สับสนระหว่าง “Smart Watch” กับ “Smart Band”? มาไขข้อสงสัยกัน! หากคุณกำลังเลือกนาฬิกาสักเรือน Smart Watch คือความอัจฉริยะครบครัน ทั้งควบคุมเพลง รับแจ้งเตือน แตะจ่ายเงิน และวัดสุขภาพด้วยเซนเซอร์ขั้นสูง ส่วน Smart Band เน้นความเบา ใส่ง่าย และฟังก์ชันด้านสุขภาพอย่างเดียว เช่น วัดการออกกำลังกายในราคาย่อมเยา สำหรับใครที่มองหา Smart Watch รุ่นใหม่ล่าสุด ปี 2024 เราคัดมาให้แล้วถึง 15 รุ่น ทั้งดีไซน์ทันสมัย ฟีเจอร์ปัง ๆ เช่น วัดออกซิเจนในเลือด GPS ในตัว แบตอึด และรุ่นที่เหมาะกับนักวิ่ง และอีกหลายรูปแบบกีฬา เลือกรุ่นที่ใช่ แล้วเปลี่ยนชีวิตให้สมาร์ทยิ่งขึ้น!
บรรณาธิการ
Table of Contents
15 Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นับก้าว ออกกำลังกาย เล่นกีฬา มี GPS
นี่น่าจะเป็นรุ่นท็อปสุดในบทความแนะนำ สมาร์ทวอทช์รุ่นไหนดี ล่าสุด %%currentyear%% แล้วล่ะ เพราะไปสุดในทุกทางจริง ๆ Garmin Fenix 8 Series มาพร้อมการอัปเกรดที่น่าสนใจเหนือกว่า Fenix 7 Series อย่างชัดเจน โดยเริ่มจากหน้าจอ AMOLED ที่คมชัด สีสันสดใส และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและความสะดวกในการมองเห็นข้อมูลแม้ในสภาพแสงจ้า เมื่อก่อน Fenix 7 ใช้หน้าจอ MIP ซึ่งแม้จะประหยัดพลังงานแต่ยังไม่เทียบเท่าด้านความคมชัด นอกจากนี้ Fenix 8 เพิ่มฟีเจอร์ ECG (คลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ที่ช่วยติดตามสุขภาพหัวใจอย่างละเอียด ซึ่ง Fenix 7 ไม่มี อีกทั้งยังมีไมโครโฟนและลำโพงในตัว ทำให้สามารถรับสายหรือสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนเหมือนรุ่นก่อน
Fenix 8 มีพัฒนาเรื่องความอึดของแบตเตอรี่ โดยในโหมด GPS ใช้งานได้สูงสุด 95 ชั่วโมง เทียบกับ 57 ชั่วโมงใน Fenix 7 ทำให้เหมาะสำหรับการผจญภัยที่ต้องการพลังงานต่อเนื่อง นอกจากนี้ Fenix 8 ยังเพิ่มฟีเจอร์การติดตามการดำน้ำลึกถึง 40 เมตร นักดำก็ใช้รุ่นนี้ได้ และระบบ Strength Training ที่ให้คำแนะนำแบบละเอียดสำหรับการฝึกซ้อมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบปุ่มกดแบบ Leakproof ใน Fenix 8 ก็ช่วยเพิ่มความทนทานและการกันน้ำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้เหมาะกับกิจกรรมสมบุกสมบัน ไปในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายก็ไหวไปกับคุณเสมอ
สเปคสำคัญของ Garmin Fenix 8 Series
-
หน้าจอ:
- มีตัวเลือกหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว (47 มม.) และ 1.4 นิ้ว (51 มม.)
- ความละเอียดสูง ให้สีสันสดใสและคมชัด
- รองรับการสัมผัสและโหมด Always-On Display
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนผลิตจากโพลีเมอร์เสริมไฟเบอร์ พร้อมกรอบไทเทเนียม
- ปุ่มกดแบบ Leakproof เพิ่มความทนทานและการกันน้ำ
- มีขนาดให้เลือก: 43 มม., 47 มม., และ 51 มม.
- น้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- ติดตามการนอนหลับและความเครียด
- ฟีเจอร์ ECG สำหรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬาหลากหลายประเภท
- ฟีเจอร์ PacePro และ ClimbPro สำหรับการวางแผนการฝึกซ้อม
- ฟีเจอร์การฝึกซ้อม Strength Training พร้อมคำแนะนำ
- รองรับการดำน้ำลึกถึง 40 เมตร พร้อมฟีเจอร์สำหรับการดำน้ำ
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth, ANT+, และ Wi-Fi
- ไมโครโฟนและลำโพงในตัว รองรับการรับสายและสั่งงานด้วยเสียง
- รองรับ Garmin Pay สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
-
แบตเตอรี่:
- โหมดสมาร์ทวอทช์: ใช้งานได้สูงสุด 30 วัน (48 วันด้วย Solar)
- โหมด GPS: ใช้งานได้สูงสุด 95 ชั่วโมง (149 ชั่วโมงด้วย Solar)
- รองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ในรุ่น Solar
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบ Android และ iOS
- เชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล
รีวิวจากผู้ซื้อ: นาฬิกาสวยมากๆค่ะ ฟังก์ชั่นหลากหลาย แฟนซื้อมาใส่ ใส่แล้วดูดีมากๆ ถ้าเรื่อง Smart Watch ต้องยกให้แบรนด์ Garmin เลยค่ะ
Apple Watch Series 10 อัปเกรดจาก Series 9 มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้เป็น smart watch 2024-2025 ที่น่าสนใจไม่น้อย มีความบางและเบากว่าเดิม พร้อมจอภาพ OLED ที่ใหญ่ขึ้นและสว่างมากขึ้น อ่านจากจอนาฬิกาตอนแดดจ้าคือสู้แสงได้ดีเลย เห็นชัดแจ๋ว เรื่องตรวจจับก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและน่าจะเป็นอีกจุดที่ทางแบรนด์พยายามไฮไลท์ เช่น การตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจวัดสุขภาพหัวใจที่แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายที่ครอบคลุมมากขึ้น จะดีมากถ้าผู้ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอปเปิ้ลโดยตรง แบตเตอรี่เต็ม 80% ในเพียง 30 นาทีเพราะมีชาร์จเร็ว สำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทวอทช์ที่ผสานดีไซน์ล้ำสมัยเข้ากับเทคโนโลยีสุขภาพและการออกกำลังกายขั้นสูง Apple Watch Series 10 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
Smart Watch Samsung Galaxy Watch 6 สเปคของนาฬิกาเรือนนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในลิสต์ Smart Watch 2024 เด่นทั้งเรื่องดีไซน์และประสิทธิภาพ ตัวเรือนบางลงกว่าเดิม พร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ขึ้น คมชัด และมีขอบจอที่บางลงเพื่อการแสดงผลที่เต็มตา ฟีเจอร์ด้านสุขภาพจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), การวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย (BIA), และการติดตามการนอนหลับที่ละเอียดกว่าเดิม นอกจากนี้ Smart Watch Samsung Galaxy Watch 6 ยังมีโหมดออกกำลังกายหลากหลาย ครอบคลุม การเชื่อมต่อราบรื่นด้วย Wear OS ที่รองรับแอปพลิเคชันจาก Google Play ทำให้ใช้งานได้หลากหลายเหมือนสมาร์ทโฟน รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่าน Samsung Pay และ Google Wallet พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
สเปคสำคัญของ Samsung Galaxy Watch 6:
-
หน้าจอ:
- Super AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว (รุ่น 40 มม.) และ 1.5 นิ้ว (รุ่น 44 มม.)
