เวลาที่มีคนถามว่าตาล้า กินอะไรดี? คุณผู้อ่านทุกๆ ท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเหล่าผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ถึงได้แนะนำให้รับประทาน ผักที่มีวิตามินเอ สูง หรือ ผลไม้ที่มีวิตามินเอ สูง? หากว่าคุณผู้อ่านไม่แน่ใจหรืออาจจะยังไม่ทราบ เราขออาสาพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปร่วมหาคำตอบว่า วิตามินเอ (Vitamin A) คืออะไร และอธิบายเรื่องประโยชน์ของวิตามินเอให้รู้ พร้อมทั้งแนะนำให้คุณผู้อ่านทุกท่านทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี ในรายการแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินเอด้านล่างนี้ อย่างไรก็ดี กรณีที่คุณผู้อ่านอยากจะรู้ว่าอาหารวิตามินเอมีอะไรบ้าง เพราะอยากใช้วิธีธรรมชาติควบคู่ไปด้วย คุณผู้อ่านสามารถรับประทานผักหลากสีเพิ่มขึ้นได้ ทั้งสีเหลือง สีส้ม สีแดง และสีเขียวเข้ม เพราะผักสีๆ ที่ว่ามานี้มีวิตามินเอสูงมากทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ยอดชะอม, ยอดกระถิน, คะน้า, แครอท, ผักกาดขาว, ผักโขม, ฟักทอง, แคนตาลูป, มะเขือเทศ, ข้าวโพด
บรรณาธิการ
amp. chevron_right
Table of Contents
10 วิตามินเอ (Vitamin A) ยี่ห้อไหนดี บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เพิ่มภูมิต้านทาน 2025
ใช้สายตาเยอะ ปวดตาบ่อย ต้องบำรุงสายตาจากภายใน โดยการเสริม วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ดารี่ วิต วิตามินเอ (Vitamin A) Dary Vit Vitamin A Plus Lutein ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย สารสกัดจากดอกดาวเรือง (Marigold Extract) 200 มิลลิกรัม กอปรกับวิตามินเอ (Vitamin A) 1.5 มิลลิกรัม นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพในการบำรุงสายตา ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการตาบวม ลดอาการตาแดง ตาฟาง บำรุงผิวพรรณ ลดผิวแห้ง ผิวหยาบกร้าน ได้อีกด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 แคปซูล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : ตัวนี้กินแล้วลดอาการตาแห้งได้ดี ชอบก็ตรงที่มีสารสกัดดาวเรืองเพิ่มขึ้นมาด้วย
ทราบหรือไม่ว่า การใช้สายตาจ้องจอมือถือหรือจอคอมพิวเตอร์นานๆ อาจเสี่ยงให้เกิดโรคอะไรได้มากกว่าที่คุณคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นโรคตาไม่สู้แสง โรคตาแห้ง และอื่นๆ คุณจึงควรบำรุงสายตาให้แข็งแรงด้วย วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ไวตาฟิต วิตามินเอ (Vitamin A) Vitafit Vitamin A 25000 iu ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ 7,500 ไมโครกรัม เทียบเท่ากับ 25,000 ไอยู ซึ่งช่วยให้ตาสู้แสงได้ดียิ่งๆ ขึ้นในเวลากลางวัน อีกทั้งยังช่วยบรรเทาและรักษาอาการตาฟาง ตาบอดกลางคืนด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 ซอฟต์เจล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : สินค้าคุณภาพดี อาหารเสริมตัวนี้มีขนาดเม็ดเล็ก กินง่าย ช่วยให้ตาไม่แห้งง่าย
แก้สารพันปัญหาผิวอักเสบ ผิวแห้งหยาบกร้าน ไปกับ วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ฟาร์มาเวิลด์ วิตามินเอ (Vitamin A) Pharma World Vitamin A ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ (325,000ไอยู/กรัม) 8.19 มิลลิกรัม ให้วิตามินเอ 2,661.75 ไอยู ทำให้ร่างกายสามารถนำวิตามินเอที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประสิทธิผลได้เป็นอย่างดี มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณจากภายใน ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวเป็นสิวง่าย เหนืออื่นใดคือ จัดจำหน่ายในเรตราคามิตรภาพ ซื้อกินต่อเนื่องได้สบาย
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 แคปซูล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : เภสัชกรในร้านขายยาแนะนำตัวนี้ให้ เห็นในช็อปราคาน่ารักเลยซื้อดู กินดีอยู่ค่ะ
ผมร่วง ผิวแห้ง เพราะขาดวิตามินเอ ควรจะต้องเสริมด้วย วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ดีเอชซี วิตามินเอ (Vitamin A) DHC Natural Vitamin A ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วยปริมาณวิตามินเอที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายสามารถทำงานได้ด้วยดี ทั้งนี้ ร่างกายของคนทั่วๆไปจะต้องการวิตามินปริมาณวันละ 4,000 iu - 5,000 iu หรือราวๆ 3,000 ไมโครกรัม/วัน แต่ไม่ควรรับประทานวิตามินเอขนาดสูงเกินไป คือเกินวันละ 10,000 iu ขึ้นไป
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 เม็ด
รีวิวจากผู้ใช้จริง : ซื้อให้คุณแม่ทดลองทานมาได้สักพักหนึ่ง พบว่าอาการตาพร่าตามัวดีขึ้นมากๆ
ป้องกันไม่ให้ตนเองได้รับวิตามินเอมากเกินไปในคราเดียว โดยการรับประทานวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ไบโอแคป วิตามินเอ อะซิเตท (Vitamin A) Biocap Vitamin A ที่มีปริมาณวิตามินเอต่อแคปซูลที่พอเหมาะพอเจาะ ไม่มากจนเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ อะซิเตท (325,000 ไอยู/กรัม) 8.19 มิลลิกรัม ให้วิตามินเอ 2,661.75 ไอยู เพราะวิตามินเอเป็นวิตามินไม่ละลายน้ำ ทำให้ร่างกายขับออกไปได้ยาก ผู้บริโภคจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์วิตามินเอให้มั่นเหมาะ
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 แคปซูล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : เคยกินแต่วิตามิน A แบรนด์อื่น ลองเปลี่ยนเป็นแบรนด์นี้ มีแจ้งหมดอายุชัดเจน
แชร์วิธีทำให้ดวงตาได้ผ่อนคลายบ้างแบบง่ายๆ โดยเสริมวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตาให้ร่างกาย อันได้แก่ วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : นาวฟู้ดส์ วิตามินเอ (Vitamin A) Now Foods Vitamin A ภายใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ 3,000 ไมโครกรัม เทียบเท่า 10,000 ไอยู จุดเด่นของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินเอยี่ห้อนี้คือ ผลิตในโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ผู้บริโภคจึงวางใจได้ในเรื่องมาตรฐานการผลิตอาหารเสริม ความปลอดภัยในการรับประทาน และประโยชน์ที่จะได้รับ
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 100 ซอฟต์เจล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : อายุเยอะ สายตาเริ่มแย่ลง ต้องซื้อวิตามินมากินเสริม ตัวนี้เห็นผลดี๊ดีสำหรับเรา
ดวงตาเป็นอีกหนึ่งอวัยวะในร่างกายที่ต้องรับศึกหนักเป็นประจำ การจะทำให้ดวงตาแช่มชื่นอยู่เสมอ ห่างไกลจากความอ่อนล้าและความอ่อนเพลีย คุณควรจะต้องดูแลดวงตาด้วย วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : ทเวนตี้เฟิร์สเซนจูรี่ วิตามินเอ (Vitamin A) 21st Century Vitamin A ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ 3,000 ไมโครกรัม เทียบเท่ากับ 10,000 iu ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา บำรุงสายตาได้ดี มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิว ยับยั้งปัญหาผิวแห้งกร้าน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่หนังศีรษะและเส้นผม
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 110 ซอฟต์เจล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : ใครสนใจสั่งวิตามิน a มาบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา แนะนำตัวนี้ครับ ไม่ผิดหวัง!
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย เพื่อให้ผิวพรรณนวลเนียน หนังศีรษะแข็งแรง ไปกับ วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : แบล็คมอร์ วิตามินเอ (Vitamin A) Blackmores Vitamin A ใน 1 แคปซูลจะ ประกอบด้วย วิตามินเอ 5,000 iu เทียบเท่ากับ 2.75 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยซ่อมแซมและบำรุงเนื้อเยื่อในร่างกายให้ชุ่มชื้น และยังทำให้การผลิตซีบัม ซึ่งช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง หนังศีรษะ ไปจนถึงเส้นผม ดำเนินไปได้ด้วยดี ที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยบำรุงสายตาได้ชะงัด ขจัดอาการตาล้าตรงจุด
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 150 แคปซูล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : ช่วงนี้พอมืดแล้วสายตาแย่ลง เลยต้องหาวิตามินมาบำรุง อันนี้กินดีสุขภาพดีค่ะ
เพราะร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างวิตามินเอขึ้นได้ แต่จะได้รับจากการรับประทานเท่านั้น ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ รับประทานอาหารจานด่วนบ่อย จึงควรเติมวิตามินให้ร่างกาย ด้วยวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : เนเจอร์ เวย์ วิตามินเอ (Vitamin A) Nature's Way Vitamin A ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิตามินเอ 3,000 ไมโครกรัม ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอ และการที่ร่างกายได้รับวิตามินเออย่างเหมาะสม จักก่อให้เกิดผลดีต่อการเพิ่มปริมาณคอลลาเจน ป้องกันไม่ให้ผิวอักเสบ
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 100 ซอฟต์เจล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : อาหารเสริมถูกแพ็คมาอย่างดี เม็ดวิตามินยี่ห้อนี้จะเล็กๆ กลืนง่าย ราคาไม่แพง
วิตามินเอ อาการเมื่อขาดที่พบเห็นได้ทั่วไปในหมู่ผู้คนที่ต้องอยู่หน้าจอคอมนานๆ ก็คือ มีอาการตาไวต่อแสง ตาไม่สู้แสงเมื่อเจอแสงแดด ผู้ที่ต้องใช้สายตาเป็นประจำจึงควรบำรุงสายตา ผ่านความช่วยเหลือของอาหารเสริม วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี : โมริคามิ ลาบอราทอรีส์ วิตามินเอ (Vitamin A) Morikami Laboratories Vitamin A ใน 1 แคปซูล ประกอบไปด้วย วิตามินเอ (325,000ไอยู/กรัม) 8.19 มิลลิกรัม ให้วิตามินเอ 2,661.75 ไอยู สามารถส่งเสริมสุขภาพตาให้ดี ป้องกันสายตาแย่ลงได้
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด : 30 แคปซูล
รีวิวจากผู้ใช้จริง : อาหารเสริมดีมากคร่าา บอกส่วนผสมชัดเจน เลขวันเดือนปีที่ผลิตก็เขียนไว้ชัด
วิตามินเอ (Vitamin A) คืออะไร ?
วิตามินเอ (Vitamin A) คือ วิตามินชนิดหนึ่งที่ซึ่งร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ จะรับได้จากการรับประทานเข้าไปเท่านั้น ข้อควรทราบอีกประการเกี่ยวกับวิตามินเอ คือ วิตามินเอเป็นวิตามินกลุ่มวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน (Fat-soluble Vitamin) ไม่ละลายในน้ำ แต่ถึงแม้ว่าวิตามินเอจะไม่สามารถละลายน้ำได้ แต่ก็มีความไวต่อออกซิเจนมาก ฉะนั้น ถ้าต้องการรับประทานเมนูอาหารจากผัก ผล ไม้ ที่ มี วิตามิน เอ สูง ควรปิดฝาภาชนะที่ใช้ในการปรุงอาหารด้วยความร้อน และใช้น้ำในปริมาณเพียงเล็กเท่านั้น เพื่อลดอัตราการสูญเสียวิตามินเอ ถ้าถามว่าอาหารที่มีวิตามินเอมีอะไรบ้าง? คำตอบก็คือ น้ำมันตับปลา, เครื่องในสัตว์, ไข่แดง, นม, ผลิตภัณฑ์จากนม, ผักที่มีสีเหลือง สีส้ม สีแดง และสีเขียวเข้ม เช่น แครอท, ข้าวโพด, มันฝรั่ง, ฟักทอง, คะน้า, ยอดชะอม
วิตามินเอ (Vitamin A) มีประโยชน์อย่างไร ?
- วิตามินเอ (Vitamin A) มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ลดอาการตาล้า ลดอาการตาแห้ง ป้องกันไม่ให้เกิดอาการตาบอดกลางคืน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตาไวต่อแสง
- วิตามินเอ (Vitamin A) มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ บรรเทาอาการผิวแห้งกร้าน ผิวหยาบกร้าน เกิดจากการขาดอาหารผิว ลดการอักเสบของสิว ช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ ซ่อมแซมผิวหนัง
- วิตามินเอ (Vitamin A) มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิต้านทานเชื้อโรคให้แก่ร่างกาย โดยส่งเสริมการทำงานของกระบวนการสร้างเม็ดเลือดขาว ลดโอกาสติดเชื้อ ลดเสี่ยงมะเร็ง
ขาดวิตามินเอ (Vitamin A) อาการเป็นแบบไหน ควรดูแลตัวเองยังไง ?
คุณผู้อ่านที่สงสัยใคร่รู้อยู่ว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจำเป็นต้องเสริมวิตามินเอ (Vitamin A) หรือไม่ ขอแนะนำให้คุณสังเกตเบื้องต้นดังนี้ วิตามินเอ อาการเมื่อขาด คือ ทำให้สายตาแย่ลง ทำให้ตาพร่ามัว แสบตา ตาแห้ง ตาแดง หรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตารูปแบบต่างๆ ตลอดจนปัญหาผิวสารพัดรูปแบบ ทั้งผิวแห้งกร้าน ทั้งผิวอักเสบบ่อย ทั้งสิวขึ้น นอกจากนี้แล้ว การติดเชื้อง่าย ภูมิคุ้มกันน้อย ก็ชี้ถึงลักษณะวิตามินเอ อาการเมื่อขาดได้ด้วยเช่นกัน ผลสำรวจพบว่าผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งก็เกิดจากการขาดธาตุเหล็กที่ส่งผลต่อวิตามินเอด้วย หากว่าได้รับการวินิจฉัยว่าขาดวิตามินเอ ควรเสริมให้ร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม หรือเสริมด้วยวิธีธรรมชาติ คือ ทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์เป็นประจำ จะทำให้ร่างกายไม่ขาดสารอาหารใดๆ
บทส่งท้าย
เพียงเท่านี้ คุณผู้อ่านทุกๆ ท่านก็คงจะรับรู้ความสำคัญของวิตามินเอ และรับรู้ว่าวิตามินเอมีอะไรบ้างกันถ้วนหน้าแล้ว หากว่าคุณผู้อ่านต้องการเสริมวิตามินเอด้วยวิธี Back to Basic สามารถหันมาเริ่มรับประทานผักผลไม้วิตามินเอสูงได้ตั้งแต่วันนี้ หรืออาจใช้วิธีทานผักผลไม้ให้หลากหลาย ให้ได้สารอาหารที่ดีต่อร่างกายเป็นประจำก็ได้เหมือนกัน ท้ายที่สุดนี้ ทีมงานคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอาสาพาทุกท่านไปหาคำตอบว่าวิตามินเอ (Vitamin A) คืออะไร การอธิบายเรื่องประโยชน์ของวิตามินเอ และการแนะนำ 10 วิตามินเอ (Vitamin A) ยี่ห้อไหนดี บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เพิ่มภูมิต้านทาน ด้านบนนี้ จะมีส่วนช่วยเพิ่มความรู้และประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลให้แก่ทุกท่านได้เป็นอย่างดี