Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
cover image

ไมโครโฟนมีกี่แบบ? ทำความรู้จักก่อนเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน

รู้จักประเภทไมโครโฟนทั้ง Condenser, Dynamic, Ribbon และ USB Mic พร้อมข้อดีข้อเสีย วิธีเลือกให้เหมาะกับงานอัดเสียง พูดคุย หรือทำเพลง

ไมโครโฟนไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีแค่ “แพง = ดี” เพราะแต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งานที่แตกต่างกัน บางรุ่นเก่งเรื่องเก็บรายละเอียดเสียง บางรุ่นทนต่อสภาพแวดล้อมเสียงดัง และบางรุ่นใช้ง่ายเสียบแล้วพร้อมทำงาน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักไมโครโฟนประเภทหลัก ๆ วิธีแยกความแตกต่าง และเกณฑ์การเลือกซื้อให้ตรงกับการใช้งาน


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

5 ประเภทหลักของไมโครโฟน

1) Dynamic Microphone (ไดนามิก)

หลักการ: ไดอะแฟรมขับคอยล์เคลื่อนในสนามแม่เหล็ก (moving-coil) สร้างแรงดันไฟฟ้า
เสียง: หนา มวลดี เก็บทรานเชียนท์ (พลังระเบิด) ได้สมจริง แต่รายละเอียดปลายแหลมจะไม่ “ใสจัด” เท่า condenser

จุดเด่น

  • ทนเสียงดังมาก (High SPL): วางใกล้แหล่งเสียงดัง ๆ ได้สบาย เช่น กระเดื่อง/แอมป์กีตาร์
  • ทนมือทนสนาม: โครงสร้างแข็งแรง ใช้เวทีสด/พกพาได้ดี
  • ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง: ไม่มี phantom ก็ทำงาน

ข้อจำกัด

  • ไวต่ำกว่า: ต้องการเกนพรีแอมป์มาก (มัก ~55–60 dB ขึ้นไป โดยเฉพาะรุ่น broadcast)
  • เก็บห้องน้อย (ข้อดีสำหรับห้องก้อง) แต่รายละเอียด/อากาศปลายเสียงน้อยกว่า

สเปคที่ดู

  • Pattern: cardioid/supercardioid (กันเสียงรอบข้างดี)
  • Sensitivity: มัก ~1–2 mV/Pa (≈ −55 dBV/Pa)
  • Impedance: ~150–300 Ω
  • Max SPL: โดยปกติรับได้เกิน 150 dB

เหมาะกับ

  • ร้องสด, พอดแคสต์/สตรีมในห้องไม่เก็บเสียง, กลองสแนร์/ทอม/กีตาร์แอมป์

 

2) Condenser Microphone (คอนเดนเซอร์)

หลักการ: แผ่นไดอะแฟรมบางทำหน้าที่เป็นตัวเก็บประจุ (capacitor) ต้องมีวงจรแอคทีฟ/ไฟเลี้ยง (phantom 48V หรือแบต/USB)
เสียง: ใส เคลียร์ รายละเอียดสูง ตอบสนองความถี่กว้าง ทรานเชียนท์ไว

จุดเด่น

  • รายละเอียด/ความใส: เหมาะกับเสียงร้องในสตูดิโอ พอดแคสต์คุณภาพสูง เครื่องดนตรีอะคูสติก
  • ตัวเลือกหลากหลาย: แคปซูลขนาดต่างกันและแบบ multi-pattern (cardioid/omni/figure-8)

ข้อจำกัด

  • ไวต่อสิ่งแวดล้อม: เก็บเสียงห้อง/แอร์/สะท้อนผนังง่าย ต้องห้องคุมเสียง
  • ต้องใช้ไฟเลี้ยง: XLR ต้อง phantom 48V (ยกเว้น electret แบบมีแบต/USB)

สเปคที่ดู

  • ขนาดไดอะแฟรม:
    • Large-diaphragm (LDC): โทนอุ่น ใหญ่ เหมาะเสียงร้อง/วอยซ์โอเวอร์
    • Small-diaphragm (SDC): แม่นยำ ไวเร็ว เหมาะกีตาร์อะคูสติก/โอเวอร์เฮด
  • Self-noise: ยิ่งต่ำยิ่งดี (ไมค์สตูดิโอดี ๆ ~7–15 dBA; รุ่นเริ่มต้น ~20–25 dBA)
  • Sensitivity: มัก ~10–30 mV/Pa (≈ −40 ถึง −30 dBV/Pa)
  • Max SPL: ~120–140 dB (บางรุ่นมี pad −10/−20 dB เพิ่ม headroom)

 

3) Ribbon Microphone (ริบบอน)

หลักการ: แถบโลหะบาง (ริบบอน) แกว่งในสนามแม่เหล็ก → แปลงการสั่นเป็นไฟฟ้า
เสียง: นุ่ม อุ่น ปลายแหลมละมุน ให้ฟีล “วินเทจ” เป็นธรรมชาติสุด ๆ

จุดเด่น

  • โทนสวย/เนียน: ไม่นิ้ว (de-ess) ธรรมชาติ เหมาะกับบราสส์/วู้ดวินด์/กีตาร์แอมป์/สตริง
  • รูปแบบรับเสียง: โดยธรรมชาติเป็น figure-8 (หน้า-หลังรับเท่ากัน ข้างตัดเก่ง)

ข้อจำกัด

  • สัญญาณค่อนข้างเบา: Passive ribbon ต้องพรีแอมป์เกนสูงและนอยส์ต่ำมาก
  • เปราะ: แรงลมแรง/การเป่า/วางตะแคงใกล้วูฟเฟอร์ทำให้แถบขาดได้
  • Phantom power: รุ่นวินเทจ/พาสซีฟบางตัว ห้ามส่งไฟ 48V (แต่ Active ribbon ใช้ได้)

สเปคที่ดู

  • Sensitivity: ต่ำ (ใกล้ dynamic หรือต่ำกว่า)
  • ต้องการพรีแอมป์คุณภาพสูง: เกน 60–70 dB, EIN ต่ำ
  • Pattern: figure-8 (ใช้ประโยชน์จากด้าน “null” เพื่อตัดเสียงรอบข้างได้ดี)

เหมาะกับ

  • ห้องคุมเสียง, กีตาร์แอมป์ (ตั้งดี ๆ), บราสส์/สตริงที่อยากได้โทนอุ่น

4) USB Microphone

หลักการ: แคปซูล (มักเป็น condenser/electret) + พรีแอมป์ + A/D อยู่ในตัวเดียว → ต่อ USB เข้าคอม
เสียง: ขึ้นกับแคปซูล/การจูนของผู้ผลิต โดยรวม “พร้อมใช้” และสะดวก

จุดเด่น

  • Plug-and-Play: ไม่ต้องซื้อออดิโออินเตอร์เฟซ/พรีแอมป์แยก
  • มอนิเตอร์ในตัว: มีโหมด direct monitoring ลดดีเลย์ตอนพูด/ร้อง
  • ปรับตั้งง่าย: มีเกน/มิวต์/โหมด pattern ให้เลือกในบางรุ่น

ข้อจำกัด

  • อัปเกรดข้อจำกัด: ผูกกับไมค์นั้น ๆ เปลี่ยนพรี/แปลงสัญญาณไม่ได้
  • Latency/Driver: ต้องตั้งค่า buffer ให้เหมาะ และพีซี/พอร์ตต้องเสถียร

สเปคที่ดู

  • Bit depth/Sample rate: ควรอย่างน้อย 24-bit/48 kHz (บางรุ่นถึง 96 kHz)
  • Pattern/ฟีเจอร์: cardioid/omni/bi-directional, knob เกน, headphone out
  • Software: มี EQ/comp/Noise gate ในแอปไหม

เหมาะกับ

  • พอดแคสต์เดี่ยว/สตรีม/ประชุมออนไลน์/คอนเทนต์เร็ว ๆ ที่ต้องการ workflow ง่าย

 

5) Lavalier / Clip-on Microphone (ไมค์หนีบปกเสื้อ)

หลักการ: ส่วนใหญ่เป็น electret condenser ขนาดเล็ก ไวต่อเสียงพูดระยะใกล้
เสียง: ชัดตรงปาก ฟังเหมือน “ตามตัวผู้พูด” เหมาะกับวิดีโอ/สัมภาษณ์

จุดเด่น

  • คล่องตัว/ไม่ถือไมค์: หนีบเสื้อ/ปกเสื้อได้ ดูเรียบร้อยบนกล้อง
  • เชื่อมต่อหลากหลาย: TRRS (มือถือ), TRS (กล้อง/ไวเรส), XLR (สายยาว/อินเตอร์เฟซ), micro-dot/TA4F (แพ็คไวเรส)

ข้อจำกัด

  • เสียงเสียดสีกับผ้า/ผม/สร้อย: ต้องจัดตำแหน่งดีมาก
  • เก็บเสียงรอบข้างง่าย: ส่วนใหญ่เป็น omni → ต้องใช้ฟองน้ำ/เดดแคทถ้าลมแรง

สเปคที่ดู

  • Pattern: omni (ธรรมชาติ/คงที่เวลาเงย-ก้ม) หรือ cardioid (ตัดรบกวนดีขึ้นแต่จูนยาก)
  • ไร้สาย: ดูระบบความถี่, ช่วงสัญญาณ, ความหน่วง, แบตเตอรี่
  • อะแดปเตอร์: ให้เข้ากับอุปกรณ์ปลายทาง (มือถือ/กล้อง/อินเตอร์เฟซ)

เหมาะกับ

  • สัมภาษณ์, วิดีโอรีพอร์ต, พิธีกร, วล็อกนอกสถานที่

ตารางเปรียบเทียบไมโครโฟนแต่ละประเภท

ประเภท เสียง/โทน กันเสียงรอบข้าง ไฟเลี้ยง เกนที่ต้องใช้ ใช้กับ
Dynamic หนา พลังดี รายละเอียดปลายแหลมน้อยกว่า ดีมาก (cardioid) ไม่ต้อง สูง (บ่อยครั้ง >55 dB) เวทีสด, พอดแคสต์ห้องก้อง, กลอง/แอมป์
Condenser ใส รายละเอียดสูง เวทีเสียงกว้าง ปานกลาง–น้อย (เก็บห้องง่าย) ต้อง (48V/แบต/USB) ปานกลาง สตูดิโอ, วอยซ์โอเวอร์, อะคูสติก
Ribbon อุ่น นุ่ม วินเทจ ดี (ใช้ null ของ figure-8) Passive ไม่ต้อง / Active ต้อง สูงมาก/พรีเงียบ บราสส์, กีตาร์แอมป์, สตริง
USB ขึ้นกับการจูน แต่ “พร้อมใช้” ขึ้นกับแพทเทิร์น/การวาง จ่ายจาก USB ไม่เกี่ยว (รวมในตัว) สตรีม/ประชุม/พอดแคสต์มือใหม่
Lavalier ชัดติดปาก ธรรมชาติ (omni) น้อย (เก็บรอบข้างง่าย) แบต/ปลายทาง/ไวเรส ต่ำ สัมภาษณ์/วิดีโอนอกสถานที่

สรุปเลือกไมโครโฟนประเภทไหนดี

สถานการณ์ ประเภทไมค์แนะนำ เหตุผล
ห้องก้อง / ไม่มีการเก็บเสียง Dynamic (Cardioid) เก็บเสียงเฉพาะด้านหน้า ตัดเสียงรอบข้างได้ดี รายละเอียดพอเหมาะ เหมาะกับพอดแคสต์/สตรีม
สตูดิโอ / ห้องเงียบ ต้องการเสียงใสละเอียด Condenser (Large diaphragm) เก็บรายละเอียดสูง เหมาะกับเสียงร้อง เพลง พอดแคสต์คุณภาพ
โทนวินเทจ / เสียงนุ่มเป็นธรรมชาติ Ribbon ให้โทนอุ่น นุ่ม เหมาะกับเครื่องดนตรีอะคูสติกหรือบราสส์
มือใหม่ / ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน USB Microphone Plug-and-Play ไม่ต้องใช้อินเตอร์เฟซ เหมาะกับประชุมออนไลน์และสตรีม
งานสัมภาษณ์ / วิดีโอนอกสถานที่ Lavalier (Clip-on) เล็ก คล่องตัว เก็บเสียงพูดใกล้ตัวผู้ใช้

บทส่งท้าย

การเลือกไมโครโฟนไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม และคุณภาพเสียงที่คุณต้องการ หากคุณทำความเข้าใจข้อดีข้อจำกัดของไมค์แต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น Dynamic, Condenser, Ribbon, USB หรือ Lavalier ก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายและได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน ถ้ากำลังมองหาไมค์อัดเสียงสักตัว แต่ยังไม่แน่ใจว่ารุ่นไหนเหมาะกับงาน แนะนำให้ไปอ่านรีวิวแบบละเอียดในบทความ ไมค์อัดเสียง รุ่นไหนดี เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

สิ้นสุดบทความ