Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
cover image

10 ชุดโฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี รวมเครื่องเสียงบ้าน คุณภาพ 2025 - รีวิว

ไม่ว่าจะดูหนัง จะฟังเพลง จะเล่นเกม ให้ ชุดโฮมเธียเตอร์อำนวยเสียงให้คุณเพลิดเพลินกับสื่อดีกว่า

ชุดโฮมเธียเตอร์คือระบบเสียงและภาพสำหรับใช้งานในบ้านที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้อรรถรสใกล้เคียงโรงหนัง ภายในชุดมักประกอบด้วยลำโพงรอบทิศทาง (เช่น 2.1 / 5.1 / 7.1 หรือ Dolby Atmos), แหล่งขับสัญญาณอย่างเอวีรีซีฟเวอร์ (AVR) หรือซาวด์บาร์ และจอแสดงผลอย่างทีวี บางบ้านอาจเสริมโปรเจ็กเตอร์และจอขนาดใหญ่เพื่อความเต็มอิ่มยิ่งขึ้น

จุดเด่นของระบบนี้คือ “เวทีเสียงรอบตัว” ทำให้เสียงพูดชัด เอฟเฟกต์มีมิติ และเบสทรงพลัง เหมาะทั้งดูหนัง ซีรีส์ เกม ไปจนถึงสตรีมเพลง สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหา ชุดโฮมเธียเตอร์ สิ่งสำคัญคือเลือกสเปกให้เหมาะกับ “ขนาดห้องและงบประมาณ” เช่น ห้องเล็ก–คอนโดอาจเริ่มที่ซาวด์บาร์ 3.1 / 5.1 ที่ติดตั้งง่าย ขณะที่ห้องกลาง–ใหญ่สามารถไปสาย AVR + ลำโพงแยกเพื่ออัปเกรดได้ในอนาคต

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักตัวเลือกยอดนิยม “โฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี” พร้อมจุดเด่น–ข้อสังเกต ของแต่ละรุ่นเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ตรงสไตล์การใช้งานจริงของบ้านคุณมากที่สุด


บรรณาธิการ

Ing On chevron_right

...

10 ชุดโฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025

ซาวด์บาร์ 11.1.4 ระดับเรือธง รองรับ Dolby Atmos แบบไร้สาย พร้อมรียาร์และซับครบชุดสำหรับโฮมเธียเตอร์ในบ้าน
Samsung Q-Series Soundbar HW-Q990F
Samsung
Samsung Q-Series Soundbar HW-Q990F
จาก
29,643บาท
เช็คราคา Samsung Q-Series Soundbar HW-Q990F ด้านล่าง:
add_circle โครงลำโพง 11.1.4 พร้อมลำโพงหลังและซับในกล่อง ให้มิติเสียงรอบทิศทางใกล้เคียง ชุดโฮมเธียเตอร์ แท้
add_circle รองรับ Wireless Dolby Atmos และจูนห้องด้วย SpaceFit Sound Pro ใช้งานง่าย
add_circle Q-Symphony เสริมเวทีเสียงเมื่อใช้กับทีวีซัมซุง
add_circle พอร์ตครบสำหรับสายเกมและภาพยนตร์: HDMI eARC, 4K/120, HDR10+
add_circle สตรีมมิงครบเครื่องทั้ง Chromecast, AirPlay, Spotify/Tidal Connect, Roon Ready
remove_circle ไม่มี USB Music Playback หากต้องเล่นไฟล์จากสตอเรจภายนอกต้องผ่านเครือข่ายหรืออุปกรณ์ต้นทาง
remove_circle ตัวซับและลำโพงหลังแม้ไร้สาย แต่ยังต้องมีปลั๊กไฟบริเวณวาง
remove_circle ขนาดบาร์ค่อนข้างยาว ควรตรวจความกว้างชั้นวางและระยะใต้จอ
remove_circle ประสิทธิภาพสูงสุดกับทีวีซัมซุง หากใช้แบรนด์อื่นจะไม่ได้ Q-Symphony

สรุป: ถ้าต้องการเสียงรอบทิศทางจริงจังในรูปแบบตั้งง่าย รุ่นนี้ให้ครบทั้งลำโพงหน้า กึ่งกว้าง ข้าง ยิงขึ้น และลำโพงหลังไร้สาย พร้อมซับวูฟเฟอร์

ผู้ใช้ทีวีซัมซุงจะได้อานิสงส์ Q-Symphony และ SpaceFit Sound Pro เพิ่มมิติเสียงโดยไม่ต้องจูนยุ่งยาก เหมาะกับคอนโดหรือห้องนั่งเล่นที่อยากได้โฮมเธียเตอร์คุณภาพสูง

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • ระบบเสียง: 1.4 แชนเนล พร้อมลำโพงหลังและซับไร้สายในกล่อง
  • จำนวนไดร์เวอร์: 23 ตัว มีลำโพงยิงขึ้น ยิงกว้าง ยิงด้านข้าง และลำโพงเซ็นเตอร์
  • ฟอร์แมตเสียง: Dolby Atmos (รวม Wireless Dolby Atmos), Dolby TrueHD, Dolby Digital Plus, LPCM multi-channel
  • โหมดเสียง: Standard, Adaptive Sound, Surround Expansion, Game Pro, Night Mode, Voice Enhance
  • ฟีเจอร์ปรับเสียงห้อง: SpaceFit Sound Pro, Active Voice Amplifier Pro
  • การเชื่อมต่อทีวี: HDMI eARC, 4K/120Hz pass-through, HDR10+
  • พอร์ต: HDMI IN x2, HDMI OUT x1, Optical x1
  • ไร้สายและสตรีมมิง: Wi-Fi, Bluetooth 5.3, Chromecast, AirPlay, Spotify Connect, Tidal Connect, Roon Ready
  • ลูกเล่นกับทีวีซัมซุง: Q-Symphony, Tap Sound, One Control
  • สีตัวเครื่อง: Titan Black
  • ขนาดบาร์: 1232 × 70.8 × 138 มม. | น้ำหนักบาร์ 3 กก.
  • ขนาดลำโพงหลังต่อข้าง: 5 × 201.3 × 140.4 มม. | น้ำหนักรวมต่อข้าง 3.4 กก.
  • ขนาดซับ: 249 × 251.8 × 249 มม. | น้ำหนัก 3 กก.

