เมื่อพูดถึงลำโพงพกพาคุณภาพสูง สองแบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยคือ JBL และ Marshall แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น JBL โดดเด่นในด้านเสียงที่หนักแน่นและการใช้งานที่หลากหลาย ส่วน Marshall มีดีไซน์คลาสสิกและเสียงที่อบอุ่น ในบทความนี้เราจะเปรียบเทียบลำโพงทั้งสองแบรนด์ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกตัวไหนดี

บรรณาธิการ
Table of Contents
ประวัติลำโพง Marshall
ลำโพง Marshall มีต้นกำเนิดจากแบรนด์ Marshall ซึ่งเริ่มต้นในปี 1962 โดย Jim Marshall นักดนตรีและเจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียงในการผลิต แอมป์กีตาร์ สำหรับวงดนตรีร็อคระดับโลกในยุค 60 และ 70 เช่น Jimi Hendrix Eric Clapton และ Pete Townshend ของวง The Who ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเสียงที่หนักแน่นและมีเอกลักษณ์

จุดเริ่มต้นของ Marshall
Marshall Amplification เริ่มต้นจากการผลิตแอมป์กีตาร์ โดยรุ่นแรกที่สร้างชื่อเสียงคือ JTM45 ในปี 1963 ซึ่งแอมป์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากนักดนตรีในวงการร็อค ต่อมาในปี 1965 Marshall เปิดตัว 1959 Super Lead หรือที่รู้จักกันในชื่อ Plexi ซึ่งเป็นแอมป์ที่โด่งดังไปทั่วโลกและมีสัญลักษณ์ของการใช้งานในวงดนตรีร็อคจนถึงปัจจุบัน
การขยายไปยังลำโพงและหูฟัง
ในปี 2010 Marshall ได้ขยายผลิตภัณฑ์ของตนจากแอมป์มาสู่ ลำโพงและหูฟัง โดยร่วมมือกับ Zound Industries บริษัทจากสวีเดนในการพัฒนาเทคโนโลยีลำโพงบลูทูธและหูฟังไร้สาย ลำโพงรุ่นแรกของ Marshall ที่วางขายคือ Marshall Stanmore ซึ่งเป็นลำโพงที่มีสไตล์คลาสสิกแบบเดียวกับแอมป์ของ Marshall โดยเน้นดีไซน์ที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์และคุณภาพเสียงระดับสูง. นอกจากนี้ ลำโพง Marshall ยังได้รับการพัฒนาให้รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การเชื่อมต่อบลูทูธ การกันน้ำ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
ความสำเร็จในตลาด
Marshall ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์ลำโพงที่ผสมผสานการออกแบบคลาสสิกและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นที่นิยมไม่เพียงแต่ในวงการดนตรีเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังผู้ใช้ทั่วไปที่ชื่นชอบในเสียงและสไตล์ที่ Marshall มอบให้ บางรุ่นของลำโพง Marshall อย่าง Marshall Kilburn หรือ Marshall Emberton ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรักดนตรีและคนที่ชื่นชอบลำโพงพกพาคุณภาพสูง
ประวัติลำโพง JBL
ลำโพง JBL (ซึ่งย่อมาจาก James B. Lansing) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและยาวนาน โดยเริ่มต้นในปี 1946 จากการก่อตั้งของ James Bullough Lansing วิศวกรเสียงชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเสียงที่มีคุณภาพสูง ซึ่งทำให้ JBL กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงการเสียงทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นของ JBL
JBL ก่อตั้งโดย James B. Lansing ในปี 1946 หลังจากที่เขาออกจากบริษัทก่อนหน้านี้ คือ Western Electric และเริ่มทำงานในด้านการพัฒนาและผลิตลำโพงที่สามารถให้เสียงที่มีความชัดเจนและทรงพลัง James B. Lansing ได้พัฒนาลำโพงตัวแรกที่มีชื่อว่า JBL 15-inch speaker ซึ่งได้รับความนิยมในวงการเสียงและกลายเป็นพื้นฐานของความสำเร็จของแบรนด์ในอนาคต
ความสำเร็จในวงการอุตสาหกรรม
ในปี 1950s JBL ได้เริ่มได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์ โดยลำโพงของ JBL ถูกนำไปใช้ใน โรงภาพยนตร์ และ สถานที่แสดงคอนเสิร์ต เพื่อให้เสียงที่คมชัดและมีพลัง ในช่วงต้นของปี 1960s JBL ได้พัฒนาลำโพงที่เป็นที่รู้จักอย่าง Hartsfield Speaker ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ JBL และได้รับความนิยมจากการใช้งานในระบบเสียงสำหรับการแสดงสด
การขยายตัวสู่ตลาดอื่น ๆ
ในช่วงปี 1970s และ 1980s JBL ขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ลำโพงที่ใช้ในบ้าน ระบบเสียงสำหรับอุปกรณ์สตูดิโอ และกลายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เสียงสำหรับ เครื่องเสียงในรถยนต์ อีกด้วย ลำโพง JBL ได้รับความนิยมในวงการสตูดิโอ การแสดงสด และการฟังเพลงในบ้าน
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในยุคใหม่
ในช่วงปี 2000s JBL เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีไร้สายและระบบเสียงที่สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น เช่น ลำโพงบลูทูธ โดยมีรุ่นยอดนิยมเช่น JBL Flip JBL Charge และ JBL Pulse เป็นต้น JBL เป็นหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ ที่ผลิตลำโพงที่มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อบลูทูธแบบไร้สาย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน และยังคงได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน
ความร่วมมือและการเป็นเจ้าของ
Harman International ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Samsung Electronics ได้เข้าซื้อกิจการของ JBL ในปี 2017 ช่วยให้ JBL สามารถขยายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีได้ในตลาดทั่วโลก ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ Harman JBL สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเสียงใหม่ ๆ ได้ เช่น ระบบเสียง JBL Quantum ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม
ความแตกต่างระหว่าง ลําโพง JBL vs ลําโพง Marshall
การเลือกซื้อ ลำโพง JBL และ ลำโพง Marshall อาจทำให้หลายคนลังเล เพราะทั้งสองแบรนด์นี้มีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและดีไซน์ที่ดึงดูด แต่มีความแตกต่างในหลายๆ ด้าน
- คุณภาพเสียง
- ลำโพง JBL มักมีเสียงที่ หนักแน่นและเบสที่ลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพลงแนว EDM, ฮิปฮอป หรือ เพลงที่มีการใช้เบสมาก เสียงที่ออกมาจากลำโพง JBL มักจะให้พลังเสียงที่มีความสมดุลระหว่างเบส กลาง และแหลม เช่น JBL Flip 6, JBL Charge 5 จะมีเบสที่กระชับ และให้เสียงที่กว้าง
- ลำโพง Marshall ให้เสียงที่ อบอุ่น และ มีความชัดเจน ในการนำเสนอเสียงกลาง เหมาะสำหรับเพลงที่ต้องการรายละเอียดในช่วงกลาง เช่น ร็อค, อะคูสติก หรือ เพลงที่เน้นเสียงร้อง เสียงของ Marshall มักจะมี คุณภาพที่คมชัด แต่มี ลักษณะเสียงที่ละเอียด และไม่เน้นเบสหนักจนเกินไป เช่น Marshall Emberton Marshall Kilburn II มีเสียงที่มีมิติและความชัดเจนสูง

- การออกแบบและดีไซน์
- ลำโพง JBL มักมี ดีไซน์ที่ทันสมัย และ เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง เช่น กันน้ำ, ทนทานต่อฝุ่น รูปทรงมักจะเป็นลำโพงพกพาที่มีขนาดเล็กและกะทัดรัด เหมาะสำหรับการพกพาไปทุกที่ เช่น JBL Charge 5 มีดีไซน์ที่ทนทานและสะดวกในการพกพา
- ลำโพง Marshall โดดเด่นด้วย ดีไซน์ที่คลาสสิก เหมือนกับแอมป์ของ Marshall ซึ่งจะมี รูปลักษณ์แบบวินเทจ มีวัสดุหุ้มด้วยหนังและแผงควบคุมที่ดูมีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นเอกลักษณ์และสไตล์การออกแบบที่ย้อนยุค เช่น Marshall Stanmore II Marshall Acton II มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราและเป็นเอกลักษณ์
- ความทนทานและการใช้งาน
- ลำโพง JBL มี ความทนทานสูง โดยเฉพาะกับรุ่นที่รองรับการใช้งานกลางแจ้ง เช่น กันน้ำกันฝุ่น (IP67) เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพอากาศและสถานที่ เช่น JBL Flip 6 JBL Charge 5 เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปิกนิก, เดินป่า, หรือเล่นกีฬาทางน้ำ
- ลำโพง Marshall มีความทนทานที่ดี แต่จะไม่ได้เน้นการใช้งานกลางแจ้งเหมือน JBL ลำโพง Marshall มักจะเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้มีความชื้นหรือฝุ่นมากนัก เช่น Marshall Emberton II เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน หรือในสถานที่ที่ต้องการความคงทนแต่ไม่เน้นกิจกรรมกลางแจ้ง
- ความสะดวกในการพกพา
- ลำโพง JBL มีความสะดวกในการพกพามากกว่า เพราะลำโพงส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เช่น JBL Flip หรือ JBL Charge เหมาะสำหรับการพกพาไปที่ต่างๆ หรือใช้ในกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัว
- ลำโพง Marshall มักจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าลำโพง JBL เล็กน้อย เช่น Marshall Kilburn II หรือ Marshall Stanmore II แม้ว่าจะสะดวกในการพกพา แต่จะไม่เหมาะกับการพกพาไปในทุกที่เหมือน JBL

- อายุการใช้งานแบตเตอรี่
- ลำโพง JBL มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ ยาวนาน โดยเฉพาะในรุ่น JBL Charge 5 ที่สามารถใช้งานได้ถึง 20 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับระดับการใช้งาน
- แม้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Marshall จะนานพอสมควร แต่โดยทั่วไปแล้วอาจจะน้อยกว่าลำโพง JBL เช่น Marshall Emberton II ที่ให้การใช้งานได้ประมาณ 20 ชั่วโมง
- ราคา
- JBL มักจะมีราคาที่ เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลำโพงที่มีคุณภาพเสียงดีและใช้งานได้หลากหลาย โดยราคาจะอยู่ในระดับ กลาง หรือ ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้
- Marshall ลำโพงจะมีราคาที่ สูงกว่า เนื่องจากการออกแบบที่หรูหราและคุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับ สไตล์ และ คุณภาพเสียง ในระดับที่สูงขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ ลําโพง JBL vs ลําโพง Marshall
คุณสมบัติ | ลำโพง JBL | ลำโพง Marshall |
คุณภาพเสียง | เบสหนักแน่น เสียงกระจ่างและสมดุล | เสียงอบอุ่น ชัดเจน โดยเฉพาะเสียงกลางและสูง |
การออกแบบ | ทันสมัย สะดวกพกพา เหมาะสำหรับกลางแจ้ง | คลาสสิก วินเทจ เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน |
ความทนทาน | กันน้ำและกันฝุ่น (IP67) | ทนทานแต่ไม่เน้นกันน้ำและฝุ่น |
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ | ประมาณ 12-20 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับรุ่น | ประมาณ 12-25 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับรุ่น |
การพกพา | ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับกลางแจ้ง | ขนาดใหญ่กว่าและหนักกว่า |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth, AUX, NFC | Bluetooth, AUX |
การใช้งาน | เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและฟังเพลงทั่วไป | เหมาะสำหรับการฟังเพลงในบ้านหรือสถานที่ปิด |
สรุปลําโพง JBL หรือ ลําโพง Marshall อันไหนดีกว่ากัน
เลือก ลำโพง JBL
- ต้องการลำโพงพกพา ที่ ทนทาน และ ใช้งานได้หลากหลาย เช่น สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง (ปิกนิก เดินป่า กีฬา เล่นน้ำ)
- ชื่นชอบ เสียงเบสหนักแน่น และ เสียงที่มีพลัง สำหรับการฟังเพลงที่เน้นเบส เช่น EDM Hip-Hop หรือเพลงที่ใช้เบสหนัก
- ต้องการลำโพงที่ ราคาคุ้มค่า และมี ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเชื่อมต่อบลูทูธ กันน้ำและทนทาน
- ต้องการความสะดวกในการพกพา ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่หนักเกินไปและสามารถใช้งานได้ยาวนาน
เลือก ลำโพง Marshall
- ชื่นชอบ ดีไซน์คลาสสิก และ เสียงที่อบอุ่น โดยเฉพาะในเพลงที่ต้องการความละเอียด เช่น ร็อค อะคูสติก หรือเพลงที่เน้นเสียงร้อง
- ต้องการลำโพงที่มี สไตล์และความหรูหรา ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือในสถานที่ที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง
- ให้ความสำคัญกับ เสียงกลางและเสียงสูง ที่ชัดเจน และต้องการ คุณภาพเสียงที่ละเอียด
- สามารถยอมรับราคาที่สูงกว่า และไม่จำเป็นต้องพกพาลำโพงไปที่ต่างๆ บ่อยนัก
บทส่งท้าย
การเลือกซื้อ ลำโพง JBL หรือ ลำโพง Marshall ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละคน หากต้องการลำโพงที่ทนทาน พกพาสะดวก และเสียงที่หนักแน่นในราคาย่อมเยา JBL เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากให้ความสำคัญกับการออกแบบที่คลาสสิก เสียงที่อบอุ่น และคุณภาพที่สูงขึ้น Marshall อาจตอบโจทย์คุณได้มากกว่า ไม่ว่าจะเลือกแบรนด์ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเสียงที่ต้องการและการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลำโพง Marshall และข้อมูลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี