iPad เทคโนโลยีจากแบรนด์ Apple ที่กล้ำกลายเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราทีละนิด จนในปัจจุบันก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ไอแพดได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใครหลายคน เพราะช่วยได้ทั้งการเรียน การทำงานตัดต่อ การทำอนิเมชั่น และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย จึงทำให้เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง iPad ผลิตออกมาหลากหลายรุ่น หลากหลายขนาดมากขึ้น รองรับการใช้ปากกาอย่าง Apple Pencil ที่สามารถวาดได้เสมือนจริง รองรับการเชื่อมต่อเมาส์ และคีย์บอร์ดได้อีก ซึ่งไม่ต่างอะไรจากโน้ตบุ๊กเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว โดยในบทความนี้เราก็ได้รวบรวม 8 iPad รุ่นยอดนิยม ที่ทำงานได้ ไว้ใช้เรียนได้ และอำนวยความสะดวกชีวิตครบครันมาให้คุณได้เลือกดูกันแล้ว
Tips: การที่เราจะเลือก iPad รุ่นไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับเรานั้น ควรพิจารณาจากสิ่งที่เราคาดว่าเราจะได้ใช้ในไอแพดด้วยนะ หากเลือกรุ่นที่มาไม่ตรงกับสิ่งที่ใช้ ก็อาจจะประสบปัญหาด้านความเร็ว หรือ ความจำของเครื่องได้ และเรื่องการเชื่อมต่อก็นับว่าอาจเป็นเรื่องเล็กจนทำให้คนมองข้ามในการเลือกซื้อไอแพด แต่จริง ๆ ก็ค่อนข้างสำคัญรอง ๆ จากปัจจัยแรก ๆ ที่เราได้พูดถึงไป อย่าลืมพิจารณาเรื่องเหล่านี้ด้วยเสมอนะคะ
สารบัญ
- ทำไม iPad ถึงเป็นที่นิยม
- เลือก iPad อย่างไรให้ถูกใจกับการใช้งาน
- 8 iPad รุ่นไหนดี รวมไอแพดรุ่นล่าสุด ไว้ใช้เรียน ทำงาน วาดรูป ตัดต่อ ปี 2024
- เคล็ดลับการใช้ iPad ให้คุ้มค่า
- บทส่งท้าย
ทำไม iPad ถึงเป็นที่นิยม
- สามารถเชื่อมต่อเมาส์และคีย์บอร์ดได้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำให้ iPad แตกต่างจากแท็บเล็ตหลาย ๆ รุ่น เพราะสามารถใช้งานได้ลื่นไหล รวดเร็ว แสดงผลไม่ต่างอะไรไปจากโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง
- มี Apple Pencil รองรับสำหรับคนที่ต้องการจดโน้ต หรือทำงานทางด้านอาร์ท ที่สามารถวาดลงบน iPad ได้เลย ไม่ต้องเชื่อมต่อกับบอร์ดกระดานวาดให้วุ่นวายเหมือนเมื่อก่อน
- ให้สีที่ตรงที่สุด ดีต่อใจเป็นอย่างมากสำหรับคนทำงานกราฟฟิคดีไซน์ หรือคนทำงานตัดต่อ เพราะหน้าจอกระจกเรตินาของ Apple ที่อยู่ใน iPad เป็นหน้าจอที่แสดงผลหน้าจอของสีได้แม่นยำมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง ทำให้สีไม่ผิดเพี้ยนจากที่เห็นในความเป็นจริง ซึ่งส่งผลเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ต้องทำงานส่งลูกค้า หรือใช้กราฟฟิคเป็นรายได้
- ไอแพดหนึ่งเครื่องสร้างอาชีพได้ โดยในยุคปัจจุบัน iPad ได้สร้างอาชีพให้กับคนจำนวนไม่น้อย โดยการทำงาน Artwork ขายจนทำเงินได้มหาศาล อีกทั้งยังช่วยสร้างแบรนด์ และต่อยอดให้กับคนทำงานอาร์ทอีกหลายด้านเลยทีเดียว
- ครบ-จบในตัวเอง ข้อดีของ iPad ยังมีอีกมาก แต่ที่แน่ ๆ เลยคือ iPad ตอบโจทย์ในทุกด้านของไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำงาน หรือแม้แต่วาดรูป และขยายออกไปอีกหลายรอบด้านมาก ๆ แม้ไอแพดจะราคาแพงไปมากเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตในตลาดรุ่น ๆ อื่น แต่ถ้าเอาขอดีมากางจริง ๆ แล้ว ก็ถือว่าเป็นสินค้าที่น่าลองสักครั้ง
เลือก iPad อย่างไรให้ถูกใจกับการใช้งาน
