หูฟังที่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนหรือ Noise Cancelling นั้นถือว่ามีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่มากมายในท้องตลาด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่หูฟังบลูทูธไร้สายนั้นได้รับความนิยมมาก ๆ ซึ่งฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนนั้นก็มักจะใส่มาให้ในหูฟังจากแบรนด์ยอดนิยมหลายรุ่น ในครั้งนี้เราจะมาเสนอบทความ หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ทั้ง 10 รุ่นที่ไม่ได้มีดีแค่เสียงแต่ก็ยังมาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกที่จะช่วยให้ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมเต็มอิ่มเต็มอารมณ์มากขึ้นปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอก
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี เต็มอิ่มทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม 2024
สำหรับแบรนด์ Creative ที่เราได้นำมาแนะนำเป็นอีกรุ่นที่เราอยากให้นักอ่านได้ไปลองกัน เพราะว่านอกจากดีไซน์ภายนอกที่ออกไปทางล้ำสมัยแล้ว ยังมีความสามารถด้านเสียงที่คุ้มค่ากับราคา 5,000 กว่าบาทที่จ่ายไป และวันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกว่าหูฟังตัดเสียงรบกวน Creative Aurvana Ace 2 ดียังไง ทำไมควรมี แต่ขอบอกเลยว่าส่วนตัวเราชอบชื่อรุ่นที่แบรนด์ตั้งมาให้มาก ๆ แค่อ่านก็เท่ประหนึ่งว่าผมนี่แหละ 1 ในหูฟังที่เป็นตัวตึง ไปอ่านกันเลยดีกว่าว่าตัวตึงจริงไหม
คุณภาพเสียง
เมื่อต้องรีวิวหูฟัง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือมุมมองในเรื่องของคุณภาพเสียง และตัวหูฟัง tws แบรนด์ Creative รุ่น Aurvana Ace 2 ก็เรียกได้ว่าเป็นตัวตึงได้สบายในหูฟังราคากลาง เสียงเพลงที่เราฟังเขาก็ทำออกมาได้ดีมาก ยิ่งใช้กับโหมด Active ANC ยิ่งเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของดนตรีได้อีกระดับ เพราะตัดเสียงภายนอกได้มากถึง 96% เรียกได้ว่าเงียบมากจริง ๆ เรานั่งอยู่ข้างพัดลม พอลองใช้ ANC ก็คือเงียบมากขึ้น ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้นไปอีก ในเรื่องของสเปคที่เป็นไส้ในของหูฟังบลูทูธรุ่นนี้คือ มาพร้อมกับ xMEMS Solid-state Driver และ 10 mm. Dynamic Driver ช่วยให้เสียงเบสดี เสียงกลางได้ เก็บย่านเสียงได้ดี
และในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนมีการใช้ชิปจาก Qualcomm ที่ให้ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Qualcomm Adaptive ANC ตัดได้มั่นใจ ให้ Ambient Mode มาพร้อม ลดเสียงแทรก คุยได้มั่นใจกับ Qualcomm cVc™ Noise Cancellation ไมค์ชัดไปอีกเพราะให้ไมค์มาข้างละ 3 ตัว รวมแล้วเป็น 6 ไมโครโฟน ซึ่งการสั่งงานโหมดต่าง ๆ จะอยู่ที่ข้างตัวหูฟังเลย โดยทางเราแนะนำให้อ่านคู่มือก่อนน่า จะได้เป็นมือโปร เผื่อต้องการใช้โหมด ANC หรือ กดหยุด/เล่นเพลง ไปจนถึงเพิ่มเสียงน่า
และยังมาพร้อม Bluetooth 5.3 ที่เชื่อมต่อเร็ว รองรับเสียงขั้นสูง LE Audio หรือชื่อเต็ม Low Energy Audio ที่ให้การเชื่อมต่อบลูทูธประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้นกว่า (เข้ารหัสเสียงแบบ LC3) Bluetooth Classic ซึ่งเราสามารถเจอแบบนี้ได้ในรุ่นหูฟังอย่างรุ่น AirPods Pro
ความสบายระหว่างใส่
ความสบายระหว่างใส่ก็เรียกว่าทำได้ดีค่ะ ไม่ได้รู้สึกปวดหูเลย แต่ต้องบอกว่าถ้าใส่นอนตะแคงนาน ๆ อาจะทำให้เจ็บได้นะ หูฟังเกาะหูดี ตัวจุกหูฟังที่ให้มาเราก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่ถ้าใครรู้สึกไม่พอดีกับรูหูข้างในกล่องจะมีจุกมาให้เปลี่ยนด้วยน่า
วัสดุ/งานประกอบ
มาเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราอยากรีวิวพอ ๆ กันกับเรื่องเสียงของหูฟังตัดเสียงรบกวน Creative Aurvana Ace 2 เลย เพราะเรียกได้ว่าแปลกตามากสำหรับตัว Editor เอง เพราะปกติจะเห็นส่วนใหญ่เป็นสีทึบไปเลย แต่อันนี้เรามองเห็นข้างในไปเลย
โดยสีที่ได้มาลองรีวิวเป็นสี Translucent Black & Copper นะคะ คือสีโปร่งออกดำและทองแดง ตัวหูฟังเองก็เก๋มาก ออกแบบมาได้ไม่ซ้ำใคร งานประกอบของเคสดูแข็งแรงเลยนะคะ ด้านล่างของตัวเคสจะมีสัญญาณไฟน่า บอกเปอรเซนต์แบตได้ แต่เดายากนิดนึงเพราะว่าไม่ได้มีตัวเลขให่ดูขนาดนั้น โดยไฟจะแสดงทั้งหมด 3 สี ตามปริมาณแบตที่เหลือนะคะ แดง เหลือ 0-30%, เหลือง เหลือ 31-70%, เขียว เหลือ 71-100%
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของตัวหูฟังใช้งานได้นานเลย อยู่ที่ 6 ชั่วโมง แต่ถ้ารวมการชาร์จผ่านเคสด้วย เราจะใช้งานได้ทั้งหมด 24 ชั่วโมงไปเลย ตอนชาร์จก็อย่าลืมสังเกตไฟด้วยน่าเผื่อต้องถึงเวลาชาร์จเคสด้วยเหมือนกัน
เหมาะกับใคร
โดยภาพรวมเป็นอีกหนึ่งหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ทำออกมาสำหรับคนที่กำลังตามหาหูฟัง true wireless ราคากลางแบบห้าพันนิด ๆ รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นจบได้เลย ตัดเสียงดีมาก ไมค์เยอะข้างละ 3 ตัว แบตทำออกมาได้ดี รวมชาร์จก็ได้ 24 ชั่วโมงโดยประมาณ ก็คืออุ่นใจได้เมื่อออกไปข้างนอกนาน ๆ เสียงทำได้ดี ใช้ชิปเด่น เบสได้ เสียงชัด เก็บย่านเสียงได้เยอะ และอีกอย่างคือแปลกตาด้านดีไซน์ไม่ใช่น้อย ใครที่อยากลองหาหูฟัง noise cancelling ดี ๆ ตัวนี้ห้ามพลาดน่า
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Aurvana Ace 2
- การสวมใส่ : In-ear TWS
- การถอดรหัสเสียงที่รองรับ : LC3, AptX Lossless, AptX Adaptive, AptX, AAC, SBC
- จำนวนไมค์ : 3*2 รวมทั้งหมด 6 ไมค์
- การจับเสียงสนทนา : Qualcomm cVc™ Noise Cancellation
- การตัดเสียงรบกวน : ANC
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : Ambient Mode
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth 5.3 LE Audio
- ระยะเวลาการใช้งาน : 6 ชั่วโมง หากรวมชาร์จผ่านเคสจะได้ทั้งหมด 24 ชั่วโมง
- การควบคุม : Touch control
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : -
- การชาร์จ : USB-C/ Wireless Charging
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IPX5
- น้ำหนัก: 46.6 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“เสียงดีมากสำหรับหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนได้ มีไมค์มาตั้ง 6 ตัว ยังมีการใช้ชิปจาก Qualcomm ด้วย ตัดเสียงเงียบมากจริง ๆ ให้ Ambient Mode มาด้วย แต่ที่ชอบมากคือแบตก็ยังใช้ได้ 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ดีไซน์เราก็ชอบทั้งตัวเคสและหูฟังเลย”
สำหรับใครที่ใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายจาก Apple แน่นอนว่าก็ต้อง AirPod สำหรับรุ่นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่เราเลือกมาจะเป็นรุ่น Top สุดของ Apple อย่าง AirPods Max หูฟังครอบหู หรือ Over-Ear สุดพรีเมียมที่ให้ทั้งพลังเสียงเต็มอิ่ม คุณภาพเสียงระดับ Hi-End และวัสดุสุดหรูที่ปรับได้อิสระทำให้สามารถสวมใส่ได้สบายและพอดีสุด ๆ พร้อมระบบเสียงติดตามตำแหน่งให้ความรู้สึกเมื่ออยู่ในโรงภาพยนตร์ ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ก็ออกแบบมาอย่างดีใช้งานปรับค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด กับไมค์ที่ให้มาถึง 6 ตัวบริเวณด้านนอกและ 2 ตัวด้านในที่จะใช้ในการตัดเสียงรบกวนภายนอกขณะฟัง Content ต่าง ๆ หรือรับเสียงภายนอกในโหมดฟังเสียงภายนอก และไมค์อีก 1 ตัวที่ใช้ในการรับเสียงสนทนาเป็นหลัก สำหรับเสียงก็ใช้ไดรเวอร์แบบไดนามิกที่ออกแบบพิเศษกับชิปประมวลผล H1 ที่ออกแบบมาเพื่องานด้านเสียงโดยเฉพาะจาก Apple โดยหูฟังสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Apple AirPods Max
- การสวมใส่ : Over Ear
- ชิปประมวลผล : H1
- ไดรเวอร์เสียง : Apple-designed dynamic driver with Adaptive EQ
- ระบบเสียงที่รองรับ : Personalized Spatial Audio with dynamic head tracking
- จำนวนไมค์ : 9 ตัว
- การตัดเสียงรบกวน : ANC
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : Transparency mode
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.0 เข้าได้กับอุปกรณ์ Apple เท่านั้น
- การเชื่อมต่อแบบสาย : lightning to Aux เข้าได้กับอุปกรณ์ Apple เท่านั้น
- ระยะเวลาการใช้งาน : 20 ชม.
- การควบคุม : Digital Crown และ ปุ่มควบคุม
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Apple
- การชาร์จ : lightning
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : ไม่รองรับ
- น้ำหนัก : 384.8 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“ระบบตัดเสียงดีมากครับ ขณะเสียงพัดลมใกล้ๆ ยังเงียบสนิท เหมาะแก่การดูหนังที่บ้านมากๆ ครับ คือได้ยินรายละเอียดของหนังชัดมากๆ ทำให้อารมณ์การดูเปลี่ยนไป แม้จะดูเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วก็ตาม และที่ชอบอีกอันคือ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ apple นึงไปอีกอันนึงทำได้ลงตัวดีครับ”
ใครที่มองหาหูฟังที่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวน จะต้องมีคุ้นหน้าคุ้นตารุ่นนี้มาอยู่บ้าง สุดยอดหูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WH-1000XM5 แล้วกับดีไซน์ใหม่สุดพรีเมียม รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายด้วย AUX และไร้สายผ่านบลูทูธ Bluetooth 5.2 ที่ให้มากับ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง ด้วยไดร์เวอร์ชนิด dynamic ขนาด 30 มม. มีไมโครโฟนที่ให้มาข้างละ 4 ตัว ออกแบบมาสำหรับการรับเสียงรอบตัวเพื่อใช้ตัดเสียงรบกวนในระบบ ANC และใช้ในการคุยสนทนาด้วยนั้นเอง กับความสามารถ Adaptive Sound Control ที่จะปรับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมรอบข้าง
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Sony WH-1000XM5
- การสวมใส่ : Over Ear
- ชิปประมวลผล : V1
- ไดรเวอร์เสียง : dynamic ขนาด 30 มิลิเมตร (Neodymium)
- ระบบเสียงที่รองรับ : 360 Reality Audio, 360 Spatial Sound Personalizer, Dolby Atmos
- คุณภาพเสียงที่รองรับ : HIGH-RESOLUTION AUDIO
- การถอดรหัสเสียงที่รองรับ : DSEE EXTREME , SBC, AAC, LDAC
- จำนวนไมค์ : 8 ตัว
- การจับเสียงสนทนา : ไมโครโฟน Beamforming
- การตัดเสียงรบกวน : ANC/NC Optimizer/Adaptive Sound Control
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : AMBIENT SOUND MODE
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.2 / Google FAST PAIR / Swift Pair
- การเชื่อมต่อแบบสาย : Stereo Mini Jack (AUX)
- Bluetooth Profiles : A2DP, AVRCP, HFP, HSP
- ระยะเวลาการใช้งาน : 30 hrs (NC ON), 40 hrs (NC OFF)
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Sony Headphones Connect
- การชาร์จ : USB Type C
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : ไม่รองรับ
- น้ำหนัก : 250 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“คุณภาพเสียงดีตัดเสียงได้ดีมากครับ”
ถ้าพูดถึงหูฟังไร้สายที่มาพร้อมตัดเสียงรบกวนอย่าง ANC จาก Sony ทุกคนคงจะต้องนึกถึงรุ่นหูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WF-1000XM4 ที่มาพร้อมกับความสามารถในการตัดเสียงรบกวนที่หลายสำนักบอกว่าดีที่สุดในตลาด เริ่มด้วยตัวจุกหูฟังที่ใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเป็น Memory Foam ซึ่งจะทำหน้าที่กันเสียงจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมโหมด Adaptive Sound Control ที่จะปรับการตัดเสียงรบกวนได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งสามารถตั้งค่าการตัดเสียงรบกวนและอื่น ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ชิปประมวลผลใหม่อย่าง V1 โดย Sony ด้านแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงแม้ใช้โหมด ANC สูงสุดถึง 12 ชั่วโมงเมื่อไม่เปิด ANC หรือสูงสุดถึง 24 ชั่วโมงพร้อมเคสชาร์จที่รองรับการชาร์จไร้สายด้วย ไม่เพียงเท่านั้นตัวหูฟังก็ยังให้เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะหยุดเล่นเพลงหรือหนังอัตโนมัติเมื่อเราถอดหูฟัง
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Sony WF-1000XM4
- การสวมใส่ : InEar TWS
- ชิปประมวลผล : V1
- ไดรเวอร์เสียง : dynamic ขนาด 6 มิลิเมตร (Neodymium)
- ระบบเสียงที่รองรับ : 360 Reality Audio, 360 Spatial Sound Personalizer, Dolby Atmos
- คุณภาพเสียงที่รองรับ : HIGH-RESOLUTION AUDIO
- การถอดรหัสเสียงที่รองรับ : DSEE EXTREME , SBC, AAC, LDAC
- การจับเสียงสนทนา : ไมโครโฟน Beamforming และ bone-conduction
- การตัดเสียงรบกวน : ANC/NC Optimizer/Adaptive Sound Control
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : AMBIENT SOUND MODE
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.2 / Google FAST PAIR / Swift Pair
- Bluetooth Profiles : A2DP, AVRCP, HFP, HSP
- ระยะเวลาการใช้งาน : 8 ชม.(NC ON), 12 ชม.(NC OFF) รวมเคสชาร์จสูงสุด 24 ชม
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Sony Headphones Connect
- การชาร์จ : USB Type C และ การชาร์จไร้สาย
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IPX4
- น้ำหนัก : 41 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“เป็นหูฟังที่ดีมากตามแบบฉบับของsony ตัดเสียงรบกวนทำได้ดี เสียงไม่ได้หายไปหมดแบบที่คิดไว้เวลาปิดเพลง แต่ถ้าเปิดก็จะกลบเสียงได้หมดเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง”
เอาใจสายเล่นเกมด้วยหูฟังตัดเสียงรบกวน เกมมิ่ง อย่าง Razer ในรุ่น RAZER BARRACUDA PRO ที่โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมงและโหมด ANC ที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม โดยหูฟังรุ่นนี้จะมาในดีไซน์ครอบหูหรือ Over-Ear เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2 บนระบบ Razer SmartSwitch Dual Wireless ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อและสลับอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ และดีเลย์ก็น้อยสุด ๆ เหมาะกับการเล่นเกมมาก ๆ ด้านเสียงใช้ THX Achromatic Audio Amplifier ที่ให้เสียงที่ใสเที่ยงตรง และทรงพลัง กับ Razer TriForce Bio-cellulose ที่ให้ความชัดเจนและการสร้างเสียงเบสที่ทุ้มลึก พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบ Beam Forming ในตัว ทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมต่อและตั้งค่าได้ผ่าน แอป Razer Audio
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : RAZER BARRACUDA PRO
- การสวมใส่ : Over-Ear
- ไดรเวอร์เสียง : RAZER TRIFORCE™ BIO-CELLULOSE 50MM DRIVERS with THX Achromatic Audio Amplifier (THX AAA™)
- ระบบเสียงที่รองรับ : THX SPATIAL AUDIO
- การจับเสียงสนทนา : Dual Integrated Mems Beamforming Noise-cancelling
- การตัดเสียงรบกวน : Hybrid Active Noise Cancellation (ANC) Technology
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : AMBIENT MODE
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.2 with Razer™ SmartSwitch Dual Wireless
- การเชื่อมต่อแบบสาย : USB Type-C
- ระยะเวลาการใช้งาน : สูงสุด 40 ชม.
- การควบคุม : ปุ่มควบคุม
- แอปพลิเคชันควบคุม : RAZER AUDIO APP
- การชาร์จ : USB Type C
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : ไม่รองรับ
- น้ำหนัก : 340 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังคุณภาพดีมากตอบโจทย์ทุกสไตล์การใช้งานแถมราคาดีไม่แพงเกินไปสำหรับหูฟังเกมมิ่งไร้สาย”
AUKEY ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีหูฟังตัดเสียงรบกวน tws ที่อยู่ในระดับที่ใช้ได้ และยังมาในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป โดยรุ่นนี้จะมากับความสามารถในการกรองเสียงจากภายนอกได้ที่ 32 dB หรือมากถึง 80% ผ่านระบบ ANC ด้วยไมค์ที่ให้มาถึง 6 ตัวซึ่งจะใช้ในโหมดรับเสียงอย่าง Tranparency และระบบตัดเสียงรบกวน ENC สำหรับคุยสนทนาด้วย ด้านการเชื่อมต่อใช้ Bluetooth 5.1 สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดที่ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จและ 25 ชั่วโมงพร้อมเคสชาร์จ ด้านเสียงก็ใช้ Dynamic Driver ขนาด 10mm ให้เสียงทุกย่านเสียง มีความโดดเด่นเรื่องเนื้อเสียงที่เป็นธรรมชาติ
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : AUKEY EP-N6
- การสวมใส่ : InEar Tws
- ไดรเวอร์เสียง : dynamic ขนาด 10 มิลิเมตร
- จำนวนไมค์ : 6 ตัว
- การจับเสียงสนทนา : MEMS with ENC & 6 Mic
- การตัดเสียงรบกวน : Hybrid Active Noise-Cancellation กรองได้ 32dB หรือ 80%
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : Transparency Mode
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Versio 5.1
- Bluetooth Profiles : A2DP, AVRCP, HFP, HSP
- ระยะเวลาการใช้งาน : 25 ชม.รวมเคสชาร์จ
- การควบคุม : Convenient Touch Control
- การชาร์จ : USB Type C
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IPX5
- น้ำหนัก : 28g + 9g (Pair)
รีวิวจากผู้ใช้
“คุณภาพดีมาก เสียงชัดมาก ตัดเสียงได้ดีเยื่อม แบตอยู่ได้เป็นวัน กันน้ำ ราคา ไม่แพงมาก”
เป็นรุ่นที่ 2 แล้วกับหูฟัง tws Samsung ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่น ท็อปสุดจาก Samsung แต่ความสามารถที่ให้มาก็จัดเต็มไม่แพ้ในรุ่นนี้ซึ่งมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนอย่าง ANC ที่สามารถกรองเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 98% โดยสามารถตั้งค่าการตัดเสียงรบกวน ได้ถึง 3 ระดับพร้อมโหมด ambient ที่จะรับเสียงจากภายนอก และตั้งค่าแนวเสียงได้ผ่านแอปพลิเคชัน ด้านไมโครโฟนก็มีมาให้ถึงข้างละ 3 ตัวพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงพูดคุยโทรศัพท์ชัดแน่นอน หูฟังตัดเสียงรบกวนแต่ละข้างก็ใสสบายด้วยรน้ำหนักเบาสุดเพียง 5 กรัมต่อข้างที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 7.5 ชั่วโมงและ 29 ชั่วโมงพร้อมเคสชาร์จ
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Samsung Galaxy Buds 2
- การสวมใส่ : InEar Tws
- ไดรเวอร์เสียง : dynamic แบบ 2 ทิศทาง
- จำนวนไมค์ : 6 ตัว
- การจับเสียงสนทนา : ไมโครโฟน Beamforming และเซนเซอร์ VPU ตรวจจับเสียงพูด
- การตัดเสียงรบกวน : ANC ปรับได้ 3 ระดับกรองได้ถึง 98%
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : Ambient Sound
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.2
- Bluetooth Profiles : A2DP, AVRCP, HFP
- ระยะเวลาการใช้งาน : 7.5 ชม.ต่อการชาร์จ หรือ 29 ชม. รวมเคสชาร์จ
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Galaxy Wearable
- การชาร์จ : USB Type C
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : ไม่รองรับ
- น้ำหนัก : 5 กรัมต่อหูฟัง 1 ข้าง และ 41.2 กรัม รวมเคสชาร์จ
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังน้ารักมาก ขนาดเล็กเบา เสียงชัด ตัดเสียงดังรอบข้างได้ดีมากคนเรียกแถมไม่ได้ยิน เสียงเบสดีเวลาฟังเพลงแล้วมันมาก”
ใครที่ชื่นชอบเครื่องเสียงจะต้องมีเคยได้ยินชื่อแบรนด์เครื่องเสียง Devialet จาก ฝรั่งเศสกันอยู่บ้าง โดยได้ออกหูฟังตัดเสียงรบกวนสุดพรีเมียมในชื่อรุ่น Devialet Gemini II ที่ออกแบบมาได้อย่างพรีเมียม และแน่นอนว่าต้องให้เสียงที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน การตัดเสียงรบกวนก็ใช้ระบบ Anc แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดที่ 22 ชั่วโมง รุ่นนี้จะดีกว่าตัว Gemini ธรรมดาที่เวอร์ชั่นบลูทูธที่เขยิบมาใช้ Bluetooth 5.2 แล้ว และทั้งในเรื่องเทคโนโลยีลดเสียงลมอย่าง Active Wind Reduction ที่พร้อมให้คุณเอนจอยเสียง ลดลมแทรกแบบมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Devialet Gemini II
