เดี๋ยวนี้ถ้าพูดถึงสมาร์ตโฟนจากจีน หลายคนคงคุ้นชื่อ Xiaomi และ Redmi กันดี เพราะราคาน่าคบ สเปกจัดเต็ม แถมมีขายเต็มตลาดไปหมด แต่ก็มีคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยกันอยู่เรื่อย ๆ ว่า “Redmi กับ Xiaomi นี่มันแบรนด์เดียวกันไหม?” หรือจริง ๆ แล้วแค่ใช้ชื่อคล้ายกัน? คำตอบคือ ทั้งสองมาจากบริษัทแม่เดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าใครกำลังจะเลือกมือถือใหม่ มาดูกันชัด ๆ ว่า Xiaomi กับ Redmi ต่างกันตรงไหน และเหมาะกับใครมากกว่ากัน

บรรณาธิการ
Table of Contents
ประวัติของ Xiaomi และ Redmi
Xiaomi เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010 โดยเริ่มจากการทำมือถือ แล้วขยายไปยังอุปกรณ์สมาร์ตต่าง ๆ ทั้งทีวี สมาร์ตวอทช์ หลอดไฟ ยันหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
ในปี 2013 Xiaomi เปิดตัว มือถือซีรีส์ Redmi โดยตั้งใจให้เป็นรุ่นราคาย่อมเยา แต่สเปกดี เหมาะกับคนที่อยากได้มือถือดี ๆ โดยไม่ต้องจ่ายแพง ต่อมาในปี 2019 Xiaomi ก็ประกาศชัดเจนว่า Redmi จะกลายเป็นแบรนด์ย่อย (sub-brand) ที่มีทีมพัฒนาของตัวเอง แยกจาก Xiaomi เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในแต่ละกลุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
พูดง่าย ๆ ก็คือ Redmi เริ่มจากเป็นแค่รุ่นหนึ่งของ Xiaomi แต่ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ลูกที่มีความเป็นตัวเองมากขึ้นแล้วนั่นเอง
เปรียบเทียบความแตกต่าง Xiaomi vs Redmi แบบชัด ๆ
หัวข้อ | Xiaomi | Redmi |
สถานะของแบรนด์ | แบรนด์หลัก | แบรนด์ย่อย (Sub-brand) |
กลุ่มเป้าหมาย | ผู้ใช้ระดับกลางถึงพรีเมียม | ผู้ใช้ทั่วไป งบประมาณจำกัด |
ราคาโดยประมาณ | กลาง - สูง | เริ่มต้น - กลาง |
คุณภาพวัสดุ | กระจก อะลูมิเนียม | พลาสติกแข็งแรง |
ดีไซน์ | หรูหรา พรีเมียม | เรียบง่าย ทันสมัย |
กล้องและเทคโนโลยี |
กล้องระดับโปร นวัตกรรมใหม่มาก่อน |
กล้องดีแต่ไม่จัดเต็มเท่า Xiaomi |
ฟีเจอร์เด่น | ชาร์จไวพิเศษ หน้าจอ 120Hz+ กันน้ำ กล้อง AI ขั้นสูง | ชาร์จไวพื้นฐาน ฟีเจอร์ที่คุ้มค่าแต่จำกัดบางจุด |
เหมาะกับใคร | ต้องการมือถือที่ครบเครื่อง ทันสมัย | มองหาความคุ้มค่า ใช้งานทั่วไป |
กลุ่มเป้าหมายและตำแหน่งในตลาด
-
Xiaomi จะเน้นมือถือระดับกลางถึงพรีเมียม มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ กล้องเทพ หน้าจอชัด ๆ วัสดุพรีเมียม เหมาะกับคนที่อยากได้มือถือสเปกระดับสูง
-
Redmi เน้นคุ้มค่าในราคาจับต้องได้ มักวางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่นักเรียน นักศึกษา หรือใครก็ตามที่อยากได้มือถือใช้งานลื่น ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเยอะ
ฟีเจอร์และเทคโนโลยี
-
Xiaomi มักเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ก่อน เช่น ระบบชาร์จไวระดับเทพ หน้าจอรีเฟรชเรตสูง หรือกล้อง AI ขั้นสุด
-
Redmi จะใช้เทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่าเวิร์ก เพื่อคุมต้นทุนให้ได้ราคาถูกที่สุด อาจไม่ได้ล้ำสุด แต่ก็ใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน
วัสดุและงานดีไซน์
-
Xiaomi จะให้ความรู้สึกพรีเมียมมากกว่า ใช้วัสดุอย่างกระจกหรืออลูมิเนียม ให้ความรู้สึกหรูหรา ทนมือทนไม้
-
Redmi อาจใช้วัสดุพลาสติกมากกว่า แต่ก็ยังออกแบบมาให้ดูดี ทนทาน ไม่แพ้ใครในช่วงราคาของมันเลย
แม้ว่า Redmi กับ Xiaomi จะเป็นแบรนด์แยกกัน แต่ก็ยังอยู่ใต้ชายคาเดียวกันคือ Xiaomi Corporation ความต่างหลัก ๆ คือระดับราคาและกลุ่มผู้ใช้งาน
-
ถ้ามองหามือถือราคาประหยัด แต่ยังอยากได้สเปกที่ “ดีเกินราคา” Redmi เหมาะมาก
-
แต่ถ้าอยากได้มือถือที่ดูหรูหรา กล้องดี ชาร์จไว ใช้งานลื่น ๆ แบบไม่ต้องกังวลเรื่องราคา ลองดูฝั่ง Xiaomi จะตอบโจทย์มากกว่า
สุดท้ายแล้ว ก็อยู่ที่ความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน ยังไงทั้ง Xiaomi และ Redmi ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าในตลาดมือถือยุคนี้อยู่ดี
บทส่งท้าย
แม้ว่า Redmi และ Xiaomi จะอยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกันคือ Xiaomi แต่ทั้งสองแบรนด์ก็มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Redmi เน้นความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ ส่วน Xiaomi (ในชื่อ Mi หรือ Xiaomi Series) จะเน้นฟีเจอร์ระดับพรีเมียมในราคาที่สมเหตุสมผล สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ การเลือกให้ตรงกับงบประมาณและการใช้งานของตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุด อ่านเพิ่มเติม มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี