มาถึงในปี 2024 กันแล้ว ในวงการโทรศัพท์มือถือก็จัดว่า มีสมาร์ทโฟนมากมายที่น่าสนใจอย่างมากในท้องตลอด ซึ่งมีให้ผู้ใช้กันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเลือกเอาสเป็ค หน้าตาการดีไซน์หรือราคาเป็นหลักก็ตาม โดยทางฝั่งของ iOS ก็ยังมีโทรศัพท์ที่ใช้ได้เป็นเวลานานและชิพสุดแรง ส่วนฝั่งของแอนดรอยด์ก็ยังมีทั้งการออกแบบและฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาสร้างความประทับใจอยู่เสมอ แน่นอนว่า เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับมือถือทั้ง 12 ตัวที่น่าสนใจในปีนี้กัน จะมี โทรศัพท์รุ่นไหนดี ณ ตอนนี้บ้าง ไปลุยกัน!
หมายเหตุ: สินค้าที่ปรากฎในบทความนี้เป็นการเลือกโดยอิสระจากทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญได้ให้สัมภาษณ์เฉพาะส่วนของ "มุมมองผู้เชี่ยวชาญ" เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกสินค้าในบทความนี้
บรรณาธิการ
โปรไฟล์ของ Ing On chevron_right
ผู้เชี่ยวชาญ
Umar Naqshbandi chevron_right
Table of Contents
แนะนำ 12 โทรศัพท์รุ่นไหนดี น่าใช้ แรงเล่นเกมได้ กล้องสวยก็มี แห่งปี 2024
เพิ่มความเก๋อย่างต่อเนื่อง ถ้าแค่คำถามซื้อโทรศัพท์รุ่นไหนดี ธรรมดา ๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ ขอเพิ่มคำว่าจอพับเข้าไปหน่อยละกัน ต้องบอกว่ามือถือ Samsung Galaxy Z Flip 5 ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งก็กลายเป็นโทรศัพท์น่าใช้มากขึ้นในปี 2024 เพราะในโทรศัพท์ซัมซุงได้มีการปรับให้จอพับสามารถใช้งานได้ดีขึ้น เพราะคราวนี้หน้าจอด้านนอกได้กลายเป็น AMOLED ที่ขนาดใหญ่ขึ้นและใช้ถ่ายรูปเซลฟี่ได้อย่างสบาย ๆ แถมยังมีการไปพัฒนาเรื่องกล้องที่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่จุดเด่นให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการเพิ่มขนาดความจุของตัวเครื่องในรุ่นเริ่มต้นที่เอาใจคนอยากลองของใหม่สุด ๆ
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Cream, Lavender, Graphite, Mint | น้ำหนัก: 187 g. | Ram: 8 GB | Rom: 256 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: One UI 5.1 Android 13
รีวิวจากผู้ใช้จริง: ส่วนใหญ่ได้รับรีวิวห้าดาว
มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple อาจตกเป็นคำถามสักหน่อย เพราะ iPhone 14 ยังคงใช้ชิพตัวเดิมอย่าง A15 Bionic แต่พวกเขาก็ใส่ฟีเจอร์อื่น ๆ เข้ามาเป็นการอัพเกรดสำหรับผู้ใช้ที่อยากได้สมาร์ทโฟนตัวใหม่อยู่ดี โดยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เครื่องนี้ก็จะมีทั้งการเพิ่ม RAM เป็น 6GB ที่จะช่วยให้มือถืออยู่ได้นานกว่าเดิม ตามด้วยการใช้กล้องถ่ายวิดีโอถึงระดับ 4K ในโหมดภาพยนตร์ ตามด้วยการจับสัญญาณอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กลายเป็นจุดที่มองข้ามไม่ได้ไปแล้ว
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Blue, Purple, Midnight, Starlight, PRODUCT(RED) | น้ำหนัก: 172 g. | Ram: 6 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.1 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: iOS 16
รีวิวจากผู้ใช้จริง: ใช้งานได้ดีเลยจ้า ด้วยความเป็นไอโฟนใช้งานไหลลื่นๆ แน่นอน
เป็นมือถือยอดนิยมของชาวเกาหลีใต้ไปแล้ว สำหรับทาง Samsung Galaxy Z Flip3 ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโทรศัพท์ที่จุดเด่นอย่างจอพับแบบตลับที่สามารถพกพาได้ง่ายและยังมีราคาเบากว่ารุ่น Z Fold นั่นเอง โดยการพัฒนาในรุ่นปัจจุบันก็มาพร้อมกับราคาที่น่าจับต้องมากกว่าเดิม เช่นเดียวกับความทนทานของการพับหน้าจอที่ดีมากขึ้น ซึ่งไม่ต้องห่วงหรือการใช้งานที่หนักหน่วงหรือต้องโดนน้ำอีกแล้ว เช่นเดียวกับซอฟท์แวร์ที่พัฒนาให้เข้ากับตัวเครื่องยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าชอบรุ่นใหม่ล่าสุดเราแนะนำให้อัพเกรดเป็น Galaxy Z Flip4 หรือ Z Flip5 ไปเลย
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Cream, Green, Lavender | น้ำหนัก: 183 g. | Ram: 8 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: Android 12, One UI 3.5
รีวิวจากผู้ใช้จริง: โทรศัพท์สวยงาม พับแล้วเล็กกระทัดรัดน่ารักมาก พอดีมือเลย ชอบค่ะ
มือถือน่าใช้รุ่นแรกของลิสต์นี้ยังคงเป็นรุ่นพี่ใหญ่สุดจาก Apple อย่าง iPhone 14 Pro Max นั่นเอง ซึ่งฟีเจอร์ที่ทรงพลังของพวกเขาก็เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้เลย เริ่มจากชิพ Bionic ตัวล่าสุดอย่าง A16 รวมถึงทำงานได้กับหน้าจอ Super Retina ที่เห็นกันแบบเต็มตาและมี Pro Motion ด้วย เท่านั้นยังไม่พอคนที่ใช้ Pro Max หรือ Pro ยังจะได้ลูกเล่นใหม่อย่าง Dynamic Island ที่เปลี่ยนจุดอ่อนจากติ่งหน้าจอไปเป็นการแจ้งเตือนที่สามารถควบคุมคำสั่งได้หลากหลายกว่าเดิม
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Deep Purple, Silver, Gold, Space Black | น้ำหนัก: 204 g. | Ram: 6 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: iOS 16
รีวิวจากผู้ใช้จริง: ใช้งานได้ดี แบตอยู่ได้นานข้ามวัน ระบบต่างๆใช้ไม่ยาก
นี่คือโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดประจำซีรีย์ iPhone SE เพราะในสมาร์ทโฟนราคากลางของ Apple ตัวนี้ได้วางขายออกมาเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งยังคงรักษาดีไซน์เดิมไว้อย่างเหนียวแน่นแบบที่คนใช้เครื่องเก่าไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย แต่ข้อดีของมือถือรุ่นนี้ก็คือขนาดเล็ก แต่ได้ชิพตัวแรงอย่าง A15 Bionic แถมยังถ่ายวิดีโอได้แบบ 4K เช่นกัน รวมถึงคนที่ชอบสแกนนิ้วมือก็อาจสนใจที่รุ่นนี้และยังเพิ่มแบตเตอรี่ให้อึดขึ้น แม้ตัวเครื่องจะเท่าเดิมก็ตาม
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Midnight | น้ำหนัก: 144 g. | Ram: 3 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 4.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: iOS 15.3
รีวิวจากผู้ใช้จริง: แค่คำว่า iPhone SE gen3 คือของดีราคาถูก คุณภาพดี
ต่อกันด้วยโทรศัพท์น่าใช้ของฝั่งแอนดรอยด์อีกหนึ่งรุ่นอย่าง OnePlus 11 5G ที่เพิ่งมาใหม่และน่าสนใจมาก ๆ ในปี 2024 โดยสเปคของตัวเครื่องก็อัดแน่นมาเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็น RAM สูงสุด 16 GB ที่เข้ามาช่วยในการสลับแอพไปมาแบบไม่มีสะดุด แถมคนที่ชอบเล่นเกมยังไม่ต้องกังวล เพราะตัวเครื่องได้ใส่ระบบระบายความร้อนมาให้เอาใจคนที่ต้องอยู่กับจอนาน ๆ รวมถึงกล้องที่ใช้งานได้ดีในทุกสถานการณ์ก็ต้องบอกว่า นี่คือมือถือน่าใช้ของปีนี้เลยทีเดียว
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Titan Black | น้ำหนัก: 205 g. | Ram: 8 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: OxygenOS 13 Android 13
รีวิวจากผู้ใช้จริง: โดยรวม เร็ว! ชาร์จเร็ว หน้าจอไวมาก สแกนนิ้ว สแกนหน้าคือทันตา กล้องหลังดีมาก วิดีโอชอบเลย(เพราะ 7T ไม่มีกันสั่น 55555) กล้องหน้ากั๊กจริงแหละยอมรับ นี่2023 แล้ว ให้กล้องหลักสเปคมาขนาดนี้ก็เถอะ แต่อย่างว่า ไอ้เราก็ไม่ค่อยได้ใช้กล้องหน้าเท่าไหร่ เน้นถ่ายกล้องหลังเป็นหลักซะด้วย ก็ทำใจรับได้สบายหน่อย แต่ดีกว่านี้จะดีมาก โดยรวมก็ถูกใจครับ ทดลองใช้มา4-5 วัน ถูกใจครับ ไม่ผิดหวัง ราคาดีๆ จัดเถอะ
ต้องบอกว่ามือถือน่าใช้ของ Xiaomi ยังคงเป็นรุ่นเรือธงของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในรุ่น 13 รอบนี้ก็จัดหนักในเรื่องของสเปคในราคาที่เบากว่าหลาย ๆ ค่ายเช่นเคย เริ่มจากเลนส์ Leica ที่เอามาข่มคู่แข่งในตลาดได้สบาย เพราะความละเอียดของภาพที่ใส่มา 50MP พร้อมสเน่ห์ของรูปที่เน้นความจริงและโทนดูแพง แถมมาด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ ของตัวภาพยิ่งทำให้จุดเด่นของกล้องตัวนี้เหนือชั้นขึ้นไปอีก ส่วนเรื่องฟีเจอร์อื่น ๆ ของโทรศัพท์มือถือ น่าใช้ 2024 รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าประทับใจ ราคาไม่เกิน 25,000 เท่านั้น
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Green | น้ำหนัก: 189 g. | Ram: 12 GB | Rom: 256 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.36 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: MIUI14 Android 13
รีวิวจากผู้ใช้จริง: กล้องดีมากถ่ายออกมาสวยมากกก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คงเป็นมือถือ 2024 ที่มาแรงสุด ๆ เพราะ Samsung Galaxy S24 Ultra ได้เปิดตัวออกมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยอย่าง Samsung AI ที่กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคนที่เตรียมใช้งานอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้มีความโดดเด่นในแง่ของดีไซน์มากนัก แต่การใช้งานระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพรอบนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามไม่ได้ แถมคนที่ต้องใช้งานระยะยาวยังมีการรองรับอัพเดทถึง 7 ปีจนแทบจะกลายเป็นมือถือแอนดรอยด์ระยะยาวที่ใครก็สนใจนั่นเอง ถ้าหลายคนอยากจบปัญหาคำถาม โทรศัพท์รุ่นไหนดีที่สุด ตอนนี้ นี่เลย อยากให้ลองเรือธงจากโทรศัพท์ซัมซุงรุ่นนี้มาก ๆ
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Titanium Gray, Titanium Black, Titanium Violet, Titanium Yellow, สีเพิ่มเติมมีให้เลือกหากสั่งซื้อจากทางเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ | น้ำหนัก: 233 g. | Ram: 12 GB | Rom: 512 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.8 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: One UI 6.1 Android 14
รีวิวจากผู้ใช้จริง: โทรศัพท์สวยครับน้ำหนักดีจากที่เทสดีครับเร็วดีครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
อีกหนึ่งโทรศัพท์ที่น่าสนใจในปี 2024 เพราะ realme ได้ปล่อยรุ่น 11 pro+ ออกมา พร้อมกับราคาและสเปคที่หลายคนต้องหันมามองเลยทีเดียว โดยจุดเด่นที่สุดของโทรศัพท์แนะนำรุ่นนี้ก็คือ กล้อง 200 MP ที่ซูมได้เหนือระดับสุด ๆ เพราะสามารถซูมได้ถึง 4 เท่าแบบในตัวเซนเซอร์ที่น่าเพียงพอในการถ่ายภาพไกล ๆ แล้ว ส่วนการดีไซน์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นด้วยการเล่นลายเส้นก็ให้ความหรูหราไม่น้อย เช่นเดียวกับหน้าจอโค้ง 120 Hz และชาร์จไว 100W เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Oasis Green | น้ำหนัก: 183 g. | Ram: 12 GB | Rom: 512 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: realme UI 4.0 Android 13
รีวิวจากผู้ใช้จริง: สินค้าดีมากๆ ความคุ้มค่าส่วนตัวกับสินค้ายี่ห้อนี้ สุดยอดมากๆ
พอพูดถึง iPhone 15 แล้วคงเป็นคำตอบของมือถือรุ่นไหนดีอย่างแน่นอน เพราะว่านี่คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Apple ที่ได้ใส่ช่อง USB-C ออกมาเสียที ซึ่งทำให้การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ทำได้ง่ายกว่าเดิมเลยทีเดียว นอกจากนี้ฟีเจอร์ที่เป็นจุดขายของรุ่นก่อนอย่าง Dynamic Island ก็ถูกนำมาใส่เพื่อใช้งาน Shortcut ได้ง่ายกว่าเดิม ส่วนคนที่ห่วงเรื่องกล้องก็ยังเน้นเรื่องความละเอียดของภาพตามสไตล์ iPhone แถมถ่ายภาพคนได้ดีอย่างน่าสนใจ
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Black, Green, Blue, Pink, Yellow | น้ำหนัก: 171 g. | Ram: 6 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.1 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: iOS 17
รีวิวจากผู้ใช้จริง: แรงระดับท็อป สบายใจได้ ใช้งานลื่น
เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone 15 Pro Max ก็เป็นเรือธงที่หลายคนให้ความสนใจไม่น้อยเลย เพราะในมือถือรุ่นล่าสุดของ Apple นี้ก็ได้ชิพอย่าง A17 Pro ที่สามารถประมวลผลออกมาได้อย่างทรงประสิทธิภาพสุด ๆ ตามด้วยการใช้วัสดุอย่างไทเทเนียมที่เพิ่มความทนทานได้ดีกว่าเดิม แถมสิ่งที่พวกเขาพยายามใส่เข้ามาก็คือ การซูมแบบ Optical ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เคยทำมา เช่นเดียวกับการใช้ USB-C 3.0 ที่ส่งข้อมูลได้ไวกว่ารุ่นอื่น
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Black, Blue, Natural, White | น้ำหนัก: 221 g. | Ram: 8 GB | Rom: 256 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: iOS 17
รีวิวจากผู้ใช้จริง: บอกเลยว่าโคตรคุ้ม ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่จากที่เครื่องเก่าไม่มี และได้ port type c
