ตู้เป่าขนแมว เป็นนวัตกรรมความทันสมัย ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป่าขนน้องแมวให้แห้งสนิทหลังจากอาบน้ำทำความสะอาดเสร็จใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นการฆ่าเชื้อที่ขนน้องแมวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายเครื่องเป่าขนแมวที่ทำออกมาให้คนรักสัตว์ได้จับจองเป็นเจ้าของ ไม่จำเป็นต้องไปทำที่ร้านให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เพียงอย่างเดียวแล้ว ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 10 แบรนด์เครื่องเป่าขนแมวสำหรับผู้ที่อยากจะลงทุนซื้อไว้ใช้ที่บ้านกัน

บรรณาธิการ
Table of Contents
10 ตู้เป่าขนแมว ยี่ห้อไหนดี แห้งไว เสียงเบา มีมาตรฐาน 2025

ตู้เป่าขนแมว PANDO Pet Dryer Room รุ่น PD50 ตัวช่วยสุดเจ๋งสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ที่จะทำให้การเป่าขนหลังอาบน้ำเป็นเรื่องง่ายและสบายทั้งคุณและน้องหมา น้องแมว ด้วยระบบปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ พร้อมไฟ UV ช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นอับชื้น แถมยังมาพร้อมกระจกใสให้คุณมองเห็นน้องๆ ได้ตลอดเวลา ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเงียบสงบ ไม่ทำให้น้องๆ เครียด เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงทุกขนาด รับรองว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ดีกว่าที่เคย!
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ลองใช้แล้วเสียงไม่ดัง แมวไม่กลัวเท่าไดร์ค่ะ แมวไทย20-30นาทีก็แห้ง แต่แมวที่บ้านจะไม่ชอบถูกบังคับเลยพยายามเอาปากแงะตรงที่สอดมือจนออกมาได้ ต้องเอามือบังไว้ค่ะ กลัวเหมือนกันว่าใช้ไปเรื่อยๆตรงนี้จะแตกมั้ย และมีอะไหล่เปลี่ยนรึเปล่า เพิ่มเติมลองกับแมวขนยาวใช้เวลา60นาทีค่ะ”

ตู้เป่าขนแมว PANDO รุ่น PD65 มาพร้อมระบบลม 6 มิติที่ช่วยให้ลมเข้าถึงทุกส่วนของร่างกายสัตว์เลี้ยง มีช่องระบายอากาศ 4 ทิศทาง และหน้าต่างด้านข้างที่ถอดออกได้ เพื่อความสบายของสัตว์เลี้ยง พื้นที่ภายในกว้าง 65 ลิตร รองรับน้ำหนักสูงสุด 15 กิโลกรัม ปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ มอเตอร์ไร้แปรงถ่านเพื่ออายุการใช้งานยาวนาน ระบบไอออนลบลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ขนนุ่มนวล เสียงการทำงานเงียบเพียง 38-80 เดซิเบล กระจกเทมเปอร์ด้านหน้าทนความร้อนและทนทาน ไฟ LED ภายใน ควบคุมผ่านจอแสดงสถานะ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ทดลองให้เปอร์เซีย 5 kg เข้าไปนอน นอนได้ชิวๆ ไม่อึดอัดค่ะ ระบบบ้านสัตว์เลี้ยงโอเคเลย ส่วนเรื่องเป่าขนยังไม่ได้ลองค่า”

รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ลมอุ่น เสียงเบา ขนาดเครื่องกว้างพอสำหรับแมวตัวโตได้สบาย สั่งงานผ่านแอปได้ ร้านนี้มีใบรับประกัน ส่งฟรี มีของแถม"

