Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
cover image

ระหว่าง iPad กับ Samsung Tab อะไรดีกว่ากัน? เจาะลึกฟีเจอร์และข้อแตกต่างที่ควรรู้

เปรียบเทียบ iPad กับ Samsung Tab รุ่นไหนดีกว่า? อัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับดีไซน์ ประสิทธิภาพ ราคา และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

การแข่งขันระหว่าง iPad และ Samsung Tab ยังคงดุเดือดไม่น้อยทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกประเภท ตั้งแต่การใช้งานทั่วไป การทำงานทางธุรกิจ ไปจนถึงการใช้ในด้านการศึกษาและความบันเทิง ซึ่งทั้งสองแบรนด์ต่างมีจุดเด่นที่ชัดเจนและได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดแท็บเล็ต การเลือกซื้อระหว่าง iPad และ Samsung Tab จึงอาจทำให้หลายคนรู้สึกสับสน เนื่องจากทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่จะมีจุดไหนบ้างที่ทำให้แต่ละรุ่นโดดเด่นแตกต่างกันออกไป? วันนี้เราจะมาช่วยหาคำตอบว่าระหว่าง iPad กับ Samsung Tab รุ่นไหนดีกว่ากัน


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

ความแตกต่างระหว่าง iPad vs Samsung Tab

  1. ระบบปฏิบัติการ
  • iPad ใช้ iPadOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Apple มุ่งเน้นการใช้งานที่เสถียรและง่ายดาย รวมถึงการเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น iPhone, MacBook, และ Apple Watch ผ่านระบบ Ecosystem ที่ทำงานร่วมกันได้ดีมาก
  • Samsung Tab ใช้ Android โดยที่มีการปรับแต่ง UI ให้เป็น One UI ที่ของ Samsung เอง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันจากหลายแหล่ง ไม่จำกัดแค่ App Store เหมือนกับ iPad
  1. ประสิทธิภาพ
  • iPad โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป Apple M4 หรือ M3 (ใน iPad Pro) ซึ่งมอบพลังการประมวลผลที่เร็วและแรงมาก ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้พลังสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเล่นเกมหนัก ๆ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันทางธุรกิจ
  • Samsung Tab ใช้ชิปเซ็ต Exynos หรือ Snapdragon ขึ้นอยู่กับรุ่น ซึ่งก็ให้ประสิทธิภาพที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะในรุ่นสูงสุดเช่น Samsung Galaxy Tab S10 ที่รองรับการทำงานหนัก แต่โดยรวม iPad ยังคงมีความเหนือชั้นในด้านการประมวลผลที่แรงกว่า
  1. ดีไซน์และคุณภาพการสร้าง
  • iPad มีดีไซน์ที่เรียบหรู ขอบบาง และวัสดุคุณภาพสูง เช่น อลูมิเนียมและกระจก ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราและทนทาน
  • Samsung Tab Samsung มักออกแบบ Galaxy Tab ให้มีความทันสมัย มีการใช้วัสดุที่ค่อนข้างทนทาน เช่น กระจกและโลหะ ตัวเครื่องบางและเบาเช่นเดียวกับ iPad แต่บางรุ่นอาจมีจุดเด่นในการรองรับ S Pen (สไตลัส) ซึ่งทำให้เหมาะกับการจดบันทึกหรือวาดภาพ
  1. จอแสดงผล
  • iPad มักมาพร้อมกับ จอ Retina Display ที่ให้สีสันสดใส และความคมชัดสูง รวมถึงการรองรับ True Tone และ ProMotion (สำหรับ iPad Pro) ซึ่งช่วยให้การแสดงผลมีความละเอียดและลื่นไหลมาก
  • Samsung Tab มีการใช้ Super AMOLED หรือ LTPS LCD ที่มีสีสันคมชัดและมีความสดใส โดย Super AMOLED ของ Samsung ให้คอนทราสต์ที่ดีและสีสันที่สะท้อนได้อย่างสมจริง
  1. ฟีเจอร์พิเศษ
  • iPad รองรับการใช้งาน Apple Pencil ที่ให้ความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับการวาดภาพและจดบันทึก มี Face ID สำหรับการปลดล็อกเครื่อง และรองรับ 5G ในบางรุ่น
  • Samsung Tab รองรับ S Pen ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในการใช้งาน เช่น การเขียนบันทึก การวาดภาพ หรือการควบคุมเครื่องโดยไม่สัมผัสหน้าจอ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Samsung อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
  1. การเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น
  • iPad การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นของ Apple เช่น iPhone หรือ MacBook มักจะเป็นจุดแข็งของ iPad โดยเฉพาะผ่าน AirDrop, Handoff, และ iCloud ที่ทำให้การโอนย้ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • Samsung Tab การเชื่อมต่อในระบบ Samsung Galaxy ให้คุณสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน Samsung, SmartThings และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ดี พร้อมกับการใช้งาน Samsung DeX ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เหมือนกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปได้
  1. ราคา
  • iPad โดยทั่วไป iPad จะมีราคาที่สูงกว่า Samsung Tab โดยเฉพาะรุ่น Pro และรุ่นที่รองรับ 5G แม้ว่าจะมีรุ่นเริ่มต้นราคาถูก แต่ยังคงมีราคาสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ตแท็บเล็ตทั่วไป
  • Samsung Tab มักจะมีรุ่นที่หลากหลายและเหมาะกับงบประมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy Tab S10 ซึ่งมีราคาที่คุ้มค่าและแข่งขันได้ดีในตลาด
  1. แบตเตอรี่และการใช้งาน
  • iPad มักมีการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีและยาวนาน โดย iPad Pro และ iPad Air สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป
  • Samsung Tab โดยทั่วไปการใช้งานแบตเตอรี่ของ Samsung Tab ก็สามารถใช้งานได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่นและการตั้งค่าการใช้งาน

