ใส่สบาย สามารถเดินได้ทั้งวัน
สำหรับตอนต้น เรานำเสนอรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่น Adizero SL ไป แต่สำหรับคนที่อยากได้รองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นใหม่ล่าสุดในรุ่นย่อย SL เราอยากให้มามุงที่ Adizero SL2 เพราะว่าในรุ่นนี้คือพัฒนาได้ดีขึ้น เรื่องน้ำหนักทำได้เบาขึ้น โฟมดีขึ้น จากเมื่อก่อนใช้แค่ Lightstrike EVA แต่มารอบนี้เปลี่ยนมาใช้ Lightstrike Pro ที่จะเบากว่าและเด้งกว่าด้วย เรื่องระบายอากาศยังทำได้ดีมากกว่าด้วยเช่นกัน ใช้ลงแข่งวิ่งทำความเร็วได้ดีเลยล่ะ วิ่งระยะไกลก็เหมาะอยู่ แต่ใครที่ข้อเท้าบิดรุ่นนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะนัก
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: ผ้าเมชที่ออกแบบมาเฉพาะ ระบายอากาศทำได้ดีเยี่ยม
- Midsole: ใช้โฟม Lightstrike Pro และ Lightstrike 2.0 ที่มีความหนาแน่นต่ำ ซึ่งช่วยให้การวิ่งนุ่มนวลและตอบสนองได้ดี
- Outsole: ยางที่ทนทาน มีค่าความแข็ง 79.8 HC
รีวิวจากผู้ซื้อ: A great value for money daily trainer that suits your training needs from long/ easy run to threshold run and anything in between.
เรานำเสนอรองเท้าวิ่งเทรล Adidas ตัวท็อปไปก่อนหน้านี้แล้วซึ่งจะเป็นรุ่น Adidas Terrex Agravic Speed Ultra แต่ว่าราคาก็คถือว่าสูง สำหรับคนที่อยากประหยัดงบลงมาหน่อย รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้อยู่นะ สำหรับรองเท้าวิ่ง trail Adidas Terrex Agravic Speed จะมีสเปคที่ค่อนข้างใกล้เคียง แต่ว่าก็จะมีจุดต่างอยู่บ้าง โฟมออกแบบมาให้รองรับการวิ่งเทรลระยะกลาง ๆ มากกว่า ซึ่งทางตัวรุ่นพี่จะซัพพอร์ตยันระยะอัลตรา ความสามารถในการยึดเกาะของตัวนี้นี้เหมาะกับเทรลที่เส้นทางแห้ง แต่ยังไงเรื่องความเบาก็คือทำได้เบาเลยแม้ว่าจะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่สเปครองลงมา
ส่วนประกอบหลักของรองเท้า
- Upper: เป็นโครงสร้างน้ำหนักเบา
- Midsole: ใช้โฟม LIGHTSTRIKE ซึ่งช่วยในการดูดซับแรงกระแทกและให้ความสบาย
- Outsole: ยาง Continental™ ที่ให้การยึดเกาะที่ดี
รีวิวจากผู้ซื้อ: classic comfortable shoe that is still stable, lightweight and nimble on the trails
ประวัติแบรนด์ Adidas
สุดยอดรองเท้าวิ่งและอุปกรณ์กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี ที่เซอร์ไพร์สกว่านั้นก็คือ รู้ไหมว่าแบรนด์ Adidas เกิดขึ้นจากห้องซักผ้าเล็กๆ ของสองพี่น้อง Adolf (Adi) Dassler และ Rudolf (Rudi) Dassler จนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ได้ทำมันอย่างจริงจังจนเกิดเป็นแบรนด์ชื่อว่า Dassler แต่เพราะภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สองพี่น้องได้มีเรื่องหมางใจกัน สุดท้ายก็แยกย้ายกันไป และคนน้องก็ได้ตั้งชื่อแบรนด์ใหม่ว่า Adidas ที่มาจากการผสมชื่อและนามสกุลของตัวเขาเอง
เส้นทางของแบรนด์เริ่มจาก Adidas เริ่มพัฒนารองเท้าที่มีพื้นรองเท้าเป็นเดือยแหลม และในปี 1972 โลโก้ Trefoil ถูกเปิดตัวในโอลิมปิกมุนิค ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์
ในช่วงปี 1980 Adidas เริ่มขยายตลาดไปยังอเมริกาและกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักร้องและดารา ทำให้แบรนด์ไม่เพียงแต่เป็นสินค้าสำหรับนักกีฬา แต่ยังเป็นแฟชั่นสำหรับคนทั่วไป Adidas ขยายตลาดไปทั่วโลกและกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาและผู้บริโภคทั่วไป โดยมีรุ่นรองเท้าที่หลากหลาย เช่น Samba, Stan Smith, และ Superstar เป็นต้น
ส่วนเรื่องรองเท้าวิ่งเองก็มีนักวิ่งที่ลงแข่งรายการระดับโลกที่มั่นใจเลือกใช้รองเท้าวิ่งจาก Adidas จนชนะมาแล้ว ซึ่งรองเท้าที่นิยมในสนามวิ่งจะเป็นรุ่น Adizero ซะมาก รุ่นท็อปเลยก็จะเป็น Adidas Adizero Pro
รองเท้าวิ่ง Adidas มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับการวิ่งแบบไหน
ถ้าเราเปิดเว็บไซต์ Adidas เข้าไปดูรองเท้าวิ่ง เราจะเห็นว่าโอ้โห มันมีหลายรุ่นมากแม่ แล้วเลือกไงล่ะเนี่ยทั้งตระกูล Adidzero ที่มีรุ่นย่อยอีกเพียบ ไหนจะรุ่น Ultraboost ที่ก็ดีเกินคุณน้า ไหนจะรองเท้าที่ราคาเป็นมิตรสุด ๆ อีก มาดูกันว่าถ้าเราจะเลือกรองเท้าอาดิดาสสักคู่มาใส่วิ่งเราจะเลือกรุ่นยังไงบ้าง
- รองเท้าวิ่งสำหรับสาย Performance สำหรับคนที่รักการสมัครงานวิ่ง งานนี้แหละเราต้องได้เหรียญ งานนี้แหละต้องชนะ ทำลายสถิติเก่าตัวเองให้ได้ pace วิ่งเราต้องแบบนี้แหละถึงจะเรียกว่าชนะ ถ้าคุณมีจุดมุ่งหมายเพื่อความเป็นเลิศ แข่งวิ่งเพื่อจะชนะ หรือทำความเร็วให้ดีกว่าเดิม เราอยากให้คุณมาดูรองเท้าวิ่ง Adidas ที่น่าจะเหมาะกับเป้าหมายดังกล่าวค่ะ
- รองเท้าวิ่ง Adidas Adizero เหมาะกับนักวิ่งที่มุ่งหวังให้รองเท้ามาช่วยต่อยอดสกิลการวิ่งของตัวเองให้ดีขึ้น ซึ่งรุ่นย่อยในบ้าน Adizero มีรุ่นย่อยเยอะ เรามาแตกย่อยดีกว่าว่าอันไหนใช่คุณที่สุด
- PRIME X 2 STRUNG แพงสุดในรองเท้าวิ่ง Adidas สาย Performance (ในเว็บทางการที่ยังมีขาย หากเป็นตัวที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาจะเป็นรุ่น Adios Pro Evo 1) มีจุดเด่นที่แผ่นคาร์บอนคู่ ใช้เทคโนโลยี Strung ที่ช่วยให้มีการระบายอากาศที่ดีและรองรับโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รองเท้ามีความกระชับและสบายขณะวิ่ง และมีการใช้โฟม LIGHTSTRIKE PRO หนาถึง 50 มม. รวมกัน 3 ชั้น
- Adios Pro 3 ราคาเป็นรอง PRIME X 2 STRUNG และเป็นรุ่นฮิตของนักวิ่งหลาย ๆ คน มีความเบามากขึ้น เทคโนโลยี ENERGYRODS 2.0 ช่วยจำกัดการสูญเสียพลังงาน ใช้วิ่งแข่งมาราธอนคือสบายเลย (รุ่น Adios Pro 3 Y3 จะมีราคาสูงกว่า แต่ในเว็บทางการสินค้าไม่มีสต็อคแล้ว)
- Takumi Sen 10 รองเท้าสายวิ่งแข่งเหมือนกัน ความเบาทำได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ PRIME X 2 STRUNG และ Adios Pro 3 เหมาะกับวิ่งระยะสั้น แต่ต้องการทำความเร็วสูง
- Boston 12 เป็นรองเท้าวิ่งที่ก็ไม่ได้เน้นแค่ความเร็วหรือเอาไว้วิ่งระยะไกลเท่านั้น แต่เป็นตัวที่ค่อนข้างจะมีความไฮบริดสูง เหมาะเป็นทั้งรุ่นเอาไว้ซ้อมวันปกติหรือใช้วิ่งระยะไกล นักวิ่งทุกระดับก็สามารถเริ่มได้ที่รุ่นนี้
- SL 2 เป็นรองเท้าวิ่งของ Adidas ในตระกูล Adizero ที่ราคาเข้าถึงง่าย แต่สเปคก็จะเบาลงมานิดหน่อย เหมาะกับเอาไว้ซ้อมหรือวิ่งเร็วได้อยู่ หรือใครที่ต้องการการซัพพอร์ตที่พอประมาณ เฟิร์มกำลังดี แต่ถ้าเอาทำความเร็วจริงๆ จังๆ ก็อาจจะยังไม่สู้พี่ ๆ ตัวท็อปอย่าง Takumi Sen 10
- นอกจากรุ่นด้านบน ยังมีรุ่นที่ราคาเบาลงมาอีก คือ RC แต่ว่าถ้าจะลงแข่งจริง ๆ ก็แนะนำรุ่นก่อนหน้าจะมีสเปคที่เหมาะสมกว่า หรือถ้าใครอยากประหยัดงบก็สามารถเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง Adidas Adizero ช่วงจัดโปรโมชั่นก็ได้ เพราะบางรุ่นก็ลดเยอะเลย
- รองเท้าวิ่ง Adidas Adizero เหมาะกับนักวิ่งที่มุ่งหวังให้รองเท้ามาช่วยต่อยอดสกิลการวิ่งของตัวเองให้ดีขึ้น ซึ่งรุ่นย่อยในบ้าน Adizero มีรุ่นย่อยเยอะ เรามาแตกย่อยดีกว่าว่าอันไหนใช่คุณที่สุด
- รองเท้าวิ่งสำหรับสาย Everyday จะเป็นรองเท้าวิ่งที่เน้นซัพพอร์ตมากกว่า ไม่ได้เน้นเพื่อเอาไปลงแข่ง ราคาจะเบากว่าสาย Performance โดยจะมีรุ่นที่เหมาะกับการเป็นรองเท้าวิ่งสายวิ่งในทุก ๆ วัน คือรุ่น Supernova และ Ultraboost นั่นเอง ซึ่งแยกรุ่นย่อยออกมาได้ดังนี้
- รองเท้าวิ่ง Adidas Supernova ออกแบบมาเพื่อการวิ่งประจำวันและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกย่างก้าว
- Supernova Rise เป็นรองเท้าวิ่งเอาไว้ซ้อมวิ่งระยะไกลได้ พื้นทน
- Supernova Solution เป็นรองเท้าวิ่ง everyday ที่มีความมั่นคงที่ส้นเท้าดีมาก
- Supernova Stride เป็นรองเท้าวิ่งของ Adidas ที่มีราคาเบาลงมา เหมาะกับคนต้องการรองเท้าซ้อมในงบประมาณที่ไม่บานปลาย
- รองเท้าวิ่ง Adidas Ultraboost รุ่นนี้จะเป็นบ้านรองเท้าวิ่งสำหรับคุณผู้หญิงด้วย เหมาะเป็นทั้งรองเท้าวิ่งและรองเท้าสำหรับคนชอบเดินด้วย โดยเรามาดูรุ่นย่อยดีกว่าว่าเค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว
- Ultraboost 1.0 เป็นรุ่นแรกของตระกูล และมีการใช้ BOOST Technology คืนพลังยอดเยี่ยม
- Ultraboost 2.0 รุ่นต่อยอด มีความกระชับขึ้นกว่ารุ่นก่อน วัสดุที่ใช้ทนมากขึ้น
- Ultraboost 3.0 ปรับใหม่ใช้ Primeknit ที่ถักทอใหม่ น้ำหนักลดลง คล่องตัวสูงขึ้น
- Ultraboost 4.0 ปรับต่อ แต่รอบนี้ outsole จะเด่นเป็นพิเศษและเรื่องความสบายก็ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- Ultraboost 5 ใหม่ที่สุดและดีที่สุดในตอนนี้ เบาลงเยอะ เพิ่ม BOOST foam ถึง 9 มม. และมีการเพิ่ม Torsion Bar ในพื้นรองเท้า เพิ่มความมั่นคงในการวิ่ง เรื่องระบายอากาศก็ทำได้ดี
- นอกจากนี้ก็ยังมีรองเท้าวิ่ง Adidas Ultraboost อีกหลายรุ่นย่อย สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ทางการเลย: เปิดเพื่อดูรองเท้าวิ่ง Ultraboost
- หรือถ้าคุณต้องการรองเท้าวิ่งซ้อมสายซัพพอร์ตอีกซีรีส์ แวะมาดู Adidas Adistar ได้ จุดเด่นเน้นซัพพอร์ตไม่แพ้กับ Ultraboost เลย
