นอกจากความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก หรือเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม การแต่งตัวแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ และสำคัญเช่นกันคือเรื่องของกลิ่น สิ่งการสร้างความประทับใจให้คนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งตนเองก็ควรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละบุคคลซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เรารู้จักกันอย่างแน่นอนนั่นก็คือ “น้ำหอม” และในปัจจุบันมีน้ำหอมหลายรุ่น และหลากหลายแบรนด์มากให้ทุกคนได้เลือก ได้ลองน้ำหอมที่เหมาะกับตัวเองดูและในวันนี้ ไรต์อยากจะแนะนำน้ำหอมแบรนด์หนึ่งที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในทุกคอลเลกชั่น นั่นก็คือ น้ำหอม YSL หรือ YVES SAINT LAURENT นั่นเอง
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 น้ำหอม YSL กลิ่นไหนหอม สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมปี 2024 - รีวิว
น้ำหอม YSL Libre eau de parfum 50ml กลิ่นหอมของอิสรภาพ เป็นกลิ่นหอมที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ใช้ชีวิตตามกฎเกณฑ์ของตนเอง ท็อปโน๊ตเป็นกลิ่นของดอกส้มซิตรัสผสมผสานลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส กลิ่นกลางจะเป็นความเย้ายวนของกลิ่นลาเวนเดอร์ จัสมิน และในส่วนปลายจะผสมผสาน ฐานวนิลา แอมเบอร์กริส น้ำมันซีดาร์ ควบคู่กับมัสค์ที่เข้มข้น ซึ่งกลิ่นข้างต้นจะเหมาะและให้ความรู้สึกดั่งพระอาทิตย์อัสดงแรกในยามเช้า ความกระปรี้กระเปร่า เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับผู้ชายมีความกล้า และรักสงบ แต่ถ้าผู้หญิงที่ชอบกลิ่นแนวนี้ก็จะให้ความรู้สึกที่เซ็กซี่ และมีเสน่ห์
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ใช้แล้วหอมจริง ซื้ออีกแน่นอนค่ะ"
น้ำหอม YSL Mon Paris Couture Eau De Parfum น้ำหอมผู้หญิงกลิ่นหวานในปารีส เมืองแห่งคู่รัก ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรัก ผ่านกลิ่นหอมที่เย้ายวน ใช้แล้วคงให้ความรู้สึกเหมือนกับกลายเป็นสาวน้อย Emily in Paris อย่างไรอย่างนั้น กลิ่นหอมราวกับจุดประกายไฟที่สว่างไสวและความหลงใหลที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้รู้สึกเสพติดกับกลิ่นอยู่ในวังวน ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะเริ่มต้นการผจญภัยไปกับกลิ่นฟลอรัลสุดเร่าร้อน
เปิดฉากด้วยกลิ่นหอมแหลมของผลไม้ จากมะกรูดเอส ลูกแพร์ ราสพ์เบอร์รี่ และความหวานของเนื้อลูกพีช
กลิ่นกลางที่ตามมาคือดอกดาทูร่า ซึ่งเป็นกลิ่นที่ชูความมีเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหา และขึ้นชื่อเรื่องความหอมสะกดใจ ซึ่งผสมผสานกับดอกมะลิ และชูกลิ่นด้วยดอกส้ม และกลิ่นฐานที่ค้ำจุนโครงสร้างทั้งหมดจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากแพทชูลี เย้ายวนยี มัสก์ เร้าอารมณ์ และแคชเมียร์ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ชอบมากที่สุดเลย น้องน่ารัก ขวดหนามาก ๆ"
อีกหนึ่งกลิ่นที่เผยความใกล้ชิดและความเป็นส่วนตัวอย่างนุ่มนวล เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ดูเป็นสาวเฟียร์ส ผู้มีผิวเปลือยเปล่าพร้อมให้สัมผัสแสงตะวันอย่างท้าทาย แสดงถึงความอิสระ เป็นน้ำหอมที่อยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นชายและความเป็นหญิง ให้ความเย้ายวนใจที่สดชื่น สดใส เป็นมิติใหม่ที่น่าอัศจรรย์
Libre Eau De Toilette จากแบรนด์ YVES SAINT LAURENT ถูกบรรจุอยู่ในขวดโลโก้สีทองหรูหรา สะท้อนความเป็นน้ำหอม YSL คอนเซ็ปท์ Burning Freedom และยังคงทำให้ Libre เป็นน้ำหอมที่เป็นดั่งตัวแทนแห่งเสรีภาพอันร้อนแรง ด้วยการผสานกลิ่นชาขาวหอมละมุนที่ให้ความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งเข้ากันกับความหอมสดชื่นของดิวา ลาเวนเดอร์ และความเย้ายวนที่เร่าร้อนของดอกส้ม
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"เริ่มต้นคือตามมาจาก Rose Blackpink แต่พอใช้แล้วก็รักเลย หอมมาก"
เป็นน้ำหอมรุ่นที่ออกตัวอย่างชัดเจนว่า represent Gen Y ว่าเป็นกลุ่มคนที่รักอิสระ ต้องการที่จะค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปเจอและลองด้วยตัวเอง ถ้าเทียบกันกับผู้ชายก็จะไม่ใช่เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งคนใด แต่เป็นเรื่องราวของผู้ชายจากเจเนอเรชั่นที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผู้ชายที่กล้าเดินตามความปรารถนาอันแรงกล้าและบุกเบิกเส้นทางของตนเอง Y Eau De Toilette น้ำหอม YSL ออกรุ่นแรงบันดาลใจจากความพยายามทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ ในขวดรูปทรงเหลี่ยมมีโครงชัดเจนแต่เรียบง่ายแบบมินิมัลลิสต์ เอกลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ มาพร้อมกับกลิ่นหอมที่บ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะตัวของหนุ่ม Y ในหลากแง่มุม ทั้งความสดชื่น มีชีวิตชีวา แต่ก็แอบแรง ดึงดูด น่าค้นหาในตอนกลาง และปิดท้ายด้วยกลิ่นฐาน คือกลิ่นอายแห่งเสรีภาพ ในแนวกลิ่น WHITE & DARK MASCULINE FOUGERE ผสานสองความต่างอย่างลงตัว
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ผู้รับ ชอบมาก กลิ่นหอม"
เปิดตัวด้วยความสดชื่นของน้ำหอม YSL L'HOMME EAU DE TOILETTE ที่ให้ความรู้สึกในบุคคลที่บุคคลิกที่ทันสมัย มีคลาส กับกลิ่นที่เพิ่มความเป็นชายในตัวด้วยแนวกลิ่น woody ambery ซึ่งกลิ่นหอมสดชื่น และกลิ่นวู๊ดดี้ที่เล่นถึงความแตกต่าง และทิ้งร่องรอยของความเย้ายวน เปิดตัวด้วยท็อปโน๊ตอย่างขิง ตามด้วยมะกรูด และมะนาว ซึ่งให้ความรู้สึกสดชื่น สดใส กระปรี้กระเปร่า ร้อนแรงและเปล่งประกาย กลิ่นกลางจะกลิ่นของความเผ็ดในเครื่องเทศต่าง ๆ ซึ่งก็คือ พริกไทยขาว สะระแหน่ ปิดท้ายจาง ๆ ด้วยกลิ่นโครงสร้างอำพันที่ทำจากไม้ ที่จะกลบความสดใสของมะนาวในช่วงแรกและให้ความดูแมนอย่างล้ำลึกแทน
