หนึ่งในตัวตึงแบรนด์หูฟังที่กำลังเป็นกระแส ฮิตติดลมบน เป็นที่พูดถึงในช่วงนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังเสียงดีสักตัวจะต้องมีได้ยินแบรนด์หูฟัง สเปคอัดแน่น เสียงดีเกินราคา อย่าง หูฟัง edifier แน่นอนแบรนด์ที่มากับจุดเด่นที่ดีทั้งเรื่องเสียงและราคา เริ่มจากหูฟัง edifier Neobuds Series ตัวครบความสามารถรอบด้าน ในช่วงที่หูฟังแบบ True wireless กำลังเป็นที่นิยม และต่อมากับรุ่น Edifier W820NB / W820NB Plus หูฟังทรงครอบหูที่กำลังเป็นกระแสที่ให้คุณภาพมาเกินราคาสุด ๆ ชนตัวที่แพงกว่าได้อย่างน่าประหลาดใจ
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 หูฟัง EDIFIER รุ่นยอดฮิต เสียงดี ราคาโดน 2024
จะเป็นตัวไหนไปไม่ได้นอกจากหูฟัง Edifier W820NB Plus หูฟังไร้สาย FULL-SIZE ทรงครอบหูที่เป็นกระแส และเป็นที่พูดถึงมากที่สุดตัวหนึ่งในช่วงนี้ด้วยราคาที่คุ้มค่า เสียงที่ดีเดินราคาพร้อมมาตราฐานและเทคโนโลยีเสียงหลายหลายทั้ง LDAC, Hi-res Audio และ Hi-res Audio Wireless สำหรับระบบตัดเสียงรบกวน ACTIVE NOISE CANCELLING ที่ให้มาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้านดีไซน์ก็สวยหรูหราเกินราคาเช่นกัน และยังมี Game Mode ลดเสียงดีเลย์ตอนเล่นเกม มีแอปพลิเคชัน Edifier Connect ให้ใช้ร่วมกับหูฟัง ปรับแต่งได้เยอะ ฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 กว่าชั่วโมง
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : FULL-SIZE
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 40 mm
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ACTIVE NOISE CANCELLING (-43dB)
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2 / Type C (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 2 ตัว
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 49 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“วัสดุดีมาก เรียบเนียน สวยตามภาพโฆษณา สามารถทั้งปิด/เปิดเพื่อตัดเสียงภายนอกขณะใส่ได้ดีมาก แบตอึดตามที่ว่าจริงๆ คุณภาพเสียงก็ดี เบสจะไม่หนักมากนัก ฟังสบาย ใส่สบาย(ไม่หนักไม่รัดหัว) ชอบมากๆค่ะ”
ตัวครบจบ ราคาคุ้มค่า จับต้องได้ จาก Edifier ที่เป็นอันดับต้น ๆ ที่คนเลือกใช้ในช่วงที่หูฟังแบบ True wireless ได้รับความนิยม โดย Edifier Neobuds Pro 2 จะโดดเด่นด้วยไมค์ที่ให้มามากถึง 8 ตัวเพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวน ACTIVE NOISE CANCELLING และใช้ในการสนทนา นอกจากนั้นยังมาพร้อม เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่เมื่อถอดเพลงหรือวิดีโอจะหยุดเล่นทันที ระบบ Spatial Audio เทคโนโลยีเสียงแบบติดตามศีรษะ ล้ำสุด ๆ สำหรับด้านเสียงก็แน่นอนว่าสุดในรุ่นไม่เป็นรองใครในระดับ Hi-res Audio Wireless, LDAC/LHDC ไม่เพียงเท่านั้นยังให้การเชื่อมต่อแบบ Google Fast Pair มาด้วย ช่วยให้การเชื่อมต่อสะดวกรวดเร็วกว่าเคย สวมใสก็สบายด้วยจุกหูฟังที่ให้มาถึง 7 ขนาดเลือกให้พอดีได้ไม่ยาก
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : True wireless In-ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : Knowles Balanced Armature Driver + 10mm Driver
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ACTIVE NOISE CANCELLING (-50dB)
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 (รองรับ Edifier Connect + Google Fast Pair)
- ไมโครโฟน : 8 ตัว
- มาตราฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP54
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 22 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“เห็นหลายๆคนใช้กัน เลยลองจัดมาใช้บ้างครับ ตัว ANC ทำได้เงียบแบบสุดๆไปเลย ตัวเสียงกับ sound stage ก็ทำออกมาได้ดี มี equalizer ให้ปรับเพิ่มเติมได้ แล้วก็มี LDAC Wireless อยู่ในตัวด้วย เกินความคาดหมายสำหรับราคานี้มากๆ ใครที่กำลังมองหาหูฟัง true wireless ราคาคุ้มค่าที่พอจะสู้กับของ high-end ได้ก็ขอแนะนำเลยครับ ของเขาดีจริงๆ แถมยังจัดส่งได้รวดเร็วด้วยครับ”
หูฟังบลูทูธ Edifier แบบ FULL-SIZE พร้อมโหมดตัดเสียงรอบข้าง ACTIVE NOISE CANCELLING ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้เงียบเกินราคาค่าตัว มาพร้อมการรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ เทคโนโลยีการถอดรหัสเสียง และรับต่าง ๆ ที่ล้ำเกินราคาไม่ว่าจะเป็น Bluetooth 5.3 ที่รองรับ CODEC SBC และ LDAC มาตราฐานเสียงระดับ Hi-res Audio และ Hi-res Audio Wireless มีไมค์โครโฟนให้มาถึง 4 ตัวสำหรับคุยสนทนาและตัดเสียงรบกวน Edifier WH950NB สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 55 ชั่วโมง ใส่สบายดีไซน์หรูหรา พรีเมียม รองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 2 อุปกรณ์พร้อมกันสลับใช้งานได้สะดวก มีโหมดการใช้งานที่หลากหลายได้แก่ Music Mode, Game Mode and Theatre Mode ปรับรูปแบบเสียงให้ตรงกับการใช้งาน
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : FULL-SIZE
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 40 mm
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ACTIVE NOISE CANCELLING
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 / Usb Type C (รองรับ Edifier Connect + Google Fast Pair)
- ไมโครโฟน : 4 ตัว
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 55 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังมีน้ำหนักเบา สวยงาม มีกล่องเก็บได้เรียบร้อยดี การใช้งานง่ายสามารถปรับเสียงได้ที่ตัวหัวฟังหรือแอพที่ปรับได้กลายหลายกว่า เชื่อมต่ออุปกรณ์ง่าย ใช้ได้มั้งดูหนังฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี คุ้มค่าคุ้มราคา”
หูฟัง Edifier ทรงครอบหู FULL-SIZE ที่ชูจุดเด่นความเป็นตัวสุดด้วย ไดร์เวอร์ PLANAR MAGNETIC ให้เสียงขั้นสุดในทุกย่าน คุณภาพเสียงเหนือชั้นผสานเทคโนโลยีแม่เหล็ก Audeze Fluxor™ Magnetic ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้มากกว่า และยังมีเทคโนโลยีไดอะแฟม Uniforce™ ที่ให้ค่าความผิดเพี้ยนของเสียงตํ่าสุดเพียง 0.5% เทคโนโลยี Fazor™ Phase Management ช่วยให้เสียงปราศจากคลื่นรบกวน พร้อมรองรับ aptX, aptX HD, aptX Adaptive และ Qualcom Snapdragon Sound การเข้ารหัสเสียง Qualcomm® aptX™ Voice สนทนาสายได้อย่างคมชัด
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : FULL-SIZE
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 89 x 70 mm PLANAR MAGNETIC Driver
- ระบบตัดเสียงรบกวน : -
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2 / USB Type C (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 4 ตัว
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“สียงดีมากๆ ครบทุกชิ้นดนตรี บาลานซ์ได้ดี สายฟังเพลงล้วน เเนะนำตัวนี้ข้อเสียคือไม่มีตัดเสียง เน้นฟังที่เงียบหรือไม่ดังมาก”
มาดูกันที่หูฟังแบบ True Wireless ทรง Earbuds กันบ้างกับ Edifier W320TN หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC มาให้ ใครที่เน้นใส่สบายแต่ก็อยากตัดเสียงรบกวนด้วยก็ต้องรุ่นนี้เลย ไม่เพียงเท่านั้นในเรื่องไมค์ของรุ่นนี้ก็ไม่แพ้ใครด้วย มีไมค์ถึง 6 ตัวทำงานร่วมกันช่วยให้การคุยสนทนานั้นชัดกว่าที่เคยทั้ง indoor และ outdoor และยังมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่เมื่อถอดเพลงหรือวิดีโอจะหยุดอัตโนมัติ และรอบรับการเชื่อมต่อถึง 2 อุปกรณ์พร้อมกันด้วย เรื่องเสียงแน่นอนว่าต้องดีด้วย LDAC สตรีมมิ่งเพลงความละเอียดสูงแบบไร้สายได้ และมี Game Mode เล่นเกมแทบไม่ดีเลย์
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : True Wireless Earbuds
- ขนาดของไดร์เวอร์ : Knowles Balanced Armature Driver + 10mm Driver
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ACTIVE NOISE CANCELLING
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 (รองรับ Edifier Connect + Google Fast Pair)
- ไมโครโฟน : 6 ตัว
- มาตราฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP54
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 27 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“เท่าที่ลองใช้ฟังเพลงเสียงดีครบมาก ตัดเสียงได้ดี ลองฟังตอนขับมอไซ ตัดเสียงได้เงียบมากไม่ได้ยินเสียงรถเลย ไมค์ก็ถือว่าใช้ได้ดี คุยzoom ได้ยินชัดเจน ถือว่าคุ้มค่ากับที่ซื้อมา รักเลย”
มาดูกันที่ตัวเลือกราคาคุ้มค่ากันบ้างโดย Edifier WH500 เป็นหูฟัง Edifier ที่มาพร้อมความสามารถพื้นฐานแบบครบ ๆ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้เสียงคุณภาพดีมาด้วยควบคู่กับระบบ Game Mode สำหรับคนเล่นเกม Edifier WH500 รองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 2 อุปกรณ์พร้อมกัน แบตเตอรี่ที่อึดเพียงพอที่จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง ด้านไมโครโฟนที่ให้มาก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้คุยโทรศํพท์ สนทนาในเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นด้านดีไซน์ตัวเครื่องก็มาในขนาดที่กะทัดรัด พับเก็บได้ พกพาได้สะดวกสุด ๆ
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : On-Ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 30 mm
- ระบบตัดเสียงรบกวน : -
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2 / USB Type C (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 2 ตัว
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“น้ำหนักเบา ไม่อึดอัดเวลาสวมใส่ เก็บเสียง และกันเสียงภาพนอกได้ระดับนึง ระบบเสียงและโหมดเพลงและเกม เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมและฟังเพลง มีแอพให้ปรับระดับเสียงต่างๆ เบส ความดัง เบา ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก”
หากมองหาหูฟังแบบไร้สาย True Wireless ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปแต่ยังมาพร้อมคุณภาพเสียงแบบจัดเต็มเหมือนรุ่นราคาสูง ๆ ก็ต้องรุ่นนี้จากหูฟัง Edifier เลย ในรุ่น Edifier TWS NB2 PRO เป็นแบบ in-Ear ที่ให้คุณภาพเสียงเกินราคา และยังได้ดีไซน์ที่โดดเด่นสไตล์เดียวกับซีรีส์ Top ของแบรนด์ ด้านไมโครโฟนที่ให้มาก็มีมาให้ถึง 4 ตัวสำหรับการคุยสนทนาและตัดเสียงรบกวนขณะใช้งาน และยังมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะหยุดและเล่นเพลงขณะถอดหรือสวมใส่ให้อัตโนมัติ
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : True wireless In-ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 10mm Dynamic Driver
- ระบบตัดเสียงรบกวน : Hybrid active noise canceling technology
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0 (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 4 ตัว
- มาตราฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP54
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 32 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“หูฟังเสียงดี ใส่สบาย ระบบ anc ใช้ได้ดีมาก เงียบทันที”
หูฟัง Edifier ไซต์เล็กแบบ in-ear ที่พัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Edifier X3 สำหรับรุ่นนี้จะเน้นการใช้งานทั่วไป มีไมค์ที่ดี เสียงดี แบตอึด ใช้งานได้สูงสุดถึง 24 ชั่วโมงโดยตัวหูฟังเองจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จในกล่องเก็บ 1 ครั้ง ด้านไมค์ให้มาข้างละ 1 ตัว แต่ก็มาพร้อมระบบ ENC และ Algorithm ที่ใช้การตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา Edifier X3 Lite มี Game Mode ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่เพียงเท่านั้นในราคานี้ยังมาพร้อมการรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันช่วยให้สามารถปรับตั้งค่าเสียงได้ตามต้องการ
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : True wireless In-Ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 6mm Dynamic Drivers
- ระบบตัดเสียงรบกวน : -
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 2 ตัว พร้อม ENC และ Algorithm
- มาตราฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP55
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 24 ชั่วโมง / Usb Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“สีสวย เสียงดี เชื่อมต่อง่าย มี App ให้ปรับแต่งเสียงเองได้อีก แถมจุกยางให้ด้วย”
อัพเกรดขึ้นมาเล็กน้อย ตัวเต็นเรื่องเบสหนักในราคากลาง ๆ ก็ต้องรุ่นนี้เลย Edifier W240TN หูฟังบลูทูธที่ชูจุดเด่นด้วย Coxial Dual-Dynamic Driver ได้แก่ ดอกวูฟเฟอร์ 10 mm และ ดอกทวีตเตอร์ 6 mm ที่ทำงานควรคู่กันช่วยเพิ่มความกว้างของย่านเสียงและให้เบสมากกว่าที่เคย และยังมาพร้อมระบบตีดเสียงรบกวนที่ไม่เป็นรองใครในย่านราคานี้ สำหรับสายเกมก็แน่นอนว่าต้องมี Game Mode ที่ช่วยลดดีเลย์ขณะเล่นเกมเช่นเคย ด้านแบตเตอรี่ที่ให้มาก็สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 25 ชั่วโมง
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : True wireless In-Ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : Coxial Dual-Dynamic Driver 10 mm + 6 mm
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ACTIVE NOISE CANCELLING (-38dB)
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 (รองรับ Edifier Connect)
- ไมโครโฟน : 2 ตัว พร้อม ENC และ Algorithm
- มาตราฐานการกันน้ำกันฝุ่น : IP55
- แบตเตอรี่และการชาร์จ : ใช้งานได้สูงสุด 25 ชั่วโมง / USB Type C
รีวิวจากผู้ใช้
“เสียงดี แหลมได้ เบสดี กระชับหูไม่หลุดง่าย มีจุกยางมาให้เปลี่ยนตามขนาดรูหูด้วย”
มาถึงตัวเลือกสำหรับสายเกม ที่ต้องการหูฟัง Edifier แบบสายต้องซีรีย์นี้เลย HECATE ซีรีย์หูฟังแบบมีสายที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะมีหลากหลายรูปแบบหลายหลายสไตล์ให้แต่ละคนเลือกใช้งานทั้ง แบบ Full-Size, In-ear, USB Type-C แต่สำหรับรุ่นนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นแบบ In-ear ซึ่งใช้การเชื่อมต่อแบบ 3.5 มม. โดยตัวหูฟังให้ไดรเวอร์ขนาด 10 มม. ขนาดใหญ่สำหรับหูฟังในรูปแบบนี้ ด้านเสียงก็ให้มาในมาตราฐานระดับ Hi-res Audio
สเปค
- ประเภทของหูฟัง : แบบสาย In-Ear
- ขนาดของไดร์เวอร์ : 10 mm
- การเชื่อมต่อ : 3.5 มม.
- ไมโครโฟน : 1 ตัว
รีวิวจากผู้ใช้
“เมื่อต่อผ่านซาวด์ การ์ด จะได้มิติเสียงที่ชัดเจนมาก ดีกว่ายี่ห้อที่ดังๆ ... มีแถบเลื่อน เพิ่มลดระดับเสียงได้”
ประวัติแบรนด์ EDIFIER แล้วทำไมหูฟังเค้าถึงน่าสนใจ?
แบรนด์ EDIFIER เริ่มต้นมาจากการเป็นแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมีผลิตภัณฑ์เป็นลำโพง ทั้งผลิตจำหน่ายเองและด้วยความที่ ลำโพงและเครื่องเสียงจาก Edifier นั้นมีคุณภาพที่สูงจึงได้รับการไว้วางใจและมีการผลิตให้แบรนด์อื่น ๆ ด้วย และความต้องการที่เปลี่ยนไปจากลำโพงและชุดเครื่องเสียงที่มีการใช้งานตามบ้านก็เปลี่ยนเป็นชุดหูฟังไร้สายที่ทุกคนสามารถดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมคุณภาพดี ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา หากให้พูดถึงจุดเด่นที่หลายคนนิยมชมชอบแบรนด์หูฟัง EDIFIER ก็น่าจะมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- ราคาคุ้มค่า สำหรับหลายคนที่เป็นสายประหยัดแต่อยากหาหูฟังคุณภาพดี และราคาก็ไปด้วยกันได้ แบรนด์ EDIFIER ก็เข้ามาเป็นตัวเลือกที่ดีอีกแบรนด์ได้เลย
- คุณภาพเสียงทำออกมาได้ดี แม้จะไม่ได้ดีที่สุดในตลาด แต่การทำเสียงก็ออกมาดีเลย ออกมาสมดุล หลายรีวิวก็บอกว่าเสียงกับราคาที่จ่ายไปก็คือมีแต่คุ้มกับคุ้ม แต่ก็ต้องบอกไว้ว่าเรื่องเสียงนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เพราะฉะนั้นหากจะเลือกซื้อหูฟัง EDIFIER ก็ควรเลือกรุ่นที่คิดว่าตรงใจตัวเองมากที่สุดจะเหมาะสมกว่า
- ระบบตัดเสียงรบกวน ในหลายรุ่นของหูฟัง EDIFIER มีโหมดตัดเสียงรบกวน ใครที่ชอบฟังเสียงเพลงหรือหนังแบบได้รับการรบกวนจากภายนอกให้น้อยที่สุด หลายรุ่นของเขาก็มีโหมดนี้ให้ แต่ถ้าใครชอบบิน รุ่นที่เป็นหูฟังครอบหูก็น่าลองสุด ๆ
รุ่นขายดีของหูฟัง EDIFIER พร้อมจุดเด่นแบบรวบตึง
อย่างรู้กันว่าแต่ละแบรนด์นั้นก็จะมีรุ่นยอดฮิต รุ่นขายดี ที่เมื่อพูดถึงชื่อแบรนด์แล้วนะ จะต้องมีชื่อของรุ่นหรือซีรีส์ เหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของคนที่เป็นสายหูฟังแบรนด์นั้น ๆ อย่างแน่นอน และสำหรับ Edifier นั้นรุ่นที่เข้าเกณฑ์ก็ได้แก่ Edifier Neobuds Series ที่เป็นซีรีส์หูฟังแบบ Tws ที่ราคาไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป แต่มาพร้อมคุณภาพเสียงและฟังก์ชันที่เกินราคาสุด ซึ่งได้แก่รุ่น Edifier Neobuds Pro, Edifier Neobuds S, Edifier Neobuds Pro 2 นอกจากที่บอกไปแล้วก็ยังมี Edifier NB2 Pro หูฟังรุ่นเล็กราคาดี เสียงเทพไม่แพ้กัน และสำหรับหูฟังแบบครอบหู edifier ก็จะเป็น Edifier W820 NB Plus และ Edifier WH950NB เป็นหูฟัง Full Size รุ่นล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยม
วิธีเลือกซื้อหูฟัง EDIFIER
เช่นเคยเหมือนกับการเลือกหูฟัง คือเลือกให้เหมาะกับการใช้งานไม่ว่าจะเป็นแบบสายหรือไร้สาย แบบ In-ear, Earbuds, Overear หรือ Fullsize (ครอบหู) รวมถึงพิจารณาลักษณะการใช้งานของเราว่าเน้นใช้งานเรื่องใดเป็นหลักจะเป็น การสนทนา การฟังเพลง ดูหนังหรือเล่นเกม ทางที่ดีถ้าได้ไปลองด้วยตัวเองก็จะช่วยให้เลือกหูฟัง edifier ที่ตรงกับความต้องการของเราได้ง่ายขึ้น ต่อมาก็เรื่องราคาที่จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดว่าหูฟัง edifier รุ่นไหนบ้างจะตรงกับความต้องการของเรา
อย่างไรก็ตามหูฟัง edifier ไม่ได้มีรุ่นที่มากขนาดนั้น อาจใช้รีวิวของนักฟังต่าง ๆ เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนได้ว่ารุ่นไหนมี character เสียงเป็นอย่างไรบ้าง ก็จะทำให้เราหาหูฟัง edifier ที่ตรงกับความชอบและการใช้งานของเราได้ดีขึ้น
บทส่งท้าย
ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้คงจะมีความสนใจในหูฟังหรือต้องการเริ่มต้นหาหูฟังดี ๆ สักตัวไปใช้งาน ถ้ามาถึงจุดนี้ก็คงจะได้ทราบว่า Edifier ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์หูฟังที่มีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่หลากหลายตัว แต่ถึงอย่างนั้นถ้าเป็นไปได้ในการเลือกซื้อหูฟังหรืออุปกรณ์ด้านเสียงก็ควรได้ทดลองใช้งานด้วยตนเองทั้งในเรื่องความชอบด้านดีไซน์ การสวมใส่และเรื่องเสียง เพื่อให้ได้หูฟังหรืออุปกรณ์ด้านเสียงในรุ่นที่ตรงกับความต้องการหรือความชอบของเราที่สุด