หากต้องการเลือก iPad รุ่นไหนดี ให้ถูกกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานของตัวเอง ก็ควรจะต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเองต้องการซื้อไอแพดไปทำอะไร เช่น ซื้อไปเรียน ซื้อไปทำงาน หรือซื้อไปใช้งานทั่ว ๆ ไป เป็นต้น การเข้าใจจุดประสงค์ในการใช้งาน ก็จะช่วยย่อยรุ่น iPad ลงมาได้ว่า สโคปที่ iPad รุ่นดังกล่าวรองรับอะไรบ้าง อย่าง iPad Pro จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ทำงานกราฟฟิค อนิเมชั่นหนัก ๆ แบบจัดเต็ม เพราะให้ไดนามิคไหลลื่น และให้สี ให้ความละเอียดในการเซฟงานได้มากกว่าไอแพดรุ่นทั่ว ๆ ไป เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้น ก็ควรคำนึงว่าเราชอบขนาดหน้าจอและความกว้างของ iPad แบบไหน หรือต้องการฟังก์ชันอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า เช่น บางคนอาจจะอยากใช้ไอแพดที่รองรับปากกา Gen ใหม่ เพราะสามารถชาร์จได้ในตัว หรือบางคนอาจไม่ต้องการสเปคหรูเลิศ แค่เชื่อมต่อเมาส์ได้ คีย์บอร์ดได้ก็โอเค เป็นต้น สโคปการทำงานและความต้องการก็จะหลั่นกันลงมา อยู่ที่ว่าเราต้องตั้งคำถาม ว่าเราอยากได้แบบไหน และต้องการใช้งานอย่างไร ก็จะทำให้ได้รุ่น iPad ที่ตรงใจ และตรงการใช้งานมากขึ้น
8 iPad รุ่นไหนดี รวมไอแพดรุ่นล่าสุด ไว้ใช้เรียน ทำงาน วาดรูป ตัดต่อ ปี 2024
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ความจุ 256 GB Wi-Fi + Cellular 2021
- iPad Air 4 รุ่น 10.9 นิ้ว ความจุ 256 GB Wi-Fi + Cellular ปี 2020
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ความจุ 256 GB Wi-Fi ปี 2021
- iPad Air 4 รุ่น 10.9 นิ้ว ความจุ 256 GB Wi-Fi ปี 2020
- iPad ความจุ 256 GB Wi-Fi + Cellular
- iPad mini รุ่น 256 GB Wi-Fi + Cellular
- iPad Mini 5 Wi-Fi
- iPad Air 3 ความจุ 256 GB Wi-Fi
หากใครที่กำลังมีคำถามว่าจะซื้อ iPad รุ่นไหนดี ที่สามารถใช้ทำงานตัดต่อหนัก ๆ ได้หรือรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นคนชอบหอบงานไปทำนอกบ้าน iPad Pro รุ่นล่าสุด ปี 2021 มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 12.9 นิ้ว เป็นอะไรที่ตอบโจทย์และรองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะไอแพดรุ่นนี้ทำออกมาเพื่อเอาใจคนทำงานกราฟฟิค งานอนิเมชั่น หรืองานตัดต่อโดยเฉพาะก็ว่าได้ เนื่องจากให้สีหน้าจอตรง รองรับการกดลงน้ำหนักของปากกาเสมือนวาดลงบนกระดาษ ดีไซน์ของเครื่องออกแบบมาให้บางและเบาเท่าที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อกลายเคลื่อนย้าย หรือยกขึ้นมาทำงาน เป็นไอเทมที่สายตางานอาร์ทต้องมีไว้ติดตัวเลยละ
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 12.9 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi + Cellular | น้ำหนัก: 682 กรัม | หน้าจอ: XDR Liquid Retina | กล้อง: 12MP
เรียกได้ว่าเป็น iPad รุ่นล่าสุด ของตระกูล Air ที่เปิดตัวมาแล้วได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น สำหรับ iPad Air Gen 4 นี้ดีไซน์ตัวเครื่องออกมาได้อย่างบางเฉียบ เบา กับสีสันที่มีให้เลือกหลากหลาย หน่วงความจำสูงสุด 256 GB ใช้ได้แบบไม่มีจำกัด กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และจอ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ให้สีการแสดงผลอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะซื้อไปเรียน ซื้อไปทำงานอาร์ท หรือจะซื้อไปทำงานก็บอกเลยว่าตอบโจทย์สุด ๆ เป็น iPad ที่อยู่ในราคาระดับกลาง อีกทั้งยังรองรับต่อการเชื่อมต่อปากก เมาส์ และคีย์บอร์ด เป็นรุ่นที่น้อง ๆ นักศึกษา หรือเด็กวัยมัธยมนำไปใช้เรียนออนไลน์ หรือจดโน้ตกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 10.9 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi + Cellular | น้ำหนัก: 460 กรัม | หน้าจอ: Liquid Retina | กล้อง: 12MP
