เมื่อพูดถึงเวลาเลือกซื้อ LG TV แล้ว มันมีหลายรุ่นหลายประเภทที่ทำให้เราสับสนว่าสรุปเราควรจะใช้อันไหน มีทั้ง UHD, NanoCell, QNED, OLED ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากเอารุ่นที่แพงที่สุดแต่อยากเอารุ่นที่เหมาะกับเรา วันนี้ผมจึงอยากแนะนำ 10 ทีวี LG รุ่นไหนดี มาให้เหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นทีวีที่ถูกหรือแพง ประเภทของจอต่างๆ มีอะไรบ้าง และอันไหนเหมาะกับการดูหนังหรือเล่นเกม
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 ทีวี LG รุ่นไหนดี สำหรับดูหนัง เล่นเกม และความบันเทิงทุกรูปแบบ 2024
ทีวี LG อัจฉริยะตัวท็อป 2022 ที่ใช้จอ OLED evo เปล่งแสงที่สว่างเพิ่มขึ้น 30%2 และคมชัดขึ้น ดีไซน์บางแนบกับผนังและยังกลมกลืนไปกับพื้นผิวและวัสดุที่ใช้ก็ยังเบากว่ารุ่นก่อนๆ มี α9 Gen5 AI Processor ชิปประมวลผลที่ยกระดับภาพ 4K ให้พื้นหน้าและพื้นหลังเป็นธรรมชาติ ให้แสงสว่างสีดำที่ลึกที่สุดและภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น และยังมี Dynamic Tone Mapping Pro โฉมใหม่ที่อยู่ทั่วหน้าจอทำให้ HDR สดใสและลงรายละเอียดแต่ละส่วนไปถึงขั้นสุด พร้อมระบบเสียง 4.2Ch/60W นอกจากนี้ยังมี Dolby Vision Gaming 4K ที่ 120Hz และเวลาตอบสนองเพียง 1 ms สำหรับสายเกมเมอร์ มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากเห็น 4K รายละเอียดที่ชัดเจนที่สุดพร้อมกับเล่นเกมได้ดีอีกด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: OLED
- ขนาดจอ: 55 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: เรื่องทีวีไว้ใจคุณ LGระดับประเทศ
ทีวี LG อัจฉริยะที่ใช้จอ OLED evo เปล่งแสงที่สว่างเพิ่มขึ้น 20%2 และคมชัดขึ้น ดีไซน์ที่เพรียวบางสุด ๆ และยังลงตัวกับ Floor Stand และ Gallery Stand ทำให้บ้านของคุณดูดีขึ้นมา มี α9 Gen5 AI Processor ชิปประมวลผลที่ยกระดับภาพ 4K ให้พื้นหน้าและพื้นหลังเป็นธรรมชาติ ให้แสงสว่างสีดำที่ลึกที่สุดและภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น และยังมี Dynamic Tone Mapping Pro โฉมใหม่ที่อยู่ทั่วหน้าจอทำให้ HDR สดใสและลงรายละเอียดแต่ละส่วนไปถึงขั้นสุด พร้อมระบบเสียง 2.2Ch/40W นอกจากนี้ยังมี Dolby Vision Gaming 4K ที่ 120Hz และเวลาตอบสนองเพียง 0.1 ms เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์ มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากเห็น 4K บนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 83 นิ้วและยังได้รับรายละเอียดที่ชัดเจนที่สุดพร้อมกับเล่นเกมได้ดีอีกด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: OLED
- ขนาดจอ: 83 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ทีวีที่ดีสุดแล้ว แต่แพงจัง
ทีวีอัจฉริยะที่ใช้จอ QNED ที่ควบคุมแสงได้ดีสุดๆ พร้อมเทคโนโลยี Quantum Dot และ NanoCell ที่ให้สัมผัสสีแปลกใหม่และยกระดับ 4K ของคุณเพิ่มขึ้นไปอีก พร้อมกับ Dimming Pro ที่ช่วยลดแสงพื้นหลังเพื่อที่จะสร้างภาพคมชัดและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นไปอีก พร้อมระบบเสียง 2.2Ch/40W นอกจากนี้ Refresh rate อยู่ที่ 120Hz และมี AMD FreeSync Premium ที่ทำให้ภาพที่ลื่นขึ้นปราศจาก Frame ขนาดเหมาะกับการเล่นเกมอีกเช่นกันเวลาตอบสนองอยู่ที่ 13 ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการสัมผัส 4K สีสดใสของ QNED บนหน้าจอทีวี LG ขนาดใหญ่
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 75 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ยังไม่มีรีวิว
ทีวี LG 48 นิ้ว ที่ใช้ Self-lighting OLED สร้างความมืดของจริงโดยไม่มีแสงพื้นหลัง แถมบริเวณที่มืดจะดำสนิทโดยไม่มีเอฟเฟกต์แสงตกหรือแสงสะท้อน ดีไซน์ที่เพรียวบาง α7 Gen5 AI Processor ชิปประมวลผลที่ยกระดับภาพเป็น 4K และเพิ่มประสิทธิภาพพื้นหน้าและพื้นหลังเพื่อให้ภาพโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Dynamic Tone Mapping ทำให้ HDR เป็นธรรมชาติ คอนทราสต์ที่ลึก และรายละเอียดซับซ้อนขึ้น พร้อมระบบเสียง 2.0Ch/20W Refresh rate อยู่ที่ 60Hz และเวลาตอบสนองเพียง 1 ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากรับชม 4K ที่มีคุณภาพสูงแต่ไม่เหมาะสำหรับท่านที่อยากเล่นเกมที่ใช้ 120Hz
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: OLED
- ขนาดจอ: 48 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ใช้งานได้ดี ภาพสวยคมชัด เสียงดีมาก ไม่ต้องใช้ซาวด์บาร์ช่วย ลองดูคุณภาพระยะยาวอีกทีว่าจะทนทานใช้ได้นานแค่ไหน เครื้องเดิมใช้ LG ใช้ได้ 10 ปี
ทีวีอัจฉริยะที่ใช้ NanoCell เพื่อมอบเม็ดสีที่สมบูรณ์และคัดกรองสีที่ไม่ได้อยู่ใน RGB เป็นทีวี LG 65 นิ้ว ออกแบบพิเศษให้เรียบง่าย โฉบเฉี่ยวและแขวนติดกับผนังเพื่อเพิ่มความสวยงามภายในบ้านและประหยัดพื้นที่ มี α7 Gen4 AI Processor ชิปประมวลผลที่ยกระดับภาพเป็น 4K และ NanoCell ยังมอบประสบการณ์ 4K ที่สูงกว่ามาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังยกระดับประสบการณ์ชมหนังด้วย NanoCell และ Dolby พร้อมระบบเสียง 2.2Ch/40W นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเกมได้ที่ 100-120Hz และเวลาตอบสนองเพียง 1 ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการได้ความคมชัดเวลาดูหนัง ซีรีส์ กีฬา หรือเล่นเกม
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 65 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: รายละเอียดออกมาดีมาก
ทีวี LG NanoCell ให้สีบริสุทธิ์สดใสและสมจริงโดยการทำหน้าที่คัดกรองสีที่ไม่ได้อยู่ในแม่สีแสง RGB (Red - Green - Blue) เป็นทีวีจอแบน มี α5 Gen5 AI Processor ชิปประมวลผลที่ยกระดับภาพเป็น 4K และ NanoCell ยังมอบประสบการณ์ 4K ที่สูงกว่ามาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังยกระดับประสบการณ์ชมหนังด้วย Nano Color และระบบเสียง 2.0Ch/20W นอกจากนี้ยังมี Refresh rate อยู่ที่ 60Hz และเวลาตอบสนอง 4 ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากเห็น 4K และยกระดับสีสันสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 43 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ภาพ สี และเสียงคมชัด ฟังก์ชั่นเยอะจะดูหนังฟังเพลง รูปทรงสวยงามไม่เทอะทะ การบริการของทางช่างติดตั้งก็ดีเยี่ยม
