ความนุ่มและน้ำหนักเบาที่มาบรรจบกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับรองเท้าวิ่ง Hoka One One รองเท้าที่นักวิ่งหลายคนต้องมี! พร้อมแนะนำ 10 รองเท้าวิ่ง Hoka รุ่นไหนดี เป็นตัวเลือกสำหรับนักวิ่งที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งคู่ใจสักคู่ แบรนด์รองเท้าวิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยด้วยดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างพื้นรองเท้าที่มีความหนาเป็นพิเศษ รองรับแรงกระแทกได้สูงสุด แต่น้ำหนักเบาเหลือเชื่อ บวกกับรูปแบบพื้นโค้ง Meta-Rocker ที่ช่วยให้วิ่งได้อย่างนุ่มนวล ลื่นไหล วิ่งสนุก จะมีรุ่นไหนที่เข้าตาคุณบ้าง ไปดูกันเลย!
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 รองเท้าวิ่ง Hoka รุ่นไหนดี นุ่ม เด้ง น้ำหนักเบาแบบสุด ๆ ใส่แล้ววิ่งสบาย ปี 2024
เริ่มกันที่รองเท้าวิ่ง hoka mach 4 รุ่นยอดนิยมที่หลายคนลองแล้วบอกว่าเบามากเหมือนไม่ได้ใส่
ดีไซน์ออกแบบมาสำหรับการวิ่งระยะไกลโดยเฉพาะ นุ่มเด้ง ดีดส่งพลังได้มากขึ้น ตัวอัปเปอร์ผ้าตาข่ายน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี กระชับรูปเท้า มาพร้อมแถบส้นเท้าดีไซน์ใหม่ช่วยป้องกันการเสียดสีของเอ็นร้อยหวาย พื้นรองเท้าชั้นกลางโฟม PROFLY™ ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อสัมผัสพื้นและส่งแรงคืนกลับเมื่อออกตัวไปข้างหน้า อีกทั้งพื้นรองเท้าทรงโค้ง Meta-Rocker แบบ Early-Stage ที่ให้ทั้งความเบา นุ่มสบายเท้า แถมช่วยให้วิ่งได้รวดเร็วขึ้น ใครชอบรองเท้าที่เบามาก ๆ เบากว่ารองเท้าทั่วไป จัดเลย
รีวิว: ได้ mach 4 มา เบามากเหมือนไม่ได้ใส่ ส่งตัวเวลาวิ่งดี วิ่งเร็วขึ้น
แนะนำรุ่น Mach อีกรุ่น รองเท้าวิ่ง hoka mach 5 รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้มีการปรับดีไซน์ใหม่โดยใช้หน้าผ้า Creel jacquard ทั้งชิ้น ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความโปร่ง ระบายอากาศได้ดี และยังมีความแข็งแรงที่ช่วยล็อคกระชับเท้า รวมถึงตัวโฟมปรับให้มีน้ำหนักเบากว่า MACH 4 ด้วยการนำโฟม PROFLY+ ที่มีความนุ่มเด้งเข้ามาใช้ ผสานกับ Rubberized EVA ที่เป็นทั้งพื้นชั้นกลางและพื้นชั้นนอก เพิ่มการซัพพอร์ต รองรับแรงกระแทก รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำความเร็วจึงมีดีไซน์ที่ดูเพรียวกว่ารุ่นอื่น เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบความคล่องตัวไม่เทอะทะ
รีวิว: รองรับแรงกระแทกที่ดีในระดับนึง แต่ก็ไม่ยังเท่ากับสายซัพพอร์ต ดีไซน์สวยงาม ดูไม่เทอะทะใส่ไปทำงานพอไหว