- การสวมใส่ : In Ear Tws
- ไดรเวอร์เสียง : ขนาด 10 มิลลิเมตร Titanium coating
- เทคโนโลยีที่รองรับ : Bluetooth 5.2 Multipoint, Qualcomm® AptX™, Devialet ANC™
- จำนวนไมค์ : ไม่ระบุ
- การตัดเสียงรบกวน : Devialet Active Noise Cancellation™
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : Transparency (hear-through)
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.2 with Multipoint (เชื่อมได้ 2 อุปกรณ์)
- ระยะเวลาการใช้งาน : 22 ชั่วโมงรวมเคสชาร์จ
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Devialet Gemini
- การชาร์จ : USB Type C และการชาร์จไร้สาย Qi technology
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IPX4
- น้ำหนัก : 61 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังเสียงดีมากครับ มาลองฟังเทียบกับ sony xm4 ถ้าใครตัดสินใจอยู่ Gemini ตัวนี้ตัดเสียงดีกว่าครับ เสียงดีกว่า แพ้ sony ตรงฟังก์ชั่นที่น้อยกว่า กับแบตเตอรีน้อยกว่าครับ”
Jabra นั้นมีหูฟังรุ่นที่น่าสนใจอยู่หลากหลายรุ่นและรุ่นที่เราเลือกมาอย่าง Jabra Elite 85t นั้นจะเป็นหูฟัง tws รุ่น Top ของ Jabra ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนหรือ Anc ดีเยี่ยมที่สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้มาถึง 11 ระดับ กับโหมด Hear Through ที่จะเปิดรับเสียงจากภายนอกได้ ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชัน ไมค์ของหูฟัง noise cancelling Jabra ก็ให้มามากถึง 6 ตัว โดยข้างละ 2 ตัวจะทำหน้าที่จับเสียงเพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวนทั้งสำหรับ Anc และ Enc กับอีกข้างละ 1 ตัวจะใช้จับเสียงสนทนาเป็นหลัก ในส่วนของการสวมใส่จะใช้ตัวจุกหูฟังที่ออกแบบมาพิเศษรูปวงรี เพื่อให้สวมใส่ได้สบายกระชับมากยิ่งขึ้น ด้านเสียงก็ให้ Driver ขนาดถึง 12 มิลลิเมตร แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 25 ชั่วโมงรวมเคสชาร์จที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Jabra Elite 85t
- การสวมใส่ : InEar Tws
- ไดรเวอร์เสียง : ขนาด 12 มิลิเมตร
- การถอดรหัสเสียงที่รองรับ : SBC, AAC
- จำนวนไมค์ : 6 ตัว
- การจับเสียงสนทนา : MEMS
- การตัดเสียงรบกวน : Jabra Advanced ANC ปรับได้ 11 ระดับ
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : HearThrough
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.1 with Multi-connect
- Bluetooth Profiles : A2DP, AVRCP, HFP, HSP , SPP
- ระยะเวลาการใช้งาน : 31 ชั่วโมงรวมเคสชาร์จและ 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : MyControls - Jabra Sound+
- การชาร์จ : USB Type C และการชาร์จไร้สาย
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IPX4
- น้ำหนัก : 7 กรัม หรือ 45.1 กรัม รวมเคสชาร์จ
รีวิวจากผู้ใช้
“เสียงดี ชอบมาก ใครชอบฟังเพลงแนว EDM ตื๊ดๆ แนะนำครับ Microphone ดีมากข้างละ 3 ตัว รวมทั้ง 2 ข้าง เป็น 6 ตัว ปลายสายได้ยินเสียงพูดได้ดีเลย ลองปรับเปลี่ยนจุกหูฟังทั้ง M, L ใส่แล้วรู้สึกไม่กระชับ ”
Edifier อาจจะไม่ใช่แบรนด์หูฟังที่ใครหลายคนคุ้นเคยมากนัก แต่ก็ถือเป็นแบรนด์หูฟังและลำโพงที่มีตัวเลือกอยู่หลากหลายในราคาที่คุ้มค่าสุด ๆ ทั้งคุณภาพเสียง วัสดุ และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มาก็คือว่าดีเกินราคา โดยรุ่นหูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) ที่เรายกมานั้นจะโดดเด่นด้วยระบบ ANC ที่สามารถกรองเสียงจากภายนอกได้ถึง 38 dB ด้วยไมค์ที่ทำหน้าที่ในการตัดเสียงรบกวนถึงข้างละ 2 ตัวด้วยกัน มี ambient mode ที่จะเปิดรับเสียงจากภายนอกได้ด้วย ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชันเลย ด้านเสียงก็ให้ panoramic 3D technology จะเล่นเกมหรือดูหนังก็เต็มอิ่ม ขณะคุยโทรศัพท์ก็มี ENC คุยโทรศัพท์ได้เสียงชัด และยังระบบตรวจการสวมใส่ด้วยเมื่อถอดเพลงก็หยุดให้อัตโนมัติเลย ด้านแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดพร้อมเคสชาร์จถึง 32 ชั่วโมงเลย
ข้อมูลเฉพาะ
- ชื่อรุ่น : Edifier TWS NB2 Pro
- การสวมใส่ : InEar Tws
- ระบบเสียงที่รองรับ : panoramic 3D technology , Spatial Sound
- การถอดรหัสเสียงที่รองรับ : SBC, AAC
- จำนวนไมค์ : 4 ตัว
- การจับเสียงสนทนา : Dual-Mic พร้อมอัลกอริทึ่มตัดเสียงรบกวน ENC
- การตัดเสียงรบกวน : Hybrid Active Noise Cancelling กรองเสียงได้ 38 dB ปรับได้ 3 ระดับ
- ระบบรับเสียงจากภายนอก : AMBIENT SOUND MODE
- การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth Version 5.0
- ระยะเวลาการใช้งาน : 9 ชม.+ 23 ชม.
- การควบคุม : Touch Sensor
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ : มี
- แอปพลิเคชันควบคุม : Edifier Connect
- การชาร์จ : USB Type C
- มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP54
- น้ำหนัก : 52 กรัม
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังเสียงดี ระบบการทำงานดี”
Noise Cancelling คืออะไร ?
คือ ระบบตัดเสียงรบกวนซึ่งจะช่วยลดหรือกรองเสียงจากภายนอกขณะฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมเพื่อให้สามารถฟังเสียงเหล่านั้นได้เต็มอิ่มเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น โดยจะมาในเทคโนโลยีที่แตกต่างกับไปตามแต่ละแบรนด์ และโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ระบบ ANC หรือ Active Noise Cancellation คือการรับเสียงรบกวนจากภายนอกประมวลผลและทำการปล่อยเสียงออกมาเพื่อหักล้างเสียงรบกวนจากภายนอกที่รับมา ซึ่งก็จะทำงานควบคู่กับ Passive noise isolation อย่างจุกหูฟัง ฟองน้ำ หรือ ดีไซน์ของหูฟังที่จะช่วยปิดกั้นเสียงจากภายนอกให้เข้าหูเราได้น้อยลง ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้จะทำให้เราฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอก
ข้อดี-ข้อเสียของการมีหูฟังตัดเสียงรบกวน
แน่นอนว่าการมีหูฟังตัดเสียงรบกวนก็ย่อมช่วยให้สามารถดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่มและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาอยู่บนเครื่องบินที่มีเสียงดัง ๆ หรือเมื่อทำงานในที่ ๆ มีเสียงรบกวนเยอะ ๆ อย่างร้านกาแฟ ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ Noise Cancelling จะช่วยกรองเสียงภายนอกให้สามารถฟังสิ่งต่าง ๆ ผ่านหูฟังได้ดียิ่งขึ้นหรืออาจจะช่วยให้มีสมาธิในการทำสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
แต่ในทางกลับกันการใช้งาน ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ Noise Cancelling ก็จะเป็นเหมือนกันการที่เราถูกปิดกันจากภายนอกทำให้ได้ยิ่งเสียงจากภายนอกลดลง ตัวอย่างเช่นในสถานที่ ๆ ไม่ปลอดภัยและต้องการความระมัดระวังอย่างบนท้องถนน ก็อาจจะเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้เช่นกัน
วิธีการซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไม่ใช่เด่นแค่ตัดเสียงได้
ระบบตัดเสียงรบกวนนั้นมักจะมาในหูฟังที่มีราคาสูงสักหน่อย จึงมักจะมาพร้อมคุณภาพเสียงที่ค่อนข้างดีไปด้วยในส่วนอื่น ๆ อย่างดีไซน์ ระยะเวลาการใช้งาน การควบคุมต่างก็อยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวนดี ๆ สักรุ่นเราก็อยากจะมาแนะนำสิ่งที่สำคัญไม่แพงกันในการเลือกหูฟังที่ดี
- คุณภาพเสียง
แน่นอนว่าจะเลือกซื้อหูฟังก็ต้องดูเรื่องเสียงเป็นหลาก แต่อย่างที่รู้ว่าเรื่องเสียงนั้นก็แล้วแต่ว่ารสนิยมในการฟังเพลงของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร ชอบฟังเพลงแนวที่แตกต่างกันก็อาจจะเหมาะกับหูฟังรุ่นที่แตกต่างกันไปด้วย อาจจะลองสังเกตคนที่ชอบแนวเพลง หรือมีรสนิยมทางดนตรีเดียวกับเราว่าเค้าชอบหรือสนใจหูฟังในรุ่นหรือแบรนด์ไหนเป็นพิเศษนั้นก็จะช่วยให้เราเลือกหูฟังได้ตรงรสนิยมของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะใช้การดูรีวิวที่หลากหลายประกอบด้วย
- ราคาและงบประมาณ
ในเรื่องราคาก็เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อหูฟังหรือเครื่องเสียงสักชิ้น ไม่เพียงเท่านั้นราคาหรืองบประมาณยังเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการเลือก ตัดตัวเลือกที่อยู่ในระดับราคาที่เกินงบประมาณของเราได้อีกด้วย เพราะถ้ายิ่งมีตัวเลือกที่น้อยก็จะทำให้เราสามารถเลือกหูฟังตัดเสียงรบกวนได้ตรงความต้องการของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ดีไซน์และการสวมใส่
การสวมใส่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยในการลดเสียงรบกวนจากผ่านนอก รวมถึงเป็นเรื่องความสบายในการสวมใส่ด้วยถ้ายิ่งสวมใส่สบายก็ทำให้สามารถใส่ได้นาน ๆ เมื่อดูหนัง ฟังเพลง หรือ คุยโทรศัพท์ด้วย