- ความละเอียด 432 x 432 พิกเซล (40 มม.) และ 480 x 480 พิกเซล (44 มม.)
- กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ทนทานต่อรอยขีดข่วน
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา
- ขอบหน้าจอบางลง 30% เพิ่มพื้นที่การแสดงผล 20%
- สายนาฬิกาเปลี่ยนได้ง่ายด้วยระบบคลิกเดียว
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอลและไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิผิวหนัง
- เซ็นเซอร์วัดความดันโลหิต
- เซ็นเซอร์วัดองค์ประกอบร่างกาย (BIA)
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- ติดตามการออกกำลังกายกว่า 90 โหมด
- ระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
- การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์
- การติดตามการนอนหลับและให้คำแนะนำการนอน
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth 5.3
- Wi-Fi (802.11 b/g/n)
- NFC สำหรับการชำระเงินผ่าน Samsung Pay
- GPS ในตัวสำหรับการติดตามตำแหน่ง
-
แบตเตอรี่:
- ใช้งานได้สูงสุด 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จ 45% ในเวลา 30 นาที
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟน Android 10 ขึ้นไป
- ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 พร้อม One UI Watch 6
รีวิวจากผู้ซื้อ: เท่าที่ใช้มาสองสามวันก็ชอบนะ แจ้งเตือนอะไรต่างๆได้ดี สะดวกมากๆ ชอบที่ตรวจวัดคุณภาพการนอน ความดันอะไรต่างๆ ข้อมือ 15 cm ใส่กำลังพอ
Suunto Vertical เป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่มี GPS แม่นยำอีกแบรนด์ เหมาะมากสำหรับสาย adventure หรือคนที่ชอบออกกำลังกาย/ ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยหน้าจอขนาด 1.4 นิ้วมองเห็นชัด และเรื่องแบตคือทนมากทุกคน อยู่ได้นานมาก ยิ่งเลือกเป็นรุ่น Solar แล้วล่ะก็ ใช้ได้นานสะใจ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์แผนที่แสดงผลแบบออฟไลน์บนหน้าปัดนาฬิกา มาพร้อมกับระบบ GNSS แบบความถี่คู่ อัพเกรดความแม่นยำของ GPS สำหรับติดตามกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้โหมดกีฬาเองก็ครบมาถึง 97 แบบ แม้มองเผิน ๆ อาจจะมีน้อยกว่าบางรุ่น แต่ถ้าเป็นกีฬาเอาท์ดอร์คือมีให้หมดเลย ทั้งนี้ในเรื่องความทนของ smart watch เองก็ไปด้วยกันกับฟีเจอร์ที่มีมาเพื่อคนรักกีฬาเอาท์ดอร์ สามารถกันน้ำได้ 100 เมตร และผ่านการทดสอบความทนทานเกรดทหารอีกด้วย ถ้าใครเป็นสาวก Garmin แล้วอยากลองอีกแบรนด์ที่ความสามารถใกล้กันได้ แบรนด์ SUUNTO ก็น่าลองไม่แพ้กันเลย
สเปคสำคัญของ Suunto Vertical:
-
หน้าจอ:
- ขนาด 1.4 นิ้ว
- ความละเอียด 280 x 280 พิกเซล
- หน้าจอสีแบบสัมผัส
- กระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนขนาด 49 มม.
- วัสดุกรอบทำจากสแตนเลสสตีลหรือไทเทเนียม (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
- สายซิลิโคนขนาด 22 มม. ที่สามารถเปลี่ยนได้
- น้ำหนัก: รุ่นสแตนเลสสตีล 86 กรัม; รุ่นไทเทเนียม 74 กรัม
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจจากข้อมือ
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามความเครียดและการฟื้นฟู
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬามากกว่า 97 โหมด
- แผนที่สีแบบออฟไลน์ที่สามารถแสดงผลบนหน้าปัดนาฬิกา
- ระบบ GNSS แบบความถี่คู่ เพิ่มความแม่นยำในการติดตาม
- ฟีเจอร์การฝึกซ้อมและการวางแผนเส้นทาง
-
การเชื่อมต่อ:
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth
- รองรับการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน
- การควบคุมเพลง
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi สำหรับการดาวน์โหลดแผนที่
-
แบตเตอรี่:
- โหมดสมาร์ทวอทช์: สูงสุด 60 วัน / 1 ปี (Solar)
- รุ่น Solar/Titanium มีฟีเจอร์ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ (สำหรับรุ่น Solar จะสามารถใช้แบตเตอรี่ได้เพิ่มมากขึ้นอีก 30% จากทุกโหมดการใช้งาน)
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- ใช้งานร่วมกับแอป Suunto สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล
รีวิวจากผู้ซื้อ: แบตอึด จีพีเอสแม่น สายนิ่มใส่แล้วไม่คัน
เราเชื่อว่า smart watch garmin นั้นจะต้องมีหลายคนที่รู้จักแน่นอนด้วยความสามารถที่อัดแน่นครบครันตามราคา ทั้งดีไซน์ วัสดุ ระบบการทำงาน เซนเซอร์และการคำนวณด้านสุขภาพที่แม่นยำ ในแบบพรีเมียม Hi-End โดยในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จด้วยแสงอาทิตย์ด้วยการนำนาฬิกาตากแดดเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้หายห่วงเรียกได้ว่าไม่ต้องชาร์จกันเลยรุ่นนี้ก็สามารถได้งานได้อย่างสะดวกเลย ด้วยหน้าจอขาวดำและการควบคุมด้วยปุ่ม ที่ยังช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นไปอีก พร้อมทั้งยังมาในมาตรฐานของ Garmin เลยที่ทั้งทนทาน โหมดการออกกำลังกายแม่นยำและหลากหลาย มีสีให้เลือกเยอะด้วยในนาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้
สเปคสำคัญของ GARMIN Instinct 2S Solar Series:
-
หน้าจอ:
- ขนาด 0.79 x 0.79 นิ้ว (20 x 20 มม.)