หากเป็นคนที่ชอบโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ของปี 2024 ทาง Google Pixel 8 Pro ก็เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้คนให้ความสนใจอย่างแน่นอน เพราะว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่มีการพัฒนาขึ้นมามาก ๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกวิจารณ์อยู่บ่อย ๆ ก็ตาม เริ่มจากตัวกล้องที่สามารถเซลฟี่ได้ดียิ่งขึ้น หรือการซูมที่ทำได้ดีไม่ต่างกัน ส่วนหน้าจอก็สวยงามอย่างมากแบบ 120 Hz แถมยังคงรักษาดีไซน์เดิมแบบเอาใจสาวกของ Pure Android ที่อยู่มานาน
ข้อมูลเฉพาะ
สี: Black, Blue, White | น้ำหนัก: 221 g. | Ram: 12 GB | Rom: 128 GB | ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว | ระบบปฏิบัติการ: Android 14
รีวิวจากผู้ใช้จริง: -
มือถือเรือธง กับรุ่นทั่วไปต่างกันอย่างไร
เรื่องที่หลายคนควรจะรู้เกี่ยวกับการเลือกโทรศัพท์รุ่นไหนดี นั่นก็คือความแตกต่างของรุ่นเรือธงที่เรียกง่าย ๆ เป็นจุดขายที่จะนำฟีเจอร์มากมายมาใส่ไว้แบบเต็มอัตราและไม่มีการลดสเป็คแต่อย่างใด ซึ่งอาจะได้ฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานมากกว่าเดิม ส่วนรุ่นทั่วไปอาจไม่ได้สเป็คที่เท่าไหร่หรือมีการตัดทอนบางส่วนออกไป เช่นเดียวกับวัสดุต่าง ๆ นั่นเอง
โทรศัพท์ค่ายไหนดี ระหว่าง iOS และ Android
คำตอบของการเลือกโทรศัพท์น่าใช้สักเครื่องก็คือ ความถนัดของแต่ละบุคคลและข้อเสียของสมาร์ทโฟนแต่ละระบบ ซึ่งคนที่เลือก OS ก็มักจะมาจากความเคยชินที่ชอบ iPhone มานานหรือลองของใหม่แบบแอนดรอยด์มาตลอด แต่เรื่องที่ต้องพิจารณาก็คือ การอัพเดทที่แอนดรอยด์บางตัวจะไม่ได้รับเปลี่ยนเวอร์ชั่นน้อยกว่า iPhone นั่นเอง
วิธีเลือกโทรศัพท์ให้ถูกใจคุณมากที่สุด
วิธีการเลือกโทรศัพท์น่าใช้สักเครื่องก็หนีไม่พ้นความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน เนื่องจากมีสมาร์ทโฟนมากมายในตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณและการใช้งานจริง คนที่ชอบเล่นเกมอาจหันไปมอง Gaming Phone มากกว่า คนที่ชอบถ่ายรูปก็มีตัวเลือกที่ดีในแอนดรอยด์มากมาย เช่นเดียวกับคนชอบระบบ iOS ก็ควรเลือกมือถือที่โดนใจตัวเองมากกว่าความใหม่หรือนวัตกรรมที่ตัวเองไม่ได้ใช้
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ
สัมภาษณ์โดย Ing On
หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์นี้เป็นบทสัมภาษณ์ที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ
จุดเด่นกับจุดด้อยระหว่างมือถือระบบ iOS และ Android คืออะไรบ้าง
ถ้าเราเป็นคนชอบดูภาพยนตร์ หน้าจอมือถือแบบไหนที่เราควรมองหาก่อนซื้อมือถือ
Umar Naqshbandi
ถ้าเรื่องหน้าจอเป็นเรื่องหลักในการเลือก หน้าจอแบบ AMOLED จะทำได้ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีจอ AMOLED ในรุ่นเรือธงหรือ tier สูงๆ
ถ้าเป็นคนชอบความบันเทิงหน้าจอแบบ AMOLED จะให้ภาพที่ตรง ดำเป็นดำจริง ๆ ความแตกต่างชัด โดยภาพรวมก็คือดีมากๆ
เรื่องความชัดก็ให้เลือกมือถือที่รองรับการแสดงผลตั้งแต่ 2K หรือ 4K แต่พอรองรับคุณภาพความชัดสูงขึ้นมือถือก็จะแพงไปด้วย แต่แค่ได้ 1080P AMOLED ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว
ชิปมือถือของ Android ที่ดีที่สุดตอนนี้คืออะไร
Umar Naqshbandi
ต้องบอกว่ามันขึ้นอยู่กับ tier ของมือถือที่กำลังมองหา ซึ่งอาจจะหมายถึง mid-tier หรือมือถือเรือธงก็ได้ หากจะให้พูดเลยหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 บริษัทใหญ่ตอนนี้
สำหรับมือถือแอนดรอยด์ ก็จะเป็น Qualcomm ที่ออกชิป Snapdragon เราจะมาพูดถึงชิป Snapdragon 8s Gen 3 แต่รุ่นนี้ยังไม่ได้ออกมาให้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันเราจะมี Snapdragon 8 Gen 3 ถือว่าเป็นชิปที่ทรงพลังมาก ๆ เป็นรุ่นล่าสุดที่อยู่ในตลาด ต่อมาก็จะเป็นอีกฝั่งก็คือชิป DIMENSITY 8100 (MediaTek) ซึ่งเป็นชิป 5 นาโนเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน หรืออีกตัวก็จะเป็น DIMENSITY 9000 ที่ทำได้ดีมากเช่นกัน ซึ่งสองบริษัทถือว่าครองตลาดอยู่ตอน
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราได้มือถือกล้องสวยที่ดีที่สุด
Umar Naqshbandi
ถ้าเป็นคนที่ต้องอยู่กับ Social media ถ่าย TikTok การเลือกไอโฟนจะเป็นจุดที่ดีที่ควรเลือก เพราะจะซัพพอร์ตเรื่อง social ได้ดีกว่า
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องลงรูป แค่เอามาไว้ให้ตัวเองถ่ายเฉยๆ และอยากให้ภาพออกมาคุณภาพดี หรือวิดีโอชัด ๆ ก็ควรจะใช้เกณฑ์นี้เป็นตัวช่วยในการเลือก ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ข้อที่ควรดู นั่นก็คือ เซนเซอร์, megapixel และเลนส์ ซึ่งคุณภาพกล้องที่มีความชัด 12 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอ
ถ้าจะลงรูปในโซเชียลมีเดีย หรือภาพ portrait ของครอบครัว หรือตัวเอง ความชัด 12 ล้านพิกเซลถือว่าเป็นค่ายันพื้นที่ทำให้ภาพมีคุณภาพที่ดีเมื่อเราดูในจอที่ขนาดเล็กอย่างมือถือ แต่ถ้าชอบถ่ายภาพแล้วต้องเอามาปริ้น ความชัด 24 ล้านพิกเซล ไปจนถึง 48 ล้านพิกเซลควรเป็นตัวเลือกที่ควรมองไว้ แต่ความชัด 12 ล้านพิกเซลนั้นถือว่าเป็นค่าเริ่มต้น
ต่อมาเป็นเรื่องของเซนเซอร์ ยิ่งเซนเซอร์มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ แสงก็ยิ่งเก็บได้ดีเท่านั้น ยิ่งเก็บแสงได้ดีก็ยิ่งเก็บรายละเอียดได้มาก เบลอฉากหลังได้ดีขึ้น และสิ่งที่ดีของเซนเซอร์ใหญ่เลยก็คือภาพจะดีถ้าถ่ายในที่แสงน้อย
ข้อที่สามของเรา คือ เรื่องของเลนส์ ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องซูมมากนัก ไม่ว่าจะเป็นซูม 200 เท่า 120 เท่า 60 เท่า เราก็ไม่ต้องใส่ใจตรงนั้น แต่สิ่งที่ควรจะต้องดูคือเรื่องของเลนส์ Ultra-wide ที่สามารถซูมได้ 0.5 เท่า, 1 เท่า, 2 เท่า, ไปจนถึง 5 เท่า
และถ้าเป็นเรื่องตอนถ่ายวิดีโอ ถ้าเซนเซอร์กล้องเราใหญ่ เราก็จะถ่ายที่แสงน้อยได้ดี หรือถ้าต้องการเป็น 4K ก็เช็คให้แน่ใจว่าใช่ 60fps หรือไม่ หรือ 30fps หรือถ่าย 4K ได้แต่แรกหรือเปล่า
และเราต้องเช็คดี ๆ เพราะถ้าเราเลือกมือถือสเปคกลาง ๆ จริงอยู่ว่ากล้องหลังเราอาจจะชัด แต่อย่าลืมเช็คด้วยว่ากล้องหน้าได้ชัดเท่าไหร่ เผื่อต้องใช้งานที่โปรขึ้น แต่ถ้ามาเพียง 1080p ก็จะมีข้อจำกัดในอนาคตได้ และลองเช็คดูว่าโหมดวิดีโอเรารองรับโหมดโปรหรือเปล่า มีโปรไฟล์สีหรือตัดแต่งอะไรเพิ่มเติมได้อีกบ้าง
5G จำเป็นไหม
Umar Naqshbandi
ผมเป็นคนที่อยู่ในประเทศที่สัญญาณ 5G ยังมีเสาสัญญาณน้อยอยู่ บางที่ก็มีให้เข้าถึง แต่โดยส่วนตัวมองว่า 5G ยังไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะว่าทั้งประเทศยังไม่ได้รองรับคลื่นความถี่นี้ได้ครอบคลุมขนาดนั้น
แต่ถ้าเป็นประเทศที่เสาสัญญาณ 5G ครอบคลุมเกือบทุกที่แล้ว หรือเจอได้ตลอด เชื่อมต่อที่ไหนก็ได้ หรือถ้าอยู่ในพื้นที่ที่กำลังพัฒนาไปเป็นคลื่นความถี่ 5G เราก็ควรเปลี่ยนไปใช้คลื่นสัญญาณดังกล่าว เพราะว่าถือว่าไวกว่า 4G อยู่
ถ้าเราใช้โหมด fast charging ตลอด จะดีต่อแบตเราในระยะยาวหรือไม่
Umar Naqshbandi
ถ้าให้แนะนำ ก็ต้องบอกว่าไม่ควรใช้โหมด fast charging ตลอด การชาร์จเร็วนั้นดี แต่ถ้าให้ใช้ทุกรอบคงไม่ดี เพราะยิ่งชาร์จเร็วเท่าไหร่ ความร้อนในตัวมือถือก็ยิ่งจะสูงขึ้น ยิ่งมีความร้อนก็ยิ่งทำลายแบตเตอรี่ และในระยะยาวประสิทธิภาพของมือถือก็จะอ่อนลง
ROM, RAM เลือกยังไงดี (ใช้งานทั่วไป, เกมมิ่ง, การถ่ายภาพ)
Umar Naqshbandi
ถ้าเริ่มที่จากการใช้มือถือเพื่อถ่ายภาพเป็นหลัก จุดที่ควรโฟกัสคือเรื่อง ROM ที่ต้องเยอะหน่อย ควรอยู่ที่ 256GB เป็นต้นไป ถ้าความจำ 128GB ก็ถือว่าน้อยไปหน่อยถ้าเราจะเอามาใช้กับการถ่าย 4K เป็นหลัก
ความจำที่ 256GB ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรมองหาเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าใครถนัดอัพภาพขึ้น cloud ก็ย่อมได้
แต่เรื่องแรมกับการถ่ายภาพไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่ถ้าจะโฟกัสเรื่องเกมมิ่งหรือวิดีโอ อย่างน้อยแรมเราควรจะอยู่ที่ 12GB
จำนวนพิกเซลเท่าไหร่ดี ถ้าเราใช้มือถือทั่วไป
Umar Naqshbandi
12 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอ
ประกันโทรศัพท์เราควรซื้อหรือเปล่า
Umar Naqshbandi
ถ้าเป็นประสบการณ์ส่วนตัว ผมยังไม่เคยซื้อประกันมือถือ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ระมัดระวัง หรือทำมือถือตกบ่อย หรือต้องเจอน้ำบ่อย ๆ หรือกลัวว่าจะทำตกน้ำจนเครื่องเสียหาย แบบนั้นก็ควรจะซื้อประกันไว้ เพราะว่าก็จะดีด้วยถ้าเราไปต่างประเทศเกิดทำมือถือหายก็จะได้คลายกังวลได้บ้าง
บทส่งท้าย
คงจะเห็นแล้วว่า โทรศัพท์น่าใช้งานทั้ง 12 เครื่องที่จัดมาให้มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป รวมถึงมีราคาให้เลือกที่ค่อนข้างหลากหลายที่จะเหลือแค่ความต้องการใช้งานของแต่ละคนจริง ๆ ว่ากำลังมองโทรศัพท์สเป็คแรงหรืออยากนำไปใช้ทำอะไรมากกว่า โดยในปัจจุบันสมาร์ทโฟนเหล่านี้ก็ยังแข่งขันเพื่อหาจุดเด่นของตัวเองมาเอาใจผู้ใช้อยู่เรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
Umar Naqshbandi
โดยส่วนตัวสิ่งที่ต้องดูหลัก ๆ คือ เรื่องของโครงสร้างของ Ecosystem และที่ iOS เด่นกว่าเลยก็คือเรื่อง Ecosystem คนเลือกที่จะใช้มากกว่าเมื่อเป็นเรื่องดังกล่าว นี่แหละคือข้อแรกถ้าพูดถึงเรื่องข้อดีข้อเสียของทั้งคู่
สำหรับแอนดรอยด์ ข้อดีเลยก็คือสามารถปรับแต่งได้เยอะกว่า ปรับได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้รู้สึกว่าเครื่องนี้แหละที่เกิดมาเพื่อเป็นมือถือเราโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคน เรื่องการควบคุมมือถืออย่างแท้จริงต้องให้ Android เขาเลย
ต่อมาเป็นเรื่องของการติดตั้ง/โหลดแอป third party ระบบแอนดรอยด์จะทำได้ดีกว่า นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นข้อดีของระบบนี้ ต่อมาอีกเรื่องคือเรื่องฮาร์ดแวร์ Android เองที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเสมอมา ทำให้ปัจจุบันเราจะเห็นกล้องมือถือแอนดรอยด์มาพร้อมความชัด 100 เมกะพิกเซล, 200 เมกะพิกเซล, ซูมได้ 100 เท่า, ขนาดเซนเซอร์กล้อง 1 นิ้ว เป็นต้น
และทางมือถือ android เองก็ให้แรมมาเยอะกว่า หน้าจอที่แสดงผลก็ให้คุณภาพคมชัดสูงกว่า ตัวอย่างที่กล่าวมาจะอยู่ในมือถือระดับเรือธงนะครับ ซึ่งรุ่นระดับสูงๆ ฟีเจอร์เหล่านี้ก็มีติดเครื่องมาด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับ iOS แล้ว Android ก็นำโด่งไปได้เยอะเลย ยกตัวอย่างเช่น เราเพิ่งจะได้เห็นการชาร์จด้วย Type-c จากทางฝั่งมือถือไอโฟนไปเอง และนี่แหละเป็นอีกข้อได้เปรียบใหญ่สำหรับฝั่ง Android
ต่อมาคือข้อดีอีกอันสุดท้ายของ Android ผมคิดว่าเป็นเรื่องของการ support อุปกรณ์ เรื่องนี้แอนดรอยด์ทำได้เยอะกว่า โดยเฉพาะเมื่อไปโฟกัสในกลุ่มของอุปกรณ์เกมมิ่ง ซึ่งมีรองรับอุปกรณ์และต่อพ่วงที่เยอะมากกว่า เรื่องของการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธผ่านอุปกรณ์อย่างหูฟัง เมาส์ คีย์บอร์ด คอนโทรลเลอร์ เป็นต้น มีการเปิดกว้างเรื่องการเชื่อมต่อเยอะมากกว่าในแอนดรอยด์
แต่ถ้าพูดในเรื่องจุดด้อยของโทรศัพท์ฝั่งแอนดรอยด์ ก็คือไม่เหมาะที่จะเป็นเครื่องสำหรับเล่นโซเชี่ยลมีเดียหรือการสร้างสรรค์เนื้อหา แอนดรอยด์ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะแม้แต่ตัวรุ่นเรือธงก็ยังทำออกได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือตัวเลือกที่เป็นรองลงมาก็ยังทำได้ไม่ดี ทำได้ไม่สุด
ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราใช้แอป Instagram เพื่อลงสตอรี่ เมื่อเทียบระหว่างมือถือ Android และ iPhone ความแตกต่างจะเห็นได้ชัดอยู่บ้าง แม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่าอย่าง iPhone 11, 12 ก็ยังทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการลงสตอรี่จากกล้องแอนดรอยด์อย่าง S24 Ultra ถ้าจะให้ดีให้ใช้การอัดสตอรี่หรือวิดีโอ TikTok หรือ SnapChat โดย screen recorder เลยดีกว่าแล้วค่อยอัพเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นก็เป็นเพราะนักพัฒนา
เนื่องจากในปีนึงมือถือแอนดรอยด์ออกมาหลายรุ่นมาก แต่นักพัฒนาไม่ได้ออกพัฒนามารองรับหลายขนาดหน้าจอขนาดนั้น นั่นจึงเป็นข้อจำกัดสำหรับฝั่งแอนดรอยด์อยู่ เพราะเราไม่สามารถ customize social media ได้เต็มที่
และส่วนตัวมองว่าการใช้แอนดรอยด์เพื่อคอนเทนต์ social อาจจะไม่เวิร์คขนาดนั้น แต่ถ้าคุณเป็นคนสร้างสรรค์คอนเทนต์ทาง social media ตลอด นับไปตั้งแต่การลงสตอรี่หรือใช้ TikTok อุปกรณ์ของ iOS จะทำออกมาได้ดีกว่า แนะนำให้มีมือถือสองเครื่องถ้าคุณเป็นสาย social content จริง ๆ และเครื่องแรกที่คุณถือคือมือถือแอนดรอยด์ อีกเครื่องเป็นไอโฟน ก็จะได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้สะดวกขึ้น