สายวิ่งเทรลต้องมี! รองเท้าวิ่งผู้ชาย HOKA Mafate Speed 4 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลน้ำหนักเบาที่ปรับดีไซน์ใหม่มาใช้ผ้าตาข่าย Jacquard แบบชั้นเดียว ที่มีความแข็งแรงยืดหยุ่น ระบายอากาศดีมาก ตัวรองเท้ามีลวดลายที่สวยงามสะดุดตา พื้นชั้นกลางใหม่จะเป็นแบบเดียวกับ Mach 5 ทำจากโฟม PROFLY+ ที่มีความนุ่ม เด้ง ตอบสนองได้ดี โฟมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำหนักเบาอยู่แล้ว จึงทำให้รองเท้าวิ่งเทรลคู่นี้มีน้ำหนักเบามาก พร้อมเสริมการปกป้องบริเวณนิ้วเท้าด้วยส่วน Toe Cap ช่วยป้องกันเวลาเผลอไปเตะเศษหินกิ่งไม้ต่าง ๆ
รีวิว: ดีงาม พื้นหนา พื้นไม่ยวบจนเกินไป รองรับแรงกระแทก ยึดเกาะกับพื้นผิวต่าง ๆ เวลาวิ่งเทรลได้ดีเลย
รองเท้าวิ่ง Hoka Arahi 6 รุ่นนี้ต่างจากรุ่นอื่น ๆ ของ HOKA ในแง่ของดีไซน์ที่ออกแบบมาให้รองรับรูปเท้าแบบพิเศษ โดยเฉพาะรูปเท้าแบนและเท้าบิดเข้าด้านใน และปรับอัปเปอร์ใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิมอีกด้วย พื้นรองเท้าออกแบบพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hoka มีความหนานุ่มกว่าแบรนด์อื่น แถมยังป้องกันแผลพุพองที่เป็นปัญหากวนใจนักวิ่ง ดีไซน์เรียบแต่ดูดี สวมใส่ได้ทุกโอกาส เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการรองเท้าที่ใส่ได้ทั้งวิ่ง ออกกำลังกาย ใส่ในชีวิตประจำวัน
รีวิว: ความรู้สึกแรกที่ได้ลองใส่บอกได้เลยว่ามีความนุ่มและสบายเท้ามาก ใส่แล้วไม่เจ็บฝ่าเท้า กระชับแต่มีพื้นที่เหลือให้นิ้วได้ขยับขยาย ไม่หนัก แต่ระยะยาวต้องดูกันต่อไป
รองเท้าวิ่ง HOKA Speedgoat 5 รองเท้าวิ่งเทรลยอดนิยมที่สุดของแบรนด์ Hoka รุ่นนี้มีการใส่พื้น Vibram® MegagGrip กับดอกยาง Traction Lug ช่วยในเรื่องการยึดเกาะที่ดีขึ้น พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว น้ำหนักเบากว่าเดิมด้วยชุดพื้นโฟมที่เบากว่า แถมยังเด้งกว่าเดิม รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม รูปทรงรองเท้าออกแบบได้กระชับและพอดีกับสรีระเท้า พร้อมอัปเปอร์แบบใหม่ Double Layer Jacquard Mesh ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับนักวิ่งเทรลที่ต้องการรองเท้าวิ่งเทรลประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านการยึดเกาะและการซัพพอร์ต
รีวิว: พื้นแน่นนุ่มไม่ยวบ แต่ส่วนหุ้มบริเวณรอบส้นเท้าจะตื้นไปนิด หวังว่าคงไม่หลุดง่ายตอนใช้จริง 55 แต่เอามาเดิน trek สลับรองเท้าคู่หลัก ไม่น่ามีปัญหา
สายทำความเร็วแนะนำเลือก รองเท้าวิ่ง HOKA Rocket X รุ่นนี้มาใช้รับรองวิ่งได้สนุกมากแน่ค่ะ เป็นอีกหนึ่งรองเท้าวิ่งที่ขายดีตัวท็อปของแบรนด์ HOKA ได้รับฉายาว่าจรวดทางเรียบ พุ่งดี ดีดแรงได้ใจ จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่นวัตกรรมที่ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา รองรับแรงกระแทกได้ดีให้ความรู้สึกที่นุ่มกว่า เด้งกว่า วิ่งเร็วลื่นไหล วิ่งสนุก มาพร้อมแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์หนา 1 มม. ผสานพื้นโฟม EVA ใหม่ทำให้มีน้ำหนักเบา นุ่มสบาย และเด้งกว่าเดิม พื้นทรงโค้ง Meta-Rocker ใหม่ช่วยให้วิ่งเป็นธรรมชาติมากขึ้น อัปเปอร์ผ้าตาข่าย Open mesh ยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับใส่ทำความเร็ว ใส่ซ้อม และใส่แข่งทุกระยะ
