การออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพตามหลักวิทยาศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจจับต้องได้อีกต่อไป เพราะในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อัปเกรดความสะดวกสบายให้แก่ทุกไลฟ์สไตล์ สามารถเข้าถึงข้อมูลการออกกำลังกาย ตลอดจนข้อมูลสุขภาพในด้านต่างๆ ของตนเองได้ในไม่กี่ขั้นตอน ด้วยความช่วยเหลือของนาฬิกาออกกําลังกายอัจฉริยะ ที่มีคุณสมบัติด้านตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด วิเคราะห์แคลอรี่ และรายงานผลข้อมูลอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องพกมือถือให้เกะกะ ผู้ใช้ท่านใดประสงค์รับคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกาย รับทริคดูแลสุขภาพทุกด้านตลอด 24 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้นาฬิกาออกกําลังกายแบตอึด ใช้ทน ที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตทุกๆ วัน เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการออกกำลังกายให้สะดวกยิ่งขึ้น อิสระยิ่งกว่าที่เคย

บรรณาธิการ
Table of Contents
10 นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี แบตเตอรี่ใช้ได้นาน ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน 2025

ถ้าคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถใช้ติดตามสุขภาพได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องคอยชาร์จทุก 2-3 วัน Garmin Venu 3 Series คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เหมาะสำหรับปี 2025 เพราะรวมเอาความแม่นยำของ Garmin เข้ากับหน้าจอ AMOLED สวยสดใส แถมรองรับทั้งการออกกำลังกายและการใช้งานแบบสมาร์ทได้ครบในเรือนเดียว
สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกาย Garmin Venu 3 รองรับโหมดกีฬาเกิน 30 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน HIIT หรือโยคะ พร้อมตรวจสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง เช่น HR, ความเครียด, SpO2 และการนอนอย่างละเอียด จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถโทรออกและรับสายได้จากตัวนาฬิกาโดยตรง ช่วยให้คุณไม่ต้องพกมือถือระหว่างออกกำลัง
ข้อมูลเฉพาะ
- วัสดุเลนส์: กระจก Corning® Gorilla® Glass 3
- กรอบหน้าปัด: สแตนเลสสตีล
- วัสดุตัวเรือน: โพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใย
- ขนาดหน้าจอ: Venu 3 – 1.4" (454x454 px), Venu 3S – 1.2" (390x390 px)
- น้ำหนัก: 47 กรัม (Venu 3), 40 กรัม (Venu 3S)
- กันน้ำ: 5 ATM
- การเชื่อมต่อ: รองรับ GPS / GNSS / Bluetooth / ลำโพง & ไมค์
- แบตเตอรี่: สูงสุด 14 วัน / สูงสุด 26 วันในโหมดประหยัด
- หน่วยความจำ: 8 GB

เปิดตัวไปหมาด ๆ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาในงาน Galaxy Unpacked 2025 Samsung Galaxy Watch8 คือสมาร์ทวอทช์ที่ยกระดับมาตรฐานของ นาฬิกาออกกำลังกาย ในปี 2025 ด้วยดีไซน์หรูหราขนาดบางเบา ให้คุณเลือกทั้งขนาด 40mm และ 44mm ตัวเรือนผลิตจาก Armor Aluminum สุดแกร่ง กันน้ำระดับ 5ATM + IP68 พร้อมผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H ใช้งานได้ทั้งกลางแจ้ง ฝนตก หรือแม้แต่ว่ายน้ำ
จุดเด่นอยู่ที่หน้าจอ AMOLED ความสว่างสูงสุดถึง 3,000 nits คมชัดแม้กลางแจ้ง พร้อม GPS แบบ Dual-Band L1+L5 ระบุตำแหน่งได้แม่นยำมากขึ้น รองรับ Google Gemini, Quick Button และยังเพิ่มฟีเจอร์วัดสุขภาพล้ำสมัย เช่น Energy Score, การแจ้งเตือนความเครียด, วัดองค์ประกอบร่างกาย และการติดตามรอบเดือนอย่างละเอียด
ข้อมูลเฉพาะ
- ขนาด: 40 mm / 44 mm
- วัสดุ: Armor Aluminum
- หน้าจอ: AMOLED ความสว่างสูงสุด 3,000 nits
- โปรเซสเซอร์: 3nm, 5 Core
- หน่วยความจำ: RAM 2GB / ROM 32GB
- แบตเตอรี่: 325 mAh ใช้งานสูงสุด 30 ชม. (เปิด Always-On Display)
- ระบบนำทาง: GPS ย่านความถี่คู่ L1+L5
- ความทนทาน: 5ATM + IP68 / MIL-STD-810H

หากคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี ที่ผสานทั้งดีไซน์พรีเมียมและฟีเจอร์ด้านสุขภาพล้ำสมัย Apple Watch Series 10 คือคำตอบที่มาแรงที่สุดในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือสายฟิตเนส Series 10 มาพร้อมเซ็นเซอร์สุขภาพขั้นสูง ระบบ GPS หลายคลื่นความถี่ และฟีเจอร์ที่ลึกขึ้นกว่าเดิม
ด้วยระบบ watchOS 11 ที่เสถียรและฉลาดขึ้น พร้อมแอปมากมายในตัว คุณสามารถตรวจวัดได้ทั้ง คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), ระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2), อุณหภูมิผิว, การนอน, ความเครียด, รอบเดือน, อัตราการเต้นหัวใจ และเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Fitness+, Maps, Wallet, และ Siri แบบไร้สะดุด จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการ สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกาย แบบที่ใส่ไปทำงานก็ได้ ใส่ออกกำลังกายก็เท่
ข้อมูลเฉพาะ
- วัสดุ: อะลูมิเนียม / ไทเทเนียม
- ขนาดหน้าจอ: 1.9” (46 มม.) / 1.73” (42 มม.)
- จอภาพ: Retina LTPO OLED, Always-On, ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต
- น้ำหนัก: 29.3 – 41.7 กรัม (ขึ้นอยู่กับวัสดุ)
- แบตเตอรี่: 18 ชม. (ปกติ) / 36 ชม. (Low Power Mode)
- ระบบปฏิบัติการ: watchOS 11
- เซ็นเซอร์สุขภาพ: ECG, SpO2, Skin Temp, Optical HR 3rd Gen
- การออกกำลังกาย: รองรับกว่า 30 แบบ เช่น วิ่ง, HIIT, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน, เดินเขา ฯลฯ
- GPS: รองรับ L1, Galileo, GLONASS, QZSS, BeiDou
- กันน้ำ / กันฝุ่น: 50 ม. / IP6X
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11n, Bluetooth 5.3, LTE (เฉพาะรุ่น Cellular)
ดูเพิ่มเติม: Garmin vs Apple Watch เลือกอะไรดี

ถ้าคุณคือสายลุยที่มองหา นาฬิกาออกกำลังกาย ที่ “ไม่หวานแต่ดุดัน” ทั้งในเรื่องความอึด, ความแม่นยำ และความแข็งแรง Suunto Race คือหนึ่งในนาฬิกาที่ทรงพลังที่สุดในปี 2025 มาพร้อมวัสดุไทเทเนียมเกรด 5 + กระจกแซฟไฟร์ + กันน้ำลึก 100 ม. พร้อมระบบนำทาง + แผนที่ออฟไลน์ในตัว
ไฮไลต์เด็ดคือ Suunto Coach AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล HRV และความเหนื่อยล้าจากการฝึก เพื่อให้คุณได้เทรนอย่างมีทิศทาง พร้อมรองรับการวัด Running Power โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม จุดนี้ทำให้ Suunto Race เหมาะกับนักวิ่ง, นักไตรกีฬา, นักปีนเขา และนักปั่นที่ต้องการข้อมูลละเอียดและแบตอึดเกิน 2 วันขึ้นไป
ข้อมูลเฉพาะ
- ขนาดตัวเรือน: 49 x 49 x 13.3 มม.
- น้ำหนัก: 69 กรัม
- วัสดุ: กรอบไทเทเนียม / กระจกแซฟไฟร์ / ตัวเรือนโพลีเอไมด์
- หน้าจอ: AMOLED 1.43" (466x466 px) แบบทัชสกรีน
- กันน้ำ: 100 ม.
