Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
เรียนหมอ ใช้ iPad รุ่นไหนดี รองรับ AR3D จดโน้ต ดู CTMRI ครบทุกฟีเจอร์

เรียนหมอ ใช้ iPad รุ่นไหนดี รองรับ AR/3D จดโน้ต ดู CT/MRI ครบทุกฟีเจอร์

iPad รุ่นไหนเหมาะสำหรับนักศึกษาแพทย์ที่ต้องการจดเลคเชอร์ วาดแผนผังกายวิภาค และทำงานวิจัย พร้อมแนะนำข้อดีข้อเสียแต่ละรุ่น เพื่อช่วยตัดสินใจอย่างตรงจุด

สำหรับนักศึกษาแพทย์ iPad กลายเป็นอุปกรณ์คู่ใจในการจดบันทึกเลคเชอร์ วาดแผนผังกายวิภาค และอ่านงานวิจัยบน PDF ได้อย่างคล่องตัว เพราะสามารถใช้ Apple Pencil จดได้เหมือนเขียนบนกระดาษ แต่มีไฟล์เก็บเป็นดิจิทัลที่ค้นหาง่ายขึ้น Apple ก็ได้อัปเดตรุ่นใหม่ ๆ ให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่ iPad รุ่นเริ่มต้น ไปจนถึง iPad Pro สำหรับมือโปร บทความนี้จะพาไปดูข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่นว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักศึกษาแพทย์มากที่สุด


บรรณาธิการ

Puifaii chevron_right

...

ทำไมเรียนหมอต้องใช้ iPad

การใช้ iPad ในการเรียนแพทย์มีประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ การพกพาที่สะดวกมากกว่าคอมพิวเตอร์แบบเดิม การจดบันทึกด้วย Apple Pencil ให้ความรู้สึกเหมือนเขียนบนกระดาษ พร้อมฟังก์ชันการค้นหาหลังจากเขียนเสร็จ การเข้าถึงหนังสือเรียนและบทความวิจัยในรูปแบบดิจิทัลได้ทันทีโดยไม่ต้องพกหนังสือเล่มหนาหนัก การสื่อสารและแชร์ข้อมูลทางคลินิกระหว่างนักศึกษา แพทย์ และผู้ป่วยเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ iPad ยังรองรับแอปพลิเคชันทางการแพทย์เฉพาะทาง เช่น การดูภาพรังสีและระบบ EMR ได้โดยตรงบนหน้าจอสัมผัส ระบบการรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้ป่วยที่เก็บไว้ใน iPad ถูกเข้ารหัสอย่างเข้มงวด ทันสมัยกว่าการพกแฟ้มกระดาษแบบเดิม และเทคโนโลยีเสริมอย่าง AR/3D ช่วยให้การเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์เป็นไปอย่างเข้าใจง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับหนังสือเรียนสองมิติทั่วไป


วิธีเลือก ไอแพด เรียนหมอ

1. ชิป (Processor & GPU)

  • A16 Bionic (iPad Gen 11) เพียงพอต่อการจดเลคเชอร์ เปิด PDF งานวิจัย และแอปตรวจเช็คข้อมูลยาเบื้องต้น โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียง iPad Air M2 ของปีก่อน
  • M3 Bionic (iPad Air 7th gen) เร็วกว่า A16 ประมาณ 35% ในงาน CPU และ 40% ในงาน GPU เหมาะกับแอป AR/3D กายวิภาคและตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น
  • M4 Bionic (iPad Pro 7th gen) รองรับงานดู CT/MRI ความละเอียดสูง, โปรแกรม ANKI 3D flashcards และตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ลื่นไหล ดังนั้นเหมาะกับงานวิจัยหนัก ๆ

2. ขนาดหน้าจอและน้ำหนัก

  • 10.9–11 นิ้ว (iPad Gen 11 / iPad Air 11 / iPad Pro 11) ให้พื้นที่พอเหมาะสำหรับจดเลคเชอร์และดู PDF คู่กัน โดยรุ่น Gen 11 หนักประมาณ 487 กรัม (Wi-Fi) และ Air 11 หนักประมาณ 461 กรัม (Wi-Fi) เหมาะต่อการพกพาเข้าห้องเรียนหรือคลินิกตลอดวัน
  • 13 นิ้ว (iPad Air 13 / iPad Pro 13) มอบพื้นที่จอมากขึ้น เหมาะกับการเปิดเอกสารหลายหน้าต่างพร้อมกัน แต่แลกกับน้ำหนักประมาณ 579 กรัม (Wi-Fi) ซึ่งอาจรู้สึกหนักขึ้นเล็กน้อยเมื่อต้องถือทั้งวัน
  • 8.3 นิ้ว (iPad mini 7) น้ำหนักเพียง 293 กรัม พกพาสะดวก สะดวกต่อการอ้างอิงข้อมูลระหว่างเวรตรวจและดูภาพสแกนเบื้องต้น แม้จอเล็กแต่ชิป A17 Pro ก็แรงพอสำหรับ AR/3D กายวิภาคเบื้องต้น

3. การรองรับ Apple Pencil และอุปกรณ์เสริม

  • เลือก iPad ที่รองรับ Apple Pencil (2nd gen) / Apple Pencil Pro เพื่อการจดบันทึกและสเก็ตช์โครงสร้างกายวิภาคได้แม่นยำ เช่น iPad Gen 11, iPad Air M3, iPad Pro M4, และ iPad mini 7
  • พิจารณาอุปกรณ์เสริม Magic Keyboard / Smart Keyboard Folio สำหรับการพิมพ์รายงานและสร้างสไลด์อย่างจริงจัง (iPad mini 7 ไม่รองรับ Magic Keyboard)

4. พอร์ตและการเชื่อมต่อ

  • USB-C / Thunderbolt 4 (iPad Air M3, iPad Pro M4) โอนถ่ายไฟล์งานวิจัยขนาดใหญ่และเชื่อมต่อจอภายนอก, SSD ความเร็วสูง หรือ Docking Station ได้เร็ว เหมาะสำหรับการพรีเซนต์งานหรือวิเคราะห์ข้อมูลบนหน้าจอใหญ่
  • USB-C (iPad Gen 11, iPad mini 7) ให้ความเร็วโอนถ่ายข้อมูลมาตรฐาน USB 3.2 แม้จะช้ากว่า Thunderbolt แต่เพียงพอสำหรับโอนย้ายไฟล์ PDF, ภาพรังสี และงานวิจัยทั่วไป

5. แบตเตอรี่และการใช้งานต่อเนื่อง iPad ทุกโมเดลที่กล่าวข้างต้น สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 8–10 ชั่วโมง เมื่อใช้งานจดเลคเชอร์ ดู PDF และแอป AR/3D กายวิภาคตลอดวันจึงไม่ต้องพกอะแดปเตอร์บ่อยครั้ง


แนะนำ iPad รุ่นไหนดี สำหรับนักศึกษาแพทย์

  • iPad Gen 11 (A16 Bionic, 11 นิ้ว) ชิป A16 Bionic พร้อม RAM 6 GB ให้การจดบันทึก เปิด PDF และใช้งานแอปทางการแพทย์ทั่วไปได้ลื่นไหล เป็นรุ่นที่มีราคาย่อมเยา เหมาะกับนักศึกษาแพทย์ที่ต้องการอุปกรณ์ประสิทธิภาพพอเพียงโดยไม่เน้นงานกราฟิกหรือ AR/3D
  • iPad Air (M3 Bionic, 11 นิ้ว หรือ 13 นิ้ว) ชิป M3 Bionic เร็วกว่า A16 ประมาณ 35 % ในงาน CPU และ 40 % ในงาน GPU เหมาะกับการใช้งาน AR/3D กายวิภาค ตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น และสลับแอปหลายหน้าต่าง ได้รับส่วนลดราคาส่งเสริมการศึกษาทำให้คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับรุ่น Pro แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 10 ชั่วโมง
  • iPad Pro (M4 Bionic, 11 นิ้ว หรือ 13 นิ้ว) ชิป M4 Bionic รองรับงานดูภาพ CT/MRI ความละเอียดสูง แอป ANKI 3D flashcards และการตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ลื่นไหล หน้าจอ ProMotion 120 Hz ช่วยให้การเขียนสเก็ตช์และเลื่อนเอกสารไม่ดีเลย์ เหมาะกับโปรเจกต์วิจัยหนัก ๆ รองรับ Thunderbolt/USB4 ในการเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ความเร็วสูงหรือจอภายนอก ได้สเปกที่รองรับทุกการใช้งานทางการแพทย์ระดับมืออาชีพ
  • iPad mini (A17 Pro, 8.3 นิ้ว) ชิป A17 Pro แรงขึ้นประมาณ 30 % เมื่อเทียบกับ A15 รุ่นก่อน พกพาสะดวกสุดเพราะน้ำหนักเพียง 293 กรัม แม้จอเล็กแต่เพียงพอสำหรับการดู e-book หรือภาพรังสีเบื้องต้น และแอป AR/3D กายวิภาคเบื้องต้น เหมาะกับการพกติดตัวไปคลินิกหรือเดินตรวจคนไข้ รองรับ Apple Pencil Pro

ตารางเปรียบเทียบ ไอแพด เรียนหมอ

รุ่น iPad ชิปเซต ขนาดหน้าจอ รองรับ Pencil/Keyboard จุดเด่นหลัก
iPad Gen 11 A16 Bionic 10.9 นิ้ว Apple Pencil 2nd Gen, Keyboard Folio จดเลคเชอร์ เปิด PDF, แอปตรวจเช็คข้อมูลยา ราคาย่อมเยา
iPad Air 7th gen M3 Bionic 11 นิ้ว Apple Pencil Pro, Magic Keyboard AR/3D Anatomy, ตัดต่อวิดีโอ, พิมพ์รายงาน, โปรโมชันการศึกษา
iPad Pro 7th gen M4 Bionic 11 นิ้ว Apple Pencil Pro, Magic Keyboard ดูภาพ CT/MRI ความละเอียดสูง, ตัดต่อวิดีโอ 4K, ทำ AR เต็มรูปแบบ
iPad mini 7 A17 Pro 8.3 นิ้ว Apple Pencil Pro (เล็ก), ไม่รองรับ Keyboard พกสะดวกสุด ดู e-book/ภาพรังสีเบื้องต้น, AR/3D เบื้องต้น


บทส่งท้าย

iPad แต่ละรุ่น มีจุดเด่นแตกต่างกัน หากเน้นงบประหยัดและใช้งานทั่วไปเชิงศึกษา iPad Gen 11 (A16) จะตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าอยากได้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเพื่อใช้ทำวิจัย หรืองานตัดต่อเบื้องต้น iPad Air M3 จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่ารุ่นโปร กรณีที่ต้องการสเปกสุดล้ำสำหรับแอปเฉพาะทางหรืองานวิทยานิพนธ์ที่ต้องประมวลผลหนัก ๆ iPad Pro M4 คือคำตอบสุดท้าย แต่ต้องแลกมากับราคาที่สูงพอควร และหากต้องการพกไปคลินิกหรือเดินตรวจคนไข้ iPad mini 7 ก็ยังเป็นไอเท็มเสริมที่พกง่ายและแรงเหลือเฟือสำหรับการดูภาพรังสีเบื้องต้น ใครที่สนใจอยากอ่านรีวิวเปรียบเทียบ iPad ทุกรุ่นพร้อมฟีเจอร์เจาะลึกเพิ่มเติม ลองไปดูได้ที่ iPad รุ่นไหนดี เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณ

สิ้นสุดบทความ