Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
เลือกลำโพง Marshall Woburn 2 หรือ Woburn 3 ดี

เลือกลำโพง Marshall Woburn 2 หรือ Woburn 3 ดี?

เปรียบเทียบลำโพง Marshall Woburn 2 และ Woburn 3 ความแตกต่างด้านพลังเสียง การเชื่อมต่อ และดีไซน์ เพื่อช่วยตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการ

การเลือกซื้อ ลำโพง Marshall Woburn ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการด้านพลังเสียง ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับ ซึ่งในปัจจุบันมี Woburn 2 และ Woburn 3 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน แต่ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของพลังเสียง การเชื่อมต่อ และฟังก์ชันที่รองรับ บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่น เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Woburn 2 หรือ Woburn 3 จะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

ประวัติลำโพง Marshall รุ่น Woburn

ลำโพง Marshall Woburn เป็นหนึ่งในลำโพงบลูทูธที่ได้รับความนิยมจากแบรนด์ Marshall ซึ่งมีประวัติที่ยาวนานในการผลิตอุปกรณ์เสียงที่มีคุณภาพสูงและสไตล์คลาสสิก ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เสียงที่ทรงพลังและมีความคมชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Marshall ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการเพลงและอุปกรณ์เสียงทั่วโลก

การเปิดตัว Marshall Woburn
ลำโพง Marshall Woburn รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2015 โดยมีการออกแบบที่สะท้อนสไตล์คลาสสิกของแบรนด์ Marshall พร้อมฟีเจอร์บลูทูธที่ทันสมัย Woburn มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่เต็มที่จากการใช้ทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่บ้านหรือการตั้งในสถานที่ที่ต้องการเสียงที่มีพลัง

การพัฒนาต่อเนื่อง
ต่อมา Marshall ได้นำเสนอ Woburn II ในปี 2018 ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีการเชื่อมต่อบลูทูธรุ่นใหม่กว่าและคุณสมบัติที่ทันสมัยขึ้น เช่น การรองรับ aptX, การควบคุมเสียงผ่านแอป และฟังก์ชั่นการปรับเสียงที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ในปี 2021 Woburn III ได้รับการเปิดตัว โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่า, ฟีเจอร์ Dynamic Loudness, Placement Compensation, และ Night Mode เพื่อให้ประสบการณ์เสียงดีขึ้นในทุกสถานการณ์


จุดเด่นของลำโพง Marshall Woburn

ลำโพง Marshall Woburn มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มันโดดเด่นในตลาดลำโพงบลูทูธ ซึ่งไม่ได้มีแค่เสียงที่ดี แต่ยังรวมถึงการออกแบบที่สวยงามและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้าน

  • คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พลังเสียงทรงพลัง Woburn มาพร้อมกับ ทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว และ วูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว ที่ให้เสียงที่หนักแน่นและชัดเจน ทั้งในย่านเสียงต่ำและสูง การขับเสียงที่ยอดเยี่ยม ด้วยกำลังขับสูงถึง 110W (RMS) ทำให้ Woburn สามารถให้เสียงที่มีพลังและความคมชัดแม้ในระดับเสียงสูงสุด
  • ดีไซน์คลาสสิกและสวยงาม การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ลำโพง Woburn มีดีไซน์ที่สะท้อนถึงสไตล์ของ Marshall ด้วยผิวหนังสังเคราะห์และตะแกรงโลหะที่ดูดุดัน สวยงามและทนทาน การใช้งานง่าย มีปุ่มหมุนสำหรับการควบคุม Volume, Bass, และ Treble ที่ทำให้การปรับแต่งเสียงเป็นเรื่องง่าย
  • การเชื่อมต่อที่หลากหลาย Bluetooth 5.0 รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธที่เร็วและเสถียร พร้อม aptX ซึ่งช่วยให้เสียงที่ส่งผ่านบลูทูธมีคุณภาพสูงขึ้น การเชื่อมต่อมีสาย รองรับ 3.5 มม. input และ RCA input ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรือเครื่องเสียงอื่นๆ
  • การควบคุมเสียงที่ปรับได้ การปรับ Bass และ Treble สามารถปรับเสียงให้เหมาะกับรสนิยมของผู้ฟังได้ผ่านปุ่มหมุน ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเสียงได้ตามต้องการ การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับ Woburn II ขึ้นไป ผู้ใช้สามารถควบคุมการปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth บนสมาร์ทโฟนได้
  • ความทนทานและการออกแบบที่คงทน วัสดุคุณภาพสูง ด้วยวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน เช่น หนังสังเคราะห์คุณภาพดีและตะแกรงโลหะ ทำให้ลำโพง Woburn ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว การออกแบบที่เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม: ไม่ว่าจะใช้ในบ้านหรือในพื้นที่กว้าง การออกแบบของ Woburn ช่วยให้สามารถตั้งวางได้อย่างดีเยี่ยมในหลายๆ สถานที่
  • เสียงที่เหมาะสำหรับทุกประเภทของเพลง หลากหลายแนวเพลง Woburn สามารถให้เสียงที่เหมาะสมกับทุกแนวเพลง ตั้งแต่เสียงเบสที่ทรงพลังในเพลงฮิปฮอป ไปจนถึงเสียงแหลมที่ชัดเจนในเพลงคลาสสิค การฟังในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยความสามารถในการขับเสียงที่ทรงพลัง ลำโพงนี้เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นห้องใหญ่หรือห้องเล็ก
  • ประสบการณ์การฟังที่สมจริง ระบบเสียงสเตอริโอ ด้วยลำโพงที่มีการออกแบบระบบเสียงสเตอริโอในตัว ทำให้เสียงที่ได้มีมิติและสมจริง ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนฟังจากเครื่องเสียงชั้นนำ การตั้งค่าอัตโนมัติ ในบางรุ่น เช่น Woburn III มีฟีเจอร์ Dynamic Loudness ที่ช่วยปรับแต่งเสียงโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อม

สเปกและคุณสมบัติเด่นของ Marshall Woburn II (รุ่นที่ 2)

  • กำลังขับรวม: 130 วัตต์ (RMS 110 วัตต์)
  • ลำโพง: ทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว 2 ตัว และวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว 2 ตัว
  • แอมพลิฟายเออร์: Class D 4 ตัว (2 x 50W สำหรับวูฟเฟอร์, 2 x 15W สำหรับทวีตเตอร์)
  • ช่วงความถี่: 30–20,000 Hz
  • ความดันเสียงสูงสุด: 110 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร
  • การเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.0 พร้อม aptX
  • การเชื่อมต่อมีสาย: 3.5 มม. และ RCA (ซ้าย/ขวา)
  • การควบคุมเสียง: ปรับ Bass และ Treble ได้ผ่านปุ่มหมุน
  • ขนาด: 400 x 310 x 200 มม.
  • น้ำหนัก: 8.55 กก.
  • แอปพลิเคชัน: รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth
  • เสียงคุณภาพสูง: ลำโพงถูกออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่ชัดเจนในทุกย่านความถี่ ตั้งแต่เบสลึกจนถึงแหลมใส
  • การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และแบบมีสายผ่าน AUX และ RCA
  • การควบคุมที่สะดวก: สามารถปรับแต่งเสียงได้ทั้งผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่องและผ่านแอปพลิเคชัน
  • ดีไซน์คลาสสิก: มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ที่มีสไตล์และความทนทาน

สเปกและคุณสมบัติเด่นของ Marshall Woburn III (รุ่นที่ 3)

  • ระบบลำโพง 5 ตัว: ประกอบด้วย วูฟเฟอร์ขนาด 6 นิ้ว, ทวีตเตอร์ขนาด 0.75 นิ้ว 2 ตัว, และ ลำโพงกลางขนาด 2 นิ้ว 2 ตัว ซึ่งช่วยให้เสียงมีความชัดเจนในทุกย่านความถี่
  • กำลังขับรวม: 150 วัตต์ (RMS)
  • ช่วงความถี่: 35–20,000 Hz
  • ความดันเสียงสูงสุด: 100.5 dB ที่ระยะ 1 เมตร
  • การปรับแต่งเสียง: ปรับ Bass และ Treble ได้ทั้งผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่องและผ่านแอป Marshall Bluetooth
  • ฟีเจอร์ Dynamic Loudness: ปรับสมดุลเสียงอัตโนมัติตามระดับเสียงเพื่อให้เสียงคงที่และชัดเจน
  • เชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับ LE Audio
  • เชื่อมต่อมีสาย: 3.5 มม., RCA, และ HDMI ARC (Audio Return Channel) เพื่อเชื่อมต่อกับทีวีหรืออุปกรณ์อื่นๆ
  • การควบคุม: ปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง เช่น ปุ่ม Source, Volume, Bass, Treble, Play/Pause, Skip, และปุ่มเปิด/ปิด
  • วัสดุ: สร้างจากพลาสติกรีไซเคิล 70% และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่มี PVC และไม่มีส่วนผสมจากสัตว์
  • ดีไซน์: ดีไซน์คลาสสิกของ Marshall พร้อมปุ่มหมุนทองเหลืองและโลโก้ Marshall ที่เป็นเอกลักษณ์
  • การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน แอป Marshall Bluetooth: สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android เพื่อควบคุมการตั้งค่าเสียงและรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่าน Over-the-Air (OTA)
  • ขนาด: 400 x 317 x 203 มม.
  • น้ำหนัก: ประมาณ 10.5 กก.

ความแตกต่างระหว่างลำโพง Marshall Woburn 2 กับ Marshall Woburn 3

  1. คุณภาพเสียงและพลังเสียง
  • Woburn II กำลังขับรวมที่ 110 วัตต์ (RMS 130W) ให้พลังเสียงที่คมชัดและหนักแน่น เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ ช่วงความถี่ อยู่ที่ 30Hz–20,000Hz ให้เสียงเบสที่ลึกและแหลมที่คมชัด
  • Woburn III กำลังขับรวมที่ 150 วัตต์ (RMS) พลังเสียงที่สูงกว่า ให้เสียงที่ชัดเจนและทรงพลังยิ่งขึ้น ช่วงความถี่ กว้างขึ้นที่ 35Hz–20,000Hz ซึ่งช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของเสียงในทุกย่านเสียง
  1. ฟีเจอร์การเชื่อมต่อ
  • Woburn II รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0, 3.5mm AUX และ RCA input เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย
  • Woburn III รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 พร้อม LE Audio ที่ให้การเชื่อมต่อที่เร็วและเสถียรกว่า เพิ่มฟีเจอร์ HDMI ARC (Audio Return Channel) ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับทีวีเพื่อรับเสียงจากทีวีได้โดยตรง รองรับการเชื่อมต่อ มีสาย ผ่าน 3.5mm และ RCA เช่นกัน
  1. การควบคุมเสียงและการตั้งค่า
  • Woburn II ปรับเสียง Bass และ Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนที่ตัวลำโพงและยังสามารถปรับเสียงผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth บนสมาร์ทโฟนได้
  • Woburn III รองรับการปรับแต่งเสียงผ่าน ปุ่มหมุน ที่ตัวเครื่องเช่นกัน แต่มีฟีเจอร์ Dynamic Loudness ที่ช่วยปรับเสียงอัตโนมัติให้เหมาะสมกับระดับเสียงที่เปิด สามารถปรับแต่งผ่าน แอป Marshall Bluetooth และยังรองรับ Placement Compensation เพื่อปรับเสียงให้เหมาะสมกับตำแหน่งการวางลำโพง
  1. การออกแบบและวัสดุ
  • Woburn II ดีไซน์ที่คลาสสิก มี หนังสังเคราะห์ และ ตะแกรงโลหะ เป็นวัสดุหลักให้ความรู้สึกหรูหรา น้ำหนักประมาณ 8.55 กก.
  • Woburn III ดีไซน์คลาสสิกเช่นเดียวกัน แต่มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น พลาสติกรีไซเคิล 70% น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 10.5 กก. ซึ่งมาจากการเพิ่มพลังเสียงและวัสดุที่ทนทานขึ้น
  1. ฟีเจอร์พิเศษ
  • Woburn II ไม่มีฟีเจอร์พิเศษมากมาย นอกจากการควบคุมเสียงพื้นฐานและการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
  • Woburn III ฟีเจอร์พิเศษ Dynamic Loudness ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับระดับเสียงที่ใช้งาน Placement Compensation ช่วยปรับเสียงตามตำแหน่งที่ตั้งลำโพง รองรับ Night Mode ที่ช่วยลดเสียงเบสให้เหมาะกับการฟังในเวลากลางคืน
  1. ราคา
  • Woburn II โดยปกติจะมีราคาที่ถูกกว่า Woburn III เล็กน้อย
  • Woburn III ราคาจะสูงกว่าด้วยฟีเจอร์ที่มีการอัปเกรดและการพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง Marshall Woburn 2 vs Woburn 3

คุณสมบัติ Marshall Woburn II Marshall Woburn III
กำลังขับรวม 110W (RMS) 150W (RMS)
ลำโพง ทวีตเตอร์ 1 นิ้ว 2 ตัว, วูฟเฟอร์ 5.25 นิ้ว 2 ตัว วูฟเฟอร์ 6 นิ้ว 1 ตัว, ทวีตเตอร์ 0.75 นิ้ว 2 ตัว, ลำโพงกลาง 2 นิ้ว 2 ตัว
ช่วงความถี่ 30Hz - 20,000Hz 35Hz - 20,000Hz
ความดันเสียงสูงสุด 110 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร 100.5 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร
การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 พร้อม aptX Bluetooth 5.2 พร้อม LE Audio
การเชื่อมต่อมีสาย 3.5mm AUX, RCA 3.5mm AUX, RCA, HDMI ARC
การควบคุมเสียง ปรับ Bass, Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่อง ปรับ Bass, Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนและแอป Marshall Bluetooth
ฟีเจอร์พิเศษ ไม่มี Dynamic Loudness, Placement Compensation, Night Mode
การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth
ดีไซน์และวัสดุ หนังสังเคราะห์, ตะแกรงโลหะ พลาสติกรีไซเคิล 70%, ตะแกรงโลหะ
น้ำหนัก 8.55 กก. 10.5 กก.
ขนาด 400 x 310 x 200 มม. 400 x 317 x 203 มม.


สรุปเลือกลำโพง Marshall Woburn 2 หรือ Woburn 3 ดี?

เลือก Marshall Woburn II ถ้า

  • ต้องการลำโพงที่ให้ เสียงคุณภาพดี และ ราคาไม่แพง มากนัก
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด เช่น HDMI ARC หรือฟีเจอร์ปรับเสียงอัตโนมัติ
  • ต้องการ การเชื่อมต่อที่หลากหลาย (Bluetooth, AUX, RCA) แต่ไม่ต้องการการเชื่อมต่อที่ทันสมัยเกินไป
  • ต้องการลำโพงที่ให้พลังเสียงที่เหมาะสมกับห้องขนาดกลาง

เลือก Marshall Woburn III ถ้า

  • ต้องการ พลังเสียงที่สูงกว่า และ เสียงที่คมชัด กว่าในทุกย่านความถี่
  • ต้องการ ฟีเจอร์ที่ทันสมัย เช่น HDMI ARC สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี หรือ Dynamic Loudness และ Placement Compensation ที่ช่วยปรับเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
  • ต้องการการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่เร็วและเสถียรกว่า
  • ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่ดีกว่า

บทส่งท้าย

ทั้ง Marshall Woburn 2 และ Marshall Woburn 3 ต่างก็เป็นลำโพงที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ Marshall แต่การเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ หากคุณต้องการลำโพงที่มีเสียงดีในราคาประหยัด Woburn II อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการพลังเสียงที่สูงกว่าและฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น HDMI ARC หรือการปรับเสียงอัตโนมัติ Woburn III จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเลือก Woburn II หรือ Woburn III ลำโพงทั้งสองรุ่นก็สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม หากสนใจเปรียบเทียบลำโพง Marshall รุ่นอื่น ๆ สามารถดูได้ที่ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี

สิ้นสุดบทความ