15 อาหารแมว ยี่ห้อไหนดี บำรุงครบ ไม่เค็ม ดีต่อสุขภาพ ปี 2024

วิธีคำนวณเบื้องต้นและทุกคนสามารถทำได้ คือ ดูข้างบรรจุภัณฑ์ของยี่ห้อนั้นเป็นหลัก แม้ว่าบางทีเราจะเห็นว่าปริมาณอาหารที่เราให้น้องมันดูน้อย แต่อาหารแมวแต่ละเม็ดจะอัดแน่นไว้ด้วยสารอาหารแล้ว การที่ให้กินกว่าที่ข้างถุงแนะนำบ่อย ๆ น้ำหนักตัวน้องก็สามารถดีดขึ้นมาได้

และปกติแมวจะเป็นสัตว์เล็มกิน หากไม่มีเวลาอาจจะเททิ้งไว้ตามปริมาณอาหารที่น้องต้องการต่อวันได้เลย แมวบางตัวก็จะวนกลับไปกินได้เรื่อย ๆ แต่บางตัวชอบกินมื้อ ก็จะต้องจัดสรรให้เหมาะอีกที และบางยี่ห้อก็มีเว็บให้คำนวณปริมาณอาหารให้แล้ว สามารถเข้าไปใช้ได้ แต่อีกทางเลือกก็สามารถเข้ามาปรึกษาเรื่องโภชนาการของแมวกับสัตวแพทย์

หากแบ่งให้ครอบคลุมเลย จะแบ่งได้ประมาณ 3 -4 เกรดใหญ่ ๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุดิบ ราคา หรือส่วนผสมต่าง ๆ เช่น เกรดแรกคือ Economy grade หรือเกรดมาตรฐาน ทั่วไปที่หาซื้อได้ง่าย พบได้ตามท้องตลาด ราคาไม่ได้สูงมาก ซึ่งเกรด ecomomy หรือเกรดมาตรฐานวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็นผลพลอยได้จากสัตว์ต่าง ๆ เศษกระดูกไก่ เศษเครื่องใน ไม่ได้เป็นเนื้อสัตว์ล้วนๆรวมถึงมีส่วนผสมของธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวโพด, ข้าวสาลี, ถั่วเหลือง เป็นต้น ซึ่งอาหารเกรดนี้โดยมากจะมีการเพิ่มสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ สารแต่งกลิ่น-รส สารให้สี ลงไปเพื่อเพิ่มให้อาหารมีคุณภาพและความน่ารับประทานมากขึ้น

เขยิบขึ้นมาจะเป็นเกรดที่ดีขึ้นมาหน่อย (เกรดพรีเมี่ยม) ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงกว่าเกรดมาตรฐานขึ้นมาทำให้มีราคาที่สูงมากขึ้น แต่ยังอาจมีธัญพืชและผลพลอยได้จากสัตว์มาใช้เป็นส่วนผสมอยู่บ้าง ในเกรดนี้บางยี่ห้ออาจเริ่มมีการแบ่งสูตรเฉพาะลงไป เช่น อาหารแมวสูตรบำรุงขน สูตรกำจัดก้อนขน หรือสำหรับแมวเลี้ยงระบบปิด หรือรวมไปถึงสูตรที่มีไว้เพื่อป้องกันโรคแต่ไม่ได้รักษาโรค ส่วนเกรดที่ 3 คือเกรด Holistic ซึ่งวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ เช่น เนื้อสัตว์ จะเป็นเกรดเดียวกับที่คนรับประทานเลย มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ไร้สารเคมี ไม่มีวัตถุกันเสีย และมีสัดส่วนของส่วนผสม เช่น กรดอะมิโน ไขมันดี วิตามิน น้ำมันตับปลา แร่ธาตุ โพรไบโอติกส์ ที่คัดสรรมาให้เหมาะสมกับความต้องกาารของสัตว์โดยเฉพาะ ทำให้อาหารเกรดนี้จะมีราคาที่สูง

ส่วนเกรดที่ 4 คือ Grain-free ที่จะไม่มีธัญพืชปน ใช้ถั่วและมันฝรั่งเป็นหลัก เพื่อป้องกันปัญหาด้านการย่อย แพ้อาหาร

