'ต้มยำหมูสับ' เป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเข้มข้นและเต็มไปด้วยความอร่อย นับเป็นสูตรอาหารที่สามารถสร้างความอบอุ่นให้กับทุกคนที่ได้ลิ้มรส ด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยและรสชาติที่กลมกล่อมจากหมูสับ เมนูนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเผ็ดร้อนและสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นวันไหนก็ตาม 'ต้มยำหมูสับ' ยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ทั้งในการรับประทานคนเดียว แบ่งปันกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง
บรรณาธิการ
Table of Contents
สูตร ต้มยำหมูสับ เมนูต้มยำง่ายๆ รสชาติแซ่บถึงใจ ถูกปากคนไทยแบบถูกต้อง
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
- หมูสับ 200 กรัม
- น้ำพริกเผา 1 ½ ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ
- เห็ดชนิดต่างๆ ตามชอบ
- พริกสับ ตามชอบ
- น้ำมะนาว ตามชอบ
- ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำต้มยำหมูสับ
ขั้นตอนการทำต้มยำหมูสับ
- ตั้งน้ำให้เดือด ใส่หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไปต้มให้ส่งกลิ่นหอม
- ใส่หมูสับลงไป คนให้หมูสับแตกตัวไม่จับตัวเป็นก้อน
- ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา เห็ด ต้มพอให้ทุกอย่างสุก
- ปิดเตา เติมพริกสับ น้ำมะนาว ผักชีฝรั่ง ปริมาณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรสชาติที่ชอบ
ประวัติเมนูต้มยำ
อ้างอิงประวัติจาก Wikipedia
เมนูต้มยำเป็นสูตรอาหารไทยที่ผสมผสานรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดได้อย่างลงตัว ที่มาของคำว่า 'ต้มยำ' นั้นเกิดจากการรวมกันของคำว่า 'ต้ม' ซึ่งหมายถึงวิธีการปรุงอาหารโดยใช้ความร้อนจากน้ำเดือด และ 'ยำ' ที่หมายถึงอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ด ทำให้ต้มยำมีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องรสชาติและกลิ่นหอมจากสมุนไพรไทยอย่าง ตะไคร้ ใบมะกรูด และข่า นอกจากนี้ น้ำซุปต้มยำยังได้เพิ่มความอร่อยด้วยเครื่องปรุงสดอย่าง น้ำมะนาว น้ำปลา และพริก
ข้อมูลโภชนาการเนื้อหมู
อ้างอิงจากข้อมูลของ USDA เนื้อหมู ปริมาณ 100 กรัม มีสารอาหารดังต่อไปนี้
- แคลอรี่ : 109 กิโลแคลอรี
- โปรตีน : 21 กรัม
- ไขมัน : 2.17 21 กรัม
- น้ำ : 76 กรัม
- แมกนีเซียม : 27 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส : 247 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม : 399 มิลลิกรัม
- เหล็ก : 0.98 มิลลิกรัม
- ซีลีเนียม : 30.8 ไมโครกรัม
- วิตามิน B1 : 0.998 มิลลิกรัม
- วิตามิน B12 : 0.51 ไมโครกรัม
หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อคำนวณแคลอรี่เบี้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงทางการแพทย์ได้
ประโยชน์ของหมูสับ
- โปรตีน เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลักในหมวดเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งสำคัญต่อการพัฒนาและเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและอวัยวะในร่างกาย โปรตีนจากเนื้อหมูช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพและสร้างเนื้อเยื่อใหม่แทนที่ส่วนที่หายไป นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมฟังก์ชันของอวัยวะต่างๆ สร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ส่งเสริมการเติบโตของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสนับสนุนการทำงานของระบบการสืบพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพ
- กรดอะมิโน เป็นองค์ประกอบทางโภชนาการที่พบในโปรตีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเข้าร่วมกระบวนการแก้ไขและซ่อมบำรุงบริเวณที่เสียหายในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวและกลับคืนสู่สภาพที่ปกติ
- วิตามิน B1 เนื้อหมูเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เฉพาะวิตามินบี 1 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการเหน็บชา กระตุ้นให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ประโยชน์อื่น ๆ ยังรวมถึงการบำรุงระบบสมอง ปรับให้หัวใจเต้นอย่างสมดุล
- วิตามิน B12 ช่วยบำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง ส่งเสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย
- ฟอสฟอรัส มีหน้าที่ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและบาดแผลที่ข้อต่อ และทำให้ร่างกายมีความสดชื่นและตื่นตัวอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษากับแพทย์เพื่อหารือเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม รวมถึงการจำกัดปริมาณอาหารที่บริโภค โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูในปริมาณมาก เช่น การรับประทานอาหารประเภทหมูกระทะ ปิ้งย่าง หรือชาบูอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจไม่เหมาะสม
พิกัดวัตถุดิบ 'ต้มยำหมูสับ'
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเมนูต้มยำน้ำใส อย่าง 'ต้มยำหมูสับ' จากทาง Ourrecipe และเว็บไซต์ ProductNation ได้มาแบ่งปันเพื่อนๆ ซึ่ง 'ต้มยำหมูสับ' เป็นอาหารไทยที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยรสชาติที่แสนจะอร่อยและเผ็ดร้อน แต่ยังเป็นการผสมผสานความเป็นไทยในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง จากหมูสับที่เนื้อนุ่มถึงเครื่องเทศและสมุนไพรที่ให้กลิ่นหอมเย้ายวนใจ มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครด้วยรสชาติและความง่ายในการทำ หวังว่าเพื่อนๆจะนำสูตรวิธีทำไปใช้หรือแบ่งปันกับคนรู้จักกันนะคะ