- แบตเตอรี่: สูงสุด 26 วัน (Smartwatch) / 70 ชม. (GPS) / 5 วัน (โหมดทัวร์)
- ฟีเจอร์หลัก: HRV, Running Power, แผนที่ออฟไลน์, AI Coach, Find My Phone, ไฟฉาย
- กีฬา: รองรับมากกว่า 95+ โหมด
- มาตรฐานทหาร: ทนทานต่อแรงกระแทก ความร้อน ความชื้น
อ่านเพิ่มเติม:นาฬิกา SUUNTO รุ่นไหนดี

หากคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกายที่วัดผลได้ลึก และออกแบบมาเพื่อเทรนนิ่งจริงจัง Garmin Forerunner 265 Series คือคำตอบสำหรับปี 2025 โดยเฉพาะนักวิ่งและนักไตรกีฬาที่ต้องการเครื่องมือฝึกซ้อมแบบมือโปร ในดีไซน์น้ำหนักเบาและหน้าจอ AMOLED สวยสด
สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายรุ่นนี้ รองรับทุกกิจกรรมสำคัญ: วิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ, ไตรกีฬา พร้อมฟีเจอร์เฉพาะสายเทรน เช่น Morning Report, HRV Status, Training Readiness, PacePro และ Race Predictor ที่ช่วยวางแผนการซ้อมและการแข่งได้ล่วงหน้า อีกทั้งยังรองรับการฟังเพลงแบบไม่ต้องพกมือถือผ่าน Spotify / Deezer / Amazon Music
เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ Android หรือ iPhone ที่ต้องการนาฬิกาที่วัดผลสุขภาพจริงจัง และต้องการความแม่นยำของ GPS ระดับสูง พร้อมคำแนะนำการฝึกที่ปรับให้เหมาะกับร่างกายแบบรายวัน
ข้อมูลเฉพาะ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว (Corning® Gorilla® Glass)
- แบตเตอรี่: สูงสุด 13 วัน (Smartwatch) / 20 ชม. (GPS)
- น้ำหนัก: ~39 กรัม (เบามาก)
- ระบบนำทาง: Multi-band GNSS + SatIQ
- ฟีเจอร์เด่น: VO2 Max, HRV Status, Training Readiness, Garmin Coach, Pulse Ox
- กีฬาในตัว: มากกว่า 30 ชนิด รวมถึงวิ่ง, ปั่น, ว่าย, HIIT, มัลติสปอร์ต
- ระบบเทรนนิ่ง: Race Widget, Daily Suggested Workouts, Training Load, Pacer
- เสียง & เพลง: รองรับการเล่นเพลงแบบออฟไลน์ / เสียงแจ้งเตือน / หูฟัง Bluetooth
- การเชื่อมต่อ: Smart Notification, Garmin Connect, LiveTrack, Connect IQ
- ระบบความปลอดภัย: Incident Detection, SOS Alert (เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน)
อ่านเพิ่มเติม: นาฬิกาวิ่ง รุ่นไหนดี มี GPS

หากคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกายราคาถูก ปี 2025 ที่วัดสุขภาพได้ครบ โทรได้จริง และแบตอึด Redmi Watch 5 Active คือหนึ่งในรุ่นที่ “คุ้มสุดในงบไม่เกิน 2,000 บาท” หน้าจอใหญ่สะใจถึง 2.0 นิ้ว รองรับกีฬา 140 แบบ และตรวจสุขภาพแบบเรียลไทม์ 24 ชม.
ไม่เพียงแต่เป็น สมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายราคาถูก, Redmi Watch 5 Active ยังมีฟีเจอร์ นาฬิกาโทรได้ผ่าน Bluetooth แค่ยกข้อมือขึ้นก็คุยสายได้ทันที เหมาะสำหรับสายฟิตที่ไม่อยากพกมือถือตลอดเวลา และยังมีหน้าปัดปรับได้กว่า 200 แบบ ให้คุณมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าในแต่ละวันได้แบบสบาย ๆ
ข้อมูลเฉพาะ
- ขนาดตัวเรือน: 49.1 × 40.4 × 11.4 มม.
- น้ำหนัก: 41.67 กรัม
- หน้าจอ: LCD ขนาด 2.0 นิ้ว (320x385) ความสว่างสูงสุด 450 nits
- วัสดุ: กรอบโลหะ + สาย TPU
- มาตรฐานกันน้ำ: 5 ATM
- เซ็นเซอร์สุขภาพ: วัดหัวใจ, SpO2, ความเครียด, การนอน (แบบ 24 ชม.)
- แบตเตอรี่: 289 mAh / ใช้งานทั่วไป 18 วัน / ใช้งานหนัก 8 วัน
- การชาร์จ: แม่เหล็ก ใช้เวลา 2 ชม.
- ฟีเจอร์เด่น: โทรได้ผ่าน Bluetooth, โหมดกีฬากว่า 140+, ปรับหน้าปัดได้ 200 แบบ
- แอปพลิเคชัน: Mi Fitness (รองรับ Android & iOS)
- Bluetooth: เวอร์ชัน 5.3

หากคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกายราคากลางที่คุ้มเกินตัว สำหรับการวิ่ง, เทรล หรือเทรนฟิตเนสแบบจริงจัง Garmin Forerunner 165 คือหนึ่งในรุ่นที่ไม่ควรมองข้ามในปี 2025 ด้วยหน้าจอ AMOLED ที่ให้ความสว่างชัดในทุกสภาพแสง และฟีเจอร์ฝึกซ้อมแบบมืออาชีพที่เคยมีแค่ในรุ่นแพงกว่า
นาฬิกาเรือนนี้เหมาะมากสำหรับนักวิ่งสายโฟกัส เพราะมี Race Widget, Training Effect, Recovery Time, VO2 Max, HRV Status และ Running Power ช่วยให้วางแผนฝึก วิ่งตามเป้า และฟื้นตัวอย่างแม่นยำ พร้อมซิงก์กับ Garmin Connect เพื่อวิเคราะห์ย้อนหลังและรับคำแนะนำรายวัน
ไม่ว่าคุณจะฝึก 5K, 10K หรือฮาล์ฟมาราธอน Garmin Forerunner 165 จะเป็นคู่หูที่ช่วยให้คุณวิ่งไกลขึ้นอย่างมีระบบและรู้ลึกกว่าที่เคย
ข้อมูลเฉพาะ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว
- น้ำหนัก: เบา ใส่สบาย (ไม่ระบุแน่นอน แต่เบากว่าซีรีส์ 265)
- แบตเตอรี่: สูงสุด 11 วัน (โหมด Smartwatch) / 19 ชม. (โหมด GPS)
- ระบบนำทาง: GNSS (Single Band)
- กีฬาในตัว: 25+ กิจกรรม เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่น, เทรนนิ่ง
- เทรนนิ่ง: Race Widget, Daily Suggested Workout, Garmin Coach, Recovery Time
- ฟีเจอร์สุขภาพ: HRV Status, VO2 Max, Pulse Ox, Body Battery, Sleep Tracking
- การเชื่อมต่อ: Garmin Pay, Smart Notifications, LiveTrack
- รองรับแอป: Connect IQ Store (หน้าปัด, แอป, ช่องข้อมูลเสริม)
- ระบบเสียง: แจ้งเตือนด้วย Audio Prompt (แต่ไม่มีไมค์สำหรับโทร)

หากคุณกำลังมองหา สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัด ที่ให้ได้มากกว่าการแจ้งเตือน Aolon GTR 3 ถือว่าเป็นรุ่นที่ “คุ้มเกินราคา” อย่างแท้จริง ด้วยหน้าจอ AMOLED คมชัดระดับ 466x466 px ในราคาต่ำกว่าพัน! รองรับการโทรได้จริงผ่าน Bluetooth มีฟีเจอร์วัดสุขภาพครบ ทั้ง HR, SpO2, การนอน และยังกันน้ำระดับ IP68
นาฬิกาเรือนนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป, วัยทำงาน, หรือแม้แต่นักเรียนที่ต้องการ นาฬิกาโทรได้ ใส่ออกกำลังกาย ดูดีแบบพรีเมียม โดยไม่ต้องจ่ายแพง ใส่ไปยิมก็ได้ ใส่ทำงานก็ดูเรียบหรู ตัวเรือนบาง น้ำหนักเบา และมีระบบแจ้งเตือนภาษาไทยเต็มระบบครบทุกแอปยอดนิยม
ข้อมูลเฉพาะ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว (466x466 px), AOD, ความสว่าง 1000 nits
- วัสดุ: โลหะผสมสังกะสี + ABS, สายซิลิโคน
- น้ำหนัก: ตัวเรือน 30.4 กรัม / รวมสาย 47 กรัม
- ความบาง: 8.8 มม.
- กันน้ำ: IP68
- แบตเตอรี่: 265 mAh (ใช้งาน 4–6 วัน), ชาร์จเต็มใน 2 ชม.
