ความชื้นปัญหาที่หลายคนมองข้ามและไม่เคยรู้ว่ามันสามารถสร้างผลเสียได้มาแค่ไหน ทั้งสำหรับที่พักอาศัย กำแพง สี วอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ทำจากไม้และกระดาษซึ่งสามารถเกิดอาการบวม ปูด โป่ง โกงงอ หลุด ลอก ล่อนได้ กับปัญหาเชื้อราตามซอกมุม ซึ่งเกิดจากการที่ความชื้นเข้าไปสะสมและส่งผลให้เกิดกลิ่นอับได้ด้วย สำหรับด้านสุขภาพร่างกายนั้น ทั้งสร้างผลกระทบกับระบบทางเดินหายใจในระยะสั้นและระยะยาวเช่นโรคภูมิแพ้ ด้วยความที่เชื้อโรค เชื้อรา ไรฝุ่นนั้นชอบความชื้น ซึ่งช่วยให้มันสามารถเจริญเติบโตได้ดี สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ด้วย วันนี้เราจึงมีสินค้าที่จะมาปรับความชื้น ด้วย 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี พร้อมแล้วมาเลื่อนอ่านกันเลย
บรรณาธิการ
Table of Contents
แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี 2024
เริ่มกันที่เครื่องลดความชื้นจากแบรนด์ LG ในรุ่น LG PuriCare Dehumifier MD16GQSA1 ขนาด 16 ลิตร ซึ่งสามารถลดความชื้นได้สูงสุดที่ 28 ลิตรต่อวันกับความจุถังที่ให้มาที่ 4 ลิตร กับความดังเสียงในการทำงานเบาสุดที่ 33/39 เดซิเบล การสั่งงานก็ง่ายผ่านปุ่มกดและแอปพลิเคชัน LG ThinQ พร้อมกับความสามารถในการกำจัดแบคทีเรียในอากาศด้วยไอออน (Ionizer) ตัวเครื่องใช้การลดความชื้นผ่านระบบ Dual Inverter Compressor ที่ให้การรับประกัน Compressor มาถึง 10 ปีเลย ไม่เพียงเท่านั้นในชุดยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับลดความชื้นรองเท้าและตู้เสื้อผ้าได้ด้วย
รีวิวจากผู้ใช้
“เพื่อนฝากซื้อ บอกว่า ใช้แล้วดีมากๆ ศึกษาจาก รีวิว มาก่อน เลยลองสั่งซื้อดู เพราะห้องพัก ชื้นๆ เปิดใช้ครั้งแรกก็ประทับใจเลยสามารถ สั่งการด้วยโทรศัพท์ได้ด้วย
ทางร้านตอบแชทไว ใส่ใจรายละเอียด ในทุกๆ เรื่อวเลยค่ะ ขอให้ 10 ดาวเลย
จัดส่งสินค้ารวดเร็ว ส่งจาก ตจว มากรุงเทพ ใช้เวลา 2 วัน แนะนำซื้อที่ร้านนี้เลยนะคะ”
เครื่องลดความชื้น HAFELE แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ามาตรฐานเยอรมัน ในขนาดสำหรับห้องที่ไม่ใหญ่มากนักมากับการรองรับขนาดพื้นที่ไม่เกิน 20 ตร.ม. กับความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดที่ 750 มล. ต่อวันด้วยขนาดความจุถังกักเก็บน้ำสูงสุดถึง 2 ลิตร พร้อมปุ่มควบคุมและไปแสดงสถานะใช้งานง่ายตัวเครื่องลดความชื้นมีความดังของเสียงเมื่อทำงานสูงสุดที่ 42 เดซิเบล กับน้ำหนักที่เบาเพียง 2.2 กิโลกรัม สูง 373 เซนติเมตร, กว้าง 228 เซนติเมตร และลึก 150 เซนติเมตร
รีวิวจากผู้ใช้
“ฝนตกเยอะ รู้สึกอากาศในห้องชื้นมาก ลองซื้อตัวเล็กมาใช้ ช่วยได้เยอะ รู้สึกอากาศสะอาดขึ้น ไม่ป่วย ถูกใจจนต้องซื้อตัวใหญ่มาใช้อีก ดูดได้มากกว่าเดิม ดีมาก”
Mi Smart Dehumidifier 22L เครื่องลดความชื้นจากแบรนด์ในใจใครหลายคนอย่าง Xiaomi โดยในรุ่นนี้มาในขนาดใหญ่ถึง 22 ลิตรสามารถลดความชื้นได้สูงสุด 22 ลิตรต่อวันกับถังจุน้ำขนาด 4.5 ลิตรหรือประมาณ 8 ชั่วโมง ด้วยเสียงรบกวนแค่ 35.5 เดซิเบล ด้านระบบการดูดความชื้นใช้การดูดความชื้นด้วยมอเตอร์ DC อินเวอร์เตอร์ การควบคุมก็ง่ายระบบสัมผัสพร้อมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mi Home ได้ ดีไซน์ก็สวยมินิมอลพร้อมล้อให้สามารถเคลื่อนย้ายง่าย
รีวิวจากผู้ใช้
“เครื่องใหญ่กว่าที่คิด ใหญ่กว่าเครื่องฟอกอากาศราวๆเท่าครึ่ง ออกแบบ minimal style Xiaomi สวยดีครับ”
มาดูกันที่เครื่องลดความชื้นจากแบรนด์ Bwell แบรนด์เครื่องฟอกอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้า กันบ้างโดยในรุ่นจะมาในเลขรหัส BDH-20 ซึ่งก็สามารถลดความชื้นได้สูงสุดถึง 20 ลิตรต่อวันเหมาะกับพื้นขนาดประมาณไม่เกิน 10-30 ตารางเมตร มาพร้อมหน้าจอดิจิตอล ที่สามารถบอกระดับความชื้นได้ ถังน้ำที่ให้มามีความจุสูงสุดที่ 3.5 ลิตร โดยตัวเครื่องจะมีขนาดความสูงถึง 618 มิลลิเมตร กว้างและยาวที่ 260 มิลลิเมตร ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องที่ 13.5 กิโลกรัม โดยตัวเครื่องจะให้ล้อลากมาด้วยเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
รีวิวจากผู้ใช้
“จัดมาเพื่อแมวโดยเฉพาะเลย แมวชอบเป็นเชื้อรา มีคนแนะนำให้ใช้เครื่องดูดความชื้นดู ตัวเครื่องถือว่าสวยงามดูแข็งแรง เมนูใช้งานง่าย ลากไปลากมาสะดวก ห้อง 33 ตรม. ถือว่าเหมาะสม”
เครื่องลดความชื้นอีกรุ่นจากทาง Xiaomi แต่รุ่นนี้นั้นมาในขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะสำหรับการใช้งานตู้เสื้อผ้า ชั้นรองเท้า หรือพื้นที่ขนาดเล็กที่มีขนาดน้อยกว่า 5 ตารางเมตร เช่น ตามซอกมุมหรือช่องต่าง ๆ เพื่อใช้งานชั่วคราวระยะสั้น ๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์โดยไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงตัวเครื่อง ตัวเครื่องลดความชื้นจะใช้เม็ดดูดความชื้นภายใน ในการดูความชื้นและเมื่อเม็ดเปลี่ยนสีก็สามารถเสียบสายเพื่อทำให้เม็ดภายในนั้นกลับมาใช้ได้อีกครั้งซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 12-15 ชั่วโมงต่อครั้ง ทำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อย ๆ ซึ่งตัวเครื่องสามารถลดความชื้นได้สูงสุด 1.1 ลิตรต่อชั่วโมง
รีวิวจากผู้ใช้
“น้องสามารถรียูสได้เพราะมีปลั๊กมาให้เสียบระบายความชื้นออกตอนที่น้องดูดเต็มแล้ว เริ่ดอยู่”
เครื่องลดความชื้นจากแบรนด์ VERASU ที่มาในชื่อ HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 ซึ่งสามารถรองรับพื้นที่ในการดูดความชื้นได้สูงสุดถึง 42 - 50 ตร.ม หรือ สามารถลดความชื้นภายในห้องได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 45 ลิตรต่อวัน พร้อม HEPA FITER ที่ช่วยในการกรองอากาศด้วย ตัวเครื่องดูดความชื้นสามารถจุน้ำได้สูงสุดถึง 6 ลิตร กับล้อและหูจับช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และมีเสียงขณะทำงานดังสูงสุดที่ 48 เดซิเบล มีหน้าจอแสดงผลการทำงานและค่าความชื้นที่วัดได้ ด้านโหมดการทำงานที่ให้มาก็หลากหลายเช่น ระบบ Auto-Swing ช่วยให้ผ้าที่ตากในห้องหรือเมื่อซักพรมหรือซักโซฟาแห้งได้เร็วขึ้น ควบคุมความชื้นได้ตั้งแต่ 40% - 70% RH
รีวิวจากผู้ใช้
“เครื่องหนัก ทดลองใช้ในห้อง เปิดเครื่องไว้หนึ่งคืน ได้น้ำเกือบเต็มถัง เครื่องทำงานได้ดีมากค่ะ”
เครื่องดูดความชื้นราคาคุ้มค่า ที่มากับความสามารถในการเชื่อมต่อ ควบคุมและสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย โดยตัวมากับความสามารถในการขจัดความชื้นได้สูงสุด 18 ลิตรต่อวันพร้อมตัวกรองที่สามารถต้านและดักจับเชื้อแบคทีเรียได้ รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ขนาดกว้างสุด 25 ตารางเมตร ให้โหมดการทำงานมาถึง 5 โหมด กับความแรงในการใช้งานที่ 3 ระดับกับความดังเสียงในการทำงานสูงสุด 38 เดซิเบล จุน้ำได้สูงสุด 2.7 ลิตร
รีวิวจากผู้ใช้
“ดูดความชื้นในอากาศได้ดีมากทำให้ห้องเก็บของหายเหม็นอับชื้น จึงซื้อเพิ่มเป็นเครื่องที่สองเพื่อใช้งานคนละชั้นของบ้านเพราะเครื่องหนัก ยกขึ้นลงลำบาก”
เครื่องลดความชื้นจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่าง Deerma กันบ้าง โดยรุ่นนี้จะเหมาะสำหรับห้องขนาด 21 - 30 ตารางเมตร ที่มาในขนาดความจุของถังเก็บน้ำสูงสุดที่ 2.5 ลิตร สามารถขจัดความชื้นได้สูงสุด 15 ลิตรต่อวัน ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอแสดงผลบริเวณด้านหน้าและปุ่มกดแบบสัมผัสบริเวณด้านบน ตัวเครื่องมาพร้อมแผนกรองที่ช่วยดักจับฝุ่นและถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย การเคเลื่อนย้ายก็ง่ายด้วยล้อที่ให้มา ด้านโหมดการทำงานก็ให้มาหลากหลาย
รีวิวจากผู้ใช้
“เครื่องหนักพอสมควร แต่มีล้อลากด้านล่างสามารถเคลื่อนย้ายไอ้สะดวก คู่มือภาษาจีน แต่ใช้ไม่ยากและหาโหลดคู่มืออังกฤษจากกูเกิ้ลได้ เครื่องทำงานดังพอสมควรถ้าเปิดลมแรง ถ้าโหมดลมเบาน่าจะโอเคในห้องนอน ”
มาดูเครื่องลดความชื้นขนาดเล็กกันที่แบรนด์ Simplus โดยรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือที่ที่ขนาดไม่ใหญ่นัก เช่นบนโต๊ะทำงาน ในครัว หรือบริเวณนั่งเล่นที่ไม่กว้างนักหรือสามารถรองรับพื้นที่การใช้งานได้กว้างสูงสุด 5 - 15 ตารางเมตร และตัวเครื่องสามารถจุน้ำได้สูงสุด 600 มิลลิลิตร และสามารถดูความชื้นได้สูงสุด 300 มิลลิลิตรต่อวัน ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากจะอยู่ที่ 146 มิลลิเมตร X 146 มิลลิเมตร X 227 มิลลิเมตร เสียงก็เงียบด้วย
รีวิวจากผู้ใช้
“ขนาดเล็ก แต่ดูดความชื้นได้จริง เสียงไม่ดัง รอดูระยะยาวอีกที”
เครื่องลดความชื้นอีกรุ่นที่น่าสนใจจากแบรนด์ Verasu ในซีรีส์ HOMEMATE ที่ให้ความจุมาสูงถึง 4 ลิตร ซึ่งสามารถลดความชื้นได้สูงสุดถึง 30 ลิตรต่อวัน โดยตัวเครื่องจะมีเสียงขณะทำงานดังสูงสุดที่ 45 เดซิเบล การใช้งานก็ง่ายด้วยหน้าจอแสดงผล LCD และตัวเครื่องยังมาพร้อมกับแผ่นกรอง HEPA ทั้งลดความชื้นและยังช่วยฟอกอากาศไปในตัว โดยเครื่องลดความชื้นในรุ่นนี้จะเหมาะกับพื้นที่ขนาดไม่เกิน 25 - 30 ตร.ม การเคลื่อนย้ายก็สะดวกด้วยล้อที่มีมาให้
รีวิวจากผู้ใช้
“ใช้ดีกับห้องครัวครับ ตอนรับเครื่องแพคมาสองชั้นก็ตั้งมาเรียบร้อยดี ครับ แต่ก็ต้องตั้งรอ 24ชม ตามคำแนะนำที่แปะมากับกล่องชั้นในของตัวเครื่อง ความอับชื้น หายหลังจาก เปิดเครื่อง Auto high speed 1Hr. (Started 78 to <60) ตอนแรกความชื้นสูงเหมือนคอมจะทำงาน กลิ่นอับชื้น ก็บางเบาลง หายใจสะดวกขึ้น พื้นกระเบื้องก็ไม่เหนียวเหนอะเท้า แห้งดีหลังจากความชื้นลด ยังไม่ลองโหมดตากผ้า เสียก็ไม่ดังมากตอนคอมยังไม่ทำงานยิ่งเงียบ เพราะมีแค่เสียงพัดลม มีคู่มือ ภาษาไทย/อังกฤษ ใช้ง่ายมากๆ”
เครื่องดูดความชื้น ทำงานต่างกับเครื่องเพิ่มความชื้นยังไง
เครื่องเพิ่มความชื้นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการเพิ่มความชื้นในการอากาศผ่านวิธีต่าง ๆ ที่จะทำให้ให้น้ำกลายเป็นไอน้ำ หรือระเหยไปในอากาศ ซึ่งส่วนมากจะใช้ในพื้นที่ที่มีอากาศที่แห้งมากเกินไป ซึ่งส่งผลต่อการหายใจหรือผิวที่แห้ง เช่น ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ ในทางกลับกันในบางพื้น ๆ ที่มีความชื้นมากเกินไป เช่น ในคอนโดที่อากาศหรือความชื้นไม่สามารถระบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ตำแหน่งที่แสงแดดเข้าถึงน้อย อาคารเก่าที่ความชื้นสามารถซึมเข้ามาผ่านกำแพงหรือฝ้าเพดานได้ หรือ ทำกิจกรรมที่มีการเพิ่มความชื้นบ่อย ๆ เครื่องลดความชื้นก็จะมาช่วยตรงนี้ ด้วยการดูด หรือ เป่าอาการให้ผ่านแผ่นกรอง เพื่อให้ความชื้นในอากาศจับตัวและควบแน่นเป็นน้ำและเก็บในถังเก็บน้ำนั่นเอง
ความชื้นมากไปส่งผลอย่างไรกับตัวเรา
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าความชื้นสามารถส่งผลต่อทั้งสิ่งของ ที่พักอาศัย หรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น อาการบวม ปูด โป่งพอง โก่งงอ หลุด ลอกล่อน ของวัสดุไม้อย่างเฟอร์นิเจอร์หรือพื้น วัสดุกระดาษอย่างกล่องหรือวอลล์เปเปอร์ ซ้ำยังทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับสร้างความเสียหายและทำลายบรรยากาศมาก ๆ ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับด้านสุขภาพและร่างกายยิ่งเป็นปัญหาใหญ่คือ ด้วยความที่เชื้อโรค เชื้อหา ไรฝุ่นหรือสร้างก่อภูมิแพ้และโรคต่าง ๆ นั้นมักจะชอบและสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้นมากกว่า 70 - 80 % ยิ่งสำหรับเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ สัตว์เลี้ยง หรือคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจอยู่แล้วยิ่งสามารถสร้างผลกระทบทางสุขภาพในระยะสั่นและระยะยาวได้เลย เครื่องลดความชื้นจึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้
วิธีการซื้อเครื่องดูดความชื้นให้ได้ประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเพื่อให้ซื้อ-เลือกใช้เครื่องลดความชื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพคือ ขนาดของห้องที่ตัวเครื่องนั้นรองรับ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะออกแบบมาให้เหมาะหรือรองรับกับขนาดห้องแตกต่างกันคล้าย ๆ กับการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เราเคยแนะนำไปแล้วในบทความ 15 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี คุ้มค่า กรองได้สะอาด บนเว็บ ProductNation ของเรา เพราะถ้าเล็กเกินไปก็ไม่สามารถลดความชื้นในห้องได้ในความเร็วหรือประสิทธิภาพที่ดีพอ แต่ถ้าใหญ่เกินไปก็อาจจะเกินความต้องการหรือใหญ่เกินความจำเป็น
ต่อมาก็จะเป็นในเรื่องสเปคการลดความชื้นที่สามารถทำได้ในหนึ่งวัน ของเครื่องกำจัดความชื้น ทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งานและความชื้นที่เรามีด้วย และประเภทของการลดความชื้น เช่น การใช้ Dual Inverter Compressor ที่มีความทนทานใช้งานได้นานและประสิทธิภาพที่สูง มาพร้อมกับรับประกัน Compressor ถึง 10 ปีเลย ขนาดของถังน้ำที่เครื่องกำจัดความชื้นให้มาใหญ่แค่ไหนเพื่อให้เราไม่ต้องนำไม่ทิ้งหรือความสะอาดบ่อยครั้งนัก ด้วยความที่มีการใช้พัดลมหรือมอเตอร์เป็นส่วนประกอบของเครื่องไล่ความชื้น เรื่องความดังของเสียงในการทำงานก็สำคัญไม่น้อยสำหรับหลายคนซึ่งบางคนอาจจะใช้งานเครื่องไล่ความชื้นเวลานอนนั้นเอง
ที่เหลือก็จะเป็นดีไซน์หรือวัสดุที่อาจจะเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ ๆ เราจะนำไปใช้งาน ความง่ายในการใช้งานหรือการทำความสะอาด และ ความสามารถเสริมอื่น ๆ ที่จะให้มาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน หรือเพิ่มความสามารถในการใช้งานให้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้ หรือ ท่อสำหรับต่อเพื่อปรับให้สามารถลดความชื้นเฉพาะจุดหรือสิ่งของต่าง ๆ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า หรือข้าวของเครื่องใช้
บทส่งท้าย
สรุปโดยรวมแล้ว เครื่องลดความชื้นนั้นก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถลดความชื้น ลดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์อย่างกลิ่นอับจากเชื้อรา ไร ลดโอกาสของการอาการบวม ปูด โป่ง โกงงอ หลุด ลอก ล่อนภายในบ้านได้และที่สำคัญ ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้และลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เชื้อรา หรือไรฝุ่นต่าง ๆ ภายในบ้านที่ชอบความชื้นได้ด้วย ทั้งนี้เครื่องลดความชื้นนั้นก็มีตัวเลือกอยู่หลากหลาย ทั้งขนาด ดีไซน์ ความสามารถ และฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ให้มา ถึงแม้เครื่องลดความชื้นอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมนักและก็มีตัวเลือกเครื่องลดความชื้นอีกหลากหลายที่เราอยากให้ทุกคนได้ลอง