ปี 2025 คือสมรภูมิใหม่ของชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนเรือธง เมื่อ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Elite พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และ MediaTek ส่ง Dimensity 9400 ลงสนามด้วยจุดแข็งด้าน AI On-Device
แม้จะใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 3nm เหมือนกัน แต่ทั้งสองชิปกลับมีดีคนละแบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง CPU, ความแรงของ GPU, ความฉลาดของ AI Engine หรือระบบจัดการพลังงานที่ส่งผลโดยตรงต่อการใช้งานจริง
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ Snapdragon 8 Elite และ Dimensity 9400 เพื่อให้รู้ว่า ชิปตัวไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
บรรณาธิการ
Table of Contents
ภาพรวมสเปค Snapdragon 8 Elite vs Dimensity 9400
|
รายการ |
Snapdragon 8 Elite (Gen 4) |
Dimensity 9400 |
|
เทคโนโลยีผลิต |
3nm TSMC (N3E) |
3nm TSMC (2nd Gen, N3E) |
|
โครงสร้าง CPU |
2x Oryon (Phoenix L) 4.32GHz 6x Oryon (Phoenix M) 3.53GHz |
1x Cortex-X925 3.63GHz 3x Cortex-X4 4x Cortex-A720 |
|
GPU |
Adreno 830 (Ray Tracing Gen 2) |
Immortalis-G925 (Ray Tracing) |
|
NPU/AI Engine |
Hexagon AI Engine (ใหม่, Gen AI) |
NPU 890 + Agentic AI Engine |
|
หน่วยความจำ |
LPDDR5X 5333MHz, UFS 4.0/4.1 |
LPDDR5X 10,667MHz, UFS 4.0+MCQ |
|
การเชื่อมต่อ |
X80 5G, Wi-Fi 7, BT 6.0 |
5G UltraSave, Wi-Fi 7, BT 5.4 |
|
ฟีเจอร์เด่น |
AI-based Perf Scaling, Ultra-Low Latency Gaming, AI Camera Stack, Instant Wake |
EnergySmart+ AI, LLM on-device, Pro-level ISP, Agentic AI, Tri-fold support |
จุดเด่นของ Snapdragon 8 Elite
- เน้นเกมแรง-ลื่น: GPU Adreno ใหม่ยังครองบัลลังก์เรื่องเฟรมเรตและ Ray Tracing
- AI ฉลาดกว่าเดิม: ใช้ AI บนชิปช่วยวิเคราะห์การใช้งานแบบ real-time เช่น ปรับกล้องหรือประหยัดพลังงาน
- สัญญาณดีขึ้น: Snapdragon X75 โมเด็มใหม่ เพิ่มความนิ่งและเร็วของ 5G โดยเฉพาะในเมือง
จุดเด่นของ Dimensity 9400
- สมดุลระหว่างแรงกับเย็น: ใช้ APU ที่เน้นประหยัดไฟ แต่อัดประสิทธิภาพในงาน AI
- รองรับ RAM ความเร็วสูงพิเศษ (LPDDR5T): เปิดแอปไว โหลดเร็ว
- แรงในโลก Generative AI: รองรับโมเดลขนาดใหญ่ (เช่น Stable Diffusion บนอุปกรณ์) แบบไม่มีหน่วง
เปรียบเทียบแบบละเอียดระหว่าง Snapdragon 8 Elite vs Dimensity 9400
การเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรม CPU และประสิทธิภาพ
Snapdragon 8 Elite และ Dimensity 9400 ต่างใช้สถาปัตยกรรม ARMv9 รุ่นใหม่ และผลิตบนเทคโนโลยี 3nm จาก TSMC ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ ทำให้ชิปทั้งสองมีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นแบบเห็นได้ชัด
Snapdragon 8 Elite:
- ใช้โครงสร้างแบบ 2+6
- คอร์หลัก (Prime Core): 2x Qualcomm Oryon (Phoenix L) ความเร็วสูงสุด 4.32GHz
- คอร์ประสิทธิภาพ (Performance): 6x Qualcomm Oryon (Phoenix M)
- เน้นสมดุลระหว่างความแรงกับการควบคุมอุณหภูมิ
Dimensity 9400:
- ใช้โครงสร้างแบบ 1+3+4
- คอร์หลัก: 1x Cortex-X925 ความเร็วสูงสุด 3.63GHz
- คอร์ประสิทธิภาพ: 3x Cortex-X4
- คอร์ประหยัดพลังงาน: 4x Cortex-A720
- ออกแบบให้เน้นประหยัดพลังงานในโลกจริงมากกว่า Benchmark
ใครแรงกว่า?
- Snapdragon 8 Elite ทำคะแนน Geekbench และ Antutu ได้ดีกว่าในหลายรุ่นทดสอบ
- แต่ Dimensity 9400 จัดการโหลดพื้นหลังและ multi-task ได้ดีมากในระยะยาว โดยเฉพาะในมือถือที่ไม่มีระบบระบายความร้อนแบบขั้นเทพ
ดูเพิ่มเติม: มือถือเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ใหม่ เร็ว ปรับหนัก เล่นสุด ก็ไปกับคุณได้หมด
GPU และประสบการณ์การเล่นเกม
Snapdragon 8 Elite:
- ใช้ GPU Adreno 830 รุ่นใหม่
- รองรับ Ray Tracing ระดับที่ 2, Variable Rate Shading และ Game Post-Processing
- Qualcomm ชูจุดเด่นด้าน Gaming AI Stack ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์
- เฟรมเรตในการเล่นเกมระดับ AAA เช่น Genshin Impact, COD Mobile ทำได้สูงแต่เสถียรกว่า
Dimensity 9400:
- ใช้ GPU ARM Immortalis-G925 MP12
- รองรับ Ray Tracing เช่นกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มีความร้อนสะสมเร็วกว่าเล็กน้อยในเกมกราฟิกหนัก
- MediaTek เน้นการ optimize สำหรับเกมที่รันบน 60FPS แบบต่อเนื่องมากกว่าการโชว์ peak FPS
เพิ่มเติม:
- Adreno 830 มีข้อได้เปรียบเรื่อง driver ที่เข้ากับเกมฝั่ง Android ได้ลึกกว่า
- Immortalis-G925 MP12 นั้นใหม่มากและแรง แต่ขึ้นอยู่กับว่าเกมนั้น ๆ ได้รับการจูนร่วมกับ MediaTek หรือไม่
ดูเพิ่มเติม: แนะนำเกมมือถือน่าเล่น ล่าสุด
ความสามารถด้าน AI และการรองรับ Generative AI
Snapdragon 8 Elite:
- มาพร้อม Hexagon NPU รุ่นใหม่ ที่รองรับการรันโมเดล AI ขนาดใหญ่แบบ on-device เช่น Stable Diffusion, LLM ขนาด 1B+
- รองรับ AI-based Image Editing, Live Caption, Smart Zoom, และ AI Avatar Generation
- มี AI Core แยกเฉพาะ ที่ทำให้สามารถรัน Generative AI ได้เร็วและแม่นยำ
Dimensity 9400:
- ใช้ APU 790 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาเพื่อรัน Generative AI โดยเฉพาะ
- รองรับการรัน LLM เช่น LLaMA, Gemini Nano, ChatGPT ตัวเล็ก แบบไม่ต้องพึ่ง Cloud
- ชูจุดเด่นด้านการใช้ AI เพื่อจัดการพลังงาน, ปรับกล้อง, และวิเคราะห์เสียงพูดในแอป
เพิ่มเติม:
- ถ้าคุณสนใจลองเล่น AI บนมือถือ เช่น สร้างภาพ, แปลงเสียง, เขียนบทความ – ทั้งสองชิปทำได้ดี
- แต่ Snapdragon 8 Elite มี edge ด้าน latency และ memory bandwidth สำหรับ AI ที่ต้องใช้ทรัพยากรหนักมาก
การจัดการพลังงานและความร้อน
Snapdragon 8 Elite:
- ใช้ AI-based Power Management ที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้เพื่อปรับพลังงานอัตโนมัติ
- Qualcomm เคลมว่ามีประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้นกว่า Snapdragon 8 Gen 3 ถึง 20%-45% ขึ้นกับงานและสถานการณ์
- ชิปไม่ร้อนเร็วในสถานการณ์จริง แม้จะ overclock GPU ช่วงเล่นเกม
Dimensity 9400:
- ใช้เทคโนโลยี MediaTek 5G UltraSave 4.0 และ EnergySmart+ AI
- จุดเด่นคือความเสถียรเมื่อใช้งาน 5G + เล่นวิดีโอ + แชท พร้อมกัน
- เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการมือถือ “เย็นเร็ว รันได้นาน”
การเชื่อมต่อและประสบการณ์ใช้งานจริง
Snapdragon 8 Elite:
- มาพร้อมโมเด็ม Snapdragon X75 รองรับ 5G Advanced, mmWave และ Sub-6GHz
- รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6.0, LE Audio, และ Dual SIM DSDA
- เด่นเรื่อง เสถียรภาพในการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
Dimensity 9400:
- ใช้โมเด็ม 5G ใหม่ของ MediaTek รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 เช่นกัน
- จุดเด่นคือ ใช้พลังงานน้อยลงขณะเชื่อมต่อ, รองรับ dual SIM 5G ทั้งคู่
- ยังไม่มีฟีเจอร์เฉพาะด้าน Satellite Communication แบบ Snapdragon
ตัวอย่างมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (Gen 4)
- Samsung Galaxy S25 Ultra
- ASUS ROG Phone 9 Pro
- OnePlus 13 Series
- Xiaomi 15 Ultra
- realme GT 7 Pro
- iQOO 13 Series
ตัวอย่างมือถือที่ใช้ชิป Dimensity 9400
- vivo X200 Pro
- OPPO Find X8
- IQOO Neo10 Pro
อยากได้มือถือแรง ๆ ชิปใหม่อยู่ไหม มาแวะที่บทความ แนะนำโทรศัพท์มือถือ รุ่นใหม่ล่าสุด ของเราได้เลย!