ทำไมต้อง Samsung Q-Series Soundbar HW-Q990F

หากคุณอยากได้ประสบการณ์ home theater ระดับจริงจัง แต่ไม่อยากลากสายลำโพงรอบห้อง รุ่นนี้คือคำตอบเพราะให้โครงสร้าง 11.1.4 ที่ครบทุกทิศทางเสียง ทั้งลำโพงยิงขึ้นและลำโพงด้านข้างเพื่อสร้างมิติ Dolby Atmos ได้เนียนในห้องนั่งเล่นทั่วไป การจับคู่กับทีวีซัมซุงเปิดใช้ Q-Symphony จะผสานไดรเวอร์ของทีวีกับซาวด์บาร์ ทำให้เวทีเสียงกว้างขึ้นโดยไม่ต้องตั้งค่าเยอะ คนอยู่คอนโดจะได้ประโยชน์จาก SpaceFit Sound Pro ที่วัดสภาพห้องอัตโนมัติและปรับโทนเสียงให้เหมาะสม พอร์ต HDMI eARC และ pass-through 4K/120Hz + HDR10+ เหมาะทั้งดูหนังและเล่นเกมคอนโซลยุคใหม่ ด้านสตรีมมิงก็พร้อมด้วย Chromecast, AirPlay, Spotify/Tidal Connect ไปจนถึง Roon Ready จึงยืดหยุ่นทั้งสายภาพยนตร์และสายเพลง ความตั้งค้าง่ายกว่า “ชุดโฮมเธียเตอร์ 5.1/7.1 แบบ AVR” ชัดเจน แต่ยังให้บรรยากาศโอบล้อมใกล้เคียงชุดแยกมากกว่าซาวด์บาร์ทั่วไป

ซาวด์บาร์ 5.1 channel กำลังขับรวม 440W พร้อมลำโพงหลังและซับ ได้บรรยากาศโฮมเธียเตอร์ที่บ้าน
LG Home Theater Soundbar S60TR
LG
LG Home Theater Soundbar S60TR
จาก
13,990บาท
เช็คราคา LG Home Theater Soundbar S60TR ด้านล่าง:
add_circle 5.1 channel จริงพร้อมลำโพงหลังและซับในชุดเดียว
add_circle พลังรวม 440W ให้ไดนามิกดี ดูหนังมันส์ เสียงเอฟเฟกต์มีน้ำหนัก
add_circle ทำงานร่วมกับทีวี LG ได้ดี (WOW Interface / TV Sound Mode Share) ใช้งานสะดวก
add_circle โหมด AI Sound Pro และ Clear Voice Pro ช่วยให้บทพูดคมชัดในคอนโด/ห้องเล็ก
add_circle การเชื่อมต่อครบใช้จริง: HDMI ARC, Optical, USB, Bluetooth 5.3
remove_circle ไม่มี eARC (เหมาะกับการใช้งาน ARC ทั่วไปมากกว่าไฟล์เสียงไฮบิตเรตจากเครื่องเล่นเฉพาะทาง)
remove_circle ต้องมีปลั๊กไฟเพิ่มสำหรับลำโพงหลัง/ซับ (แม้จะเชื่อมต่อไร้สาย)
remove_circle ขนาดซับค่อนข้างสูง ควรเผื่อพื้นที่วางให้เหมาะสม

สรุป: สำหรับคนที่อยากอัปเกรดเสียงดูหนังซีรีส์ให้ “รอบทิศทางจริง” แต่ไม่อยากวุ่นวายกับ AVR ชุดใหญ่ LG S60TR คือ ชุดโฮมเธียเตอร์ แบบซาวด์บาร์ที่ให้ครบทั้งบาร์ + ลำโพงหลัง + ซับ

รองรับ Dolby Digital / DTS (รวมถึง DTS:X ตามข้อมูลรุ่น) และฟีเจอร์อย่าง WOW Interface / TV Sound Mode Share ช่วยให้จับคู่กับทีวี LG ได้ลื่นไหล

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • ระบบเสียง: 1 channel
  • กำลังขับรวม: 440W
  • องค์ประกอบชุด: ซาวด์บาร์หลัก + ลำโพงหลัง (คู่) + ซับวูฟเฟอร์
  • รูปแบบเสียง: Dolby Digital, DTS Digital Surround (ข้อมูลรุ่นระบุรองรับ DTS:X), AAC
  • โหมดเสียง: AI Sound Pro, Cinema, Music, Game, Sports, Clear Voice Pro, Bass Blast/Bass Blast+ และ Standard
  • การเชื่อมต่อ: HDMI Out x1 (ARC/CEC Simplink), Optical x1, USB x1, Bluetooth 5.3 (SBC/AAC)
  • ฟีเจอร์กับทีวี LG: WOW Interface, TV Sound Mode Share, รีโมตแอป iOS/Android
  • ขนาด & น้ำหนัก
  • ซาวด์บาร์: 850 × 63 × 87 มม., 2.5 กก.
  • ลำโพงหลัง (ต่อข้าง): 0 × 176.5 × 120.0 มม. (น้ำหนักรวมคู่ 2.1 กก.)
  • ซับวูฟเฟอร์: 200 × 377 × 285 มม., 5.7 กก.
  • น้ำหนักรวมทั้งชุด: 56 กก.
  • กำลังไฟ (ประมาณ): บาร์ 33W, ลำโพงหลังรวม 20W, ซับ 33W | โหมดสแตนด์บาย ~0.5W

ทำไมต้อง LG S60TR

ถ้าคุณอยากได้ home theater ในงบคุมง่ายและติดตั้งไว S60TR ให้โครงสร้าง 5.1 channel ที่ครบทั้งทิศทางด้านข้างและด้านหลัง พร้อมซับขนาดใหญ่ช่วยเติมแรงปะทะของเอฟเฟกต์หนังแอ็กชัน ฟีเจอร์ WOW Interface และ TV Sound Mode Share ออกแบบมาให้ทำงานกับทีวี LG ได้เนียน ควบคุมและแชร์โหมดเสียงจากทีวีสู่ซาวด์บาร์แบบอัตโนมัติ โหมด AI Sound Pro จะปรับโทนเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้บทสนทนาชัดขึ้นโดยไม่ต้องจูนเอง การเชื่อมต่อหลักอย่าง HDMI ARC และ Bluetooth 5.3 ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวัน ทั้งดูหนัง สตรีมเพลง หรือเล่นเกมคอนโซลในห้องนั่งเล่น/คอนโดขนาดเล็กถึงกลาง