- ความละเอียด 156 x 156 พิกเซล
- หน้าจอขาวดำแบบ Transflective Memory-In-Pixel (MIP)
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนขนาด 40 มม. เหมาะสำหรับข้อมือเล็ก
- วัสดุเลนส์ Power Glass รองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์
- กรอบและตัวเรือนทำจากโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใย
- สายซิลิโคนขนาด 20 มม. แบบ QuickFit
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Wrist-based Heart Rate)
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox)
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามความเครียด
- ติดตามพลังงานร่างกาย (Body Battery)
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬาและกิจกรรมมากกว่า 30 แบบ เช่น วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ปีนเขา
- ระบบ GPS, GLONASS, Galileo สำหรับการติดตามตำแหน่ง
- ฟีเจอร์ VO2 Max
- ฟีเจอร์การฝึกซ้อมขั้นสูง
-
การเชื่อมต่อ:
- การแจ้งเตือนสมาร์ทโฟน (Smart Notifications)
- การชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่าน Garmin Pay
- การเชื่อมต่อกับแอป Garmin Connect
- การควบคุมเพลง
-
แบตเตอรี่:
- โหมดสมาร์ทวอทช์: สูงสุด 21 วัน (51 วันเมื่อชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์)
- โหมด GPS: สูงสุด 22 ชั่วโมง (28 ชั่วโมงเมื่อชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์)
- โหมด Expedition GPS Activity: สูงสุด 25 วัน (105 วันเมื่อชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์)
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- ใช้งานร่วมกับแอป Garmin Connect สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล
รีวิวจากผู้ซื้อ: ลง ConnectIQ ก่อน นาฬิกาถึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และเมนูภาษาไทยบน Connect จะได้ไม่เจอปัญหาเพี้ยนเป็นภาษา German จร้า
Garmin Forerunner 265 เป็นสมาร์ทวอทช์นักวิ่งมาก ๆ เพราะฟีเจอร์เรื่องวิ่งคือแน่น ช่วยเป็นไกด์ให้คุณได้ทั้งแต่วันซ้อม หรือวันพัก เอาอยู่ มาพร้อมหน้าจอ AMOLED คมชัด สีสันสดใส ตัวเรือนไม่ใหญ่ไป ชาย-หญิงใส่ได้ แถมมีความเท่เบา ๆ ด้วย ตัวนาฬิกาเองก็เบาประมาณ 46 กรัมเท่านั้น ฟีเจอร์เด่นที่ต้องเอามากางให้นักวิ่งใจอ่อนยอมซื้อน้อง Forerunner 265 มีเด่นอยู่ เช่น อย่าง Running Dynamics, PacePro และการวิเคราะห์ข้อมูลการวิ่งแบบละเอียดช่วยพัฒนาศักยภาพการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังรองรับ Multi-band GPS ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการติดตามเส้นทาง ไม่ว่าจะในเมืองหรือพื้นที่ป่า แบตเตอรี่อยู่กับคุณได้ประมาณ 13 วัน แต่ถ้าใช้ GPS ตลอดเค้าจะอยู่ได้ประมาณ 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สุขภาพครบครัน เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การวัด SpO₂, และติดตามความเครียด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือการเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมหนัก ๆ ถ้าทั้งรักการวิ่ง และอยากพัฒนาความเก่งของทักษะวิ่งอยู่ตลอด นี่แหละคู่หูของคุณ
สเปคสำคัญของ Garmin Forerunner 265
-
หน้าจอ:
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว (รุ่น 265) และ 1.1 นิ้ว (รุ่น 265S)
- ความละเอียด 416 x 416 พิกเซล (265) และ 360 x 360 พิกเซล (265S)
- รองรับการสัมผัส พร้อมความสว่างสูง มองเห็นได้ชัดเจนทุกสภาพแสง
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนโพลีเมอร์เสริมไฟเบอร์ แข็งแรงและน้ำหนักเบา
- สายซิลิโคน 22 มม.
- ขนาดกะทัดรัด: 46 มม.
- น้ำหนัก 46 กรัม
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Wrist-based Heart Rate)
- เซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- ติดตามการนอนหลับ (Sleep Monitoring)
- ติดตามความเครียด (Stress Tracking)
- ฟีเจอร์ Body Battery สำหรับวัดพลังงานในร่างกาย
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬา 30+ ประเภท รวมถึงการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ
- ฟีเจอร์ Running Dynamics และ PacePro ช่วยวางแผนการวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
- ฟีเจอร์การฝึกซ้อม VO2 Max และการฟื้นฟู (Recovery Advisor)
- รองรับ Multi-band GPS และฟีเจอร์ SatIQ เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง
-
การเชื่อมต่อ:
- รองรับ Bluetooth, ANT+, และ Wi-Fi
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป Garmin Connect
- การแจ้งเตือนข้อความ, อีเมล และสายโทรศัพท์
- รองรับการซิงค์ข้อมูลกับอุปกรณ์เสริม เช่น สายคาดอกหรือเซ็นเซอร์จักรยาน
-
แบตเตอรี่:
- โหมดสมาร์ทวอทช์: ใช้งานได้สูงสุด 13 วัน
- โหมด GPS: ใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
- รองรับการชาร์จเร็ว
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- ใช้งานร่วมกับแอป Garmin Connect สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล
รีวิวจากผู้ซื้อ: ก่อนหน้านี้ใช้ fenix5s มาตลอด 7 ปี รู้สึกหนักแขนเวลาวิ่งนานๆ เลยลอง forerunner 265 เรือนนี้มา น้ำหนักเบากว่ากันมากๆ หน้าจอคมชัดและใหญ่ชัดเจน ใช้งานง่าย เชื่อมต่อ garmin Connect ได้ง่ายมาก โดยรวมดีมากค่ะ
อีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่หลายคนมักจะมองเป็นตัวเลือกรองลงมาจากฝั่ง Smart Watch Apple และ Samsung เพราะใน นาฬิกาอัจฉริยะ Huawei Watch GT4 ก็มีฟีเจอร์ที่เพียงพอกับความต้องการกับผู้ใช้งานจริง แถมยังมีราคาที่เบากว่านาฬิกาสมาร์ทวอทช์คู่แข่งไม่น้อยเลย เรื่องที่น่าสนใจของนาฬิกา Smart watch ตัวนี้ก็มีทั้งแบตเตอรี่ที่พวกเขาโชว์ว่าสามารถอยู่ได้ถึง 2 สัปดาห์ รวมถึงรองรับทั้งฝั่งของ iOS กับ Android แบบไม่ต้องกังวลเรื่องสมาร์ทโฟนที่มี เช่นเดียวกับฟีเจอร์ตรวจสุขภาพที่อัดแน่นมาให้ในราคาไม่เกิน 6,000 บาท
และรุ่นนี้ก็ยังถือว่าเป็น Smart Watch ที่น่าสนใจอยู่ เพราะว่าราคาก็คุ้มค่า มีโหมดออกกำลังกายที่ครบครัน แต่ถ้าใครอยากอัพเกรดความสามารถให้ไฉไลกว่าเดิมแนะนำเปลี่ยนไปซื้อ HUAWEI WATCH GT 5 แทน เพราะจะได้โหมดออกกำลังกายเพิ่มขึ้นและมี AI คอยช่วย
สเปคสำคัญของ HUAWEI WATCH GT 4:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว (รุ่น 46 มม.) และ 1.32 นิ้ว (รุ่น 41 มม.)