ตู้เป่าขนแมว HOMERUNPET รุ่น PD135 ระบบ 2 in 1 Smart Pet Dryer ขนาด 135 ลิตร มีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับการอบแห้งและฆ่าเชื้อขนสัตว์เลี้ยงด้วยระบบลมรูปตัว U ที่เข้าถึงทุกจุด พร้อมระบบ Negative Ion ลดการพันกันของขน และมีอุณหภูมิสูงสุดที่ 40 องศาเซลเซียส พร้อมเซนเซอร์ควบคุมอุณหภูมิและเสียงรบกวนน้อย เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักไม่เกิน 9.5 กิโลกรัม
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ตู้อบทำจากวัสดุเกรด premium ออกแบบได้สวยงามมาก ตู้อบมีขนาดใหญ่ 135 L สะใจทาสแมวตัวใหญ่ๆ ระบบเป่าลมร้อนหมุนเวียนได้ดีมากๆ แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้ยี่ห้อนี้เลยคือจบ”

ตู้เป่าขนแมว HOMERUNPET รุ่น PD60 ความจุ 62 ลิตร ได้รับมาตรฐาน มอก. ออกแบบด้วยระบบลมหมุนเวียนที่แรงและเงียบ เพื่อการเป่าขนที่รวดเร็วและอ่อนโยนต่อสัตว์เลี้ยง พร้อมฟังก์ชันประจุไอออนลบที่ช่วยให้ขนสวยเงางาม ไม่พันกัน การันตีคุณภาพ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ได้มาในช่วง mid-month sale ในราคาที่โดนใจ เสียงเครื่องทำงานเงียบกว่าที่คิด น้องแมวอาจจะตื่นนิดๆเนื่องจากไม่เคยใช้ แต่โดยรวมดี ตัวน้องแห้งไว ขนไม่ฟุ้งกระจาย”

ตู้เป่าขนแมว Bratvee Smart Pet Blower รุ่น DB02 Max อัพเกรดใหม่ควบคุมผ่านแอป Tuya Smart รองรับทั้ง IOS และ Android ด้วยระบบลมรูปตัว U ขนาด 1000W ที่ให้ลมแห้งทั่วถึงทุกส่วนของขน ควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำเพื่อความปลอดภัย พร้อมอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าถึง 5 ชั้นและการหมุนเวียนลม 360 องศา ระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี และปล่อยไอออนลบเพื่อบำรุงขนและผิวหนัง มาพร้อมของแถมครบ ผ้า หวีแปรงขน ที่ขัด ลูกบอล
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“เสียงเบามาก ดีมาก ลมอุ่นๆ เลย แต่น่าจะแห้งช้าหน่อย เพราะแรงลมไม่ได้แรงมาก แต่ดีกว่าถือไดร์เป่า แมวขนยาวกว่าจะแห้ง”

navipet Smart Pet Dryer ตัวช่วยสุดล้ำสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงที่จะทำให้การเป่าขนหลังอาบน้ำเป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลา แถมยังออกแบบมาให้ใช้งานง่ายทั้งคนและน้องๆ ใช้เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิและความแรงลมอย่างแม่นยำ เพื่อป้องกันการร้อนเกินไปหรือทำให้ขนพันกัน สามารถใช้งานได้กับสัตว์เลี้ยงหลากหลายขนาด มาพร้อมโหมดปรับแต่งให้เหมาะกับชนิดและขนาดของสัตว์ เช่น แมว หมา หรือสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก มีดีไซน์ที่เงียบเพื่อลดความเครียดของสัตว์เลี้ยง และยังมีฟิลเตอร์ป้องกันฝุ่นสำหรับการทำความสะอาดง่าย
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ลองใช้เลยเข้า 2 ตัวในลมแรงสุดอุณหภูมิประมาณ 40 องศาใช้เวลา 1 ชั่วโมงขนแห้งประมาณ 90% จะเหลือในช่วงข้อพับขาหลังแล้วก็หลังบางส่วนใช้ดีมากๆค่ะวัสดุดีราคาไม่แพง"