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมเป็น iPad pro เหมือนกัน แต่ราคาดร็อปลงมาจากรุ่น 12.9 นิ้วมากขนาดนั้น ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัย เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่หดลงมาเกือบ 2 นิ้ว และไม่มี Cellular ในตัว ราคาก็เลยดร็อปลดหลั่นกันลงมา เหมาะสำหรับใครที่อาจจะไม่อยากพก iPad เครื่องใหญ่เกินไป เช่นน้อง ๆ ที่ยังเด็กอยู่ หรือคุณผู้หญิงที่ชอบความกะทัดรัด เป็นต้น เพราะรุ่นนี้ให้สเปกคงเดิม เพียงแต่ขนาดเล็กลง ยังวาดรูป ทำงาน และใช้เรียนออนไลน์ได้อย่างเต็มลิมิตเหมือนเดิม
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 11 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi | น้ำหนัก: 466 กรัม | หน้าจอ: XDR Liquid Retina | กล้อง: 12MP
ด้วยราคาที่ดีงามขนาดนี้ แต่ได้สเปก ฟังก์ชัน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพียบ รองรับกับ Apple Pencil Gen 2 รุ่นใหม่ล่าสุด สามารถชาร์จได้พร้อมตัวเครื่อง ไม่มีสายระโยงระยาง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา เชื่อมต่อได้กับเมาส์ และคีย์บอร์ด iPad Air Gen 4 สามารถทำได้หลายอย่าง งานกราฟฟิคเบื้องต้นก็เนี๊ยบ ไม่แพ้งานกราฟฟิคเครื่องเทพจากรุ่น iPad Pro เลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่นิยมในหมูน้อง ๆ วัยรุ่น และคนวัยทำงาน เนื่องจากราคาเครื่องไม่สูงมากนัก แต่ได้ดีไซน์ที่ล้ำสมัย ใครที่คิดกำลังจะซื้อไอแพดไว้ใช้งานสักเครื่อง รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก แถมราคาก็ถูกกว่าตัว Cellular เยอะมาก
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 10.9 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi | น้ำหนัก: 460 กรัม | หน้าจอ: Liquid Retina | กล้อง: 12MP
iPad Gen 9 เป็นรุ่นที่ได้รับความยนิยมเป็นอย่างมากทั้งในช่วงที่เปิดตัว iPad มาใหม่ ๆ และยังคงเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะหลายคนบ้างก็ Work From Home และน้อง ๆ หลายๆ คนก็ต้องใช้ iPad เรียนออนไลน์ จึงทำให้ต้องหาเทคโนโลยีที่รองรับทั้งการทำงานและเรียนมาไว้อำนวยความสะดวก ซึ่งไม่ขี้เหร่ไปกว่าตัว iPad Pro และ iPad Air เลย เพราะความคมชัดของภาพ ลำโพง และความเร็วในการทำกราฟฟิคก็ยังได้อยู่ และตัวเครื่องก็ยังเร็วในขนาดที่สามารถจดโน๊ต เรียนออนไลน์ได้สบาย ๆ พร้อมกับระบบแสกนนิ้วที่ปุ่มโฮม
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 10.2 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi + Cellular | น้ำหนัก: 498 กรัม | หน้าจอ: Retina True Tone | กล้อง: 12MP
ใครชอบความมินิ ไม่ชอบอะไรใหญ่เทอะทะ พกพาได้สะดวก น้ำหนักเบา จะใช้ไว้โทร. ใช้ไว้จดงาน หรือใช้งานอ่านหนังสือก็ตอบโจทย์ในทุกด้าน ต้อง iPad Mini กล้องหลังชัดเต็มสตรีม รองรับ 5G รองรับการใช้งานกับปากกา และที่สำคัญคือใหญ่เต็มหน้าจอ หมดปัญหาในนเรื่องรุ่นก่อน ๆ ที่ไม่มีขนาดฟีเจอร์ที่รับกับขนาดของ iPad mini ได้พอดี เป็นอีกรุ่นที่จะต้องสั่นสะเทือนวงการคนรัก iPad อย่างแน่นอน ก็รูปโฉมน่ารัก น่าจับจองขนาดนี้ ราคาก็ถูกกว่าทุกรุ่นในตระกูล iPad ถ้าได้ไอแพดในราคาถูกเป็นใครก็ชอบทั้งนั้น จริงไหม?
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 8.3 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi + Cellular | น้ำหนัก: 297 กรัม | หน้าจอ: Liquid Retina | กล้อง: 12MP
iPad mini Gen 5 รุ่นแรกที่ทำให้หลายคนร้องว้าว ด้วยระบบแสกนนิ้วที่ปุ่มโฮม หน้าจอที่ชัด สามารถไว้ใช้จดโน้ตง่าย ๆ อ่านหนังสือ หรือทำอะไรได้อีกมากมาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากพก iPad เครื่องใหญ่ เพราะอาจจะรู้สึกว่าใหญ่ หนัก และไม่ตอบโจทย์สำหรับการออกไปทำงานนอกบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน iPad มินิ Gen 5 ก็ยังเป็นที่สนใจสำหรับคุณผู้หญิงหลาย ๆ คน และรวมไปถึงเด็ก ๆ ที่กำลังหัดเรียนรู้ ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าพกพา น้ำหนักที่เบา อีกทั้งราคายังจับต้องได้อีกด้วย
ข้อมูลเฉพาะ
ขนาด: 7.9 นิ้ว | การเชื่อมต่อ: WiFi | น้ำหนัก: 300 กรัม | หน้าจอ: Retina | กล้อง: 8MP
เคล็ดลับการใช้ iPad ให้คุ้มค่า
- ติดฟิล์มกระดาษ หรือฟิล์มกระจก เพราะฟิล์มกระดาษจะไม่ทำให้หน้าจอ iPad เป็นรอยขณะใช้ปากกาวาดบนหน้าจอ อีกทั้งยังสบายตากว่า แต่ฟิล์มกระจกจะช่วยในการป้องกันหน้าจอไอแพดไม่ให้ร่วงลงไปแตก ไม่ว่าอย่างไหนก็เป็นการถนอมไอแพดไปในตัว
- ซื้อเคสมาสวมใส่ เนื่องจากตัวเครื่องไอแพดมีขนาดใหญ่ และหลายคนก็ใช้แบบสมบุกสมบัน ตลอดการใช้งานหากไม่ซื้อเคสมาสวมทับไว้ ก็อาจทำให้ตัวเครื่องมีสภาพเก่า และมีรอยขีดข่วนได้
- ไม่ชาร์จไปเล่นไป สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือการถนอมแบต บางคนคิดว่าไม่สำคัญ แต่หารู้ไม่ว่าการชาร์จไปเล่นไป จะทำให้สภาพแบตไอแพดเสื่อมเร็ว และอาจนำไปสู่ปัญหาแบตบวมในภายหลัง
- ปิดแทบที่เล่นค้างไว้ให้หมด รู้หรือไม่ ว่าแอปฯ ที่เปิดใช้งานทิ้งไว้โดยไม่ปิดเลย ก็จะทำให้แบตลดลงเร็ว และทำให้แบต iPad เสื่อมลงได้เช่นกัน ต่อให้คุณจะพยายามไม่เล่นไปขณะชาร์จ แต่ถ้าหากไม่ปิดหน้าต่างพวกนี้ ก็จะให้ผลทำให้แบตเสื่อมเหมือนกัน
- ไม่วางไว้ในที่ร้อนจัด เช่น บนรถที่อบ หรือที่ ๆ มีแดดแจ้ง เพราะจะทำให้ตัวเครื่องของ iPad พลอยร้อนไปด้วย และอาจทำให้แบตในเครื่องเสื่อมสภาพ หรืออาจถึงขั้นทำให้ตัวเครื่องระเบิด
บทส่งท้าย
แม้หลายคนจะมองว่าอุปกรณ์ของ Apple อย่าง iPad มีราคาแพง และไม่มีความจำเป็นสักเท่าไหร่ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว อุปกรณ์ของแบรนด์ Apple มีความเสถียรมาก สามารถใช้ทำอะไรได้หลายอย่างเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องเลยทีเดียว ซึ่งใครที่กำลังเล็งว่าจะซื้อ iPad รุ่นไหนดี หรืออยากเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียก่อนซื้อ ก็สามารถใช้ลิสต์ที่เราหามาให้ทั้ง 8 รุ่นเป็น Guideline ได้เลย