เป็นไอเทมที่ผู้หญิงทุกคนต้องมีไปแล้ว กับ ลิปสติก และแน่นอนว่าบางคนอาจพกติดตัวไปด้วยตลอดทุกที่ ที่ออกไปทำกิจกรรมภายนอก เพื่อแต่งเติมความสวยงามของริมฝีปากในสวยงาม มีออร่าน่ามองอยู่ตลอดเวลา เพราะลิปสติกทำให้หน้าเรามีชีวิตชีวามากขึ้น ดูสดใส อ่อนเยาว์และยังสวยสะดุดตาอีกด้วย แต่การหาลิปสติกคู่ใจซักแท่งก็ต้องเลือกเนื้อสัมผัสที่เขากับผิวของเรา และต้องเป็นลิปสติกที่ดีทีคุณภาพ ซึ่งในปัจจุบันมีลิปสติกหลากหลายยี่ห้อทั่วโลก ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน และลิปสติกที่เป็นกระแสขายดีตลอดกาล หลากหลายยี่ห้ออย่าง ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ ที่เราจะมาแนะนำกันวันนี้ก็ถือเป็นลิปสติกขึ้นหิ้งของสาว ๆ หลายคนแน่นอนค่ะ
บรรณาธิการ
Table of Contents
12 ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี สีสวย ทาแล้วติดทน
สาว ๆ สายลิปเคาน์เตอร์แบรนด์กำมะหยี่บอกเลยต้องห้ามพลาด ลิป Yves Saint Laurent รุ่นนี้เพราะเม็ดสีแน่นมาก กลบสีปากเดิมได้มิดเพียงปาดแค่ครั้งเดียว ซึ่งข้อดีของเนื้อลิปแบบกำมะหยี่ คือเขามีพิกเมนต์สีที่แน่นและชัดเจน แต่ยังคงความนุ่มลื่น บางเบาขณะที่ทาไปด้วย ทั้งยังเรียบเนียน ไม่ตกร่องปากอย่างแน่นอน ใครที่เป็นคนชอบลุคแมตต์แต่ไม่อยากให้ปากแห้งจนเกินไปขอแนะนำเป็นลิป ysl รุ่นนี้เลยนะคะ ตัวแปรงทาเป็นฟองน้ำหุ่มกำมะหยี่ เกลี่ยง่าย แพ็คเกจหรูหราสวยงามมาพร้อมฝาสีดำสนิทเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ YSL อีกด้วย
ปริมาณ: 6 ml
รีวิว : สีสวยมากกกก เนื้อดีตามรีวิวเลยค่ะ ใครกำลังลังเลอยู่อยากให้ไปตำ แพ็คเกจดีงามมาก
มีใครเคยดูซีรีส์เกาหลีเรื่องดังอย่าง Nevertheless บ้างไหมคะ ต้องบอกว่าลิป Charlotte tilbury โด่งดังมาจากนางเอก ยูนาบี ของเรื่องเลยก็ได้ว่า จนสาว ๆ ทั่วโลกแห่ซื้อมาใช้ตาม Sold out ไปหลายสาขามาก ๆ ซึ่งนี่ก็คือ Lipstick counter brand Matte ที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกสีผิว เพราะช่วยบำรุงริมฝีปากของเราจากดอกกล้วยไม้และสารสกัดจาก Tree extract มาพร้อมเม็ดสีสะท้อนแสง ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มนวล เรียบเนียนมากขึ้น ปกปิดได้ดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสาวสายหวาน หรือจะใช้เป็น everyday look ก็ดูดีไม่น่าเบื่อเลยค่ะ
ปริมาณ: 3.5 ml
รีวิว : เนื้อลิปค่อนข้างแห้งนิดนึง แต่ยอมรับว่าสีสวยดูสุขภาพมาก ๆ กลบสีปากได้ค่อนข้างมิดเลยค่ะ
เนื้อลิปเคาน์เตอร์แบรนด์แบบน้ำที่เราจะมาแนะนำวันนี้เป็น ลิป Lancome ได้ลุคเนื้อแมทติดทนได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง แน่นอนว่าเนื้อสัมผัสยังบางเบาราวกับไม่ได้ทา สีสวยเด่นชัดตลอดทั้งวันอย่างแน่นอนค่ะ และที่สำหรับแพ็คเกจสวย หรูหราและดูดีมาก ๆ ตัว Applicator สำหรับทาลิปบนริมฝีปาก ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายสุด ๆ จะทาแบบกลบริมฝีปากมิด หรือจะใช้ทาเป็นทินต์ ได้ลุคออมเบรย์เก๋ ๆ ก็ดูสะดุดตาไปอีกแบบ และถ้าเกิดว่าใครที่เป็นสาวปากแห้งอยากใช้ลิปลุคแมตต์ไม่ตกร่องบอกเลยว่า ลิปแบรนด์รุ่นนี้เอาอยู่แน่นอนเพราะเขามีสารบำรุงช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นอยู่ตลอดด้วยค่ะ
