Infinix ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ตโฟนสุดคุ้มราคาจับต้องได้อย่างต่อเนื่อง สองรุ่นที่กำลังถูกจับตามองที่สุดคือ Infinix Note 50 Pro และ Infinix Note 50 Pro Plus ซึ่งชื่อใกล้เคียงกันมาก แต่อะไรคือสิ่งที่ "Plus" แล้วจริง ๆ ต่างกันแค่ไหน ควรเลือกซื้อรุ่นใดให้ตรงกับการใช้งาน บทความนี้จะพาwxเจาะลึก ความแตกต่างระหว่าง Note 50 Pro และ Note 50 Pro Plus ตั้งแต่ดีไซน์ ชิปประมวลผล กล้อง ไปจนถึงความคุ้มค่าในการใช้งานแบบวันต่อวัน

บรรณาธิการ
Table of Contents
ตารางเปรียบเทียบสเปก Infinix Note 50 Pro vs Note 50 Pro Plus
รายการ | Infinix Note 50 Pro | Infinix Note 50 Pro Plus |
---|---|---|
ระบบปฏิบัติการ | Android 15 + XOS 15 | Android 15 + XOS 15 |
ขนาด / น้ำหนัก | 163.3 × 74.4 × 7.3 มม., 198 กรัม | 163.4 × 74.5 × 8.0 มม., 209 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED 6.78 นิ้ว FHD+, 144Hz, 1300 nits | AMOLED 6.78 นิ้ว FHD+, 144Hz, 1300 nits, จอโค้ง |
ชิปประมวลผล (CPU) | MediaTek Helio G99 Ultimate (6nm) | MediaTek Dimensity 7050 (5G) (6nm) |
GPU | Mali-G57 | Mali-G68 |
RAM / ROM | 8GB + 256GB (UFS 2.2) | 12GB + 256GB (UFS 3.1) |
รองรับ microSD | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
กล้องหลัง | 108MP (Main) + 2MP (Depth) | 108MP (Main) + Ultra-Wide + Depth |
กล้องหน้า | 32MP | 32MP |
วิดีโอสูงสุด | 2K @30fps | 4K @30fps |
แบตเตอรี่ | 5000mAh | 5000mAh |
ชาร์จเร็ว | 33W | 68W |
การเชื่อมต่อ | 4G, Wi-Fi 5, BT 5.0, NFC (บางรุ่น) | 5G, Wi-Fi 6, BT 5.2, NFC |
ลำโพง / เสียง | ลำโพงคู่, DTS Sound | ลำโพงคู่, DTS Sound |
เซ็นเซอร์ | Fingerprint (ด้านข้าง), Accelerometer, Gyro | Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, Gyro |
วัสดุเครื่อง | พลาสติกด้านหลัง | กระจก + กรอบอลูมิเนียม |
วิเคราะห์ความแตกต่างแบบละเอียด Infinix Note 50 Pro กับ Infinix Note 50 Pro Plus
- ชิปประมวลผล & ประสิทธิภาพ
- Note 50 Pro ใช้ MediaTek Helio G99 Ultimate (ไม่มี 5G): เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป เช่น เล่นโซเชียล ดูหนัง ใช้งานแอปเบา ๆ หรือเล่นเกมในระดับกลาง
- Note 50 Pro Plus ใช้ MediaTek Dimensity 7050 (5G): แรงกว่า รองรับ 5G ใช้งานได้คล่องในทุกด้าน โดยเฉพาะมัลติทาสก์และเกมที่กินทรัพยากร เช่น Genshin Impact, PUBG ที่ตั้งค่ากราฟิกสูงขึ้นได้
สรุป ถ้าเป็นสายเล่นเกมจริงจัง หรืออยากได้มือถือรองรับอนาคตที่มี 5G ไปเลย ให้เลือก Note 50 Pro Plus
- หน้าจอและดีไซน์
- Note 50 Pro: หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 144Hz ความสว่างสูงสุด 1300 nits จอแบน ใช้งานง่ายเวลาเล่นเกมหรือพิมพ์ข้อความ

- Note 50 Pro Plus: สเปคจอเหมือนกันทุกอย่าง แต่เป็น จอโค้ง (Curved Display) เพิ่มความพรีเมียม และเหมาะกับการดูคอนเทนต์แบบเต็มจอ
สรุป ถ้าชอบดีไซน์หรูพรีเมียมและใช้งานด้านความบันเทิงบ่อย เลือก Pro Plus แต่ถ้าเน้นจับถนัด จอไม่สะท้อนเยอะ รุ่น Pro ธรรมดา จะเหมาะกว่า
- กล้อง
- Note 50 Pro: กล้องหลัก 108MP พร้อม depth sensor 2MP เหมาะกับการถ่ายบุคคล
- Note 50 Pro Plus: กล้องหลัก 108MP + Ultra-Wide + Depth – ได้ภาพมุมกว้างขึ้นและมีลูกเล่นมากกว่า เช่น ถ่ายวิว ถ่ายกลุ่มคนไม่หลุดเฟรม
สรุป ถ้าชอบถ่ายภาพแบบทั่วไป รุ่น Pro ก็เพียงพอ แต่ถ้าอยากได้มุมมองที่หลากหลาย เลือก Pro Plus
- การชาร์จและแบตเตอรี่
- ทั้งสองรุ่นให้แบตเตอรี่ 5000mAh
- Note 50 Pro ชาร์จไว 33W (เต็มในประมาณ 75 นาที)
- Note 50 Pro Plus ชาร์จไว 68W (เต็มในประมาณ 45 นาที)
สรุป Pro Plus ชนะขาดเรื่องความเร็วในการชาร์จ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องใช้งานเร่งด่วนหรือพก power bank น้อยลง
- ลำโพงและเสียง
- ทั้งคู่มีลำโพงคู่แบบสเตอริโอ จูนเสียงโดย DTS ให้คุณภาพเสียงดีเกินราคาสมาร์ตโฟนระดับกลาง
- แต่รุ่น Plus มีคุณภาพเสียงแน่นกว่าเล็กน้อย เพราะออกแบบระบบเสียงให้เหมาะกับจอโค้งและใช้วัสดุเครื่องที่แน่นหนากว่า
- การเชื่อมต่อ
- Note 50 Pro รองรับแค่ 4G LTE
- Note 50 Pro Plus รองรับ 5G SA/NSA ครบทั้งคลื่น Sub-6GHz + Wi-Fi 6

สรุป หากอยู่ในพื้นที่ที่มี 5G ใช้งาน หรืออยากได้มือถือที่ “อนาคตพร้อม” ให้เลือก Pro Plus ไปเลย
- เซ็นเซอร์ & การปลดล็อก
- Note 50 Pro: ปลดล็อกนิ้วมือด้านข้าง (Side-mounted fingerprint)
- Note 50 Pro Plus: ปลดล็อกใต้หน้าจอแบบ Optical ซึ่งดูหรูและใช้สะดวกกว่า (โดยเฉพาะเวลาเครื่องวางบนโต๊ะ)
- ความคุ้มค่าและราคา
- Note 50 Pro: ประมาณ 6,000 – 6,500 บาท
- Note 50 Pro Plus: ประมาณ 8,000 – 8,500 บาท
สรุป
- ถ้าเน้น ราคาประหยัด คุ้มค่าสูงสุดต่อบาท ใช้งานทั่วไปไม่หนักมาก รุ่น Note 50 Pro คือคำตอบ
- ถ้าต้องการ มือถือราคาหมื่นต้นที่สเปกใกล้เรือธง และรองรับ 5G เกม กล้อง ชาร์จไว เลือก Note 50 Pro Plus
สรุปเลือกมือถือ Infinix Note 50 Pro หรือ Infinix Note 50 Pro Plus ดี
หากต้องการมือถือสเปกคุ้มค่าในงบประหยัด ใช้งานทั่วไปได้ดี เช่น เล่นโซเชียล ถ่ายภาพ หรือดูวิดีโอ Infinix Note 50 Pro ก็ตอบโจทย์ได้ครบในราคาย่อมเยา แต่ถ้าคุณต้องการมือถือที่แรงกว่า รองรับ 5G เล่นเกมลื่น กล้องครบฟังก์ชัน และชาร์จเร็วกว่าอย่างชัดเจน Infinix Note 50 Pro Plus จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว แม้ราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย
บทส่งท้าย
Infinix Note 50 Pro และ Note 50 Pro Plus ต่างเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่จัดสเปกมาเต็มในราคาที่เอื้อมถึง โดยรุ่น Pro เหมาะสำหรับคนที่เน้นความคุ้มค่า ใช้งานทั่วไปไม่หนัก ในขณะที่รุ่น Pro Plus ตอบโจทย์คนที่ต้องการความแรง กล้องครบ รองรับ 5G และการชาร์จที่รวดเร็วกว่าอย่างชัดเจน สุดท้ายแล้ว การเลือกรุ่นไหน “ดีกว่า” ขึ้นอยู่กับ ไลฟ์สไตล์และงบประมาณ ของคุณเป็นหลัก หากยังลังเลหรือต้องการเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ของ Infinix เพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ คลิกอ่านต่อที่นี่ มือถือ Infinix รุ่นไหนดี