Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
เปรียบเทียบกล้อง Leica กับ Hasselblad ในมือถือ ต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบกล้อง Leica กับ Hasselblad ในมือถือ ต่างกันอย่างไร

วิเคราะห์เซ็นเซอร์ เลนส์ ซอฟต์แวร์ ประสิทธิภาพจริง พร้อมแนะนำโหมดถ่ายภาพแต่ละแบบ กล้องสมาร์ทโฟน Leica และ Hasselblad

สมาร์ทโฟนกล้องเทพครองตลาด Leica และ Hasselblad คือสองแบรนด์กล้องระดับตำนานที่ถูกนำมาร่วมกับมือถือเพื่อยกระดับประสบการณ์ถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น Xiaomi-Leica หรือ OnePlus/Oppo-Hasselblad แต่ละแบรนด์นำจุดเด่นของตัวเองมาแต่งเติมมือถือให้น่าสนใจยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาผู้อ่านเข้าใจลึกถึงความแตกต่าง ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์เด่นในแอปกล้อง


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

ต้นกำเนิดและเอกลักษณ์ของ Hasselblad

ต้นกำเนิดของ Hasselblad

Hasselblad คือชื่อที่คุ้นหูในแวดวงกล้องมืออาชีพและการถ่ายภาพระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1841 ที่เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน โดยเริ่มต้นจากกิจการค้าส่ง แต่ในปี 1941 Hasselblad ได้พัฒนาและเปิดตัวกล้องถ่ายภาพขนาดกลาง (Medium Format) รุ่นแรกอย่างจริงจัง ใช้ชื่อรุ่นว่า HK7 เพื่อรองรับงานทางการทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังสงคราม Hasselblad จึงออกกล้องสำหรับตลาดเชิงพาณิชย์ โดยรุ่นที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกคือ Hasselblad 1600F (เปิดตัวปี 1948) ซึ่งเป็นกล้อง Medium Format ระบบ SLR ตัวแรกๆ ของโลก

เอกลักษณ์ของ Hasselblad

  • Medium Format & คุณภาพระดับสูง Hasselblad คือหนึ่งในผู้นำด้านกล้องฟิล์มและดิจิทัลขนาด Medium Format ซึ่งให้รายละเอียดภาพสูงกว่ากล้องฟูลเฟรมหรือ APS-C ทั้งในด้านความคมชัด, ไดนามิกเรนจ์ และความเที่ยงตรงของสี
  • งานประกอบมือระดับพรีเมียม ทุกขั้นตอนของการผลิตใส่ใจในคุณภาพ งานประกอบแน่นหนา ชิ้นส่วนวัสดุเกรดสูง ทำให้ Hasselblad เป็นที่นิยมในวงการมืออาชีพ ทั้งสายแฟชั่น, โฆษณา, สตูดิโอ และศิลปินถ่ายภาพ
  • กล้องแห่งอวกาศ ชื่อเสียงระดับตำนานอีกข้อคือ Hasselblad คือกล้องคู่ใจของ NASA โดยใช้ถ่ายภาพภารกิจอวกาศตั้งแต่ยุค Gemini, Apollo (ภาพบนดวงจันทร์ในปี 1969 ก็มาจาก Hasselblad รุ่น 500EL) จนถึงปัจจุบัน
  • เอกลักษณ์สี Hasselblad Natural Colour Solution (HNCS) Hasselblad มีระบบจัดการสีเฉพาะตัว ให้สีภาพที่ "นุ่มลึก สมจริง" โดดเด่นเรื่องโทนสีผิวและไดนามิกของแสง
    เมื่อร่วมงานกับมือถือ (เช่น OnePlus, OPPO) ก็ถ่ายทอดเอกลักษณ์การปรับสีนี้ให้โทนภาพสวยแบบเป็นธรรมชาติแต่ดูพรีเมียม มีมิติ
  • การออกแบบที่เรียบหรู คลาสสิก งานดีไซน์กล้อง Hasselblad ทรงเหลี่ยม เรียบง่าย เน้นฟังก์ชันและความคงทน กลายเป็นภาพจำของมืออาชีพทั่วโลก

Hasselblad กับสมาร์ทโฟน

ตั้งแต่ปี 2021 Hasselblad ได้ร่วมมือกับ OnePlus และ Oppo ในการปรับจูนซอฟต์แวร์กล้องมือถือ สิ่งที่ถ่ายทอดจาก Hasselblad คือ

  • โทนสีแบบ Hasselblad (HNCS)
  • ฟีลภาพพรีเมียม Cinematic Look
  • โหมดพิเศษเช่น Hasselblad Pro Mode, XPan Mode (อัตราส่วนพาโนรามาแบบกล้องคลาสสิก)

อ่านเพิ่มเติม: ต้นกำเนิดและเอกลักษณ์ของ Leica


ความร่วมมือของ Leica และ Hasselblad กับค่ายมือถือ ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน

ความร่วมมือของ Leica กับค่ายมือถือ

2014–2016 เริ่มต้นกับ Huawei

  • กุมภาพันธ์ 2016 Leica กับ Huawei ทำสัญญาข้อตกลงเชิงเทคโนโลยี ลุยกล้องมือถือร่วมมือกัน
  • เมษายน 2016 เปิดตัว Huawei P9/P9 Plus เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้กล้อง co‑engineered กับ Leica รุ่นเลนส์คู่ RGB + Monochrome

2016–2021 ช่วงต่อเนื่อง Huawei–Leica

  • Leica จับมือกับ Huawei อย่างต่อเนื่องจนถึง Huawei P50 series (ก.ค. 2021) เมื่อ P50E (มี.ค. 2022) คือรุ่นสุดท้ายที่มี Leica optics

2021 เริ่มต้น Leitz Phone ของ Leica

  • กรกฎาคม 2021 เปิดตัว Leitz Phone 1 ร่วมกับ Sharp/SoftBank ตลาดญี่ปุ่น มีเซ็นเซอร์ขนาด 1‑นิ้ว และโหมด "Leitz Look"
  • 2023  เปิดตัว Leitz Phone 2 ต่อในญี่ปุ่น (ขอสรุปจากแนวทางภาพรวม)

2022–ปัจจุบัน พาร์ตเนอร์กับ Xiaomi

  • พฤษภาคม 2022 Leica ประกาศ partnership เชิงยุทธศาสตร์กับ Xiaomi
  • กรกฎาคม - สิงหาคม 2022 เปิดตัว Xiaomi 12S Ultra, MIX Fold 2 “co‑engineered with Leica” พร้อม Leica Authentic & Vibrant profiles
  • มีนาคม 2025 Xiaomi เฉลิมฉลอง 100 ปี Leica ด้วย Xiaomi 15/15 Ultra กับแนวคิด DSLR‑like, lens kit และ manual control features

ความร่วมมือของ Hasselblad  กับค่ายมือถือ

มีนาคม 2021 เริ่มกับ OnePlus

  • OnePlus ประกาศพาร์ตเนอร์กับ Hasselblad มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์
  • เปิดตัว OnePlus 9 / 9 Pro พร้อมระบบ Hasselblad‑tuned optics และ color calibration ในชื่อ “Hasselblad for Mobile”

กุมภาพันธ์ 2022 ขยายสู่ Oppo

  • Oppo เซ็นดีลพาร์ตเนอร์ 3 ปี เริ่มใช้เทคโนโลยีกล้องของ Hasselblad ใน Find X5 series

มกราคม 2025 OnePlus 13

  • ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT‑808 50 MP พร้อมเลนส์ Tele/Ultra‑wide
  • ยังคงใช้ tuning สีแบบ Hasselblad + master modes สำหรับภาพ portrait มืออาชีพ

เมษายน 2025 ใกล้หมดสัญญากับ OnePlus

  • มีข่าวลือว่า OnePlus 15 อาจไม่มีแบรนด์ Hasselblad อีกต่อไปหลังจากหมดสัญญา 3 ปี

เมษายน 2025 Oppo Find X8s / X8 Ultra

  • เปิดรุ่นใหม่พร้อมระบบกล้องที่รวมทั้ง Hasselblad และ brand ใหม่ “Lumo”