ซึ่งการเลือกอาหารให้แมวนั้นสิ่งที่ควรดูอาจจะไม่ใช่เรื่องเกรดของอาหารเสมอไป สารอาหารในแต่ละสูตรเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรจะอยู่ในสัดส่วนที่แมวของเราต้องการ รวมถึงปัจจัยเรื่องทุนทรัพย์ของผู้เลี้ยงก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณาเลือกชนิดของอาหาร

อาหารแมวเด็กและอาหารแมวโต สิ่งที่แตกต่างกันคือในเรื่องของปริมาณโปรตีน เพราะโปรตีนเป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับแมวเด็ก อาหารแมวเด็กโดยส่วนใหญ่แทบจะทุกสูตรคือมีปริมาณโปรตีนสูงตั้งแต่ 30% ขึ้นไปเลย แต่เมื่อเป็นแมวโต ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายแมวต้องการจะไม่ได้สูงเหมือนตอนเขาเป็นเด็กแล้ว ดังนั้นถ้าลูกแมวที่อยู่ในวัยกำลังต้องการโปรตีนแล้วมากินสูตรของแมวโตที่โปรตีนอาจจะไม่ถึงที่เขาต้องการ น้องแมวก็อาจจะโตไม่เต็มที่ได้ แทนที่จะโตสมวัยก็อาจจะแคระ แกรน รูปร่างไม่สมส่วน หรือขนไม่สวยได้ 

แนะนำว่าควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัย และสายพันธุ์ของแมวแต่ละตัวจะดีกว่า เพื่อให้ได้รับปริมาณสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสำหรับการเจริญเติบโต ทั้งนี้ในเรื่องของขนาดเม็ดอาหารแมวก็สามารถมีผลต่อน้องแมวเด็กได้เช่นกัน ถ้าเม็ดเล็ก น้องแมวจะทานได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเม็ดใหญ่ก็อาจจะใช้เวลานานมากขึ้นในการเคี้ยว จนบางทีเมื่อน้องกินไม่ถนัด ก็สามารถทำให้ทานอาหารได้น้อยลงด้วยได้

ถ้ามองแบบภาพรวมคร่าว ๆ อาหารแมวแบบแห้งจะมีโซเดียมที่ค่อนข้างสูงกว่าแบบเปียก ซึ่งโซเดียมที่มาในรูปแบบของอาหารแมวแบบแห้งจะแฝงมากับสารปรุงแต่งรส สารกันเสีย เพื่อคงความกรอบ น่ารับประทานและยืดอายุการเก็บรักษา จึงทำให้ปริมาณโซเดียมในอาหารเม็ดสูงกว่าเล็กน้อย แต่หากจะเทียบว่ามากน้อยต่างกันอย่างไรก็ต้องดูไปทีละอย่าง ซึ่งบางทีก็ขึ้นอยู่กับสูตรอาหารและยี่ห้อด้วย ที่บางทีเราอาจจะเลือกเทียบจากเกรดอาหารแมวในยี่ห้อเดียวกันก็ได้

ซึ่งการจะซื้ออาหารแบบแห้งหรือเปียกให้แมวนั้น ต้องมองที่ความชอบของแมวด้วย เพราะแมวบางตัวชอบความกรุบกรอบก็อาจจะเลือกเป็นแบบเม็ดให้เขา บางตัวชอบความนิ่มควรเลือกเป็นอาหารแมวเปียกให้แทน แต่โดยพื้นฐานอาหารแมวแบบเปียกจะมีความน่ารับประทานมากกว่าแบบแห้ง จะให้ความรู้สึกเหมือนทานขนมแมว มีกลิ่น มีรสที่น่าดึงดูด

ปัจจัยในการเกิดโรคไตในแมวสามารถมีสาเหตุได้มากมาย โดยมากโรคไตมักจะเป็นสัญญาณของความเสื่อมที่มาตามอายุ แต่ในบางรายสามารถเกิดโรคไตวายแบบเฉียบพลันได้เช่นกันจากหลายๆปัจจัย อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตในแมวได้

โดยเราสามารถป้องกันโรคไตในแมวได้จากการเลือกอาหารที่มีคุณภาพดี ถ้าอาหารมีคุณภาพที่ดี ไตของแมวก็จะไม่ต้องทำงานหนักมากในการขับของเสียออกจากร่างกาย โดยการเลือกอาหารแมวให้มีสัดส่วนสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่พอดี จะช่วยชะลอความเสื่อมของไตแมวได้

การที่ให้แมวกินอาหารคน แม้ว่าเราจะมองว่าไม่เค็ม แมวกินได้ แต่จริง ๆ แล้วหมาแมวไม่ได้มีต่อมรับรสเหมือนกันกับคน แต่พอไปอยู่ในร่างกายของแมว สัดส่วนของแร่ธาตุและสารอาหารบางชนิดที่ได้รับอาจจะไม่เหมาะสมได้ และสามารถส่งผลต่อไตได้ เช่นเดียวกับกับขนมแมวเลียซึ่งใครที่อยากจะให้น้องแมวกินขนมแมวเลีย ก็สามารถให้ได้แต่ไม่ควรบ่อยเกินไป ควรให้เพียง 1-2 ซองต่อสัปดาห์ก็ถือว่าเพียงพอ 

และเรื่องน้ำดื่มก็สามารถช่วยชะลอการเกิดโรคไตได้ เมื่อได้รับน้ำเพียงพอ จะช่วยลดความเข้มข้นของของเสียในเลือดและรักษาสมดุลของแร่ธาตุ ทำให้ไตทำงานเบาลงในการกรองของเสียเหล่านั้นการป้องกันโรคที่ดีที่สุดอีกทาง คือ พาแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพราะแม้ว่าบางตัวจะมีการดูแลทั้งเรื่องอาหารและความเป็นอยู่อย่างดี แต่นั่นก็ไม่ได้การันตีว่าแมวจะไม่เป็นโรค เพราะแมวบางตัวอาจเริ่มมีปัญหาในการทำงานของไตแฝงอยู่โดยไม่แสดงอาการ หรืออาจมีโรคอื่นๆ ที่โน้มนำให้เกิดปัญหาไตตามมาได้ในอนาคต เช่น โรคที่เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ หรือโรคหัวใจ เป็นต้น

สำหรับแมวที่มีน้ำหนักเกิน ส่วนใหญ่จะนับโดยเทียบว่าหากเกิน 10-20% ของน้ำหนักตัวมาตรฐานของแต่ละสายพันธุ์ก็จะเรียกว่าน้ำหนักเกิน หรือน้องอ้วน และสิ่งที่แนะนำให้ดูคือ body condition score โดยบางที่จะใช้คะแนน 1-6 หรือ 1-9 โดยพิจารณาจากหุ่นของน้องแมวเป็นหลัก ดูง่ายๆโดยจับตรงบริเวณซี่โครงเจอกล้ามเนื้อไหม ติดพุงหรือเปล่า เนื้อส่วนสะโพกเป็นอย่างไร โดยมากหากคะแนน body condiotion score เกิน 7/9 จะเริ่มเข้าสู่ช่วงอ้วนแล้ว

ซึ่งการปรับพฤติกรรม จัดสัดส่วนอาหารให้พอดี ก็ช่วยควบคุมน้ำหนักน้องแมวได้ เช่น หากแมวที่เลี้ยงแบบปิด หรือไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ควรให้อาหารแมวแต่พอดี เท่าที่ร่างกายแมวต้องการ ไม่ควรเกินหรือน้อยจนเกินไป ทางออกที่ดีในการจัดการโภชนาการของสัตว์ คือ มาปรึกษาสัตวแพทย์ เพราะทางหมอจะมีการคำนวณปริมาณสารอาหารให้เหมาะกับช่วงวัยและน้ำหนักตัวของแมวได้ แต่โดยมากเราสามารถดูปริมาณอาหารที่เหมาะจะให้น้องแมวเราได้ที่ข้างถุงอาหารแมวแต่ละยี่ห้อ แต่ละสูตรได้เลย หากอยากให้แมวเรามีน้ำหนักตัวเท่าไหร่ก็ควรจัดอาหารให้น้องตามที่ข้างถุงแนะนำได้ ทั้งนี้ต้องมาดูภาพรวมต่อวันด้วยว่าเราแบ่งมื้ออาหารให้แมวอย่างไร เพราะส่วนนี้จะมีผลในการแบ่งปริมาณอาหารที่น้องต้องการ

หรือถ้าใครอยากให้อาหารแมวที่เป็นสูตรสำหรับแมวลด/ควบคุมน้ำหนักโดยเฉพาะก็ทำได้ เพราะสูตรแบบนี้จะออกแบบมาให้พลังงานที่เหมาะสม หรืออาจมีส่วนประกอบที่ช่วยทำให้แมวอิ่มท้องได้นาน ทั้งนี้เจ้าของแมวต้องใจแข็งในการกำหนดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อด้วย เพราะว่าถ้าใจอ่อน เราก็อาจจะเผลอให้อาหารเกินกว่าที่น้องต้องการ และสิ่งที่ควรระวังอาจจะไม่ใช่ในอาหารหลักของแมว แต่เป็นขนมแมวเสียมากกว่า

ส่วนนึงที่ทำให้อาหารแมวมีราคาแพง คือ เรื่องของต้นทุนของวัตถุดิบที่ใช้ เกรดอาหาร ที่มาของอาหาร ยิ่งมีต้นทุนสูง หรือคุณภาพโดยรวมสูง ราคาก็จะแพงขึ้น หรืออาจจะแพงเพราะยี่ห้อมีการวิจัยคุณภาพมาก่อนด้วย ทั้งนี้เทคโนโลยีการผลิตก็จะถูกคิดรวมด้วยซึ่งก็เป็นอีก 1 เรื่องที่ทำให้ราคาดีดขึ้น หรือบางแบรนด์มีการเพิ่มสารอาหารพิเศษเช่น โพรไบโอติกส์ หรือล่าสุดที่เป็นเทรนด์ในเรื่องของ Superfood ก็มาแรงเช่นกัน

โดยพฤติกรรมแล้ว แมวเป็นสัตว์ที่กินน้ำน้อยอยู่แล้ว เพราะเหมือนมีความเชื่อว่าบรรพบุรุษของแมวมาจากที่ ๆ แห้งแล้ง ทำให้ถูกถ่ายทอดมา ทำให้พฤติกรรมยังอยู่ แต่ถ้าน้องแมวตัวไหนทานน้ำน้อยจริง ๆ ก็อาจจะผสมน้ำเข้าไปในอาหารแห้งด้วยได้ หรือเลือกเป็นอาหารแมวเปียกแทนด้วยได้ ทั้งนี้เรายังสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้น้ำโดยการทำให้น้ำมีการเคลื่อนไหว จะชวนให้แมวอยากกินเพิ่มขึ้นได้ แต่สิ่งเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับนิสัยแมวเรา ต้องหมั่นสังเกตแมวประจำ บางทีเรื่องตำแหน่งก็มีผล บางตัวชอบน้ำเย็นก็เป็นได้ หรือบางทีก็ชอบกินน้ำกรองแทนน้ำก๊อกก็ได้ ต้องลองหาไปเรื่อย ๆ

โดยมากแล้วแมวส่วนใหญ่จะชอบแพ้โปรตีน เช่น เนื้อไก่ วัว ปลาด้วยบางที โดยมากที่จะแพ้บ่อยเลยก็จะเป็นกลุ่มอาหารที่ให้สารอาหารเป็นโปรตีน แต่อาจจะเจอการแพ้ธัญพืชได้บ้าง และอาหารแมวที่เป็นสูตรที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นปลาจะมีราคาสูงกว่าเนื้อสัตว์บก เนื่องจากกระบวนการและขั้นตอนในการผลิตที่ซับซ้อนกว่า

ซึ่งเคสส่วนใหญ่ที่เจอว่าแมวแพ้ จะเป็นการแพ้ที่เกิดจากการแพ้ไก่เป็นหลัก เนื่องจากไก่เป็นส่วนประกอบหลักในอาหารแมวหลายยี่ห้อ รวมถึงโมเลกุลโปรตีนของไก่เองมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้กระตุ้นการแพ้ได้บ่อยกว่า และนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแมวไม่แพ้เนื้อชนิดอื่นเช่นกันทางเลือกอีกแบบที่เหมาะสมสำหรับน้องแมวที่สงสัยภาวะแพ้อาหาร คือ การให้อาหารแมวที่มีโปรตีนไฮโดรไลซ์  ซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกออกแบบมาให้มีอนุภาคที่เล็กลง ลดความเสี่ยงในการกระตุ้นการแพ้ของร่างกายได้ดี