ชุดโฮมเธียเตอร์ 5.1 channel กำลังขับรวม 1,000W พร้อมลำโพงหลังและซับ เสียงโอบล้อมจริงจังในแพ็กเดียว
Sony BRAVIA Theatre System 6
Sony
Sony BRAVIA Theatre System 6
จาก
17,850บาท
เช็คราคา Sony BRAVIA Theatre System 6 ด้านล่าง:
add_circle ครบชุด: ซาวด์บาร์ + ลำโพงหลัง + ซับ + กล่องแอมป์ไร้สาย สำหรับจัด home theater ได้ทันที
add_circle รองรับ Dolby Atmos / DTS:X ผ่าน HDMI eARC พร้อมเอฟเฟกต์เสมือน (S-Force PRO, Vertical Surround Engine, DTS Virtual:X)
add_circle กำลังขับรวม 1,000W ให้ไดนามิกสูง ดูหนังแอ็กชันสนุก
add_circle ทำงานเข้ากับ BRAVIA ได้ลื่นไหล (CEC/Sync, Voice Zoom 3, ตั้งค่าด่วนผ่านแอป)
add_circle ทางเลือกอินพุตพื้นฐานครบ: HDMI eARC, Optical, Analog-in, Bluetooth 5.3
remove_circle ไม่มี HDMI-in (มีเฉพาะเอาต์พุต eARC/ARC 1 ช่อง) อุปกรณ์ภาพควรต่อเข้าทีวีแล้วส่งเสียงกลับผ่าน eARC
remove_circle Bluetooth รองรับ SBC/AAC (ไม่มี LDAC/aptX) เน้นสตรีมสะดวกมากกว่าคุณภาพสูงสุด
remove_circle ต้องมีปลั๊กไฟเพิ่มบริเวณลำโพงหลังสำหรับ กล่องแอมป์ไร้สาย

สรุป: ถ้าต้องการ home theater แบบ “ครบชุด ตั้งง่าย ไม่ง้อ AVR” รุ่นนี้ให้คุณได้ทั้งซาวด์บาร์ ลำโพงหลัง ซับวูฟเฟอร์ และกล่องแอมป์ไร้สายสำหรับขับลำโพงหลัง

รองรับ Dolby Atmos / DTS:X ผ่าน HDMI eARC เสริมด้วยเทคโนโลยี S-Force PRO, Vertical Surround Engine, DTS Virtual:X และ Voice Zoom 3 ทำให้บทสนทนาชัดในคอนโด/ห้องนั่งเล่น

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างเสียง: 1 channel (ตัวลำโพงรวม 10 ตัว)
  • กำลังขับรวม: 1,000W
  • ฟอร์แมต (ผ่าน HDMI eARC): Dolby Atmos, Dolby TrueHD, Dolby Digital/Plus, DTS, DTS:X, LPCM 2/5.1/7.1
  • โปรเซสซิง/โหมดเสียง: S-Force PRO, Vertical Surround Engine, DTS Virtual:X, Sound Field (Upmix/Multi Stereo), Night mode, โหมดเสียงพูด, DSEE
  • การเชื่อมต่อ: HDMI eARC (เอาต์พุต 1 ช่อง), Optical-in, Analog mini-stereo-in, Bluetooth 5.3 (SBC/AAC)
  • องค์ประกอบชุด: ซาวด์บาร์ (รุ่น SS-S60) + ลำโพงหลังคู่ (SS-SS60) + ซับ (SA-WS60) + กล่องแอมป์ไร้สาย สำหรับลำโพงหลัง
  • ขนาด/น้ำหนักโดยย่อ: บาร์ 907×64×90 มม. | 2.6 กก. / ซับ 275×388×388 มม. | 11.6 กก. / ลำโพงหลัง 106×216×98 มม. | 0.89 กก.ต่อข้าง / กล่องแอมป์ 175×52×175 มม. | 0.76 กก.
  • แอปและระบบทีวี: SONY | BRAVIA CONNECT, ใช้งานร่วมกับ BRAVIA (เมนูตั้งค่าด่วน, Voice Zoom 3), HDMI CEC/BRAVIA Sync
  • พลังงานโดยประมาณ: ซับ 60W / แอมป์ไร้สาย 30W; สแตนด์บายต่ำสุด ~0.5W (ตามเงื่อนไข)

ทำไมต้อง Sony BRAVIA Theatre System 6

รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อคนที่อยากได้ ชุดโฮมเธียเตอร์ สมบูรณ์ในกล่องเดียว ติดตั้งง่ายกว่าชุด AVR แต่ยังคงมิติเสียงรอบทิศทางจาก 5.1 channel จริง ชุดลำโพงหลังมี กล่องแอมป์ไร้สาย แยก ทำให้การวางตำแหน่งหลังห้องทำได้ยืดหยุ่นขึ้น (เดินไฟเลี้ยงแต่ไม่ต้องลากสัญญาณยาวจากหน้าไปหลัง) ขณะที่ซับวูฟเฟอร์ทรงกำลังช่วยเติมแรงกระแทกของเอฟเฟกต์ภาพยนตร์ให้สะใจ การรองรับ Dolby Atmos / DTS:X ผ่าน HDMI eARC ทำให้คุณต่อทีวี/สตรีมเมอร์ยุคใหม่แล้วได้เสียงไฮเรสแบบ lossless ได้จริง จุดเด่นฝั่งโซนี่อย่าง S-Force PRO และ Vertical Surround Engine จะช่วย “ยกเวทีเสียง” ให้โอบล้อมขึ้นแม้ในห้องปกติ ไม่ต้องบุผนัง ส่วน Voice Zoom 3 ทำให้เสียงพูดคมชัด เหมาะกับบ้านที่มีเสียงรบกวนหรือดูซีรีส์พากย์ไทย/ซับไทยเป็นหลัก

ซาวด์บาร์ Dolby Atmos ระดับพรีเมียม ขับด้วยแอมป์ Class-D 11 ชุด ปรับแต่งห้องอัตโนมัติด้วย Trueplay
Sonos Arc Soundbar
Sonos
Sonos Arc Soundbar
จาก
43,690บาท
เช็คราคา Sonos Arc Soundbar ด้านล่าง:
add_circle ซาวด์บาร์เดี่ยวที่ให้มิติ Dolby Atmos ได้จริงเมื่อใช้ HDMI eARC
add_circle จูนห้องอัตโนมัติ Trueplay ทำให้เสียงบาลานซ์ขึ้นในห้องทั่วไป
add_circle Ecosystem Sonos ใช้งานง่าย เสถียร และขยายระบบได้ภายหลัง (Sub, ลำโพงหลัง)
add_circle Speech Enhancement / Night Sound ช่วยให้ดูซีรีส์ตอนดึกได้สบาย
add_circle รองรับ AirPlay 2 และผู้ช่วยเสียงหลัก
remove_circle ไม่มี Bluetooth สำหรับสตรีมเสียง (ออกแบบมาเพื่อ Wi-Fi/HDMI เป็นหลัก)
remove_circle ถ้าใช้ ARC (ไม่ใช่ eARC) จะถูกจำกัดที่ Dolby Digital/Plus; Atmos แบบ TrueHD ต้อง eARC
remove_circle ประสบการณ์ Atmos จากบาร์เดี่ยวดีมากในห้องเล็ก-กลาง แต่ถ้าอยากโอบล้อม “รอบตัว” กว่านี้ แนะนำเพิ่มลำโพงหลัง/ซับ
remove_circle Trueplay ต้องใช้อุปกรณ์ iOS