- รองเท้าวิ่ง Adidas Supernova ออกแบบมาเพื่อการวิ่งประจำวันและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกย่างก้าว
- รองเท้าวิ่งสำหรับการวิ่งเทรล เป็นรองเท้าที่มีจุดประสงค์ชัด เน้นเอาไปวิ่งเทรลเป็นหลัก ดอกยางจะเด่นกว่ารองเท้าวิ่งอาดิดาสทุกรุ่น เน้นดีไซน์ที่เหมาะลงพื้นที่ทั้งเปียกและแห้ง โดยรองเท้าวิ่งเทรล Adidas จะมีชื่อตามหลังว่า Terrex จะมีรุ่นฮิต ๆ อยู่ตามนี้
- Terrex Agravic 3 เหมาะกับการวิ่งเทรลที่ต้องการความเร็ว
- Terrex Speed Ultra พี่ใหญ่สุด ราคาแรงสุด แต่เหมาะสำหรับคนที่วิ่งเทรลเป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับคนที่จริงจังกับการพิชิตเส้นทางที่ท้าย จุดเด่นคือเหมือนเป็นรองเท้าวิ่งที่มาในร่างของ Adios Pro 3 แต่แค่คู่นี้มีไว้เพื่อทำความเร็วในสายวิ่งเทรลโดยเฉพาะ
- Terrex Agravic XT GORE-TEX มีเทคโนโลยี GORE-TEX กันน้ำได้ ความทนทานก็สู้พี่ใหญ่ได้สบาย
- Terrex Trailmaker 2.0 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีราคาเบา เหมาะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่เน้นวิ่งระยะไกลแต่อาจจะไม่ได้เน้นสปีดเยอะ มีการรองรับแรงกระแทกที่ดีเลย
เลือกรองเท้าวิ่ง Adidas ยังไงดี
- ดูว่าเราจะไปวิ่งเอาสนุกหรือไปวิ่งเพื่อลงแข่ง ถ้าวิ่งเพื่อมีจุดประสงค์เพื่อสุขภาพ หรือแค่ระยะสั้น ไม่ได้ตั้งใจจะแข่งใคร รองเท้าก็อาจจะไม่ต้องสเปคสูงมาก แต่ถ้าเน้นแข่ง เอาไปใช้ทำความเร็ว หรือเป็นนักวิ่งที่ต้องการทำลายสถิติเก่าตัวเอง รองเท้าตระกูล Adizero เช่น Pro 3, Sen 10 เป็นต้นไป จะเป็นซีรีส์ที่เหมาะสมที่สุด
- พิจารณาว่าพื้นผิวที่เราจะไปวิ่งส่วนใหญ่เป็นแบบใด ใช่พื้นถนนเป็นหลักหรือเปล่า หรือเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างท้าทาย เข้าป่า ขึ้นเขาหรือไม่ เพราะถ้าเป็นถนนส่วนใหญ่รองเท้าวิ่งอาดิดาสจะมีให้เลือกเยอะ เราก็ค่อยมาดูอีกทีว่าจุดประสงค์ของการวิ่งเราคืออะไร แต่ถ้าวิ่งเทรลก็จะมีรุ่น Terrex ที่แนะนำ แต่ต้องมาเช็คอีกครั้งว่าเทรลครั้งนี้เราเน้นทำความเร็วไหม หรือเน้นยึดเกาะ มั่นคง ก็จะมีรุ่นย่อยให้เลือกอีกที
- เลือกรองเท้าวิ่ง Adidas ให้เหมาะกับรูปเท้าและข้อเท้าตัวเองจะดีที่สุด และสำหรับคนที่มีข้อเท้าบิดเข้าอาจจะต้องหารองเท้าที่มีการล็อคส้นด้วย
- ขนาดต้องฟิตพอดี เพราะแม้จะสเปคสูงแค่ไหน ถ้าใส่ไม่พอดีหรือคับไป ก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บระหว่างการวิ่งได้เช่นกัน
- พิจารณารองเท้าให้เหมาะกับงบประมาณ ในแต่ละซีรีส์ของรองเท้าจะมีทั้งระดับท็อป กลาง ไปจนถึงราคาที่เบาที่สุด นักวิ่งสามารถกรองได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน
บทส่งท้าย
จบไปแล้วกับการแนะนำรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นใหม่ล่าสุด ประจำปี 2024 มีทั้งตัวท็อป ตัวซัพพอร์ต ตัวราคากลาง ไปจนรุ่นพี่ฝั่งเทรล หวังว่าทุกคนจะเจอคู่ที่โดนใจจากแบรนด์รองเท้าวิ่งอาดิดาสนะคะ และก็สนุกกับทุกการวิ่งค่า