เรามักได้ยินคำว่า “IP Rating” หรือ “Ingress Protection Rating” กันบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงอุปกรณ์กันน้ำกันฝุ่น แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างละเอียดว่า IP Rating คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และเลขที่กำกับหมายถึงอะไรบ้าง ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องค่า IP Rating ให้เข้าใจง่าย พร้อมวิธีดูว่าค่าเหล่านี้ช่วยให้เราเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมได้อย่างไร

บรรณาธิการ
Table of Contents
ค่า IP Rating คืออะไร?
IP Rating หรือ Ingress Protection Rating เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้วัดระดับความสามารถของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมอย่าง ฝุ่น และ น้ำ ไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ ซึ่งมาตรฐานนี้ถูกกำหนดโดย IEC (International Electrotechnical Commission)
คำว่า Ingress Protection แปลตรงตัวได้ว่า “การป้องกันการรุกล้ำ” ซึ่งหมายถึงการป้องกันไม่ให้วัตถุหรือของเหลวเข้าไปในอุปกรณ์ที่อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายหรือทำงานผิดปกติ
โครงสร้างของรหัส IP
รหัส IP จะประกอบด้วยตัวอักษร IP ตามด้วยตัวเลข 2 หลัก เช่น IP54, IP67, IP68 เป็นต้น
โดยแต่ละตัวเลขจะมีความหมายดังนี้
ตัวเลขหลักที่ 1 ระดับการป้องกันของฝุ่นและวัตถุแข็ง
- 0 — ไม่มีการป้องกัน
- 1 — ป้องกันวัตถุขนาดใหญ่กว่า 50 มม. เช่นมือหรือวัตถุใหญ่
- 2 — ป้องกันวัตถุขนาดใหญ่กว่า 12.5 มม. เช่นนิ้วมือ
- 3 — ป้องกันวัตถุขนาดใหญ่กว่า 2.5 มม. เช่นเครื่องมือขนาดเล็กหรือสายไฟ
- 4 — ป้องกันวัตถุขนาดใหญ่กว่า 1 มม. เช่นลวดขนาดเล็ก
- 5 — ป้องกันฝุ่นบางส่วน ฝุ่นอาจเข้าสู่บ้างแต่ไม่ทำให้อุปกรณ์เสียหาย
- 6 — ป้องกันฝุ่นอย่างสมบูรณ์ ไม่มีฝุ่นเข้าสู่ภายใน
ตัวเลขหลักที่ 2 ระดับการป้องกันน้ำ
- 0 — ไม่มีการป้องกัน
- 1 — ป้องกันน้ำหยดตกกระทบบนอุปกรณ์ได้
- 2 — ป้องกันน้ำหยดเมื่อเอียงอุปกรณ์ได้ถึง 15 องศา
- 3 — ป้องกันน้ำพ่นในมุมที่ 60 องศา
- 4 — ป้องกันน้ำกระเซ็นจากทุกทิศทาง
- 5 — ป้องกันน้ำพ่นด้วยแรงดันต่ำจากทุกทิศทาง
- 6 — ป้องกันน้ำพ่นแรงดันสูงจากทุกทิศทาง
- 7 — ป้องกันการจุ่มน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร ได้นาน 30 นาทีโดยไม่เสียหาย
- 8 — ป้องกันการจุ่มน้ำลึกมากกว่า 1 เมตร ตามที่ผู้ผลิตกำหนด
- 9K — ป้องกันน้ำร้อนแรงดันสูง เช่น น้ำฉีดแรงดันสูงหรือไอน้ำแรงดันสูง
ทำไมค่า IP Rating ถึงสำคัญ?