เทคโนโลยีเลนส์และโทนสี Hasselblad กับ Leica

เทคโนโลยีเลนส์และโทนสี Hasselblad

  1. เทคโนโลยีเลนส์ Hasselblad Hasselblad เน้นที่การออกแบบเลนส์ที่ให้ ความคมชัดสูง, รายละเอียดดี และ สีที่เป็นธรรมชาติ ผ่านเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากการผลิตกล้องฟิล์ม Medium Format และการถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก (เช่น ภารกิจอวกาศ) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ยังคงรักษามาในการพัฒนาเลนส์มือถือ
  • เลนส์ Hasselblad ที่ใช้ในมือถือ (เช่น OnePlus และ Oppo) ส่วนใหญ่จะใช้ เลนส์หลายชั้น เพื่อควบคุมการบิดเบือนของแสงและลดการเกิด ghosting และ flare ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในเลนส์คุณภาพต่ำ
  • เลนส์จะเน้นที่ การเก็บรายละเอียด และ โฟกัสที่คมชัด โดยเฉพาะใน โหมด Portrait และ กล้อง Telephoto ซึ่งสามารถจับรายละเอียดที่ซับซ้อนในสภาพแสงที่หลากหลายได้อย่างดี
  1. ระบบการประมวลผลสี (Hasselblad Natural Colour Solution - HNCS) Hasselblad ใช้ HNCS เพื่อปรับแต่งภาพให้มี สีที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้สีของผิวหนังและทิวทัศน์ดูสมจริงมากขึ้น แทนที่จะให้ภาพดูสวยงามเกินจริงเหมือนในหลายๆ สมาร์ทโฟน
  • HNCS จะช่วยให้ได้ภาพที่มี ความสดใส โดยไม่ทำให้สีดูจัดจ้านเกินไป
  • นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการ รักษาสมดุลแสง โดยเฉพาะในภาพที่มีแสงและเงาหลายระดับ เพื่อให้ภาพไม่มืดเกินไปในจุดที่ไม่ควรมืด และไม่สว่างเกินไปในจุดที่ไม่ควรสว่าง
  1. โหมดและฟีเจอร์ Hasselblad
  • Master Mode ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการตั้งค่ากล้องได้มากขึ้นเหมือนกับการใช้กล้องมืออาชีพ
  • XPan Mode ใช้สำหรับการถ่ายภาพแบบพาโนรามา ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกเหมือนการถ่ายภาพในสไตล์กล้องฟิล์มของ Hasselblad รุ่นคลาสสิก
  1. โทนสีของ Hasselblad
  • Cinematic Look Hasselblad ให้ความสำคัญกับการปรับโทนสีให้มีลักษณะเหมือนภาพยนตร์ เช่น การใช้ สีเข้ม, สีที่นุ่มนวล และการเพิ่มมิติให้กับภาพ
  • โทนสีผิวที่สมจริง โทนสีผิวของ Hasselblad จะเน้นความสมจริงโดยไม่มีการดึงสีออกไปทางเย็นหรืออุ่นเกินไป

เทคโนโลยีเลนส์และโทนสี Leica

  1. เทคโนโลยีเลนส์ Leica เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการพัฒนา เลนส์คุณภาพสูง โดยเฉพาะในโลกของ กล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอลระดับมืออาชีพ นำเสนอเลนส์ที่ออกแบบมาให้ ภาพคมชัด, รายละเอียดสูง และมี การควบคุมแสงได้ดี
  • เลนส์ของ Leica มักใช้ เลนส์กระจกหลายชั้น เพื่อลดการสะท้อนและปรับแก้ สีแฟลร์ ให้มีความคมชัดมากขึ้น
  • เลนส์ Summicron และ Summilux เป็นเลนส์ที่มีชื่อเสียงในกล้องของ Leica ซึ่งช่วยให้ภาพมี ความละเอียดสูง โดยไม่เสีย ความคมชัด หรือ คุณภาพ ของภาพ
  1. ระบบการประมวลผลสี (Leica Color Science) Leica มี ระบบการประมวลผลสีเฉพาะ ซึ่งให้ โทนสีธรรมชาติ และ รายละเอียด ที่เหมือนกับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม Leica รุ่นคลาสสิก
  • โทนสีที่ออกมาจะมี ความละเอียดสูง และ การเก็บแสงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพแสงที่ยาก
  • สีโทนอบอุ่น ส่วนใหญ่จะเน้นโทนสีที่ อบอุ่น และ เป็นธรรมชาติ, สีสันจะไม่จัดจ้านเกินไปเหมือนบางแบรนด์ที่เน้นสีสดใส
  1. โหมดและฟีเจอร์ Leica
  • Leica Authentic โหมดที่ให้ สีธรรมชาติ และภาพที่มีความ เที่ยงตรง เช่นเดียวกับการถ่ายภาพในโลกจริง
  • Leica Vibrant โหมดที่ทำให้สีดู สดใสขึ้น และเพิ่ม ความคมชัด ในภาพ โดยเฉพาะในภาพที่มีทิวทัศน์หรือสีสันสดใส
  • Monochrome Mode การถ่ายภาพขาวดำ ซึ่งให้ความคมชัดสูงและการเก็บรายละเอียดในภาพขาวดำแบบที่ Leica ทำในกล้องฟิล์ม
  1. โทนสีของ Leica
  • โทนสีที่อบอุ่นและคมชัด Leica เน้นการสร้าง สีที่อบอุ่น และ ให้ภาพดูมีความลึก, โดยเฉพาะในโทนสีผิวที่มีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
  • การเก็บแสงที่ยอดเยี่ยม ด้วยการใช้เลนส์คุณภาพสูงและเทคโนโลยีการประมวลผลภาพ, Leica สามารถเก็บรายละเอียดในแสงที่แตกต่างกันได้ดีมาก โดยไม่สูญเสียความคมชัดในพื้นที่มืดหรือสว่างเกินไป

จุดแข็งและจุดอ่อนของเลนส์ Hasselblad และ Leica

จุดแข็งและจุดอ่อนของเลนส์ Leica

จุดแข็งของเลนส์ Leica

  • สีที่เป็นธรรมชาติ (Leica Color Science) Leica เน้นการให้ภาพที่มี สีที่สมจริง และ การเก็บรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในโทนสีผิวและแสงที่เปลี่ยนแปลงในภาพ โทนสีของ Leica มักจะ อบอุ่น และ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ทำให้ภาพที่ได้ดูไม่จัดจ้านเกินไป
  • คมชัดสูงและความละเอียด เลนส์ Leica มีความสามารถในการ เก็บรายละเอียด ในการถ่ายภาพที่มีความคมชัดสูง โดยเฉพาะในภาพที่มี แสงและเงา อย่างเช่นการถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อย การควบคุม สีและแสง ที่ยอดเยี่ยมทำให้ภาพดูสมจริงและมีความลึก
  • การใช้เลนส์คุณภาพสูง เลนส์ของ Leica มีการออกแบบโดย ใช้กระจกหลายชั้น และ วัสดุที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยลดการบิดเบือนและการเกิด แฟลร์ จากแหล่งแสงแรงๆ
  • โหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย มีโหมดอย่าง Leica Authentic และ Leica Vibrant ซึ่งสามารถให้คุณเลือกภาพที่มีสี สมจริง หรือ สีสันสดใส ตามความต้องการ

จุดอ่อนของเลนส์ Leica

  • ข้อจำกัดในการปรับแต่งสี บางครั้ง, โทนสีที่ได้จาก Leica อาจจะ ไม่สดใสเท่าที่บางคนคาดหวัง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบสีที่มีความสดใสหรือคอนทราสต์สูง การเน้นที่ความสมจริงอาจทำให้ภาพดู จืดชืด หรือ ไม่จัดจ้าน สำหรับผู้ใช้บางคน
  • การจับภาพในสภาพแสงต่ำ ในบางกรณี เลนส์ Leica อาจ ไม่ดีเท่าที่ควรในสภาพแสงน้อย เทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีการใช้เลนส์ที่มุ่งเน้นไปที่การเก็บแสงในสภาพแวดล้อมที่มืด
  • ค่าราคาที่สูง เลนส์และเทคโนโลยีของ Leica มักมีราคาที่ ค่อนข้างสูง ซึ่งบางครั้งอาจไม่คุ้มค่าหากไม่ได้ใช้งานในระดับที่ต้องการคุณภาพสูงสุด