เป็นอีกหนึ่งตู้เป่าขนแมวที่ได้รับการการันตีคุณภาพจากศูนย์จำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ว่าได้ความปลอดภัยแบบสูงสุด มาพร้อมฟังก์ชันการทำงาน 9 โหมด เสียงเงียบมากทำให้น้องแมวขนแห้ง แต่ได้ความสบายใจ ไม่ตื่นกลัว ดีไซน์ตัวเครื่องสวยน่าใช้ มีให้เลือกหลายสี แถมด้านในยังมีรังสีในการฆ่าเชื้อโรคอย่างแม่นยำ เป็นเครื่องเป่าขนแมวที่ดีงามทุกด้านจริงๆ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ชอบมากกก หลังจากได้ลองใช้ อาบไปหลายตัวเลย สบายนางทาสมากกก ใช้ง่ายทำความสะอาดง่าย สีชมพูน่ารัก ทีแรกนึกว่าเป่าแล้วขนไม่ฟู พอเอาออกมาขนแห้งฟูดีมาก”

ตู้เป่าขนแมว HIPET Pet Dryer Room รุ่น Plus ระบบอากาศรูปตัวยู ทำให้ขนของสัตว์เลี้ยงแห้งอย่างทั่วถึง ระบบไอออนลบช่วยลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ขนนุ่มสลวย ปรับลมได้ 4 ระดับ เสียงเงียบเพียง 40-60 dB ตู้ทำจากกระจกนิรภัยที่ทนความร้อนและทนทาน สามารถมองเห็นสัตว์เลี้ยงได้ชัดเจน ต้านเชื้อแบคทีเรียสูงถึง 94.5% ในโหมดฆ่าเชื้อ โครงสร้าง ABS แข็งแรงและทนทาน มาพร้อมผ้าปูที่นอนเทียม 1 ชิ้นช่วยลากขนสัตว์เลี้ยงหลังอาบน้ำ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
“ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับคุณภาพที่ได้ ขนยาวใช้เวลาประมาณ 120 นาที สำหรับโหมดสบาย ใช้งานง่ายเป็นภาษาไทยค่ะ”

เครื่องเป่าขนแมว Redminut ที่สามารถถอดออกเป็นหัวเป่าอเนกประสงค์ได้ หรือจะใส่เข้าตู้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งแรงลมก็นับได้ว่าแรงสะใจ ทำให้ขนของน้องๆ แห้งได้รวดเร็วทันใจตามไปด้วย ที่สำคัญคือเสียงเงียบมากๆ ไม่ทำให้น้องๆ ตื่นตกใจ ด้วยนวัตกรรมการบล็อคเสียงเหนือชั้น แถมยังสามารถไล่ฝุ่นและอณูเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ด้วยแรงลมที่ทรงประสิทธิภาพ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"เยี่ยมเลย ของคุณภาพดี ดูดี น่าใช้ ลมแรงจัด ปรับได้ใช้คล่อง ปรับอุณหภูมิ อุ่นๆ ไม่ร้อนมาก เยี่ยมยอดกระเทียมดอง คลองมะขามเฒ่า ของดีเห็นควรซื้อมาใช้ น้องๆถูกใจ"
ตู้เป่าขนแมวปลอดภัยหรือไม่?
การใช้ตู้เป่าขนแมวโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากใช้งานตามคำแนะนำของผู้ผลิตและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
- การควบคุมอุณหภูมิ ตู้เป่าขนแมวที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิจะช่วยป้องกันความร้อนเกิน ซึ่งอาจทำให้ขนแมวเสียหายหรือทำให้แมวรู้สึกไม่สบาย หากตู้เป่าขนแมวไม่มีการควบคุมอุณหภูมิหรือมีอุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ความแรงของลม ควรเลือกตู้ที่สามารถปรับความแรงของลมได้ตามความต้องการของแมว เพื่อไม่ให้ลมแรงเกินไปจนทำให้แมวรู้สึกกลัวหรือไม่สบาย
- การดูแลรักษา การทำความสะอาดตู้เป่าขนแมวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ตู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากการสะสมของฝุ่นหรือเชื้อโรคที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของแมว
- การใช้งานที่เหมาะสม หากใช้ตู้เป่าขนแมวตามเวลาที่เหมาะสมและไม่บ่อยเกินไป จะช่วยป้องกันไม่ให้ขนหรือผิวหนังของแมวแห้งหรือเกิดความเสียหายจากการใช้งานมากเกินไป
- การเลือกผลิตภัณฑ์ เลือกตู้เป่าขนแมวจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ตู้เป่าขนแมวใช้กับแมวทุกพันธุ์ได้หรือไม่?
ตู้เป่าขนแมวสามารถใช้ได้กับแมวทุกพันธุ์ แต่ควรพิจารณาบางปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของขนและพฤติกรรมของแต่ละพันธุ์
- แมวพันธุ์ขนสั้น แมวที่มีขนสั้นสามารถใช้ตู้เป่าขนได้ดี เนื่องจากขนแห้งเร็วและไม่ต้องการการดูแลมากมาย เพียงแค่ใช้เวลาไม่นานในการเป่าขนให้แห้ง
- แมวพันธุ์ขนยาว แมวที่มีขนยาว เช่น แมวเปอร์เซียหรือแมวสฟิงซ์ จะต้องใช้เวลาในการเป่าขนมากขึ้น เนื่องจากขนยาวมักมีความหนาและดูดซับน้ำได้มาก ควรใช้ตู้ที่สามารถปรับความแรงของลมให้เหมาะสมและไม่ทำให้ขนเกิดความเสียหาย
- แมวที่มีขนหนา สำหรับแมวที่มีขนหนาหรือมีหลายชั้น เช่น แมวเมนคูน หรือแมวรัสเซียบลู ควรเลือกตู้เป่าขนที่สามารถเป่าลมได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่รบกวนแมวมากเกินไป เพราะขนหนาอาจทำให้เวลาที่ใช้ในการเป่าขนยาวนาน
- แมวที่ขี้ตกใจหรือกลัวเสียง บางพันธุ์อาจมีลักษณะขี้ตกใจหรือไม่ชอบเสียงดัง การใช้ตู้เป่าขนที่มีเสียงดังอาจทำให้แมวรู้สึกไม่สบายใจ ควรเลือกตู้ที่มีเสียงเบาหรือปรับระดับเสียงได้
- แมวที่เป็นโรคผิวหนังหรือขนร่วง หากแมวมีปัญหาผิวหนังหรือขนร่วง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้ตู้เป่าขน เพราะการใช้เครื่องเป่าลมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหนังหรือขนของแมว
สามารถใช้ตู้เป่าขนแมวทุกวันได้ไหม?
ตู้เป่าขนแมวสามารถใช้ได้ทุกวัน แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังและพิจารณาสภาพขนและผิวหนังของแมว เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำให้ขนแห้งหรือแมวเครียดจากการใช้งานบ่อยเกินไป
- ความถี่ในการใช้งาน แมวบางตัวอาจไม่จำเป็นต้องใช้ตู้เป่าขนทุกวัน โดยเฉพาะแมวที่มีขนสั้นหรือแมวที่ขนแห้งเร็ว ควรใช้เพียงเมื่อจำเป็น เช่น หลังจากการอาบน้ำหรือเมื่อขนแมวมีความชื้นสูง
- ผลกระทบต่อขนและผิวหนัง การใช้ตู้เป่าขนบ่อยเกินไปอาจทำให้ขนและผิวหนังของแมวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะหากใช้ลมร้อนเกินไป จึงควรเลือกใช้เครื่องที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิหรือความแรงของลมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายขนหรือผิวหนัง
- ความเครียด บางแมวอาจไม่ชอบเสียงของตู้เป่าขนหรือการสัมผัสกับลมแรง การใช้งานทุกวันอาจทำให้แมวรู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจ ควรสังเกตพฤติกรรมของแมวและให้เวลาในการปรับตัว
- การดูแลรักษาผิวหนัง แมวที่มีผิวหนังแห้งหรือปัญหาผิวหนังอื่น ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ตู้เป่าขนบ่อยเกินไป ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของแมว
การเป่าขนแมวใช้เวลานานเท่าไรถึงขนแห้ง?
เวลาที่ใช้ในการเป่าขนแมวให้แห้งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของแมว ความยาวและความหนาของขน และความแรงของลมที่ใช้
- แมวขนสั้น ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ขนของแมวขนสั้นแห้งได้เร็วกว่าเนื่องจากขนบางและไม่หนาเท่าไร
- แมวขนยาว ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขนยาวมักดูดซับน้ำได้มากและต้องใช้เวลานานในการเป่าให้แห้ง
- แมวที่มีขนหนา เช่น แมวพันธุ์เมนคูน ใช้เวลานานถึง 30-40 นาที ขนหนาและหลายชั้นจะทำให้การเป่าขนใช้เวลามากขึ้น
ข้อดี ข้อเสีย ตู้เป่าขนแมว
ข้อดีของตู้เป่าขนแมว
- ทำให้ขนแห้งเร็วขึ้น ตู้เป่าขนช่วยให้ขนของแมวแห้งเร็วกว่าแห้งตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในวันที่มีความชื้นหรือหลังการอาบน้ำ
- ไม่ทำให้ขนแมวเสียหาย ตู้เป่าขนที่ออกแบบมาอย่างดีจะช่วยทำให้ขนแห้งโดยไม่ทำให้ขนหักหรือเสียหายเหมือนการเช็ดด้วยผ้าขนหนู
- การควบคุมอุณหภูมิ บางรุ่นมีการควบคุมอุณหภูมิและความแรงของลม ทำให้สามารถปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะสมกับแมวแต่ละตัว
- สะดวกและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการทำให้ขนแมวแห้ง ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าของแมวที่ต้องการความสะดวก
- ช่วยลดการเกิดขนร่วง การเป่าขนด้วยลมที่แรงพอเหมาะจะช่วยลดการเกาะตัวของขนที่หลุดออกและช่วยให้ขนแมวเรียงตัวดีขึ้น
- ช่วยลดกลิ่น บางครั้งการเป่าขนจะช่วยให้ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากขนแมว โดยเฉพาะเมื่อแมวมีการอาบน้ำ
ข้อเสียของตู้เป่าขนแมว
- เสียงดังอาจทำให้แมวเครียด บางรุ่นของตู้เป่าขนแมวอาจมีเสียงดังเกินไป ซึ่งอาจทำให้แมวรู้สึกกลัวหรือเครียด
- อาจทำให้ขนแห้งหรือเสียหาย หากใช้งานไม่ถูกวิธี เช่น การใช้ลมร้อนเกินไป หรือใช้ลมแรงเกินไป อาจทำให้ขนของแมวแห้งหรือเสียหายได้
- ต้องใช้เวลานาน: แมวที่มีขนยาวหรือหนาอาจต้องใช้เวลานานในการเป่า ซึ่งอาจทำให้แมวรู้สึกไม่สบายตัว
- ไม่เหมาะสำหรับแมวที่ขี้ตกใจ แมวที่ขี้ตกใจหรือไม่ชอบเสียงเครื่องจักรอาจไม่ชอบการใช้ตู้เป่าขน และอาจแสดงความไม่สบายตัว
- ต้นทุนสูง ราคาของตู้เป่าขนแมวอาจค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรุ่นที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิและเสียงเบา
- ต้องการการดูแลรักษา หากไม่ทำความสะอาดกรองหรือส่วนต่าง ๆ ของตู้เป่าขนอย่างสม่ำเสมอ เครื่องอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นหรือเชื้อโรค
บทส่งท้าย
เครื่องเป่าขนแมว ในปัจจุบันสำคัญมากสำหรับเหล่าคนที่เลี้ยงแมว ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและฝุ่นเต็มไปหมด ซึ่งเมื่อเราจับน้องแมวเข้าเครื่องเป่าก็สามารถทำให้ขนสวยและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียว แต่เครื่องเป่าขนแมวก็อาจต้องแลกมาด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันเครื่องขัดข้องจนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวได้รับบาดเจ็บน้า