Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
Snapdragon 8 Gen 3 คืออะไร? สเปค จุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย และมือถือรุ่นแนะนำ

Snapdragon 8 Gen 3 คืออะไร? สเปค จุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย และมือถือรุ่นแนะนำ

รวมข้อมูล Snapdragon 8 Gen 3 ทั้งสเปค Benchmark ความแรง AI GPU และมือถือแนะนำในงบต่าง ๆ

ถ้าคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือที่ทั้งแรง ฉลาด และพร้อมรองรับทุกการใช้งานในปี 2024–2025 หนึ่งในชิปเซ็ตที่ไม่ควรมองข้ามคือ Snapdragon 8 Gen 3 จาก Qualcomm ที่ตอนนี้กลายเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทโฟนเรือธงหลายรุ่นทั่วโลก ด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร และการอัปเกรดทั้งในด้าน CPU, GPU (Adreno 750) รวมถึงระบบ AI ที่ฉลาดขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ควรเปลี่ยนมาใช้มือถือชิป Snapdragon 8 Gen 3 หรือยัง?”

ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจ มือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นล่าสุด ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสายเล่นเกม ถ่ายวิดีโอ ทำงาน หรือหาเครื่องที่แรงแต่ราคาไม่เกิน 30,000 บาท พร้อมเปรียบเทียบกับชิปคู่แข่งอย่าง Dimensity 9300, Exynos 2400, Apple A17 Pro รวมถึงแนะนำรุ่นที่คุ้มค่าและน่าจับตามองที่สุดในตอนนี้

ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Snapdragon 8 Gen 3 ดีจริงไหม และเหมาะกับคุณแค่ไหน

บทความแนะนำ: อยากรู้ว่ามีมือถือชิป Snapdragon Gen 3 รุ่นไหนที่แข่งกับรุ่นอื่นได้อย่างสบาย ลองแวะมาดูที่บทความโทรศัพท์รุ่นไหนดีได้เลย


บรรณาธิการ

Ing On chevron_right

...

Snapdragon 8 Gen 3 คืออะไร?

Snapdragon 8 Gen 3 คือ ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 และเริ่มถูกนำไปใช้จริงในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นมา จุดเด่นของชิปเซ็ตนี้คือการยกระดับประสิทธิภาพแบบรอบด้าน ทั้งในแง่ของ CPU, GPU, AI, การจัดการพลังงาน และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Wi-Fi 7 และ 5G รุ่นล่าสุด ส่งผลให้ Snapdragon 8 Gen 3 กลายเป็นหัวใจหลักของมือถือที่ต้องการทั้ง “ความแรง” และ “ความฉลาด” ในเครื่องเดียว

สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ที่เร็วกว่าแต่ประหยัดพลังงานกว่าเดิม

Snapdragon 8 Gen 3 ถูกผลิตโดย TSMC บนเทคโนโลยี 4nm N4P ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงจาก 4nm เดิมที่ใช้ใน Snapdragon 8 Gen 2 ทำให้สามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากขึ้นภายในพื้นที่เดียวกัน ส่งผลให้ชิปประมวลผลได้เร็วขึ้นในขณะที่ใช้พลังงานลดลง นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่โทรศัพท์มือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3 มักจะร้อนน้อยลงและแบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นก่อนหน้า

แกนประมวลผลแบบ 1+5+2 ที่จูนมาอย่างมีเหตุผล

Snapdragon 8 Gen 3 ใช้โครงสร้าง CPU แบบ octa-core (8 แกน) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก:

  • 1x Cortex-X4 ความเร็วสูงสุด 3.3 GHz: ทำหน้าที่เป็นแกนประมวลผลหลักสำหรับงานที่ต้องการพลังสูง เช่น การเล่นเกม 3D, การตัดต่อวิดีโอ หรือการเรนเดอร์ภาพ
  • 5x Cortex-A720: เป็นแกนประมวลผลหลักที่เน้นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การเปิดแอป, การเลื่อนหน้าจอ หรือสลับแอประหว่างการทำงาน โดยมีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานน้อยกว่ากลุ่ม X4
  • 2x Cortex-A520: แกนประหยัดพลังงานสำหรับงานเบา ๆ เช่น การซิงค์ข้อมูลเบื้องหลัง, การแจ้งเตือน หรือ idle process

โครงสร้างนี้ช่วยให้ Snapdragon 8 Gen 3 มี ประสิทธิภาพรวมดีขึ้นกว่า Gen 2 ประมาณ 20–30% ในขณะที่มีการใช้พลังงานลดลง 15–20% ซึ่งเป็นการปรับสมดุลที่ชัดเจนและส่งผลต่อการใช้งานจริงอย่างเห็นได้ชัด

GPU Adreno 750 รองรับ Ray Tracing และจอ 144Hz แบบลื่นหัวแตก

ด้านกราฟิก ชิปตัวนี้มาพร้อมกับ Adreno 750 GPU ที่ Qualcomm เคลมว่าทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง:

  • Ray Tracing แบบ Hardware-Level สำหรับเกมที่รองรับกราฟิกแสงเงาเหมือนจริง เช่น Genshin Impact หรือ Call of Duty Mobile
  • รองรับจอแสดงผลความถี่สูง สูงสุดถึง 144Hz
  • รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 4K Display หรือ QHD+ Dual Display
  • รองรับการเรนเดอร์กราฟิกด้วยเทคโนโลยี Vulkan 1.3, OpenGL ES 3.2 และ OpenCL 2.0 FP

ผลคือประสบการณ์การเล่นเกมบนือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3 จึงให้ความรู้สึก “สมูท ลื่น และสวยงาม” กว่าที่เคย

AI Engine รุ่นที่ 6 – เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น ทำงานได้แบบ on-device

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ Hexagon NPU (Neural Processing Unit) หรือ AI Engine รุ่นที่ 6 ซึ่ง Qualcomm เคลมว่ามีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมถึง 98% และประหยัดพลังงานขึ้นอีก 40% รองรับการประมวลผล AI ภายในเครื่องโดยไม่ต้องพึ่ง Cloud เช่น:

  • Stable Diffusion (on-device) สำหรับสร้างภาพ AI แบบ real-time
  • การแปลภาษาทันที (Live Translation)
  • AI Camera Assistant ช่วยโฟกัส ปรับแสง และจัดการภาพในโหมด HDR หรือกลางคืน
  • AI Noise Cancellation และ Audio Enhancement ในการโทรหรือประชุมวิดีโอ

สิ่งเหล่านี้ทำให้ Snapdragon 8 Gen 3 กลายเป็น “สมอง” ของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่พร้อมใช้ AI อย่างเต็มประสิทธิภาพ

รองรับการเชื่อมต่อระดับสูง – Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, 5G X75 Modem

Snapdragon 8 Gen 3 มาพร้อมกับ Snapdragon X75 5G Modem-RF System ที่เป็นตัวรับส่งสัญญาณระดับเรือธง รองรับ:

  • 5G mmWave และ Sub-6GHz ความเร็วสูงสุด 10 Gbps
  • Wi-Fi 7 (5GHz + 6GHz) – รองรับ Multi-Link และ HBS (High Band Simultaneous)
  • Bluetooth 5.4 + LE Audio – เหมาะสำหรับหูฟัง TWS ยุคใหม่ที่ต้องการเสียงคุณภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ

นอกจากนี้ยังรองรับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X สูงสุด 24GB และสตอเรจแบบ UFS 4.0 ซึ่งเร็วกว่า UFS 3.1 เดิมถึง 2 เท่า ทำให้การโหลดแอป เปิดไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ หรือการบันทึกวิดีโอ 8K HDR เป็นไปอย่างราบรื่น

Snapdragon 8 Gen 3 กลายเป็นชิปเซ็ตที่ถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนเรือธงหลากหลายรุ่นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 จนถึงกลางปี 2025 ด้วยประสิทธิภาพรอบด้านทั้งด้านความเร็ว การจัดการพลังงาน และความสามารถด้าน AI ที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม จึงไม่แปลกใจที่แบรนด์ใหญ่ยังคงเลือกใช้ชิปเซ็ตนี้แทนการรอ Snapdragon 8 Gen 4 ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัวเท่านั้น

ในปี 2025 มีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่เปิดตัวพร้อม Snapdragon 8 Gen 3 หรือยังคงวางจำหน่ายเป็นรุ่นหลักของแต่ละค่าย โดยเฉพาะในกลุ่มที่เน้นความแรงแบบครบเครื่อง


Snapdragon 8 Gen 3 ดีไหม? ดีกว่าเดิมยังไง?

ด้านล่างนี้คือ ตารางเปรียบเทียบ Snapdragon 8 Gen 3 กับสองรุ่นก่อนหน้า (8 Gen 2 และ 8 Gen 1) เพื่อให้เห็นภาพว่า ดีกว่าเดิมอย่างไร ทั้งด้านประสิทธิภาพ สถาปัตยกรรม ความสามารถด้าน AI กราฟิก และการเชื่อมต่อ พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ทุกจุดเพื่อให้เข้าใจง่าย

คุณสมบัติหลัก

Snapdragon 8 Gen 1

Snapdragon 8 Gen 2

Snapdragon 8 Gen 3

ปีเปิดตัว

ธันวาคม 2021

พฤศจิกายน 2022

ตุลาคม 2023

กระบวนการผลิต

Samsung 4nm (5LPE)

TSMC 4nm (N4)

TSMC 4nm (N4P – ปรับปรุง)

โครงสร้าง CPU

1+3+4

1+4+3

1+5+2 (เพิ่มคอร์ A720)

แกนประสิทธิภาพสูงสุด

Cortex-X2 @ 3.0GHz

Cortex-X3 @ 3.2GHz

Cortex-X4 @ 3.3GHz

GPU

Adreno 730

Adreno 740

Adreno 750 (Ray Tracing แรงขึ้น)

คะแนน Antutu โดยเฉลี่ย

~950,000

~1,270,000

~1,700,000 – 2,000,000+

หน่วยความจำรองรับ

LPDDR5 + UFS 3.1

LPDDR5X + UFS 4.0

LPDDR5X (24GB) + UFS 4.0

AI Engine

Hexagon รุ่น 6

Hexagon Tensor Accelerator

Hexagon NPU Gen 6 (เร็วกว่า 2 เท่า)

การรองรับกล้อง

สูงสุด 200MP

สูงสุด 200MP

สูงสุด 200MP + AI ISP ปรับแสงอัตโนมัติ

การถ่ายวิดีโอ

8K @ 30fps

8K HDR @ 30fps

8K HDR + Multi-Exposure HDR + AI Video

Wi-Fi / BT

Wi-Fi 6E / BT 5.2

Wi-Fi 7 / BT 5.3

Wi-Fi 7 / BT 5.4 (เสถียรกว่า)

5G Modem

X65 (10Gbps)

X70 (10Gbps)

X75 (AI-assisted 5G, mmWave + Sub-6)

Ray Tracing

❌ ไม่รองรับ

✅ รองรับเบื้องต้น

รองรับระดับฮาร์ดแวร์ + แสงสมจริง

พลัง AI

เบื้องต้น

ดีขึ้น

รองรับ Generative AI / Stable Diffusion บนเครื่อง

การจัดการพลังงาน

ร้อนง่าย ใช้งานหนักแบตลดไว

ปรับปรุงดีขึ้น

ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 15–20%

สรุป:

  • ดีกว่าเดิมแบบชัดเจน ทั้งในด้านการประมวลผล (CPU/GPU), การจัดการพลังงาน, ความสามารถด้าน AI, และการเชื่อมต่อ 5G/Wi-Fi
  • เป็นรุ่นแรกที่ “ใช้งาน AI บนเครื่อง” ได้แบบจริงจัง รองรับทั้ง Generative AI และการประมวลผลภาพถ่ายลึกขึ้นแบบเรียลไทม์
  • รองรับ เกมกราฟิกสูง ได้อย่างเสถียร และรองรับ Ray Tracing ในระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งทำให้เกมแสงสมจริงมากขึ้น
  • เป็นชิปที่ หลายแบรนด์ยังเลือกใช้ในปี 2025 แม้มีข่าวลือของ Snapdragon 8 Gen 4 แล้วก็ตาม

มือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3 มีรุ่นไหนบ้าง?

ภาพจาก rog-forum.asus.com

กลุ่มเรือธงตัวท็อป (Flagship)

รุ่น

จุดเด่น

ราคาเปิดตัวโดยประมาณ

Samsung Galaxy S24 Ultra

กล้อง Zoom ระดับ 100x + ชิป “Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy” ปรับแต่งเฉพาะ

~45,000–55,000 บาท

Xiaomi 14 Ultra

กล้อง Leica, ชุดเลนส์ครบ + AI Camera

~45,000 บาท

OnePlus 12

ชาร์จเร็ว 100W + จอ LTPO3 120Hz

~35,000–40,000 บาท

HONOR Magic6 Pro

กล้อง AI พร้อมเทคโนโลยี AI Motion Sensing

~39,000 บาท

vivo X100 Pro+ (คาดเปิดตัวกลางปี 2025)

กล้อง ZEISS + AI Video Processing

ดูเพิ่มเติม: มือถือกล้องสวย และมือถือซัมซุง รุ่นใหม่ล่าสุด

กลุ่มเกมมิ่งสมรรถนะสูง (Gaming-focused)

รุ่น

จุดเด่น

ราคาเปิดตัวโดยประมาณ

ASUS ROG Phone 8 / 8 Pro / 8 Ultimate

ระบบระบายความร้อนแยก + จอ 165Hz

~35,000–50,000 บาท

Red Magic 9 Pro / Pro+

จอลื่น 120Hz, shoulder triggers, ราคาแรงต่อสเปค

~28,000–35,000 บาท

iQOO 12 / 12 Pro

Performance-to-price ดีมาก, เล่นเกมลื่น

~25,000–32,000 บาท

realme GT5 Pro

กล้องใช้ได้ + ชิปแรง + ราคาไม่แรง

~22,000–27,000 บาท

ดูเพิ่มเติม: แนะนำ มือถือเล่นเกม เร็วแรง จอลื่นมาก เหมาะกับเกมเมอร์ตัวจริง

กลุ่มสายกล้องและวิดีโอ

รุ่น

จุดเด่น

ราคาเปิดตัวโดยประมาณ

Xiaomi 14 / 14 Ultra

กล้อง Leica + 8K HDR Video + AI ISP

~30,000–45,000 บาท

HONOR Magic6 Pro / Ultimate

Motion Sensing Camera + AI Focusing

~35,000–42,000 บาท

vivo X100 Pro

เลนส์ ZEISS + AI Portrait

~33,000–38,000 บาท

กลุ่ม “แรงคุ้ม” ราคาดีต่อสเปค

รุ่น

จุดเด่น

ราคาเปิดตัวโดยประมาณ

iQOO 12

ใช้ชิป Gen 3 เต็มสปีด + จอ 144Hz

~23,000–26,000 บาท

realme GT Neo 6 Pro (คาดเปิดตัว Q3/2025)

ราคาคุ้มที่สุดในกลุ่ม Gen 3

~20,000–23,000 บาท

Red Magic 9 Pro

ได้ GPU เต็ม Adreno 750 + ราคาเกมมิ่งเริ่มต้น

~27,000 บาท


Snapdragon 8 Gen 3 เทียบกับชิปคู่แข่ง ปี 2024-2025

คุณสมบัติหลัก

Snapdragon 8 Gen 3

Dimensity 9300 / 9300+

Apple A17 Pro

Exynos 2400

Tensor G4

Snapdragon 8s Gen 3

ผู้ผลิต

Qualcomm

MediaTek

Apple

Samsung

Google

Qualcomm

ปีเปิดตัว

ต.ค. 2023

พ.ย. 2023 / พ.ค. 2024

ก.ย. 2023

ม.ค. 2024

ต.ค. 2024 (คาด)

มี.ค. 2024

เทคโนโลยีผลิต

TSMC 4nm (N4P)

TSMC 4nm (N4P)

TSMC 3nm (N3B)

Samsung 4nm (SF4P)

Samsung 4nm

TSMC 4nm

CPU Layout

1x X4 + 5x A720 + 2x A520

4x X4 + 4x A720 (no efficiency cores)

6-core (2 perf + 4 eff)

1x X4 + 2x A720 + 3x A720 + 4x A520

1x X3 + 4x A715 + 4x A510

1x X4 + 4x A720 + 3x A520

ความเร็วสูงสุด

3.3GHz

3.4GHz (9300+ X4)

3.78GHz (2-core perf)

3.2GHz

~2.9GHz

3.0GHz

GPU

Adreno 750

Immortalis-G720 MC12

Apple GPU (6-core, HW Ray Tracing)

Xclipse 940 (AMD RDNA3)

Mali-G715 MP7

Adreno 735

Ray Tracing

รองรับ (hardware-level)

รองรับ

รองรับ (เต็มระบบ)

รองรับ (ผ่าน AMD GPU)

ไม่รองรับ

รองรับ (ลดประสิทธิภาพ)

AI / NPU

Hexagon NPU Gen 6

APU 790

Apple Neural Engine (35 TOPS)

NPU Gen 4.0

TPU (รุ่น Pixel)

Hexagon (ลดสเปค)

หน่วยความจำ

LPDDR5X 24GB / UFS 4.0

LPDDR5T / UFS 4.0

LPDDR5 + NVMe SSD

LPDDR5X / UFS 4.0

LPDDR5X / UFS 3.1

LPDDR5X / UFS 4.0

5G Modem

Snapdragon X75 (10 Gbps)

MediaTek M80 (7 Gbps)

Qualcomm 5G (เฉพาะในโมเด็ม iPhone)

Exynos Modem 5300

Samsung Modem (5G Sub-6)

Snapdragon X70

Wi-Fi / BT

Wi-Fi 7 / BT 5.4

Wi-Fi 7 / BT 5.4

Wi-Fi 6E / BT 5.3

Wi-Fi 7 / BT 5.3

Wi-Fi 6 / BT 5.3

Wi-Fi 6E / BT 5.3

คะแนน Antutu

~1.7–2.0 ล้าน

~2.2 ล้าน (9300+ สูงสุดในตลาดตอนนี้)

~1.6 ล้าน

~1.5–1.6 ล้าน

~1.2–1.3 ล้าน

~1.3–1.4 ล้าน

จุดเด่น

สมดุลพลัง-ประสิทธิภาพ, AI On-device, กล้อง, เกม

แรงสุดในกลุ่ม Android, เล่นเกมเต็มที่

Efficiency สูงสุด, เล่นเกมดี, กล้องดีมาก

กล้องดี, รองรับ AMD GPU

Pixel Optimization, รองรับ AI Google

คุ้มค่า งบกลางๆ ใช้ฟีเจอร์ Gen 3 หลายอย่าง

จุดด้อย

ราคาสูง, ร้อนกว่า Apple

ไม่มี efficiency core ทำให้กินแบต

ใช้ได้เฉพาะ iPhone

ร้อนง่ายกว่า Gen 3, แรงไม่สุด

แรงน้อยกว่าคู่แข่ง, โมเด็มช้า

ประสิทธิภาพต่ำกว่า Gen 3 ชัดเจน

ดูเพิ่มเติม: มือถือชิป Dimensity อย่าง Xiaomi น่าสนใจมากเช่นกัน

วิเคราะห์ภาพรวม

Snapdragon 8 Gen 3

  • เหมาะกับคนที่ต้องการสมดุลทุกด้าน ทั้งเกม กล้อง AI และความประหยัดพลังงาน มีเวอร์ชันพิเศษอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ที่แรงกว่าเล็กน้อย
  • ใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเกือบทุกรุ่น ณ กลางปี 2025

Dimensity 9300 / 9300+

  • แรงที่สุดบน Android ในการทดสอบ Benchmark แต่ไม่มีคอร์ประหยัดพลังงาน ทำให้แบตหมดเร็วเมื่อใช้งานทั่วไป
  • เหมาะกับเกมเมอร์หรือผู้ใช้ที่ต้องการ raw power แบบไม่เกี่ยงแบต

Apple A17 Pro

  • ใช้ใน iPhone 15 Pro / 15 Pro Max เท่านั้น ประสิทธิภาพต่อพลังงานดีที่สุดในตลาด รองรับ Ray Tracing และกราฟิกสวยมาก
  • ไม่เปิดให้ใช้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น

Exynos 2400

  • กลับมาใหม่ใน Galaxy S24/S24+ รุ่นยุโรป จุดเด่นคือการรองรับ AMD GPU และ ISP กล้อง AI ขั้นสูง แต่แรงไม่เท่า Snapdragon

Tensor G4

  • ใช้เฉพาะใน Pixel Series จาก Google จุดเด่นคือการปรับจูน AI และฟีเจอร์เฉพาะของ Android เช่น Call Screening, Live Translate ฯลฯ แต่ยังตามหลังคู่แข่งด้านพลังประมวลผล

Snapdragon 8s Gen 3

  • เวอร์ชันลดต้นทุนของ Gen 3 ใช้สถาปัตยกรรมคล้ายกัน แต่ลดสเปค CPU และ GPU เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับกลางบน ที่ยังอยากได้ความแรงและฟีเจอร์ Gen 3 ในราคาย่อมเยา

คะแนน Benchmark (Antutu / Geekbench) ของ Snapdragon 8 Gen 3

หนึ่งในวิธีที่ผู้ใช้มักใช้พิจารณาว่า “ชิปดีแค่ไหน” ก็คือการดู คะแนน Benchmark — โดยเฉพาะจาก Antutu และ Geekbench ซึ่งเป็นมาตรฐานที่นิยมใช้ทดสอบสมาร์ทโฟนระดับโลก

Snapdragon 8 Gen 3 เปิดตัวในปลายปี 2023 มีการใช้อย่างแพร่หลายในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงปี 2024–2025 นั้น ทำผลงานได้โดดเด่นในเกือบทุกการทดสอบ โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพรวม (Overall Performance), กราฟิก (GPU), และความสามารถด้าน AI ที่เริ่มมีบทบาทชัดเจนขึ้นในเวอร์ชันล่าสุดของ Antutu

Antutu Benchmark (v10)

รุ่นของชิป

คะแนน Antutu (v10) เฉลี่ย

หมายเหตุ

Snapdragon 8 Gen 3

1,700,000 – 2,000,000+

รุ่นที่ใช้ RAM 16GB+ และ UFS 4.0 มักทำได้สูงกว่า

Snapdragon 8 Gen 2

1,250,000 – 1,300,000

ขึ้นอยู่กับการปรับจูนแต่ละแบรนด์

Dimensity 9300+

2,000,000 – 2,250,000

สูงสุดใน Android ณ ปี 2025

Apple A17 Pro

1,600,000 – 1,700,000

ชนะด้าน efficiency แต่คะแนนรวมต่ำกว่า Dimensity

Exynos 2400

1,500,000 – 1,600,000

GPU แรงขึ้น แต่ยังไม่เสถียรเท่า Snapdragon

Snapdragon 8s Gen 3

1,300,000 – 1,400,000

รุ่นประหยัดของ Gen 3

Geekbench 6 (Single-Core / Multi-Core)

รุ่นของชิป

คะแนน Single-Core

คะแนน Multi-Core

หมายเหตุ

Snapdragon 8 Gen 3

2,200 – 2,300

7,000 – 7,400

คะแนน Multi-Core ดีที่สุดในชิป Android

Dimensity 9300+

2,100 – 2,200

7,500 – 7,900

Multi-core นำหน้า เพราะใช้คอร์ X4 ถึง 4 แกน

Apple A17 Pro

2,900 – 3,000

7,200 – 7,400

Single-core ยังเป็นจุดแข็งของ Apple

Exynos 2400

~2,100

~6,800

ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องและการควบคุมความร้อน

Tensor G3 / G4

1,700 – 1,900

4,500 – 5,000

เน้น AI มากกว่า raw performance

แล้วตัวเลขเหล่านี้แปลว่าอะไร:

  • คะแนน Antutu สูงกว่า = เครื่องแรงโดยรวม ทั้งเกม กล้อง โหลดแอป ตอบสนองเร็วขึ้น
  • คะแนน Geekbench Single-Core สูง = ใช้งานทั่วไปลื่น เช่น เปิดแอป, เปิดเว็บ, UI เร็ว
  • คะแนน Multi-Core สูง = ทำงานหลายอย่างพร้อมกันดี เช่น เรนเดอร์ภาพ ตัดต่อวิดีโอ ใช้งาน AI

Snapdragon 8 Gen 3 ทำได้ดีมากในทุกด้าน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ RAM 16GB+ และ UFS 4.0 จึงไม่แปลกที่สมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปนี้จะถูกวางไว้ในระดับ เรือธงเต็มขั้น เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความแรงในทุกมิติ ทั้งการเล่นเกม ถ่ายวิดีโอ 8K HDR หรือทำงานหนักหลายแอปพร้อมกัน

  • หากต้องการชิปที่ แรง เสถียร และสมดุลที่สุดในปี 2024–2025, Snapdragon 8 Gen 3 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
  • คะแนน Antutu ที่เฉียดหรือทะลุ 2 ล้าน บนสมาร์ทโฟนบางรุ่น เช่น ROG Phone 8 Pro หรือ iQOO 12 Pro คือหลักฐานว่าชิปตัวนี้ยังไปต่อได้แบบไม่ติดขัดเลยสักนิดในปี 2025
  • แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Dimensity 9300+ ที่แรงกว่าใน Benchmark แต่ Snapdragon 8 Gen 3 ยังได้เปรียบเรื่องความเสถียร การจัดการพลังงาน และ Ecosystem ของแบรนด์ที่รองรับ

Snapdragon 8 Gen 3 เหมาะกับใคร?

เหมาะกับสายเกมเมอร์ตัวจริง

ถ้าต้องการ Frame rate นิ่ง เล่นเกม 3D แบบกราฟิกจัดเต็ม เช่น Genshin Impact, PUBG Mobile, CODM หรือ Honkai: Star Rail และไม่อยากเจอกับอาการร้อนเร็วหรือ drop frame ระหว่างเล่น — Snapdragon 8 Gen 3 คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

  • ใช้ GPU Adreno 750 ซึ่งรองรับ Ray Tracing แบบฮาร์ดแวร์
  • ทำงานร่วมกับหน้าจอ 144Hz ได้สบาย
  • ทดสอบจริงหลายรุ่น เช่น ROG Phone 8 Pro และ iQOO 12 Pro ให้เฟรมเรตนิ่งแม้จะปรับสุด
    • มือถือแนะนำ: ASUS ROG Phone 8, iQOO 12, Xiaomi 14, Red Magic 9 Pro

เหมาะกับครีเอเตอร์และสายกล้องมือถือ

ชิป Snapdragon 8 Gen 3 รองรับระบบกล้องขั้นสูงทั้งในด้าน ความละเอียด, การประมวลผลภาพแบบ AI, และ ISP อัจฉริยะ ที่สามารถประมวลผลแสง สี และรายละเอียดภาพได้แบบเรียลไทม์

  • รองรับกล้องสูงสุด 200MP
  • รองรับวิดีโอ 8K HDR10+, และ 4K ที่ 120fps
  • ใช้ AI ช่วยจัดแสง, ลบรอยรบกวน, ปรับโฟกัสและ white balance แบบอัตโนมัติ
    • มือถือแนะนำ: Xiaomi 14 Ultra, HONOR Magic6 Pro, OnePlus 12

เหมาะกับผู้ใช้งานสาย Productivity ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

ไม่ว่าจะเป็นสายทำงาน เอกสาร วิดีโอคอลหลายชั่วโมง หรือเปิดแอปสลับไปมาแบบไม่ให้สะดุด Snapdragon 8 Gen 3 มีโครงสร้าง CPU แบบ 1+5+2 ที่จูนมาให้เหมาะกับการ Multi-task และประหยัดแบต ไปพร้อมกัน

  • ทำงานร่วมกับ RAM LPDDR5X สูงสุด 24GB
  • สตอเรจแบบ UFS 4.0 ช่วยให้เปิดแอปและไฟล์ได้เร็วขึ้น
  • มี AI Core ที่ช่วยวิเคราะห์รูปแบบการใช้งาน เพื่อลดการใช้พลังงานใน background
    • มือถือแนะนำ: OnePlus 12, Galaxy S24 Ultra (Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy)

เหมาะกับผู้ใช้ที่สนใจ AI บนสมาร์ทโฟน

Snapdragon 8 Gen 3 เป็นชิป Android รุ่นแรกที่รองรับ Generative AI บนเครื่อง (on-device) อย่างจริงจัง เช่น:

  • การใช้ Stable Diffusion / AI ภาพถ่าย / AI แปลภาษาโดยไม่ต้องต่อเน็ต
  • ช่วยเร่งฟีเจอร์กล้องอัจฉริยะ (AI Bokeh, Auto HDR Fusion)
  • ช่วยในการทำงานเสียง เช่น Noise Cancellation แบบอัตโนมัติขณะประชุม

ไม่เหมาะกับใคร?

แม้ Snapdragon 8 Gen 3 จะเป็นหนึ่งในชิปที่ดีที่สุด แต่ก็อาจ ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ใช้งานพื้นฐาน เช่น:

  • โทร แชต เล่นโซเชียลเบา ๆ
  • ไม่เน้นเกม ไม่ใช้กล้องเป็นหลัก
  • มีงบประมาณจำกัด (ราคามือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3 ส่วนใหญ่เริ่มต้นราว 22,000–50,000 บาท)

หากใช้งานทั่วไป อาจพิจารณา Snapdragon 8s Gen 3 หรือ Snapdragon 7+ Gen 2 ซึ่งให้ความแรงเพียงพอในงบที่ย่อมเยากว่า


สรุปข้อดี-ข้อเสียของมือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3

แม้ว่า Snapdragon 8 Gen 3 จะ “แรงสุดในกลุ่ม” สำหรับผู้ใช้ Android ส่วนใหญ่ ก็ยังมีทั้ง จุดเด่น และ จุดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

ด้านล่างคือ สรุปข้อดี-ข้อเสียของสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของสมาร์ทโฟนที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3

ข้อดี

รายละเอียด

แรงสุดในฝั่ง Android

คะแนน Antutu ทะลุ 1.9–2.0 ล้าน ในหลายรุ่น เช่น iQOO 12, ROG Phone 8 Pro

กราฟิกขั้นเทพด้วย Adreno 750

รองรับ Ray Tracing ระดับฮาร์ดแวร์ เหมาะสำหรับเกม AAA และจอ 144Hz

ประหยัดพลังงานกว่าเดิม

โครงสร้าง CPU แบบ 1+5+2 จูนมาให้สมดุลระหว่างแรงกับแบต

กล้องดีขึ้นจาก AI ISP

รองรับกล้อง 200MP, วิดีโอ 8K HDR, โหมดกลางคืนเร็วขึ้น

รองรับ AI On-device

ใช้ Stable Diffusion, แปลภาษา, และ AI กล้อง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Cloud

เชื่อมต่อเร็วสุดในตลาด

รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, และ 5G Modem X75 (ความเร็วสูงสุด 10Gbps)

ใช้งานมัลติทาสก์ลื่นไหล

รองรับ RAM สูงสุด 24GB (LPDDR5X) และ UFS 4.0

มีรุ่นให้เลือกหลากหลายราคา

ตั้งแต่ realme GT5 Pro (~20,000 บาท) จนถึง S24 Ultra (~50,000 บาท)

ข้อจำกัด / ข้อเสียของสมาร์ทโฟนที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 3

ข้อเสีย

รายละเอียด

ราคาค่อนข้างสูง

มือถือชิป Snapdragon 8 Gen 3 ส่วนใหญ่เริ่มต้นราว 22,000–50,000 บาท

อุณหภูมิสะสมเร็วเมื่อเล่นเกมหนักต่อเนื่อง

ถึงแม้จะควบคุมความร้อนได้ดีขึ้น แต่บางรุ่นไม่มีระบบระบายความร้อนเฉพาะ

ไม่ต่างจาก Gen 2 มากในแอปทั่วไป

หากใช้แค่โซเชียล ดู YouTube หรือ LINE ความแตกต่างแทบไม่รู้สึก

ฟีเจอร์ AI ยังขึ้นกับแบรนด์ผู้ผลิต

แม้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 จะรองรับ AI เต็มรูปแบบ แต่การใช้งานจริงยังขึ้นกับซอฟต์แวร์ของแต่ละแบรนด์

กินแบตถ้าไม่ optimize ดีพอ

บางรุ่นที่ใช้ UI หนัก ๆ อาจทำให้แบตหมดเร็วกว่ารุ่นที่จูนมาเฉพาะทาง เช่น Samsung, ASUS ROG


Bonus: Snapdragon 8 Gen 3 vs Snapdragon 8 Elite (Gen 4)

Snapdragon 8 Elite คือ ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 และเริ่มใช้ในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในปี 2025 แทนที่ชิป Snapdragon 8 Gen 3 โดยตรง

แม้หลายคนจะคาดหวังว่าชิปเรือธงตัวถัดไปจะใช้ชื่อว่า Snapdragon 8 Gen 4 แต่ Qualcomm เลือกใช้ชื่อ “Elite” แทน เพื่อสะท้อน การเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ และแสดงให้เห็นว่าเป็น “การกระโดดข้ามรุ่น” ไม่ใช่แค่การอัปเกรดตามลำดับปกติ

  • Snapdragon 8 Elite เป็นชิป มือถือรุ่นแรกของ Qualcomm ที่ใช้สถาปัตยกรรม Oryon ซึ่งเป็น Core CPU ที่พัฒนาขึ้นโดย Qualcomm ภายหลังจากเข้าซื้อบริษัท Nuvia ซึ่งเป็นทีมวิศวกรระดับสูงจาก Apple

เพื่อเห็นภาพรวมทั้งหมด เราทำตารางมาให้แล้วค่ะ มาดูความเหนือกว่ากันว่า Elite เจ๋งกว่า Gen 3 ยังไง

หมวดหมู่

Snapdragon 8 Gen 3

Snapdragon 8 Elite

ปีเปิดตัว

ตุลาคม 2023

ตุลาคม 2024

เทคโนโลยีการผลิต

TSMC 4nm (N4P)

TSMC 3nm (N3E)

สถาปัตยกรรม CPU

ARM Cortex: 1x X4 + 5x A720 + 2x A520

Custom Oryon: 2 Prime + 6 Performance

ความเร็ว CPU สูงสุด

3.3 GHz (X4 core)

4.32 GHz (Prime core)

จำนวน Core รวม

8-core

8-core (แต่ไม่มี efficiency core)

Cache

L2: ~6MB, L3: ~8MB

L2: 12MB, L3: 8MB

GPU

Adreno 750

Adreno 830 (sliced architecture)

ประสิทธิภาพกราฟิก

รองรับ Ray Tracing, จอ 144Hz

แรงขึ้น ~40%, Ray Tracing ระดับสูงขึ้น

AI NPU

Hexagon Gen 6

Hexagon NPU รุ่นใหม่ (เร็วขึ้น ~45%)

AI On-device

รองรับ Stable Diffusion, Translation, AI Camera

รองรับ Multimodal AI, AI Camera 4.3 Gpx/s

RAM รองรับ

LPDDR5X สูงสุด 24GB @ 4,800MHz

LPDDR5X สูงสุด 24GB @ 5,000MHz

Storage

UFS 4.0

UFS 4.0 (optimized with deeper cache access)

5G Modem

Snapdragon X75

Snapdragon X80

Wi-Fi / Bluetooth

Wi-Fi 7 + BT 5.4

Wi-Fi 7 + BT 6.0 (ผ่าน FastConnect 7900)

คะแนน AnTuTu

~1.9–2.0 ล้าน

~2.7 ล้าน

คะแนน Geekbench 6 (Single)

~2,200–2,300

~3,080

คะแนน Geekbench 6 (Multi)

~7,000–7,400

~9,340

Ray Tracing

รองรับ (Hardware-level)

รองรับ (ระดับ desktop-grade)

การจัดการพลังงาน

ดีมาก (ใช้ efficiency core)

ดีเยี่ยม (performance core อเนกประสงค์)

รองรับกล้องสูงสุด

200MP, วิดีโอ 8K HDR

200MP, ISP เร็วขึ้น รองรับการประมวลผลพร้อมกันหลายเลนส์

ความสามารถด้านมัลติทาสก์

ดีมาก, สลับแอปไว

ดีเยี่ยม, ใกล้ระดับ PC

เหมาะกับใคร

ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความแรงทุกด้าน

ผู้ใช้ระดับโปร เกมเมอร์ ครีเอเตอร์ และ AI power user

มือถือที่ใช้

S24 Ultra, OnePlus 12, Xiaomi 14 ฯลฯ

S25 Ultra, Xiaomi 15, OnePlus 13, iQOO Neo 10 Pro+

จุดเด่น

สมดุลทุกด้าน, คุ้มค่า, มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย

พลังระดับ ultrabook, AI ล้ำ, แรงที่สุดใน Android

จุดด้อย

ร้อนถ้าเล่นเกมนาน, ยังใช้ Cortex

ราคาแพงกว่าทุกชิป, ใช้พลังงานมากกว่าเล็กน้อย

มือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Elite ในปี 2025

  • Samsung Galaxy S25 Ultra
  • OnePlus 13
  • Xiaomi 15
  • iQOO Neo 10 Pro+ (คาดการณ์) (เตรียมเปิดตัว 20 พฤษภาคม 2025)
  • HONOR Magic7 Series (คาดการณ์)
สิ้นสุดบทความ