- กีฬาในตัว: 110+ โหมด พร้อมการแสดงผลแบบเรียลไทม์
- ฟีเจอร์สุขภาพ: วัดหัวใจ, SpO2, ความเครียด, การนอน
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3 Dual-mode, โทรออก/รับสายได้
- การควบคุม: หน้าจอสัมผัส + ปุ่มด้านข้าง
- การแจ้งเตือน: รองรับทุกแอปหลัก (LINE, Messenger, FB, Gmail ฯลฯ)
- ระบบที่รองรับ: Android 5.3.1.3+, iOS 1.57+
- แอปที่ใช้เชื่อมต่อ: ApexWear
- การควบคุมเพลง: ควบคุมเพลงจากนาฬิกาได้โดยตรง
- ฟีเจอร์เสริม: รีโมทกล้อง, สภาพอากาศ, เตือนสุขภาพ (น้ำ, ยา, ขยับ), SOS
แนะนำ: Smart Watch ยี่ห้อไหนดี มีทุกความต้องการ ทั้งรุ่นท็อป และราคาสบาย ๆ

หากคุณกำลังมองหา นาฬิกาออกกำลังกายราคาถูก แต่ต้องมี GPS, วัดสุขภาพได้จริง, และ โทรได้ — Mibro Watch A3 คือคำตอบที่ดีที่สุดในช่วงราคาต่ำกว่า 2,000 บาท เพราะรวมทุกสิ่งที่จำเป็นไว้ครบ: GPS 5 ระบบ, โทรศัพท์ผ่านบลูทูธ, ระบบวัดชีพจร/ออกซิเจน/ความเครียด และโหมดกีฬาแบบโปร 100+ ชนิด
จุดเด่นที่หาไม่ได้ในรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียงคือ GPS ในตัว + น้ำหนักเบาเพียง 29 กรัม ทำให้เหมาะกับทั้งผู้ชาย/ผู้หญิงที่อยากใช้งานกลางแจ้งหรือฝึกวิ่งโดยไม่ต้องพกมือถือ ตัวเรือนบางและสายยางใส่สบายมาก แบตเตอรี่ใช้งานทั่วไปได้ 8 วันต่อการชาร์จ
ข้อมูลเฉพาะ
- หน้าจอ: IPS 1.39 นิ้ว ความละเอียด 360x360 รีเฟรช 60fps
- น้ำหนัก: 29 กรัม (ไม่รวมสาย) / 45.4 กรัม (รวมสาย)
- วัสดุ: ขอบอะลูมิเนียมอัลลอย / ตัวเรือนพลาสติก / สายยาง 22 มม.
- ระบบนำทาง: GPS, GLONASS, BDS, Galileo, QzSS
- กันน้ำ: 2 ATM
- แบตเตอรี่: 300mAh (โหมดทั่วไป 8 วัน / GPS ~15 ชม. / โหมดพื้นฐาน 50 วัน)
- โหมดกีฬา: 100+ กิจกรรม
- สุขภาพ: วัด HR, SpO2, ความเครียด, ตรวจจับผิดปกติ, รายงานสุขภาพ
- โทรศัพท์: Bluetooth Call รับสาย/โทรออกได้
- แอปที่รองรับ: Mibro App
- ภาษาในเครื่อง: รองรับภาษาไทย + อีก 36 ภาษา

ถ้าคุณกำลังหา นาฬิกาออกกำลังกายที่โทรได้ มี GPS และจอสวยในราคาประหยัด Amazfit Active คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของปี 2025 นี้ ด้วยดีไซน์บางทันสมัย น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.75 นิ้ว ที่แสดงผลได้สวยงามและลื่นไหล
รุ่นนี้รองรับทั้ง การโทรผ่านบลูทูธ, GPS สำหรับการนำทาง และโหมดกีฬาครอบคลุมทั้งสายแอดเวนเจอร์และฟิตเนส เช่น เดินป่า เซิร์ฟ สตรีทแดนซ์ ว่ายน้ำ โยคะ ฯลฯ พร้อมระบบติดตามสุขภาพตลอดวัน ทั้ง HR, SpO2, ความเครียด และการนอนหลับ ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 14 วันต่อการชาร์จ
ข้อมูลเฉพาะ
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด 390 x 450 px
- ตัวเครื่อง: อะลูมิเนียม, พลาสติก, สแตนเลส
- ขนาด: 42.36 x 35.9 x 10.75 มม.
- สาย: ซิลิโคน / หนัง (เปลี่ยนได้)
- สี: ดำ / ชมพู / ม่วง / ทอง
- GPS: มีในตัว ใช้นำทางและบันทึกเส้นทางออกกำลังกาย
- แบตเตอรี่: ใช้งานสูงสุด 14 วัน (ปกติ), 7 วัน (โหมดหนัก)
- โหมดกีฬา: มากกว่า 20 ประเภท – วิ่ง, ปั่น, ฟิตเนส, ว่ายน้ำ, ปีนเขา, ฯลฯ
- สุขภาพ: วัด HR, SpO2, ความเครียด, การนอน
- ฟีเจอร์เสริม: โทรศัพท์ผ่านนาฬิกา, แจ้งเตือนแอป, สั่งตอบกลับด้วยเสียง, ควบคุมเพลง
- กันน้ำ: ระดับ Water Resistant (ใช้โดนน้ำได้แต่ไม่เหมาะว่ายน้ำลึก)
ดูเพิ่มเติม: Smart watch ราคาไม่เกิน 5000
สรุปจุดเด่นนาฬิกา ออกกำลังกาย
- Garmin Venu 3 Series – หน้าจอ AMOLED สวยสด พร้อมโหมดนอนล้ำลึก วัด HRV และฟีเจอร์ฟื้นฟูร่างกายครบถ้วน
- Samsung Galaxy Watch8 – รองรับ Google Gemini, โหมดสุขภาพล้ำยุค พร้อมหน้าจอสว่างถึง 3,000 nits และ GPS แบบ Dual-Band
- Apple Watch Series 10 – ดีไซน์บางลง แสดงผลแม่นยำขึ้น พร้อมระบบติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ และใช้ร่วมกับ iPhone ได้สมบูรณ์แบบ
- Suunto Race – รองรับการแข่งระดับมือโปร หน้าจอ AMOLED คมชัด พร้อมระบบ GPS ความแม่นยำสูงและวิเคราะห์ฟอร์มร่างกายแบบ Athlete-Grade
- Garmin Forerunner 265 Series – เบา ใส่วิ่งสบาย หน้าจอ AMOLED + Training Readiness พร้อม Running Dynamics เต็มรูปแบบ
- Xiaomi Redmi Watch 5 Active – สมาร์ทวอทช์งบประหยัด รองรับโหมดกีฬา 100+ แบบ มีวัด SpO2 และกันน้ำได้ในราคาไม่ถึง 1,500 บาท
- Garmin Forerunner 165 – เหมาะกับนักวิ่งหน้าใหม่ หน้าจอ AMOLED พร้อม Daily Suggested Workouts และรองรับเพลงในตัว
- Aolon GTR 3 – จอ AMOLED ความละเอียดสูง รองรับ Bluetooth Calling และโหมดออกกำลังกายกว่า 110 แบบ พร้อมกันน้ำ IP68
- Mibro Watch A3 – น้ำหนักเบาเพียง 29 กรัม มี GPS ในตัว พร้อมจอ IPS 60FPS และรองรับโหมดกีฬา 100+ ในราคาประหยัด
- Amazfit Active – แบตอึด 14 วัน รับสายได้ มี GPS และฟีเจอร์ฟิตเนสพร้อมใช้ ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
นาฬิกาออกกําลังกาย มีฟังก์ชั่นเบื้องต้นอะไรบ้าง
นาฬิกาออกกำลังกายยุคใหม่ไม่ได้มีดีแค่บอกเวลา แต่กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับดูแลสุขภาพและไลฟ์สไตล์การเคลื่อนไหวของผู้ใช้ โดยฟังก์ชันเบื้องต้นที่มักติดตั้งมากับสมาร์ทวอทช์สายฟิตเนสในปี 2025 มีดังนี้:
โหมดออกกำลังกายหลากหลาย: ไม่ว่าจะเป็น การเดิน, วิ่ง, โยคะ, ปั่นจักรยาน, หรือแม้กระทั่ง การว่ายน้ำและโหมดวีลแชร์ หลายรุ่นมีให้เลือกใช้มากกว่า 120 โหมด เพื่อรองรับการฝึกซ้อมทุกรูปแบบอย่างแม่นยำ
ระบบติดตามสุขภาพ 24 ชั่วโมง: เช่น
- วัด อัตราการเต้นของหัวใจ แบบเรียลไทม์
- ตรวจ ออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- วัด ระดับความเครียด และแนะนำการหายใจผ่อนคลาย
- ติดตาม คุณภาพการนอนหลับ และ รอบเดือน สำหรับผู้หญิง
คุณสมบัติกันน้ำระดับ 5ATM: สามารถใส่ล้างมือ อาบน้ำ หรือว่ายน้ำในสระได้ลึกถึง 50 เมตรโดยไม่ต้องถอด
ระบบแจ้งเตือนและการเชื่อมต่อ: รองรับ การแจ้งเตือนข้อความ, สายเรียกเข้า, แอปโซเชียล และสามารถควบคุม เพลงหรือกล้องถ่ายรูป ได้จากข้อมือ
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติเบื้องต้นที่ควรคาดหวังจาก นาฬิกาออกกำลังกายรุ่นไหนดีในปี 2025 ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อนาฬิกาสำหรับใส่ออกกำลังกายหรือดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน
วิธีการเลือก นาฬิกาออกกําลังกาย
เลือกจาก “ดีไซน์นาฬิกา” ที่ใส่แล้วรู้สึกว่าเป็นตัวเอง
แม้รูปลักษณ์จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็มีผลต่อการใช้งานไม่น้อย เพราะนาฬิกาที่ดีไม่ควรแค่สวย แต่ต้อง เบา ใส่สบาย และทนทาน ด้วย
- เช็กวัสดุตัวเรือน เช่น อะลูมิเนียมอัลลอย, สแตนเลส, หรือซิลิโคน
- ตรวจสอบน้ำหนัก – เบาเกินไปอาจรู้สึกไม่มั่นคง หนักเกินไปก็ใส่ไม่สบาย
- สายนาฬิกาควรเปลี่ยนได้ง่ายและทนเหงื่อ เช่น สายซิลิโคนหรือ TPU
เลือกจาก “หน้าจอ” ทัชง่าย ทนรอย ใช้งานได้แม้แดดแรง
ปัญหา หน้าจอเป็นรอย หรือแสงสะท้อนตอนกลางแจ้ง เป็นเรื่องที่หลายคนเจอ
ก่อนซื้อควรดูว่า:
- เป็นหน้าจอประเภท AMOLED, IPS หรือ LCD
- รองรับ หน้าจอกันรอยนิ้วมือ หรือมีโค้ทติ้งป้องกันรอยขีดข่วน
- ความสว่างสูงพอสำหรับใช้งานกลางแดด เช่น 450-1000 nits
- ขนาดหน้าจอเหมาะกับการใช้งาน เช่น 1.39” หรือ 1.75” สำหรับคนชอบจอใหญ่
หากกลัวรอยขีดข่วน ลองหาฟิล์มติดหน้าจอเสริมเพื่อยืดอายุการใช้งานตั้งแต่วันแรกที่ได้มา
เลือกจาก “ฟังก์ชัน” ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ลิสต์ความต้องการของตัวเอง แล้วนำไปเทียบกับแต่ละรุ่น เช่น:
- รองรับ โหมดออกกำลังกายกี่แบบ (เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปีนเขา)
- มีฟังก์ชันวัดสุขภาพครบไหม? (เช่น หัวใจ, SpO2, ความเครียด, HRV)
- แบตเตอรี่ใช้งานได้กี่วัน?
- รองรับการโทรผ่าน Bluetooth หรือไม่?
สุดท้าย ให้นำข้อมูลทั้งหมดมาชั่งน้ำหนักเทียบกันว่า นาฬิกาออกกำลังกายยี่ห้อไหนดีที่สุด สำหรับคุณ ทั้งในแง่ฟังก์ชัน ดีไซน์ และราคา
บทส่งท้าย
หากว่าการสวมใส่ใช้งานนาฬิกาออกกําลังกายรูปแบบเดิมๆ ทำให้คุณรู้สึกเบื่อกับการที่ต้องเสียเวลามาชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ อย่าพลาดพิจารณา นาฬิกาออกกําลังกายรุ่นใหม่ ภายในรายการแนะนำ 10 นาฬิกาออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี แบตเตอรี่ใช้ได้นาน ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน ด้านบนนี้ ที่ซึ่งเป็นรายการแนะนำฉบับอัปเดต คัดเคาะมาเฉพาะนาฬิกาออกกําลังกายรุ่นล่าสุด ที่ทางแบรนด์ได้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานต่อเนื่องยาวนาน