การเลือกซื้อ ลำโพง Marshall Woburn ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการด้านพลังเสียง ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับ ซึ่งในปัจจุบันมี Woburn 2 และ Woburn 3 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน แต่ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของพลังเสียง การเชื่อมต่อ และฟังก์ชันที่รองรับ บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่น เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Woburn 2 หรือ Woburn 3 จะเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

บรรณาธิการ
Table of Contents
ประวัติลำโพง Marshall รุ่น Woburn
ลำโพง Marshall Woburn เป็นหนึ่งในลำโพงบลูทูธที่ได้รับความนิยมจากแบรนด์ Marshall ซึ่งมีประวัติที่ยาวนานในการผลิตอุปกรณ์เสียงที่มีคุณภาพสูงและสไตล์คลาสสิก ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เสียงที่ทรงพลังและมีความคมชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Marshall ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการเพลงและอุปกรณ์เสียงทั่วโลก

การเปิดตัว Marshall Woburn
ลำโพง Marshall Woburn รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2015 โดยมีการออกแบบที่สะท้อนสไตล์คลาสสิกของแบรนด์ Marshall พร้อมฟีเจอร์บลูทูธที่ทันสมัย Woburn มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่เต็มที่จากการใช้ทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่บ้านหรือการตั้งในสถานที่ที่ต้องการเสียงที่มีพลัง
การพัฒนาต่อเนื่อง
ต่อมา Marshall ได้นำเสนอ Woburn II ในปี 2018 ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีการเชื่อมต่อบลูทูธรุ่นใหม่กว่าและคุณสมบัติที่ทันสมัยขึ้น เช่น การรองรับ aptX, การควบคุมเสียงผ่านแอป และฟังก์ชั่นการปรับเสียงที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ในปี 2021 Woburn III ได้รับการเปิดตัว โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่า, ฟีเจอร์ Dynamic Loudness, Placement Compensation, และ Night Mode เพื่อให้ประสบการณ์เสียงดีขึ้นในทุกสถานการณ์
จุดเด่นของลำโพง Marshall Woburn
ลำโพง Marshall Woburn มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มันโดดเด่นในตลาดลำโพงบลูทูธ ซึ่งไม่ได้มีแค่เสียงที่ดี แต่ยังรวมถึงการออกแบบที่สวยงามและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้าน
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พลังเสียงทรงพลัง Woburn มาพร้อมกับ ทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว และ วูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว ที่ให้เสียงที่หนักแน่นและชัดเจน ทั้งในย่านเสียงต่ำและสูง การขับเสียงที่ยอดเยี่ยม ด้วยกำลังขับสูงถึง 110W (RMS) ทำให้ Woburn สามารถให้เสียงที่มีพลังและความคมชัดแม้ในระดับเสียงสูงสุด
- ดีไซน์คลาสสิกและสวยงาม การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ลำโพง Woburn มีดีไซน์ที่สะท้อนถึงสไตล์ของ Marshall ด้วยผิวหนังสังเคราะห์และตะแกรงโลหะที่ดูดุดัน สวยงามและทนทาน การใช้งานง่าย มีปุ่มหมุนสำหรับการควบคุม Volume, Bass, และ Treble ที่ทำให้การปรับแต่งเสียงเป็นเรื่องง่าย
- การเชื่อมต่อที่หลากหลาย Bluetooth 5.0 รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธที่เร็วและเสถียร พร้อม aptX ซึ่งช่วยให้เสียงที่ส่งผ่านบลูทูธมีคุณภาพสูงขึ้น การเชื่อมต่อมีสาย รองรับ 3.5 มม. input และ RCA input ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรือเครื่องเสียงอื่นๆ
- การควบคุมเสียงที่ปรับได้ การปรับ Bass และ Treble สามารถปรับเสียงให้เหมาะกับรสนิยมของผู้ฟังได้ผ่านปุ่มหมุน ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเสียงได้ตามต้องการ การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน สำหรับ Woburn II ขึ้นไป ผู้ใช้สามารถควบคุมการปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth บนสมาร์ทโฟนได้
