Welcome Citizen!

บันทึกตอนนี้เลย แล้วซื้อทีหลัง เราจะแจ้งคุณถ้าราคาลด

Welcome Citizen!

Setup your account or continue reading!

Settings
6 หูฟัง Bose รุ่นไหนดีสำหรับปี 2023 คุณภาพเสียงดี เหมาะกับทุกคน productnation

6 หูฟัง Bose รุ่นไหนดีสำหรับปี 2024 คุณภาพเสียงดี เหมาะกับทุกคน

หูฟัง Bose เสียงดีน่าใช้ในปี 2024

หูฟัง Bose เป็นหูฟังที่หลาย ๆ คนก็คงรู้จักกันเพราะว่า Bose นั้นถ้าพูดถึงเสียงแล้วก็ถือได้ว่าเป็นอีกแบรนด์ที่มีความโดดเด่น สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อหูฟัง Bose รุ่นไหนดี เราจึงอยากมาแนะนำหูฟังต่าง ๆ ตั้งแต่เหมาะกับใคร มีอะไรที่พิเศษ ข้อดีข้อเสีย และยังมีอธิบายว่าทำไม Bose ถึงเด่นในเรื่องของเสียงสำหรับคนที่สงสัยและมีซีรีส์อะไรมาแล้วบ้าง รวมไปถึง Codec ที่หลายคนคงจะงงว่ามันต่างกันยังไง


6 หูฟัง Bose รุ่นไหนดี คุณภาพเสียงดี เหมาะกับทุกคน สำหรับปี 2024

หูฟัง Bose Noise Cancelling กันเสียงได้ดีพร้อมกับดีไซน์ที่หลายคนชอบกัน
Bose
Bose Noise Cancelling Headphones 700 (NCH 700)
จาก
15,900บาท
เช็คราคา Bose Noise Cancelling Headphones 700 (NCH 700) ด้านล่าง:
add_circle คุณภาพเสียงดีกว่า Bose QC35 II
add_circle เสียงไมโครโฟนชัดและไม่ค่อยมีเสียงรบกวน
add_circle กันน้ำได้ระดับ IPX4 หรือป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง
add_circle สามารถต่อได้ 3 เครื่อง
add_circle เปิด ANC ใช้ได้นานถึง 20 ชม.
add_circle ชาร์จ 15 นาทีใช้ได้ 2 ชม.
remove_circle ระดับกันเสียง Noise Cancelling น้อยกว่า Sony WH-1000XM5
remove_circle ผู้ใช้บางคนบอกใส่นาน ๆ แล้วจะอบหู
remove_circle แบตเตอรี่เปลี่ยนไม่ได้ ต้องซื้อหูฟังใหม่แต่ทางร้าน Bose จะลดราคาให้
remove_circle พับไม่ได้

หูฟัง Bose Noise Cancelling พร้อมดีไซน์สวยงาม ใครที่ไม่อยากฟังเสียงรบกวนเวลาเรียนหรือเดินทางก็ใช้อันนี้ได้เลย คุณภาพในการกันเสียงถือได้ว่าดีระดับเสียงคนคุยในร้านหรือเพื่อนล้างจานก็ไม่ได้ยิน เวลาโทรศัพท์เสียงก็ชัดเจนแล้วก็ไม่มีเสียงรบกวนเท่าไร หูฟังสามารถหมุนได้ 90 องศาทำให้สามารถวางบนคอได้และยังน้ำหนักเพียง 254 กรัมจึงใส่แล้วรู้สึกเบาและหูฟังก็ยังนุ่ม สั่งการหูฟังด้วยการกดปุ่ม 3 ปุ่ม แอพ Bose Music จะทำให้ใช้หูฟังได้เต็มประสิทธิภาพและทำให้เลือกได้ว่าต้องการกันเสียงเท่าไรตั้งแต่ระดับ 0-10 สามารถต่อ Bluetooth หรือจะเอาสายเสียบกับหูฟังและโทรศัพท์ก็ได้ 

รีวิวจากผู้ซื้อ: ไช่ตัวนนี มา6เดือนละ ผมบอกเลยดีรอบด้าน ฟั้งเพลง ได้ลายละเอียดดีมาก ผมมีWF-1000XM  อีกตัว  แทบกันแล้ว Bose 700 เรืองเบสหนักไม่เท่าWF-1000XMแต่ไม่ไช่ว่าเสียงเบสไม่ดีแต่เป็นเบสคนละสไตล์กัน ส่วน Noise Cancelling แทบกลับบWF-1000XM บอกตามตรง WF-1000XM ดีกว่า เรืองไมโครโฟน Bose 700โคตรดี  ส่วน WF-1000XM ไมโครโฟนสู้ไม่ได้เลย    Bose 700ผมไช่กลับ PC   ส่วนWF-1000XMผมไช่กลับมือถือ

หูฟัง Bose Wireless เน้นการใส่สบายและตัดเสียงได้ดี
Bose
Bose QuietComfort 45 Wireless (QC45)
จาก
8,490บาท
เช็คราคา Bose QuietComfort 45 Wireless (QC45) ด้านล่าง:
add_circle ตัดเสียงระดับกลางและสูงได้ดีกว่าหูฟังอื่น ๆ อย่างเสียงเครื่องยนต์ดัง
add_circle เสียงไมโครโฟนชัดและกันเสียงรบกวนได้ดี
add_circle ใส่ได้นานโดยไม่เหนื่อย
add_circle สามารถต่อได้ 2 เครื่อง
add_circle แบตเตอรี่สูงสุด 24 ชม.
add_circle ชาร์จ 15 นาทีใช้ได้ 3 ชม.
remove_circle ระดับกันเสียง Noise Cancelling น้อยกว่า Sony WH-1000XM5
remove_circle ไม่กันน้ำ
remove_circle มี SBC และ AAC แต่ไม่มี aptX
remove_circle ปิด ANC ไม่ได้ ต้องใช้โหมด Aware เพื่อให้รับเสียงภายนอก
remove_circle ไม่เหมาะกับเล่นเกมเพราะเสียงกับวิดีโอดีเลย์เกินไป ถ้าจะเล่นเกมต้องเป็น Bose QuietComfort 35 II Gaming Headset

หูฟัง Bose ไร้สาย Noise Cancelling รุ่นใหม่และเป็นตัวท็อป จุดเด่นของหูฟังอันนี้คือความ Comfort หรือความสบาย จึงทำให้มีน้ำหนักเพียง 240 กรัมทำให้ใส่แล้วไม่รู้สึกหนักและหูฟังเอียร์แพดก็นุ่มทำและยังใส่ได้นานโดยไม่ร้อน ในส่วนของการตัดเสียงนั้นถือได้ว่าเป็นหูฟังที่ตัดเสียงระดับกลางและสูงได้ดีมาก นั่งบนเครื่องบินคือเสียงเครื่องดังแค่ 1 ใน 8 เลย ในส่วนของไมโครโฟนถือว่ากันเสียงได้ดีระดับหนึ่งถ้าเดินบนถนนก็จะได้ยินเสียงคร่าว ๆ แต่กันเสียงลมพัดใส่ได้ดี นอกจากนี้ก็มี Active EQ ช่วยรักษาสมดุลของเสียงเพลง สั่งการหูฟังด้วยการกดปุ่ม 4 ปุ่ม ใครที่อยากตกปรับแต่งก็ใช้แอพ Bose Music ที่จะทำให้ใช้หูฟังได้เต็มประสิทธิภาพและยังช่วยให้ปรับแต่งเสียงหูฟังได้ตามใจชอบ

รีวิวจากผู้ซื้อ: สุดท้ายได้รับมันหลังจากที่รอนานมีสีดำแทนสีขาวเนื่องจากหมดสต็อกหลังจากที่ฉันได้สั่งซื้อและทำการชำระเงินแล้วมันถูกสื่อสารโดยเรือล่วงหน้าแม้ว่าแม้จะมีบางส่วนของความคิดเห็นเฉลี่ยในสื่อสังคมผมคิดว่า QC45เป็นหูฟัง ANC ที่มั่นคงมากที่มีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยมและคุณภาพเสียงที่ดีที่สำคัญที่สุดคือความสะดวกสบายในการสวมใส่ฉันไม่ได้สัมผัสกับแรงดันห้องโดยสารใดๆและปุ่มทางกายภาพเป็นประโยชน์มาก

หูฟัง Bose Gaming เสียงที่มีคุณภาพช่วยให้ดื่มด่ำไปกับเกม
Bose
Bose QuietComfort 35 II Gaming Headset
จาก
13,900บาท
เช็คราคา Bose QuietComfort 35 II Gaming Headset ด้านล่าง:
add_circle เสียงไมโครโฟนถือว่าดี
add_circle ใส่ได้นานโดยไม่เหนื่อย
add_circle สามารถต่อได้ 2 เครื่อง
add_circle เสียบสายโหมดเกมมิ่งใช้ได้ 40 ชม. และ Wireless ใช้ได้ 20 ชม.
add_circle ชาร์จ 15 นาที แบบมีสายใช้ได้ 5 ชม. แบบ Wireless ใช้ได้ 2.5 ชม.
remove_circle ระดับกันเสียง Noise Cancelling น้อยกว่า Sony WH-1000XM5
remove_circle ไม่กันน้ำ
remove_circle มี SBC และ AAC แต่ไม่มี aptX

หูฟัง Bose เหมาะสำหรับคนที่อยากได้หูฟัง Noise Cancelling เพื่อเล่นเกมหรือเอาไว้ใช้ฟัง ซึ่ง Noise Cancelling ของ Bose ก็ช่วยให้ได้เสียงเกมที่ดีกว่าและทำให้เราดื่มด่ำไปกับเกมได้ดีกว่าหูฟัง Gaming ทั่วไป นอกจากนี้เสียงเวลาฟังเพลงก็ถือว่าดี วัสดุส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกและมีแผ่นรองเป็นหนังเพิ่อให้ใส่สบาย น้ำหนักอยู่ที่ 263 กรัม เสียงของไมโครโฟนก็ถือว่าดีอีกเช่นกัน สามารถต่อกับแอพของ Bose ได้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเต็มที่ 

รีวิวจากผู้ซื้อ: โคตรดีย์ ปกติใช้หูฟังของ Bose อยู่แล้ว ไม่เคยสงสัยเรื่องคุณภาพของหูฟังยี่ห้อนี้

เล่นเกมคือดีย์ ฟังเพลงก็ยังโอเคมาก  acoustic noise cancelling คือเทพเหมือนเดิม

หูฟัง Bose True Wireless พร้อม ANC ที่ถือได้ว่าดีที่สุดและเสียงเพลงที่บาลานซ์
Bose
Bose QuietComfort Earbuds II
จาก
6,358บาท
เช็คราคา Bose QuietComfort Earbuds II ด้านล่าง:
add_circle หูฟัง ANC ที่ดีมากเมื่อเทียบกับ Sony และ Apple
add_circle ระบบปรับเสียงอัตโนมัติให้เหมาะกับหูของแต่ละคน
add_circle กันน้ำได้ระดับ IPX4 หรือป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง
add_circle สามารถต่อได้ 6 เครื่อง
add_circle แบตเตอรี่ของหูฟัง 6 ชั่วโมงและเคสอีก 18 ชั่วโมง
add_circle ชาร์จ 20 นาทีใช้ได้ 2 ชม.
remove_circle ไมโครโฟนปกติ จะได้ยินเสียงในที่ทำงานและเสียงลม
remove_circle มี SBC และ AAC แต่จะขาด High-Bitrate แบบอื่น
remove_circle ไม่สามารถปิด ANC ต้องใช้โหมด Aware เพื่อให้รับเสียงภายนอก
remove_circle ไม่มี Multipoint หรือไม่สามารถต่อ 2 เครื่องพร้อมกันได้

หูฟัง Bose True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด เหมาะสำหรับคนที่อยากได้หูฟังทรงแปะหูเพราะหูฟังนี้ดีไซน์มาให้เข้ากับช่องหู ถ้าใส่ไม่พอดีก็มีจุกหูฟัง 3 ขนาดและห่วงยึด 3 คู่ให้ปรับให้พอดีกับหู น้ำหนักเพียง 6.24 กรัม นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ทำให้ใส่สบายไม่ว่าจะเป็นตอนที่ใส่นาน หูฟัง Earbuds อันนี้ถือได้ว่าเป็นหูฟังกันเสียงที่ดีสุดที่สามารถซื้อได้ในบรรดา Earbuds และยังกันเสียงระดับต่ำได้จนเหลือ 1 ใน 8 นอกจากนี้หูฟังยังสามารถปรับเสียงและ ANC ให้เหมาะกับหูของแต่ละคนได้ด้วยตัวมันเองทุกครั้งที่ใส่เพราะการใส่หูฟังแต่ละครั้งมันครอบคลุมไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ยินเสียงเพลงชัดเจน คุณภาพของไมโครโฟนถือได้ว่าอยู่ในระดับปกติ มีเสียงเข้าและลมเข้าบ้าง สามารถสั่งการหูฟังด้วยการเอามือกดหูฟังและใช้แอพ Bose ในการจัดค่า ANC หรือปรับเสียง

รีวิวจากผู้ซื้อ: คุ้มค่ามาก กับการตัดเสียงที่เลือกใช้ได้ 10 ระดับ

เสียงดีกว่ายี่ห้อผลไม้เยอะมาก หลังปรับ EQ

ชอบในชอบในชอบครับ รักมาก

หูฟัง Bose True Wireless ดีที่สุดสำหรับสายออกกำลังกาย ไม่ต้องกลัวหล่น
Bose
Bose Sport Earbuds
จาก
8,900บาท
เช็คราคา Bose Sport Earbuds ด้านล่าง:
add_circle ถือว่าเป็นหูฟังที่ใส่สบายมากที่สุดสำหรับออกกำลังกายและยังหลุดได้ยาก
add_circle สามารถใช้คู่กับแอพเพื่อปรับค่า EQ และตั้งชื่อหูฟัง
add_circle ไมโครโฟนถือว่าดีเพราะกันเสียงเข้าอย่างลมและไมโครเวฟได้
add_circle หูฟังใช้ได้นาน 5 ชั่วโมงและเคสชาร์จเต็มได้ 2 ครั้ง
add_circle ชาร์จ 15 นาทีใช้ได้ 2 ชม.
remove_circle มี SBC และ AAC แต่ไม่มี aptX ซึ่งเป็นแบบที่ดีกว่า SBC สำหรับ Android
remove_circle ต้องใช้ทั้งสองข้าง ไม่สามารถใช้ข้างใดข้างหนึ่งได้
remove_circle ใช้ว่ายน้ำหรืออาบน้ำไม่ได้

หูฟัง Bose ไร้สายที่ถือว่าดีที่สุดในตลาดสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา จุกหูฟังที่ดีไซน์มาให้หลุดยากและใส่แล้วไม่เจ็บช่องหู นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ก็เป็นพลาสติกและน้ำหนักเพียง 6.8 กรัมซึ่งน้ำหนักและความทนทานเป็นอะไรที่สำคัญกับการออกกำลังกาย ในส่วนของกันเสียงก็ไม่กันมากเท่าไรซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้รับรู้สภาพแวดล้อมและหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ คุณภาพของไมโครโฟนสามารถกันเสียงไมโครเวฟหรือเสียงลมเข้ามานิดนึง สามารถสั่งการหูฟังด้วยการเอามือกดหูฟังและใช้แอพ Bose ในการจัดค่า

รีวิวจากผู้ซื้อ: เบากว่ารุ่นก่อน เล็กกว่า ใส่สบาย กระชับ เสียงดี แต่ยังไม่ได้เบิร์น  คุ้มค่ามาก เคสก็เล็กลงพกง่าย สีสวยงาม คุ้มสุดๆ

หูฟัง Bose SoundSport Wireless สำหรับสายออกกำลังกาย มีสายคล้องเพื่อความสบายใจ
Bose
Bose SoundSport Wireless
จาก
6,500บาท
เช็คราคา Bose SoundSport Wireless ด้านล่าง:
add_circle เสียงไมโครโฟนปกติ มีเสียงลมเข้า
add_circle กันน้ำได้ระดับ IPX4 หรือป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง
add_circle สามารถต่อได้ 1 เครื่อง
add_circle แบตเตอรี่สูงสุด 6 ชม.
add_circle ใช้เวลาชาร์จ 2 ชม.
remove_circle มี SBC และ AAC แต่ไม่มี aptX
remove_circle ไม่มี Fast Charge

สำหรับใครที่กลัวหูฟังใส่แล้วจะหลุดหรือคนที่ไม่ต้องการ True Wireless หูฟัง Bose Wireless อันนี้ก็มีสายมาให้เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายหรือนักกีฬา นอกจากนี้ยังออกแบบมาให้เกาะที่หูได้แน่นแม้ว่าจะออกกำลังกายอยู่ น้ำหนักอยู่ที่ 22.7 กรัม ในส่วนของกันเสียงก็ไม่ค่อยกันเท่าไรเพื่อให้คนออกกำลังกายรู้ว่าเกิดอะไรบ้างรอบ ๆ ตัว เสียงเพลงก็ปกติไม่ได้มีเสียงเบสที่มาก ไมโครโฟนก็ถือได้ว่าปกติมีเสียงลมเข้ามา สั่งการหูฟังด้วยการกดปุ่ม 1 ปุ่ม สามารถต่อกับแอพของ Bose ได้

รีวิวจากผู้ซื้อ: คุณภาพเสียงดีมาก ห้อยคอสะดวกไม่หลุดหายง่าย ไมค์ชัด

ทำไม Bose ถึงดังเรื่องเสียง?

ก่อนอื่นก็เริ่มจากทำไม Bose ถึงมาดังในเรื่องของเสียงหรือ Bose of Sound

  • บริษัท Bose ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1964 โดย Amar G. Bose เพราะเขาเห็นว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเสียงนั้นออกแบบมาไม่ดีพอให้คนฟัง เขาจึงได้ทำการค้นคว้าต่าง ๆ เพื่อสร้างเครื่องเสียงที่ดีที่สุด ถือได้ว่าบริษัทเขาสร้างมาเพื่อเสียงเลยก็ว่าได้
  • ซึ่งในปี ค.ศ. 1966 Bose ได้ทำการออกเครื่องเสียง 2201 Speaker สร้างเพื่อมาวางตรงมุมห้องแต่เสียงกลับออกมาไม่ดีพอสำหรับคนฟังทำให้ไม่มีคนซื้อ จึงทำให้ Bose ต้องไปหาว่าเสียงอะไรที่ผู้ฟังชอบ พอมาปี ค.ศ. 1968 ก็ได้ออก Bose 901 Direct/ Reflective speaker system ซึ่งกลายเป็นเครื่องที่ขายดีกว่า 25 ปี
  • ผลงานที่ยิ่งใหญ่ต่อมาคือ Noise Cancelling Headphone หรือรุ่น QuietComfort ซึ่งใช้เวลาทำถึง 15 ปีได้และ Noise Cancelling ที่เขาสร้างขึ้นมาก็ช่วยให้นักบินอวกาศหูไม่สูญเสียการได้ยินไป
  • นอกจากนี้ก็ยังทำเครื่องเสียงให้รถ ซึ่งรถคันแรกที่เขาทำให้ก็คือ Cadilac Sevile ในปี ค.ศ. 1983 นอกจากนี้ Bose ก็ยังทำระบบรับน้ำหนักและระบบกันสะเทือนให้รถอีกเช่นกันในปี ค.ศ. 2004 ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Project Sound ที่ Bose ทำมาเกือบ 24 ปี
  • ซึ่งความพิเศษของบริษัทเขาก็คือการวิจัยอยู่ตลอดเวลาที่ทำให้บริษัทเขาโด่งดังและทำให้เขามีเทคโนโลยีเฉพาะของเขาเองที่ให้ได้ยินเสียงเพลงเต็มที่และชัดโดยเฉพาะเสียง Bass และ Acoustic 

หูฟัง Bose มีกี่ซีรีส์ แต่ละแบบเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบใด

หูฟัง Bose มี 7 ซีรีส์

  • QuietComfort นั้นคือหูฟังรุ่นแรกของทาง Bose ที่มี Noise Cancelling ซึ่งเป็นหูฟังประเภทกันเสียงรบกวนจากภายนอก เหมาะกับคนที่อยากฟังเสียงเพลงไม่มีเสียงภายนอกรบกวนและถือว่าเป็นทางเลือกนอกจาก Apple AirPods Pro หรือ Sony WF-1000XM4 ซึ่งก็มีหลายแบบให้เลือก
    • True Wireless จะเป็น QuietComfort Earbuds และ QuietComfort Earbuds II
    • Wireless จะเป็น QuietComfort 35 และ Quiet Comfort 45
    • In-ear จะเป็น QuietComfort 20
  • Noise Cancelling Headphone 700 หรือ NCH 700 เป็นรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพกว่า QuietComfort 35
  • SoundSport สำหรับคนที่ออกกำลังกาย หลุดได้ยาก
  • SoundLink สามารถต่อได้หลายวิธีและยังมีไมโครโฟนที่ดีเหมาะสำหรับการเอาไว้ใช้สนทนา
  • Sleepbuds ทำมาสำหรับเพื่อให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาในการนอน
  • Aviation Headset สำหรับนักบิน
  • Combat Vehicle Crewman Headset สำหรับใช้ในรถหุ้มเกราะ
  • Triport Tactical Headset สำหรับใช้ในรถหุ้มเกราะหรือใส่ในหมวกทหาร

วิธีเลือกหูฟัง Bose ให้เหมาะกับคุณมากที่สุด

  • เลือกตามประเภทของหูฟัง Bose มีหูฟังอยู่ 2 ประเภทก็คือหูฟังครอบหูกับหูฟังแปะหู สำหรับคนที่อยากได้ยินเสียงดี ๆ หรืออันที่มี Noise Cancelling แบบดีก็ควรจะเลือกที่ครอบหู สำหรับคนที่อยากได้หูฟังไม่ใหญ่มากและอยากเอาไปใช้เดินไปมาก็ควรเลือกแบบแปะหู
  • ดูตามซีรีส์ของหูฟัง เพราะแต่ละซีรีส์นั้นสร้างมาให้ใช้ไม่เหมือนกัน เช่น QuietComfort นั้นสร้างมาเพื่อฟังเพลงโดยไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอก SoundSport สร้างมาเพื่อออกกำลังกายและหูฟังไม่หลุดในขณะที่ฟังเพลงไปได้ด้วย หรือ SleepBuds ที่ทำมาเพื่อให้นอนได้ง่ายขึ้น
  • อยากได้แบบมีสายหรือไม่มีสาย หูฟังที่มีสายนั้นจะมีข้อดีคือเสียงจะไม่มีติดขัดหรือมีปัญหาในการเชื่อมต่อ นอกจากนี้แล้วคุณภาพเสียงก็จะดีและไม่มีดีเลย์จึงเหมาะกับคนที่อยากได้รายละเอียดเสียงเพลงสูงหรือคนที่เล่นเกม ส่วนหูฟังที่ไม่มีสายนั้นหรือที่เราเรียกว่า Wireless จะเหมาะกับเวลาเราออกกำลังกายเพราะไม่มีสายมาขัด
  • เช็คว่าใช้งานกับ Apple หรือ Android ได้ดีไหม เพราะหูฟังบางอันก็ไม่มี aptX หรือ Codec 

ทำความเข้าใจ Bluetooth Codec

ปัจจุบันนั้นเราจะเห็นว่า Bluetooth ค่อนข้างจะเด่นขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับคนที่อยากใช้ Bluetooth หรือ Wireless

ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับ Sample rate, Bit depth และ Bit rate

  • Sample rate (Hz) หรือจำนวนข้อมูลในแต่ละวิของไฟล์หรือการเก็บตัวอย่างเสียง ซึ่งเราต้องมีอย่างต่ำ 2 Sample per cycle สำหรับสัญญาณดิจิตอล ซึ่งเสียงปกติจะอยู่ที่ 44.1kHz หรือสองเท่าของการได้ยินเสียงของคน 20kHz สำหรับไฟล์ High-resolution นั้นจะอยู่ที่ 96kHz หรือมากกว่านี้ ยิ่ง Sample rate เยอะไฟล์ก็จะยิ่งใหญ่แต่เสียงก็จะใกล้เคียงกับเสียงจริงอีกเช่นกัน
  • Bit depth (-bit) คือการบอกระดับความดังและเบาในแต่ละจุดของ Sampling rate ซึ่งยิ่งค่ามากก็จะยิ่งมี Dynamic Range หรือระดับเสียงที่กว้างขึ้น ยกตัวอย่าง CD จะอยู่ที่ 16-bit ส่วนไฟล์ High-resolution จะอยู่ที่ 24-bit
  • Bit rate (Kbps หรือ Mbps) จำนวนข้อมูลที่ส่งภายใน 1 วินาที คำนวนโดยการเอา Sample rate X Bit depth

ต่อมาก็เราจะมาอธิบายในส่วนของ Bluetooth Codec

  • SBC (Sub-Band Codec) หรือมองง่าย ๆ ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ปกติและจำเป็นต้องมี Transfer rate ที่ 192-320kbps
  • ในส่วนของ aptX ก็คือแบบที่ดีกว่า SBC และเหมาะกับ Android แต่ iPhone ไม่มี คุณภาพเหมือน CD
    • Qualcomm aptX ลดการดีเลย์ระหว่างเพลงกับหูฟัง อยู่ที่ 16-bit หรือ 44.1kHz และ Bit rate อยู่ที่ 384 Kbps
    • Qualcomm aptX LL พัฒนาต่อจาก aptX ให้เสียงที่ดีขึ้น
    • Qualcomm aptX HD พัฒนาขึ้นมาอีกให้ อยู่ที่ 24-bit หรือ 48kHz และ Bit rate อยู่ที่ 576 Kbps
    • Qualcomm aptX Adaptive ให้เสียงระดับเดียวกับ aptX HD ใน Bit rate ที่ต่ำกว่าและสามารถมาถึง 96kHz
  • AAC (Advanced Audio Coding) ถือว่าเป็นระดับมาตรฐานของ Youtube และ โทรศัพท์ Apple ใช้กัน Bit rate อยุ่ที่ 250 Kbps หรือคุณภาพ MP3 โทรศัพท์ Android จะใช้อันนี้ไม่ได้ดีเท่าไร
  • LDAC เป็นของ Sony แต่ AptX และ SBC ดีกว่าถ้า LDAC อยู่ที่ 330 Kbps ซึ่งถ้าอยากใช้อันนี้ได้ดีกว่าก็ต้องไปนั่งปรับด้วยตัวเองและค่า Kbps ก็แล้วแต่โทรศัพท์อีกเช่นกัน ซึ่งมากที่สุดอยู่ที่ 990 Kbps
  • LHDC (Low-latency and High-definition Audio Codec) ความเร็วในการเคลื่อนย้ายข้อมูลมากกว่า SBC ถึง 3 เท่า Bit rate อยู่ที่ 900 Kbps และ Sample rate ที่ 96kHz เหมาะกับ Android 10 ขึ้นไป
  • LLAC หรือ LHDC LL (Low-latency Audio Codec) ก็คืออีกแบบของ LHDC ซึ่งทำมาเพื่อสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ  อยู่ที่ 24-bit หรือ 48kHz และ Bit rate อยู่ที่ 400/600 Kbps
  • LC3 codec คืออันใหม่สุดที่คุณภาพเสียงที่ดีและทำมาเพื่อช่วยคนหูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน นอกจากนี้ยังทำมาเพื่อ True Wireless Earphones ให้ 160 Kbps หรือถ้าแยกหูฟังกันจะอยู่ที่ 80 Kbps

บทส่งท้าย

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าหูฟัง Bose รุ่นไหนดีที่จะซื้อ ก็หวังว่าสิ่งที่เราแนะนำไปจะช่วยให้เลือกได้ ถึงแม้ Bose จะแพ้ Sony ในเรื่องของ Noise Cancelling แต่ในเรื่องของเสียงแล้วก็ต้องยกให้ Bose เลย สำหรับใครที่อยากหาหูฟังอื่น ๆ อย่างหูฟังสำหรับเล่นเกมเพื่อไปเล่นเกมแบบมันส์หรือหูฟัง In-ear สำหรับคนที่ชอบหูฟังใส่เข้าไปในหูหรือหูฟัง Bluetoothเอาไว้ต่อแบบไร้สาย นอกจากนี้ใครสนใจหูฟัง Razer หรือ Lenovo ก็สามารถไปดูเพิ่มได้อีกเช่นกัน

สิ้นสุดบทความ