Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
cover image

ไมค์จ่อเครื่องดนตรี คืออะไร และมีอะไรบ้าง? พร้อมคำแนะนำเลือกไมค์อัดเสียงที่ดีที่สุด

ทำความรู้จักกับไมค์จ่อเครื่องดนตรีคืออะไร และชนิดต่างๆ ที่ใช้ในการอัดเสียงดนตรี รวมถึงเทคนิคและคำแนะนำในการเลือกไมค์อัดเสียงที่เหมาะสมสำหรับการบันทึกเสียงดนตรี

การบันทึกเสียงดนตรีให้มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งที่นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ทุกคนใส่ใจ โดยเฉพาะในการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม หนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญคือ "ไมค์จ่อเครื่องดนตรี" ซึ่งเป็นไมโครโฟนที่ใช้สำหรับการจับเสียงจากเครื่องดนตรีโดยตรง การเลือกไมค์ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้เสียงที่ชัดเจนและสมจริง แต่ยังช่วยให้การบันทึกเสียงดนตรีเป็นไปอย่างมืออาชีพ บทความนี้จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับไมค์จ่อเครื่องดนตรี รวมถึงชนิดต่างๆ ที่เหมาะสมกับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

ไมค์จ่อเครื่องดนตรี คืออะไร?

ไมค์จ่อเครื่องดนตรี คือไมโครโฟนที่ถูกออกแบบมาเพื่อจับเสียงจากเครื่องดนตรีโดยตรง โดยทั่วไปจะใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการการบันทึกเสียงจากเครื่องดนตรีเฉพาะอย่าง เช่น กีต้าร์ เปียโน กลอง หรือเครื่องดนตรีที่มีเสียงเด่นชัด ไมค์ประเภทนี้ช่วยให้ได้เสียงที่มีความละเอียดและคุณภาพสูง ทั้งในสตูดิโอบันทึกเสียงหรือในการแสดงสด

การใช้ไมค์จ่อเครื่องดนตรีจะช่วยให้ได้เสียงที่ชัดเจนและคมชัด ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกในงานผลิตเสียงดนตรี หรือแม้กระทั่งการเล่นสดในคอนเสิร์ต เพื่อให้เสียงจากเครื่องดนตรีไม่ถูกกลบหรือบิดเบือนจากเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ไมค์จ่อเครื่องดนตรียังสามารถช่วยให้เสียงจากเครื่องดนตรีต่างๆ ถูกบันทึกได้ตามลักษณะเฉพาะของเครื่องดนตรีนั้นๆ อย่างชัดเจนและแม่นยำ

การเลือกไมค์จ่อเครื่องดนตรีที่เหมาะสมกับประเภทของเครื่องดนตรีที่ต้องการบันทึกจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างเสียงที่ดีที่สุด


ชนิดของไมค์จ่อเครื่องดนตรี

การเลือกไมค์จ่อเครื่องดนตรีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้เสียงที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป สำหรับไมค์จ่อเครื่องดนตรีนั้น มีหลายชนิดที่เหมาะสมกับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นหลักๆ ดังนี้

  1. ไมค์คอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone)

คุณสมบัติ: ไมค์คอนเดนเซอร์เป็นไมโครโฟนที่มีความไวสูงและสามารถจับเสียงได้อย่างละเอียดและมีความโปร่งใสเหมาะสำหรับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น กีต้าร์อะคูสติก, เปียโน, หรือเครื่องดนตรีที่มีการแสดงเสียงที่หลากหลาย

การใช้งาน: ใช้ในสตูดิโอบันทึกเสียงหรือในการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ต้องการรายละเอียดสูง เช่น กีต้าร์อะคูสติก, ไวโอลิน, และเครื่องลม

  • ข้อดี:
    • ช่วยให้เสียงเป็นธรรมชาติและคมชัด
    • สามารถรับเสียงที่มีความละเอียดสูง
    • เหมาะกับการใช้งานในสตูดิโอที่มีการควบคุมเสียงรบกวน

  • ข้อเสีย:
    • ความไวสูงอาจทำให้รับเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมได้ง่าย
  1. ไมค์ไดนามิก (Dynamic Microphone)

คุณสมบัติ: ไมค์ไดนามิกมักจะมีความทนทานสูงและเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการไมค์ที่ทนทานต่อเสียงแรงและไม่จำเป็นต้องมีความไวสูงมาก เช่น การบันทึกเสียงจากกลองหรือกีต้าร์ไฟฟ้า

การใช้งาน: ใช้ในการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่เสียงมีความแรงหรือการแสดงสด เช่น กลอง, กีต้าร์ไฟฟ้า หรือเสียงเครื่องดนตรีที่มีการสั่นสะเทือนมาก

  • ข้อดี:
    • ทนทานและไม่เสียหายง่าย
    • มีความสามารถในการรับเสียงที่มีแรงดันสูงได้ดี
    • ราคาไม่แพงและใช้งานได้ง่าย
  • ข้อเสีย:
    • อาจไม่สามารถจับเสียงรายละเอียดหรือเสียงที่มีความละเอียดสูงได้เท่าไมค์คอนเดนเซอร์
  1. ไมค์ไฮบริด (Hybrid Microphone)

คุณสมบัติ: ไมค์ไฮบริดคือไมโครโฟนที่ผสมผสานคุณสมบัติของไมค์คอนเดนเซอร์และไมค์ไดนามิก โดยให้คุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถใช้งานได้หลายประเภททั้งในสตูดิโอและการแสดงสด

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ต้องการเสียงที่มีความละเอียดในบางช่วงและความทนทานในบางกรณี

  • ข้อดี:
    • สามารถใช้งานได้ในหลายสถานการณ์และกับเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท
    • มีคุณภาพเสียงที่ดีทั้งในสตูดิโอและในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน
  • ข้อเสีย:
    • อาจไม่เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ต้องการความละเอียดสูงสุด
  1. ไมค์ริบบอน (Ribbon Microphone)

คุณสมบัติ: ไมค์ริบบอนเป็นไมโครโฟนที่ใช้วัสดุริบบอนบางๆ ในการจับเสียง ทำให้เสียงที่ได้ออกมามีความเป็นธรรมชาติและอบอุ่น

การใช้งาน: มักจะใช้ในการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ต้องการเสียงที่อบอุ่นและนุ่มนวล เช่น กีต้าร์อะคูสติก หรือเครื่องลม

  • ข้อดี:
    • ให้เสียงที่อบอุ่นและนุ่มนวล
    • เหมาะกับการบันทึกเสียงที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ
  • ข้อเสีย:
    • มีความทนทานต่ำและอาจเกิดความเสียหายได้ง่ายหากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม


ตารางไมค์จ่อเครื่องดนตรีตามประเภทของเครื่องดนตรี

ประเภทเครื่องดนตรี ชนิดไมค์ที่แนะนำ เหตุผล ตำแหน่งการตั้งไมค์
กีต้าร์อะคูสติก ไมค์คอนเดนเซอร์ จับรายละเอียดเสียงที่ละเอียดและอบอุ่น วางไมค์ห่างจากกีต้าร์ 6-12 นิ้ว และตั้งไมค์ให้ตรงกับสะพานกีต้าร์หรือด้านข้างตัวเครื่อง
กีต้าร์ไฟฟ้า ไมค์ไดนามิก ทนทานต่อเสียงดังและมีความดันสูง ตั้งไมค์ใกล้ลำโพงแอมพลิฟายเออร์ (1-2 นิ้ว)
กลอง ไมค์ไดนามิก ทนทานต่อเสียงที่มีความดันสูง ตั้งไมค์ใกล้กับตัวกลองหรือที่เพลต (snare) หรือใช้ไมค์หลายตัวในการจับเสียงกลองชุด
เครื่องลม (เช่น ทรัมเป็ต, ซอปราโนแซ็กโซโฟน) ไมค์คอนเดนเซอร์ จับรายละเอียดเสียงที่มีความละเอียดและเป็นธรรมชาติ ตั้งไมค์ห่างจากปากเครื่องลมประมาณ 6-12 นิ้ว
เปียโน ไมค์คอนเดนเซอร์ จับเสียงที่ละเอียดและสะท้อนก้อง ใช้ไมค์ 2 ตัวในลักษณะสเตริโอหรือวางไมค์ที่บริเวณการเปิดของฝาปีกเปียโน
ไวโอลิน ไมค์คอนเดนเซอร์ จับเสียงที่ละเอียดและอ่อนไหว ตั้งไมค์ห่างจากตัวไวโอลินประมาณ 6-12 นิ้ว โดยตั้งไมค์ไปยังช่องเสียง
เครื่องดนตรีสตริง (เช่น เชลโล, ฮาร์ป) ไมค์คอนเดนเซอร์ ให้เสียงที่ละเอียดและอบอุ่น ตั้งไมค์ที่ข้างๆ ช่องเสียงของเครื่องดนตรี หรือส่วนท้ายของเชลโล


บทส่งท้าย

การเลือกไมค์จ่อเครื่องดนตรีที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการบันทึกเสียงดนตรีให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกไมค์คอนเดนเซอร์ที่ให้รายละเอียดเสียงที่คมชัดและเป็นธรรมชาติ หรือไมค์ไดนามิกที่ทนทานและสามารถรับเสียงที่มีความดันสูงได้ดี การเลือกไมค์ที่เหมาะสมกับประเภทของเครื่องดนตรีและตำแหน่งการตั้งไมค์อย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะใช้ในการบันทึกในสตูดิโอหรือการแสดงสด หากกำลังมองหาไมค์อัดเสียงที่เหมาะสมกับการใช้งาน ลองอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือก ไมค์อัดเสียง รุ่นไหนดี

สิ้นสุดบทความ