ตลาด iPhone ในไทยปี 2025 กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ผู้บริโภคต้องตัดสินใจระหว่างรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 8 รุ่นพร้อมกัน แต่ละรุ่นมีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกซื้อซับซ้อนกว่าเดิมมาก
การเลือก iPhone รุ่นล่าสุดไม่ใช่แค่เรื่องของงบประมาณ แต่ต้องพิจารณาการใช้งานจริง ฟีเจอร์ที่จำเป็น และความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อราคาแต่ละรุ่นต่างกันหลายหมื่นบาท และมีฟีเจอร์ที่ซ้อนทับกันในหลายจุด
คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างของ iPhone รุ่นล่าสุดทั้ง 8 รุ่น ตั้งแต่ iPhone Air ที่เน้นความบางเบา ไปจนถึง iPhone 17 Pro Max ที่มาพร้อมฟีเจอร์ระดับสูงสุด เราจะวิเคราะห์จุดเด่นของแต่ละรุ่น เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติ และแนะนำรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท
บรรณาธิการ
Table of Contents
วิธีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์
การคัดเลือก iPhone รุ่นล่าสุดในคู่มือนี้อิงจากหลักเกณฑ์หลัก 4 ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพของชิปเซ็ต คุณภาพกล้อง ดีไซน์และวัสดุ และความคุ้มค่าในแต่ละช่วงราคา
เราให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของคนไทย เช่น ความทนทาน การถ่ายภาพ และการใช้งานแอปพลิเคชันหลากหลายพร้อมกัน รวมถึงการรองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะมีประโยชน์ในอนาคต
ข้อมูลราคาและสเปกทั้งหมดอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการ และตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายในตลาดไทย ณ เดือนกันยายน 2025
หากต้องการรายละเอียดทั้งหมด แนะนำให้เช็คกับเว็บทางการของแบรนด์ก่อนซื้อ
แนะนำ iPhone รุ่นล่าสุด 2025
นี่คือ iPhone รุ่นเรือธงใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์บางที่สุดและชิป A19 ประสิทธิภาพสูง
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว 120Hz
- ชิปเซ็ต A19
- กล้องหลัง 48MP พร้อม AI
- รองรับ WiFi 7 และ USB4
- แบตเตอรี่ใช้งานเต็มวัน
- ดีไซน์บางเฉียบใหม่
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 17 ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดในรูปแบบที่พกพาสะดวก ดีไซน์บางเฉียบทำให้ถือใช้งานสบายมือ ขณะที่ชิป A19 ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน กล้อง 48MP พร้อมฟีเจอร์ AI ช่วยให้ได้ภาพคุณภาพสูงแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย
เคล็ดลับการใช้งาน: เปิดใช้งาน ProRAW เมื่อถ่ายภาพในสถานการณ์สำคัญ เพื่อให้ได้ไฟล์ภาพที่แก้ไขได้อย่างละเอียด
จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ได้กล้องดีขึ้น iPhone สำหรับมืออาชีพที่มาพร้อมกล้อง 4 ตัวและเลนส์ซูม 10 เท่า
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ ProMotion 120Hz
- ชิป A19 Pro
- กล้องหลัง 4 ตัว พร้อมเลนส์ Periscope ซูม 10 เท่า
- วัสดุไทเทเนียม
- รองรับ USB4
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 17 Pro เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่เน้นใช้เพื่องานสร้างสรรค์อย่างจริงจัง ระบบกล้อง 4 ตัวพร้อมเลนส์ Periscope ให้ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพสูงสุด วัสดุไทเทเนียมทำให้เครื่องแข็งแรงแต่เบากว่าเหล็กกล้า ชิป A19 Pro รองรับการประมวลผลวิดีโอ 4K และการแก้ไขภาพระดับมืออาชีพได้อย่างลื่นไหล
เคล็ดลับการใช้งาน: ใช้โหมด Action Mode เมื่อถ่ายวิดีโอขณะเคลื่อนไหว เพื่อลดการสั่นไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าคุณคือคนชอบความเป็นที่สุด คือ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด จอใหญ่ที่สุด พร้อมแบตเตอรี่อึดที่สุด และกล้องระดับมืออาชีพที่สุดของแอปเปิ้ล
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.9 นิ้ว 120Hz
- ชิป A19 Pro
- กล้องหลัง 48MP + เลนส์ Periscope
- วัสดุไทเทเนียม
- รองรับ WiFi 7 และ USB4
- แบตเตอรี่ความจุสูงสุด
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 17 Pro Max เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทุกอย่างในระดับสูงสุด หน้าจอ 6.9 นิ้วเหมาะสำหรับการดูหนัง แก้ไขภาพ และทำงานหนัก แบตเตอรี่ความจุสูงรองรับการใช้งานเต็มวันแม้ใช้งานหนัก ระบบกล้องเทียบเท่า Pro แต่มาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า
เคล็ดลับการใช้งาน: เปิดใช้งาน Battery Health Optimization เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ในระยะยาว
บางจนกลายเป็นประเด็นในบางประเทศ นี่คือ iPhone บางเบาที่สุดพร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาเข้าถึงได้
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว
- ชิป A18
- กล้องคู่ 48MP
- รองรับ USB-C
- ดีไซน์บางเบาที่สุด
- แบตเตอรี่ใช้งานเต็มวัน
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone Air เป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการ iPhone ที่พกพาสะดวกแต่ไม่ต้องการจ่ายเงินเกิน ดีไซน์บางเบาทำให้ใช้งานสบายมือ ชิป A18 ให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับงานทั่วไปและเกมส์ระดับกลาง กล้องคู่ 48MP ถ่ายภาพได้คุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้
เคล็ดลับการใช้งาน: ใช้โหมด Low Power Mode เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30% เพื่อยืดเวลาใช้งานได้อีกหลายชั่วโมง
iPhone Pro รุ่นก่อนที่ยังคงแรงและคุ้มค่าในราคาที่ลดลง เป็นรุ่นไหนไปไม่ได้ นั่นคือ iPhone 16 Pro
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ ProMotion 120Hz
- ชิป A18 Pro
- กล้องหลัง 3 ตัว 48MP
- วัสดุไทเทเนียม
- รองรับ USB-C
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 16 Pro เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับ Pro แต่ไม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีล่าสุด ชิป A18 Pro ยังคงให้ประสิทธิภาพสูงเพียงพอสำหรับงานหนักทุกประเภท ระบบกล้อง 3 ตัวครอบคลุมการใช้งานส่วนใหญ่ ราคาที่ลดลงทำให้คุ้มค่ากว่ารุ่นใหม่
เคล็ดลับการใช้งาน: อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอเพื่อให้ได้ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพ
ผู้ที่ต้องการจอใหญ่ กล้องซูมไกล และฟีเจอร์ระดับสูงสุด แต่อยากจ่ายเบาลงกว่า ต้องเล็งรุ่นนี้
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.7 นิ้ว 120Hz
- ชิป A18 Pro
- กล้องหลัง 48MP + เลนส์ซูม 5 เท่า
- วัสดุไทเทเนียม
- รองรับ USB-C
- แบตเตอรี่ความจุสูง
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 16 Pro Max เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่และแบตเตอรี่อึดแต่ไม่ต้องการจ่ายราคาสูงสุด หน้าจอ 6.7 นิ้วเหมาะสำหรับการดูคอนเทนต์และทำงาน เลนส์ซูม 5 เท่าให้ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ ประสิทธิภาพยังคงแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทุกประเภท
เคล็ดลับการใช้งาน: ใช้ Stand By Mode เมื่อวางเครื่องชาร์จเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญแบบ Always-on
iPhone รุ่นพื้นฐานที่ให้ฟีเจอร์ครบครันในราคาที่เข้าถึงได้ หรืออยากลองย้ายค่ายมาลอง iOS รุ่นนี้คือสามารถเป็นเครื่องในฝันของคุณได้
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว
- ชิป A18
- กล้องคู่ 48MP
- รองรับ USB-C
- ดีไซน์ใหม่ทันสมัย
- แบตเตอรี่ใช้งานเต็มวัน
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 16 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ Ecosystem ของ Apple โดยไม่ต้องจ่ายเงินมาก ชิป A18 ให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องคู่ 48MP ถ่ายภาพได้คุณภาพดี การรองรับ USB-C ทำให้ใช้งานสะดวกกว่าเดิม
เคล็ดลับการใช้งาน: เปิดใช้งาน Optimized Battery Charging เพื่อลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
iPhone จอใหญ่ในราคาประหยัดพร้อมแบตเตอรี่ที่อึดกว่ารุ่นธรรมดา
สเปคแบบย่อ:
- หน้าจอ OLED 6.7 นิ้ว
- ชิป A18
- กล้องคู่ 48MP
- รองรับ USB-C
- แบตเตอรี่ความจุสูง
- ดีไซน์ใหม่ทันสมัย
เหตุผลที่แนะนำ: iPhone 16 Plus เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่แต่ไม่ต้องการฟีเจอร์ระดับ Pro หน้าจอ 6.7 นิ้วเหมาะสำหรับการดูวิดีโอและเล่นเกมส์ แบตเตอรี่ความจุสูงรองรับการใช้งานหนักได้ตลอดวัน ราคาที่ต่ำกว่า Pro Max ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
เคล็ดลับการใช้งาน: ปรับ Display Zoom เป็น Standard เพื่อใช้ประโยชน์จากหน้าจอใหญ่ได้เต็มที่
คู่มือการซื้อ iPhone
เข้าใจความต้องการของคุณ
ก่อนตัดสินใจซื้อ iPhone รุ่นใหม่ ควรพิจารณาการใช้งานจริงของตัวเองให้ชัดเจน ในประเทศไทยผู้ใช้ส่วนใหญ่มักใช้สมาร์ทโฟนสำหรับถ่ายภาพ ดูวิดีโอ เล่นเกมส์ และใช้แอปโซเชียลมีเดีย การเดินทางในเมืองที่มีแสงแดดจัดและฝนตกบ่อยก็เป็นปัจจัยที่ต้องคิด
ตรวจสอบความต้องการของคุณ:
- ใช้ถ่ายภาพบ่อยหรือไม่ ต้องการคุณภาพระดับไหน
- เล่นเกมส์หนักหรือแค่ใช้งานทั่วไป
- ต้องการหน้าจอใหญ่สำหรับดูคอนเทนต์หรือไม่
- งบประมาณที่ยืดหยุ่นได้แค่ไหน
- ใช้งานหนักตลอดวันหรือแค่เป็นครั้งคราว
ช่วงราคาและสิ่งที่ได้รับ
ระดับเริ่มต้น (THB 24,900 - 29,900)
ในช่วงนี้จะได้ iPhone Air หรือ iPhone 16 ที่ให้ฟีเจอร์ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบนิเวศ iPhone โดยไม่ต้องจ่ายเงินมาก
แนะนำ: iPhone Air
ระดับกลาง (THB 29,900 - 41,900)
ช่วงราคานี้ครอบคลุม iPhone 16 Plus และ iPhone 17 ที่ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและฟีเจอร์เพิ่มเติม เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ
แนะนำ: iPhone 17
ระดับพรีเมียม (THB 41,900 - 57,900)
ช่วงราคาสูงสุดที่ได้ฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ กล้องขั้นสูง และวัสดุพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานหนักหรือต้องการฟีเจอร์ครบครันที่สุด
แนะนำ: iPhone 17 Pro Max
ฟีเจอร์ที่คุ้มค่าการจ่ายเงินเพิ่ม
- หน้าจอ ProMotion 120Hz – การเลื่อนหน้าจอนุ่มนวลและตอบสนองดีขึ้น
- กล้องระบบ Pro – คุณภาพภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในที่แสงน้อย
- วัสดุไทเทเนียม – แข็งแรงกว่าอลูมิเนียมแต่เบากว่า
- แบตเตอรี่ความจุสูง – สำคัญสำหรับผู้ใช้งานหนัก
- พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ขึ้นไป – จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอบ่อย
- เลนส์ซูมออปติคอล – เพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ
เวลาที่เหมาะสมในการซื้อ
ช่วงลดราคาใหญ่ในไทยมักจะเป็นงาน Double Digit Sale ช่วงท้ายปี หรือ Payday Sale ที่ Shopee และ Lazada มักมีส่วนลดพิเศษ Apple Store และร้านค้าปลีกอย่าง Power Buy, JIB ก็มักมีโปรโมชันในช่วงเดียวกัน
หลีกเลี่ยงการซื้อในช่วง 1-2 เดือนหลังเปิดตัวเพราะราคายังสูง รอให้ตลาดเสถียรประมาณ 3-4 เดือนจะได้ราคาที่ดีกว่า
คำถามที่พบบ่อยก่อนซื้อ iPhone รุ่นล่าสุด
iPhone รุ่นไหนคุ้มค่าที่สุดสำหรับคนไทย?
iPhone 17 ให้ความคุ้มค่าดีที่สุดเพราะมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด ดีไซน์ใหม่ และราคาที่ยังเข้าถึงได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่
ควรซื้อ iPhone รุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าที่ลดราคา?
หากงบประมาณจำกัด iPhone 16 Pro ที่ลดราคาแล้วยังคงให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม แต่หากต้องการเทคโนโลยีล่าสุดและใช้งานยาวนาน iPhone 17 คุ้มค่ากว่า
iPhone Air กับ iPhone 16 ต่างกันอย่างไร?
iPhone Air เน้นความบางเบาและพกพาสะดวก ขณะที่ iPhone 16 ให้ประสิทธิภาพดีกว่าเล็กน้อยแต่หนักกว่า ราคาใกล้เคียงกันแต่ Air เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกในการพกพา
ควรเลือกหน่วยความจำขนาดไหน?
สำหรับการใช้งานทั่วไป 128GB เพียงพอ แต่หากถ่ายภาพวิดีโอบ่อยหรือเล่นเกมส์หลายตัว ควรเลือก 256GB ขึ้นไป
การรับประกันใน iPhone ใหม่เป็นอย่างไร?
iPhone ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 1 ปีจาก Apple และสามารถซื้อ AppleCare+ เพิ่มเติมได้สำหรับการคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น
คำแนะนำสุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อ iPhone ใหม่
สำหรับผู้ที่ทำงานหลากหลายและต้องการประสิทธิภาพสูง iPhone 17 Pro ตอบโจทย์ด้วยกล้อง 4 ตัวและชิป A19 Pro
สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่งบจำกัด iPhone Air ให้ฟีเจอร์ครบครันในราคาที่เข้าถึงได้พร้อมดีไซน์บางเบา
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเสถียร iPhone 16 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีด้วยฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน
สำหรับเกมเมอร์มือถือที่ต้องการหน้าจอใหญ่ iPhone 16 Plus ให้แบตเตอรี่อึดและพื้นที่แสดงผลกว้างขวาง
การเลือก iPhone รุ่นล่าสุดควรพิจารณาจากการใช้งานจริงมากกว่าการไล่ตามเทคโนโลยี ทุกรุ่นในปี 2025 ให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ความแตกต่างอยู่ที่รายละเอียดและฟีเจอร์เฉพาะที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน