อยากทำงานดี ๆ เงินเดือนโดดเด่นก็ต้องมีคะแนน TOEIC ไปยื่น แต่จะเตรียมตัวยังไงล่ะเนี่ยให้ได้คะแนนดี ๆ เงินจะได้บวกเพิ่มงาม ๆ จะไปเสียค่าคอร์สก็ไม่มีเวลาไปเรียนขนาดนั้น งั้นลองติวด้วยตัวเองดีไหมคะ? เพราะปรับเวลาได้ยืดหยุ่น เหมาะกับคนที่ตารางเวลาแน่น และในบทความนี้ เราเลยอยากแนะนำ หนังสือ TOEIC มาให้ทุกคนเลือกซื้อเพื่อไปซ้อมก่อนไปสอบจริงกัน ครอบคลุมทั้งเรื่องคำศัพท์ Reading Part แล้ว Listening Part กันเลยทีเดียว มีเล่มที่ทุกคนคุ้นชื่อด้วยนะเออ
บรรณาธิการ
Table of Contents
แนะนำ 10 หนังสือเตรียมสอบ TOEIC ศัพท์เยอะ ข้อสอบแน่น เทคนิคจัดเต็ม!
หนังสือ TOEIC ของ Barron เรียกได้ว่าเป็นหนังสือตัวแม่แห่งวงการ TOEIC เพราะ Barron เป็นตำราพื้นฐานที่ออกหนังสือให้กับสถาบันการสอนภาษาอังกฤษหลายสถาบันในต่างประเทศ และยังเป็นหนังสือที่เมืองนอกนิยม มีหลากหลายหลักสูตรให้เลือกซื้อ รวมไปถึงเล่มนี้ด้วยก็เช่นกันที่เป็น หนังสือ TOEIC รวมศัพท์จำเป็น ๆ ที่มักนิยมใช้บ่อยทั้งพาร์ทฟังและอ่านเลยทีเดียว แถมตัวหนังสือยังหนา เป็นกระดาษมัน พิมพ์สีทั้งเล่ม ใครงบประมาณถึงควรซื้อเก็บด่วน ๆ การันตีว่ามีประโยชน์มากจริง ๆ จ้า
รีวิว : ดีงามค่ะ
เป็นอีกเล่มที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ ที่คนไทยที่สอบ TOEIC ด้วยกันแนะนำให้อ่าน เพราะมีพื้นฐานการปูเรื่องแกรมม่าอย่างละเอียด ต่อให้ไม่เก่งแกรมม่าแค่ไหน ไม่เข้าใจยังไง ก็สามารถที่จะอ่านและศึกษาด้วยตัวเองได้ในหนังสือ TOEIC เล่มนี้เล่มเดียวได้กระจ่าง แถมยังมีเทคนิคต่าง ๆ ในการใช้ภาษาอังกฤษรวมไว้ในเล่มเดียว พร้อมกับแบบฝึกหัดในแต่ละบทเรียนให้ทดลองทำดูว่าเข้าใจหรือไม่ เรียกได้ว่าเป็นหนังสือสอบ TOEIC ที่คุ้มค่าแก่การลงทุนมาก ๆ
รีวิว : ยังไม่มีรีวิว
หนังสือสอบ TOEIC Kaplan อัปเดตใหม่ล่าสุดของปี 2021-2022 เล่มนี้จึงมีจุดแข็งที่ดีสุด ๆ เลยก็คือ เราจะได้เรียนรู้เทคนิคการทำข้อสอบที่อัปเดตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบข้อสอบ คำถามที่ใช้ คลังคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ในเล่มอื่นอาจจะไม่มีเลยก็ได้ ดังนั้นเล่มนี้จึงเป็นอีกเล่มที่ควรซื้อมาดูเทียบเคียงกัน เพื่อดูว่ามีอะไรแปลกใหม่บ้าง พร้อมกับได้ฝึกทำข้อสอบแบบที่อาจจะแม่นเหมือนจับวางเลยก็ได้
รีวิว : ยังไม่มีรีวิว
เป็นหนังสือ TOEIC ที่ได้รับรองจากสถาบันภาษา Oxford จึงทำให้เป็นที่นิยมกันมากสำหรับเด็กไทย ภายในเซ็ตมีแบ่งแยกออกเป็นสองเล่ม สามารถใช้ทำได้ทั้งแบบฟังและอ่าน เรียกได้ว่าเป็นหนังสือสุดคุ้มในการลงทุนเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่าย ทั้งที่หน้าร้านหนังสือซีเอ็ดและหน้าร้านค้าออนไลน์ก็มีให้จับจอง แต่ควรระวังนิดหนึ่งในเรื่องข้อสอบยังไม่ค่อยอัปเดตเท่าไหร่ ใครอยากลองซื้อมาทำข้อสอบ + เช็กเทคนิคต่าง ๆ ก็ไม่มีปัญหา
รีวิว : หนังสือถูกจัดส่งมาในกล่องช่วยป้องกันความเสียหายได้ดี รวมทั้งมีการห่อ bubble sheet อีกชั้นหนึ่ง ตัวข้อสอบเป็น TOEIC version เก่า ถามร้านค้าไป ไม่ตอบ และในหน้าร้านก็ไม่มีรายละเอียดปีที่พิมพ์ ตัวแพ๊คมีข้อสอบให้ 2 ชุด แยกออกจากตัวหนังสือ พร้อมเฉลย ถ้าใครอยากใช้ฝึกทำโจทย์ก็โอเคระดับหนึ่ง
หนังสือ TOEIC ครูดิว เป็นอีกหนึ่งชุดติวหนังสือ TOEIC ที่ได้รับความนิยมจากเด็กวัยรุ่นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเนื้อห้าเข้าใจง่าย ครบสูตรการติว TOEIC ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการเก็งข้อสอบแบบเข็มข้น ที่เหมาะทั้งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มสอบ TOEIC ครั้งแรก หรือแม้กระทั่งคนที่เคยสอบมาแล้วก็ตาม เป็นอีกหนึ่งหนังสือ TOEIC ที่ควรไปตำเก็บไว้เลยล่ะ
รีวิว : ดีมากค่ะ แนะนำ คนที่ได้ภาษาอังกฤษแบบกลางๆ แล้วอยากอ่านสอบด้วยตัวเอง เล่มข้อสอบจะเน้นเป็นรีดดิ้งส่วนแรกค่ะ เล่มแกรมม่าดีมากค่ะ ครอบคลุมเนื้อหาแกรมม่าที่จะออกสอบ รู้ทริคในการดูข้อสอบ word fam เล่มคำศัพท์ก็ดีค่ะ คัดศัพท์จำเป็นมา มีแผ่นสีแดงช่วยให้ฝึกจำมีคำถามท้ายบท
ใครที่พื้นแน่นแล้ว เป๊ะแล้ว อยากได้การตะลุยโจทย์แบบเน้น ๆ ต้องเอาเล่มนี้ไปลองทำดู เพราะมีโจทย์ให้ทำมากกว่า 1,000 ข้อ ไม่ซ้ำแบบ พร้อมเฉลยและเทคนิคดีๆ ในการทำข้อสอบให้เข้าใจง่าย จำง่าย ประหยัดเวลาอีกด้วย ที่สำคัญหนังสือยังราคาไม่แพง เหมาะแก่การลงทุน ใครที่ตุนหนังสือติว TOEIC ของต่างชาติมาเยอะแล้ว หนังสือติวของไทยเล่มนี้ก็โอเคมาก
รีวิว : ดีมากกกกกกก อ่านเข้าใจง่ายมีเฉลยละเอียด
ใครที่ต้องการหนังสือติว TOEIC แบบเข้มข้น และตะลุยโจทย์ TOEIC ที่เหนือชั้น เหมือนอยู่ในห้องสอบจริง ต้องหนังสือติว TOEIC จาก Thinkbeyond เพราะเนื้อหาที่รวมอยู่ในเล่มนั้นค่อนข้างยากและเข้มข้นกว่าสนามจริง ทำให้เวลาลงสอบไม่รู้สึกกดดัน และทำให้รู้สึกง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เป็นหนังสือติว TOEIC ที่น่าซื้อฝึกทำข้อสอบจริงๆ เพราะมีข้อสอบเด่นๆ ในแต่ละปีรวมเอาไว้ สามารถแกะรอยตามเฉลยได้ไม่ยากเลย
รีวิว : หนังสือเล่มใหญ่มาก ห่อมาดีค่ะ ส่งเร็วมาก ไม่มีอะไรเสียหายค่ะ สภาพหนังสือสวยงาม ได้รับปั๊บก็ใช้งานทันที ไฟล์เสียงโหลดง่าย เสียงดังฟังชัด ปลื้มมากค่ะ
ใครที่ติวมาแน่นแล้ว เก็งข้อสอบมาอย่างดีแล้ว จำศัพท์มาเต็มเปี่ยมแล้ว แต่ยังอยากได้เคล็ดลับในการทำข้อสอบให้ได้ทันเวลา หรือทริคอื่น ๆ ในการจับใจความข้อสอบให้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทำข้อสอบนาน ก็ควรจะไปหาซื้อหนังสือสอบ TOEIC ของอาจารย์นเรศมาติดเอาไว้เลย เพื่อทำให้การเข้าไปนั่งทำข้อสอบในห้อง ลดความกดดัน และได้ทริคอะไรใหม่ ๆ ไปใช้ ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นง่าย ๆ
รีวิว : ได้รับห้าดาวจากผู้ซื้อ
เตรียมพร้อมสำหรับการลุยสนามจริงที่แสนโหด กับข้อสอบจริงที่เคยใช้กว่า 500 ข้อ อันแน่นในเล่มนี้เล่มเดียว พิเศษพร้อมกับเฉลยสุดละเอียดกว่าเล่มไหน ๆ ที่อธิบายความเป็นไปของโจทย์แต่ละข้อได้เหมือนมีติวเตอร์มาอธิบายเองเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่ง หนังสือ TOEIC ที่เหมาะสำหรับคนอยากทำโจทย์ หรืออยากหัดลองทำข้อสอบเหมือนอยู่ในห้องจริง เพราะมีข้อสอบแบบมัลติหลากหลาย ตั้งแต่ข้อง่ายไปจนถึงข้อยาก มาในราคาไม่แพง แบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะ
รีวิว : ราคาดีมากค่ะ และเล่มใหญ่กว่าที่คิด มีของแถมให้ด้วย ดีมากค่ะ
เหมาะสำหรับนักศึกษามากค่ะ คือตัวเองกำลังศึกษาอยู่คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ คือเหมาะมากค่ะ ได้เรียนในวิชานี้ คือเหมาะเลย ดีมากๆค่ะ
ใครที่กลัวว่าจะพลาด หรือหนังสือ TOEIC เล่มอื่นเก็งแล้วไม่ถูกใจ ก็ต้องหนังสือจากศูนย์ ETS ที่มาเอง แถมยังอัปเดตข้อสอบของปีล่าสุดด้วย ทำให้ไม่พลาดว่าแนวจะเป็นประมาณไหน หรือปรับคำศัพท์ใหม่หรือเปล่า พร้อมเทียบตารางคะแนน และเฉลยในแต่ละแนวให้อย่างละเอียดด้วย ใครที่อยากอัปคะแนน TOEIC ให้ได้มากกว่าเดิม หรือไม่อยากให้คะแนน TOEIC พลาดในการสอบครั้งแรก เล่มนี้ก็ควรซื้อมาไกด์ไลน์ไว้แต่เนิ่นๆ เลย
รีวิว : มาแก้ไขค่า ตอนนี้ผลสอบออกแล้ว สอบครั้งแรกได้ 825 คะแนน เพราะข้อสอบชุดนี้เลยย แนะนำมากค่ะ ร้านนี้มีข้อสอบครบทุกแบบที่ตามหา55555 จัดส่งมาให้ค่อนข้างเร็วค่ะ รอแค่สองสามวันก็ได้รับแล้ว ทันทำก่อนสอบพอดี ซีลมาแน่นหนาดี พร้อมชีทเฉลยแยกอีกชุด คุ้มค่าอยู่ค่ะ เลือกแบบหน้าปกขาวดำก็ประหยัดไปได้อีกหน่อยด้วย
TOEIC คืออะไร มีกี่พาร์ท
TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication ที่จะใช้สำหรับการสอบวัดระดับพื้นฐานทางภาษาอังกฤษในการทำงานทั่วไป ไม่ได้ใช้ความเฉพาะทางในสาขาอาชีพด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะเน้นที่การสื่อสาร ความเข้าใจในการฟังเป็นหลัก
โดยข้อสอบ TOEIC จะถูกแบ่งออกมาเป็น 2 ส่วน คือ Listening และ Reading จะเป็นการฟังและอ่านเพื่อเติมคำตอบให้ถูก ซึ่งพาร์ท Listening จะใช้เวลา 45 นาที และ Reading จะใช้เวลา 75 นาที และคะแนนทั้ง 2 ส่วนจะนำมารวมกันละได้คะแนนเต็มทั้งหมด 990 คะแนน โดยระดับคะแนนก็จะมีผลต่องานที่เราไปยื่น โดยผู้สมัครงานควรทำคะแนนให้ได้ในระดับที่แจ้งในรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครด้วยถึงจะเป็นผลดี หากอยากรู้ว่าแต่ละระดับคะแนนหมายถึงอะไร ดูเพิ่มเติมที่นี่
คะแนน TOEIC สามารถใช้ยื่นอะไรได้บ้าง
ปัจจุบันในการสอบ TOEIC นิยมในการใช้ยื่นสมัครงานในสนามบินทุกตำแหน่ง เช่น แอร์กราวน์, แอร์โฮสเตส และอื่น ๆ ฯลฯ รวมไปถึงบริษัทใหญ่ภายในประเทศที่เน้นการสื่อสารต่างประเทศ รวมไปถึงการสอบครู สอบข้าราชการ คะแนน TOEIC ก็มีส่วนช่วยในบางส่วนในการยื่นคะแนนด้วยเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ โดยในแต่ละที่ก็จะใช้ช่วงคะแนนที่แตกต่างกันออกไป
วิธีการเตรียมตัวสอบ TOEIC
- โหลดข้อสอบเก่ามาทบทวนในส่วนของ Reading
- ใช้ YouTube ในการเปิดข้อสอบฟังในช่วง Listening
- ตั้งเวลาในการเตรียมตัวสอบให้เหมือนอยู่ในห้องสอบจริง
- ฝึกฟังบ่อยๆ ซ้ำๆ ในพาร์ทการฟังสำหรับใครที่ฟังไม่ถนัดและจับใจความไม่ค่อยเก่ง
- เลือกซื้อหนังสือ TOEIC ติวสอบที่เหมาะกับแต่ละคน
- พยายามท่องคำศัพท์ที่เกี่ยวกับ TOEIC ให้ได้เยอะ ๆ
- ไม่เครียด และไม่ต้องกดดันตัวเองมากเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หัดทำข้อสอบไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสอบจริง
- ก่อนเข้าห้องสอบนั่งสมาธิ รวบรวมโฟกัสในการเตรียมทำพาร์ท Listening ให้มากๆ
วิธีการเลือกหนังสือ TOEIC
- เลือกให้หนังสือ TOEIC ที่มีพาร์ทสำหรับการทำข้อสอบด้วย
- ควรมีความรู้แกรมม่าขั้นพื้นฐานปูให้ภายในเล่ม
- สรุปเกร็ด-เทคนิคในการทำข้อสอบให้เข้าใจง่าย ไม่งง
- มีรวมศัพท์ในแต่ละบทให้ท่อง
- อ้างอิงจากข้อสอบจริงในการทำสรุปเป็นบทเรียน
- อัปเดตล่าสุด ไม่ใช่หนังสือเก่าที่ตีพิมพ์มานานแล้ว
วิธีการสมัครสอบ TOEIC
- เลือกศูนย์ที่เหมาะและใกล้เคียงกับการไปสอบ คือ กรุงเทพฯ หรือ เชียงใหม่
- สำรองที่นั่งก่อนสอบอย่างน้อย 1 วันก่อนวันที่จะสมัครสอบ Walk-in หรือ โทรไปจองก็ได้
- เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับการชำระค่าสมัครสอบ
- เตรียมบัตรประชาชนไปให้พร้อมเพื่อเป็นหลักฐาน
- เลือกช่วงเวลาในการสอบ เช่น ช่วงเช้าจะเริ่มตอน 09.00น. หรือช่วงบ่ายจะเริ่มในเวลา 13.00น.
บทส่งท้าย
คะแนนสอบ TOEIC แม้จะเป็นคะแนนที่สำคัญมากในการยื่นสมัครงานตามที่ต่าง ๆ และเป็นใบเบิกทางสู่อาชีพในฝัน แต่กระนั้นการสอบ TOEIC ก็ควรจะต้องเตรียมตัวในความพอดี ไม่เคร่งเครียด หักโหมจนเกินไป เพราะความเครียดและความกดดัน ก็อาจจะนำพามาให้ไม่สามารถทำข้อสอบได้ดีมากพอ ดังนั้นจึงควรที่จะอ่านแต่พอดี พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วไม่ต้องแบกความกดดันในการสอบมากจนเกินไป คิดเสียว่าถ้าคะแนนครั้งแรกยังไม่ดีพอ ก็ติวสอบให้ได้ดีกว่าในครั้งใหม่ยังไม่สายนะ โดยอาจจะหาตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจอย่าง หนังสือ TOEIC ที่เราแนะนำไปในบทความนี้