ทีวี LG จอ UHD ดีไซน์จอที่เพรียวบางและขอบจอที่บางทำให้เหมาะแก่การตกแต่งภายในบ้าน มี α5 Gen5 AI Processor เพื่อให้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์และยกระดับภาพเป็น 4K นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เหมือนอยู่ในโรงหนังและระบบเสียง 2.0Ch/20W นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเกมโดยใช้ Cloud Game, Game Dashboard & Optimizer และ HGiG ได้ด้วย Refresh rate อยู่ที่ 60Hz และเวลาตอบสนอง 8 ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากรับชม 4K
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 55 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: การขนส่งรวดเร็ว การใช้งาน ภาพสวย คมชัด เสียงดีมาก เอามาต่อเล่นเกมส์ภาพไหลลื่นดี ดูหนังก็ดี ชอบมากกกกก
ทีวีอัจฉริยะจอ UHD ดีไซน์จอที่เพรียวบางและขอบจอที่บางช่วยทำให้พื้นที่ในบ้านดูสวยขึ้น ให้ภาพ 4K ที่มีความละเอียดคมชัดและเพิ่มประสบการณ์สูงกว่าถึง 4 เท่าของ Full HD นอกจากนี้ยังสามารถดื่มด่ำไปกับระบบหนัง FILMMAKER MODE™ และระบบเสียง 2.0Ch/20W พร้อมกับ Game Optimizer, HDMI 2.0, HGiG, และ HDR ที่ทำให้เล่นเกมได้อย่างรวดเร็วและสามารถเล่นได้ถึง 60Hz และเวลาตอบสนอง 8ms มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่อยากรับชม 4K ในขนาดจอไม่ใหญ่ไม่เล็กไป
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 43 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: เป็นการซื้อ TV ขนาดใหญ่อีกครั้งของผม สำหรับ LG ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องนี้เค้าเป็น Smart TV ที่ฉลาดสมชื่อ
ทีวีดิจิทัล LG จอ FULL HD ที่ให้ความละเอียดของหน้าจอที่ 1920 x 1080p ใช้ Resolution Upscaler เพื่อยกระดับความคมชัดของภาพ นอกจากนี้ยังมี Time Machine Ready ทำให้ท่านสามารถบันทึกรายการทีวีช่องโปรดของท่านเอาไว้ได้และรองรับสัญญาณดิจิตอล ใช้ชิปประมวลผล Dynamic Color Enhancer เพื่อเพิ่มความละเอียดและความเป็นธรรมชาติของภาพ มี Dolby Audio เพื่อให้เสียงเหมือนกับอยู่ในโรงหนังและระบบเสียง 2.0Ch/10W นอกจากนี้ยังมี Refresh rate อยู่ที่ 50Hz มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการประสบการณ์มากกว่าทีวีทั่วไป
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 43 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: จอไหญ่กะลังดี สีไม่แตก คมชัด เสียงดัง เพราะ เมนูตั้งค่า ไม่สับซอ้น เซ็ตมาไห้ ตั้งค่าง่ายๆ แบบมืออาชีพได้เลย ชอบภาพ ระบบโรงหนัง มาก เหมือนในโรงเลย สีนวลไม่แสบตา ส่งเร็ว ราคาถูก สุดคุ้ม แนะนำมากๆ ซื้อเลย บริการ ดี ตอบไว ทักคำถาม
ทีวีอัจฉริยะจอ HD ที่แสดงสีสันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ความละเอียดหน้าจอที่ 1366 x 738p ใช้ Resolution Upscaler เพื่อยกระดับความคมชัดของภาพ ใช้ α5 Gen5 AI Processor เพื่อเพิ่มประสบการณ์รับชมเพิ่มขึ้นและระบบเสียง 2.0 Ch/10W นอกจากนี้ยังมี Game Optimizer, HGiG, และ HDR ที่ทำให้เล่นเกมได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มความชัด นอกจากนี้ยังมี Refresh rate อยู่ที่ 60Hz มีแอปอื่น ๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการทีวี LG ที่ทำได้แบบทั่วไป
ข้อมูลเฉพาะ
- ประเภทจอ: LED
- ขนาดจอ: 32 นิ้ว
รีวิวจากผู้ซื้อ: ใช้งานง่าย ดีมากๆ
ดูซีรีย์ สบายเลย
-netflix
-youtube ... ครบ
-Wifi ในตัว
-ภาพอาจจะไม่คมชัดเท่าจอขนาดใหญ่
แต่เหมาะกับคนที่ พื้นที่ห้องเล็ก
จุดเด่นของทีวี LG พร้อมประวัติแบรนด์
ตอนแรกนั้น LG เป็นแบรนด์ขายครีมทาหน้าในปี 2490 ที่ชื่อว่า LuckyChemical Co., Ltd. ต่อมาได้ก่อตั้ง Goldstar Co.,Ltd. ขึ้นในปี 2501 ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนที่ชื่อจะเปลี่ยนมาเป็น LG Electronic ในปี 2526 ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ในปี 2503 ได้สร้างวิทยุอันแรกในเกาหลีและปีถัดไปก็ได้สร้างโทรศัพท์แห่งแรกของเกาหลีและได้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างเครื่องแรกในเกาหลี ในปี 2556 กลายเป็นแบรนด์ที่ดังเพราะขาย smartphone เป็นอันดับ 3 ของโลก และในปี 2558 และ 2559 ก็ได้รับรางวัลมากมายเกี่ยวกับทีวีซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากทีวี LG OLED
จุดเด่นของ LG นั้นอยู่ที่ทีวี OLED ที่ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดในการทำทีวี OLED เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Sony, Panasonic หรือ Samsung นอกจากนี้แล้ว Sony OLED ก็ให้ LG ช่วยในการทำด้วยเช่นกัน สีดำสนิทหรือสีต่าง ๆ ที่ LG OLED ทำได้นั้นถือว่าเป็นคุณภาพสูงที่สุดสำหรับการดูหนังและ Dolby Vision IQ และ Dolby Atmos ก็ยิ่งทำให้การดูหนังนั้นดีขึ้นไปอีก ระบบ WebOS ก็ถือว่าเป็นระบบที่ดีที่สุด แถม LG OLED ก็ยังเหมาะแก่การเล่นเกม 4K ที่ 120Hz โดยไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นแล้ว LG OLED เหมาะกับคนที่อยากได้คุณภาพของภาพที่สูงและเสียงเหมือนอยู่ในโรงหนัง
นอกจากนี้แล้วจุดเด่นอีกอย่างของทีวี LG คือการดีไซน์สินค้าของตัวเองให้ดูโดดเด่นและการทำหน้าจอให้บางกว่าแบรนด์อื่น ๆ ทำให้สามารถวางติดผนังบ้านแล้วดูสวยงาม มีการใส่ฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี
เลือกระบบทีวี LG แบบไหนดี
ทีวี LG ทุกรุ่นนั้นเป็น Smart TV ซึ่งสามารถติดตั้งแอปต่าง ๆ อย่าง Netflix, Disney+, Apple TV ซึ่งทาง LG เขาก็ได้แบ่งหน้าจอออกเป็น UHD, NanoCell, QNED, OLED
- HD: มีความคมชัดระดับ 2K ถือว่าเป็นขั้นต่ำสุดในบรรดาทั้งหมด
- UHD: มีความคมชัดระดับ 4K ใช้ HDR ทำให้ภาพมีความแตกต่างหรือคอนทราสต์สูงและเพิ่มรายละเอียด มีใช้ Quad Core Processor เพื่อทำให้ภาพที่ไม่ใช่ 4K แต่แรกนั้นใกล้เคียงกับ 4K ที่สุด
- NanoCell: ใช้เทคโนโลยี Real 4K ที่มีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล ให้ความสมจริงและบริสุทธิ์ของสีหน้าจอด้วยการคัดกรองสีที่ไม่ได้อยู่ใน RGB (Red - Green - Blue) และลดทอนแสงสีขาวในเม็ดสีทำให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก
- QNED: ทำให้ภาพมีความละเอียด 4K หรือ LG บางรุ่นก็ 8K QNED ใช้ Quantum Dot ผสมกับ NanoCell เพื่อให้ได้สีสันใหม่ที่สดใส ทำให้มีเฉดสีมากขึ้น หลอดไฟที่อยู่ข้างในจะมีขนาดเล็กกว่า 300um หรือ 1/40 ของ LED ทั่วไป ทำให้ได้ความสว่างและสีที่เข้มข้นมากขึ้น
- OLED: ทำให้ภาพมีความละเอียด 4K หรือ LG บางรุ่นก็ 8K OLED พิเศษตรงที่ไม่มีไฟ Backlight และแต่ละหลอดสามารถส่องสว่างและมีสีของมันได้ด้วยตนเอง บริเวณที่มืดก็จะมืดสนิท ทำให้ภาพมีความคมชัดและไม่หลอกตา
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเรื่องของ Refresh rate ซึ่งเป็นการบอกว่าหน้าจอสามารถสร้างภาพใหม่ภายใน 1 วิ ซึ่งยิ่งตัวเลขเยอะก็แปลว่าภาพรายละเอียดที่แสดงจะตกหล่นน้อย ซึ่งปกติแล้ว 60Hz ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว แต่ถ้าสำหรับคนเล่นเกมแล้วควรจะใช้ 120Hz เพื่อที่ภาพจะได้ไหลลื่นเป็นธรรมชาติ
สำหรับท่านที่อยากดูหนังเป็นพิเศษ Dolby Vision IQ จะช่วยให้หนังที่ดูมีความใกล้เคียงที่สุดกับโรงหนังและ Dolby Atmos นั้นก็ให้เสียง 360 องศารอบตัวผู้ฟังทำให้ได้ความสมจริงของเสียง
วิธีการติดตั้งทีวี LG ที่มีจอใหญ่มาก ๆ
สำหรับ LG TV ที่มีจอใหญ่มาก สิ่งแรกที่ควรทำคือวางแยกเคเบิลออกมาและถ่ายรูปด้านหลังของทีวีเอาไว้เพื่อที่จะได้เสียบสายได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นให้เคลียร์พื้นที่ที่ตัวเองจะวางทีวีเอาไว้ ถ้าเป็นทีวีที่วางบนโต๊ะก็ควรมีพื้นที่ให้ตัวเองสามารถไปข้างหลังทีวีเพื่อเสียบสายได้ง่ายๆ หรือถ้าเป็นทีวีที่ติดผนังก็สามารถเปิดภาพดูได้ว่าสายอยู่ตรงไหนเพื่อช่วยให้ติดสายได้ง่ายขึ้น
เวลายกทีวี ให้เอามือยกจากข้างล่างข้างหนึ่งและเอามืออีกข้างจับข้างบนทีวีไว้ พยายามอย่าจับทีวีแน่นเกินไปเพราะอาจทำให้เสียได้
ถ้าต้องมีการไขควงก่อนเพื่อติดขารองหรืออย่างอื่น ให้วางทีวีคว่ำบนพื้นราบแต่ระวังอย่าวางข้างใดข้างหนึ่งลงก่อนเพราะอาจทำให้ทีวีบุบหรือเสียหายได้ ต้องทำให้น้ำหนักของทีวีไม่เอียงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
ระยะห่างอย่างต่ำของทีวีกับที่ที่จะนั่งดูคือเอาขนาดนิ้วของทีวีคูณ 1.5 เช่นทีวี 60 นิ้วก็ควรวางห่างจากที่นั่งดูอย่างต่ำ 90 นิ้ว หรือ 2 เมตร แต่ถ้าเป็นทีวี 4K ก็อาจเข้าไปใกล้ขึ้นกับที่นั่งได้เพราะภาพยังคงชัดเจน
ระยะห่างมากสุดก็คือคูณ 2 เข้าไปกับระยะห่างต่ำสุด ในที่นี้ถ้าเป็นทีวี 60 นิ้วก็จะเป็น 180 นิ้ว หรือ 4 เมตร นั่นเอง
เพื่อความสวยงามก็สามารถผูกสายเคเบิลเอาไว้ตอนติดตั้งเสร็จแล้ว
บทส่งท้าย
สุดท้ายแล้วการเลือกทีวีนั้นก็ควรเลือกทีวี LG ที่เราอยากใช้มากที่สุด สำหรับคนที่ชอบดูหนังแล้วแนะนำให้เอาทีวีที่มี Dolby เพื่อจะได้รับประสบการณ์ชมหนังเหมือนไปดูในโรงหนัง สำหรับคนที่สนใจซื้อมาเล่นเกมแล้วแนะนำให้เลือกทีวีที่มี 120Hz ส่วนเรื่องของคุณภาพของภาพแล้วนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ภาพสมจริงและสวยงามมากแค่ไหน