- ความละเอียดสูง พร้อมหน้าจอสว่าง มองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล พร้อมดีไซน์แปดเหลี่ยมที่หรูหรา
- สายให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบโลหะ หนัง และซิลิโคน
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (TruSeen 5.5+)
- เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ติดตามการนอนหลับและวิเคราะห์คุณภาพการนอน
- ระบบติดตามระดับความเครียด
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 แบบ
- การตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
- ระบบ TruSport ที่ช่วยวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการออกกำลังกาย
-
การเชื่อมต่อ:
- รองรับ Bluetooth สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
- การแจ้งเตือนข้อความ สายโทรเข้า และการควบคุมเพลง
-
แบตเตอรี่:
- ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป
- สูงสุด 7 วัน สำหรับการใช้งานหนัก
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับทั้ง Android และ iOS
- ใช้งานร่วมกับแอป Huawei Health สำหรับการติดตามข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย
รีวิวจากผู้ซื้อ: รุ่นนี้สวยออกแบบมาสวยมากกกก หน้าปัดก็สวย เบือกได้หลายแบบ ระบบสัมผัสไว หน้าจอคมชัด ร้านค้าให้บริการดีมาก จัดส่งของไวมากๆ ของแถมเยอะ คุ้มสุดๆ
นาฬิกาอัจฉริยะ Fitbit แบรนด์อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพชื่อดังระดับโลก โดยในรุ่นนี้ Smart Watch Fitbit Sense มากับดีไซน์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยหน้าจอแสดงผล สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มีความโค้งมนดูทันสมัย ปุ่มควบคุมด้านข้างแบบสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร ตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย มาพร้อมเซนเซอร์ในการตรวจวัดที่หลากหลาย ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ SpO2 (ขณะหลับ), อุณหภูมิผิวหนัง, ระบบ GPS ทำให้สามารถพกพาออกไปใช้วิ่งกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องพึ่งมือถือด้วยเลย นอกจากนั้น Smart Watch Fitbit ยังสามารถกันน้ำพร้อมโหมดว่ายน้ำด้วย เป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งเลย ไม่เพียงเท่านั้นใครที่อยากใช้งานระบบแตะจ่ายก็มี Fitbit Pay ที่รองรับการทำงานในไทยด้วย
สเปคสำคัญของ Fitbit Sense:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.58 นิ้ว
- ความละเอียด 336 x 336 พิกเซล
- กระจก Corning Gorilla Glass 3
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล
- กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร (5ATM)
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- ECG: ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- EDA: วัดระดับความเครียด
- SpO2: วัดออกซิเจนในเลือด
- อุณหภูมิผิวหนัง
- PurePulse 2.0: วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- GPS ในตัว
- โหมดการออกกำลังกายกว่า 20 รูปแบบ
- ติดตามการนอนหลับและให้คะแนน
-
การเชื่อมต่อ:
- Google Assistant และ Amazon Alexa
- Wi-Fi และ Bluetooth
- Fitbit Pay
-
แบตเตอรี่:
- ใช้งานได้สูงสุด 6 วัน
- รองรับการชาร์จเร็ว
-
ความเข้ากันได้:
- ใช้งานร่วมกับ Android และ iOS
- ระบบปฏิบัติการ Fitbit OS
รีวิวจากผู้ใช้
“นาฬิกาใช้ดีมาก ชอบค่ะ ไม่เทอะทะและใส่ได้ตลอด ในกล่องมีสายแถมมาหนึ่งเส้น”
นาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส ขนาด 1.36 นิ้ว โดยใช้การแสดงผลผ่านกระจกแซฟไฟร์ คริสตัล ตัวเรือนผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงอย่างไทเทเนียม ที่มีความแข็งแรง กันน้ำ กันเหงื่อ ทนทานต่อทุกการใช้งาน สะดวกสบายไปอีกขั้นกับระบบที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ และ WI-FI ได้ มีระบบติดตามการนอนหลับและตัววัดชีพจร ให้คุณหมดห่วงด้านปัญหาสุขภาพ อีกทั้งยังมีระบบติดตามเส้นทาง GPS ให้คุณได้เดินทางอย่างสะดวกสบาย หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างเดินทาง เพราะมีระบบชาร์จเร็ว แบตเตอรี่ 590mAH และมีความจุ ROM 16 GB, RAM 1.5 GB ตอบโจทย์นักเดินทางทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะเป็นนักปั่น หรือนักเดินเท้า smart watch รุ่นนี้จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปพร้อม ๆ กับคุณ
สเปคสำคัญของ Samsung Galaxy Watch 5 Pro LTE:
-
หน้าจอ:
- Super AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว
- ความละเอียด 450 x 450 พิกเซล
- กระจกหน้าจอ Sapphire Crystal เพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วน
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนขนาด 45 มม.
- วัสดุทำจากไทเทเนียม แข็งแรงและน้ำหนักเบา
- สาย D-Buckle Sport Band ที่ปรับขนาดได้ง่าย
- กันน้ำระดับ 5ATM และมาตรฐาน IP68
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- เซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- เซ็นเซอร์วัดความดันโลหิต
- เซ็นเซอร์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
- เซ็นเซอร์วัดองค์ประกอบของร่างกาย (BIA)
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดออกกำลังกายหลากหลายประเภท
- ฟีเจอร์ Route Workout สำหรับนำเข้าเส้นทางการออกกำลังกาย
- ระบบนำทางแบบ turn-by-turn navigation
- ฟีเจอร์ Track Back สำหรับนำทางกลับไปยังจุดเริ่มต้น
-
การเชื่อมต่อ:
- รองรับ LTE สำหรับการใช้งานโทรศัพท์และรับส่งข้อความโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
- Bluetooth 5.2
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 2.4+5GHz
- NFC สำหรับการชำระเงินผ่าน Samsung Pay
- GPS ในตัวสำหรับการติดตามตำแหน่ง
-
แบตเตอรี่:
- ความจุ 590 mAh
- ใช้งานได้นานสูงสุด 80 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- รองรับการชาร์จเร็ว
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบ Android 8.0 ขึ้นไป
- ต้องการ RAM อย่างน้อย 1.5GB
- ใช้งานร่วมกับแอป Samsung Health และแอปอื่น ๆ ของ Samsung
รีวิวจากผู้ซื้อ: ได้ของแล้ว โปร 9เดือน9 รอไม่นาน แพ็คมาดีไม่เสียหาย ดีครับ คุ้มค่า ชอบบบบบบบบบบบบบบบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สำหรับใครที่เป็นขาลุย เย็นจัดก็ไปได้หมด หรือต้องออกลุยนาน ๆ ต้องการทั้งเรื่องความทนทานเป็นหลักและเรื่องแบตก็ต้องดีมากด้วย ถ้าเราไม่พูดถึงรุ่นนี้ในบทความแนะนำสมาร์ทวอทช์ ใหม่ล่าสุด เราว่าบทความอาจจะไม่สมบูรณ์ก็ได้ กับนาฬิกา Smart Watch Amazfit T-Rex 3
Amazfit T-Rex 3 มีการยกระดับความทนทานและฟีเจอร์ให้เหนือกว่า T-Rex 2 แต่ยังคงมาตรฐานทางทหาร MIL-STD-810H ทนหมดไม่ว่าจะเป็นความร้อน ความเย็น และความชื้น หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.5 นิ้วของ T-Rex 3 ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,000 nits ดีกว่ารุ่นเดิมมาตั้ง 1,000 nits เป็นอีก Smart Watch ที่มี GPS ที่แม่นยำและรองรับหลายระบบดาวเทียมเหมือนกัน มากถึง 6 ดวง จับสัญญาณก็ทำได้เร็วขึ้น ฟีเจอร์สุขภาพยังครบครันทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ SpO2 และโหมดออกกำลังกายกว่า 170 แบบ (เทียบกับ 150 แบบใน T-Rex 2) พร้อมระบบ TruSport ที่ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการออกกำลังกายได้ละเอียดขึ้น เรื่องแบตถ้าใช้แบบปกติก็ยังอยู่ได้นานถึง 27 วันไปเลย
สเปคสำคัญของ Amazfit T-Rex 3:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว
- ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต
- ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 316L
- ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- กันน้ำระดับ 10 ATM (ลึกสูงสุด 100 เมตร)
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ติดตามการนอนหลับ
- วัดระดับความเครียด
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 170 แบบ
- ระบบ TruSport วิเคราะห์ประสิทธิภาพการออกกำลังกาย
- ติดตามการวิ่งเทรล, การเดินป่า, การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง และอื่น ๆ
-
การเชื่อมต่อ:
- รองรับ GPS, GLONASS, Galileo, BDS, QZSS
- Bluetooth 5.0
- รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน
-
แบตเตอรี่:
- ใช้งานได้สูงสุด 27 วันในโหมดปกติ
- ใช้งาน GPS ต่อเนื่องได้สูงสุด 180 ชั่วโมง
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟน Android และ iOS
- ใช้งานร่วมกับแอป Zepp สำหรับการติดตามข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย
รีวิวจากผู้ซื้อ: ใช้งานได้ดีมากฟังชั่นการทำงานเยอะ ลงว่ายน้ำได้ แบตทนอึดนานมาก เทียบกับแบรนด์หรูแพงๆได้เลย สวยกว่าด้วยชอบมากจริงๆ เยี่ยมมากๆ
เห็นชื่อของ Smartwatch ตัวนี้แล้วก็ต้องนึกถึงความเร็วและการวิ่งอย่างแน่นอน เพราะ Amazfit Cheetah ได้ถูกพัฒนาออกมาสำหรับการวิ่งเป็นหลักนั่นเอง เริ่มจากการใส่ GPS มาและแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 14 วันด้วยกัน โดยตัว GPS จะมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าที่เคยและมีการบันทึกการวิ่งเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อได้ นอกจากนี้ยังใส่ Zepp Coach หรือโปรแกรมที่ช่วยแนะนำกับออกแบบการวิ่งในแต่ละวันจนกลายเป็นฟีเจอร์ที่นักวิ่งให้ความสนใจแบบพลาดไม่ได้
สเปคสำคัญของ Amazfit Cheetah:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว
- ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล
- ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- รองรับระบบสัมผัส
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนทำจากโพลิเมอร์เสริมไฟเบอร์ น้ำหนักเบาเพียง 32 กรัม
- สายซิลิโคนเหลวที่มีรูพรุน ระบายอากาศได้ดี
- กันน้ำระดับ 5 ATM
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามความเครียด
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬา 150+ โหมด
- เทคโนโลยี MaxTrack™ สำหรับการระบุตำแหน่ง GPS ที่แม่นยำ
- แผนที่ออฟไลน์และการนำทางเส้นทาง
- ระบบการแนะนำการออกกำลังกายด้วย AI
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth 5.3
- รองรับการเชื่อมต่อกับแอป Zepp App
- การแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน
- ควบคุมเพลง
-
แบตเตอรี่:
- ความจุ 440mAh
- ใช้งานทั่วไปได้นานสุด 14 วัน
- โหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้นานสุด 45 วัน
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- ใช้งานร่วมกับแอป Zepp App สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล
รีวิวจากผู้ซื้อ: ทรงสวย ใช้งานง่าย ได้หลายฟังก์ชั่น
