สมาร์ตโฟนระดับกลางแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้นทุกปี ผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัดก็ยังสามารถเลือกมือถือที่ “ครบเครื่อง” ได้ไม่ยาก หนึ่งในศึกที่น่าจับตามองในคือ Infinix Hot 50 ปะทะ Redmi Note 14 สองรุ่นฮอตจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่า วันนี้เราจะพาคุณมา เปรียบเทียบสเปคแบบละเอียดยิบ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารุ่นไหน “ใช่” สำหรับคุณที่สุด

บรรณาธิการ
Table of Contents
ตารางเปรียบเทียบสเปค Infinix Hot 50 vs Redmi Note 14
สเปคหลัก | Infinix Hot 50 | Redmi Note 14 (2025) |
---|---|---|
หน้าจอ | AMOLED 6.78" FHD+ 120Hz | AMOLED 6.67" FHD+ 120Hz |
ชิปเซ็ต | MediaTek Helio G99 | Snapdragon 6 Gen 1 |
RAM / Storage | 8GB / 128GB, รองรับ microSD | 8GB / 128GB หรือ 256GB, ไม่รองรับ microSD |
กล้องหลัง | 108MP (Main) + 2MP Depth | 108MP (Main) + 8MP Ultra-Wide + 2MP Macro |
กล้องหน้า | 32MP | 16MP |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh, ชาร์จเร็ว 33W | 5,000 mAh, ชาร์จเร็ว 67W |
ระบบปฏิบัติการ | Android 14 (XOS 14) | Android 14 (MIUI 15) |
จุดเด่นพิเศษ | กล้องหน้า 32MP, ราคาย่อมเยา | กล้อง Ultra-Wide, ชาร์จไวกว่า, ชิปแรงกว่า |
ราคาเปิดตัว | ประมาณ 5,299 บาท | เริ่มต้นประมาณ 6,990 บาท |
วิเคราะห์จุดเด่นแบบละเอียด Infinix Hot 50 และ Redmi Note 14
จุดเด่น Infinix Hot 50
- กล้องหน้า 32MP คมชัดเกินราคา
- จุดขายสำคัญของ Infinix Hot 50 คือกล้องหน้าความละเอียด 32MP ซึ่งหาได้ยากในช่วงราคาต่ำกว่า 6,000 บาท
- เหมาะกับสายเซลฟี่, สาย Vlogger หรือคนที่ชอบวิดีโอคอลด้วยภาพที่คมชัดกว่าแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน
- ใช้ AI Beauty + โหมด Portrait ที่ปรับความเนียนแบบไม่หลอกตา
- หน้าจอใหญ่ 6.78" AMOLED 120Hz
- ขนาดหน้าจอใหญ่กว่า Redmi Note 14 ทำให้เหมาะกับคนชอบดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นโซเชียล
- รีเฟรชเรต 120Hz ให้ความลื่นไหลในทุกการปัดจอ เล่นเกมหรือเลื่อนหน้าเว็บไม่สะดุด
- สีสันจัดจ้าน แม้จะไม่เทียบเท่า AMOLED ของแบรนด์พรีเมียม แต่ก็คุ้มในราคานี้
- ราคาเปิดตัวประหยัดมาก
- เปิดราคาที่ราว 5,299 บาท ซึ่งถูกกว่า Redmi Note 14 เกือบ 1,700 บาท
- ในแง่ “ความคุ้มค่าต่อบาท” ถือว่า Infinix ให้สเปคที่ครบครันสุดในระดับ entry-mid
- รองรับ microSD สูงสุด 1TB
- สำหรับผู้ใช้งานที่ยังนิยมเก็บไฟล์, วิดีโอ หรือเพลงในเครื่องมากกว่า Cloud นี่คือจุดเด่นที่ Redmi ไม่มี
- ดีไซน์พรีเมียมเกินราคา
- ฝาหลังมีลวดลายแวววาวและเล่นแสงในแบบที่ให้ความรู้สึกไม่ดู "ถูก"
- มีหลายสีให้เลือก เช่น ดำเงิน แดงทอง และเขียวมรกต เจาะกลุ่มวัยรุ่นได้ดี

จุดเด่น Redmi Note 14
- ชิป Snapdragon 6 Gen 1 เล่นเกมลื่น ใช้งานนาน
- ประสิทธิภาพดีกว่า Helio G99 แบบชัดเจนทั้งในแง่กราฟิกและการจัดการพลังงาน
- เหมาะกับเกมแนว MOBA, FPS หรือแม้แต่ Genshin Impact ในระดับ Low-Medium
- ชิปเซ็ตนี้ยังรองรับการอัปเดต Android ได้ยาวนานกว่า ทำให้มือถือใช้งานได้หลายปีไม่ล้าหลัง
- กล้องหลัง 3 ตัว พร้อม Ultra-Wide
- กล้องหลัก 108MP เหมือนกันกับ Infinix แต่ Redmi เพิ่มเลนส์ Ultra-Wide 8MP และ Macro 2MP
- ทำให้ถ่ายภาพได้หลากหลายกว่า โดยเฉพาะภาพวิว, ภาพหมู่ หรือใกล้วัตถุ
- มีโหมด AI Scene Detection ที่แม่นขึ้นใน MIUI 15
- ระบบชาร์จไว 67W ประหยัดเวลาได้จริง
- Redmi ให้ระบบชาร์จไวสูงถึง 67W ซึ่งชาร์จเต็ม 0-100% ในราว 45 นาที
- เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ชอบรอชาร์จ หรือชาร์ตมือถือก่อนออกจากบ้านแป๊บเดียวก็ได้แบตเพียงพอ
- พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 256GB
- เหมาะกับคนที่เก็บแอปและเกมเยอะ เพราะถึงจะไม่มี microSD แต่ได้ความจุภายในมากตั้งแต่แรก
- ยังมี UFS 2.2 ที่เร็วกว่า eMMC ของ Infinix ในการอ่าน/เขียนข้อมูล
- MIUI 15 ซอฟต์แวร์ครบ & เสถียรกว่า
- อินเทอร์เฟซของ Xiaomi มีฟีเจอร์เยอะ เช่น Second Space, โหมดเด็ก, การควบคุมอุปกรณ์ IoT
- การอัปเดต OTA ที่สม่ำเสมอและปลอดภัยกว่า UI ฝั่ง Infinix ซึ่งบางครั้งอัปเดตช้าหรือข้ามรุ่น

สรุปเลือกมือถือ Infinix Hot 50 หรือ Redmi Note 14 ดี
ถ้าคุณ... | แนะนำให้เลือก | เหตุผล |
---|---|---|
งบจำกัด ไม่เกิน 5,500 บาท | Infinix Hot 50 | ได้กล้องหน้า 32MP, จอใหญ่ 120Hz, รองรับ microSD – คุ้มเกินราคา |
ชอบถ่ายเซลฟี่ วิดีโอคอลเป็นประจำ | Infinix Hot 50 | กล้องหน้า 32MP ให้ภาพคมชัดกว่าชัดเจนในช่วงราคานี้ |
เล่นเกมระดับกลางทั่วไป ไม่เน้นกราฟิกสูง | Infinix Hot 50 | ชิป Helio G99 เพียงพอ เล่น RoV, Free Fire ได้ลื่น |
ต้องการมือถือแบตอึด ใช้ยาว พร้อมชาร์จไว | Redmi Note 14 | แบต 5,000 mAh เหมือนกันแต่ชาร์จไวกว่า (67W vs 33W) |
ใช้งานแอปเยอะ โหลดเกมบ่อย ไม่อยากคอยลบของ | Redmi Note 14 | มีรุ่น 256GB (แม้ไม่มี microSD) และชิปแรงกว่าชัดเจน |
ถ่ายภาพหลากหลาย มุมกว้าง ระยะใกล้ | Redmi Note 14 | มี Ultra-Wide + Macro ครบกว่ามาก |
เน้นใช้ยาว อัปเดตซอฟต์แวร์สม่ำเสมอ | Redmi Note 14 | MIUI รองรับอัปเดตนานกว่า XOS ของ Infinix |
บทส่งท้าย
ทั้ง Infinix Hot 50 และ Redmi Note 14 (2025) ต่างก็มีจุดเด่นในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่า “คุณต้องการมือถือแบบไหน” ถ้าคุณเน้นความคุ้มค่า กล้องหน้าคมชัด ใช้งานทั่วไปได้ครบ Infinix Hot 50 คือคำตอบที่คุ้มที่สุดในงบไม่เกิน 6,000 บาท แต่ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพที่แรงขึ้น กล้องหลากหลาย ใช้งานระยะยาวได้มั่นใจกว่า Redmi Note 14 จะตอบโจทย์ในระยะยาวได้ดีกว่า สุดท้ายนี้ ถ้าอยากรู้ว่า มือถือ Infinix รุ่นอื่น ๆ รุ่นไหนคุ้มค่า น่าใช้ เราได้รวบรวมข้อมูลครบทุกซีรีส์ไว้ให้แล้วที่นี่ มือถือ Infinix รุ่นไหนดี