Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
ชี้เป้าเว็บขายมือถือมือสอง ที่เชื่อถือได้ การันตีของแท้

ชี้เป้า เว็บขายมือถือมือสอง ที่เชื่อถือได้ การันตีของแท้

เว็บขายมือถือมือสอง ที่เชื่อถือได้ การันตีของแท้ พร้อมรายละเอียดข้อดี-ข้อควรระวัง เพื่อช่วยคุณเลือกซื้อมือถือมือสองแบบมั่นใจ

หากคุณกำลังมองหาช่องทางขายมือถือมือสองอย่างรวดเร็วและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ควรเลือกแพลตฟอร์มที่ตรวจสภาพละเอียดและรับประกันของแท้ ในบทความนี้จะแนะนำเว็บขายมือถือมือสองที่เน้นรับซื้ออย่างเดียว ให้บริการถึงบ้าน ตรวจสภาพเครื่องจริง โอนเงินทันที และมอบราคายุติธรรม เพื่อให้มั่นใจว่าจะขายได้ในราคาที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางหรือเสี่ยงกับการโดนโกง


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

เว็บขายมือถือมือสอง เช็กสภาพเครื่องอย่างไรบ้าง

เว็บไซต์ขายมือถือมือสองชั้นนำในไทยมักใช้กระบวนการตรวจสภาพเครื่องหลายขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามือสองที่จำหน่ายเป็นของแท้ และพร้อมใช้งานได้ตามมาตรฐาน โดยทั่วไปจะครอบคลุมตั้งแต่การตรวจเช็กจุดสำคัญต่างๆ ทั้งภายนอกและภายใน เช่น การตรวจสอบสภาพหน้าจอ ไมโครโฟน กล้อง ระบบสัมผัส แบตเตอรี่ รวมถึงการตรวจสอบ IMEI/Serial Number เพื่อป้องกันเครื่องล็อกหรือเครื่องหาย จากนั้นจะผ่านการทดสอบฟังก์ชันการใช้งานหลักและซอฟต์แวร์ต่างๆ จึงสรุปราคาขายหรือประเมินราคาเพื่อให้ผู้ขายมั่นใจได้ว่าสามารถขายได้ในราคายุติธรรม

1. การตรวจเช็กภายนอก (Visual Inspection)

  • ตรวจสภาพตัวเครื่องและบอดี้: ดูรอยขีดข่วน รอยบุบ ร่องรอยการแกะซ่อม รวมถึงตรวจขอบเครื่องว่าไม่มีรอยแตกหรือหลวม

  • ตรวจสภาพหน้าจอ: ตรวจหาจุดเดดพิกเซล (dead pixel) รอยแตก แตกละเอียดบนกระจกหรือจอทัชสกรีน รวมถึงดูการเปลี่ยนสีหรือรอยซีดของหน้าจอ

  • ตรวจปุ่มกด/พอร์ตต่างๆ: กดทดสอบปุ่มพาวเวอร์ ปุ่มโฮม/ปุ่มปรับเสียง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปุ่มใดติดหรือกดไม่ตอบสนอง และตรวจพอร์ตชาร์จ หูฟัง ว่าไม่มีฝุ่นหรือสนิมอุดตัน

2. การตรวจเช็กภายใน (Functional Testing)

  • ทดสอบระบบสัมผัส ลากนิ้วไปทั่วหน้าจอเพื่อดูการตอบสนองว่ามีจุดสะดุดหรือตอบสนองช้า

  • ตรวจสอบกล้องหน้า-หลัง เข้าแอปกล้องแล้วสลับทดสอบกล้องหน้าและกล้องหลัง ตรวจโฟกัสและคุณภาพภาพว่ามีสัญญาณรบกวนหรือไม่

  • ทดสอบลำโพงและไมโครโฟน เปิดเพลงหรือไฟล์เสียงเพื่อตรวจลำโพง เล่นเสียงไมโครโฟนผ่านแอปบันทึกเสียงเพื่อให้แน่ใจว่ารับเสียงได้ชัดเจน

  • ทดสอบระบบ Face ID / Touch ID (หากมี) แมปใบหน้าหรือวางนิ้วบนเซ็นเซอร์เพื่อตรวจว่าอ่านลายนิ้วมือหรือใบหน้าได้แม่นยำ

  • ตรวจเช็กเซ็นเซอร์ (Accelerometer, Light Sensor, Proximity Sensor) เปิดแอปที่ทดสอบเซ็นเซอร์เช่น แอปตรวจวัดความสว่าง เพื่อให้มั่นใจว่ามีการอ่านค่าถูกต้อง

  • ทดสอบระบบเชื่อมต่อไร้สาย (Wi-Fi, Bluetooth) เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ทดสอบ Bluetooth กด Pairing กับอุปกรณ์เสริมเพื่อดูการเชื่อมต่อสะดวกหรือไม่

3. การตรวจสอบแบตเตอรี่และการชาร์จ

  • ตรวจสุขภาพแบตเตอรี่ ดูเปอร์เซ็นต์ความจุสูงสุดในเมนูการตั้งค่า หรือใช้แอปช่วยตรวจว่าแบตเตอรี่เสื่อมมากน้อยเพียงใด 

  • ทดสอบการชาร์จ ชาร์จแบตเตอรี่แล้วดูว่าเครื่องรับไฟปกติ หรือชาร์จได้ไม่ติดขัด และดูว่าสามารถใช้งานในขณะชาร์จได้หรือไม่

4. การตรวจสอบซอฟต์แวร์และ IMEI

  • รีเซ็ตเครื่องและตรวจซอฟต์แวร์ ทำการ Factory Reset เพื่อลบข้อมูลเก่า ตรวจสอบว่าเครื่องเข้าระบบปฏิบัติการได้ไม่มีปัญหา เช่น ระบบค้าง หรือแอปเด้งแล้วปิดเอง

  • เช็ก IMEI/Serial Number ตรวจสอบหมายเลข IMEI กับฐานข้อมูลผู้ผลิต (เช่น ผ่านเว็บไซต์ของ Apple หรือ Samsung) เพื่อดูสถานะประกันและเช็กว่าเครื่องไม่ถูกล็อกหรือเป็นสายมืด (Blacklist)

เว็บขายมือถือมือสอง ประเมินราคาอย่างไร

เว็บขายมือถือมือสองส่วนใหญ่จะประเมินราคาจากปัจจัยหลัก 4 ด้าน ได้แก่ ยี่ห้อและรุ่น, อายุการใช้งานและสภาพเครื่อง, ความจุหน่วยความจำ และอุปกรณ์เสริมที่แนบมา ก่อนจะเทียบกับราคาตลาดปัจจุบันเพื่อกำหนดราคาซื้อขายที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มอาจมีรายละเอียดขั้นตอนแตกต่างกันบ้าง เช่น บางแห่งมีระบบประเมินราคาทางออนไลน์ทันที บางแห่งนัดตรวจสภาพเครื่องจริงเพื่อสรุปราคาอีกครั้ง ดังนั้น ผู้ขายควรเตรียมข้อมูลเบื้องต้นให้ครบถ้วนตั้งแต่ยี่ห้อ รุ่น สภาพเครื่อง และอุปกรณ์เสริม เพื่อให้ได้ราคาประเมินที่ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด

1. ยี่ห้อและรุ่น (Brand & Model) เว็บขายมือถือมือสองจะเริ่มจากการตรวจสอบยี่ห้อและรุ่นของเครื่องก่อนเป็นอันดับแรก สมาร์ทโฟนแถวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่าง iPhone, Samsung หรือ Apple รุ่นใหม่ ๆ มักได้รับราคาสูงกว่าเครื่องรุ่นเก่าหรือแบรนด์ที่รองลงมา

2. อายุการใช้งานและสภาพเครื่อง (Age & Condition) สภาพภายนอกจะถูกแบ่งออกเป็นเกรดต่าง ๆ เช่น Grade A (สภาพดี ไม่มีรอย) Grade B (มีรอยเล็กน้อย) Grade C (มีรอยมากหรือเครื่องมีปัญหา) ฯลฯ ตัวอย่างเช่น Siamphone จะให้ผู้ขายเลือกระบุสภาพเครื่องเป็น A, B, C หรือ D และระบบจะแปลงสภาพเป็นตัวเลขประเมินราคาเบื้องต้นให้เห็นทันที ด้าน YelloBe ก็ให้ผู้ขายกรอกสภาพเบื้องต้นลงในเว็บ จากนั้นใช้ระบบประเมินราคาภายใน 1 นาทีเบื้องต้นก่อนส่งพนักงานมาตรวจจริง

3. ความจุหน่วยความจำ (Storage Capacity) มือถือที่มีหน่วยความจำ (RAM/ROM) ขนาดสูงกว่าจะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า เช่น iPhone 11 หน่วยความจำ 256GB มักถูกประเมินราคาสูงกว่า 64GB แต่ละแพลตฟอร์มมักเปิดให้เลือกระบุความจุมือถือก่อนเริ่มประเมินราคา

4. อุปกรณ์เสริมและสภาพกล่อง (Accessories & Packaging) บางแพลตฟอร์มจะให้คะแนนเพิ่มหากผู้ขายมีอุปกรณ์เสริมครบชุด เช่น กล่องแท้ สายชาร์จ หูฟัง หนังสือรับประกัน ฯลฯ ยิ่งมีอุปกรณ์ครบ อัตราการลดราคาจะต่ำลง เท่ากับราคาที่ผู้ขายจะได้รับสูงขึ้น ตัวอย่างที่ Studio7 นอกจากดูรุ่นกับสภาพเครื่องแล้ว ยังตรวจสอบว่ามีกล่องและอุปกรณ์ครบหรือไม่เพื่อกำหนด Grade A/B

5. ซอฟต์แวร์และสถานะ IMEI/Serial Number (Software & IMEI Status) หลายแพลตฟอร์มจะให้ผู้ขายส่งหมายเลข IMEI หรือ Serial Number เพื่อเช็กรายละเอียดสถานะประกันและสถานะล็อกเครือข่าย ว่าเครื่องไม่ถูก blacklist หรือมีประวัติผ่านศูนย์มาซ่อมบ่อยเกินไป แต่บางแห่งจะตรวจสอบ IMEI/Serial Number แบบออฟไลน์เมื่อนัดตรวจสภาพจริง เช่น Remobie จะใช้แอป “Remobie Check” ตรวจ 14 รายการรวมถึงสถานะ IMEI ก่อนสรุปราคา


ถ้าอยากขายมือถือถึงบ้านควรทำอย่างไร

การขายมือถือถึงบ้านในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเพราะสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาไปที่จุดนัดพบ และสามารถรับเงินสดหรือโอนเงินทันทีเมื่อเครื่องถูกตรวจสภาพเรียบร้อย โดยทั่วไปขั้นตอนจะเริ่มจากการกรอกข้อมูลเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มที่ให้บริการ จากนั้นเลือกวัน เวลา และสถานที่ให้พนักงานมารับเครื่องถึงบ้านโดยไม่มีค่าบริการ ก่อนถึงวันนัดควรเตรียมเครื่องให้พร้อม ได้แก่ ลบข้อมูลส่วนตัว ออกจาก iCloud/Google และชาร์จแบตเตอรี่เต็ม เมื่อถึงเวลานัดจะมีพนักงานมาตรวจสภาพเครื่องจริง ทั้งฟังก์ชันหลักและสภาพภายนอก เพื่อสรุปราคาและชำระเงินทันที


แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับขายมือถือถึงบ้าน

YelloBe

  • เว็บไซต์หลักและขั้นตอน เริ่มจากเข้าไปที่เว็บไซต์ YelloBe กรอกยี่ห้อ รุ่น ความจุ และสภาพเครื่อง ระบบจะประเมินราคาให้ภายใน 1 นาที

  • ค่าบริการและการรับเครื่อง ฟรีค่าบริการ เมื่อยืนยันขาย เลือกวันและเวลาที่สะดวกให้พนักงานมารับเครื่องถึงบ้านหรือที่ทำงานได้

  • การตรวจสภาพจริง พนักงาน YelloBe จะตรวจสอบสภาพเครื่องจริงหน้างาน ทั้งภายนอกและฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อสรุปราคาสุดท้าย

  • การชำระเงิน โอนเงินทันทีหรือรับเป็นเงินสดตามตกลง เอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร

  • รีวิวและความน่าเชื่อถือ ได้รับคำชมเรื่องบริการรวดเร็ว และมาพร้อมการล้างข้อมูลก่อนรับเครื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้ขาย

Remobie

  • เว็บไซต์หลักและ Remobie Check App สามารถตรวจสภาพเบื้องต้นด้วยแอป “Remobie Check” ซึ่งทดสอบฟังก์ชัน 14 รายการ เช่น หน้าจอ ระบบสัมผัส ลำโพง ไมโครโฟน กล้อง และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายใน 2–3 นาที

  • ขั้นตอนนัดหมายและตรวจสภาพจริง หลังทดสอบเบื้องต้นให้เลือกวันเวลาและสถานที่ที่สะดวก ทีมงาน Remobie จะมาตรวจสภาพซ้ำ และประเมินราคาอีกครั้ง พร้อมโอนเงินทันทีหลังยืนยันราคา

  • ค่าบริการและข้อดี ไม่มีค่าบริการในการรับเครื่อง ถึงบ้านหรือที่ทำงาน ใช้เวลาไม่นาน และได้ราคาสูงเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น

  • เสียงตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ขายทั่วไปรีวิวว่าได้รับบริการรวดเร็ว ราคาเป็นธรรม พนักงานสุภาพ และไม่ต้องเดินทางไปร้านเอง


บทส่งท้าย

มือถือมือสองกับเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้และมีการันตีของแท้ จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องสินค้าปลอมและปัญหาการใช้งานในระยะยาว หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ค้นหาช่องทางซื้อ-ขายมือถือมือสองที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ หากสนใจโทรศัพท์ราคาประหยัดเพิ่มเติม สามารถติดตามบทความ โทรศัพท์ไม่เกิน 5000 ยี่ห้อไหนดี เพื่อดูรีวิวและแนะนำรุ่นต่างๆ ที่คุ้มค่าในงบเบาๆ

สิ้นสุดบทความ