รีวิว: ใส่ RocketX บอกเลยว่านุ่มเด้ง แต่ไม่ดีด คือวิ่งได้ทุกระยะจริงๆ วิ่งสบายขา ไม่บาดเจ็บด้วย คือ ดีต่อสุขภาพมากๆ
รองเท้าวิ่งผู้หญิง HOKA Clifton 8 Wide มีความโดดเด่นในเรื่องความนุ่มและเบาเป็นพิเศษด้วยน้ำหนักที่เบากว่าเดิมถึง 15% ในส่วนของเรื่องการระบายอากาศ รุ่นนี้ระบายอากาศได้ดีเยี่ยมด้วยอัปเปอร์ผ้าตาข่าย พร้อมลิ้นรองเท้าบุนวมแบบใหม่ที่หนาและนุ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ หน้าเท้ากว้าง สวมใส่สบาย รวมทั้งแถบดึงส้นเท้านิ่มที่ขยายให้ใหญ่ขึ้น ช่วยให้สวมใส่ง่าย และรองรับแรงกระแทกบริเวณส้นเท้า มอบความนุ่มสบายที่เป็นเอกลักษณ์ของ HOKA ตลอดการสวมใส่
รีวิว: สีสวยมาก ลองใส่แล้วเบานุ่ม สั่งรุ่นหน้ากว้างมาใส่แล้วไม่บีบเท้า ต้องลองใส่วิ่งก่อนว่าจะเป็นยังไง
อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำสำหรับสายทำความเร็ว รองเท้าวิ่ง Hoka Tecton X จุดขายของรุ่นนี้อยู่ที่มีนวัตกรรมใหม่ใส่เทคโนโลยีแผ่นคาร์บอนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งบนเส้นทางเทรล ทำงานควบคู่ไปกับโฟม 2 ชนิดที่มีความนุ่มและการตอบสนองที่ดี เพื่อรองรับการทำงานของฝ่าเท้า พร้อม พื้นรองเท้าชั้นนอก Vibram® Megagrip แบบ Litebase ได้รับการออกแบบเพื่อให้ยึดเกาะถนนได้สูงสุด พื้นโฟมแบบ Ultra-soft เพิ่มความนุ่มพิเศษให้กับฝ่าเท้า และอัปเปอร์ผ้า Jacquard engineered mesh ชั้นเดียว เพิ่มการโอบกระชับรูปเท้า มอบความสบายที่มากขึ้น ระบายอากาศได้ดีขึ้น
รีวิว: ดีไซน์เรียบๆ ไม่เยอะชอบเลย เบา นุ่มกว่าตัว Carbon x ดีด เด้ง ลงน้ำแล้วไม่อมน้ำ ไม่หนัก
รองเท้าวิ่ง hoka carbon x รุ่นนี้มีการใส่แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ถูกวางให้ตํ่ากว่ารุ่นที่ผ่านมา ช่วยให้วิ่งลื่นไหลอย่างรวดเร็วโดยไม่สูญเสียความนุ่มสบาย อัปเปอร์ที่ทำจากผ้าถักประสิทธิภาพระดับพรีเมียมเพื่อความกระชับพอดีกับสรีระเท้ายิ่งขึ้น โครงสร้างรองเท้าที่มีเทคโนโลยี Meta-Rocker ที่ได้รับออกแบบมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนไปข้างหน้าเหมือนล้อรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง ยังมีข้อดีที่ตามมาคือ พื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากยาง EVA น้ำหนักเบา ตอบสนองและรองรับแรงกระแทกได้ดี รวมถึงช่วยยึดเกาะพื้นผิวได้อย่างมั่นคง สามารถวิ่งได้อย่างมั่นใจในทุก ๆ ก้าว ใครที่หารองเท้าสำหรับวิ่งไกล ๆ ไปเรื่อย ๆ ไหล ๆ carbon x เป็นตัวที่ตอบโจทย์
รีวิว: วิ่งสนุกดีค่ะ รีวิวสั้นๆ นุ่ม แน่น ไหล หน้าผ้าสบายค่ะ