ปริมาณ: 6 ml
รีวิว : เกลี่ยง่ายมากเลยค่ะ ไม่ค่อยติดแมสเลยด้วย เราชอบมาก สามารถทาซ้ำได้ทั้งวันไม่แห้งเลย
แน่นอนว่ายุคสมัยนี้สาว ๆ ต้องใส่แมสอยู่ตลอดเวลา การทาลิปสติกเนื้อแมตต์ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะทำให้ลิปสติกไม่ติดแมส และนี่คือสุดยอดแห่งนวัตกรรม รังสรรค์ลิปสติกเนื้อแมทท์ ที่มีอณูเม็ดสีสดชัดติดทนนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง แถมยังใส่สารบำรุงผิว ให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ยาวนาน 4 ชั่วโมงด้วยกัน บอกเลยว่าเหมาะสำหรับสาว ๆ วัยทำงาน วัยเรียน และสำหรับสาวที่อยากได้ลุคดูอ่อนหวานมีความเป็นผู้ใหญ่ ต้องมี ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์นี้ติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้เลย เพราะว่าเม็ดสีแน่น เนื้อเนียนละเอียด ดูดซับแสงได้ดี ทาที่ไหนก็สวยสะดุดตาแน่นอนค่ะ
ปริมาณ: 6.5 ml
รีวิว : ซื้อมาแท่งนึง เป็นสีที่ใช้ได้บ่อยไม่ฉูดฉาด ใช้ทั้งวันเป็นลิปยี่ห้อแรกที่ใช้จนหมดแท่งเลยค่ะ
มาถึงลิปสำหรับสาว ๆ ปากแห้งกันบ้าง ที่ช่วยบำรุงริมฝีปากแบบจัดเต็มกับส่วรผสมอย่าง Monoi oil ที่มีความเป็นน้ำมัน นั่นก็คือน้ำมันมะพร้าวและดอกเทียร่า คงความชุ่มชื้นให้ปากไม่แห้ง แตก และช่วยทำให้ลิปไม่ตกร่องปากอีกด้วยทั้งยังมี antioxidant สาว ๆ ที่ทาลิปบ่อย ๆ แล้วกลัวว่าปากจะดำ ก็ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์อีกด้วย ใครที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ ลิป Nars ได้เช่นเดียวกัน ในเรื่องของเม็ดสีจะไม่มีความแน่นเท่ากับลิปเนื้อแมตต์ แต่ได้ความวาว ลุคโกลว์สวย ดูสดใสขึ้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะทุกคน
ปริมาณ: 5.5 ml
รีวิว : ลองซื้อมาทา ไม่ค่อยติดทนเลยค่ะ แต่สีสวยจริงว่าไม่ได้ ต้องเติมซ้ำบ่อยมากระหว่างวัน
มาถึงลิปเคาน์เตอร์แบรนด์เนื้อลิควิดลิปไร้น้ำหนัก ด้วยเนื้อวิปครีมกึ่งมูส ช่วยกลบริมฝีปากด้วยสีเม็ดสีชัดพอสมควรและให้การปกปิดในระดับปานกลาง สามารถทาซ้ำเพิ่มระดับการปกปิดได้ ให้ความสบายตลอดทั้งวัน ด้วยสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นทันทีที่ทา พร้อมความยืดหยุ่นรับกับริมฝีปากทั้งวัน ทาแล้วไม่ตกร่อง ไม่จับตัวกันเป็นก้อน พร้อมเคลือบริมฝีปากด้วยความชุ่มชื้นนุ่มฟูยาวนาน และเกลี่ยง่ายมาก ๆ ด้วยแปรงในตัวแบบใหม่สามารถใช้ทาแบบแต้มหรือทาเข้ามุมตามรูปปาก ปลายหัวแปรงใช้เพื่อทาบริเวณรอยหยักของปากโดยไม่เน้นเส้นขอบ ได่หลากหลายฟังก์ชันมาก ๆ เลยค่ะ
ปริมาณ: 5 ml
รีวิว : มีลิปแมคหลายรุ่นมาก ๆ รุ่นนี้ก็มีเนื้อแมตต์แบบแมตต์มาก เราเป็นคนปากไม่ค่อยแห้งเท่าไหร่ ทาครั้งเดียวอยู่ได้เป็นวันเลยค่ะ
อีกหนึ่งเนื้อลิปเคาน์เตอร์แบรนด์เนื้อสัมผัสดีงามและสีเข้มแบบจัดเต็ม แต่ยังคงเนื้อสัมผัสเบาสบาย พร้อมกับมอบสีสันเด่นชัด สามารถปกปิดเนียนแนบสนิทได้อย่างสมบูรณ์แบบแม้ทาเพียงรอบเดียว และสำหรับใครชอบลุคดู shine ขึ้นมานิดนึงบอกเลยว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์มาก เพราะมีประกายที่แวววาวผสาน จะช่วยเติมเต็มเรียวปากให้ดูเย้ายวนมีมิติ ช่วยบำรุงล้ำลึกและเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอยเล็กๆบนริมฝีปาก ทั้งยังมีมีวิตามิน E และ C จะช่วยปกป้องการเกิดริ้วรอยในระยะยาว และมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นยังช่วยบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส
ปริมาณ: 3.8 ml
รีวิว : เราชอบเนื้อสัมผัสมาก ๆ ไม่ทำให้ปากแห้ง และก็ดูไม่วาวจนเกินไปเลย สีมันสวยมาก ๆ ควรเก็บให้ครบทุกสีเลยค่ะ
บอกเลยว่าเป็นลิป เคาน์เตอร์แบรนด์อีกรุ่นที่มีเม็ดสีปริมาณสูงจึงมอบสีที่บริสุทธิ์และโดดเด่นด้วย ลุคแบบแมตต์เปล่งประกายยาวนาน กว่า 12 ชั่วโมง ตัวเนื้อสัมผัสเนียนละเอียด ทาแล้วปากไม่แห้ง ไม่ตกร่องเป็นขุยแน่นอน ถึงแม้จะได้ลุคแบบเนื้อแมตต์แน่เขาก็ยังคงความเบาสบาย ไม่หนักริมฝีปากเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังเป็นรุ่นขายดี กับสีนู้ดฮอตฮิตตลอดกาล ทาง่าย เกลี่ยได้ดี นุ่มลื่นไม่แห้งจนเกินไป และยังยืนยันด้วยว่าตัวเนื้อลิปเมื่อได้ฟินิชลุคออกมาแล้ว สวยมาก ไม่ติดแมส เหมาะสำหรับสาว ๆ ยุคปัจจุบันที่ต้องใส่แมสตลอดวันด้วยค่ะ
ปริมาณ: 6 ml
รีวิว : แพ็คหรูหราตามชื่อแบรนด์ Texture ดีค่ะ ปริมาณค่อนข้างเยอะใช้ได้นานเลย
มาถึงลิปเคาน์แบรนด์ตัวสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ กับลิป Tom Ford สวยหรูดูแพงตั้งแต่แพ็คเกจไปจนถึงเนื้อสัมผัสของลิปสติกกันเลย เนื้อลิปของเขาลุ่มลื่นเกลี่ยง่าย ทาแล้วปากไม่แห้งมีสีให้เลือกเยอะมาก ๆ จะบอกว่าสามารถเลือกซื้อสีลิปจาก Tom ford ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันได้เลย เพราะไม่ว่าจะสีเข้ม หรือสีอ่อนก็สวยดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมาก ๆ เนื้อลิปไม่ตกร่องปาก เบลอริ้วรอยได้เป็นอย่างดีมาก ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ที่สาว ๆ ทุกคนควรมีติดตัวเอาไว้เลยค่ะ
ปริมาณ 3 ml
รีวิว : แพ็คเกจกินขาดมากกกกก ปลอกสวยสุด ๆ ตัวเนื้อลิปก็โอเคเลย ทาแล้วไม่ตกร่อง ไม่แห้ง สีสวย แต่ต้องเติมบ่อย ๆ ระหว่างวัน
ทำไมต้องลิปเคาน์เตอร์แบรนด์
ถามว่าทำไมต้อง lip counter brand คำตอบแรกเลยก็คือ เรื่องของคุณภาพของเนื้อลิปสติก แน่นอนว่าปลอดภัย ได้มาตรฐาน ไม่ทำร้ายริมฝีปากของเราอย่างแน่นอน รวมไปถึงสีสวย ติดทนนานสมราคา และยังมีปริมาณเยอะใช้ได้นาน พกพาสะดวก แพ็คเกจหรูหราน่าพกพา ซึ่งการเลือกลิปสติกคู่ใจทักแท่ง ก็ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้เรามีลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์มาแนะนำ รับรองว่าสีสวย ปลอดภัย คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน แต่มีข้อควรระวังหากใครไม่ได้ซื้อจากช้อปทางการหรือร้านค้าออนไลน์ทางการ ควรสอบถามเจ้าของร้านให้มั่นใจก่อนซื้อทุกครั้ง เพราะหากซื้อมาแล้วปรากฎว่าเป็นของเลียนแบบหลายคนอาจจะเสียความรู้สึกไปได้ เพราะราคาสูง
วิธีการเลือกลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ให้คุ้มค่า
วิธีการเลือกลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ไม่ได้แตกต่างจากการเลือกลิปสติกทั่วไปเลยค่ะ เพียงแค่ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. เนื้อลิปสติก