ค่า IP Rating สำคัญมากเพราะช่วยระบุระดับการป้องกันของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่อฝุ่นและน้ำ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความทนทานและความปลอดภัยในการใช้งาน

-
ปกป้องอุปกรณ์จากความเสียหาย
ฝุ่นหรืออนุภาคขนาดเล็กและน้ำที่เข้าไปในอุปกรณ์สามารถทำให้เกิดความเสียหาย เช่น ไฟลัดวงจร หรือส่วนประกอบภายในทำงานผิดปกติ ค่า IP Rating ช่วยให้รู้ว่าอุปกรณ์มีมาตรการป้องกันระดับไหน จึงช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ -
ช่วยเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งาน
ถ้าคุณต้องการใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น เช่น ใกล้ทะเล กลางแจ้ง หรือในโรงงานที่มีฝุ่นมาก ค่า IP จะช่วยชี้ว่าควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระดับการป้องกันเท่าไหร่ เพื่อความทนทานและใช้งานได้จริง -
เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัย
อุปกรณ์ที่มีค่า IP Rating สูงจะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจว่าสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกหรือมีฝุ่นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหาย หรือข้อมูลสูญหายจากปัญหาเหล่านี้ -
ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์
เมื่ออุปกรณ์ทนทานต่อฝุ่นและน้ำได้ดี จะช่วยลดโอกาสเสียหาย ทำให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดความถี่ในการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
IP54 สามารถกันน้ำได้ไหม?
ค่า IP54 สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง โดยหมายความว่าอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน IP54 จะมีความสามารถในการป้องกันน้ำกระเซ็นจากทุกทิศทาง แต่ไม่ได้หมายความว่าสามารถจุ่มน้ำหรือโดนน้ำแรงดันสูงได้ การป้องกันน้ำระดับนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อาจมีน้ำกระเด็น เช่น ฝนตกหรือการทำงานใกล้กับแหล่งน้ำที่มีการสาดน้ำเบา ๆ
อย่างไรก็ตาม หากอุปกรณ์ได้รับการสัมผัสกับน้ำมากกว่าที่มาตรฐานนี้กำหนด เช่น การจุ่มน้ำหรือโดนน้ำแรง ๆ อาจทำให้น้ำซึมเข้าไปภายในและทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ต้องการความทนทานต่อการโดนน้ำอย่างจริงจัง ควรเลือกที่มีค่า IP Rating สูงกว่า เช่น IP67 หรือ IP68 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกและนานกว่ามาตรฐาน IP54 อย่างมาก
IP69K คืออะไร?
IP69K คือมาตรฐานที่รับประกันว่าอุปกรณ์จะทนทั้งฝุ่นและน้ำแรงดันสูงร้อนแรงได้ในระดับสูงสุด ออกแบบมาเพื่อให้อุปกรณ์ทนทานต่อการรุกล้ำของฝุ่นอย่างสมบูรณ์ และกันน้ำแรงดันสูงพร้อมกับน้ำร้อนแรงดันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ตัวเลขหลักแรก 6 หมายถึงอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีฝุ่นเล็ดลอดเข้าไปภายใน
-
ตัวเลขหลักที่สอง 9K หมายถึงการป้องกันน้ำที่รุนแรงที่สุด โดยสามารถทนต่อน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูง (น้ำร้อนแรงดันสูง) ซึ่งมักใช้ในงานอุตสาหกรรมที่ต้องทำความสะอาดเครื่องจักรด้วยแรงดันน้ำร้อนแรงมาก ๆ
โดยทั่วไป ค่า IP69K จะใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย เช่น เครื่องมือในโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์บางประเภท หรืออุปกรณ์ที่ต้องล้างด้วยน้ำแรงดันสูงเพื่อสุขอนามัย
บทส่งท้าย
สรุปง่าย ๆ คือ ค่า IP Rating เป็นตัวชี้วัดความทนทานของอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมจริง ซึ่งสำคัญมากทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละสถานการณ์ ถ้าสนใจมือถือที่มี IP Rating สูงและกันน้ำกันฝุ่นดี ๆ ลองดูบทความได้ที่นี่ โทรศัพท์กันน้ำ ยี่ห้อไหนดี