ลำโพงบลูทูธ JBL Flip 6 และ Charge 5 ถือเป็นสองรุ่นยอดนิยมที่ผู้ใช้หลายคนลังเลว่าจะเลือกใช้อย่างไรดี Flip 6 ได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ให้เสียงคมชัดและเบสแน่น ขณะที่ Charge 5 โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานและมีพอร์ตชาร์จให้ใช้งานเป็น powerbank ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการลำโพงที่ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน บทความนี้จะเจาะลึกข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้ คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า JBL รุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

บรรณาธิการ
Table of Contents
รายละเอียดลำโพง JBL Flip 6

ลำโพง JBL Flip 6 ออกแบบมาให้ทนทานต่อฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP67 มอบเสียงคุณภาพสูงด้วยระบบลำโพงแบบ 2 ทาง (racetrack woofer ขนาด 45 × 80 มม. และทวีตเตอร์ขนาด 16 มม.) พร้อมแรดิเอเตอร์แบบคู่เพื่อเบสที่ลึกขึ้น กำลังขับรวม 30 วัตต์ ให้เสียงกลาง-สูงคมชัด เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กถึงกลาง แบตเตอรี่ภายในเป็น Li-ion polymer ความจุ 17.28 Wh (3.6 V/4800 mAh) เล่นเพลงได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง (ทดสอบจริงประมาณ 9–10 ชั่วโมงที่ระดับเสียง 75 dB SPL) และใช้เวลาชาร์จเต็ม 2.5–3 ชั่วโมงผ่านพอร์ต USB-C ฟีเจอร์ PartyBoost ช่วยจับคู่กับลำโพง JBL รุ่นเดียวกันได้หลายตัว และแอป JBL Portable ก็ช่วยปรับ EQ, อัปเดตเฟิร์มแวร์ และแสดงสถานะแบตเตอรี่ได้
รายละเอียดลำโพง JBL Charge 5

ลำโพง JBL Charge 5 มาพร้อมเสียง “JBL Original Pro Sound” ด้วยระบบลำโพง 2 ทาง (Long Excursion Driver + Separate Tweeter) และ Dual JBL Bass Radiators ที่ช่วยให้เบสดังกระหึ่ม ไม่ล้นจนกลบเสียงกลาง-สูง ด้วยกำลังขับรวม 40 วัตต์ (2 x 25 W RMS Woofer + 2 x 25 W RMS Tweeter) ทำให้เสียงดังชัดเจนในพื้นที่กลางแจ้งหรือห้องขนาดกลาง มาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP67 ช่วยให้ใช้งานในสภาพเปียกน้ำหรือฝุ่นหนาแน่นได้สบาย ๆ แบตเตอรี่ Li-ion polymer ความจุ 27 Wh (3.6 V/7500 mAh) เล่นเพลงได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จเต็มประมาณ 4 ชั่วโมงผ่านพอร์ต USB-C ฟีเจอร์ Powerbank ช่วยชาร์จอุปกรณ์อื่นผ่านพอร์ต USB-A (5 V/2 A) ได้ทันที นอกจากนี้ยังรองรับ PartyBoost สำหรับเชื่อมต่อกับลำโพง JBL รุ่นอื่น ๆ เพื่อขยายเสียงหรือสร้างระบบสเตอริโอได้ง่ายดาย
ความแตกต่างระหว่าง JBL Flip 6 vs JBL Charge 5
การออกแบบและการพกพา
- ขนาดและน้ำหนัก
- JBL Flip 6 ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 178 × 68 × 72 มม. และน้ำหนัก 0.55 กก. ทำให้ง่ายต่อการพกพาและคล้องกับสายกระเป๋าได้สะดวก
- JBL Charge 5 ตัวเครื่องใหญ่กว่า ขนาด 223 × 96.5 × 94 มม. และน้ำหนัก 0.96 กก. ซึ่งทำให้พกพาลำบากกว่าเล็กน้อย แต่แลกด้วยความอึดของแบตเตอรี่และกำลังขับเสียงที่มากกว่า
- วัสดุภายนอกและความทนทาน
- ทั้ง Flip 6 และ Charge 5 หุ้มด้วยผ้าทอลายกริด (woven fabric) และขอบยาง TPU เพื่อความทนทานต่อการกระแทกเบื้องต้น พร้อมมาตรฐานกันน้ำ–กันฝุ่น IP67 (จมในน้ำ 1 เมตรได้ 30 นาที และกันฝุ่นเต็มขั้น)
- Flip 6 ได้รับการออกแบบให้มี “USB Charging Protection” หากพอร์ตชาร์จตรวจพบน้ำหรือสารเคมี จะมีเสียงเตือนให้หยุดชาร์จทันที ช่วยป้องกันความเสียหายเมื่อใช้งานในสภาพเปียก
- Charge 5 มีกรอบยางรอบตัวช่วยป้องกันแรงกดจากการตกกระแทกเล็กน้อยและกันลื่น (grip) ได้ดีขึ้น แต่ไม่มีระบบเตือนการชาร์จเมื่อเจอน้ำเหมือน Flip 6
คุณภาพเสียง
- ระบบลำโพง
- Flip 6 ใช้ Woofer ขนาด 45×80 มม. ให้กำลัง 20 W RMS และ Tweeter ขนาด 16 มม. ให้กำลัง 10 W RMS พร้อม Dual Passive Radiators เพื่อเบสที่กระชับไม่กลบรายละเอียดเสียงกลาง-สูง
- Charge 5 มาพร้อม Woofer ขนาด 52×90 มม. ให้กำลัง 30 W RMS และ Tweeter ขนาด 20 มม. ให้กำลัง 10 W RMS พร้อม Dual Pumping JBL Bass Radiators ช่วยให้เบสมีแรงดันและความแน่นทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ Flip 6
- กำลังขับเสียง
- พลังขับรวมของ Flip 6 อยู่ที่ 30 W RMS (Woofer 20 W + Tweeter 10 W) พอใจกับการใช้งานในห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลางและภายนอกที่ไม่ต้องการเสียงเบสจัดมากนัก
- ส่วน Charge 5 ให้พลังขับรวมถึง 40 W RMS (2×25 W Woofer + 2×25 W Tweeter) จึงได้เสียงที่ดังกว่า เบสกระแทกหนักกว่า เหมาะใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งหรือห้องขนาดกลางขึ้นไปได้ดี
- การตอบสนองความถี่
- Flip 6 ตอบสนองได้ตั้งแต่ 63 Hz – 20 kHz ให้เสียงกลาง-สูงที่ชัด และเบสพอดีไม่ล้นจนกลบรายละเอียดเสียงอื่น
- Charge 5 ขยายย่านเบสให้ลึกลงถึง 60 Hz – 20 kHz ทำให้เบสกระแทกชัดเจนในย่านต่ำกว่าของ Flip 6 เล็กน้อย จึงได้มิติของเสียงเบสที่หนากว่าเดิม
- ความคิดเห็นจากรีวิวภายนอก
- RTINGS ให้คะแนนว่า Flip 6 มี soundstage ที่กว้างเมื่อเทียบกับขนาดและให้รายละเอียดเสียงกลาง-สูงที่ดี แต่ Charge 5 จะให้เบสที่เป็นก้อนและดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับแนวเพลงที่เน้นเบส เช่น EDM หรือ Hip-Hop มากกว่า
- รีวิวทั่วไปชี้ว่าหากเปิดเสียงดังสุด Flip 6 ยังรักษาความคมชัดของเสียงกลาง-สูงได้ดี แต่ Charge 5 จะเริ่มมี distortion เล็กน้อยเมื่อปรับความดังสูงสุด แต่แลกมาด้วย “พลังเบส” ที่มากกว่าและช่วงเบสที่ลึกกว่าอย่างชัดเจน
แบตเตอรี่และการชาร์จ
- ความจุแบตเตอรี่ และอายุการใช้งาน
- Flip 6 ใช้แบตเตอรี่ Li-ion Polymer 17.28 Wh (3.6 V/4800 mAh) ระบุเล่นเพลงได้นานสุด 12 ชั่วโมง (ทดสอบจริงประมาณ 9–10 ชั่วโมงที่ 75 dB SPL) ก่อนแบตจะหมด
- Charge 5 มีแบตเตอรี่ Li-ion Polymer 27 Wh (3.6 V/7500 mAh) ให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 20 ชั่วโมง (ทดสอบจริงประมาณ 18–19 ชั่วโมงที่ 75 dB SPL) ก่อนแบตจะหมด
- เวลาชาร์จและพอร์ต
- Flip 6 ชาร์จผ่าน USB-C ใช้เวลาประมาณ 2.5–3 ชั่วโมง เมื่อใช้หัวชาร์จ 5 V/3 A หรือสูงกว่า
- Charge 5 ชาร์จผ่าน USB-C ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อใช้หัวชาร์จ 5 V/3 A หรือสูงกว่า แต่ไม่รองรับ Fast Charge จริงจัง จึงแนะนำใช้อแดปเตอร์ 18 W ขึ้นไปเพื่อให้ชาร์จเร็วขึ้นเล็กน้อย
- ฟีเจอร์ Power Bank
- Flip 6 ไม่มีพอร์ต USB-A สำหรับจ่ายไฟให้มือถือหรืออุปกรณ์อื่น กล่าวคือไม่สามารถเป็น Powerbank ได้
- Charge 5 มีพอร์ต USB-A (5 V/2 A) ในตัว ทำหน้าที่เป็น Powerbank ชาร์จโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริมได้ทันทีระหว่างใช้งานลำโพง ซึ่งอาจลดระยะเวลาการเล่นเพลงลงเล็กน้อยตามกำลังไฟที่ส่งออก แต่ยังถือว่าคุ้มค่าในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องชาร์จมือถือ
การเชื่อมต่อและฟีเจอร์เสริม
- Bluetooth 5.1 & PartyBoost
- ทั้ง Flip 6 และ Charge 5 ใช้ Bluetooth 5.1 รองรับโปรไฟล์ A2DP 1.3, AVRCP 1.6 เชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 10–15 เมตรในที่โล่ง และเสถียรขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- PartyBoost ในทั้งสองรุ่นสามารถจับคู่กับลำโพง JBL รุ่น PartyBoost เหมือนกัน (Flip 6, Flip 5, Charge 5, Xtreme 3 เป็นต้น) เพื่อสร้างเสียงสเตอริโอ (Stereo Mode) หรือขยายเสียงให้ดังพร้อมกันหลายตัว (Party Mode) ได้ง่ายผ่านปุ่ม PartyBoost บนตัวเครื่อง
- การปรับแต่งเสียงผ่านแอป JBL Portable
- แอป JBL Portable (iOS/Android) รองรับทั้ง Flip 6 และ Charge 5 สามารถปรับ EQ 3 แบนด์ (Bass, Mid, Treble) ตามที่ต้องการ อัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware Update) และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้ทันที
- Flip 6 มีฟีเจอร์ USB Charging Protection แจ้งเตือนให้หยุดชาร์จเมื่อพอร์ตพบความชื้นหรือสารเคมี เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชิปชาร์จ
- Charge 5 มี Dual Pumping Bass Radiators ช่วยให้เบสแน่นขึ้นโดยไม่กินกำลังขับมากเกิน และบรรจุภัณฑ์ Eco-friendly รีไซเคิลได้กว่า 90% และพิมพ์ด้วยหมึกถั่วเหลือง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตารางเปรียบเทียบลำโพง JBL Flip 6 vs ลำโพง JBL Charge 5
คุณสมบัติ |
ลำโพง JBL Flip 6 | ลำโพง JBL Charge 5 |
ขนาด | 178 × 68 × 72 มม. | 223 × 96.5 × 94 มม. |
น้ำหนัก | 0.55 กก. | 0.96 กก. |
กำลังขับรวม | 30 W (Woofer 45×80 มม. + Tweeter 16 มม.) | 40 W RMS (2×25 W Woofer 52×90 มม. + 2×25 W Tweeter 20 มม.) |
ช่วงความถี่ | 63 Hz – 20 kHz | 60 Hz – 20 kHz |
เวลาการใช้งาน | 12 ชั่วโมง (ทดสอบจริง 9–10 ชั่วโมง at 75 dB SPL) | 20 ชั่วโมง (ทดสอบจริง 18–19 ชั่วโมง at 75 dB SPL) |
เวลาชาร์จ | 2.5–3 ชั่วโมง ผ่าน USB-C (5 V/3 A) | 4 ชั่วโมง ผ่าน USB-C (5 V/3 A) |
พอร์ตชาร์จ | USB-C (รับชาร์จเท่านั้น) | USB-C (รับชาร์จ) + USB-A (จ่ายไฟ 5 V/2 A ใช้เป็น Powerbank) |
Powerbank | ไม่มี | มี (จ่ายไฟ USB-A 5 V/2 A) |
Bluetooth | Bluetooth 5.1 (A2DP, AVRCP) | Bluetooth 5.1 (A2DP, AVRCP) |
PartyBoost | รองรับ (จับคู่กับลำโพง JBL รุ่น PartyBoost ได้) | รองรับ (จับคู่กับลำโพง JBL รุ่น PartyBoost ได้) |
IP Rating | IP67 (กันฝุ่นเต็มขั้น, จมในน้ำ 1 ม. ได้นาน 30 นาที) | IP67 (กันฝุ่นเต็มขั้น, จมในน้ำ 1 ม. ได้นาน 30 นาที) |
วัสดุภายนอก | ผ้าทอลายกริด (Woven Fabric Grill) + ขอบ TPU กันกระแทกบางส่วน | ผ้า Robuster Nylon + กรอบยาง TPU ป้องกันรอยขีดข่วนและลื่น |
ขนาดไดรเวอร์ | Woofer racetrack 45×80 มม. + Tweeter 16 มม. + Dual Passive Radiators | Woofer 52×90 มม. + Tweeter 20 มม. + Dual Pumping Bass Radiators |
Eco-friendly Packaging | ใช้วัสดุรีไซเคิลได้สูง, หมึกถั่วเหลือง (Soy Ink) | ใช้วัสดุรีไซเคิลได้สูง, หมึกถั่วเหลือง (Soy Ink) |
บทส่งท้าย
เน้นเรื่องความคล่องตัวในการพกพา น้ำหนักเบา ฟังเพลงทั่วไปตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างสบาย ๆ และเน้นดีไซน์ทันสมัย JBL Flip 6 จะตอบโจทย์มากกว่า แต่หากต้องการลำโพงที่ใช้งานแบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องนาน 20 ชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ Powerbank สำหรับชาร์จโทรศัพท์ได้ด้วย และต้องการเสียงเบสที่หนักแน่น JBL Charge 5 จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ทั้งนี้ ลองพิจารณางบประมาณและรูปแบบการใช้งานเป็นหลักเพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุด อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นอื่นๆ ในบทความ ลำโพง JBL รุ่นไหนดี