ฟีเจอร์เด่น iPad vs Samsung Tab

ฟีเจอร์เด่นของ iPad

  • iPad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับชิป Apple M4 และ M3 ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม รองรับการทำงานที่หนักหน่วง เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K การเล่นเกมกราฟิกหนัก หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลสูง ทำให้ iPad Pro เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่เร็วที่สุดในตลาด
  • Apple Pencil เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ iPad โดยเฉพาะ iPad Pro ซึ่งรองรับการใช้งานที่แม่นยำสูง สำหรับการวาดภาพ, การจดบันทึก, หรือการทำงานที่ต้องการความละเอียด เช่น การออกแบบกราฟิก และการวาดแผนที่

  • Face ID (สำหรับ iPad Pro) ทำให้การปลดล็อกเครื่องเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมกับระบบ Touch ID ที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือในบางรุ่น ทั้งนี้ทำให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัย

  • ระบบปฏิบัติการ iPadOS มีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานแท็บเล็ตเหมือนกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น รวมถึงการรองรับ Multitasking (ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน) และการใช้ Split View ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานพร้อมกันหลาย ๆ อย่างได้

  • iPad เป็นส่วนหนึ่งของ Apple Ecosystem ทำให้การทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น iPhone, MacBook, Apple Watch, และ AirPods เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการใช้ Handoff และ AirDrop ที่ช่วยให้การโอนย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว

  • ProMotion คือการรองรับการแสดงผลที่ 120Hz ซึ่งช่วยให้การแสดงผลลื่นไหลและตอบสนองเร็วขึ้น เช่น การเลื่อนหน้าเว็บ การเล่นเกม หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการความละเอียด

  • iPad Pro และ iPad Air รองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นและเสถียรขึ้น โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง

ฟีเจอร์เด่นของ Samsung Tab

  • Samsung Tab รุ่น Galaxy Tab S และ Galaxy Tab A รองรับการใช้งาน S Pen ซึ่งช่วยในการเขียนหรือวาดได้อย่างแม่นยำและสะดวก S Pen สามารถใช้ในการจดบันทึก, วาดภาพ, หรือควบคุมเครื่องจากระยะไกล เช่น การถ่ายภาพและการเลื่อนหน้าจอ

  • ฟีเจอร์ Samsung DeX ทำให้ Samsung Tab สามารถเปลี่ยนไปเป็น Desktop Mode ซึ่งมีการแสดงผลเหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันในรูปแบบเดสก์ท็อป เช่น การเปิดหลายหน้าต่างพร้อมกัน เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่หรือการใช้งานออฟฟิศ

  • Samsung Tab รุ่นสูงเช่น Galaxy Tab S10 ใช้ Super AMOLED Display ซึ่งให้สีสันที่สดใสและคอนทราสต์สูง โดยเหมาะสำหรับการดูสื่อบันเทิง เช่น วิดีโอหรือการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกที่สมจริง

  • One UI เป็นการปรับแต่งระบบ Android ของ Samsung ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่สวยงามและใช้งานง่าย ฟีเจอร์ Samsung Multi-Window ช่วยให้สามารถเปิดหลายแอปพร้อมกันได้สะดวก เช่น การใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันในหน้าจอเดียว

  • Samsung Tab รุ่นส่วนใหญ่รองรับ MicroSD ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลตามต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพาแค่พื้นที่ในตัวเครื่อง

  • Samsung Tab มักมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะรุ่นสูงสุดที่มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และยังรองรับ Fast Charging ที่ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น

  • ฟีเจอร์ One-Handed Mode ของ Samsung ช่วยให้สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้ง่ายขึ้นด้วยมือเดียว โดยจะปรับขนาดหน้าจอให้เล็กลง ทำให้การใช้งานสะดวกและเหมาะสำหรับการใช้มือเดียว

  • Samsung Tab สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายใน Samsung Galaxy Ecosystem ได้ เช่น สมาร์ตโฟน, นาฬิกา Galaxy, และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน Samsung Flow หรือ SmartThings เพื่อให้การทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

ตารางเปรียบเทียบ iPad vs Samsung Tab

คุณสมบัติ iPad Samsung Tab
ระบบปฏิบัติการ iPadOS (เฉพาะสำหรับ iPad) Android (One UI ของ Samsung)
ชิปเซ็ต Apple M4 / M3 (สำหรับ iPad Pro), A16 Bionic / A15 Bionic (รุ่นทั่วไป) Exynos หรือ Snapdragon (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
จอแสดงผล Retina Display, ProMotion (120Hz สำหรับ iPad Pro), True Tone Super AMOLED / LTPS LCD (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
การรองรับสไตลัส Apple Pencil 2nd Gen (เฉพาะ iPad Pro, iPad Air) S Pen (รองรับกับ Galaxy Tab S รุ่นสูง)
ฟีเจอร์เด่น Face ID, Touch ID, 5G (บางรุ่น), iPadOS, Apple Ecosystem Samsung DeX, One UI, S Pen, Expandable Storage (MicroSD)
ระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi, 5G (บางรุ่น), Bluetooth, AirDrop, Handoff Wi-Fi, 5G (บางรุ่น), Bluetooth, Samsung Flow, SmartThings
การใช้งานหลายหน้าต่าง Split View, Slide Over Multi-Window, Samsung DeX (Desktop Mode)
แบตเตอรี่ 10-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน) 10-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน)
การชาร์จเร็ว รองรับ Fast Charging (เฉพาะรุ่น) รองรับ Fast Charging (บางรุ่น)
กล้อง กล้องหลัง 12 MP (iPad Pro), กล้องหน้า 12 MP (Center Stage สำหรับ iPad Pro) กล้องหลัง 13 MP, กล้องหน้า 8 MP (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
ขนาดและน้ำหนัก ขนาดและน้ำหนักแตกต่างตามรุ่น (iPad mini, iPad Air, iPad Pro) ขนาดและน้ำหนักแตกต่างตามรุ่น (Galaxy Tab A, Tab S)
ราคา ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,000 บาท (รุ่นทั่วไป) ไปจนถึง 30,000 บาท (iPad Pro) ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,000 บาท (Galaxy Tab A) ไปจนถึง 25,000 บาท (Galaxy Tab S)
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น รองรับการทำงานร่วมกับ iPhone, MacBook, Apple Watch และอื่น ๆ ใน Apple Ecosystem รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ใน Galaxy Ecosystem เช่น สมาร์ตโฟน, สมาร์ตวอทช์
ฟีเจอร์พิเศษ Face ID, ProMotion Display, Apple Pencil, iCloud Samsung DeX, S Pen, One-Handed Mode, Expandable Storage

สรุปเลือกอะไรดีระหว่าง iPad หรือ Samsung Tab

เลือก iPad ถ้า

  • หากใช้ iPhone, MacBook, Apple Watch หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple อยู่แล้ว การเลือก iPad จะทำให้การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เหล่านี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้วย iCloud, AirDrop, Handoff, และการรองรับระบบ Apple Ecosystem ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดี
  • ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและความเสถียร iPad Pro โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ ชิป Apple M4/M3 ให้ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เหมาะกับการทำงานที่ต้องการพลังสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลสูง
  • ต้องการความสะดวกในการใช้งานและคุณภาพจอที่ดี ProMotion Display (120Hz) และ True Tone ให้การแสดงผลที่นุ่มนวลและคมชัด เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การวาดภาพและการเล่นเกม
  • ใช้ Apple Pencil และต้องการการเขียนที่แม่นยำ Apple Pencil รองรับการเขียนที่ละเอียดและแม่นยำ เหมาะกับการวาดภาพ การจดบันทึก หรือการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • ต้องการความปลอดภัยสูง การใช้งาน Face ID หรือ Touch ID ทำให้ iPad เป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยสูง

เลือก Samsung Tab ถ้า

  • ต้องการฟีเจอร์ที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ Samsung Tab ใช้ระบบ Android และ One UI ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งทั้งในเรื่องของการใช้งานหน้าจอและแอปพลิเคชัน ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งการใช้งาน
  • ต้องการใช้ S Pen ของ Samsung Tab เหมาะกับการเขียน การจดบันทึก หรือการวาดภาพ และไม่ต้องเสียเงินซื้อแยกต่างหาก (ในรุ่นที่รองรับ)
  • ต้องการประสบการณ์การทำงานแบบเดสก์ท็อป Samsung DeX ช่วยให้ Samsung Tab เปลี่ยนเป็น Desktop Mode ได้ ทำให้การใช้งานเหมือนกับการใช้คอมพิวเตอร์บนแท็บเล็ต เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการหลายหน้าต่างพร้อมกัน
  • ต้องการ MicroSD สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล Samsung Tab รองรับการใช้งาน MicroSD ซึ่งช่วยให้คุณเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก
  • ต้องการการเชื่อมต่อใน Galaxy Ecosystem หากใช้ สมาร์ตโฟน Samsung หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบ Galaxy Ecosystem เช่น Galaxy Watch หรือ Galaxy Buds การใช้ Samsung Tab จะทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่นและสะดวกมากขึ้น
  • มองหาความคุ้มค่าในเรื่องราคา Samsung Tab มักมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า iPad และมีรุ่นที่เหมาะกับงบประมาณหลายระดับ

บทส่งท้าย

หลังจากที่เราได้เปรียบเทียบ iPad และ Samsung Tab กันไปในหลาย ๆ ด้านแล้ว เราหวังว่าจะสามารถช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า iPad หรือ Samsung Tab เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานที่ต้องการ เช่น หากใช้ระบบ Apple Ecosystem และต้องการความเสถียรสูง iPad อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากต้องการฟีเจอร์ที่หลากหลายและราคาที่คุ้มค่า Samsung Tab ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากกำลังมองหาแท็บเล็ต Samsung ที่เหมาะสมกับการใช้งาน อย่าลืมเข้าไปอ่านเพิ่มเติมใน แท็บเล็ต Samsung รุ่นไหนดี

สิ้นสุดบทความ