โรคที่พบได้บ่อยในแมว คือ โรคไต ส่วนนึงก็จะมีอาหารมาหนึ่งในเป็นสาเหตุหลัก น้ำที่กินน้อยลง อายุ กินสารพิษ เพราะไตทำหน้าที่หลักในการกรองของเสียและปรับสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย หากมีสิ่งกระตุ้นเรื่อย ๆ สามารถทำให้ไตทำงานหนักและประสิทธิภาพน้อยลงได้

ต่อมาเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ ซึ่งตัวกระตุ้นจะเกี่ยวกับการทานน้ำ ความเครียด พบการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและตรงนี้ต้องทำความเข้าใจว่าปัสสาวะของแมวจะมีสภาวะเป็นด่าง เมื่อค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนาน ๆ ไม่ได้ฉี่ออก ต่อไปก็จะทำให้เกิดการอักเสบ กระตุ้นการเกิดนิ่วได้อีก

ถัดมาจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แมวไอ แมวจาม หอบหืดในแมว และยิ่งมีปัญหาเรื่องฝุ่น เช่น ช่วงที่ PM2.5 เยอะ ๆ แมวก็สามารถมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ไม่ต่างจากมนุษย์ เพราะพอสูดดมเข้าไปเยอะ ๆ ก็จะไปกระตุ้นการอักเสบข้างในได้

และโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เป็นเชื้อราก็สามารถเจอได้ในแมวได้บ่อย

ส่วนเรื่องของหัวใจจะเป็นโรคที่ข้องเกี่ยวกับสายพันธุ์

โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นกับแมว แต่ละช่วงวัยความต้องการของโปรตีนไม่ได้เท่ากัน ต้องดูเรื่องปริมาณสารอาหารของน้องไปตามวัย และแมวป่วยต้องการโปรตีนเยอะขึ้นมาหน่อยเพราะว่าจะได้ช่วยซ่อมแซมการอักเสบทั้งระบบกล้ามเนื้อ ภูมิคุ้มกัน ดูแลเรื่องขน เป็นต้น

แต่หากแมวเป็นโรคไต โปรตีนอาจจะต้องควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ไตสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการที่ควรพาไปพบสัตวแพทย์เลยก็คือกินแล้วท้องเสีย ถ่ายไม่หยุด มีอาการปวดเบ่ง หรือกินแล้วมีอาการอาเจียน ถ่ายเป็นเลือด โดยมากมักเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังเปลี่ยนยี่ห้ออาหารแบบกะทันหัน หรือมีการติดเชื้อในทางเดินอาหาร หรือถ้าไม่มีอาการข้างบนที่กล่าวมา แต่พบว่าทานอาหารได้ปกติแต่น้องแมวน้ำหนักลงต่อเนื่อง ก็ควรพาไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ นอกจากเรื่องที่ถ่ายไม่ปกติ เหลว มีเลือดปน มีมูก หรือมีผิวหนังที่แปลกไป มีตุ่มที่ไม่เคยเป็น หรือผิวหนังรอบปากเกิดการอักเสบ เจอแบบนี้ควรให้พาน้องแมวไปพบแพทย์เลยจะดีกว่า หากเจ้าของอยากลองเปลี่ยนยี่ห้อหรือสูตรอาหารแมวใหม่ให้แมว ควรปรับไปทีละน้อยจะดีกว่า โดยค่อย ๆ ผสมไปกับอาหารเก่า หลังจากนั้นค่อยเพิ่มสัดส่วนของอาหารใหม่ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้องจะชินและปรับตัวได้ถึงค่อยเปลี่ยนไปให้สูตร/ยี่ห้อใหม่ทั้งหมด

หากเป็นในระยะแรกและเกิดจากการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน หรือลำไส้เสียสมดุล แนะนำให้ทานอาหารแมวสูตรเดิมที่เคยให้ไปก่อน แต่ถ้าอาการแมวถ่ายเป็นเลือดเรื้อรัง มีอาการเรื้อรัง เป็นอาทิตย์ มีการติดเชื้อในลำไส้ที่รุนแรง แนะนำให้เปลี่ยนเป็นสูตรอาหารแมวรักษาโรคที่เหมาะสมกับแมวที่มีปัญหาลำไส้โดยเฉพาะแทน ทั้งนี้ต้องมาตรวจเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าสาเหตุนั้นมาจากอาหารที่เปลี่ยนกะทันหันหรือเป็นจากเหตุอื่นที่ไม่ได้มาจากอาหาร