- แบตเตอรี่และการชาร์จ
ด้านแบตเตอรี่สำหรับรุ่นที่มาในรูปแบบการใช้งานแบบไร้สายก็จะช่วยให้สามารถใช้งานได้นาน ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่จะเพียงพอหรือไม่ ถ้าให้แบตเตอรี่มาเยอะเพียงพอหรือมีการจัดการแบตเตอรี่ที่ดีพอ โดยเฉพาะระบบ ANC ที่จะใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน ในส่วนของการชาร์จเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นรุ่นที่มาพร้อมการรองรับการชาร์จเร็วก็ช่วยให้ในเวลาที่แบตเหลือน้อยและต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องก็ชาร์จเพียงครูเดียวก็สามารถใช่งานต่อได้เลย ไม่เพียงเท่านั้นการชาร์จไร้สายที่จะให้มาในรุ่นที่มีราคาสูงก็จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถชาร์จหูฟังได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
- การเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นทั้งหูฟังแบบมีสายหรือแบบไร้สาย สำหรับแบบมีสายก็สังเกตได้จากตัววัสดุและรูปแบบของตัวสาย และสำหรับแบบไร้สายก็ดูได้จาก เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ให้มาและรูปแบบการถอดรหัสไฟล์เสียงที่รองรับ ซึ่งถ้ายิ่งรอบรับได้หลากหลายหรือ รองรับในเทคโนโลยีเสียงที่พิเศษกว่า ผู้ฟังก็ย่อมได้รับประสบการณ์ในการดูหนัง ฟัง เพลง ที่เหนือกว่า
- การควบคุม
สิ่งที่ใครหลายคนอาจจะลืมหรือไม่สนใจ อย่างการควบคุมการทำงาน ในปัจจุบันหูฟังหลาย ๆ รุ่นโดยเฉพาะหูฟังไร้สายจะมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมตั้งค่าการทำงานและอื่น ๆ สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถปรับแต่การทำงานและการใช้งานหูฟังได้สะดวกและมีอิสระมากยิ่งขึ้น รวมถึงวิธีในการสั่งงานบนตัวหัวฟังที่ดีก็จะช่วยให้สามารถใช้งานหูฟังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- เทคโนโลยีที่ให้มาและฟังก์ชันอื่น ๆ
เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ตัวหูฟังนั้นรองรับหรือให้มาก็จะช่วยให้ประสบการณ์ในการใช้งานหูฟัง ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม หรือแม้แต่คุณโทรศัพท์นั้นดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ANC ที่ช่วยในการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกขณะฟังเพลงรวมถึงความสามารถในการตรวจจับและปรับการตัดเสียงรบกวนอย่างอัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการใช้งาน, ENC หรือ ไมโครโฟน Beamforming ที่จะช่วยในการจับเสียงพูดขณะคุยสนทนาโทรศัพท์ได้ดีมากยิ่งขึ้น, เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่ช่วยหยุดเพลงหรือหนังเมื่อเราถอดหูฟัง, เทคโนโลยีในการปรับเสียงให้เหมาะสมกับหูของหูฟังเพื่อเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการฟังเพลงให้เหนือระดับมากยิ่งขึ้น
บทส่งท้าย
นอกจากหูฟังทั้ง 10 ตัวที่เลือกมานั้นเราเชื่อว่ายังมีหูฟังอีกหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ รุ่นที่เราคัดมาทั้ง 10 ตัวเราพยายามที่จะเลือกให้อยู่ในหลากหลายระดับราคา นอกจากนั้นรุ่นที่เราคัดว่าบางตัวยังเป็นรุ่นที่ราคาพึ่งลดลงว่าทำให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย และเราพยายามจะนำเสนอในรุ่นที่ดีแต่อาจจะไม่เป็นที่รู้จักนัก ถ้าหูฟังไร้สายทั้ง 10 รุ่นที่เราเลือกมายังไม่ถูกใจ เราก็หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียในการเลือกหูฟังที่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนได้ตรงกับความต้องการของทุกคนกัน ทุกคนจะสังเกตว่าไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องของแนวเสียงของหูฟังในแต่ละรุ่นเพราะเราเชื่อว่าเรื่องของเสียงนั้นขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคนถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้ทุกคนได้ลองเข้าไปสัมผัสตัวจริงและเสียงจริง ๆ ของหูฟังรุ่นนั้น ๆ