ช่วงโควิดอย่างนี้คอกาแฟทั้งหลายคงลำบากไม่ใช่น้อย เพราะการออกไปคาเฟ่แแต่ละครั้งก็เสี่ยงต่อการรับเชื้อ ครั้นจะสั่งแบบเดลิเวอรี่ให้มาส่งที่บ้าน กาแฟก็อาจรสชาติไม่ดีเหมือนกับการดื่มที่ร้าน ดังนั้น การมีเครื่องชงกาแฟติดบ้านไว้น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ และในบทความนี้ เราได้นำ 10 เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ใช้ง่าย คุณภาพดี มาฝากคุณแล้วจะซื้อติดบ้าน หรือจะใช้เป็นเครื่องสำหรับทำกาแฟขายก็ได้เช่นกัน
บรรณาธิการ
Table of Contents
10 เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ยี่ห้อไหนดี ใช้ง่าย ทำกาแฟอร่อย ปี 2024 - แนะนำ
หากจะจัดอันดับว่า เครื่องชงกาแฟ อิตาลียี่ห้อไหนดี ต้องมีชื่อแบรนด์ De'Longhi ติดมาเป็นลำดับต้น ๆ แน่นอน แบรนด์นี้มาจากประเทศอิตาลี ไว้วางใจเรื่องคุณภาพได้เลย รุ่นนี้สามารถใช้สำหรับทำกาแฟขายในคาเฟ่เล็ก ๆ เพราะมาพร้อมกำลังไฟ 1,450 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ รองรับได้ทั้งกาแฟผงและแบบเมล็ด โดยชงกาแฟพร้อมกัน 2 แก้วได้ด้วยการบดเพียงครั้งเดียว ปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟและระดับน้ำได้ ทำความร้อนด้วยเทอร์โมบล็อก ได้อุณหภูมิที่คงที่และแม่นยำ ซึ่งนี่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ De’Longhi แท็งก์น้ำมีความจุ 1.8 ลิตร และมีตัวบอกระดับน้ำ แถมยังมาพร้อมฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ตั้งเวลาปิดอัตโนมัติได้ รวมถึงระบบเตือนเมื่อกากกาแฟเต็ม
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"เครื่องทำงานดีครับ"
หากคุณมองหา เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว สำหรับใช้ในบ้านหรือตั้งไว้ในออฟฟิศเล็ก ๆ Taurino รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมาในขนาดกะทัดรัด ที่สำคัญคือเป็น เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติที่้ใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายมาก เพียงกดปุ่มสั่งการก็สามารถเลือกได้ทั้งกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ คาปูชิโน่ และอื่น ๆ ตามต้องการ โดยเครื่องนี้มีโถที่จุเมล็ดกาแฟได้ 250 กรัม สามารถทำกาแฟได้ 30 แก้วต่อวัน ตัวเครื่องเป็นสีดำเรียบหรู กำลังไฟฟ้า 1,400 วัตต์ แรงดันอยู่ที่ 19 บาร์
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ใช้งานง่าย ทำได้หลายเมนู"
ชงกาแฟแบบมืออาชีพ ด้วย เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว จาก DELONGHI ซึงเป็นเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ แข็งแรงทนทานเพราะหม้อต้มเป็นสแตนเลสสตีล ก้านชงกาแฟตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม มาพร้อมกำลังไฟ 1,100 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ จุน้ำได้ 1.1 ลิตร ใช้ได้ทั้งกับกาแฟคั่วบด (1 ช็อต 2 ช็อต และกาแฟพ็อด มีตัวควบคุมอุณหภูมิ 2 ตัวที่แยกกัน สำหรับควบคุมอุณหภูมิน้ำและควบคุมไอน้ำ นอกจากทำเอสเพรสโซ่ได้แล้วยังน่าจะถูกใจคนชอบคาปูชิโน่ เพราะมีระบบควบคุมฟองนมสองระดับ สำหรับทำฟองนมแบบหนานุ่มและนมร้อน
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แรงดันน้ำอาจไม่สะใจคอกาแฟเข้มข้น แต่ก็รับได้"
ใครที่มีงบประมาณมากหน่อยแล้วอยากได้ เครื่องชงกาแฟ อิตาลี 2 หัว คุณภาพสูง มาไว้ทำกาแฟขาย ลองเลือก Rocket Espresso Milano กันดู รับรองไม่ผิดหวัง แบรนด์นี้เป็นแบรนด์จากเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี รับประกันความคุ้มค่าเพราะเป็นเครื่องชงกาแฟที่ผลิตแบบแฮนด์เมค ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสคุณภาพดี หม้อต้มมีขนาด 13.2 ลิตร ทำจากทองแดง สามารถทำความร้อนได้รวดเร็ว มาพร้อมกำลังไฟฟ้าถึง 4,300 วัตต์ การทำงานควบคุมด้วยระบบไมโครโปรเซสเซอร์ สามารถชงเอสเพรสโซ่ได้เฉลี่ยถึง 120 แก้วต่อชั่วโมง ตัวก้านสตรีมนมกันความร้อนได้
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"กาแฟที่ได้รสชาติคงที่"
เครื่องชงกาแฟ อิตาลี delonghi รุ่นที่เรายกมาแนะนำนี้เป็น เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ หัวเดียว ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการวางไว้ใช้ที่บ้านหรือคอนโด ตัวเครื่องมีความสวยงาม ทำจากสแตนเลสเคลือบสีด้านอย่างดี ทำงานด้วยกำลังไฟ 1,350 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ ทำความร้อนด้วยเทอร์โมบล็อก ซึ่งให้ความร้อนได้อย่างรวดเร็วและคงที่ ชงกาแฟได้ทั้งแบบผง 1 ช็อต, 2 ช็อต และกาแฟพ็อต และมีหัวทำฟองนม สำหรับการทำกาแฟคาปูชิโน โดยปรับระดับของฟองนมได้
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ทำกาแฟง่าย ฟองนมละเอียดดี"
สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ที่คุ้มค่ากับราคา ลองพิจารณา เครื่องชงกาแฟ หัวเดียว อิตาลี แบรนด์ Gemilai ตัวเครื่องและอุปกรณ์ทำจากสแตนเลสและพลาสติกเนื้อหนา คุณภาพดี มีความแข็งแรง ทนทาน ทำงานด้วยแรงดันน้ำ 15 บาร์ กำลังไฟ 1,450 วัตต์ ฟังก์ชั่นการชงมาแบบจัดเต็ม ควบคุมอุณหภูมิน้ำด้วยความแม่นยำที่ 92 องศา มีระบบจ่ายน้ำร้อนแยกออกต่างหากสำหรับการทำน้ำร้อนและฟองนม โดยมีลูกบิดปรับแรงดันเพื่อเพิ่มความละเอียดของฟองนม และยังมีหัวฉีดไอน้ำที่หมุนได้ 360 องศา
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ดีค่ะ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร"
ถ้าถามเหล่าบาริสต้าว่า เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี GAGGIA ก็เป็นอีหนึ่งคำตอบที่ติดโผมาแน่ ๆ เพราะแบรนด์เป็นแบรนด์คุณภาพสูงจากประเทศอิตาลี ซึ่งรุ่นที่เราแนะนำนี้เป็น เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว ที่ทำงานด้วยกำลังไฟ 1,200 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ มาพร้อมตะกร้าชง 3 ใบ ได้แก่ แบบ single shot หลายรู, แบบ double shot หลายรู, และแบบ double shot รูเดียวที่สามารถเพิ่มแรงดันในตัว ถังทำมาจากสเตนเลสสตีล ส่วนหม้อต้มเป็นอลูมิเนียมอโนไดซ์ ที่ให้ความร้อนได้ไว ด้ามชงเป็นทองเหลืองอย่างหนาเคลือบโครเมียม ก้านตีฟองนมสเตนเลสสตีลสองทาง
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"สวยงามมาก มีอุปกรณ์แถมมาให้"
อีกหนึ่ง เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว ที่น่าสนใจ ขอยกให้เครื่องชงกาแฟจากแบรนด์ NUOVA Simonelli ซึ่งนำเข้าจากอิตาลีเช่นกัน รุ่นนี้มาพร้อมถังน้ำที่มีความจุถึง 3 ลิตร ถอดทำความสะอาดได้ง่าย ตัวเครื่องใช้กำลังไฟ 1200 วัตต์ แรงดันปั๊มอยู่ที่ 18 บาร์ เหมาะสำหรับการทำกาแฟขายอย่างยิ่ง สามารถเลือกการใส่น้ำได้ 2 ระบบ คือ การต่อท่อน้ำตรง หรือแท็งก์น้ำในตัว หม้อต้มน้ำทำจากทองเหลือง หากน้ำในถังหมดจะมีการตัดไฟอัตโนมัติ ส่วนตัวก้านชงทำด้วยกทองเหลืองชุบโครเมียม ดูดีน่าใช้
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"ตัวเครื่องสวยงาม ใช้งานง่ายดี"
หากอยากอุดหนุนแบรนด์ไทยที่ใช้วัสดุจากอิตาลีโดยตรง และเป็นเครื่องชงกาแฟที่คุณภาพวางใจได้ ขอแนะนำให้เลือกใช้ HILLKOFF ศูนย์รวมอุปกรณ์และเมล็ดกาแฟครบวงจร ซึ่งมี เครื่องชงกาแฟสด ให้เลือกหลายรุ่น สำหรับรุ่นที่เราแนะนำนี้เป็น เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว กำลังไฟฟ้า 1,400 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก โดยสามารถชงได้ 40 แก้วต่อชั่วโมง ตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลส และวัสดุ ABS มีความสวยงามและแข็งแรงทนทาน แทงก์จุน้ำได้ 3 ลิตร ส่วนหม้อต้มขนาด 1.8 ลิตร มีท่อสตรีมนมและท่อน้ำร้อนแยกจากกัน
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"รุ่นนี้ใช้ดีมากค่ะ ช็อตออกมาดี รูปทรงและขนาดก็กำลังดี ดูวินเทจผสมทันสมัย"
Bezzera เป็นเครื่องชงกาแฟที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ผลิตจากโรงงานเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในประเทศอิตาลี ด้านคุณภาพถือว่าไม่เป็นรองแบรนด์ไหน ตัวเครื่องทำมาจากวัสดุชั้นดี หม้อต้มและท่อน้ำภายในทำด้วยทองแดงระดับ food grade มีความปลอดภัยสูง แม้จะเป็น เครื่องชงกาแฟ อิตาลี หัวเดียว แต่ก็มีก้านชง 58 มิลลิเมตร แบบเดียวกับเครื่องชงกาแฟสองหัว ทำงานด้วยกำลังไฟ 1,300 วัตต์ สามารถผลิตกาแฟได้ 80-100 แก้วต่อวัน ถึงจะชงต่อเนื่องแต่ก็มีระบบรักษาอุณหภูมิของแต่ละแก้วได้อย่างสม่ำเสมอ
รีวิวจากผู้ใช้จริง:
"แข็งแรงทนทาน คุ้มค่า"
เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ดีอย่างไร
อิตาลี จัดว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านกาแฟอันดับหนึ่งของโลก โดยที่นั่นมีความนิยมในการดื่มกาแฟมานานนับร้อย ๆ ปีแล้ว เมนูกาแฟยอดนิยมอย่าง เอสเปรสโซ ก็ถือกำเนิดขึ้นที่อิตาลีเช่นกัน และเพราะคนอิตาเลียนให้ความสำคัญกับการดื่มกาแฟมาก ๆ จนเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ จึงมีการคิดค้นเครื่องชงกาแฟขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่นั่น จนได้รับความนิยมและแผ่ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ เครื่องชงกาแฟ อิตาลี เป็นที่รู้จักกันว่ามีคุณภาพดี แข็งแรง ตัวเครื่องสวยงาม และยังสามารถทำกาแฟได้หลากหลายรูปแบบด้วย อีกทั้งยังช่วยเสริมเมล็ดกาแฟให้หอมละมุนไม่เสียรสชาติกาแฟแท้ ๆ อีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของ เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ที่กล่าวมาเบื้องต้นจึงทำให้บรรดาบาริสต้าหลายคนหลงรักเครื่องชงกาแฟของประเทศนี้นั้นเอง
เครื่องชงกาแฟ อิตาลี มีกี่แบบ
- เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ
เป็นเครื่องชงกาแฟ อิตาลี ที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในออฟฟิศต่าง ๆ เพราะสามารถทำเครื่องดื่มได้อย่างง่ายดาย มีเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัว เพียงใส่เมล็ดกาแฟ เครื่องก็จะบดให้เองโดยอัตโนมัติ และสกัดออกมาเป็นน้ำกาแฟเข้มข้น พร้อมแยกกากกาแฟออกให้เสร็จสรรพ สามารถทำความสะอาดเครื่องทำกาแฟได้ง่าย
- เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่
เป็นเครื่องชงกาแฟ อิตาลี ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะให้รสกาแฟที่เข้มข้นถึงใจ แต่จะต้องบดกาแฟเองหรือใช้แมล็ดกาแฟที่ผ่านการบดมาแล้ว โดยการทำงานของเครื่องนี้จะใช้ความดันจากไอน้ำกลั่นกาแฟออกมา โดยใช้น้ำในปริมาณที่น้อยมาก รับรองว่าคนที่ชอบดื่มกาแฟเข้ม ๆ ต้องถูกใจแน่นอน
- เครื่องชงกาแฟแบบมอคค่าพอต
แม้ไม่ใช่เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเหมือนแบบอื่น ๆ แต่นี่ก็เป็นเครื่องชงกาแฟที่ชาวอิตาเลียนมีกันแทบทุกบ้าน เพราะใช้งานง่าย หน้าตาเป็นเหมือนเหยือก วิธีใช้คือนำเมล็ดกาแฟที่ผ่านการบดแล้ว ไปใส่ในกรวยเติมน้ำ จากนั้นนำเหยือกไปตั้งเตาให้น้ำเดือด ได้กาแฟรวดเร็วท้นใจ แต่เรื่องความเข้มข้นก็อาจไม่มากเท่าแบบอื่น
- เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล
เป็นเครื่องชงกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในตอนนี้ เพราะใช้งานง่ายมาก สามารถทำเมนูกาแฟได้หลายประเภท โดยต้องใช้คู่กับเมล็ดกาแฟที่บรรจุมาในแคปซูล ซึ่งเครื่องจะไปผ่านน้ำและกลั่นออกมาให้เรียบร้อย ด้วยความที่เครื่องนี้ต้องใช้กาแฟคั่วบดที่มาในแคปซูลที่มิดชิด ทำให้กลิ่นกาแฟมีความหอมชัด รู้สึกเหมือนดื่มกาแฟที่เพิ่งคั่วสดใหม่
วิธีเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ อิตาลี
- เลือกตามจุดประสงค์ของการใช้ เช่น ถ้าทำกินเองในบ้านก็สามารถใช้เครื่องเล็กได้ เช่น เครื่อชงกาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ แต่หากทำเพื่อขายก็ควรเลือกเครื่องทำกาแฟที่มีขนาดใหญ่ ตัวเครื่องมีกำลังสูง เช่น เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ หรือจะเลือกเป็นแบบ เครื่องชงกาแฟ อิตาลี 2 หัว ก็ได้เช่นกัน
- เลือกเครื่องทำกาแฟที่มีแรงดันเหมาะสมกับความต้องการ เพราะมีผลต่อความเข้มข้นของกาแฟ โดยทั่ว ๆ ไปมักอยู่ที่ 8-10 บาร์ แต่ถ้าหากต้องการกาแฟที่เข้มข้นกว่านี้ก็สามารถเลือกเครื่องชงกาแฟที่มีแรงดันสูงกว่านี้ได้
- เลือกแบบที่ใช้งานสะดวก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีเวลาในการชงมากนัก เลือกใช้เครื่องชงอัตโนมัติก็สะดวกสบายและรวดเร็ว จะดื่มก่อนไปทำงานก็ใช้เวลาในการทำไม่นาน และไม่ต้องไปรอคิวที่หน้าร้านกาแฟ
- เลือกเครื่องชงกาแฟที่ทำความสะอาดง่าย ไม่ยุ่งยาก เพื่อลดเวลานาในการทำความสะอาดและช่วยให้คราบไม่ฝังแน่นจนเครื่องดูโทรมง่าย
- ดูฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ อาทิ สามารถตีฟองนมได้ มีระบบตัดไฟ ฯลฯ หรือจะดูจากรูปทรงของดีไซน์เพิ่มก็ได้เช่นกัน
บทส่งท้าย
การเลือก เครื่องชงกาแฟ อิตาลียี่ห้อไหนดี คงต้องดูให้เหมาะสมกับจุดประสงค์และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการใช้และชง เครื่องชงกาแฟ อิตาลี ที่เราคัดสรรมาให้ แต่อย่างหนึ่งที่ต้องไม่ลืมคือการหมั่นทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องชงกาแฟให้ดี เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างดีไปนาน ๆ