สรุป: ถ้าคุณอยากได้เสียงโอบล้อมแบบโรงหนังจากซาวด์บาร์ชิ้นเดียว Sonos Arc คือทางเลือกที่ลงตัว รองรับ Dolby Atmos ผ่าน HDMI eARC พร้อมไดรเวอร์ 11 ชุดที่วางมุมอย่างประณีตเพื่อยกมิติสูง

เหมาะกับห้องนั่งเล่นและคอนโดที่อยากติดตั้งง่าย เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi/AirPlay 2 มีไมค์รับคำสั่งเสียง และจูนห้องด้วย Trueplay (ต้องใช้อุปกรณ์ iOS)

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • สถาปัตยกรรมเสียง: แอมป์ดิจิทัล Class-D x11, ทวีตเตอร์โดมไหม x3, วูฟเฟอร์วงรี x8
  • ฟอร์แมตที่รองรับ: Stereo PCM, Dolby Digital/Plus, Dolby Atmos (DD+), Dolby TrueHD + Atmos*, Multichannel PCM*, DTS Digital Surround
    *ต้องต่อผ่าน HDMI eARC เพื่อรับสัญญาณแบนด์วิดท์สูง
  • การเชื่อมต่อ: HDMI eARC/ARC (มีอะแดปเตอร์ optical แถม), Wi-Fi 2.4GHz, Ethernet 10/100, IR receiver ซิงก์รีโมตทีวี
  • Smart Features: AirPlay 2, รองรับ Amazon Alexa / Google Assistant, โหมด Speech Enhancement, Night Sound, ปรับ EQ ในแอป Sonos
  • ไมโครโฟน: Far-field array พร้อม beamforming และ multi-channel echo cancellation
  • ขนาด/น้ำหนัก: 1142 × 87 × 116 มม., 6.25 กก. | สี Matte Black / Matte White
  • การติดตั้ง: มี threaded mount 10-32; มีไฟ LED แสดงสถานะเชื่อมต่อ/ไมค์/ข้อผิดพลาด
  • ระบบไฟ: 100–240V 50/60Hz | CPU Quad-core 1.4GHz A-53, RAM 1GB, Flash 4GB

ทำไมต้อง Sonos Arc

จุดแข็งของ Arc คือ “เสียงรอบทิศจากชิ้นเดียว” ที่ให้เวทีสูง-กว้างโดยอาศัยการออกแบบไดรเวอร์ 11 ตัวและการประมวลผล Atmos ขั้นสูง เมื่อใช้ HDMI eARC คุณจะได้สตรีมเสียง lossless (เช่น Dolby TrueHD + Atmos) จากสตรีมเมอร์หรือเครื่องเล่นระดับจริงจัง ในชีวิตประจำวัน Trueplay จะวัดสภาพอะคูสติกของห้องแล้วจูนอัตโนมัติ ทำให้โทนเสียงลงตัวโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านอะคูสติกมาก่อน อีโคซิสเท็ม Sonos ยังเด่นที่ความเสถียรของ Wi-Fi multiroom และควบคุมง่ายในแอปเดียว หากต้องการอัปเกรดเป็น home theater ที่โอบล้อมยิ่งขึ้น คุณสามารถเพิ่ม Sub/ Sub Mini และ Era 300 คู่เป็นลำโพงหลังเพื่อได้เอฟเฟกต์ Atmos ที่ชัดกว่า แต่แค่ตัว Arc เดี่ยว ก็ให้เสียงบทสนทนาคมชัดและมิติเสียงที่เหนือกว่าซาวด์บาร์ทั่วไปอย่างชัดเจน

ซาวด์บาร์ 5.1.2 channel ระดับพรีเมียม พร้อม ADAPTiQ คาลิเบรตเสียงตามสภาพห้องและควบคุมผ่าน Bose Music App
Bose Smart Ultra Soundbar
Bose
Bose Smart Ultra Soundbar
จาก
37,900บาท
เช็คราคา Bose Smart Ultra Soundbar ด้านล่าง:
add_circle โครงสร้าง 5.1.2 channel ให้เอฟเฟกต์โอบล้อมจากบาร์เดี่ยว ตั้งง่ายไม่รกสาย
add_circle มี HDMI eARC และแถมสายทั้ง HDMI eARC/Optical พร้อมใช้
add_circle ADAPTiQ คาลิเบรตเสียงตามห้องจริง ช่วยให้บทสนทนาชัดและเบสเก็บตัวดีขึ้น
add_circle รองรับ Multiroom และควบคุมง่ายผ่าน Bose Music App + รีโมต
add_circle มี Wi-Fi/Bluetooth ในตัว ใช้งานสตรีมเพลง/ต่อมือถือสะดวก
remove_circle ผู้ช่วยเสียง Google Assistant/Alexa ไม่รองรับในประเทศไทย
remove_circle Bluetooth เป็นเวอร์ชัน 5.0 (ไม่ใช่ 5.3)
remove_circle หากต้องการแรงปะทะช่วงหนังแอ็กชันมากขึ้น อาจพิจารณาเพิ่มซับ/ลำโพงหลังในอนาคต

สรุป: จุดเด่นคือโครงสร้าง 5.1.2 channel สำหรับเสียงโอบล้อมแบบ immersive ในร่างเครื่องเดียว เชื่อมต่อทีวีผ่าน HDMI eARC และเล่นเพลงผ่าน Wi-Fi/Bluetooth ได้สะดวก

เหมาะกับห้องนั่งเล่น/คอนโดที่ต้องการโฮมเธียเตอร์แบบติดตั้งง่าย ควบคุมผ่านรีโมตหรือแอป และปรับเสียงด้วย ADAPTiQ headset ที่แถมมาในกล่อง

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างเสียง: 1.2 channel | โหมด: Surround sound configuration, Multiroom
  • ไมโครโฟน: Built-in microphone สำหรับสั่งงาน/ควบคุม (หมายเหตุ: Voice Assistant อย่าง Google/Alexa ไม่รองรับในประเทศไทย)
  • การเชื่อมต่อหลัก: HDMI eARC/ARC (สาย HDMI eARC แถม), Optical (แถมสาย), Wi-Fi, Bluetooth 5.0 (ระยะ ~33 ฟุต)
  • การควบคุม: รีโมตในกล่อง, In-app control/volume, Source switching ผ่าน Bose Music App
  • การปรับเสียงห้อง: ADAPTiQ headset แถมในกล่อง
  • วัสดุ/งานประกอบ: พลาสติก + โลหะ, โทนพรีเมียม
  • ขนาด/น้ำหนักตัวเครื่อง: 29" H × 41.14" W × 4.21" D | 12.68 lb
  • สิ่งที่ให้มาในกล่อง: ตัวเครื่อง, สาย HDMI eARC, สาย Optical, ADAPTiQ headset, สายไฟ, รีโมต (ถ่านในกล่อง), คู่มือ/Quick start

ทำไมต้อง Bose Smart Ultra Soundbar

รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการประสบการณ์ home theater เสียงโอบล้อมจากบาร์เดี่ยว โดยไม่ยุ่งกับการวางลำโพงหลายจุด โครงสร้าง 5.1.2 channel ช่วยยกระดับมิติเสียงรอบตัวและความสูงของเวทีเสียง ส่วน HDMI eARC ทำให้ต่อทีวีสมัยใหม่ได้ง่ายและรักษาคุณภาพเสียงจากคอนเทนต์สตรีมมิงได้ดี จุดแข็งอีกข้อคือ ADAPTiQ ที่คาลิเบรตตามสภาพห้องจริง ลดปัญหาเสียงสะท้อน/ก้องในคอนโดหรือห้องที่ไม่ได้บุผนัง การใช้งานประจำวันก็เรียบง่ายผ่าน Bose Music App เลือกแหล่งสัญญาณ/ปรับวอลลูมหรือเล่นเพลง multiroom ได้สะดวก รวมถึงเชื่อม Bluetooth ได้รวดเร็วเมื่อมีแขกมาบ้าน

ซาวด์บาร์เรือธง 11.1.4 channel พร้อมลำโพงหลังถอดได้ + ซับ 10″ พลังรวม 1170W สำหรับโฮมเธียเตอร์ในบ้าน
JBL BAR 1300 Soundbar
JBL
JBL BAR 1300 Soundbar
จาก
49,900บาท
เช็คราคา JBL BAR 1300 Soundbar ด้านล่าง:
add_circle โครงสร้าง 11.1.4 channel พร้อมลำโพงหลัง ถอดได้มีแบต ปรับวางยืดหยุ่นมาก
add_circle พลังรวม 1170W + ซับ 10″ ให้ไดนามิกและแรงปะทะสูง
add_circle HDMI 3 in / 1 out (eARC) รองรับ Dolby Vision/HDR10 เหมาะทั้งหนังและเกม
add_circle สตรีมครบ: AirPlay / Chromecast built-in / Alexa MRM + Wi-Fi/Bluetooth
add_circle ใช้ลำโพงหลังเป็นลำโพงพกพาชั่วคราวได้ (ย้ายโซนฟังเพลง/พอดแคสต์)
remove_circle USB playback ใช้ได้เฉพาะรุ่น US
remove_circle ควรเช็กพื้นที่และชั้นวางก่อนติดตั้ง
remove_circle ลำโพงหลังแม้ไร้สาย แต่ต้องชาร์จ/มีปลั๊กใกล้จุดใช้งานเมื่อฟังยาว ๆ
remove_circle ผู้ที่โฟกัสฟังเพลง 2 channel แบบจริงจัง อาจต้องปรับโหมด/ตั้งค่าเพิ่มให้บาลานซ์

สรุป: ถ้าต้องการเสียงรอบทิศทางระดับโรงหนังโดยไม่ง้อ AVR ชุดใหญ่ JBL Bar 1300 คือคำตอบ—บาร์หลัก + ลำโพงหลังถอดได้ 2 ข้าง (มีแบตในตัว) + ซับ 10″ สร้าง Dolby Atmos/DTS:X ได้โอบล้อมจริง

ครบทุกการเชื่อมต่อทั้ง HDMI 3 เข้า / 1 ออก (eARC, HDCP 2.3), Wi-Fi (AirPlay/Chromecast/Alexa MRM) และ Bluetooth ใช้งานได้ทั้งดูหนัง เกม และสตรีมเพลง

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างเสียง: 1.4 channel, MultiBeam™
  • กำลังขับรวม: 1170W (บาร์ 650W, ลำโพงหลัง 110W ×2, ซับ 300W)
  • ลำโพง/ไดรเวอร์: บาร์หลัก racetrack 46×90 มม. ×6, ทวีตเตอร์ 75″ ×5, up-firing 2.75″ ×4 | ลำโพงหลังมี racetrack + ทวีตเตอร์ 0.75″ + up-firing 2.75″ และ passive radiator
  • ซับวูฟเฟอร์: 10″ | ช่วงความถี่ 33Hz–20kHz (-6dB)
  • ฟอร์แมตเสียง: Dolby Atmos / DTS:X, Dolby Digital/Plus, Multichannel PCM ฯลฯ
  • วิดีโอพาส-ทรู: Dolby Vision / HDR10
  • พอร์ต: HDMI in ×3, HDMI out ×1 (eARC/ARC), Optical ×1, USB Type-A*
    *เล่นไฟล์ USB เฉพาะรุ่นสหรัฐ; รุ่นอื่นเป็นพอร์ตสำหรับบริการ
  • ไร้สาย: Wi-Fi 2.4/5GHz (802.11 a/b/g/n/ac/ax), Bluetooth (บาร์ 0 / ลำโพงหลัง 5.2)
  • โปรโตคอลสตรีม: AirPlay, Chromecast built-in, Alexa Multi-Room Music (MRM)
  • แบตเตอรี่ลำโพงหลัง: 635V 6600mAh, เล่นได้นานราว สูงสุด 12 ชม. (ขึ้นกับระดับเสียง/คอนเทนต์)
  • ขนาดโดยย่อ: บาร์รวมชิ้นถอดได้ 1376×60×139 มม. | บาร์หลัก 1000×60×139 มม. | ลำโพงหลัง 202×60×139 มม. | ซับ 305×440.4×305 มม.
  • น้ำหนัก: บาร์ 3 กก. | ลำโพงหลังต่อข้าง 1.25 กก. | ซับ 10 กก.
  • อุปกรณ์ในกล่อง: บาร์, ลำโพงหลังถอดได้ 2 ข้าง, ซับไร้สาย, รีโมต (ถ่าน), สายไฟ, สาย HDMI, ชุดขายึดผนัง (บาร์+ลำโพงหลัง), ฝาปิดด้านข้าง, คู่มือ

ทำไมต้อง JBL Bar 1300

หัวใจของรุ่นนี้คือ “พลัง + ความยืดหยุ่น” ในแพ็กเดียว ลำโพงหลัง ถอดได้ ช่วยจัดมุมสะท้อนเพดานเพื่อย้ำมิติสูงของ Atmos หรือยกไปใช้นอกโซนชั่วคราวก็ยังได้ เสียงเอฟเฟกต์โอบล้อมชัดด้วย up-firing ทั้งที่บาร์และลำโพงหลัง ผสานซับ 10″ ให้แรงปะทะเวลาหนังแอ็กชัน/คอนเสิร์ตสด การมี HDMI 3 in ทำให้เสียบคอนโซล กล่องสตรีม และเครื่องเล่นได้พร้อมกัน แล้วส่งภาพ 4K HDR ผ่าน Dolby Vision/HDR10 สู่ทีวี ส่วนการฟังเพลงก็สบายเพราะรองรับ AirPlay/Chromecast/Alexa MRM และ Bluetooth ครอบคลุมทุกสถานการณ์ ทั้งหมดนี้ติดตั้งง่ายกว่าชุดโฮมเธียเตอร์แบบ AVR หลายเท่า แต่ยังให้บรรยากาศ home theater ที่เต็มห้อง

ซาวด์บาร์ 3.0 channel ขยายได้ถึง 3.1 / 5.1 ผ่านลำโพง HEOS รองรับ 4K Ultra HD และเสียง HD
Denon Heos Bar Soundbar
Denon
Denon Heos Bar Soundbar
จาก
35,900บาท
เช็คราคา Denon Heos Bar Soundbar ด้านล่าง:
add_circle โครงสร้างอัปเกรดได้จาก 3.0 → 3.1 / 5.1 ด้วยอีโคซิสเท็ม HEOS
add_circle รองรับเสียง HD อย่าง Dolby TrueHD / DTS-HD ที่หายากในซาวด์บาร์หลายรุ่น
add_circle HDMI in ×4 ใช้งานสะดวกต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
add_circle 4K Ultra HD passthrough เหมาะกับทีวีและแหล่งสัญญาณรุ่นใหม่
add_circle สตรีมมิงครบ Wi-Fi / Bluetooth และควบคุมหลายห้องผ่าน HEOS app
remove_circle เริ่มต้นเป็น 3.0 channel ถ้าอยากได้เบสแรงและเวทีด้านหลัง ต้องซื้อซับ/ลำโพงหลังเพิ่ม
remove_circle งานติดตั้งผนังควรเช็กมิติให้พอดีกับทีวี 50 นิ้วขึ้นไป

สรุป: จุดเด่นคือความยืดหยุ่น เริ่มต้นเป็น 3.0 channel แล้วต่อซับและลำโพงหลัง HEOS เพิ่มเป็น 3.1 / 5.1 ได้ตามงบและขนาดห้อง

รองรับ Dolby TrueHD / DTS-HD และผ่านภาพ 4K Ultra HD พร้อมสตรีมเพลงผ่าน Wi-Fi / Bluetooth และควบคุมหลายห้องด้วย HEOS app

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างเสียงเริ่มต้น: 0 channel
  • ขยายระบบ: รองรับการเพิ่มซับวูฟเฟอร์ HEOS และลำโพง HEOS เพื่อเป็น 1 / 5.1
  • แอมป์: ดิจิทัล Class-D 6 ช่วง
  • วิดีโอ: 4K Ultra HD passthrough
  • ฟอร์แมตเสียง: Dolby TrueHD, DTS-HD, เซอร์ราวด์เสมือน
  • อินพุต/เอาต์พุต: HDMI in ×4, HDMI out ×1, Optical ×1, Aux 3.5 มม. สำหรับเซ็ตอัพ
  • เครือข่าย: Wi-Fi 802.11, LAN RJ-45
  • สตรีมมิง: วิทยุอินเทอร์เน็ตผ่าน TuneIn (MP3/AAC/WMA), Bluetooth
  • ควบคุม: ปุ่ม Volume/Mute บนตัวเครื่อง, ไฟ LED สถานะ, HEOS app
  • ขนาดและน้ำหนัก: วางชั้น 72 × 1100 × 148 มม., ติดผนัง 148 × 1100 × 72 มม., น้ำหนัก 8 กก.
  • อุปกรณ์ในกล่อง: สาย HDMI, Optical, 3.5mm setup, สายไฟ, Ethernet, รีโมต, ชุดขาต่อ, คู่มือ

ทำไมต้อง Denon HEOS Bar

ถ้าคุณต้องการเริ่มระบบ home theater แบบประหยัดพื้นที่ที่อัปเกรดได้ในอนาคต HEOS Bar ตอบโจทย์ เพราะเริ่มจาก 3.0 channel ที่ให้บทสนทนาชัดเจน แล้วเพิ่มซับและลำโพงหลังภายหลังเพื่อยกระดับเป็น 3.1 / 5.1 ได้ง่าย โดยยังใช้แอปเดียวในการจัดการทั้งบ้าน จุดแข็งของ Denon คือการรองรับเสียงความละเอียดสูงอย่าง Dolby TrueHD / DTS-HD สำหรับคอนเทนต์บลูเรย์หรือไฟล์คุณภาพ พร้อม HDMI 4 เข้า ให้เสียบแหล่งสัญญาณได้หลายเครื่องโดยไม่ต้องสลับสาย ส่วนการดูหนังความละเอียดสูงก็พร้อมด้วย 4K passthrough ใช้งานทุกวันยืดหยุ่นด้วย Wi-Fi / Bluetooth และระบบมัลติรูมของ HEOS ที่สตรีมเพลงไปยังห้องอื่นได้สะดวก เหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือคอนโดที่ต้องการเสียงดีกว่า soundbar ปกติและเผื่อทางโตในอนาคต

ชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ 5.0 channel (Passive) ขนาดกะทัดรัด ฮอร์น Tractrix® 90°×90° ให้เสียงคมชัด เก็บรายละเอียดดี
Klipsch Reference Theater Pack 5.0
Klipsch
Klipsch Reference Theater Pack 5.0
จาก
16,900บาท
เช็คราคา Klipsch Reference Theater Pack 5.0 ด้านล่าง:
add_circle โทนเสียงคม ชัด ฉับไวสไตล์ฮอร์น Tractrix® รายละเอียดบทพูดดี
add_circle ตู้เล็ก ประหยัดพื้นที่ เหมาะห้องเล็ก–กลาง และงานติดตั้งที่ต้องการความเรียบร้อย
add_circle เป็น passive เลือก AVR ได้อิสระ
add_circle ความไวสูง (91/94 dB) ขับง่ายกว่าเซ็ตเล็กหลายยี่ห้อ
add_circle อัปเกรดเป็น 5.1 channel ได้ทันทีเมื่อเพิ่มซับวูฟเฟอร์
remove_circle ย่านต่ำเริ่มที่ ~110Hz จำเป็นต้องมี ซับวูฟเฟอร์ เพื่ออรรถรสหนังเต็มย่าน
remove_circle ต้องมี AVR/แอมป์ และเดิน สายลำโพง ทุกตำแหน่ง (ไม่ใช่ลำโพงไร้สาย)
remove_circle พึ่งพา AVR เป็นหลัก
remove_circle ความดังสูงสุดและไดนามิกขึ้นกับกำลังขับ/คุณภาพของ AVR ที่เลือก

สรุป: สำหรับคนที่ต้องการ “ลำโพงจริง” ต่อกับ AVR เพื่อได้บรรยากาศ home theater เต็มรูปแบบในพื้นที่จำกัด ชุดนี้ให้ลำโพงดาวเทียม 4 ตัว + เซ็นเตอร์ 1 ตัว (ไม่มีซับ)
อัปเกรดง่าย เพิ่มซับวูฟเฟอร์ภายหลังเป็น 5.1 channel ได้ เหมาะกับห้องเล็ก–กลาง ที่อยากได้โทนเสียงจัดจ้าน รายละเอียดชัดสไตล์ฮอร์น Klipsch

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • ระบบ: 0 channel (Passive) ต้องใช้ AVR/แอมป์โฮมเธียเตอร์ ขับ
  • เทคโนโลยีหน้าลำโพง: 90°×90° Tractrix® horn
  • ความถี่ตอบสนอง (+/−3dB): 110Hz–23kHz
  • ความไว (Sensitivity): Satellite 91 dB (2.83V/1m) | Center 94 dB (2.83V/1m)
  • อิมพีแดนซ์: 8 โอห์ม
  • กำลังขับที่รองรับ: Satellite 50/200W | Center 75/300W
  • ไดรเวอร์: Satellite วูฟเฟอร์ 5" | Center วูฟเฟอร์ 3.5" ×2
  • มิติ/น้ำหนัก: Satellite 19.7×11.1×13.7 ซม. | 1.4 กก./ตัว (×4) | Center 11.1×27.3×13.7 ซม. | 2.3 กก. (×1)
  • การเชื่อมต่อ: สายลำโพง เข้าช่องลำโพงของ AVR (ไม่มีแอมป์/ไม่มี Bluetooth/Wi-Fi ในตัว)
  • การอัปเกรด: แนะนำเพิ่ม ซับวูฟเฟอร์ เพื่อขยายย่านต่ำเป็น 1 channel

ทำไมต้อง Klipsch Reference Theater Pack 5.0

นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีมากของ ชุดโฮมเธียเตอร์แบบลำโพงจริง สำหรับคนที่อยากได้คุณภาพเสียงเหนือกว่าซาวด์บาร์ โดยยังคุมงบและพื้นที่ได้ ชุดนี้สืบสายพันธุ์จาก Quintet V ที่เป็นตำนานของ Klipsch จึงได้โทนเสียงฉับไว รายละเอียดชัด และไดนามิกเด่นจาก Tractrix horn การตอบสนองตั้งแต่ 110Hz ชี้ชัดว่าออกแบบให้ทำงานร่วมกับ ซับวูฟเฟอร์ เมื่อเพิ่มซับ จะได้เวทีเสียงครบย่านสำหรับหนังแอ็กชัน/เพลงสด ขนาดตู้เล็กช่วยจัดวางง่ายในคอนโด/ห้องเล็ก–กลาง และเพราะเป็น passive คุณจึงเลือก AVR ตามงบ/ฟีเจอร์ (เช่น Dolby Atmos, eARC, 8K) เพื่ออัปเกรดระบบในอนาคตได้ยืดหยุ่น

ชุดโฮมเธียเตอร์ 5.1 channel ครบกล่อง รองรับ Dolby Atmos / DTS:X (Virtualizer), 4K/60 + HDR, มี Bluetooth ในตัว
Onkyo HT-S3910
Onkyo
Onkyo HT-S3910
จาก
19,890บาท
เช็คราคา Onkyo HT-S3910 ด้านล่าง:
add_circle ครบชุด “AVR + ลำโพง 5 ใบ + ซับพาสซีฟ” เริ่ม home theater ได้ทันที
add_circle รองรับ Dolby Atmos / DTS:X (Virtualizer) ยกระดับมิติเสียงโดยไม่ต้องติดเพดาน
add_circle HDMI 4 in / 1 out (ARC) + ผ่าน 4K/60 HDR10/HLG/Dolby Vision เหมาะหนัง/เกมสมัยใหม่
add_circle มี Bluetooth และ Zone B ส่งเสียงไปโซนที่สองหรือทรานสมิตเตอร์หูฟังไร้สาย
add_circle อัปเกรดลำโพง/ซับในอนาคตได้โดยคง AVR เดิม
remove_circle ซับเป็น พาสซีฟ กำลังและทรานเซียนต์สู้ซับแอ็กทีฟไม่ได้
remove_circle ลำโพงฟูลเรนจ์ขนาดเล็ก ย่านต่ำและไดนามิกยังจำกัดเมื่อเทียบเซ็ตแยกชิ้นระดับสูง

สรุป: ถ้าอยากเริ่มระบบ home theater แบบ “ลำโพงจริง + AVR จริง” ในงบคุมง่าย รุ่นนี้ให้ทุกชิ้นครบ—เอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo + ลำโพงหน้า/เซ็นเตอร์/รอบทิศ + ซับวูฟเฟอร์ (พาสซีฟ)

รองรับภาพ 4K/60p และ HDR10/HLG/Dolby Vision พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos Height Virtualizer และ DTS Virtual:X สร้างมิติเสียงสูง/โอบล้อมได้โดยไม่ต้องติดลำโพงเพดาน

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างชุด: 1 channel (ลำโพง 5 ใบ + ซับพาสซีฟ)
  • การรองรับเสียง: Dolby Atmos / DTS:X (ผ่าน Virtualizer), Dolby/DTS core, Vocal Enhancer
  • วิดีโอ: 4K/60p passthrough, HDR10 / HLG / Dolby Vision, BT.2020
  • แอมป์เอาต์พุต (AVR): สูงสุด 155W/Ch @6Ω (ตัวเลขตามสเปค Onkyo); รองรับขับลำโพง 4–6Ω
  • อินพุต/เอาต์พุต: HDMI in ×4, HDMI out ×1 (ARC), รับ FM/AM, Zone B line-out (แอนะล็อก), Optical/Coaxial ตามพอร์ต AVR
  • ไร้สาย: Bluetooth (+ Advanced Music Optimizer)
  • ขนาด/น้ำหนัก AVR: 435 × 160 × 328 มม., 8.2 กก.
  • ลำโพงในชุด
  • Front/Surround (SKR-398): ฟูลเรนจ์ 7 ซม., ตอบสนอง 80Hz–20kHz, 0.5 กก./ตัว, พร้อมขายึดผนัง
  • Center (SKC-398): ฟูลเรนจ์ 7 ซม., ตอบสนอง 70Hz–20kHz, 0.6 กก., พร้อมขายึดผนัง
  • Sub (SKW-398, Passive): ดอก 16 ซม., 28Hz–5kHz, 4.6 กก., down-firing
  • ฟังก์ชันเสริม: OSD แสดงฟอร์แมตเสียง, ปรับเพิ่มเสียงพูด (Vocal Enhancer), Zone B ปล่อยสัญญาณไปเฮดโฟนไร้สาย/สเตอริโอชุดที่สองได้