จุดแข็งและจุดอ่อนของเลนส์ Hasselblad

จุดแข็งของเลนส์ Hasselblad

  • สีที่เป็นธรรมชาติและสมจริง (HNCS - Hasselblad Natural Colour Solution) Hasselblad ให้ความสำคัญกับการ รักษาสีที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ภาพมีความ คมชัดและสมจริง โดยเฉพาะสีผิวที่ไม่ทำให้สีดู เย็นหรืออุ่นเกินไป ระบบ HNCS ช่วยให้ได้ภาพที่ ดูสมจริงและมีมิติ, เน้นการเก็บรายละเอียดในเงาและแสงสว่างที่แม่นยำ
  • การควบคุมโทนสีที่มีคุณภาพ การปรับโทนสีของ Hasselblad ช่วยให้ภาพมี โทนสีที่นุ่มนวล ไม่เหมือนบางแบรนด์ที่ทำให้สีดูสดเกินไป ภาพจาก Hasselblad มักจะมีความ คมชัดและการตัดขอบ ที่ดีเยี่ยม ทำให้มันเหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบ Cinematic หรือการถ่ายภาพที่ต้องการความละเอียดสูง
  • ความคมชัดของเลนส์ เลนส์ Hasselblad ช่วยในการ ลดการบิดเบือน และมี ความละเอียดสูง โดยเฉพาะในกล้องแบบ Telephoto ซึ่งสามารถเก็บรายละเอียดในระยะห่างไกลได้อย่างคมชัด
  • ความสามารถในการจัดการแสง ภาพที่ถ่ายจาก Hasselblad จะมี การจัดการแสงที่ดี, แม้จะถ่ายในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี

จุดอ่อนของเลนส์ Hasselblad

  • ไม่เหมาะกับภาพที่มีสีสันสดใสเกินไป แม้ว่าการประมวลผลสีของ Hasselblad จะยอดเยี่ยมในการเก็บสีธรรมชาติ แต่สำหรับบางคนที่ต้องการ สีที่สดใส หรือ คอนทราสต์สูง, เลนส์ของ Hasselblad อาจจะดู ไม่จัดจ้านพอ
  • การถ่ายในสภาพแสงต่ำ ถึงแม้ว่า Hasselblad จะมีการจัดการแสงที่ดี แต่ในบางสถานการณ์ ในที่แสงน้อยสุดขีด หรือ แสงย้อนแสง อาจจะไม่ดีเท่ากับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีเทคโนโลยีในการเก็บแสงในระดับที่สูงกว่า
  • การขาดโหมดพิเศษบางอย่าง Hasselblad ไม่มี โหมดที่หลากหลาย แบบ Leica เช่น Monochrome Mode หรือ Leica Vibrant, ซึ่งทำให้บางคนอาจรู้สึกว่าไม่สามารถปรับแต่งภาพได้มากเท่าที่ต้องการ

มือถือรุ่นเด่นแต่ละฝั่ง Hasselblad vs Leica

มือถือรุ่นเด่นฝั่ง Hasselblad

Oppo Find X8 Ultra

  • กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเลนส์ Hasselblad True Chroma
  • ระบบกล้อง กล้อง 5 ตัว รวมถึงกล้อง Ultra-Wide 50MP, Telephoto 3x 50MP, Telephoto 6x 50MP, และกล้อง Spectral 2MP
  • คุณสมบัติพิเศษ รองรับการบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps และ 4K ที่ 120fps พร้อมโหมด Hi-Res และ Portrait

Oppo Find X7 Ultra

  • กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเลนส์ Hasselblad True Chroma
  • ระบบกล้อง กล้อง 4 ตัว รวมถึงกล้อง Ultra-Wide 50MP, Telephoto 3x 50MP, และ Telephoto 6x 50MP
  • คุณสมบัติพิเศษ รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60fps และ 120fps พร้อมโหมด Portrait และ Night Mode

มือถือรุ่นเด่นฝั่ง Leica

Xiaomi 15 Ultra

  • กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเลนส์ Leica Summilux ขนาด f/1.63–f/2.6 รองรับมุมมอง 14–100 มม.
  • ระบบกล้อง กล้อง Leica 4 ตัว รวมถึงกล้อง Ultra-Wide 14 มม., Telephoto 70 มม., และ Ultra-Telephoto 100 มม. ความละเอียด 200MP
  • คุณสมบัติพิเศษ รองรับการบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps และ 4K ที่ 120fps พร้อมโหมด Pro และ Log 10-bit

Xiaomi 14 Ultra

  • กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเลนส์ Leica Summilux ขนาด f/1.63–f/4.0 รองรับมุมมอง 23 มม.
  • ระบบกล้อง กล้อง Leica 4 ตัว ครอบคลุมช่วงโฟกัสตั้งแต่ 14 มม. ถึง 270 มม.
  • คุณสมบัติพิเศษ รองรับการบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps และ 4K ที่ 60fps

สรุปเลือกเลนส์ Hasselblad vs Leica ดี

การเลือกเลนส์ Hasselblad หรือ Leica ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ทั้งสองแบรนด์มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

ฟีเจอร์ Hasselblad Leica
โทนสี สีสมจริง เหมาะกับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย อบอุ่น สีธรรมชาติ เหมาะกับภาพโทนสีผิว
ความคมชัด คมชัดสูง เหมาะกับภาพที่มีแสงหลากหลาย คมชัดสูง เหมาะสำหรับภาพทิวทัศน์และการถ่ายกลางวัน
การถ่ายในแสงน้อย เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ดี แต่ไม่ดีที่สุดในสภาพแสงน้อย
ความเหมาะสม ผู้ที่ชอบภาพเหมือนภาพยนตร์ โทนสีที่สมจริง ผู้ที่ชอบโทนสีธรรมชาติ ความละเอียดสูง

เลนส์ Hasselblad เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพที่มีความสมจริงและสีสันที่สวยงามแบบภาพยนตร์

  • การเก็บสีที่เป็นธรรมชาติ (HNCS) Hasselblad Natural Colour Solution (HNCS) เป็นระบบที่ช่วยให้สีในภาพมีความ สมจริง และ คมชัด โดยเฉพาะในภาพที่มีสีผิว ซึ่งทำให้ดูเหมือนการถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม
  • โทนสีที่เหมาะกับการถ่ายภาพที่มีแสงน้อย Hasselblad เหมาะสำหรับการถ่ายภาพใน สภาพแสงน้อย หรือ ย้อนแสง เนื่องจากระบบเลนส์และการประมวลผลสีช่วยเก็บรายละเอียดในแสงที่มีความแตกต่างสูง
  • โหมด Master และ XPan Hasselblad มักจะมีโหมด Master Mode ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกล้องมืออาชีพ พร้อมทั้งโหมด XPan สำหรับการถ่ายภาพพาโนรามาแบบที่ให้ภาพดูเหมือนภาพยนตร์
  • ความคมชัดของเลนส์ เลนส์ของ Hasselblad มักมีความ คมชัดสูง และสามารถจับรายละเอียดที่ลึกได้ดีในทุกรูปแบบการถ่าย

เลนส์ Leica เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพที่เป็นธรรมชาติและสีโทนอบอุ่น

  • โทนสีธรรมชาติ Leica มี ระบบการประมวลผลสี ที่ช่วยให้สีในภาพดู อบอุ่น และ เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการถ่ายภาพโทนสีผิวที่ดูสมจริง
  • คมชัดและรายละเอียดสูง Leica เน้นความคมชัดและรายละเอียดสูงในภาพ โดยสามารถถ่ายทอดความละเอียดได้ดีในทั้งภาพกลางวันและกลางคืน
  • การควบคุมแสงที่ยอดเยี่ยม เลนส์ของ Leica ช่วยในการ ควบคุมแสง ได้ดี ซึ่งทำให้การถ่ายในสภาพแสงที่ท้าทาย เช่น แสงย้อนแสงหรือแสงน้อย ให้ภาพที่มีรายละเอียดและสีที่ถูกต้อง
  • โหมดพิเศษ Leica มีโหมดพิเศษอย่าง Leica Authentic และ Leica Vibrant ที่ช่วยปรับโทนสีและความสว่างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ

บทส่งท้าย

เมื่อพูดถึงกล้องมือถือระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงในวงการ Leica และ Hasselblad คือสองแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในวงการการถ่ายภาพ แต่ละแบรนด์มีเอกลักษณ์และเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน โดย Leica มักเน้นที่การสร้างภาพที่ คมชัดและเป็นธรรมชาติ ด้วยสีที่อบอุ่นและโทนสีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ชอบภาพที่ดูเรียลและสมจริง ส่วน Hasselblad เน้นที่การถ่ายภาพที่มี สีสันสมจริงและคมชัดสูง โดยเฉพาะในแสงน้อย รวมถึงมีโหมดพิเศษที่ช่วยให้ภาพมีความรู้สึกแบบภาพยนตร์ (Cinematic Look) ทั้ง Leica และ Hasselblad มีจุดเด่นในแง่ของการควบคุมแสงและสี โดย Leica จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการภาพที่มีโทนสีอบอุ่นและคมชัดในทุกสภาพแสง ในขณะที่ Hasselblad จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการภาพที่มีการจัดการแสงที่ดีและมีสีสันที่สมจริง รวมทั้งโหมดพิเศษสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย หากกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มี กล้องคุณภาพสูง ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ โทรศัพท์กล้องสวย ยี่ห้อไหนดี

สิ้นสุดบทความ