รีวิวจากผู้ใช้จริง: -
เปิดตัวด้วยท็อปโน๊ตอย่างแรกคือผลไม้เลิศรส กลิ่นหอมแหลมของแคร็มเดอกาซี ซึ่งผสานกับความหอมน่าตื่นใจของกลิ่นราสพ์เบอรี่ ดอกฟิวเชีย ดอกโบตั๋นขาว ดอกดาทูร่า ที่ให้ความสดใสของสีชมพู ความมีชีวิตชีวา ในตอนกลางกลิ่นหอมเย้ายวนเปรียบประดุจดอกไม้ช่อใหญ่ ได้แก่ กุหลาบพันธุ์โรซา เซนติโฟเลีย และกุหลาบพันธุ์โรซา ดามัสซีนา สุดท้ายปิดด้วยกลิ่นพิมเสนใบ และแคชมีแรน กลิ่นหอมโปร่งบาง อบอุ่นในแบบไม้หอมและกลิ่นไวท์มัสก์
MON PARIS EAU DE PARFUM INTENSEMENT กลิ่นของความรักที่ทำให้โลกหมุนติ้ว ๆ ๆ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ว่านี่แหละความรัก หอมละมุนละไมราวกับหมู่เมฆต้องแสงตะวันในยามรุ่งสาง ชวนให้นึกถึงความเปล่งประกายสีชมพูดอกฟิวเซีย
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"น้ำหอมกลิ่นนี้หอมถูกใจมากค่ะ :)"
น้ำหอม yves saint laurent Opium Black น้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่เปรียบเสมือนสนามพลัง ชวนให้ลุ่มหลง ดุดัน โดดเด่น ปราดเปรียว ไม่ซ้ำใคร และมีเสน่ห์ ดึงดูดใจให้หลงใหลในทันที ให้ความคลาสสิกและทันสมัยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนแสงสีของเมืองหลวงยามค่ำคืนที่ส่องประกายราวกับเพชร สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกที่ได้กลิ่น เป็นน้ำหอม ysl ที่สร้างมาเพื่อให้เป็นน้ำหอมที่ชวนตื่นตาตื่นใจและเต็มไปด้วยพลัง
กลิ่นแรกเป็นเหมือนกลิ่นเมล็ดกาแฟหอมเตะจมูกอย่างแรง ปลุกเร้าทุกสัมผัส จากนั้นกลิ่นจะนุ่มนวลลงและเป็นผู้หญิงมากขึ้นด้วยดอกมะลิ และดอกส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยความหอมเย้ายวนของวานิลลาและไม้หอมอย่างซีดาร์และพัทชูลี ให้ความรู้สึกถึงความงามสง่า น่าค้นหา และลุ่มลึก
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"หอมมากครับ ติดนานด้วย ฉีดตอนเช้าแล้วตอนเย็นยังหอมอยู่ ยิ่งนาน ยิ่งชอบครับ"
เผยตัวตนอีกด้านที่เย้ายวนอย่างตรงไปตรงมาของผลงานชิ้นเอกน้ำหอม yves saint laurentซึ่งมีความแน่วแน่น้อยกว่าใน Eau de Toilette แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลักษณะกลิ่นที่มั่งคั่งและภูมิฐานปรากฏชัดในทันทีจาก กลิ่นส้มแมนดารินและมะกรูดที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นของมดยอบ (Myrrh) ดอกมะลิ และคาร์เนชั่น แอมเบอร์ไข ผสมผสานอยู่ภายในขวดน้ำหอมสุดชิคที่ได้แรงบันดาลใจจาก Chinoiserie เหมาะอย่างยิ่งต่อผู้หญิงที่มีความสุขุม ลึกลับน่าค้นหาและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ได้แล้วครับ ส่งเร็วถึงไว ของแท้แน่นอน แพ็คอย่างดีไม่มีบุบสลาย คุ้มค่าคุ้มราคา ราคาดีมากๆครับ ถูกใจมากๆ"
