ชิปประมวลผล (System-on-a-Chip หรือ SoC) เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนทุกฟังก์ชันการทำงาน Kirin 9000 คือหนึ่งในชิปเซ็ตระดับเรือธงที่พัฒนาโดย HiSilicon (บริษัทลูกของ Huawei) ซึ่งเคยสร้างความฮือฮาในวงการด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น แม้ว่าปัจจุบัน Huawei จะเผชิญกับข้อจำกัดในการผลิตชิป แต่ Kirin 9000 ยังคงเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับขุมพลังนี้ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า Kirin 9000 ดีแค่ไหน และสามารถเทียบเคียงกับชิป Snapdragon รุ่นใดได้บ้าง
บรรณาธิการ
Table of Contents
ประวัติและวิวัฒนาการที่สำคัญของชิป Kirin
ชิป Kirin ของ Huawei มีประวัติการพัฒนาที่น่าสนใจ จากจุดเริ่มต้นในฐานะผู้พัฒนาชิปในประเทศจีน สู่การเป็นผู้ผลิตชิปเรือธงที่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกได้ โดยมีจุดเด่นในด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เป็นรายแรกๆ เช่น AI และ 5G อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตชิป Kirin ทำให้ Huawei ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และหันมาพึ่งพาการพัฒนาและผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการปรับตัวของ Huawei
ชิปประมวลผล Kirin เป็น System-on-a-Chip (SoC) ที่พัฒนาโดย HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Huawei โดย Kirin ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ ของ Huawei โดยเฉพาะ
(Image Credit: HUAWEI Global)
-
ยุคเริ่มต้น (ก่อน Kirin) ก่อนที่จะมีชิป Kirin, HiSilicon ได้เริ่มพัฒนาโปรเซสเซอร์สำหรับอุปกรณ์พกพาของตัวเองในชื่อซีรีส์ K3 โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2009 เช่น K3V1 (110nm), K3V2 (40nm) ในปี 2012 และ K3V3 (28nm) ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kirin 620
-
กำเนิด Kirin และก้าวสู่การแข่งขัน (2014 เป็นต้นไป)
- Kirin 910 (2014) ถือเป็นชิปรุ่นแรกๆ ภายใต้แบรนด์ Kirin ที่เริ่มใช้งานในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ Huawei เช่น Huawei P6 S และ Ascend P7
- Kirin 920 เป็นชิปตัวแรกที่รองรับ LTE Cat 6
- Kirin 950 (2015) เป็นชิปเรือธงที่ใช้กระบวนการผลิต 16nm FinFET+ ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด
- Kirin 960 (2016) เป็นชิป 16nm รุ่นแรกที่นำ CPU ARM Cortex-A73 มาใช้งานเชิงพาณิชย์ และเป็นชิป SoC ตัวแรกที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยทางการเงินสำหรับอุปกรณ์พกพา
- Kirin 970 (2017) จุดเปลี่ยนสำคัญของ Kirin โดยเป็นชิป 10nm รุ่นแรกของ Huawei ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (NPU) และแพลตฟอร์ม AI ในตัว (HiAI) ทำให้สมาร์ทโฟนของ Huawei มีความสามารถด้าน AI ที่โดดเด่น
- Kirin 980 (2018) สร้างความฮือฮาอย่างมากในวงการ เป็นชิปตัวแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต 7nm (ในเวลานั้น) มาพร้อม Transistor กว่า 6,900 ล้านตัว และเป็นชิปตัวแรกของโลกที่มี Dual NPU (หน่วยประมวลผล AI คู่) รวมถึงรองรับ LPDDR4X 2133 MHz และโมเด็ม 1.4 Gbps Cat.21
- Kirin 990 Series (2019) ประกอบด้วย Kirin 990 และ Kirin 990 5G โดย Kirin 990 5G เป็นชิปเรือธง 7nm+ EUV ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมโมเด็ม 5G ในตัว ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย
-
ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ (2020 เป็นต้นไป)
- Kirin 9000 (2020) เป็นชิปเรือธง 5nm 5G SoC รุ่นสุดท้ายที่ Huawei สามารถสั่งผลิตจาก TSMC ได้ก่อนที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้เต็มที่ มาตรการดังกล่าวได้จำกัดความสามารถของ Huawei ในการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงจากบริษัทนอกประเทศจีน
- ยุคแห่งความท้าทายและการพึ่งพาตนเอง หลังจากปี 2020 การผลิตชิป Kirin ประสบปัญหาอย่างหนักเนื่องจากการถูกตัดขาดจากซัพพลายเออร์ชิปรายใหญ่ เช่น TSMC ทำให้ Huawei ต้องพยายามหาทางออกและพึ่งพาเทคโนโลยีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น
- Kirin 9000s (2023) Huawei ได้เปิดตัว Kirin 9000s ในสมาร์ทโฟน Mate 60 Pro ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากชิปนี้ถูกผลิตโดย SMIC ซึ่งเป็นโรงหล่อชิปของจีน โดยใช้เทคโนโลยี 7nm แม้ว่าจะยังไม่เทียบเท่ากับชิปเรือธงของคู่แข่ง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Huawei ในการเอาชนะข้อจำกัด
- Kirin 9010 (2024) ถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟน Pura 70 series ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาต่อยอดจาก Kirin 9000s
- Kirin X90 (2025) มีรายงานว่า Huawei ได้เปิดตัวชิป Kirin X90 ที่คาดว่าจะใช้ใน MateBook Pro รุ่นใหม่ โดยมีข่าวลือว่าผลิตบนโหนด 5nm ของ SMIC
Kirin 9000 คืออะไร
Kirin 9000 คือ ชิปประมวลผล 5 นาโนเมตร (5nm) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าในช่วงที่เปิดตัว (ปลายปี 2020) ทำให้มีจำนวนทรานซิสเตอร์สูงถึง 15.3 พันล้านตัว ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงาน ซึ่งประกอบไปด้วย
(Image Credit: LINE TODAY)
- CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) แบบ Octa-core (8 แกน) โดยมีแกนหลัก Cortex-A77 ความเร็วสูงถึง 3.13 GHz จำนวน 1 แกน, Cortex-A77 อีก 3 แกนที่ 2.54 GHz และ Cortex-A55 อีก 4 แกนที่ 2.05 GHz โครงสร้างแบบ big.LITTLE ช่วยให้จัดการงานหนักเบาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) Mali-G78 MP24 ซึ่งเป็น GPU ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 24 คอร์ในขณะนั้น ทำให้มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่ยอดเยี่ยม
- NPU (หน่วยประมวลผลโครงข่ายประสาทเทียม) Da Vinci Architecture 2.0 สำหรับประมวลผลงาน AI โดยเฉพาะ เพิ่มความฉลาดให้กับฟีเจอร์ต่างๆ ของโทรศัพท์
- โมเด็ม 5G รองรับทั้ง 5G SA&NSA (Standalone & Non-Standalone), Sub-6G และ mmWave ทำให้สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ได้อย่างเต็มรูปแบบ
Kirin 9000 ดีแค่ไหนในปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาในแง่ของประสิทธิภาพ ณ ปัจจุบัน 2025 Kirin 9000 ยังคงเป็นชิปที่ทรงพลังและสามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบาย รวมถึงการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ๆ ย่อมมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า แต่สำหรับสมาร์ทโฟนที่ยังคงใช้ Kirin 9000 อยู่ ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
Kirin 9000 เทียบกับ Snapdragon รุ่นไหนได้บ้าง?
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพชิปเซ็ตทำได้หลายวิธี โดยหลักๆ จะพิจารณาจากผลการทดสอบ Benchmark และประสบการณ์ใช้งานจริง
Kirin 9000 เทียบกับ Snapdragon 888
Snapdragon 888 เป็นชิปเรือธงของ Qualcomm ที่เปิดตัวไล่เลี่ยกับ Kirin 9000 (ปลายปี 2020 / ต้นปี 2021) และเป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ทั้งสองชิปใช้กระบวนการผลิต 5 นาโนเมตรเหมือนกัน
- ประสิทธิภาพ CPU ทั้ง Kirin 9000 และ Snapdragon 888 มีประสิทธิภาพ CPU ที่ ใกล้เคียงกันมาก ในบางการทดสอบ Benchmark เช่น Geekbench 5 Kirin 9000 อาจทำคะแนน Single-Core ได้ดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจากมีแกน Cortex-A77 ที่โอเวอร์คล็อกไปถึง 3.13 GHz ในขณะที่ Snapdragon 888 ใช้แกน Cortex-X1 ที่เป็นแกนที่ใหม่กว่าแต่มีความถี่เริ่มต้นต่ำกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในการใช้งาน Multi-Core หรือการประมวลผลที่ซับซ้อน Snapdragon 888 อาจทำได้ดีกว่าเล็กน้อยเนื่องจากสถาปัตยกรรมแกน Cortex-X1/A78 ที่ใหม่กว่าและมีประสิทธิภาพโดยรวมต่อคอร์ที่ดีขึ้น
- ประสิทธิภาพ GPU (กราฟิก) โดยรวมแล้ว Snapdragon 888 ที่มาพร้อม Adreno 660 มักจะทำคะแนนด้านกราฟิก (เช่น 3DMark, GFXBench) ได้ สูงกว่า Kirin 9000 (Mali-G78 MP24) อย่างเห็นได้ชัดในหลายๆ การทดสอบ ทำให้ Snapdragon 888 มีความได้เปรียบเล็กน้อยสำหรับการเล่นเกมกราฟิกที่เน้นความลื่นไหลสูงสุด และการประมวลผลกราฟิกที่ซับซ้อน
- การจัดการพลังงานและอุณหภูมิ ทั้งสองชิปเป็นชิป 5 นาโนเมตร ซึ่งในช่วงแรกที่เปิดตัวอาจพบปัญหาเรื่องการจัดการความร้อน (Thermal Throttling) ได้บ้างเมื่อใช้งานหนักๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การเล่นเกมนานๆ หรือการบันทึกวิดีโอ 4K
(Image Credit: Indozone Tech)
Kirin 9000 เทียบกับ Snapdragon 870
Snapdragon 870 (เปิดตัวต้นปี 2021) เป็นชิปที่ปรับปรุงมาจาก Snapdragon 865+ ซึ่งเป็นชิปเรือธงของปีก่อนหน้า (2020) แม้จะยังคงเป็นชิปที่ทรงพลัง แต่ก็จัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Kirin 9000 เล็กน้อยในภาพรวม
- ประสิทธิภาพ CPU Kirin 9000 มีประสิทธิภาพ CPU ที่ เหนือกว่า Snapdragon 870 อย่างชัดเจน ทั้งในด้าน Single-Core และ Multi-Core ด้วยสถาปัตยกรรมแกนที่ใหม่กว่าและคล็อกสปีดที่สูงกว่าในแกนประสิทธิภาพสูงสุด
- ประสิทธิภาพ GPU (กราฟิก) แม้ว่า Snapdragon 870 จะมี GPU Adreno 650 ที่มีประสิทธิภาพดี แต่ Mali-G78 MP24 ของ Kirin 9000 ก็ยังคงเหนือกว่า ในภาพรวมด้านกราฟิก ทำให้ Kirin 9000 สามารถรันเกมและแอปพลิเคชันที่เน้นกราฟิกได้ลื่นไหลและมีเฟรมเรตที่ดีกว่า
บทส่งท้าย
หวังว่าข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Kirin 9000 นี้ จะช่วยให้เข้าใจถึงศักยภาพของชิปเซ็ตนี้ได้ดียิ่งขึ้น และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด สำหรับผู้ที่ยังคงสนใจโทรศัพท์ Huawei และกำลังมองหารุ่นที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี ได้เลย