ต้องบอกว่า Smartwatch Mibro GS Pro เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มาแรงอย่างมาก เพราะพวกเขาได้ตั้งราคาไว้ไม่สูง แถมยังใส่ฟีเจอร์แบบที่หลายคนต้องการเข้ามาจนทำให้กลายเป็นตัวเลือกของคนยุคใหม่ไปแล้ว โดยในสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ยังทำหน้าจอแบบ AMOLED และกันน้ำได้ด้วย ส่วนเรื่องฟีเจอร์ภายในอย่างโหมดกีฬา 105 แบบหรือแบตเตอรี่ที่อยู่นาน 20 วันก็กลายเป็นของที่หลายคนให้ความสนใจในหมวดนาฬิกา Smartwatch ราคาถูก
สเปคสำคัญของ Mibro Watch GS Pro:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว
- ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล
- อัตรารีเฟรชเรท 60Hz
- รองรับฟีเจอร์ Always On Display
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 316L แข็งแรง ทนทาน
- ขนาดตัวเรือน 46.5 x 46.5 x 11.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรวมสาย 58.22 กรัม
- สายนาฬิกาแบบผ้า (Active Loop)
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล (4PD)
- เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว 9 แกน
- มาตรวัดความดันอากาศ (Barometer)
- เข็มทิศ (Compass)
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดออกกำลังกาย 105 โหมด
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามความเครียด
- การแจ้งเตือนสุขภาพ เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เตือนให้เคลื่อนไหว
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth 5.3
- รองรับการโทรผ่านบลูทูธ
- การแจ้งเตือนข้อความและแอปพลิเคชัน
- ควบคุมเพลง
-
แบตเตอรี่:
- ความจุ 460mAh
- ใช้งานในโหมด Standby ได้นาน 60 วัน
- ใช้งานในโหมดปกติได้นาน 20 วัน
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Mibro Fit
รีวิวจากผู้ซื้อ: เป็นสมาร์ทวอชซ์ที่คุ้มมาก การติดตามอัตราการเต้นหัวใจ ปริมาณออกซิเจน การนอนหลับค่อนข้างแม่นยำมาก แทรกGPSก็ค่อนข้างตรง ถึงจะเทียบค่ายผลไม้ไม่ได้แต่ก็ใกล้เคียง ยิ่งข้อได้เปรียบคือแบตโคตรอึดมาก นี่ทดสอบจะเข้าวันที่ 5 แล้วแบตยังเหลือ 68% ขอบหน้าปัดกันกระแทกดีเหมาะสำหรับคนไม่ค่อยระวัง ชอบปุ่มสีแดงวาวเมทัลลิคในตัวเรือน มันดูหรูดูแพงดี โดยรวม คุ้มค่าคุ้มราคา Mibro สมกับเป็นbudgetสมาร์ทวอชซ์ เป็นมิตรกับผู้มีงบจำกัด ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังซื้อเรือนละ 20,000
Amazfit GTR Mini เป็นสมาร์ทวอทช์น้องเล็ก แต่ความสามารถยังทรงพลังอยู่ เหมาะกับข้อมือผู้หญิงหรือคนที่ต้องการนาฬิกาที่มีขนาดกะทัดรัด ตัวเรือนบางเบาเพียง 9.25 มม. ให้ความหรูหราไปในตัว และน้ำหนักเพียง 24.6 กรัม พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.28 นิ้ว ให้ความคมชัดสูง แบตเองก็อยู่ได้ประมาณ 14 วันถ้าไม่ได้ใช้งานไรน้องหนักมาก ลดความกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยครั้ง ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน รองรับโหมดกีฬา 120+ แบบ พร้อมระบบ GPS ความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับแอป Zepp App ได้อย่างราบรื่น เรื่องราคาคือคุ้มมากงบ 5 พัน คือมีทอนแบบยิ้มแก้มปริ
สเปคสำคัญของ Amazfit GTR Mini
-
หน้าจอ:
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.28 นิ้ว
- ความละเอียด 416 x 416 พิกเซล
- รองรับการสัมผัสและแสดงผลสีสันสดใส
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีลผสมพลาสติก
- ขนาด 42.83 x 42.83 x 9.25 มม.
- น้ำหนัก 24.6 กรัม
- สายซิลิโคนขนาด 20 มม.
- มีสีให้เลือก: Midnight Black, Misty Pink, Ocean Blue
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Accelerometer)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Geomagnetic Sensor)
- เซ็นเซอร์วัดแสง (Ambient Light Sensor)
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬา 120+ ประเภท
- การติดตามการนอนหลับ
- การวัดความเครียด
- การวัดค่าออกซิเจนในเลือด
- การติดตามรอบเดือนสำหรับผู้หญิง
- การควบคุมเพลง
- การแจ้งเตือนและช่วยเหลือฉุกเฉิน
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth 5.2 BLE
- รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป Zepp App
- รองรับ GPS, GLONASS, Galileo, BDS, QZSS
-
แบตเตอรี่:
- ความจุ 280 mAh
- ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 14 วันในโหมดปกติ
- ชาร์จผ่านแท่นชาร์จแม่เหล็ก
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 ขึ้นไป และ iOS 12.0 ขึ้นไป
- เชื่อมต่อผ่านแอป Zepp App เพื่อการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ
รีวิวจากผู้ซื้อ: คุ้มค่า คุณภาพดี รูปลักษณ์สวย ตรวจวัดได้หลายอย่างดีค่ะ จอชัด ภาพละเอียด ชอบมากๆเลย
Smart Watch Amazfit T-Rex 2 นาฬิกาที่มีคุณภาพคุณสมบัติเพียบและพร้อมสำหรับการใช้งาน เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่มีความสามารถหลากหลาย เริ่มกันที่การนำทางแบบเรียลไทม์ รองรับความถี่ของคลื่นสัญญาณดาวเทียม เช็คสภาพอากาศได้ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความเครียด วัดค่าออกซิเจน และถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำก็ยังสามารถใช้งานได้ดี ไม่เป็นผลต่อการทำงาน หรือจะเป็นโหมด ExerSense จดจำการออกกำลังกายได้ถึง 8 รูปแบบ นอกจากนี้สมาร์ทวอทช์เรือนนี้ยังกันน้ำได้ถึงระดับ 10ATM หรือ 100 เมตร และเหมาะมากสำหรับสายเดินทางขึ้นป่าลงเขา เพราะตัวนี้แบตทนทานมากถึง 24 วัน ใครที่เป็นนักเดินทาง สายสำรวจต่าง ๆ เรียกได้ว่าตัวนี้เป็นสมาร์ทวอทช์ที่คู่ควรกับคุณ
สเปคสำคัญของ Amazfit T-Rex 2:
-
หน้าจอ:
- AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว
- ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล
- ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- รองรับการสัมผัส
-
การออกแบบ:
- ตัวเรือนขนาด 47.1 x 47.1 x 13.65 มม.
- น้ำหนัก 66.5 กรัม (รวมสาย)
- วัสดุตัวเรือนทำจากโพลีเมอร์เสริมไฟเบอร์
- สายซิลิโคนขนาด 22 มม.
- ผ่านมาตรฐานความทนทานระดับ MIL-STD-810G
- กันน้ำระดับ 10 ATM (ลึกสูงสุด 100 เมตร)
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ BioTracker™ 3.0 PPG
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂)
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามระดับความเครียด
- ระบบประเมินสุขภาพ PAI
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬา 158 โหมด
- ระบบ ExerSense™ จดจำการออกกำลังกาย 8 ชนิดโดยอัตโนมัติ
- ฟีเจอร์วัด VO₂ Max
- ระบบนำทางด้วย GPS แบบ Dual-band และรองรับดาวเทียม 5 ระบบ
- ฟีเจอร์นำทางแบบเรียลไทม์และการนำเข้าเส้นทาง
-
การเชื่อมต่อ:
- Bluetooth 5.0 BLE
- เชื่อมต่อกับแอป Zepp App บนสมาร์ทโฟน
- รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน
- ควบคุมการเล่นเพลง
-
แบตเตอรี่:
- ความจุ 500 mAh
- ใช้งานปกติได้นานสูงสุด 24 วัน
- โหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้นานสูงสุด 45 วัน
- โหมด GPS ความแม่นยำสูงสุดใช้งานได้สูงสุด 26 ชั่วโมง
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบ Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 10.0 ขึ้นไป
- ใช้งานร่วมกับแอป Zepp App สำหรับการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ
รีวิวจากผู้ซื้อ: ไม่เคยใช้สมาร์ทวอทช์มาก่อน แต่ดูจากหลายๆรุ่นชอบรูปทรงดีไซน์แบบนี้มากกว่า สวยดูมีความเป็นสปอร์ต ลุยๆ สีน้ำตาลตัดสีดำคือที่สุดแล้ว ไส่ได้ทุกงาน
Kieslect Actor เป็นสมาร์ทวอทช์ราคาที่คุ้มค่า อีกตัวเลือกสำหรับใครที่ตามหา Smart watch มี GPS %%currentyear%% หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 1.6 นิ้ว ให้ภาพคมชัดด้วย รองรับ Always on Display ไม่ต้องกดปุ่มก็ดูได้เลย ตัวเรือนออกแบบด้วยขอบเซรามิกที่แข็งแรงพร้อมให้ความหรูหรา ใช้ได้ทั้งในโอกาสทางการและลุยกิจกรรมกลางแจ้ง ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน มีการติดตามรอบเดือนให้ด้วยสำหรับคุณผู้หญิง โหมดกีฬาให้เลือกมากกว่า 150 แบบ รองรับการจับสัญญาณ GPS Dual-Band 6 เครือข่าย แม่นยำและรวดเร็ว แบตเตอรี่ก็นานพอสมควร เรื่องการเข้าได้ รองรับทั้งสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android ผ่านแอป KS OS
สเปคสำคัญของ Kieslect Actor:
-
หน้าจอ:
- LTPO AMOLED ขนาด 1.6 นิ้ว
- ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล
- ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- รองรับ Always on Display
-
การออกแบบ:
- ขอบหน้าปัดเซรามิกที่ทนทานและหรูหรา
- ตัวเรือนอะลูมิเนียมแบบด้าน
- สายซิลิโคนขนาด 22 มม. สามารถเปลี่ยนได้
-
เซ็นเซอร์สุขภาพ:
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ติดตามความเครียด
- ติดตามการนอนหลับ
- ติดตามรอบเดือน
-
ฟีเจอร์ออกกำลังกาย:
- รองรับโหมดกีฬา 150+ แบบ
- GPS Dual-Band 6 เครือข่าย จับสัญญาณรวดเร็วและแม่นยำ
- ระบบเข็มทิศในตัว
-
การเชื่อมต่อ:
- รองรับการโทรผ่านบลูทูธ
- เชื่อมต่อกับแอป KS OS บน iOS และ Android
- รองรับการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันต่าง ๆ
- ควบคุมการเล่นเพลง และสามารถเก็บเพลงในตัวเครื่องได้ 30MB
-
แบตเตอรี่:
- ใช้งานได้ยาวนาน 7-14 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- ชาร์จผ่านสายแม่เหล็กที่แถมมาในกล่อง
-
ความเข้ากันได้:
- รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- ใช้งานร่วมกับแอป KS OS สำหรับการติดตามข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย
รีวิวจากผู้ซื้อ: ตัวนี้เน้นออกกำลังกายมากกว่า จอใหญ่กว่า สีสวยกว่า เมนูสวยกว่า ลูกเล่นมากกว่า เมื่อเทียบกับตัว KR Pro KR Pro เน้นเป็น Lifestyle ใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า
Smart Watch คืออะไร
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกับ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ - Smart Watch มากนัก แต่ก็คงจะเคยเห็นหรือคุ้นตา นาฬิกาที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล ความอัจฉริยะ เซนเซอร์ต่าง ๆ และฟังก์ชันที่หลากหลายทั้งในเรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย Smart Watch นั้นเรียกง่าย ๆ ก็คือนาฬิกาที่เพิ่มความสามารถต่าง ๆ มากมายเข้ามาไม่ว่าจะด้วยหน้าจอแสดงเวลาที่สามารถสัมผัสควบคุมได้ ระบบการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อรับการแจ้งเตือน ควบคุมการทำงานหรือรับส่งข้อมูลที่ได้จาก ชุดเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2, GPS และอื่น ๆ พร้อมกับซอฟต์แวร์คุณภาพสูงเป็นต้น
ควรซื้อ Smart Watch ไหม?
อาจจะเป็นคำถามที่ตอบยากสักหน่อยแต่ก็อาจจะสามารถตอบโดยรวมได้ว่าขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งาน smart watch ของทุกคนเลย สำหรับสายออกกำลังกายก็แน่นอนว่านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จะสามารถเข้ามาเป็นส่วนช่วยที่สำคัญในการเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพที่บันทึกการออกกำลังกายหรือข้อมูลด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ หรือสำหรับใครที่ต้องการนำมาเป็นเครื่องมือเพิ่มความสะดวกในการรับการแจ้งเตือนหรือฟังก์ชันอื่น ๆ นอกจากโทรศัพท์มือถือก็ดี นอกจากนั้นการเป็นเครื่องประดับก็อาจจะไม่เกินไปเลย เพราะนาฬิกา อัจฉริยะที่ออกมาแต่ละรุ่นนั้นก็มีการพัฒนาหน้าตาเพิ่มความน่าใช้งานอยู่เสมอ หรือแม้แต่สำหรับเป็นนาฬิกาดูเวลาเฉย ๆ ก็ยังได้สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องราคา
ใครบ้างที่จะเหมาะกับ Smart Watch
แน่นอนว่าสำหรับสายออกกำลังกายหรือสายสุขภาพที่ไม่มีปัญหาในการใช้งานเทคโนโลยีก็ต้องมีติด smart watch อยู่สักเรือน เป็นตัวช่วยในการบันทึกการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี หรือเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพค่อยวัดค่าต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับใครที่ชอบเทคโนโลยีและไม่มีปัญหาด้านกำลังทรัพย์เช่นกัน ก็อาจจะมีเล็ง ๆ กันเอาไว้อยู่บ้างและนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเลือก smart watch ที่ดีที่สุดสำหรับคุณไปใช้งาน นอกจากนั้นสำหรับผู้สูงอายุก็อาจจะเริ่มมีความจำเป็นแล้วสำหรับการมีนาฬิกาเพื่อสุขภาพสวมติดตัวในยุคสมัยนี้ เพราะนี่จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจวัดค่าต่าง ๆ ในระหว่างวันเพิ่มทั้งความปลอดภัยในด้านร่างกายและสุขภาพ
วิธีการเลือกซื้อ Smartwatch
ก่อนที่จะไปดูรีวิว smart watchทั้ง 15 รุ่นเรามาดูปัจจัยในการตัดสินใจเลือกนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เพื่อตอบคำถามที่ว่า “นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รุ่นไหนดี”
ช่วงระดับราคา
นาฬิกา smart watch นั้นมีอยู่หลายระดับราคาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นจนถึงระดับพรีเมียมแน่นอนว่าก็จะมีความแตกต่างที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ เช่นความแม่นยำของเซนเซอร์ความครบครันของฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มา วัสดุงานประกอบและดีไซน์เป็นต้น เพราะฉะนั้นการกำหนดงบประมาณให้สอดคล้องกับการใช้งานนั้นสำคัญมาก
ขนาดหน้าจอ หน้าปัด หรือ ตัวเรือน
อีกหนึ่งเรื่องที่แล้วแต่ความชอบและความต้องการของแต่ละคนรวมถึงขนาดของข้อมือของแต่ละคนด้วย ยิ่งขนาดหน้าปัดหรือตัวเรือนมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากไปด้วยอาจจะดูเทอะทะเกินไปสำหรับผู้หญิงหรือใครหลายคน ในหลาย ๆ รุ่นนั้นจะมีขนาดของหน้าปัดให้เลือกทั้งใหญ่และเล็กเพราะให้สามารถเป็นได้ทั้ง นาฬิกา smart watch ผู้หญิง และ ผู้ชาย นอกจากในเรื่องขนาดแล้ว หน้าจอแสดงผลนั้นก็มีหลายรูปแบบในหลาย ๆ ครั้งเราจะต้องใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ในที่กลางแจ้งก็ต้องพิจารณาในเรื่องความสว่าง และสีสันที่สดใสด้วย เพิ่มให้มีความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
วัสดุ ผิวสัมผัส และความแข็งแรงทนทานได้มาตรฐาน
ในส่วนของเรื่องดีไซน์งานประกอบ วัสดุ และผิวสัมผัส ของ smart watch นั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญสอดคล้องกับเรื่องราคาที่ได้กล่าวไป เพราะฉะนั้นก็เป็นปัจจัยที่จะต้องเลือกให้สอดคล้องกับในเรื่องของงบประมาณ อีกเรื่องสำหรับด้านงานประกอบของคือมาตรฐานการกันน้ำ ในชีวิตประจำวันนั้นเรามีโอกาสที่จะได้ใส่นาฬิกา อัจฉริยะและโดดน้ำในระหว่างวันหรือในบางรุ่นนั้นสามารถที่จะใส่อาบน้ำหรือมีฟังก์ชันในการตรวจจับการออกกำลังกายทางน้ำได้ด้วย
ฟังก์ชันทำงาน
แน่นอนว่าในเรื่องสมาร์ทวอทช์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง ฟังก์ชันการใช้งานด้วยความสมาร์ทหรืออัจฉริยะที่มีมาให้เพราะฉะนั้น โดยทั่วไปแล้ว smart watch จะมากับความสามารถในการวัดค่าต่าง ๆ ผ่านเซนเซอร์ที่มีมาให้ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด SpO2 ตรวจจับการเคลื่อนไหว นับก้าวเดิน GPS ตรวจจับและบันทึกรายละเอียดขณะออกกำลังกายผ่านเซนเซอร์ที่มีมาให้และสามารถเชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อรับส่งข้อมูลได้อย่างราบรื่น แสดงผลการแจ้งเตือน ควบคุมการทำงานของโทรศัพท์มือถือในเบื้องต้น เช่น การควบคุมการเล่นเพลง ปรับเพิ่มลดเสียง อ่านและตอบข้อความ เป็นต้น
เซนเซอร์
เซนเซอร์ที่มีมาให้ก็ต้องมีคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ มาประมวลผลด้านสุขภาพและการออกกำลังกายต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระดับราคาด้วยเช่นกัน ถ้ายิ่งเป็น สมาร์ทวอทช์ ราคาสูง ก็จะมีโอกาสที่จะได้เซนเซอร์ที่มีคุณภาพสูงมีความแม่นยำให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงมากขึ้น ถึงอย่างนั้นก็มีรุ่นราคาคุ้มค่าอยู่หลายรุ่นที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ที่มีคุณภาพสูง มีความแม่นยำ เกินราคาเช่นกัน
ฟังก์ชันที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อสมาร์ทวอทช์
ด้านฟังก์ชันการใช้งานนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของทุกคนเลย ไม่ว่าจะเซนเซอร์ในการวัดอัตราการเต้นหัว, เซนเซอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2), ระบบ GPS, ความสามารถในการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างราบรื่นทั้งในกรณีของ iOS และ Android ความสามารถในการควบคุมโทรศัพท์มือถือในเบื้องต้น วัสดุงานประกอบที่ดูหรูหราพรีเมียมสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ หน้าจอสู้แสง หรือสีสันที่สดใส ทั้งนี้จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมาก็จะต้องพิจารณาเรื่องราคาร่วมด้วย สำหรับรุ่นราคาถูกก็อาจจะถูกตัดบางความสามารถไป
บทส่งท้าย
จบไปแล้วกับการรีวิว smart watch และ เปรียบเทียบ smart watch ของเราทั้ง 10 ตัวเราหวังว่าจะสามารถช่วยทุกคนในการตอบคำถามที่ว่า smart watch ยี่ห้อไหนดี, นาฬิกาอัจฉริยะ รุ่นไหนดี หรือ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รุ่นไหนดี และหวังว่าจะสามารถช่วยทุกคนในการเลือก smart watch ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนสำหรับใครที่อาจจะยังไม่เจอรุ่นที่ถูกใจในนี้ก็อาจจะยังพอได้ไอเดียในการเลือกรุ่นที่จะถูกใจไปใช้งานกัน แน่นอนว่าถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้ถูกคนได้ลองเข้าไปจับไปเลือกจริงตากร้านค้าของแต่ละแบรนด์ หวังว่านี้จะเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกในรุ่นที่ถูกใจได้
บทความแนะนำ
- แนะนำ 20 หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี มีครบทุกความต้องการ เสียงดีแบบฟังแล้วหูทองคำ
- แนะนำ 10 ลำโพงบลูทูธ ราคาไม่เกิน 2,000 บาท ยี่ห้อไหนดี เสียงดี เกินราคา
- แนะนำ 10 นาฬิกาวัดความดัน ยี่ห้อไหนดี
- แนะนำ 10 รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี รุ่นใหม่ เบา เด้ง นุ่ม มีทั้งรุ่นใช้ซ้อม และใช้แข่ง
- แนะนำ 10 จักรยานเสือหมอบ รุ่นไหนดี ใช้ง่าย น้ำหนักเบา