และถ้ามีการพบหมอและมีการให้ยา อาการถ่ายเป็นเลือดควรจะดีขึ้นใน 2-3 วัน แต่หากไม่ดีขึ้นควรมาพบแพทย์อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่ตรงจุดอีกที

และสิ่งที่ต้องระวังเมื่อน้องมีปัญหาการถ่ายที่ผิดปกติ หรือเป็นเรื้อรัง สิ่งหนึ่งที่พึงระวังคือแมวจะมีการขาดสารอาหาร จนทำให้ผอมลงกว่าปกติ และหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องร่วมด้วย หรือรักษาแล้วแต่ยังไม่หายสักที พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะให้ลำไส้อักเสบจนถึงขั้นไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้ในอนาคต

หลัก ๆ ควรดูที่ความต้องการของแมวเราเป็นหลัก หรือเราต้องการเสริมอะไรให้น้องแมวเรา เช่น อยากเสริมเรื่องผิวและขน ก็อาจจะต้องเลือกสูตรที่มีการเสริมบำรุงวิตามิน หรือหากเป็นแมวพันธุ์ใหญ่และเราอยากดูแลเรื่องข้อต่อและกระดูก ก็อาจจะต้องเลือกสูตรที่เสริมเรื่องนี้ให้น้อง แมวพันธุ์ขนยาวอาจจะต้องดูสูตรอาหารแมวที่ช่วยเรื่อง hair ball หรือจะเลือกเป็นสูตรเฉพาะที่ทำมาเพื่อแมวแต่ละสายพันธุ์ก็ได้

ข้อสอง คือ เรื่องของส่วนผสม ควรตรวจสอบว่าอาหารสูตรที่เลือกมานั้นมีสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของแมวหรือไม่ ต้องดูฉลากเพื่อพิจารณา เช่น ปริมาณเนื้อไก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี ไขมัน เป็นต้น โปรตีนควรเป็นสิ่งแรกที่เยอะที่สุดหรือมาก่อน

และอีกสิ่งสำคัญคือต้องดูวันหมดอายุด้วยว่าช้าเร็วอย่างไรเพื่อที่เราจะได้จัดการอาหารได้อย่างเหมาะสม

อาหารแมวที่เลือกซื้อก็ควรมีการรับรองมาตรฐาน และมีเลขทะเบียนอาหารสัตว์ชัดเจน เพื่อความมั่นใจมากขึ้นว่าปลอดภัย มีการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าอาหารแมวยี่ห้อนี้สารอาหารถูกต้องและปลอดภัยกับน้องแมว หากเป็นอาหารแมวนำเข้า ควรดูว่ามีการรับรองจากหน่วยงาน FDA หรือไม่ หรือ AAFCO ซึ่งในอาหารแมวจะเจอบ่อย ซึ่งเป็นสมาพันธ์จากอเมริกาตรวจสอบว่าคุณภาพของอาหารแมวเป็นจริงตามที่แบรนด์แจ้ง

สามารถแพ้ได้ทั้งโปรตีนและธัญพืช แต่เคสที่เจอบ่อยจะพบว่าแมวจะแพ้ไก่บ่อยเนื่องจากเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารส่วนใหญ่ แต่ถ้าอยากรู้ว่าน้องแมวแพ้อะไรกันแน่ สามารถมาพบสัตวแพทย์ได้ หรือหากจะทดสอบเองเบื้องต้น อาจจะลองให้แมวงดทานอาหารที่มีส่วนผสมของสิ่งที่ต้องสงสัยว่าแพ้ อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ หากพบว่าอาการถ่ายเหลวหรือความผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นผลจากอาหารลดน้อยลงหรือหายไป ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าแมวเราอาจจะแพ้โปรตีนจากสูตรอาหารหรือยี่ห้อก่อนหน้าได้ หรือเปลี่ยนเป็นสูตรที่โปรตีนเป็นแบบไฮโดรไลซ์ที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ลดลงแทน