ทำไมต้อง Onkyo HT-S3910

นี่คือ “จุดเริ่มต้นที่เป็นระบบจริง” สำหรับคนอยากได้เสียงโอบล้อมจาก 5.1 channel ชุดนี้ใช้เอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo ซึ่งจัดการสวิตช์ภาพ-เสียงผ่าน HDMI 4 เข้า / 1 ออก (ARC) ส่งภาพ 4K HDR ได้ครบสายสตรีมมิงและเกมคอนโซลใหม่ ๆ จุดเด่นคือ Dolby Atmos Height Virtualizer และ DTS Virtual:X ที่ช่วยยกมิติสูง/รอบตัวแม้ไม่มีลำโพงเพดาน หรือแม้ในห้องคอนโดที่ติดตั้งยาก ขณะที่ Vocal Enhancer ทำให้เสียงสนทนาคมชัดขึ้นเวลาเปิดเบสหนัก ๆ ด้านลำโพง แม้เป็นฟูลเรนจ์เล็กแต่ปรับจูนมาให้เวทีเสียงโปร่ง เข้าใจบทพูดง่าย เมื่ออยากได้แรงปะทะเพิ่ม สามารถอัปเกรดซับเป็นแอ็กทีฟภายหลัง (หรือขยับเปลี่ยนหน้าคู่/เซ็นเตอร์ให้ใหญ่ขึ้น) โดยยังใช้ AVR เดิมได้ ยืดหยุ่นและคุ้มค่ากว่าซาวด์บาร์ในระยะยาว

ซาวด์บาร์คอมแพ็กต์ 2.1 channel พร้อมซับไร้สาย ตั้งง่ายสำหรับโต๊ะทีวี/ห้องเล็ก
Yamaha SR-C30A
Yamaha
Yamaha SR-C30A
จาก
9,900บาท
เช็คราคา Yamaha SR-C30A ด้านล่าง:
add_circle ขนาดกะทัดรัดมาก แต่ได้ ซับไร้สาย
add_circle ต่อทีวีง่ายด้วย HDMI ARC และพอร์ตพื้นฐานครบ (Optical ×2, Analog)
add_circle โหมด 3D Movie / Game ช่วยขยายเวทีเสียงสำหรับห้องเล็ก
add_circle สแตนด์บายประหยัดไฟ 0.3–0.5W และมีแอปควบคุมใช้งานง่าย
add_circle Bluetooth รองรับ AAC ให้คุณภาพดีกว่า SBC สำหรับผู้ใช้ iOS
remove_circle ไม่มี eARC และ 4K pass-through (เหมาะเชื่อมทีวี ARC เป็นหลัก)
remove_circle ไม่รองรับ DTS และไม่ใช่ระบบ Atmos/virtual height

สรุป: ถ้าต้องการอัปเกรดเสียงทีวีให้ชัดขึ้น เบสดีขึ้น แต่ไม่อยากได้บาร์ยาวหรือระบบยุ่งยาก SR-C30A คือคำตอบ ขนาดแค่ 60 ซม. วางใต้จอได้สบาย

รองรับ ARC ผ่าน HDMI, มีโหมดเสียง Stereo / Standard / 3D Movie / Game และซับไร้สาย 13 ซม. ที่ช่วยเติมแรงปะทะแบบไม่กินพื้นที่

สเปคที่ใช้ตัดสินใจ

  • โครงสร้างเสียง: 1 channel (บาร์ L/R + ซับไร้สาย)
  • กำลังขับรวม: 90W (บาร์ 20W ×2, ซับ 50W)
  • ไดรเวอร์: บาร์ 6 ซม. ×2 | ซับ 13 ซม.
  • โหมด/เทคโนโลยีเสียง: Dolby Audio, Stereo/Standard/3D Movie/Game, Compressed Music Enhancer, Bass Extension
  • อินพุต/เอาต์พุต: HDMI out (ARC) ×1, Optical ×2, Analog 3.5 mm ×1
  • การเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.0 (SBC/AAC), ซับ Wireless
  • แอปควบคุม: Sound Bar Remote (iOS/Android)
  • ขนาด/น้ำหนัก: บาร์ 600 × 64 × 94 มม. | 1.3 กก. | ซับ 335 × 160 × 364 มม. | 5.7 กก.
  • การใช้พลังงาน (สแตนด์บาย): 3–0.5W (ตามการตั้งค่า HDMI/Bluetooth)

ทำไมต้อง Yamaha SR-C30A

รุ่นนี้ออกแบบเพื่อ “พื้นที่เล็กและชีวิตประจำวัน” เป็นหลัก ตัวบาร์ยาวเพียง 60 ซม. พอดีกับโต๊ะวางทีวีหรือเดสก์ท็อป และยังให้เบสแน่นขึ้นทันทีด้วย ซับไร้สาย ที่ยกอรรถรสหนังและเกมชัดเจน โหมด 3D Movie ช่วยขยายเวทีเสียงให้กว้างขึ้นในห้องแคบ ขณะที่ Game จะดึงเอฟเฟกต์ทิศทางให้คมกว่าโหมดปกติ ต่อทีวีง่าย ๆ ด้วย HDMI ARC ไม่ต้องตั้งค่าเยอะ และยังมี Optical ×2 + Analog เผื่อเครื่องเล่น/ทีวีรุ่นเก่า สำหรับสตรีมเพลงก็เปิด Bluetooth จากมือถือได้เลย (รองรับ AAC) โดยรวมคือบาร์คอมแพ็กต์ที่ “ฟังรู้เรื่องขึ้นอย่างชัด” เหมาะกับห้องนอน/คอนโด/โต๊ะคอมที่อยากได้เสียงดีกว่าเดิม โดยไม่ต้องจ่ายถึงระดับ Atmos หรือระบบหลายชิ้น

บทส่งท้าย

สุดท้ายแล้ว “ชุดโฮมเธียเตอร์ที่ใช่” คือชุดที่เข้ากับห้องของคุณ เข้ากับหูของคุณ และเข้ากับงบของคุณ ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดเสมอไป ก่อนตัดสินใจ ลองเช็ก 3 อย่างนี้ให้ครบ:

  • ขนาดห้อง + ระยะนั่งรับชม → เลือกจำนวน channel และกำลังขับให้พอดี
  • แหล่งสัญญาณ/พอร์ตที่ใช้จริง → HDMI eARC/ARC, จำนวน HDMI-in, Optical, Bluetooth/Wi-Fi
  • แผนอัปเกรดในอนาคต → จะเพิ่มซับ/ลำโพงหลังหรือขยับเป็น Atmos ไหม

บทความแนะนำ

สิ้นสุดบทความ