น้ำหอม ysl Mon Paris Parfum Floral สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล Mon Paris น้ำหอมแนวกลิ่นฟลอรัล บลูมมิ่ง ชีเพรอ ที่สร้างความปรารถนาในแบบไม่เหมือนใคร ชวนลุ่มหลงและกระตุ้นความสนใจ เป็นกลิ่นที่พาก้าวเข้าสู่ดินแดนต้องห้ามแห่ง “ลามูร์ ฟู” เริ่มต้นกับการผจญภัยไปกับกลิ่นฟลอรัลสุดเร่าร้อน เตรียมพร้อมกับความรักแสนเย้ายวนชวนให้รู้สึกราวกับโลกหมุนกลับหัวที่จะครอบงำจิตใจ
เปิดฉากด้วยกลิ่นหอมแหลมของผลไม้ ที่ประกอบไปด้วยมะกรูด ลูกแพร์ ราสพ์เบอร์รี่ และลูกพีช
ที่กลิ่นกลางของน้ำหอมนี้จะเป็นดอกดาทูร่า ขึ้นชื่อเรื่องความหอมสะกดใจ ผสานกับดอกมะลิ ดอกส้ม ดอกแมคโนเลีย ดอกโบตั๋น ในกลิ่นฐานที่เป็นโครงสร้างทั้งหมดมาจากแพทชูลี มัสก์ และแคชเมียร์
รีวิวจากผู้ใช้จริง: -
เผยโฉมตัวด้วยกลิ่นลูกเล่นผู้หญิง ความมีพลังหุนหันพลันแล่น และติดความสนุกสนานกับ Black Opium Eau de Toilette สนุกกับการลองประสบการณ์ใหม่ ๆ ราวกับกับหญิงสาวที่กำลังสนุกอยู่ในปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ท็อปโน๊ตด้วยแบล็คคอฟฟี่แอคคอร์ด กลิ่นกลางของดอกส้ม และปิดท้ายด้วยโน๊ตฐานของพิมเสนไม้สน ที่เปรียบดังการใช้ชีวิตในช่วงเวลานั้น มักจะมีการแสวงหาสิ่งที่ไม่คาดฝันอยู่เสมอ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ความคุ้มค่าดีมาก คุณภาพของสินค้าดีมาก"
ประวัติ YVES SAINT LAURENT
แบรนด์ YSL มีต้นกำเนิดมาจาก Yves Henri Donat Mathieu-Saint-Laurent (อีฟว์ อ็องรี ดอนา มาตีเยอ-แซ็ง-โลร็อง) โลร็องได้ส่งผลงานในโครงการ Young Fashion Designers และในรอบนี้คว้า “รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง” และได้นำผลงานไปให้ Brunhoff (บรรณาธิการของ นิตยสารชื่อดัง Vogue ฉบับฝรั่งเศส) ดูทำให้เขาตะลึงในผลงานว่าคล้ายคลึงกับ Dior ให้ทางแบรนด์ดู และดันไปเข้าตาดีไซน์เนอร์ชื่อดังและยิ่งใหญ่ในยุคนั้นซึ่งนั่นคือ Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์ ) แต่แล้วเขาก็ต้องประสบปัญหาภาวะตึงเครียดอย่างหนักทางจิตใจจากความกดดัน ทำให้เขาต้องได้เข้ารับการรักษาด้วยการบำบัดสภาพจิตใจในโรงบาลของกองทัพ ซึ่งเขาถูกบำบัดด้วยยาจนถึงขั้นการช็อตไฟฟ้า
เมื่อในปี ค.ศ. 1960 โลร็องก็ได้รับการปล่อยตัวจากสถานบำบัด และได้ทำการฟ้องร้องเรียนค่าเสียหายจากห้องเสื้อดิออร์ในเรื่องการละเมิดสัญญาการว่าจ้างงานและผลคือ โลร็องชนะคดี หลังจากนั้นโลร็องก็ได้พบรักกับปิแยร์ แบรก์แซ่ และทั้งสองคนจึงได้ทำการเริ่มต้นธุรกิจห้องเสื้อของตัวเองในนาม Yves Saint Laurent โดยเขาได้รับเงินสนับสนุนในการทำธุรกิจนี้จากมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เจ. มิค โรบินสัน (J. Mick Robidson) และถึงแม้ต่อมาโลร็องและปิแยร์จะเลิกรากันไป แต่ทั้งสองยังคงเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกันเหมือนเดิม
ในส่วนผลงานชิ้นสำคัญของเขานั่นก็คือ Le Smoking (ค.ศ. 1996) ชุดทักซิโดสูทเข้ารูปของคุณสุภาพสตรี ที่ดีไซน์ออกมาแบบ เฟมินิสต์ เป็นผลงานที่ดึงดูดและความสนใจในโลกของวงการแฟชั่นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงแม้กระทั่งวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นสไตล์ที่บุกเบิก สื่อถึงการแต่งกายไร้เพศ แต่สง่างามสำหรับสตรี ที่เป็นแบบเดียวกับชุด Power Suits และ Pantsuit ของปัจจุบัน
และไม่ว่าจะตั้งแต่ก่อนยุคสมัย จนปัจจุบัน YSL ก็จะรังสรรค์ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมถึงน้ำหอมที่มีความเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยน้ำหอม YSL ได้รังสรรค์กลิ่นที่มีความหลากหลาย ทั้งให้ความรู้สึกหอมนุ่มนวลอ่อนหวานไปจนถึงกลิ่นที่แสดงถึงความมั่นใจและเป็นอิสระ ถึงแม้ตัวสินค้าจะมีเพศแบ่งไว้ แต่ทว่าความต้องการของการสวมใส่และการใช้งานไม่มีข้อจำกัด ซึ่งทางแบรนด์ก็เห็นถึงจุดนี้ จึงทำให้เอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ที่ยังคงเป็นของตัวเอง จะหยิบจับสินค้าของเพศอื่น ๆ มาใส่ก็ได้เสมอมา
วิธีใช้น้ำหอมให้ติดทนนาน
ทุกคนคงเคยได้ยินวิธีทำให้น้ำหอมติดทนกับเรานานที่สุดใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกวิธีที่จะเหมาะสมกับเราที่สุด ดังนั้นไรเตอร์จึงมี 4 วิธีให้ทุกคนลองนำไปใช้ เผื่อจะพบวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
- ทาวาสลีนบนผิวก่อนฉีดน้ำหอม ได้ยินมาหนาหูมากบ้างคนลองแล้วก็ดี บางคนลองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นทางที่ใช่ แต่จะบอกว่าทางนี้เป็นทางที่ดีที่สุดและเห็นผลสำหรับคนอื่น ๆ ในเปอร์เซ็นที่สูงมาก ๆ ค่ะ เพราะว่า วาสลีนเป็นตัวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างยาวนานค่ะ ดังนั้นหากทาวาสลีนที่ข้อมือ ข้อพับต่าง ๆ ก่อน และฉีดน้ำหอมคู่ใจทับลงไป จะช่วยให้น้ำหอมติดทนขึ้นได้ค่ะ
- ทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หากต้องการให้น้ำหอมติดทนนาน ก็แนะนำให้ทาโลชั่นลงบนผิวกายหรือจุดต่าง ๆ บนร่างกายก่อนฉีดน้ำหอม ซึ่งจะคล้าย ๆ กับการทาวาสลีนค่ะ แต่ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโลชั่นที่ใช้ด้วยนะคะ ควรจะเลือกโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นเพราะไม่อย่างนั้น กลิ่นของโลชั่นจะไปกลบทับ หรือจะไปผสมกับกลิ่นน้ำหอมคู่ใจของเราให้เป็นกลิ่นอื่นแทนค่ะ
