การแข่งขันระหว่าง iPad และ Samsung Tab ยังคงดุเดือดไม่น้อยทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกประเภท ตั้งแต่การใช้งานทั่วไป การทำงานทางธุรกิจ ไปจนถึงการใช้ในด้านการศึกษาและความบันเทิง ซึ่งทั้งสองแบรนด์ต่างมีจุดเด่นที่ชัดเจนและได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดแท็บเล็ต การเลือกซื้อระหว่าง iPad และ Samsung Tab จึงอาจทำให้หลายคนรู้สึกสับสน เนื่องจากทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่จะมีจุดไหนบ้างที่ทำให้แต่ละรุ่นโดดเด่นแตกต่างกันออกไป? วันนี้เราจะมาช่วยหาคำตอบว่าระหว่าง iPad กับ Samsung Tab รุ่นไหนดีกว่ากัน

บรรณาธิการ
Table of Contents
ความแตกต่างระหว่าง iPad vs Samsung Tab
- ระบบปฏิบัติการ
- iPad ใช้ iPadOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Apple มุ่งเน้นการใช้งานที่เสถียรและง่ายดาย รวมถึงการเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น iPhone, MacBook, และ Apple Watch ผ่านระบบ Ecosystem ที่ทำงานร่วมกันได้ดีมาก

- Samsung Tab ใช้ Android โดยที่มีการปรับแต่ง UI ให้เป็น One UI ที่ของ Samsung เอง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันจากหลายแหล่ง ไม่จำกัดแค่ App Store เหมือนกับ iPad

- ประสิทธิภาพ
- iPad โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป Apple M4 หรือ M3 (ใน iPad Pro) ซึ่งมอบพลังการประมวลผลที่เร็วและแรงมาก ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้พลังสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเล่นเกมหนัก ๆ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันทางธุรกิจ
- Samsung Tab ใช้ชิปเซ็ต Exynos หรือ Snapdragon ขึ้นอยู่กับรุ่น ซึ่งก็ให้ประสิทธิภาพที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะในรุ่นสูงสุดเช่น Samsung Galaxy Tab S10 ที่รองรับการทำงานหนัก แต่โดยรวม iPad ยังคงมีความเหนือชั้นในด้านการประมวลผลที่แรงกว่า
- ดีไซน์และคุณภาพการสร้าง
- iPad มีดีไซน์ที่เรียบหรู ขอบบาง และวัสดุคุณภาพสูง เช่น อลูมิเนียมและกระจก ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราและทนทาน
- Samsung Tab Samsung มักออกแบบ Galaxy Tab ให้มีความทันสมัย มีการใช้วัสดุที่ค่อนข้างทนทาน เช่น กระจกและโลหะ ตัวเครื่องบางและเบาเช่นเดียวกับ iPad แต่บางรุ่นอาจมีจุดเด่นในการรองรับ S Pen (สไตลัส) ซึ่งทำให้เหมาะกับการจดบันทึกหรือวาดภาพ
- จอแสดงผล
- iPad มักมาพร้อมกับ จอ Retina Display ที่ให้สีสันสดใส และความคมชัดสูง รวมถึงการรองรับ True Tone และ ProMotion (สำหรับ iPad Pro) ซึ่งช่วยให้การแสดงผลมีความละเอียดและลื่นไหลมาก
- Samsung Tab มีการใช้ Super AMOLED หรือ LTPS LCD ที่มีสีสันคมชัดและมีความสดใส โดย Super AMOLED ของ Samsung ให้คอนทราสต์ที่ดีและสีสันที่สะท้อนได้อย่างสมจริง
- ฟีเจอร์พิเศษ
- iPad รองรับการใช้งาน Apple Pencil ที่ให้ความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับการวาดภาพและจดบันทึก มี Face ID สำหรับการปลดล็อกเครื่อง และรองรับ 5G ในบางรุ่น
- Samsung Tab รองรับ S Pen ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในการใช้งาน เช่น การเขียนบันทึก การวาดภาพ หรือการควบคุมเครื่องโดยไม่สัมผัสหน้าจอ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Samsung อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
- การเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น
- iPad การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นของ Apple เช่น iPhone หรือ MacBook มักจะเป็นจุดแข็งของ iPad โดยเฉพาะผ่าน AirDrop, Handoff, และ iCloud ที่ทำให้การโอนย้ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
- Samsung Tab การเชื่อมต่อในระบบ Samsung Galaxy ให้คุณสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน Samsung, SmartThings และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ดี พร้อมกับการใช้งาน Samsung DeX ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เหมือนกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปได้
- ราคา
- iPad โดยทั่วไป iPad จะมีราคาที่สูงกว่า Samsung Tab โดยเฉพาะรุ่น Pro และรุ่นที่รองรับ 5G แม้ว่าจะมีรุ่นเริ่มต้นราคาถูก แต่ยังคงมีราคาสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ตแท็บเล็ตทั่วไป
- Samsung Tab มักจะมีรุ่นที่หลากหลายและเหมาะกับงบประมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy Tab S10 ซึ่งมีราคาที่คุ้มค่าและแข่งขันได้ดีในตลาด
- แบตเตอรี่และการใช้งาน
- iPad มักมีการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีและยาวนาน โดย iPad Pro และ iPad Air สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป
- Samsung Tab โดยทั่วไปการใช้งานแบตเตอรี่ของ Samsung Tab ก็สามารถใช้งานได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่นและการตั้งค่าการใช้งาน
ฟีเจอร์เด่น iPad vs Samsung Tab
ฟีเจอร์เด่นของ iPad
- iPad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับชิป Apple M4 และ M3 ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม รองรับการทำงานที่หนักหน่วง เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K การเล่นเกมกราฟิกหนัก หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลสูง ทำให้ iPad Pro เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่เร็วที่สุดในตลาด
- Apple Pencil เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ iPad โดยเฉพาะ iPad Pro ซึ่งรองรับการใช้งานที่แม่นยำสูง สำหรับการวาดภาพ, การจดบันทึก, หรือการทำงานที่ต้องการความละเอียด เช่น การออกแบบกราฟิก และการวาดแผนที่
- Face ID (สำหรับ iPad Pro) ทำให้การปลดล็อกเครื่องเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมกับระบบ Touch ID ที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือในบางรุ่น ทั้งนี้ทำให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัย
- ระบบปฏิบัติการ iPadOS มีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานแท็บเล็ตเหมือนกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น รวมถึงการรองรับ Multitasking (ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน) และการใช้ Split View ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานพร้อมกันหลาย ๆ อย่างได้
- iPad เป็นส่วนหนึ่งของ Apple Ecosystem ทำให้การทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น iPhone, MacBook, Apple Watch, และ AirPods เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการใช้ Handoff และ AirDrop ที่ช่วยให้การโอนย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
- ProMotion คือการรองรับการแสดงผลที่ 120Hz ซึ่งช่วยให้การแสดงผลลื่นไหลและตอบสนองเร็วขึ้น เช่น การเลื่อนหน้าเว็บ การเล่นเกม หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการความละเอียด
- iPad Pro และ iPad Air รองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นและเสถียรขึ้น โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง
ฟีเจอร์เด่นของ Samsung Tab
- Samsung Tab รุ่น Galaxy Tab S และ Galaxy Tab A รองรับการใช้งาน S Pen ซึ่งช่วยในการเขียนหรือวาดได้อย่างแม่นยำและสะดวก S Pen สามารถใช้ในการจดบันทึก, วาดภาพ, หรือควบคุมเครื่องจากระยะไกล เช่น การถ่ายภาพและการเลื่อนหน้าจอ
- ฟีเจอร์ Samsung DeX ทำให้ Samsung Tab สามารถเปลี่ยนไปเป็น Desktop Mode ซึ่งมีการแสดงผลเหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันในรูปแบบเดสก์ท็อป เช่น การเปิดหลายหน้าต่างพร้อมกัน เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่หรือการใช้งานออฟฟิศ
- Samsung Tab รุ่นสูงเช่น Galaxy Tab S10 ใช้ Super AMOLED Display ซึ่งให้สีสันที่สดใสและคอนทราสต์สูง โดยเหมาะสำหรับการดูสื่อบันเทิง เช่น วิดีโอหรือการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกที่สมจริง
- One UI เป็นการปรับแต่งระบบ Android ของ Samsung ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่สวยงามและใช้งานง่าย ฟีเจอร์ Samsung Multi-Window ช่วยให้สามารถเปิดหลายแอปพร้อมกันได้สะดวก เช่น การใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันในหน้าจอเดียว
- Samsung Tab รุ่นส่วนใหญ่รองรับ MicroSD ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลตามต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพาแค่พื้นที่ในตัวเครื่อง
- Samsung Tab มักมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะรุ่นสูงสุดที่มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และยังรองรับ Fast Charging ที่ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น
- ฟีเจอร์ One-Handed Mode ของ Samsung ช่วยให้สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้ง่ายขึ้นด้วยมือเดียว โดยจะปรับขนาดหน้าจอให้เล็กลง ทำให้การใช้งานสะดวกและเหมาะสำหรับการใช้มือเดียว
- Samsung Tab สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายใน Samsung Galaxy Ecosystem ได้ เช่น สมาร์ตโฟน, นาฬิกา Galaxy, และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน Samsung Flow หรือ SmartThings เพื่อให้การทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
ตารางเปรียบเทียบ iPad vs Samsung Tab
คุณสมบัติ | iPad | Samsung Tab |
---|---|---|
ระบบปฏิบัติการ | iPadOS (เฉพาะสำหรับ iPad) | Android (One UI ของ Samsung) |
ชิปเซ็ต | Apple M4 / M3 (สำหรับ iPad Pro), A16 Bionic / A15 Bionic (รุ่นทั่วไป) | Exynos หรือ Snapdragon (ขึ้นอยู่กับรุ่น) |
จอแสดงผล | Retina Display, ProMotion (120Hz สำหรับ iPad Pro), True Tone | Super AMOLED / LTPS LCD (ขึ้นอยู่กับรุ่น) |
การรองรับสไตลัส | Apple Pencil 2nd Gen (เฉพาะ iPad Pro, iPad Air) | S Pen (รองรับกับ Galaxy Tab S รุ่นสูง) |
ฟีเจอร์เด่น | Face ID, Touch ID, 5G (บางรุ่น), iPadOS, Apple Ecosystem | Samsung DeX, One UI, S Pen, Expandable Storage (MicroSD) |
ระบบการเชื่อมต่อ | Wi-Fi, 5G (บางรุ่น), Bluetooth, AirDrop, Handoff | Wi-Fi, 5G (บางรุ่น), Bluetooth, Samsung Flow, SmartThings |
การใช้งานหลายหน้าต่าง | Split View, Slide Over | Multi-Window, Samsung DeX (Desktop Mode) |
แบตเตอรี่ | 10-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน) | 10-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน) |
การชาร์จเร็ว | รองรับ Fast Charging (เฉพาะรุ่น) | รองรับ Fast Charging (บางรุ่น) |
กล้อง | กล้องหลัง 12 MP (iPad Pro), กล้องหน้า 12 MP (Center Stage สำหรับ iPad Pro) | กล้องหลัง 13 MP, กล้องหน้า 8 MP (ขึ้นอยู่กับรุ่น) |
ขนาดและน้ำหนัก | ขนาดและน้ำหนักแตกต่างตามรุ่น (iPad mini, iPad Air, iPad Pro) | ขนาดและน้ำหนักแตกต่างตามรุ่น (Galaxy Tab A, Tab S) |
ราคา | ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,000 บาท (รุ่นทั่วไป) ไปจนถึง 30,000 บาท (iPad Pro) | ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,000 บาท (Galaxy Tab A) ไปจนถึง 25,000 บาท (Galaxy Tab S) |
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น | รองรับการทำงานร่วมกับ iPhone, MacBook, Apple Watch และอื่น ๆ ใน Apple Ecosystem | รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ใน Galaxy Ecosystem เช่น สมาร์ตโฟน, สมาร์ตวอทช์ |
ฟีเจอร์พิเศษ | Face ID, ProMotion Display, Apple Pencil, iCloud | Samsung DeX, S Pen, One-Handed Mode, Expandable Storage |
สรุปเลือกอะไรดีระหว่าง iPad หรือ Samsung Tab
เลือก iPad ถ้า
- หากใช้ iPhone, MacBook, Apple Watch หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple อยู่แล้ว การเลือก iPad จะทำให้การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เหล่านี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้วย iCloud, AirDrop, Handoff, และการรองรับระบบ Apple Ecosystem ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดี
- ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและความเสถียร iPad Pro โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ ชิป Apple M4/M3 ให้ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เหมาะกับการทำงานที่ต้องการพลังสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลสูง
- ต้องการความสะดวกในการใช้งานและคุณภาพจอที่ดี ProMotion Display (120Hz) และ True Tone ให้การแสดงผลที่นุ่มนวลและคมชัด เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การวาดภาพและการเล่นเกม
- ใช้ Apple Pencil และต้องการการเขียนที่แม่นยำ Apple Pencil รองรับการเขียนที่ละเอียดและแม่นยำ เหมาะกับการวาดภาพ การจดบันทึก หรือการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
- ต้องการความปลอดภัยสูง การใช้งาน Face ID หรือ Touch ID ทำให้ iPad เป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยสูง
เลือก Samsung Tab ถ้า
- ต้องการฟีเจอร์ที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ Samsung Tab ใช้ระบบ Android และ One UI ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งทั้งในเรื่องของการใช้งานหน้าจอและแอปพลิเคชัน ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งการใช้งาน
- ต้องการใช้ S Pen ของ Samsung Tab เหมาะกับการเขียน การจดบันทึก หรือการวาดภาพ และไม่ต้องเสียเงินซื้อแยกต่างหาก (ในรุ่นที่รองรับ)
- ต้องการประสบการณ์การทำงานแบบเดสก์ท็อป Samsung DeX ช่วยให้ Samsung Tab เปลี่ยนเป็น Desktop Mode ได้ ทำให้การใช้งานเหมือนกับการใช้คอมพิวเตอร์บนแท็บเล็ต เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการหลายหน้าต่างพร้อมกัน
- ต้องการ MicroSD สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล Samsung Tab รองรับการใช้งาน MicroSD ซึ่งช่วยให้คุณเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก
- ต้องการการเชื่อมต่อใน Galaxy Ecosystem หากใช้ สมาร์ตโฟน Samsung หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบ Galaxy Ecosystem เช่น Galaxy Watch หรือ Galaxy Buds การใช้ Samsung Tab จะทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่นและสะดวกมากขึ้น
- มองหาความคุ้มค่าในเรื่องราคา Samsung Tab มักมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า iPad และมีรุ่นที่เหมาะกับงบประมาณหลายระดับ
บทส่งท้าย
หลังจากที่เราได้เปรียบเทียบ iPad และ Samsung Tab กันไปในหลาย ๆ ด้านแล้ว เราหวังว่าจะสามารถช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า iPad หรือ Samsung Tab เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานที่ต้องการ เช่น หากใช้ระบบ Apple Ecosystem และต้องการความเสถียรสูง iPad อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากต้องการฟีเจอร์ที่หลากหลายและราคาที่คุ้มค่า Samsung Tab ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากกำลังมองหาแท็บเล็ต Samsung ที่เหมาะสมกับการใช้งาน อย่าลืมเข้าไปอ่านเพิ่มเติมใน แท็บเล็ต Samsung รุ่นไหนดี