เนื้อลิปสติกจะมีหลากหลาย Texture ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย หากใครที่เป็นสาวปากแห้งควรใช้เนื้อลิปแบบ Creamy Lipstick, Lip Sheer หรือลิปสติกที่มีส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์ช่วยเติมความชุ่มชื้นเป็นต้น
2. ความเข้มของเม็ดสี
แน่นอนว่าลิปแต่ละประเภทมีความอ่อน ความเข้มไม่เท่ากัน ถ้าเกิดใครที่ชอบลิปสีอ่อน บาง ๆ แนะนำให้ใช้ลิปประเภท Shine Lipstick หรือ Lip gloss สำหรับคนไม่ชอบทาปากสีจัด แต่หากใครที่ปากแห้งมาก ๆ ทาลิป เคาน์เตอร์แบรนด์ ประเภทนี้ อาจทำให้ปากเป็นขุยมากขึ้น
3. เลือกสีที่เหมาะกับผิวของเรา
แน่นอนว่าเราจะต้องมีสีโปรด สีลิปสติกที่ทาแล้วเข้ากับผิวหน้าของเรา ทำให้ผิวหน้าสว่างมากขึ้น และที่สำคัญทำให้เรามั่นใจ กล้าที่จะใช้ชีวิตมากขึ้น ถ้าเกิดมีลิปสติกคู่ใจซักแท่งแล้วจะได้เป็น everyday look ในแต่ละวัน เสริมความมั่นใจได้ทุกวันแน่นอนค่ะ
แนะนำลิปสติกแบรนด์ตามลุค (ทำงาน, หวาน, เที่ยวและปาร์ตี้, วันเบา ๆ)
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังมองหาลิป counter brand คู่ใจ และอยากเลือกลิปสติกคู่ใจให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เราขอแนะนำลิปสติกแบรนด์ตามลุค รับรองว่าถูกใจสาว ๆ แน่นอน
สาว ๆ สายทำงาน
บอกเลยว่าสำหรับสาว ๆ สายทำงานสามารถใช้ยี่ห้อใดก็ได้ เพราะสีที่จะแนะนำส่วนมากเป็นสีนู้ด สีสุภาพ ไม่อ่อนและไม่เข้มจนเกินไป แบรนด์ที่สามารถผลิตสีโทนนี้ออกมาได้สวยสุด ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Charlotte Tilbury, Bobbi Brown
สาว ๆ สายหวาน
เป็นอีกหนึ่งโทนสีที่ต้องมีติดตู้ไว้เลย สำหรับสีหวาน ๆ ทางโทนชมพู ทาแล้วดูเรียบร้อย ไม่จัดจ้านเกินไป และถ้าเกิดว่าเรานึกถึงสาวหวานก็ต้องนึกถึงลิปเคาน์แบรนด์อย่าง Dior, Chanel หรือ Nars
สาว ๆ สายปาร์ตี้
สำหรับสาวแซ่บ ชอบปาร์ตี้ ท่ามกลางแสงสี มักจะต้องใช้ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์สีเข้มเพื่อเพิ่มความโดดเด่นเป็นพิเศษ สีเข้มในที่นี้จะเป็นสีโทนเข้มหรือสีที่มีพิกเมนต์สีเยอะ ๆ อย่างเช่น ลิป Tom Ford, Yves Saint Laurent หรือ Giorgio Armani เป็นต้นค่ะ
วันสบาย ๆ ใช้ได้ everyday look
แนะนำว่าการเลือกลิปที่เราต้องใช้ได้ทุกวันจะต้องเป็นลิปที่มี texture ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก บำรุงปากของเราได้ดีด้วย ซึ่งลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ที่สามารถทาได้ทุกวันเติมความชุ่มชื้นให้ปากเราขอแนะนำเป็น ลิป Lancome, Givenchy หรือ Suqqu
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 12 ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ บอกเลยว่าจุใจมาก ๆ สำหรับใครกำลังมองหาลิปเคาน์เตอร์แบรนด์คู่ใจ ถึงแม้ราคาจะแรงแต่บอกเลยมีแท่งเดียวครบเอาอยู่ทุกสถานการณ์ และการออกไปทำกิจกรรมอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อเป็นลิปดังจากยี่ห้อเหล่านี้ก็ไม่ต้องเป็งกังวลเรื่องความปลอดภัย และความได้มาตรฐานของลิปสติกอีกด้วย เพราะว่าผลิตจากโรงงานชั้นนำมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามการทาลิปสติกบ่อย ๆ ก็อย่าลืมบำรุงริมฝีปากด้วยการทาลิปบำรุง และหมั่นสครับริมฝีปากเป็นประจำด้วยนะคะ