- ฉีดน้ำหอมหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพราะหลังจากการอาบน้ำผิวหนังของเราจะมีความชื้น ทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า ดังนั้นหากอาบน้ำก่อนนอนแล้วฉีดน้ำหอมลงไปบนผิวกาย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้ำหอมนั้นติดทนยาวนานขึ้น และได้กลิ่นน้ำหอมที่คงเดิม ไม่ผิดเพี้ยน
- ฉีดตามจุดชีพจรของร่างกาย ฉีดหรือแต้มน้ำหอมตรงจุดชีพจรต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ข้อมือ, ข้อพับแขน, ข้อพับขา หรือบริเวณซอกคอใต้ใบหู แต่อย่าถูเพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีและจะทำลายโมเลกุลของน้ำหอม ทำให้กลิ่นจางหายเร็วขึ้น และที่แนะนำให้ฉีดบริเวณชีพจรของร่างกายเป็นเพราะจุดชีพจรของร่างกายจะเป็นจุดที่เลือดไหลเวียน ซึ่งจะช่วยดูดซับกลิ่นหอมเอาไว้ใต้ผิวหนัง ช่วยให้กลิ่นติดและหอมฟุ้งกระจายอย่างยาวนาน
แต่อย่างไรก็ตามน้ำหอมสำหรับบางคนฉีดแล้วอยู่ได้ทั้งวัน แต่พอมาใช้กับเราแล้วอยู่ไม่ถึงชั่วโมงก็เป็นไปได้ ดังนั้นลองเลือก ลองใช้น้ำหอมที่เคมีเข้ากับกับผิวเราเพื่อการติดทนของน้ำหอมจะดีที่สุดนะคะ
เลือกน้ำหอมยังไงให้เหมาะกับตัวเอง
การแนะนำข้อนี้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะน้ำหอมคือรสนิยมอย่างหนึ่งของเรา เหมือนกับการใส่เสื้อผ้านั่นแหละค่ะ ถ้าคุณเป็นสาวหวานแต่ให้แต่งตัวแนวพังค์คุณก็จะไม่มั่นใจไม่กล้าออกจากบ้าน เช่นเดียวกันกับการออกเดตครั้งแรกถึงแม้ว่าคุณจะรู้ว่าคู่เดตคุณเป็นสาวเปรี้ยวซ่า แต่คุณเป็นผู้ชายสุขุม อ่อนโยนแต่ต้องใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดต้อนรับซัมเมอร์เพื่อให้โดนในสาวคนนั้นแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกไม่มั่นใจในการไปออกเดตใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นมั่นใจในรสนิยม ความชอบของตัวเองค่ะ
- ทดลอง ทดสอบกลิ่นน้ำหอมที่ถูกต้องที่เหมาะสมสำหรับเราก่อนตัดสินใจซื้อ
- ดูที่ความเข้มข้นของน้ำหอมเพื่อการติดทน ยาวนานบนผิวของเรา
- ดูบุคลิกนิสัยว่าเป็นคนใช้ชีวิตในตอนกลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน เพราะช่วงเวลาการใช้น้ำหอมก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
- สำคัญที่สุด เลือกกลิ่นของน้ำหอมที่เข้ากันกับบุคลิกของเรา และเราชอบที่สุด
บทส่งท้าย
รับประกันเลยว่าไม่มีตัวไหนที่ไม่โดนตก เพราะน้ำหอมของ YSL เขาเด่นเรื่องการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ ไหนใครโดนตัวไหน หรือมีตัวไหนแล้วอยากลองอีกรุ่นนึงก็อย่าลืมกดเข้าไปตำกันนะคะ เพราะได้ข่าวมาว่าบางรุ่นที่เป็นรุ่นคลาสสิค หรือรุ่นวินเทจ ก็เริ่มผลิตน้อยลง หรือจะไม่ผลิตแล้วนะคะ ถ้าไม่อยากพลาดความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการสร้างความประทับใจที่ไม่รู้ลืมก็อย่าพลาดที่จะจับจองกันเป็นเจ้าของกันนะ