ปิดท้ายด้วยรองเท้า Hoka Bondi 8 รองเท้าวิ่ง Maximum Cushioned ที่รองรับแรงกระแทกได้มากที่สุดของแบรนด์ HOKA เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการรองรับที่สูง มากับโฟมที่นุ่มกว่า เบากว่ารุ่นก่อนหน้า และรูปทรงส้นรองเท้า Extension Heel เพื่อเพิ่มความมั่นคงของการลงน้ำหนักเท้า พร้อมการออกแบบร่องโฟมพื้นชั้นกลางให้มีการรองรับที่ดีขึ้น แผ่นกันกระแทกด้านหลังกันกระแทก และมอบสมดุลตั้งแต่ส้นเท้าไปจนถึงปลายเท้า เป็นรองเท้าที่ใช้งานได้หลากหลาย จะสวมใส่วิ่ง ใส่เดินได้ทุกวัน พื้นรองเท้าไม่โคลง ลงเท้าได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งให้เร็วยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
รีวิว: ซื้อมาใช้แล้วค่ะ ใช้ดี ซัพพอร์ตดีมาก หน้าผ้าตัว 8 นุ่มสบายหลังเท้ามาก สีของผู้หญิงก็สวย
ประวัติรองเท้า Hoka
แบรนด์ Hoka One One (โฮก้า โอเน่ โอเน่) ตั้งชื่อตามภาษาเมารีซึ่งแปลว่า 'fly over the earth' แบรนด์ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมกับนิยาม “TIME TO FLY” และสัญลักษณ์รูปนกในโลโก้
Hoka One One (โฮก้า โอเน่ โอเน่) ก่อตั้งขึ้นในฝรั่งเศสในปี 2552 โดย Nicolas Mermoud และ Jean-Luc Diard ซึ่งเคยร่วมงานกับแบรนด์ Salomon มาก่อน ทั้งคู่ต้องการออกแบบรองเท้าที่ช่วยให้วิ่งลงเขาได้เร็วขึ้น นำไปสู่การคิดค้นรองเท้าวิ่ง Hoka One One ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พื้นรองเท้าชั้นนอกขนาดใหญ่ ช่วยลดแรงกระแทกได้มากกว่ารองเท้าวิ่งอื่น ๆ ในตลาด
การรองรับแรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นและการทรงตัวที่เยี่ยมยอดทำให้ Hoka One One ได้รับการยอมรับจากนักวิ่งอัลตรามาราธอน และกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วสำหรับนักวิ่งทุกประเภท
โดยรุ่นออริจินัลมีการรองรับแรงกระแทกได้สูงสุด ปัจจุบันได้พัฒนารองเท้าให้มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้นโดยยังคงการรองรับแรงกระแทกอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้
รองเท้าวิ่ง Hoka ดีอย่างไร
รองเท้าวิ่ง Hoka One One ถือเป็นผู้นำเทรนด์ของรองเท้าวิ่งในยุคปัจจุบัน โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ที่รูปทรงพื้นรองเท้าชั้นกลางที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีเทคโนโลยีรองรับแรงกระแทกสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุด พื้นรองเท้า Oversize cushioning นี่เป็นจุดเด่นเลย หนา นุ่ม เด้ง แถมน้ำหนักเบา เน้นการซัพพอร์ตแรงกระแทกได้มากที่สุด เป็นรองเท้าที่มอบทั้งความนุ่ม ความเด้งในการวิ่ง เรียกได้ว่านุ่มจนแทบไม่รู้สึกเลยเวลาเหยียบหินแหลม ๆ วิ่งได้ไหลลื่น ตอบสนองได้ดี ใส่สบายไม่ว่าจะวิ่งช้า วิ่งเร็ว อีกทั้งยังผสมผสานคุณสมบัติเรื่องความมั่นคง (Stability) ทำให้วิ่งได้อย่างมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ให้เหมาะกับตัวเอง
- เลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ให้เหมาะกับประเภทของการวิ่ง
ก่อนอื่นต้องดูว่าเราจะซื้อไปใส่วิ่งประเภทไหน วิ่งระยะไกล วิ่งออกกำลังกาย วิ่งซ้อม หรือวิ่งเทรล และพื้นผิวที่เรากำลังไปวิ่งเป็นแบบไหน หากการวิ่งส่วนใหญ่อยู่บนพื้นผิวเรียบอย่างพวกพื้นถนน เลือกพวกรุ่นสำหรับทางเรียบ หรือ Road running shoes เช่น รุ่น Bondi 7 ที่เป็นรองเท้าสำหรับพื้นถนนด้วยการลดแรงกระแทกที่มากกว่ารองเท้าวิ่งเทรลสำหรับวิ่งบนพื้นขรุขระ อย่างรุ่น Speedgoat ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือรองเท้าสำหรับลงแข่งวิ่งที่เน้นน้ำหนักเบาและเร็วอย่างตระกูล Mach ชอบวิ่งระยะไกลอาจจะเลือกรองเท้ารุ่นที่เน้นการซัพพอร์ต ลดการกระแทก ลดการบาดเจ็บ
- เลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ที่พอดีกับเท้า
ความกว้างและความยาวของรองเท้าวิ่งต้องพอดี ยืดหยุ่นรับกับรูปทรงเท้า ไม่คับจนเกินไป สามารถขยับเท้าได้บ้าง ไม่อย่างนั้นเท้าจะเสียดสีกับพื้นรองเท้าจนทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ กระชับส้นเท้าพอดี ไม่หลวมเกินไป ใส่แล้วส้นไม่หลุด ควรไปลองสวมดูก่อน หากรู้สึกเจ็บให้เปลี่ยนทันที เพราะถ้าใส่วิ่งจะยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ควรเลือกรองเท้าวิ่ง Hoka รุ่นที่ออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะฝ่าเท้า (Foot Arch) เช่น ARAHI 4 เป็นรุ่นที่ออกมาเพื่อคนเท้าแบนโดยเฉพาะ
- เลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ที่ใช้วัสดุทนทาน ระบายอากาศได้ดี
เลือกรุ่นที่ใช้วัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เพราะถ้าเกิดการอับชื้น จะทำให้เท้าเกิดการเสียดสีและได้รับบาดเจ็บในขณะวิ่งได้ นอกจากนี้ควรเลือกรุ่นที่ผลิตจากวัสดุทนทาน ใช้งานได้นาน
- เลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ดีไซน์เรียบสวย แมทช์ง่าย
เลือกรองเท้าวิ่ง Hoka รุ่นที่สวยมีสไตล์ เน้นทรงมินิมอล หยิบมาแมตช์ได้กับทุกลุคทุกวัน ตอบโจทย์การใช้งาน ใส่วิ่ง ใส่ออกกำลังกาย เข้ายิม ไปทำงาน ใส่ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อความคุ้มค่า
บทส่งท้าย
รองเท้าวิ่ง Hoka หลากหลายรุ่น ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการวิ่งแต่ละประเภท ซึ่งจะช่วยทำให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บ วิ่งได้เร็ว และสนุกมากยิ่งขึ้น แถมยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรองเท้าบ่อย ๆ ให้สิ้นเปลือง เพราะแค่คู่เดียวก็สามารถใช้งานได้นานเป็นปี ๆ หวังว่าบทความ “10 รองเท้าวิ่ง Hoka รุ่นไหนดี” นี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรองเท้าวิ่ง Hoka ได้ง่ายขึ้น ขอให้สนุกกับการวิ่งนะคะ