สมาร์ทโฟนที่เราคุ้นเคยกับ Android และ iOS มานานนับทศวรรษ การปรากฏตัวของ HarmonyOS จาก Huawei ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตา หลายคนอาจสงสัยว่า HarmonyOS คืออะไร แตกต่างจากระบบปฏิบัติการอื่นอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือ HarmonyOS ดีไหม? บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ HarmonyOS แบบละเอียด เพื่อตอบทุกข้อสงสัย
บรรณาธิการ
Table of Contents
HarmonyOS คืออะไร
HarmonyOS (Hongmeng OS ในภาษาจีน) ไม่ใช่แค่การนำ Android มาปรับแต่ง แต่เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดโดย Huawei เพื่อรองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึงอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) อย่างสมาร์ทวอทช์ ทีวี หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หัวใจสำคัญของ HarmonyOS คือแนวคิด Super Device หรือ อุปกรณ์รวมร่าง ที่เชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ
(Image Credit: VnExpress)
จุดเด่นสำคัญของ HarmonyOS
- ระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed Operating System) หัวใจสำคัญของ HarmonyOS มันถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ ทีวี ไปจนถึงอุปกรณ์ IoT และแม้กระทั่งในรถยนต์ ทำให้สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันเป็น Super Device ได้อย่างไร้รอยต่อ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถลากแอปจากมือถือไปทำงานต่อบนแท็บเล็ตได้ทันที หรือใช้มือถือควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ได้
- Microkernel-based HarmonyOS ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microkernel ซึ่งช่วยให้ระบบมีขนาดเล็ก ประหยัดทรัพยากร และมีความปลอดภัยสูงกว่า เพราะแต่ละส่วนของระบบจะทำงานแยกจากกัน ทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยลง และสามารถเลือกเคอร์เนลที่เหมาะสมกับอุปกรณ์แต่ละประเภทได้
- ประสิทธิภาพและความเร็ว ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล ใช้ทรัพยากรน้อย ทำให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่มีสเปกหลากหลาย
- ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว Huawei ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ มีกลไกการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวด
- รองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย มี AppGallery เป็น App Store ของ Huawei เองที่รวบรวมแอปพลิเคชันยอดนิยมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถรองรับแอปพลิเคชัน Android บางส่วนได้ (ในเวอร์ชันแรกๆ) ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนแอป
ทำไม Huawei ถึงสร้าง HarmonyOS
สาเหตุหลักคือข้อจำกัดทางการค้าที่สหรัฐอเมริกาบังคับใช้กับ Huawei ทำให้ไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services (GMS) บนอุปกรณ์ Android ของตนเองได้ Huawei จึงต้องพัฒนา HarmonyOS ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกและสร้าง Ecosystem ของตัวเองขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ สรุปง่ายๆ คือ HarmonyOS คือความพยายามของ Huawei ในการสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองที่สามารถเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้บนอุปกรณ์ทุกชนิด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและเป็นหนึ่งเดียวให้กับผู้ใช้
ข้อดี-ข้อเสีย HarmonyOS
ข้อดี HarmonyOS
- เชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว (Super Device) นี่แหละคือทีเด็ดของ HarmonyOS เลย ลองนึกภาพว่าสามารถลากไอคอนแอปจากมือถือไปที่แท็บเล็ตเพื่อทำงานต่อได้ทันที หรือใช้มือถือเป็นรีโมทควบคุมทีวีได้แบบฉลาดๆ หรือแม้แต่เชื่อมต่อหูฟังกับมือถือ แล้วเสียงจะสลับไปเล่นบนแท็บเล็ตเองอัตโนมัติเวลาคุณเปิดวิดีโอ การทำงานแบบ Super Device ทำให้การใช้อุปกรณ์หลายชิ้นเป็นเรื่องง่ายและลื่นไหลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
- เร็วปรื๋อ ลื่นไหล ไม่สะดุด HarmonyOS ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีเยี่ยม ใช้ทรัพยากรน้อย และเสถียรสุดๆ สามารถทำงานได้รวดเร็วและไหลลื่นแม้ในอุปกรณ์ที่มีสเปกไม่ได้สูงมาก เปิดแอปหรือแตะอะไรก็ตอบสนองทันใจ
- ปลอดภัยไว้ก่อน Huawei ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้มากๆ HarmonyOS มีกลไกการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวด และมีการตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะปลอดภัยแน่นอน
- รองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ถึงแม้ HarmonyOS จะไม่ใช่ Android แต่ก็มี AppGallery ซึ่งเป็นร้านค้าแอปของ Huawei เองที่รวบรวมแอปพลิเคชันยอดนิยมไว้เพียบ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ นอกจากนี้ HarmonyOS ยังสามารถรองรับแอปพลิเคชัน Android บางส่วนได้ด้วยนะ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแอปไม่พอใช้เลย
- อัปเดตและพัฒนาไม่หยุด Huawei ทุ่มเททรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนา HarmonyOS อย่างต่อเนื่อง มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพอยู่เสมอ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสีย HarmonyOS
- เรื่องแอป (โดยเฉพาะนอกประเทศจีน โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยู่นอกประเทศจีน แม้ว่าจะมี AppGallery ซึ่งเป็นร้านค้าแอปของ Huawei เอง แต่แอปบางตัวที่คุ้นเคย (โดยเฉพาะพวกบริการของ Google อย่าง Gmail, Google Maps, YouTube) อาจจะไม่มีให้ใช้โดยตรง หรือต้องหาวิธีติดตั้งแบบพิเศษ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับทุกคน HarmonyOS NEXT (เวอร์ชันใหม่ล่าสุด) ในเวอร์ชันใหม่ที่ชื่อ HarmonyOS NEXT อันนี้จะยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะมันจะเน้นแอปที่พัฒนามาเพื่อ HarmonyOS โดยเฉพาะเลย จะไม่สามารถรันแอป Android ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้เรื่องแอปเป็นสิ่งที่ต้องคิดหนักขึ้นสำหรับคนที่อาศัยอยู่นอกประเทศจีน
- ไม่มีบริการ Google (GMS) เนื่องจากปัญหาทางการค้า อุปกรณ์ Huawei ที่ใช้ HarmonyOS จะไม่มีบริการของ Google (GMS) มาให้ ซึ่งหมายถึงพวกแอปและบริการต่างๆ ของ Google ที่หลายคนใช้ในชีวิตประจำวันจะไม่มี
- อาจต้องปรับตัวนิดหน่อย ถ้าคุ้นเคยกับ Android หรือ iOS มานาน อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับ HarmonyOS สักพัก ถึงแม้ว่าหน้าตาบางส่วนจะคล้ายๆ กันก็ตาม
- จำนวนแอปใน AppGallery (นอกประเทศจีน) แม้ AppGallery จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนและความหลากหลายของแอป โดยเฉพาะแอปท้องถิ่นในแต่ละประเทศ อาจจะยังไม่เทียบเท่ากับ Google Play Store หรือ Apple App Store
HarmonyOS เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ Huawei หลากหลายประเภทอยู่แล้ว กลุ่มที่ HarmonyOS ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์โดยตรง ด้วยฟีเจอร์ "Super Device" ที่เชื่อมโยงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์ IoT อื่นๆ ของ Huawei เข้าด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อ การโอนถ่ายข้อมูล การทำงานต่อเนื่องข้ามอุปกรณ์ หรือการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ จะเป็นเรื่องที่ง่ายและลื่นไหลมากๆ หากมีมือถือ Huawei, แท็บเล็ต Huawei, สมาร์ทวอทช์ Huawei และอาจจะลำโพงหรือหูฟัง Huawei การทำงานร่วมกันของอุปกรณ์เหล่านี้จะดีที่สุดบน HarmonyOS
- ผู้ที่มองหาระบบปฏิบัติการทางเลือกใหม่และต้องการประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่าง หากเบื่อกับ Android หรือ iOS ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป และอยากลองสัมผัสประสบการณ์ที่ใหม่กว่า ลื่นไหลกว่า และมีแนวคิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย HarmonyOS ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ถ้าเป็นคนชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ หรืออยากได้ความรู้สึกที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด
(Image Credit: Getty Images)
- ผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ความลื่นไหล และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ HarmonyOS ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรน้อย และมีความเสถียร ทำให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหล ตอบสนองรวดเร็ว และหลายคนยังพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย หากเป็นคนที่ไม่ชอบให้มือถือค้าง ชอบความเร็วในการเปิดแอป หรือไม่ชอบชาร์จแบตบ่อยๆ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน หรือไม่ได้พึ่งพา Google Mobile Services (GMS) เป็นหลัก ในประเทศจีน HarmonyOS มี Ecosystem ที่สมบูรณ์และเติบโตอย่างรวดเร็ว มีแอปพลิเคชันพื้นเมืองมากมาย และผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ได้พึ่งพา GMS อยู่แล้ว ทำให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ถ้าใช้แอปพลิเคชันจีนเป็นหลัก ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ Gmail, Google Maps หรือ YouTube ที่ต้องพึ่ง GMS
- ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล Huawei เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่เข้มงวดใน HarmonyOS ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว หากเป็นคนที่ระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัว และต้องการระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาให้ปลอดภัยตั้งแต่พื้นฐาน
สรุป HarmonyOS ดีไหม
HarmonyOS ดีหรือไม่นั้นค่อนข้างซับซ้อนและขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้ใช้งาน โดยรวมแล้ว HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่น่าสนใจและมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่หลากหลาย (Super Device) และประสิทธิภาพที่ลื่นไหลบนอุปกรณ์ของ Huawei แต่ข้อจำกัดหลักคือการที่ระบบนิเวศของแอปพลิเคชันยังไม่สมบูรณ์เทียบเท่ากับ Android หรือ iOS ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับการเข้าถึงแอปพลิเคชันจำนวนมากได้อย่างอิสระ ทำให้ HarmonyOS อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ Huawei หลายชิ้นและต้องการประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ แต่ยังคงต้องพิจารณาถึงความพร้อมของแอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการใช้งานส่วนตัวด้วย
บทส่งท้าย
HarmonyOS ไม่ใช่แค่ระบบปฏิบัติการที่เอามาใช้แทน Android เฉยๆ แต่มันคือการสร้าง Ecosystem ใหม่ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด ด้วยจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้ HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่น่าจับตามองและน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ถ้ากำลังมองหาสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างและเหนือชั้น HarmonyOS อาจเป็นคำตอบที่กำลังตามหาอยู่ก็เป็นไปได้ หากสนใจโทรศัพท์ หัวเว่ย รุ่นไหนดี? คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี