ในโลกของการเล่นเกมคอมพิวเตอร์และเกมออนไลน์ คำว่า FPS และ HZ เป็นสองคำที่ผู้เล่นเกมมักได้ยินอยู่บ่อยครั้ง แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าทั้งสองมีความหมายอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร FPS กับ HZ นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความลื่นไหลและประสิทธิภาพในการเล่นเกมอย่างมาก การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง FPS และ HZ จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเลือกอุปกรณ์และตั้งค่าการเล่นเกมได้อย่างเหมาะสม เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่น

บรรณาธิการ
Table of Contents
FPS คืออะไร และสำคัญกับการเล่นเกมอย่างไร?
FPS หรือ Frames Per Second คือ จำนวนภาพที่เกมสร้างขึ้นและแสดงผลในหนึ่งวินาที ยิ่งค่า FPS สูง ภาพในเกมก็จะเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลและสมูทมากขึ้น ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดูเป็นธรรมชาติและสนุกสนานกว่าเดิม
สำหรับการเล่นเกม FPS มีความสำคัญอย่างมาก เพราะยิ่งเกมสามารถสร้างภาพได้มากเท่าไร ผู้เล่นก็จะเห็นการเคลื่อนไหวของตัวละคร ศัตรู หรือสิ่งต่าง ๆ ในเกมได้เร็วและชัดเจนมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความแม่นยำในการเล่นเกม โดยเฉพาะเกมแนวแข่งขันหรือเกมยิงปืนที่ต้องการการตอบสนองไว การมี FPS สูงช่วยลดอาการกระตุกและหน่วงภาพ ทำให้ผู้เล่นควบคุมเกมได้ดียิ่งขึ้นและมีโอกาสชนะสูงขึ้นด้วย
HZ คืออะไร และมีผลต่อหน้าจออย่างไร?
HZ หรือ Hertz คือ หน่วยวัดความถี่ของการรีเฟรชหน้าจอ หมายถึงจำนวนครั้งที่หน้าจอสามารถแสดงภาพใหม่ได้ในหนึ่งวินาที เช่น หน้าจอที่มีค่า 60Hz จะรีเฟรชภาพ 60 ครั้งต่อวินาที และถ้าเป็นหน้าจอ 144Hz ก็จะแสดงภาพใหม่ได้ 144 ครั้งต่อวินาที
ค่า HZ มีผลโดยตรงกับความลื่นไหลและความชัดเจนของภาพบนหน้าจอ ยิ่งหน้าจอมีรีเฟรชเรทสูง ภาพที่แสดงจะดูเรียบเนียนและลดอาการเบลอเวลามีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ เช่น เวลาเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำสูงหรือเกมที่มีความเร็วมาก หน้าจอที่มีค่า HZ สูงช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวสวยงามและตอบสนองต่อการควบคุมของผู้เล่นได้รวดเร็วมากขึ้น นั่นทำให้การเล่นเกมสนุกและได้เปรียบมากกว่า
ความแตกต่างระหว่าง FPS และ HZ
แม้ว่า FPS และ HZ จะเกี่ยวข้องกับภาพและความลื่นไหลเหมือนกัน แต่ทั้งสองมีหน้าที่และความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
-
FPS คือ จำนวนภาพที่เกมสร้างขึ้นต่อวินาที เป็นตัวกำหนดว่าการ์ดจอและ CPU สามารถประมวลผลเกมได้ลื่นแค่ไหน
-
HZ คือ จำนวนครั้งที่หน้าจอสามารถแสดงภาพใหม่ได้ในหนึ่งวินาที เป็นขีดจำกัดของหน้าจอในการรีเฟรชภาพออกมา
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง FPS และ HZ
หัวข้อ | FPS (Frames Per Second) | HZ (Hertz) |
ความหมาย | จำนวนภาพที่เกมสร้างขึ้นต่อวินาที | จำนวนครั้งที่หน้าจอรีเฟรชภาพต่อวินาที |
หน้าที่ | บ่งบอกประสิทธิภาพการประมวลผลของเกม | บ่งบอกความถี่การแสดงผลภาพของหน้าจอ |
หน่วยวัด | เฟรมต่อวินาที (fps) | เฮิรตซ์ (Hz) |
เกี่ยวข้องกับ | การ์ดจอและโปรเซสเซอร์เกม | หน้าจอแสดงผล |
ผลต่อภาพ | ยิ่ง FPS สูง ภาพยิ่งลื่นและเคลื่อนไหวเนียน | ยิ่ง HZ สูง ภาพบนหน้าจอยิ่งเรียบลื่น |
ข้อจำกัด | ขึ้นกับประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เกม | ขึ้นกับความสามารถของหน้าจอแสดงผล |
ตัวอย่าง | เกมสร้างได้ 120 FPS | หน้าจอรีเฟรชที่ 144Hz |
การทำงานร่วมกันของ FPS และ HZ
FPS และ HZ เป็นสองตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับภาพเคลื่อนไหวในเกม แต่ทำงานคนละหน้าที่และต้องประสานกันเพื่อให้ภาพออกมาลื่นไหลที่สุด FPS คือจำนวนเฟรมหรือภาพที่เกมสร้างขึ้นในหนึ่งวินาที ในขณะที่ HZ คือจำนวนครั้งที่หน้าจอสามารถแสดงภาพใหม่ได้ในหนึ่งวินาที
เมื่อเกมสร้างภาพได้ที่ 120 FPS แต่หน้าจอมีรีเฟรชเรทแค่ 60Hz ก็หมายความว่าหน้าจอจะรีเฟรชภาพได้สูงสุดเพียง 60 ครั้งต่อวินาทีเท่านั้น แม้ว่าการ์ดจอจะส่งภาพมาได้มากกว่านั้น ภาพที่ผู้เล่นเห็นก็จะถูกจำกัดไว้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ทำให้ความลื่นไหลไม่เต็มที่
ในทางกลับกัน ถ้าหน้าจอมีรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz แต่เกมสร้างภาพได้แค่ 60 FPS ภาพที่แสดงก็จะมีแค่ 60 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น เพราะเกมไม่สามารถสร้างภาพได้เกินกว่านั้น ซึ่งก็ทำให้ภาพไม่ลื่นไหลเท่าที่หน้าจอรองรับ
ดังนั้น เพื่อประสบการณ์เล่นเกมที่ดีที่สุด ค่า FPS ที่เกมสร้างได้และค่า HZ ของหน้าจอควรจะใกล้เคียงหรือเท่ากัน เพื่อให้หน้าจอสามารถแสดงภาพที่เกมส่งมาได้ครบถ้วน ไม่สูญเสียเฟรมหรือเกิดอาการภาพขาด (screen tearing) รวมถึงลดอาการหน่วงของภาพ ช่วยให้เกมดูลื่นไหลและตอบสนองไวขึ้น
FPS หรือ HZ อะไรสำคัญกว่ากัน?
จริง ๆ แล้ว FPS และ HZ ต่างก็สำคัญและมีบทบาทที่แตกต่างกันในการเล่นเกม
FPS คือจำนวนเฟรมที่เกมสร้างขึ้นมาในหนึ่งวินาที ถ้า FPS สูง เกมจะทำงานได้ลื่นไหล ภาพเคลื่อนไหวดูเป็นธรรมชาติและช่วยให้การตอบสนองเร็วขึ้น ส่วน HZ คือความถี่ที่หน้าจอรีเฟรชภาพใหม่ในหนึ่งวินาที ถ้า HZ สูง ภาพที่แสดงบนหน้าจอจะเรียบเนียน ลดอาการภาพเบลอหรือภาพขาด
แต่ถ้าให้พูดถึงความสำคัญ ก็คงต้องบอกว่า ทั้ง FPS และ HZ ต้องทำงานร่วมกันอย่างสมดุล เพราะถ้า FPS สูงแต่หน้าจอ HZ ต่ำ ภาพที่เห็นก็จะถูกจำกัดอยู่ที่ค่า HZ ของหน้าจอ หรือถ้า HZ สูงแต่ FPS ต่ำ ภาพก็จะไม่ลื่นไหลเท่าที่หน้าจอรองรับ
ดังนั้น จะบอกว่าอะไรสำคัญกว่ากันคงไม่ได้ชัดเจน เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมสมูทและตอบสนองได้ดีที่สุด การมี FPS และ HZ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกันจึงเป็นกุญแจสำคัญ
ถ้า FPS สูงกว่า HZ จะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้า FPS สูงกว่า HZ ของหน้าจอ จะเกิดสถานการณ์ที่ภาพที่เกมสร้างขึ้นมามากกว่าจำนวนภาพที่หน้าจอสามารถแสดงได้ในหนึ่งวินาที ซึ่งหมายความว่าหน้าจอจะไม่สามารถรีเฟรชภาพได้ทันตามจำนวนเฟรมที่เกมส่งมา ทำให้ผู้เล่นไม่ได้เห็นภาพครบทุกเฟรมที่เกมสร้างขึ้นจริง ผลลัพธ์คือภาพที่เห็นจะถูกจำกัดไว้ที่ความถี่รีเฟรชของหน้าจอ (HZ) เช่น เกมทำงานที่ 120 FPS แต่หน้าจอมีรีเฟรชเรทแค่ 60Hz ผู้เล่นก็จะเห็นภาพแค่ 60 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น
สถานการณ์นี้อาจทำให้เกิดอาการภาพขาดหรือ “screen tearing” คือภาพขาดเป็นเส้น ๆ เพราะหน้าจอแสดงภาพจากเฟรมเก่ากับเฟรมใหม่ผสมกันไม่ลงตัว ซึ่งอาการนี้จะส่งผลต่อความลื่นไหลและความรู้สึกในการเล่นเกมได้ การแก้ปัญหานี้มักจะใช้เทคโนโลยีอย่าง V-Sync หรือ G-Sync/FreeSync เพื่อช่วยซิงค์ FPS ของเกมกับ HZ ของหน้าจอให้ตรงกันและลดอาการภาพขาดลง
ถ้า HZ สูงกว่า FPS จะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้า HZ ของหน้าจอสูงกว่า FPS ที่เกมสร้างได้ หมายความว่าหน้าจอสามารถรีเฟรชภาพได้บ่อยกว่าจำนวนภาพที่เกมส่งมาให้แสดง ผลก็คือ หน้าจอจะต้องแสดงภาพเดิมซ้ำ ๆ หลายครั้งจนกว่าจะได้รับเฟรมภาพใหม่จากเกม ทำให้ภาพที่เห็นไม่ได้ลื่นไหลเต็มที่ตามความสามารถของหน้าจอ ถึงแม้ว่าหน้าจอจะรองรับรีเฟรชที่สูง แต่ภาพที่แสดงก็ถูกจำกัดด้วย FPS ของเกมนั่นเอง
ในกรณีนี้ แม้จะมีหน้าจอที่ดีและมีรีเฟรชเรทสูง การเล่นเกมก็อาจดูไม่สมูทเท่าที่ควร เพราะภาพถูกจำกัดโดยประสิทธิภาพการประมวลผลของเกมหรือฮาร์ดแวร์ที่สร้าง FPS ต่ำกว่า ดังนั้น เพื่อประสบการณ์เล่นเกมที่ดีที่สุด ควรตั้งค่า FPS ให้ใกล้เคียงหรือสูงกว่าค่า HZ ของหน้าจอ หรือเลือกใช้หน้าจอที่มี HZ เหมาะสมกับ FPS ที่เกมทำได้
ทำไม FPS และ HZ ถึงสำคัญกับการเล่นเกม?
FPS และ HZ เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเล่นเกม เพราะทั้งสองมีผลโดยตรงต่อความลื่นไหลและการตอบสนองของภาพในเกม FPS หรือ Frames Per Second คือจำนวนภาพที่เกมสามารถสร้างขึ้นต่อวินาที ถ้า FPS สูง เกมจะเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดหรือกระตุก ทำให้การเคลื่อนไหวในเกมดูเป็นธรรมชาติและทำให้ผู้เล่นตอบสนองได้ไวขึ้น ส่วน HZ หรือ Hertz คือความถี่การรีเฟรชของหน้าจอ หมายความว่าหน้าจอสามารถแสดงภาพใหม่ได้กี่ครั้งในหนึ่งวินาที หน้าจอที่มีค่า HZ สูงจะช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอดูเรียบเนียนมากขึ้น ลดอาการภาพเบลอหรือภาพซ้อนเวลาที่เคลื่อนไหวเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นเกมที่ต้องใช้ความแม่นยำและความเร็ว
เมื่อ FPS และ HZ ทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้เล่นเห็นภาพในเกมได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองได้ทันทีโดยไม่มีความหน่วง แต่ถ้า FPS สูงเกินกว่าความถี่ของหน้าจอที่รองรับ ภาพก็จะถูกจำกัดอยู่ที่ค่า HZ ของหน้าจอ หรือถ้าหน้าจอมี HZ สูงแต่ FPS ต่ำ ภาพก็จะไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร จึงทำให้ทั้ง FPS และ HZ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงและสนุกมากขึ้น
จะรู้ได้อย่างไรว่า FPS ของเกมเท่าไหร่?
การตรวจสอบค่า FPS ของเกมทำได้หลายวิธี วิธีง่ายที่สุดคือเปิดฟีเจอร์แสดง FPS ที่มีในเกมเอง หลายเกมจะมีตัวเลือกในเมนูตั้งค่ากราฟิกให้เปิด “แสดง FPS” หรือ “Show FPS” เพื่อแสดงตัวเลข FPS แบบเรียลไทม์บนหน้าจอขณะเล่น
ถ้าเกมไม่มีฟีเจอร์นี้ ก็สามารถใช้โปรแกรมเสริมที่ช่วยดู FPS ได้ เช่น โปรแกรม MSI Afterburner, FRAPS หรือ Razer Cortex โปรแกรมเหล่านี้จะรันควบคู่ไปกับเกมและแสดงตัวเลข FPS บนหน้าจอได้ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มเกมอย่าง Steam ก็มีฟังก์ชันแสดง FPS ในเกมด้วย โดยสามารถเปิดได้ผ่านเมนูตั้งค่า Steam การรู้ค่า FPS จะช่วยให้ประเมินได้ว่าเกมรันได้ลื่นไหลแค่ไหน และช่วยปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิกให้เหมาะสมกับเครื่องของคุณมากขึ้น
บทส่งท้าย
ทั้ง FPS และ HZ ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและตอบสนองได้รวดเร็ว แม้จะทำงานคนละหน้าที่ แต่ทั้งสองต้องทำงานร่วมกันอย่างสมดุลเพื่อให้ภาพในเกมดูเนียนตาและเล่นได้อย่างไม่มีสะดุด การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง FPS และ HZ เป็นก้าวแรกสู่การปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมของคุณให้ดียิ่งขึ้น แต่หากคุณต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและตอบสนองได้อย่างเต็มที่ การเลือก มือถือเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ที่มีสเปกและคุณสมบัติเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