- ความทนทานและการออกแบบที่คงทน วัสดุคุณภาพสูง ด้วยวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน เช่น หนังสังเคราะห์คุณภาพดีและตะแกรงโลหะ ทำให้ลำโพง Woburn ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว การออกแบบที่เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม: ไม่ว่าจะใช้ในบ้านหรือในพื้นที่กว้าง การออกแบบของ Woburn ช่วยให้สามารถตั้งวางได้อย่างดีเยี่ยมในหลายๆ สถานที่
- เสียงที่เหมาะสำหรับทุกประเภทของเพลง หลากหลายแนวเพลง Woburn สามารถให้เสียงที่เหมาะสมกับทุกแนวเพลง ตั้งแต่เสียงเบสที่ทรงพลังในเพลงฮิปฮอป ไปจนถึงเสียงแหลมที่ชัดเจนในเพลงคลาสสิค การฟังในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยความสามารถในการขับเสียงที่ทรงพลัง ลำโพงนี้เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นห้องใหญ่หรือห้องเล็ก
- ประสบการณ์การฟังที่สมจริง ระบบเสียงสเตอริโอ ด้วยลำโพงที่มีการออกแบบระบบเสียงสเตอริโอในตัว ทำให้เสียงที่ได้มีมิติและสมจริง ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนฟังจากเครื่องเสียงชั้นนำ การตั้งค่าอัตโนมัติ ในบางรุ่น เช่น Woburn III มีฟีเจอร์ Dynamic Loudness ที่ช่วยปรับแต่งเสียงโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อม
สเปกและคุณสมบัติเด่นของ Marshall Woburn II (รุ่นที่ 2)
- กำลังขับรวม: 130 วัตต์ (RMS 110 วัตต์)
- ลำโพง: ทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว 2 ตัว และวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว 2 ตัว
- แอมพลิฟายเออร์: Class D 4 ตัว (2 x 50W สำหรับวูฟเฟอร์, 2 x 15W สำหรับทวีตเตอร์)
- ช่วงความถี่: 30–20,000 Hz
- ความดันเสียงสูงสุด: 110 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร
- การเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.0 พร้อม aptX
- การเชื่อมต่อมีสาย: 3.5 มม. และ RCA (ซ้าย/ขวา)

- การควบคุมเสียง: ปรับ Bass และ Treble ได้ผ่านปุ่มหมุน
- ขนาด: 400 x 310 x 200 มม.
- น้ำหนัก: 8.55 กก.
- แอปพลิเคชัน: รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth
- เสียงคุณภาพสูง: ลำโพงถูกออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่ชัดเจนในทุกย่านความถี่ ตั้งแต่เบสลึกจนถึงแหลมใส
- การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และแบบมีสายผ่าน AUX และ RCA
- การควบคุมที่สะดวก: สามารถปรับแต่งเสียงได้ทั้งผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่องและผ่านแอปพลิเคชัน
- ดีไซน์คลาสสิก: มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ที่มีสไตล์และความทนทาน
สเปกและคุณสมบัติเด่นของ Marshall Woburn III (รุ่นที่ 3)
- ระบบลำโพง 5 ตัว: ประกอบด้วย วูฟเฟอร์ขนาด 6 นิ้ว, ทวีตเตอร์ขนาด 0.75 นิ้ว 2 ตัว, และ ลำโพงกลางขนาด 2 นิ้ว 2 ตัว ซึ่งช่วยให้เสียงมีความชัดเจนในทุกย่านความถี่
- กำลังขับรวม: 150 วัตต์ (RMS)
- ช่วงความถี่: 35–20,000 Hz
- ความดันเสียงสูงสุด: 100.5 dB ที่ระยะ 1 เมตร
- การปรับแต่งเสียง: ปรับ Bass และ Treble ได้ทั้งผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่องและผ่านแอป Marshall Bluetooth
- ฟีเจอร์ Dynamic Loudness: ปรับสมดุลเสียงอัตโนมัติตามระดับเสียงเพื่อให้เสียงคงที่และชัดเจน
- เชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับ LE Audio
- เชื่อมต่อมีสาย: 3.5 มม., RCA, และ HDMI ARC (Audio Return Channel) เพื่อเชื่อมต่อกับทีวีหรืออุปกรณ์อื่นๆ

- การควบคุม: ปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง เช่น ปุ่ม Source, Volume, Bass, Treble, Play/Pause, Skip, และปุ่มเปิด/ปิด
- วัสดุ: สร้างจากพลาสติกรีไซเคิล 70% และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่มี PVC และไม่มีส่วนผสมจากสัตว์
- ดีไซน์: ดีไซน์คลาสสิกของ Marshall พร้อมปุ่มหมุนทองเหลืองและโลโก้ Marshall ที่เป็นเอกลักษณ์
- การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน แอป Marshall Bluetooth: สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android เพื่อควบคุมการตั้งค่าเสียงและรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่าน Over-the-Air (OTA)
- ขนาด: 400 x 317 x 203 มม.
- น้ำหนัก: ประมาณ 10.5 กก.
ความแตกต่างระหว่างลำโพง Marshall Woburn 2 กับ Marshall Woburn 3
- คุณภาพเสียงและพลังเสียง
- Woburn II กำลังขับรวมที่ 110 วัตต์ (RMS 130W) ให้พลังเสียงที่คมชัดและหนักแน่น เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ ช่วงความถี่ อยู่ที่ 30Hz–20,000Hz ให้เสียงเบสที่ลึกและแหลมที่คมชัด
- Woburn III กำลังขับรวมที่ 150 วัตต์ (RMS) พลังเสียงที่สูงกว่า ให้เสียงที่ชัดเจนและทรงพลังยิ่งขึ้น ช่วงความถี่ กว้างขึ้นที่ 35Hz–20,000Hz ซึ่งช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของเสียงในทุกย่านเสียง
- ฟีเจอร์การเชื่อมต่อ
- Woburn II รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0, 3.5mm AUX และ RCA input เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย
- Woburn III รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 พร้อม LE Audio ที่ให้การเชื่อมต่อที่เร็วและเสถียรกว่า เพิ่มฟีเจอร์ HDMI ARC (Audio Return Channel) ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับทีวีเพื่อรับเสียงจากทีวีได้โดยตรง รองรับการเชื่อมต่อ มีสาย ผ่าน 3.5mm และ RCA เช่นกัน
- การควบคุมเสียงและการตั้งค่า
- Woburn II ปรับเสียง Bass และ Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนที่ตัวลำโพงและยังสามารถปรับเสียงผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth บนสมาร์ทโฟนได้
- Woburn III รองรับการปรับแต่งเสียงผ่าน ปุ่มหมุน ที่ตัวเครื่องเช่นกัน แต่มีฟีเจอร์ Dynamic Loudness ที่ช่วยปรับเสียงอัตโนมัติให้เหมาะสมกับระดับเสียงที่เปิด สามารถปรับแต่งผ่าน แอป Marshall Bluetooth และยังรองรับ Placement Compensation เพื่อปรับเสียงให้เหมาะสมกับตำแหน่งการวางลำโพง
- การออกแบบและวัสดุ
- Woburn II ดีไซน์ที่คลาสสิก มี หนังสังเคราะห์ และ ตะแกรงโลหะ เป็นวัสดุหลักให้ความรู้สึกหรูหรา น้ำหนักประมาณ 8.55 กก.
- Woburn III ดีไซน์คลาสสิกเช่นเดียวกัน แต่มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น พลาสติกรีไซเคิล 70% น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 10.5 กก. ซึ่งมาจากการเพิ่มพลังเสียงและวัสดุที่ทนทานขึ้น
- ฟีเจอร์พิเศษ
- Woburn II ไม่มีฟีเจอร์พิเศษมากมาย นอกจากการควบคุมเสียงพื้นฐานและการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
- Woburn III ฟีเจอร์พิเศษ Dynamic Loudness ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับระดับเสียงที่ใช้งาน Placement Compensation ช่วยปรับเสียงตามตำแหน่งที่ตั้งลำโพง รองรับ Night Mode ที่ช่วยลดเสียงเบสให้เหมาะกับการฟังในเวลากลางคืน
- ราคา
- Woburn II โดยปกติจะมีราคาที่ถูกกว่า Woburn III เล็กน้อย
- Woburn III ราคาจะสูงกว่าด้วยฟีเจอร์ที่มีการอัปเกรดและการพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง Marshall Woburn 2 vs Woburn 3
คุณสมบัติ | Marshall Woburn II | Marshall Woburn III |
กำลังขับรวม | 110W (RMS) | 150W (RMS) |
ลำโพง | ทวีตเตอร์ 1 นิ้ว 2 ตัว, วูฟเฟอร์ 5.25 นิ้ว 2 ตัว | วูฟเฟอร์ 6 นิ้ว 1 ตัว, ทวีตเตอร์ 0.75 นิ้ว 2 ตัว, ลำโพงกลาง 2 นิ้ว 2 ตัว |
ช่วงความถี่ | 30Hz - 20,000Hz | 35Hz - 20,000Hz |
ความดันเสียงสูงสุด | 110 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร | 100.5 dB SPL ที่ระยะ 1 เมตร |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.0 พร้อม aptX | Bluetooth 5.2 พร้อม LE Audio |
การเชื่อมต่อมีสาย | 3.5mm AUX, RCA | 3.5mm AUX, RCA, HDMI ARC |
การควบคุมเสียง | ปรับ Bass, Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนบนตัวเครื่อง | ปรับ Bass, Treble ได้ผ่านปุ่มหมุนและแอป Marshall Bluetooth |
ฟีเจอร์พิเศษ | ไม่มี | Dynamic Loudness, Placement Compensation, Night Mode |
การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน | รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth | รองรับการควบคุมผ่านแอป Marshall Bluetooth |
ดีไซน์และวัสดุ | หนังสังเคราะห์, ตะแกรงโลหะ | พลาสติกรีไซเคิล 70%, ตะแกรงโลหะ |
น้ำหนัก | 8.55 กก. | 10.5 กก. |
ขนาด | 400 x 310 x 200 มม. | 400 x 317 x 203 มม. |
สรุปเลือกลำโพง Marshall Woburn 2 หรือ Woburn 3 ดี?
เลือก Marshall Woburn II ถ้า
- ต้องการลำโพงที่ให้ เสียงคุณภาพดี และ ราคาไม่แพง มากนัก
- ไม่จำเป็นต้องใช้ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด เช่น HDMI ARC หรือฟีเจอร์ปรับเสียงอัตโนมัติ
- ต้องการ การเชื่อมต่อที่หลากหลาย (Bluetooth, AUX, RCA) แต่ไม่ต้องการการเชื่อมต่อที่ทันสมัยเกินไป
- ต้องการลำโพงที่ให้พลังเสียงที่เหมาะสมกับห้องขนาดกลาง
เลือก Marshall Woburn III ถ้า
- ต้องการ พลังเสียงที่สูงกว่า และ เสียงที่คมชัด กว่าในทุกย่านความถี่
- ต้องการ ฟีเจอร์ที่ทันสมัย เช่น HDMI ARC สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี หรือ Dynamic Loudness และ Placement Compensation ที่ช่วยปรับเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- ต้องการการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่เร็วและเสถียรกว่า
- ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่ดีกว่า
บทส่งท้าย
ทั้ง Marshall Woburn 2 และ Marshall Woburn 3 ต่างก็เป็นลำโพงที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ Marshall แต่การเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ หากคุณต้องการลำโพงที่มีเสียงดีในราคาประหยัด Woburn II อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการพลังเสียงที่สูงกว่าและฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น HDMI ARC หรือการปรับเสียงอัตโนมัติ Woburn III จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเลือก Woburn II หรือ Woburn III ลำโพงทั้งสองรุ่นก็สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม หากสนใจเปรียบเทียบลำโพง Marshall รุ่นอื่น ๆ สามารถดูได้ที่ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี